เมื่อมนุษย์อยากลองเล่นบทพระเจ้า และพี่สาวของเราหวนคืน

เมื่อพี่สาวของเราหวนคืน - ตอนที่ 2 เมื่อพี่สาวของเราหวนคืน โดย ปารัชลินณ์ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เรื่องสั้น,ไซไฟ,ยุคปัจจุบัน,ครอบครัว,รัก,รถแห่ชวนเขียน8,ดราม่า,ครอบครัว,เมื่อพี่สาวของเราหวนคืน,นักเขียนรถแห่มาเยือนพล็อตเทลเลอร์,ไซไฟ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เมื่อพี่สาวของเราหวนคืน

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

เรื่องสั้น,ไซไฟ,ยุคปัจจุบัน,ครอบครัว,รัก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รถแห่ชวนเขียน8,ดราม่า,ครอบครัว,เมื่อพี่สาวของเราหวนคืน,นักเขียนรถแห่มาเยือนพล็อตเทลเลอร์,ไซไฟ

รายละเอียด

เมื่อพี่สาวของเราหวนคืน โดย ปารัชลินณ์ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เมื่อมนุษย์อยากลองเล่นบทพระเจ้า และพี่สาวของเราหวนคืน

ผู้แต่ง

ปารัชลินณ์

เรื่องย่อ

เมื่อพี่สาวของเราจากไป ไอเดียบรรเจิดเรื่องการพาเธอกลับจากความตายก็เกิดขึ้น ทว่าความบรรลัยที่ต้องแก้ไขกลับตามมา ซึ่งคงมีเพียงพระเจ้าที่ทรงทราบผลลัพธ์อยู่แล้ว...

สารบัญ

เมื่อพี่สาวของเราหวนคืน-ตอนที่ 1 เมื่อมนุษย์อยากลองเล่นบทพระเจ้า,เมื่อพี่สาวของเราหวนคืน-ตอนที่ 2 เมื่อพี่สาวของเราหวนคืน,เมื่อพี่สาวของเราหวนคืน-ตอนที่ 3 เมื่อเราไม่มีทางเลือก (ตอนจบ)

เนื้อหา

ตอนที่ 2 เมื่อพี่สาวของเราหวนคืน

ความคิดบ้าๆ ต้นกำเนิดสารพัดสิ่งที่กองอยู่ในห้องนั้นเริ่มจากเมื่อสามเดือนก่อน ฉันทำงานอยู่ที่บริษัทเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์การแพทย์ในโครงการอวัยวะเทียม ส่วนไอญ่าทำงานบริษัทเกี่ยวกับเทคโนโลยี เราต่างได้รับข่าวร้ายว่าไอวี่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต

แน่นอนว่าทุกคนในครอบครัวช็อก พ่อกับแม่รับไม่ได้ จนตอนนี้ต้องไปพักใจอยู่ต่างประเทศเพราะไม่อาจทนอยู่ในบ้านที่เต็มไปด้วยความทรงจำเกี่ยวกับลูกสาวทั้งสามคนได้ ฉันกับไอญ่าดูหนังเกี่ยวกับการพยายามคืนชีพคนตายด้วยกันแล้วเริ่มคิดว่า...หรือเราจะพาไอวี่กลับมาได้ด้วยวิทยาศาสตร์และปัญญาประดิษฐ์ที่เราทั้งสองต่างมีความถนัด เราดูหนังไปเยอะมากหลังจากนั้น ดูทุกแทบทุกเรื่องที่หาได้เพื่อศึกษาแนวคิด บวกกับอ่านงานวิจัยเยอะยิ่งกว่าสมัยเรียนเสียอีก

มันเป็นความคิดที่บ้าถึงบ้าที่สุด แต่เมื่อลองรวบรวมข้อมูลเราก็พอเห็นความเป็นไปได้ของงานนี้ เรายังมีร่างของไอวี่อยู่ มันถูกเก็บรักษาอย่างดีเพราะพ่อกับแม่ทำใจบอกลาเธอไม่ลง ถ้าจะทำให้มันกลับมาทำงานได้อาจจะต้องเปลี่ยนถ่ายอวัยวะทั้งหัวใจ ปอด ม้าม และตับ รวมทั้งฟื้นฟูสมองที่เสียหายบางส่วนจากแรงกระแทกตอนรถคว่ำด้วย ฉันเองทำงานด้านการโคลนนิ่งอวัยวะอยู่ ถึงแม้ว่ามันจะอยู่ในขั้นทดลองแต่มันก็มีผลสำเร็จมาบ้างแล้ว ด้วยความรู้ที่มีถึงมันจะเอามาใช้ส่วนตัวแต่เราก็ตกลงเริ่มโคลนนิ่งอวัยวะในตู้ทดลองที่ฉันรู้กระบวนการทุกอย่างในการสร้างและใช้งานมัน

