นครไซเบอร์พังค์ที่ช่องว่างชนชั้นต่างกันราวเทวดากับผีโหย อิกนัสอัศวินพิทักษ์นครต้องตัดสินใจเลือกระหว่างรับใช้แกนอำนาจเพื่อชีวิตที่สุขสบายหรือตายเพื่ออุดมการณ์ที่ไม่มีวันเป็นจริง
สืบสวนสอบสวน,ไซไฟ,แอคชั่น,ผจญภัย,อาชญากรรม,นักเขียนรถแห่มาเยือนพล็อตเทลเลอร์ ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Krampusนครไซเบอร์พังค์ที่ช่องว่างชนชั้นต่างกันราวเทวดากับผีโหย อิกนัสอัศวินพิทักษ์นครต้องตัดสินใจเลือกระหว่างรับใช้แกนอำนาจเพื่อชีวิตที่สุขสบายหรือตายเพื่ออุดมการณ์ที่ไม่มีวันเป็นจริง
2
“เพราะชีวิตที่อุทิศเพื่อความยุติธรรมในสังคมจึงเป็นชีวิตที่มีความหมายค่ะ”
นักรบสาวจากอีเดนลีฟซ์ตอบอย่างฉะฉานในการสอบสัมภาษณ์เข้าหน่วยอัศวิน ดวงตาสีฟ้าของเธอเปล่งประกาย และคำที่เธอพูดก็สะกิดหัวใจอิกนัสอย่างประหลาด
“ใช่ค่ะเป็นคำพูดของคุณอิกนัสเองเลย และฉันก็ใช้มันเป็นคติประจำใจมาตลอด” เธอกล่าวพลางเอานิ้วพันผมแกละสีบลอนด์ของตัวเอง แก้มแดงจัดไม่รู้ว่าเพราะเขินหรือตื่นเต้น “เมื่อได้บรรจุเป็นนักรบชั้นตรีแล้วฉันก็ทำเรื่องย้ายมาที่แทรนโธสทันทีเลยค่ะ ฉันแอบประทับใจในตัวคุณอิกนัสมานานมากแล้วนะคะ ตั้งแต่ครั้งที่คุณมาเป็นวิทยากรรับเชิญที่โรงเรียน คุณมีตำแหน่งมั่นคงที่แกรนทรังค์แต่กลับเลือกทิ้งทุกสิ่งเพื่อมาเป็นผู้คุ้มครองในนครไร้กฎหมายและเต็มไปด้วยอาชญากรแบบนี้ คงด้วยหัวใจที่อยากพิทักษ์ผู้อ่อนแอไร้ทางสู้จริง ๆ ใช่ไหมคะ”
“คุณเฟบารอส”
“เรียกเฟบก็ได้ค่ะ” เธอยืนตัวเกร็ง ทำเอาอิกนัสนึกขำว่านี่คือการสอบสัมภาษณ์หรือสารภาพรักกันแน่ แล้วหน้าหล่อนก็แดงจัดขึ้นไปยิ่งกว่าเดิมอีก
อิกนัสคิดถึงเหตุผลที่เขาย้ายมาแทรนโธสก็แค่ต้องการหนีความจริงที่ทำเขาหัวใจแตกสลาย ไม่ใช่ด้วยอุดมการณ์สูงส่งใด ๆ ทั้งสิ้น แต่ก็ไม่เห็นความจำเป็นต้องอธิบายให้เธอฟัง และบางทีการปล่อยให้สาวสวยคิดถึงเขาในภาพลักษณ์ที่ดีก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร
“คุณเฟบ ความหมายของคำว่ายุติธรรมที่นี่มันไม่เหมือนกับที่อีเดนลีฟซ์หรอกนะ”
“เพราะอย่างนี้สิคะฉันถึงยิ่งนับถือคุณ ฉันเองก็รู้ดีถึงความเลวร้ายของที่นี่ค่ะ จึงได้อาสามาผดุงธรรมตามรอยคุณอิกนัสเลย ให้โอกาสฉันได้สร้างความยุติธรรมที่แท้จริงแก่สังคมอันเสื่อมทรามนี้ด้วยนะคะ”
