อยากเป็นคนสำคัญ.. แค่เพื่อนแล้วกัน เพราะฉันไม่มีเธอไม่ได้

จัสท์เฟรนด์ เพื่อนไม่ไหว! | JustFriend's Zone - บทที่ 1 หงุดหงิดไม่ไหว โดย Run_Kantheephop @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ดราม่า,ตลก,ชาย-ชาย,ยุคปัจจุบัน,BoyLove,JustFriend,ดราม่า,yaoi,BL,นิยายวาย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

จัสท์เฟรนด์ เพื่อนไม่ไหว! | JustFriend's Zone

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ดราม่า,ตลก,ชาย-ชาย,ยุคปัจจุบัน

แท็คที่เกี่ยวข้อง

BoyLove,JustFriend,ดราม่า,yaoi,BL,นิยายวาย

รายละเอียด

จัสท์เฟรนด์ เพื่อนไม่ไหว! | JustFriend's Zone โดย Run_Kantheephop @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

อยากเป็นคนสำคัญ.. แค่เพื่อนแล้วกัน เพราะฉันไม่มีเธอไม่ได้

ผู้แต่ง

Run_Kantheephop

เรื่องย่อ

-------------------- จัสท์เฟรนด์ เพื่อนไม่ไหว! ------------------

 

"ถ้าแอบรักแล้วเราบอกออกไป การแอบรักจะดูหมดความหมาย...

ฉันจึงเลือกทางที่สบายใจ เก็บความลับที่แท้จริงมันสวยงามเพียงใด..."

 

"แค่เพื่อนแล้วกัน.. เพราะฉันไม่มีเธอไม่ได้..."

Run Kantheephop

20210424.

สารบัญ

จัสท์เฟรนด์ เพื่อนไม่ไหว! | JustFriend's Zone-INTRO บทนำ,จัสท์เฟรนด์ เพื่อนไม่ไหว! | JustFriend's Zone-บทที่ 1 หงุดหงิดไม่ไหว,จัสท์เฟรนด์ เพื่อนไม่ไหว! | JustFriend's Zone-บทที่ 2 เคืองไม่ไหว,จัสท์เฟรนด์ เพื่อนไม่ไหว! | JustFriend's Zone-บทที่ 3 แค้นไม่ไหว,จัสท์เฟรนด์ เพื่อนไม่ไหว! | JustFriend's Zone-บทที่ 4 ตกใจไม่ไหว,จัสท์เฟรนด์ เพื่อนไม่ไหว! | JustFriend's Zone-บทที่ 5 รื้อฟื้นไม่ไหว,จัสท์เฟรนด์ เพื่อนไม่ไหว! | JustFriend's Zone-บทที่ 6 ไร้สาระไม่ไหว,จัสท์เฟรนด์ เพื่อนไม่ไหว! | JustFriend's Zone-บทที่ 7 ใจสั่นไม่ไหว,จัสท์เฟรนด์ เพื่อนไม่ไหว! | JustFriend's Zone-บทที่ 8 เฉลยไม่ไหว,จัสท์เฟรนด์ เพื่อนไม่ไหว! | JustFriend's Zone-บทที่ 9 รู้สึกไม่ไหว,จัสท์เฟรนด์ เพื่อนไม่ไหว! | JustFriend's Zone-บทที่ 10 จุดเปลี่ยนไม่ไหว,จัสท์เฟรนด์ เพื่อนไม่ไหว! | JustFriend's Zone-บทที่ 11 ย้อนความหลังไม่ไหว,จัสท์เฟรนด์ เพื่อนไม่ไหว! | JustFriend's Zone-บทที่ 12 คลี่คลายไม่ไหว,จัสท์เฟรนด์ เพื่อนไม่ไหว! | JustFriend's Zone-บทที่ 13 ดราม่าไม่ไหว,จัสท์เฟรนด์ เพื่อนไม่ไหว! | JustFriend's Zone-บทที่ 14 กระอักกระอ่วนไม่ไหว,จัสท์เฟรนด์ เพื่อนไม่ไหว! | JustFriend's Zone-บทที่ 15 แทบทนไม่ไหว,จัสท์เฟรนด์ เพื่อนไม่ไหว! | JustFriend's Zone-บทที่ 16 ธาตุแท้ไม่ไหว,จัสท์เฟรนด์ เพื่อนไม่ไหว! | JustFriend's Zone-บทที่ 17 ธาตแท้ไม่ไหว Part 2,จัสท์เฟรนด์ เพื่อนไม่ไหว! | JustFriend's Zone-บทที่ 18 เป็นเพื่อนไม่ไหว,จัสท์เฟรนด์ เพื่อนไม่ไหว! | JustFriend's Zone-บทที่ 19 เปิดตัวไม่ไหว,จัสท์เฟรนด์ เพื่อนไม่ไหว! | JustFriend's Zone-บทที่ 20 รักกันไม่ไหว,จัสท์เฟรนด์ เพื่อนไม่ไหว! | JustFriend's Zone-ตอนพิเศษ 1 ความลับที่เชียงใหม่,จัสท์เฟรนด์ เพื่อนไม่ไหว! | JustFriend's Zone-ตอนพิเศษ 2 ครบรอบ 10 ปี

เนื้อหา

บทที่ 1 หงุดหงิดไม่ไหว

ติ๊ด!