ด้วยความที่ครอบครัวเราก็พอจะมีทรัพย์สินและเส้นสายเราจึงได้ของที่ต้องใช้มาไม่ยากนักเมื่อทุ่มเงินลงไป ใช้เวลาเป็นเดือนอวัยวะก็พร้อมปลูกถ่ายเข้าสู่ร่างของไอวี่ และใช่...เราทำกันเองโดยฝึกจากคำแนะนำของปัญญาประดิษฐ์ฝีมือของไอญ่า ฉันพอจะมีทักษะจากงานที่ทำมันจึงไม่ยากมากนักเมื่อมีปัญญาประดิษฐ์ช่วยในการผ่าตัด 

หลังจากนั้นร่างกายของไอวี่อยู่เก็บรักษาในตู้พิเศษที่สร้างเพื่อคงสถาพร่างกายและอวัยวะ พร้อมให้สารอาหารต่างๆ เพื่อล่อเลี้ยงร่างกายทางหลอดเลือด ทุกอย่างกำลังจะเรียบร้อย เหลือแค่ปลุกเธอขึ้นมาและปลูกถ่ายความทรงจำให้ใหม่เพราะสมองเธอเสียหายมาก ความทรงจำอาจไม่เหลือแล้ว

ฉันก้าวเข้าไปในห้องที่เย็นเยียบเพราะต้องรักษาอุณหภูมิให้เหมาะสมกับตู้เก็บร่างของไอวี่และสารพัดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ของไอญ่าที่ตั้งอยู่อีกฟากหนึ่ง ร่างของไอวี่อยู่ตรงนั้น ถึงจะผ่านการผ่าตัดมาแต่เราก็พยายามทำให้เธอสวยเหมือนเดิมที่สุด แผลของเธอดีขึ้นอย่างรวดเร็วเพราะน้ำยาที่ใช้หล่อเลี้ยงอวัยวะเทียมที่โคลนนิ่งจากเนื้อเยื่อของเธอเอง ซึ่งมันตัดปัญหาความเข้ากันไม่ได้ออกไปได้ดี

"ไอริสอย่าร้องน่า...เดี๋ยวไอวี่ตื่นมาแล้วจะตกใจที่มาสคาร่าเธอมันไหลเป็นทาง" ฉันฟาดมือลงบนไหล่คนช่างเย้า เรามีกันสามคนพี่น้องมาตลอด จนกระทั่งเมื่อสามเดือนก่อนเราก็เหลือกันแค่สองคน ฉันสวมกอดพี่สาวที่เหลืออยู่ เราลูบหลังกันและกันอย่างต้องการปลอบโยนเหมือนที่ทำให้กันตลอดมา "ไอวี่จะต้องกลับมา"

"แล้วถ้ามันไม่สำเร็จ..."

"เราก็แค่กลับไปยอมรับความจริง แต่ก็รู้ไว้ว่าเราพยายามจนถึงที่สุดแล้ว แค่ไอวี่อาจจะไม่อยากอยู่กับเราแล้ว"

"ไอญ่า..." น้ำตาของฉันไหลมากมายออกมาไม่ต่างจากวันที่เสียไอวี่ไปครั้งแรก มองไปยังร่างของเธออีกครั้งก่อนจะเดินตามไปยังอีกฟากหนึ่งของห้องที่สว่างจ้า ไอวี่ยังคงนอนอยู่ตรงนั้นในชุดเดรสสีแดงสดตัวโปรดของเธอที่ฉันเลือกมาสวมให้ เธอจะสวยที่สุดตอนตื่นขึ้นมา

"อัครทูตสวรรค์ราฟาเอลทรงโปรดคุ้มครองเราด้วย โปรดประทานพรให้งานนี้ลุล่วงด้วยดี" ไอญ่าทำท่าเหมือนเงยหน้ามองฟ้า ท่าทางราวกำลังภาวนาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพนับถือ ส่วนฉันงงว่าเกี่ยวอะไรกัน ไอ้ที่ทำอยู่หากพระเจ้าทรงทราบคงไม่โปรดเป็นแน่ ซึ่งฉันคิดว่าทรงทราบแน่...

"ทำไมต้องอัครทูตสวรรค์ราฟาเอล"

"ท่านอุปถัมภ์ผู้เดินทาง แพทย์ นางพยาบาล เภสัชกร กับคนตาบอดอะไรแบบนั้นไม่ใช่เหรอ"

"แล้ว?"