เธอประสานมือเข้าด้วยกัน พูดด้วยน้ำเสียงสดใส ความหวังถึงโลกอันสวยงามปรากฏชัดในแววตา แล้วอิกนัสจะอธิบายให้เธอเข้าใจได้อย่างไรว่าสิ่งที่หน่วยอัศวินปกป้องนั้นไม่ใช่สันติสุขของพลเรือนหรอก แต่คือการพิทักษ์ความมั่งคงของผู้ปกครอง ก็คงได้แต่ปล่อยให้ประสบการณ์เป็นผู้สอนเธอเอง
อิกนัสลืมตาตื่นพร้อมห้วงคิดติดตรึงอยู่ในหัว เขาเพิ่งฝันถึงเฟบ ถึงวันที่เขาสอบสัมภาษณ์เธอ เฟบคือหนึ่งในนักรบที่มีความสามารถโดดเด่นที่สุดที่เขาเคยรู้จัก แต่ได้หายสาบสูญไปในภารกิจกวาดล้างซ่องโจรเมื่อสองปีก่อน
หรือความจริงเธอยังไม่ตาย
เป็นข้อสงสัยที่กวนใจเขาเหลือเกินเพราะท่วงท่าของจอมโจรเมื่อวานที่ถูกตั้งฉายาว่าปีศาจแครมปัสมันคล้ายเธอมาก แต่จะเป็นไปได้อย่างไร คนที่ยึดมั่นในอุดมการณ์ขนาดนั้นจะแกล้งตายแล้วผันตัวไปเป็นโจรได้เชียวหรือ
ชายหนุ่มลุกจากเตียงมานั่งลงกลางพื้นห้องที่ตกแต่งด้วยไม้จริง เรียบง่ายแทบไม่มีเฟอร์นิเจอร์จนเกือบเหมือนอารามของนักพรตผู้ละโลก เขานั่งสงบนิ่งดูพระอาทิตย์ขึ้นจากขอบทะเลผ่านกระจกหน้าต่างร้อยแปดสิบองศา กิจวัตรประจำวันทุกเช้าก่อนเข้าสู่ความโกลาหลของเมืองใหญ่
ยูนิตชั้นที่สามสิบหกของเรสซิเด้นท์หรูหกสิบชั้นในโซนไฮเอนด์นี้ แค่ค่าเช่าต่อเดือนที่ยี่สิบสองเครดิตทองก็สูงกว่าเงินเดือนเจ็ดเท่าโดยเฉลี่ยของชนชั้นกลางแล้ว อิกนัสใช้ชีวิตสุดขั้วแบบไม่มีวันพรุ่งนี้ ใช้ทุกเครดิตที่หามาได้ปรนเปรอความสุขให้ตัวเองในยามราตรี ทั้งแสงสีสตรี และอาหารการกินก็ต้องระดับราชา ที่สุดที่สามารถจ่ายได้
เขาเมื่อสิบปีที่แล้วคงดูหมิ่นตนในวันนี้ที่อยู่ไปวัน ๆ โดยไร้อุดมการณ์ เพียงทำงานรับใช้ผู้มีอำนาจเพื่อเศษเงิน น่าสมเพชที่เขาได้กลายเป็นคนไร้ค่าที่ตนเคยเกลียดชังที่สุด
เจ็ดปีแล้วสิที่ย้ายมาอยู่แทรนโธส รู้สึกยาวนานจนเหมือนชีวิตที่อีเดนลีฟซ์เป็นคนละภพชาติไปเลย
การระลึกถึงเฟบได้จุดประกายบางอย่างในตัวเขา วันนี้เขาจึงเลือกสวมชุดผ้าแขนขายาวในโทนสีหม่นไม่ใช่เครื่องแบบประจำหน่วยอัศวิน สวมกำไลวอลแกนที่ข้อมือข้อเท้า รวบผมมัดหลังแบบง่าย ๆ
เขาออกคำสั่งเปิดหน้าต่าง ทิวทัศน์ดวงตะวันและท้องทะเลก็ถูกแทนที่ทันทีด้วยป่าตึกสร้างจากแก้วและโลหะ ฮอโลแกรมโฆษณาแทรกอยู่ตามแนวตึกทุกหนแห่ง ทั้งสารพัดสินค้าชวนซื้อ นางแบบงดงามดุจนางฟ้าชูผลิตภัณฑ์เอนฟิวส์เพื่อวัยเยาว์ให้คงอยู่ตลอดไป สถานที่เหมือนฝันและสัญญาถึงชีวิตที่ดีกว่า อากาศหนาแน่นด้วยยานเหาะความเร็วสูงไปตามถนนกราวิทัตล่องหนที่เรียกว่าสกายเวย์ เมื่อเขาก้าวออกสู่ระเบียง เสียงเครื่องยนต์ระคายหูและโฆษณาชวนเชื่อสารพัดก็ถาโถมเข้ามาจากรอบทิศ