 

เสียงกดบันทึกวิดีโอจากกล้องตัวโปรดที่เฟรนด์ซื้อมาตั้งแต่เริ่มเปิดช่องยูทูปดังขึ้นหลังเรียวนิ้วยาวกดลงไป

 

“สวัสดีคร้าบบบ~ กลับมาเจอกันอีกแล้วนะครับกับช่อง With your friend พบกับเฟรนด์ได้แบบนี้เป็นประจำ ใครที่กำลังเหงา หรือกำลังหาคนทำงานเป็นเพื่อน วันนี้เฟรนด์พร้อมจะอยู่เป็นเพื่อนทุกคนแล้วคร้าบบบ”

 

เสียงเจื้อยแจ้วพร้อมใบหน้าหล่อคมผสมความน่ารักเอ่ยพูดเปิดรายการเป็นสคริปท์เดิมๆ แบบนี้ทุกคลิปก่อนจะเข้าสู่กิจกรรมประจำช่องของเฟรนด์ที่ทำให้เขามีผู้ติดตามมากขึ้นเรื่อยๆ จนติดอันดับเป็นยูทูปเบอร์ที่มีผู้ติดตามมากเป็นอันดับต้นๆ ของไทย นั่นก็คือการที่เขาจะนั่งวาดรูปไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเสร็จนั่นเอง

 

คล้ายๆ กับคลิป ASMR อีกรูปแบบหนึ่ง

 

เพราะเขามักจะวาดรูปด้วยดินสอและระบายสีด้วยสีไม้ระบายน้ำในบรรยากาศที่เงียบสงบ โดยเปิดดนตรีบรรเลงเบาๆ หรือบางครั้งก็เปิดทีวีเพื่อฟังเสียงคลอเบาๆ ไปด้วย นอกจากนี้ยังมีเสียงลมจากธรรมชาติ เสียงดินสอที่ถูกฝนลงบนกระดาษ เสียงยางลบเวลาทำความสะอาดกระดาษที่ถูกวาดรูปผิดพลาด เสียงน้ำในแก้วที่ใช้สำหรับล้างพู่กัน รวมไปถึงเสียงการเคลื่อนไหวร่างกายของเขาเอง ทุกเสียงล้วนแล้วแต่เป็นเสียงที่เกิดขึ้นจริงในขณะนั้นทั้งสิ้น

 

เสียงเหล่านี้เป็นเสียงที่ทำให้กลุ่มคนบางส่วนชื่นชอบ เพราะมันทำให้เกิดสมาธิเวลาได้ฟัง

 

และนี่จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เฟรนด์ตัดสินใจย้ายออกจากเมืองหลวงที่วุ่นวายอย่างกรุงเทพฯ กลับมาอยู่บ้านเดิมของพ่อกับแม่ที่ต่างจังหวัด

 

อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี

 

ที่เขาตัดสินใจกลับมาอยู่ที่นี่เพราะมันเป็นเพียงที่เดียวที่จะสามารถหลีกหนีความวุ่นวายและเสียงรบกวนในการทำคลิปลงยูทูปของเขาได้ เพราะมันเป็นตึกแถวเก่าๆ ที่เขาเคยอยู่มาตั้งแต่เกิด เพียงแต่ตอนนี้ทุกครอบครัวที่เคยอาศัยที่นี่ย้ายออกไปอยู่ที่อื่นกันหมด สิ่งแวดล้อมแบบนี้จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เฟรนด์ตัดสินใจย้ายกลับมาอยู่ที่นี่ แม้จะเป็นบ้านเพียงหลังเดียวในตึกนี้ที่มีคนอยู่ก็ตาม

 

เพราะห้องข้างๆ ที่เหลือต่างติดป้ายประกาศขายทั้งหมด

 

เฟรนด์พูดเปิดรายการจนครบ ก็ลุกไปกดปุ่มที่กล้องเพื่อหยุดถ่าย ก่อนจะถอยไปหยิบอุปกรณ์วาดภาพ ทั้งกระดาษ ดินสอ สีไม้ พู่กัน และสิ่งที่จำเป็นสำหรับวาดภาพมาวางไว้ในเซ็ตติ้งที่เขาได้จัดเตรียมเอาไว้เพื่อถ่ายทำ