"ที่เราทำหลายๆ ส่วนมันก็การแพทย์แหละน่า"

"เหรอ..."

"ไม่ต้องมาทำหน้าอย่างนั้นเลย" ไอญ่าหันไปสนใจหน้าจอคอมพิวเตอร์ต่อ ยายพี่สาวฉันก็แถไปเรื่อยนั่นแหละ เอาอะไรกับคนที่ไม่เคยสนใจไปโบสถ์ พระคัมภีร์ก็รู้เท่าวิชาประวัติศาสตร์เบื้องต้นสอนแค่นั้น จะว่าไปตอนนี้ไม่ได้นับถือศาสนาแล้วด้วยมั้ง พระเจ้าของไอญ่าน่าจะเป็นเทคโนโลยีนี่ละ

ฉันเห็นไอญ่ากดป้อนข้อมูลต่างๆ ลงไปในชิปที่จะส่งคลื่นพิเศษเชื่อมต่อกับคลื่นสมองที่เราปลุกขึ้นมาใหม่ คลิปวิดีโอมากมายที่เคยถูกถ่ายโดยพ่อและแม่ตั้งแต่เรายังเด็กจนโตถูกบรรจุลงไปในโปรแกรมควบคุมชิป มันจะประมวลผลและแต่งเติมให้ใหม่ทดแทนส่วนที่เสียหายพร้อมสมองตอนเกิดอุบัติเหตุ เธอจะได้กลับเป็นไอวี่ที่สมบูรณ์ที่สุด

มีคนกล่าวกันว่าความทรงจำอาจหมายถึงชีวิตคนคนหนึ่ง ถ้าไม่มีความทรงจำก็เหมือนชีวิตได้ขาดหายไป จากการคาดการณ์ไอวี่อาจจะมีความทรงจำบางช่วงหายไป ซึ่งคงเป็นส่วนมาก แต่เราคิดว่าจะจัดการได้ ขอแค่ไอวี่กลับมาเราจะฟื้นฟูทุกอย่าง ลึกๆ แล้วฉันว่ามันฟังดูเห็นแก่ตัวที่อยากรั้งเธอไว้ แต่ฉันเชื่อว่าถ้าเธอจำเราได้เธอจะเข้าใจ เราทำเพื่อพ่อแม่ด้วย อย่างน้อยเราก็อยากให้เธอได้บอกลาทุกคนถ้ามันถึงเวลาแล้วจริงๆ หวังว่าความทรงจำวัยเด็กจนถึงปัจจุบันพวกนั้นจะช่วยเราได้ ปัญญาประดิษฐ์ฝีมือไอญ่าจะช่วยเติมเต็มส่วนที่ขาดหายเอง

"เอาเลยนะ" ฉันพยักหน้าให้พี่สาวคนกลาง เธอกดเดินหน้าโปรแกรมต่างๆ มันประมวลผลอย่างรวดเร็ว 

โปรแกรมปลุกสมองของไอวี่ให้กลับมาทำงาน หัวใจดวงใหม่ของเธอที่ปลูกถ่ายลงไปทำงานได้ดี อวัยวะต่างๆ เริ่มกลับมาทำงานจากการหมุนเวียนเลือก สารหล่อเลี้ยงที่ให้ทางเส้นเลือดกระตุ้นการทำงานของพวกมันได้อย่างดีเยี่ยมตามทฤษฎี ถ้าเป็นชิ้นงาน งานชิ้นนี้จะออกมาเยี่ยมยอด แต่นี่คือพี่สาวของเรา...เราจะกลับมาเป็นครอบครัว 

อีกครู่หนึ่งผลต่างๆ ก็ปรากฏในทิศทางที่ดี ร่างกายของไอวี่มีการตอบสนองต่อสารหล่อเลี้ยง คลื่นสมองก็เริ่มเข้าที่เข้าทาง เราใช้เวลาหมดคืนในการเฝ้าดูผลลัพธ์ผ่านจอคอมพิวเตอร์หลายจอของไอญ่า รู้ตัวอีกทีก็ล่วงเข้าสู่เช้าวันคริสต์มาส

ลมเย็นๆ โชยมาแต่เช้า ฉันขึ้นจากห้องใต้ดินไปเตรียมอาหารเช้าให้ไอญ่าที่จะขอนั่งมอนิเตอร์ไอวี่ต่อหลังจากผลัดเปลี่ยนกันไปล้างหน้าล้างตาให้หายง่วง ไอญ่าขอโกโก้ร้อนใส่มาร์ชเมลโล่ของโปรด ฉันทำไปก็นึกถึงไอวี่ไป เธอบริการเราที่ร้านกาแฟตลอด