ยานสกายเลอร์จอดรออยู่ที่ขอบระเบียงลอย ประตูอัตโนมัติเปิดต้อนรับเขาเข้ามานั่งบนหนึ่งในสองที่นั่งขนาดใหญ่หันเข้าหากัน สัมผัสของเบาะนั้นหยาบอย่างมีระดับ กลิ่นแพงของหนังแท้ เมื่อประตูกระจกเลื่อนปิดลง โต๊ะก็ผุดขึ้นพร้อมเสิร์ฟกาแฟร้อนควันกรุ่น ในยานเงียบกริบตามรสนิยมผู้โดยสารที่ไม่ชอบเสียงดนตรี เขายกกาแฟขึ้นจิบ ดื่มด่ำกับรสแฝงของผลไม้สดและดอกไม้ให้ความสดชื่นนุ่มนวลอย่างที่เขาชื่นชอบ
ยานไร้คนขับเคลื่อนไปบนอากาศด้วยความเร็วจัดแต่ภายในกลับนิ่งสนิท การจราจรทั้งหมดบนสกายเวย์ขับเคลื่อนด้วยระบบสมองกล ต่างแล่นด้วยความเร็วสูง แม่นยำและไร้อุบัติเหตุ มันคือทางด่วนของคนชั้นสูงที่จำกัดสิทธิ์เฉพาะประชาชนเกรดสิบห้าขึ้นไปเท่านั้น
อิกนัสมองผ่านกระจกลงไปยังความแออัดบนไฮเวย์ของสามัญชน แต่ละชีวิตต่างดิ้นรนหาเลี้ยงชีพในโลกไร้ปรานีต่อผู้อ่อนแอ ความแข็งแกร่งวัดกันด้วยศักยภาพในการหาเงิน ด้วยเป้าหมายคือชีวิตที่ดีกว่าในวันพรุ่งนี้ซึ่งไม่เคยมาถึง
จิบกาแฟยังไม่ทันหมดถ้วยที่สองก็ถึงศูนย์บัญชาการยังชั้นยอดของหนึ่งในตึกระฟ้าแล้ว อิกนัสไม่รีบลงแต่ดื่มกาแฟให้ครบสามถ้วยก่อน ให้คุ้มกับค่าโดยสารที่แพงถึงหนึ่งเครดิตทอง ชั้นเพนท์เฮ้าส์ในเขตเฮฟเว่นนี้เป็นเขตที่ค่าครองชีพแพงที่สุดในแทรนโธสเหนือถ้าไม่นับรวมพวกเทวดาที่อาศัยอยู่ในมหาหอคอยเบลลาส ขีดขั้นความร่ำรวยของที่นี่มันพุ่งสูงขึ้นไปได้อย่างไร้จำกัด และช่องว่างระหว่างชนชั้นนั้นก็ต่างกันราวนรกสวรรค์
ถึงที่ทำงานอิกนัสก็ตรงไปยังโต๊ะของตัวเองทันที พื้นที่ของเขาทุกสิ่งจัดวางอย่างเป็นระเบียบหมดจดขัดกับภาพรวมของสำนักงานที่เขารู้สึกว่าไร้วินัยเกินไปสำหรับหน่วยที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้พิทักษ์นคร เขาเลิกสนใจสิ่งแวดล้อมและเรียกหน้าจอแสงขึ้นมาเพื่อดูคดีต่าง ๆ ในเขตรังราตรี
“คดีเด็กหาย” ที่เกิดขึ้นถี่ในชั้นใต้แผ่นนคร และเริ่มลุกลามมายังเขตคอร์แล้ว ความเร่งด่วนของภารกิจต่ำสุดเพราะค่าจ้างที่น้อยกว่าสิบเครดิตทอง ก็แน่ละผู้เสียหายส่วนใหญ่เป็นคนจรจัด หรือประชาชนเกรดห้าที่อยู่นอกการคุ้มครองของไทริยะ ไอ้สารเลวแก๊งนี้มันรู้ดีว่าควรปล้นจากใครซึ่งสวนทางกับพวกแครมปัส