 

เขากดปุ่มที่กล้องอีกครั้งเพื่อเริ่มถ่ายทำ จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปนั่งในฉากที่เซ็ตไว้แล้วปล่อยให้กล้องบันทึกภาพไปแบบนั้น ส่วนเขาก็เริ่มหยิบดินสอขึ้นมาเริ่มวาดรูปทันที

 

เสียงก๊อกแก๊กจากการวาดรูปดังประกอบอยู่เป็นระยะ ใบไม้จากต้นไม้ในสวนละแวกตึกลู่ลมดังแว่วผ่านเข้ามาทางหน้าต่างที่เฟรนด์เปิดทิ้งเอาไว้ เป็นเสียงประกอบจากธรรมชาติที่เป็นเอกลักษณ์ประจำช่องยูทูปของเฟรนด์ที่มักจะถูกพูดถึงอยู่เสมอ

 

เฟรนด์ยังคงค่อยๆ ร่างเส้นจากดินสอด้วยความใจเย็น จังหวะการหายใจเนิบช้าเนื่องมาจากสมาธิที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่เขามักจะชอบวาดวิวที่สามารถมองออกไปจากหน้าต่างของห้องทำงานของเขา เพราะในแต่ละวันท้องฟ้าก็จะเปลี่ยนไปอยู่เสมอ

 

ไม่เคยซ้ำกันเลยสักวัน..

 

อีกทั้งต้นไม้ใบหญ้าต่างๆ ก็ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปตามวงจรชีวิตของมัน ตอนนี้เป็นสีเขียวแต่ผ่านไปเพียงไม่กี่วันก็อาจจะเปลี่ยนไปเป็นสีอื่นได้

 

ทำให้เขาชอบที่จะวาดภาพวิวเหล่านี้ โดยที่ไม่เคยเบื่อเลยสักครั้ง

 

ความเพลิดเพลินที่เกิดขึ้นขับอารมณ์ของเฟรนด์ให้มีความสุขได้เหมือนกันกับทุกครั้งที่เขาถ่ายคลิป

 

ปัง!!

 

เฟรนด์สะดุ้งตัวโยนเมื่อเกิดเสียงดังขึ้นแบบกะทันหัน เขาหันมองตามไปยังทิศทางที่เกิดเสียง เขานิ่งคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะหันกลับมาโฟกัสที่กระดานวาดรูปต่อ

 

ขณะที่เขากำลังจะจรดปลายดินสอลงบนกระดาษเพื่อวาดรูปต่อนั้น ก็เกิดเสียงดังจนทำให้เขาต้องหยุดชะงักอีกครั้ง

 

โครม!!!

 

“อะไรวะ! ” เฟรนด์อุทานออกมาด้วยความหงุดหงิด เขาวางดินสอลงก่อนจะลุกเดินไปที่กล้องเพื่อกดหยุดถ่าย

 

แกรกกกก!!!

 

ครืดดดด!!!

 

โป้งๆๆ !!

 

เสียงสิ่งของกระทบพื้น เสียงลาก และเสียงเคาะวัตถุดังลั่นจนทำให้เฟรนด์ต้องหัวเสียอย่างต่อเนื่อง ใบหน้ายู่ยับเพราะรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น เขาเอามือคว้าโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะมาดูเวลา

 

09:30 น.

 

“โอ๊ยยยยย!! นี่มันวันอาทิตย์นะโว้ยยย! ” เสียงแข็งร้องตะโกนออกมาด้วยความรำคาญพร้อมสองมือบางที่ยกขึ้นมาขยี้หัวแรง

 

เฟรนด์เดินไปทิ้งตัวลงนอนที่โซฟาใกล้ๆ แล้วคว้ามือไปหยิบเอาหมอนอิงที่วางอยู่ข้างๆ มาอุดหูเอาไว้หวังจะให้มันช่วยป้องกันเสียงดังที่เกิดขึ้นมาได้บ้าง

 

แต่ก็หาได้ช่วยไม่…

 

เสียงก่อสร้างยังคงดังต่อเนื่อง ทำเอาความอดทนของเขาค่อยๆ หมดลง แล้วเต็มไปด้วยความหงุดหงิดขึ้นมาแทนที่ เขาผุดลุกขึ้นนั่ง แววตาฉายความโกรธปะทุออกมาราวกับไฟกำลังลุกไหม้อยู่ คิ้วทั้งสองขมวดปมเข้าหากัน เขาขบกัดฟันแน่นจนสันกรามโหนกนูน ฝ่ามือทั้งสองกำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน

 

“ทนไม่ไหวแล้วนะโว้ยยยยย!! ”

 