ใช่...พี่สาวคนโตของเราเปิดร้านกาแฟ อาจดูฉีกจากพวกเราสองพี่น้องมากๆ แต่มันเป็นงานที่เธอมีความสุข เลี้ยงตัวเองได้ พ่อและแม่ก็สนับสนุนความฝันของเธอไม่ต่างจากเราสองพี่น้องที่เหลืออยู่ และมีกาแฟให้เรากินไม่อั้นเวลางานเร่งงานรีบ

เราฉลองวันเทศกาลกับเธอและพ่อแม่เป็นประจำ มันจึงมีคลิปที่เป็นความทรงจำให้เอามาร่วมประมวลผลเยอะนั่นแหละ เธอเองก็ชอบถ่ายลงโซเชียลเวลาอยู่ร้าน ทำคอนเทนต์ไปเรื่อยไม่ต่างจากคนสมัยนี้จึงมีข้อมูลของเธอให้ใช้มากมาย

"ของขวัญคริสต์มาสปีนี้...ฉันขอให้พี่กลับมาได้นะไอวี่" ฉันเตรียมโกโก้ร้อนใส่มาร์ชเมลโล่สามแก้วลงไปห้องใต้ดินพร้อมอาหารเช้าง่ายๆ มันเป็นเครื่องดื่มโปรดของเราสามพี่น้อง บางทีไอวี่อาจจะคิดถึงมันจนรีบกลับมาก็ได้

ไอญ่ากวาดทุกอย่างลงท้องอย่างรวดเร็วเพราะความหิวไส้จะขาด ฉันเองก็เหมือนกัน เราเร่งเตรียมงานส่วนสุดท้ายตั้งแต่เมื่อวานจนไม่ได้กินอะไรเลย

แล้วเราก็รอจนฟ้ามืดอีกครั้ง ตามการคำนวณของโปรแกรมไอวี่จะต้องฟื้นภายในคืนนี้ หากนานกว่านี้อาจหมายความว่าสมองเธอยังไม่ตอบสนองกับชิปมากพอ ซึ่งหากร่างกายไม่กลับมาทำงานเอง สารหล่อเลี้ยงอวัยวะพวกนั้นจะเริ่มเป็นพิษเพราะได้รับมากและนานเกินไป 

เรานั่งสัปหงกกันตอนสามทุ่มกว่าเพราะถ่างตารอกันมาทั้งวัน แล้วเสียงสวรรค์ก็ปลุกเราขึ้นพร้อมกัน หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่แสดงกราฟเริ่มมีความผันผวน มันส่งเสียงร้องพร้อมกับที่เรามองไปเห็นไอวี่กำลังขยับตัว

ฉันรีบเข้าไปหาพี่สาวคนโต เธอดูอึดอัดจากอุปกรณ์พยุงชีพ ฉันดีใจจนกลั้นน้ำตาไม่ไหวเมื่อเห็นเธอลืมตาแล้วมองฉันด้วยสายตาคู่นั้น สายตาที่มองฉันตั้งแต่เล็กจนโต ไอญ่าปรับแต่งอะไรสักอย่างเรียบร้อยก็มาอยู่อีกข้างหนึ่งของเตียง เราดูจนแน่ใจว่าไอวี่จะโอเคก็เริ่มถอดเครื่องพยุงชีพ

เธอยิ้มให้เราสองคนแม้ยังไม่พูดอะไรออกมา ฉันกับไอญ่ากอดคอกันร้องไห้ สามสิบนาทีหลังจากนั้นเรานั่งเล่าเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นให้ไอวี่ที่เริ่มดูมีเลือดฝาดตามร่างกายฟัง เธอพยักหน้าให้เราอย่างเข้าใจ และคำแรกที่พูดก็คือ...

"พี่รักพวกเธอนะ"

"เราสองคนก็รักพี่"

"ใช่ๆ เราคิดถึงพี่มากๆ" ไอญ่าน้ำตารื้นอีกรอบ เรานั่งคุยกันจนเกือบเที่ยงคืน มีเรื่องมากมายที่เราอยากเล่าให้เธอฟัง 

มันเป็นเรื่องที่ชวนตกใจนิดหน่อยที่ไอวี่ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว เธอสามารถขยับร่างกายได้ทุกส่วนที่เคลื่อนไหวได้ในอีกหนึ่งชั่วโมงต่อมา นับเป็นเรื่องน่ายินดีแต่ก็อดกังวลไม่ได้ว่ามันจะส่งผลเสียอะไรในอนาคตไหม