“ปีศาจแครมปัส” แก๊งโจรที่เลือกปล้นเฉพาะกิจการของเฮมเมอร์ เรียกว่าท้าทายอำนาจผู้ปกครองโดยตรงเลย ความเร่งด่วนสูงสุดด้วยค่าจ้างที่สูงถึงห้าหมื่นเครดิตทอง อันที่จริงอิกนัสไม่ได้รู้สึกแย่กับแก๊งนี้สักเท่าไหร่ ค่อนข้างนับถือด้วยซ้ำที่พวกมันกล้าปล้นอาณาจักรเฮมเมอร์ที่สูบเลือดสูบเนื้อประชาชนตาดำ ๆ ทว่าความรุนแรงของการปล้นก็เริ่มจะหนักข้อเกินไป อย่างเหตุการณ์เมื่อวานก็มีพลเรือนโดนลูกหลงตายไปถึงสิบสามคน ยังไม่นับรวมผู้คุ้มครองจากไทริยะอีกเจ็ดคนด้วย
เสียงลูกโป่งแตกเรียกความสนใจจากอิกนัส เจสซี่สาวผมส้มในเครื่องแบบอัศวินที่ใส่อย่างรุ่มร่าม ถลกแขนเสื้อเผยรอยสักเคลื่อนไหวได้บนหัวไหล่ ในปากกำลังเคี้ยวหมากฝรั่งอย่างออกรส
“คดีนี้ไม่คุ้มเหนื่อยหรอก” เธอชี้นิ้วไปยังคดีเด็กหายที่อยู่บนหน้าจอ
“แค่เบื่อที่จะรับจ้างงานง่าย ๆ ให้พวกเฮมเมอร์ อยากหาอะไรท้าทายทำบ้าง” อิกนัสตอบ
“คนประหลาด งานที่ความเสี่ยงน้อยและค่าตอบแทนสูงกว่าเป็นร้อยเท่าย่อมดีกว่าอยู่แล้ว”
อิกนัสปิดหน้าจอไม่อยากเถียงต่อให้เสียเวลา “ไพร์มเรียกหาผมเหรอ”
“อื้อฮือ” เธอเป่าลูกโป่งใหม่แล้วชี้นิ้วไปยังห้องทำงานของไพร์ม
ห้องของท่านผู้บัญชาการหน่วยอัศวินนั้นเหมือนพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อม พื้นปูด้วยหินดำขับเน้นเครื่องเรือนทองคำให้โดดเด่น เต็มไปด้วยของโชว์ราคาสูงแต่ดูว่างเปล่าไร้คุณค่า หน้าต่างบานกลมสูงใหญ่เผยเห็นทิวทัศน์เมืองจากระดับสูงสุดของแผ่นนคร อภิสิทธิ์ของชนชั้นหนึ่งในร้อย และแน่นอนว่าความทะเยอทะยานของไพร์มไม่ได้หยุดอยู่แค่นี้ เขาต้องการเป็นหนึ่งในร้อยในร้อย เป็นเทวดาผู้พำนักอยู่ในมหาหอคอยเบลลาส
ไพร์ม ผู้บัญชาการหน่วยอัศวินยืนอยู่กลางห้อง กำลังส่องกระจกเงาบานใหญ่ มือสวมแหวนเพชรแหวนทองครบทุกนิ้วกำลังแต่งปกชุดเครื่องแบบสีกรมท่าประดับตราเกียรติยศเต็มอก รูปร่างใหญ่ ภูมิฐาน ไว้เคราสีน้ำตาลเพลิงที่ตัดเล็มอย่างลงตัว หมวกเบเร่ต์บนผมบางมีตราอัศวินสีทองโดดเด่น
“เอ็งรู้ได้ไงวะว่าพวกโจรจะมาที่เมโทรลิส” ไพร์มกล่าวโดยไม่หันมองอิกนัสที่เดินเข้ามา
“ก็แค่โชคดีครับท่าน” อิกนัสตอบห้วน ด้วยขี้เกียจอธิบายให้ยืดยาวว่ามันมาจากการที่เขาคำนวณเส้นทางหนีทั้งหมดในเขตดาวน์ทาวน์ไว้ล่วงหน้าแล้ว จนคาดการณ์ได้ว่าหากโจรปล้นที่นี่และหนีไปในทิศทางนี้เพื่อลงสู่ใต้แผ่นนครจะมีปลายทางเพียงสาม ดังนั้นจะตอบว่าเขาโชคดีที่เลือกถูกก็ไม่ได้เกินจริงนัก