"พี่รู้สึก...เหมือนได้เกิดใหม่" เธอบอกฉัน ในขณะที่ไอญ่าดูมอนิเตอร์ร่างกายของไอวี่อยู่ มันโอเคดีทุกอย่าง ชิปกับสมองประสานงานกันได้ดีอย่างน่าเหลือเชื่อ คลื่นสมองของไอวี่ทำงานได้ตามปกติเกือบทุกส่วน

ตอนเที่ยงคืนเราจึงพากันขึ้นมาด้านบน ไอญ่าถือแท็บเล็ตที่มอนิเตอร์ร่างกายไอญ่ากลับมาด้วยเพื่อติดตามผลตลอดเวลา เนื่องจากไม่คิดว่าจะได้ฉลองคริสต์มาสด้วยกันเราจึงไม่มีอะไรเหลือในครัวนอกจากซุปกึ่งสำเร็จรูปที่ฉันไปอุ่นมาให้ไอญ่ากับตัวเอง และซุปจากผักก้นตู้เย็นที่ดูจะดีต่อสุขภาพมากกว่าให้ไอวี่

"นี่...พี่จำได้ไหมว่าตอนเด็กๆ ที่โต๊ะกินข้าวตัวนี้พี่เคยไล่ฟาดเรา" ไอวี่ทำท่านึกสิ่งที่ไอญ่าถามอย่างเป็นธรรมชาติแบบที่เคยเห็น จากการพูดคุยเกือบสองชั่วโมงที่ผ่านมาไอวี่มีความทรงจำเกือบทั้งหมด รวมทั้งวันที่เกิดอุบัติเหตุด้วย เธอบอกว่ามันน่ากลัวมากๆ

"นึกออกสิ พี่ทำตัวเป็นปีศาจแครมปัสไล่ฟาดพวกเธอที่เอานิ้วมาจิ้มคัพเค้กแล้วมาป้ายหน้า" ฉันหัวเราะออกมาเพราะจำได้รางๆ ว่าตัวเองในตอนนั้นทำจริง เป็นคืนที่วุ่นวายแต่ก็เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะเปี่ยมความสุข

"อึก!" ฉันเงยหน้าขึ้นมาจากชามซุปเพราะเสียงสะอึกแปลกๆ ของไอวี่ ไอญ่าที่นั่งอยู่อีกฝั่งรีบลุกขึ้นมาช่วยดูพี่สาวของเราที่ก้มหน้าอยู่

สีหน้าของไอวี่ดูไม่ดีนัก พี่สาวคนกลางของฉันรีบดูข้อมูลในแท็บเล็ต เธอส่ายหน้าว่าทุกอย่างปกติดี แต่แล้วไอวี่ก็เหมือนจะสะอึกอีกรอบ คราวนี้ตัวเธอกระตุกอย่างน่ากลัวก่อนจะนิ่งงัน จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมาแสยะยิ้มน่ากลัวให้เราสองพี่น้อง

"เด็กดื้อต้องโดน!" พี่สาวของเราพูดเสียงดังแล้วลุกขึ้นจากเก้าอี้ ฉันกับไอญ่าเริ่มถอยห่างเพราะรู้สึกว่าแววตาของพี่สาวดูน่ากลัวขึ้นมา

'ปัง!' ไอวี่ตบโต๊ะ

"ไอญ่า...ฉันว่า..."

"ฮ่า ฮ่า ฮ่าเจ้าพวกเด็กบ้า หน้าเหวอเลย" ฉันตกใจแทบหงายท้อง ไอวี่หัวเราะเสียงดังออกมาแล้วนั่งลงที่เดิม "พี่แค่ล้อเล่น"

"ไม่ขำนะพี่"

"ฉันก็ไม่ขำนะ ไอริสมันกลัวจนหน้าซีดแล้ว"

"ก็เห็นดูกังวลตลอดเวลาว่าพี่จะโอเคไหม พี่ไม่เป็นอะไรจริงๆ ขอบใจนะที่พยายามเพื่อพี่ขนาดนี้"

"ถ้าพ่อแม่รู้ว่าพี่กลับมาคงดีใจ"

"ไอริสโทรบอกพ่อกับแม่ดิ ลืมไปเลย"

"อย่าเพิ่งดีกว่า พี่กลัวว่าตัวเองจะต้องหายไปอีก เอาให้มั่นใจก่อนเถอะว่าพี่จะอยู่ตรงนี้ได้จริง" ไอวี่จับมือฉันที่กำลังจะหยิบมือถือ ฉันจึงยอมวางลงแล้วหันมาคุยกันต่อ ถึงคนภายนอกจะรับรู้ไม่ได้กับสิ่งที่ทำ แต่อย่างน้อยเราก็ยังกลับมาเป็นครอบครัวได้ แค่นี้ก็พอแล้ว...

"อย่าเล่นแบบเมื่อกี้อีกนะพี่ ตกใจหมด"

"โอ๋ๆ นะไอริส"

"พี่มีไอริสเป็นน้องคนเดียวเหรอ"

"โถ่...ไอญ่าของพี่" เราสามคนกอดกัน แต่ชั่วเสี้ยวลมหายใจฉันกับไอญ่าก็รู้สึกถึงแรงบีบรัดที่มากกว่าปกติจากพี่สาว คราวนี้ตัวเธอกระตุกแรงสองสามครั้งร่วมกับมีเสียงแปลกๆ จากแท็บเล็ต เรารีบแงะตัวออกจากอ้อมแขนที่แข็งแรงเกินมนุษย์ของพี่สาวทันที

"เกิดอะไรขึ้น" ฉันถามไอญ่า เธอกดดูอะไรไม่รู้ในแท็บเล็ตแล้วส่ายหน้า ส่วนไอวี่ลุกจากเก้าอี้แล้วเดินวนไปรอบห้องครัวด้วยท่าทางสนอกสนใจ

"อ่านอยู่ๆ"

"ฉันว่าไอวี่แปลกๆ"

"เห็นอยู่ แย่...มั้ง แย่แหละ ไอ้ชิปที่เราใส่เข้าไปมันมีส่วนหนึ่งทำงานด้วยเอไอถูกไหม ตอนนี้มันกำลังจะกลืนสมองของของไอวี่" ฉันฟังแล้วรู้สึกสมองจะประมวลผลไม่ทันขึ้นมาดื้อๆ กลืนสมองเนี่ยนะ "ฉันจะต้องสู้กับมันเพื่อเอาสมองไอวี่กลับมา ไม่คิดว่ามันจะอัปเกรดตัวเองได้จนพยายามคุมไอวี่"

"แล้วเราต้องทำไงบ้าง"

"พาไอวี่ไปพักก่อน"

"ไงจ้ะ...น้องสาว" ขณะที่เรากำลังปรึกษากันอยู่ไอวี่ก็คว้าสายไฟของกาน้ำร้อนออกมา ดึงมันออกจากเต้าเสียบและปลายอีกด้านที่เชื่อมต่อกับกาน้ำร้อน

"พี่ไอวี่ พวกเราว่าพี่ไปนอนก่อนดีกว่าค่ะ" ฉันทำใจดีสู้เสือทั้งที่ท่าทางพร้อมสีหน้าแววตาของไอวี่เหมือนฆาตกรโรคจิตที่กำลังจะลงมือทรมานเหยื่อ

"คืนนี้คริสต์มาส ทำไมเราไม่สนุกกันหน่อยล่ะ ระหว่างรอซานตาคลอสมา แต่เด็กที่เอานิ้วจิ้มคัพเค้กคนอื่น...เด็กไม่ดีปีศาจแครมปัสจะลงโทษ!"

"กรี๊ด!"

"ไอญ่าหลบ" ฉันดึงไอญ่าที่ตกใจจนเอาแต่กรี๊ดแล้วยืนนิ่งให้พ้นจากรัศมีของสายไฟที่ถูกฟาดลงมา มันกระทบโต๊ะกินข้าวดังลั่น ถ้าโดนเข้าไปเนื้อแตกแน่ๆ

"ไอวี่พี่ต้องตั้งสตินะ" ฉันพาไอญ่าที่พยายามหาทางสู้กับเอไอถอยห่างออกจากพี่สาวของเรา เธอแกว่งข้อมือราวกับสายไฟเส้นนั้นคือแส้ดีๆ เส้นหนึ่ง

ตอนนี้ไอวี่น่าจะนึกถึงความทรงจำเกี่ยวกับการเล่นเป็นปีศาจแครมปัสของตัวเองในคืนคริสต์มาสเมื่อยี่สิบปีก่อน ฉันในวัยเจ็ดแปดขวบจำได้รางๆ ว่าตัวเองกับไอญ่าเอานิ้วจิ้มคัพเค้กแล้วป้ายหน้าไอวี่ เธอโมโหเลยทำตัวเลียนแบบปีศาจแครมปัสจะลงโทษเด็กดื้อโดยถือพลองกระดาษห่อของขวัญแทนไม้จากกิ่งต้นเบิร์ชไล่หวดพวกเรา แต่ตอนนี้เธอเป็นปีศาจแครมปัสที่กำลังจะไปหยิบเสาโคมไฟมาไล่หวดเราแทน!