“โชคดีฟ้าวินาศเอ็งสิวะ” ไพร์มแค่นเสียง “เอาเถอะ ตราบใดที่เอ็งทำงานสำเร็จจะใช้วิธีห่าเหวอะไรกูก็ไม่สนใจหรอก”
“แต่รอบนี้มีความผิดพลาดครับท่าน สมบัติบางส่วนยังถูกโจรขโมยไปได้ด้วย” อิกนัสเลือกจะไม่รายงานเรื่องที่เขาถูกขัดขวางโดยโจรที่ใช้อุปกรณ์ของอัศวิน
“ใช่ และกูรู้ดีว่าเอ็งจะแก้ไข เอ็งเป็นคนรับผิดชอบเสมอนี่” ไพร์มหันกลับมาและย่นสีหน้าเมื่อเห็นการแต่งกายของอิกนัส “จะไปสืบคดีเหรอวะ”
อิกนัสพยักหน้า “ผมถึงจะแก้ไขด้วยการลงไปสืบคดีแครมปัสที่รังราตรีครับท่าน”
ไพร์มหัวเราะลั่น “เสียสติไปแล้วหรือเอ็ง แม้แต่พวกมือใหม่ยังรู้ว่าไม่คุ้มค่าที่จะไปเสี่ยงชีวิตในถิ่นฟ้าทิ้งข้างล่างนั่น” เขาหยิมกระดุมทองมาติดที่ข้อมือเสื้อ คงจะไปประชุมกับพวกเทวดาในเบลลาส “กูรู้ว่าเอ็งมันพวกสมบูรณ์แบบ ถ้าวิตกเรื่องแครมปัสนักก็ไปจัดการคดีอื่นเพื่อชดเชย ไอ้แก๊งโจรกระจอกนี่แม่งไม่ต้องเล่นด้วยกำลังหรอก กูมีวิธีถอนรากถอนโคนพวกมันแล้ว”
โจรพวกนี้ไม่ใช่พวกกระจอกอย่างที่ไพร์มกล่าวแน่ มันต้องมีแรงจูงใจสูงพอควร การที่พวกมันยอมสละชีวิตเพื่อถ่วงเวลาให้พวกหนีไปได้ พฤติกรรมแบบนี้มันเกินวิสัยโจรทั่วไป แน่นอนว่าอิกนัสขี้เกียจอธิบายสิ่งที่เขาวิเคราะห์ เพียงแค่ตอบสั้น ๆ ว่า
“ถือว่าขอเปลี่ยนบรรยากาศสักหน่อยครับท่าน ทำอะไรเสี่ยงตายเป็นครั้งคราวก็เพิ่มรสชาติชีวิตดี”
“ไอ้เพี้ยน” ผู้บัญชาการยิ้มเยาะ “ยังไงก็จะลงไปให้ได้สินะ อย่าเสือกรนหาเรื่องตายก็พอ เจ้าหน้าที่มีฝีมือนั้นหายาก กูไม่อยากปวดหัวกับการหาคนใหม่”
คำว่ารนหาเรื่องตายย่อมหมายความว่าอย่าไปยุ่งกับกิจการของไทริยะ ทรอย และเฮมเมอร์ ซึ่งอิกนัสก็ไม่ใช่คนโง่ดักดานที่ไม่รู้ว่าอะไรควรไม่ควร เจ็ดปีที่เขาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่อย่างรุ่งโรจน์ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ที่ดีพอแล้ว
“ท่านก็รู้จักผมดี ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงหรอกครับท่าน”
“งั้นก็ไสหัวไปให้พ้นได้”
ไพร์มกวักมือไล่ อิกนัสเอากำปั้นขวาทาบหัวใจเพื่อแสดงความเคารพ เตรียมตัวลงสู่รังราตรี แดนใต้แผ่นนคร ที่ซุกหัวของพวกจรจัดและอาชญากรชั้นต่ำ เขตอันตรายอันดับสองของแทรนโธสเหนือ