เราสองพี่น้องวิ่งหนีพี่สาวคนโตที่พยายามเอาเสาโคมไฟมาไล่ฟาดเรา ส่วนอีกมือถือแส้จากสายไฟ เธอฟาดถูกข้าวของในบ้านพินาศไปหมด ในที่สุดฉันกับไอญ่าก็ต้องหนีออกมาจากบ้าน เราในตอนนี้จึงกลายเป็นคนจรแบบงงๆ

หันมองกลับไปเป็นไอวี่ยืนจังก้าขวางประตูหน้าบ้าน แถมทำท่าจะตามมา ฉันเลยลากไอญ่าที่กอดแท็บเล็ตนั่นวิ่งต่อ เราหยุดอยู่ที่สวนสาธารณะแถวบ้าน อากาศคืนนี้หนาวจนถึงขั้วหัวใจจากลมเย็นที่พัดแรง ดีแค่ไหนที่ไม่มีหิมะตก แต่ตราบใดที่เรายังจัดการปัญหาเกี่ยวกับสมองของพี่สาวที่กลับมาจากความตายไม่ได้เราก็กลับไปที่บ้านไม่ได้

"เราจะไปไหนกันดี ฉันหนาวจะแย่แล้ว" ไอญ่าตัวสั่นกอดแท็บเล็ตที่อุ่นร้อนเพราะโปรแกรมทำงานหนักแนบอก

คืนนี้ถนนเงียบกริบเพราะคนไปรวมตัวฉลองตามสถานที่ต่างๆ กันหมด เราสองพี่น้องที่นั่งหนาวอยู่ในสวนสาธารณะจึงตัดสินใจเรียกรถแท็กซี่ไปที่ร้านกาแฟของไอวี่ ที่นั่นน่าจะพอหลบภัยชั่วคราวก่อนได้

"เธอมีกุญแจเหรอ"

"งัดสิไอริส ทำเร็วๆ ฉันจะดูสมองของไอวี่ต่อ"

"อยากจะบ้า คิดอยู่แล้วว่ามันต้องชิบหาย" ฉันงัดกุญแจประตูที่ปิดตายตั้งแต่ไอวี่เสียชีวิต แต่งัดเท่าไหร่ก็งัดไม่ออกจึงเปลี่ยนเป็นทุบกระจกแล้วเอื้อมมือเข้าไปเปิดตัวล็อกแทน เราจึงรอดจากการแข็งตายเพราะใส่แค่ชุดเดรสออกมาข้างนอกที่ไร้ฮีตเตอร์ไปโดยปริยาย

"ขอโกโกร้อน..."

"ใส่มาร์ชเมลโล่หน่อย"

"เยี่ยมมากน้องสาว" ไอญ่าหันไปก้มหน้าก้มตากับแท็บเล็ตต่อ ฉันจึงไปจัดการเรื่องโกโก้ให้ แต่ด้วยความที่ไม่เคยใช้อุปกรณ์อะไรที่ร้านกาแฟจึงหาอะไรไม่ค่อยเจอ แล้วก็คิดถึงไอวี่ขึ้นมา ทุกครั้งที่มาที่นี่พี่สาวของเราจัดการให้ทุกอย่างเสมอ เราไม่เคยชงเองเลยนี่นา...

"ช้อน...ช้อนอยู่ไหน" ฉันเดินหาช้อนตามตู้แต่ยังไม่เจอ ขณะหมุนตัวกลับข้อศอกก็ไปชนเหยือกใบหนึ่งที่คว่ำอยู่บนชั้งวางร่วงลงมาแตก ด้วยความตกใจฉันจึงผงะถอยหลังไปชนตู้ใบหนึ่ง มันเปิดออกจนเห็นของที่น่าตกใจอยู่ภายในช่องลับ

"เป็นอะไรไหมไอริส" ไอญ่าที่ผละมาจากหน้าจอชะโงกหน้ามาดู ฉันส่ายหน้าทั้งที่ยังจ้องไปยังของในตู้ใบนั้น

"ฉันว่าเธอต้องมาดูนี่"

"อะไรของเธอ"

"มาเถอะน่า" ไอญ่าเดินมาดูแล้วชะงักไม่ต่างไปจากฉัน เรารู้สึกหายใจไม่ค่อยสะดวกตอนเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะ

"ทำไม...ถึงมีของพวกนั้นในตู้"

"ฉันไม่รู้ไอญ่า"

"พี่สาวเราเปิดร้านกาแฟนะ"

"ใช่ไง" เพราะแบบนั้นมันก็ไม่น่าจะมีอาวุธปืนพร้อมมีดที่เหมือนเป็นคลังแสงขนาดย่อมอยู่ในนั้น! ใช่...ปืนหลายชนิดหลายขนาด มันเป็นของใคร ทำไมมันถึงมาอยู่ที่นี่ การเจอของแบบนี้ทำให้ฉันเริ่มคิดว่า...หรือที่ผ่านมาเราไม่รู้จักพี่สาวของเราเลย พี่สาวที่แสนอ่อนโยนของเรา...

ฉันกับไอญ่าปิดช่องลับนั่นเอาไว้แบบเดิม พยายามทำเหมือนไม่เคยเห็น ทั้งที่หัวใจยังเต้นระทึกเพราะความตกใจ

"เธอแก้ได้หรือยัง"

"ไม่อะ มันยึดเอาไปแล้ว แท็บเล็ตฉันแรมน้อยไปโปรแกรมรันได้ไม่เสถียร ร้อนจนจะระเบิดอยู่แล้ว"

"แล้วเราจะทำยังไงได้บ้าง เราทำให้เธอนอนได้ไหม ถ้าเธอยังเป็นแบบนี้โลกอาจจะเริ่มหายนะก็ได้นะ"

"ชีวิตเราสองคนนี่แหละหายนะ เราทำให้นอนไม่ได้หรอก พอเราเปิดโปรแกรมแล้วมันก็จะเป็นไปตามแต่ไอวี่จะควบคุม ร่างกายเป็นของเธอ เพียงแต่ชิปเอไอมันมีปัญหา มันพยายามอยู่เหนือกว่าสมองไอวี่ เธอเลยแปลกไป"

"แล้วเธอแก้ได้ไหมถ้าเราไปถึงห้องควบคุมได้"

"ไม่มั่นใจ แต่ต้องลองดูก่อน มันพัฒนาตัวเองขึ้นมาเสียอย่างนั้น อาจจะเป็นที่ฉันทำคำสั่งต่างๆ ไม่รอบคอบพอ เหมือนปิดประตูไม่สนิทมันเลยมีช่องทำอะไรๆ เอง ตอนนี้มันกลืนเธอเกือบทั้งหมดแล้ว"

"แล้วถ้าเธอชนะมันไม่ได้..."

"เราจะเสียไอวี่ไปจริงๆ"

"ฉันไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น"

"ฉันก็เหมือนกันแหละไอริส ถ้ามันจำเป็นจริงๆ เราอาจต้องหยุดเธอ"

"เธอจะฆ่า...ไอวี่เหรอไอญ่า" ฉันพูดเสียงดังจนแทบกลายเป็นการตะโกนเพราะความตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน

"ไอริสฟังฉันนะ...พี่สาวเราตอนนี้เหมือนไม่มีจิตวิญญาณ ไม่มีความรู้สึก เหมือนเป็นหุ่นตัวหนึ่งที่ไม่มีชีวิตจริงๆ ที่เธอออกมาไม่สมบูรณ์ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะผู้สร้างอย่างเรายังไม่รู้จักสิ่งที่ทำดีพอ ทางสุดท้ายที่หยุดไอวี่ได้ก็คือการทำลายชิปเอไอในสมองของเธอ แต่นั่นก็หมายความว่าเราจะไม่มีสมองของเธอให้เรากู้กลับมาได้อีก เราจะเสียเธอไปจริงๆ"

"หมายความว่าเราจะต้องเสียไอวี่ไปจริงๆ เหรอ"

"เราอาจต้องทำ เพราะเราไม่รู้ว่าไอวี่จะไปสร้างความเสียหายอะไรอีก" ยังไม่นับรวมถ้ามีคนอื่นรู้หรือเจอเธออีก

"โอเค งั้นเราจะกลับไป" เราสองคนจึงเรียกรถที่หายากเย็นในเวลาที่เกือบจะเช้าเพื่อตรงกลับบ้าน เราให้รถจอดห่างจากรั้วพอสมควรเพราะกลัวไอวี่รู้ตัว จากนั้นเราจึงค่อยๆ ย่องเข้าบ้าน ทั้งที่เป็นบ้านของตัวเองแท้ๆ




ตอนแรกเกือบจะจบแฮปปี้ตอนได้พี่สาวกลับคืนแล้วค่ะ แต่ใจมันแบบเราจะจบแฮปปี้ไปทำไมในเมื่อเราพาเรื่องราวให้มันวายป่วงได้555

คอมเมนต์ติชมเป็นกำลังใจและเพื่อปรับปรุงต่อไปได้เลยนะคะ แล้วพบกันตอนถัดไปค่ะ