เฟรนด์รีบผุดลุกออกจากเตียงแล้วเดินตึงตังลงไปที่ชั้นล่าง ด้วยชุดอยู่บ้านกางเกงขายาวลายสก๊อตสีเข้มกับเสื้อยืดตัวย้วยสีขาว และรองเท้าใส่ในบ้านสีครีม เสียงตึงตังของจังหวะย่ำเท้าดังเรื่อยมาจนกระทั่งเขามาหยุดยืนอยู่บริเวณประตูบ้าน

 

“เอ๊ะ! มีคนย้ายมาอยู่ใหม่ละเหรอ”

 

เขาพูดออกมาด้วยความสงสัย หลังจากที่เขาชะโงกหน้ามองออกไปก็เห็นรถกระบะที่บรรทุกอุปกรณ์ก่อสร้างจอดอยู่หน้าบ้านหลังที่อยู่ข้างๆ แต่อุปกรณ์บางส่วนนั้นก็วางเลยมายังบริเวณหน้าบ้านของเฟรนด์ด้วยเช่นกัน

 

ด้วยความที่เป็นบ้านตึกแถวพื้นที่บริเวณหน้าบ้านจึงมีจำกัด เขาเองก็เข้าใจได้ ก็ไม่ได้โกรธอะไรนักหรอกเรื่องนั้นอ่ะ แต่สิ่งที่ไม่พอใจก็คือ ทำไมถึงต้องมารบกวนเวลาทำงานอันมีค่าของเขา อุตส่าห์ตั้งใจตื่นมาถ่ายคลิปตั้งแต่เช้า เสียอารมณ์หมด

 

เฟรนด์เปิดประตูอย่างกระแทกกระทั้นแล้วเดินออกไปยืนมองบ้านหลังข้างๆ ด้วยสีหน้าไม่พอใจ

 

“โอ๊ยยยยย ทำไมเสียงดังกันจัง นี่มันวันอาทิตย์นะโว้ยยยยยยย”

 

ช่างก่อสร้างหลายคนหันมาเห็นก็อดที่จะตกใจไม่ได้ เพราะสีหน้ายุ่งๆ พร้อมฟาดอารมณ์ใส่ทุกคนที่เข้ามาแหยมนั้นมันชัดเจนเกินกว่าที่พวกเขาจะต่อกรด้วย

 

“ขะ..ขอโทษครับ” หนึ่งในช่างก่อสร้างตอบกลับด้วยน้ำเสียงกล้าๆ กลัวๆ

 

“รู้มั้ยว่ามันรบกวนคนอื่นขนาดไหนอ่ะ!!! ”

 

“ขอโทษด้วยครับ”

 

“นี่มันเวลาทำงานของผมนะ รบกวนจนเสียสมาธิไปหมดแล้วเนี่ย!!!! ” เฟรนด์ยังคงพ่นฝีปากไฟลุกจนลิ้นแทบติดไฟด้วยอารมณ์โกรธ

 

“...”

 

ช่างก่อสร้างตรงนั้นหยุดทำงานกันทันทีแล้วยืนมองนิ่ง

 

“จะต้องมีเรื่องให้หงุดหงิดแต่เช้าเลยใช่มั้ย ห้ะ!! คนกำลังอารมณ์ดีอยู่แท้ๆ”

 

เฟรนด์ยังบ่นอุบไม่หยุดก่อนจะเพิ่งสังเกตเห็นสีหน้าของฝ่ายตรงข้ามที่ยืนจ้องมาด้วยสายตาอิหยังวะ จึงทำให้เขาได้สติขึ้นมาบ้าง

 

“แล้วพี่จะทำกันถึงกี่โมงอ่ะ” เฟรนด์หน้ายุ่งเอ่ยถามกลับ

 

“ปกติก็ห้าโมงเย็นครับ”

 

“ห้ะ!! 5 โมงเย็น”

 

“ใช่ครับ”

 

“โห.. แล้วผมจะทำงานได้ไงเนี่ย” น้ำเสียงของเฟรนด์เริ่มแสดงออกมาให้เห็นอีกครั้งว่าไม่พอใจหนักมาก เขาเท้าสะเอวแล้วมองจ้องด้วยความหงุดหงิด

 

“เอ่อ..” ช่างก่อสร้างคนนั้นอึกอักเหมือนมีอะไรจะพูด

 

“มีอะไรกันหรือเปล่าครับ”

 

เสียงทุ้มดังมาจากด้านในของบ้านหลังนั้น ก่อนจะปรากฏร่างสูงที่ค่อยๆ เดินออกมา รูปร่างที่คุ้นตาค่อยๆ ฉายชัดขึ้น เรียกความทรงจำบางอย่างที่เฟรนด์คุ้นเคยให้กลับมา เริ่มแรกเขาเองก็ยังไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่นัก แต่เมื่อแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ฉายกระทบเข้ากับใบหน้าของร่างสูง ใจของเขาก็กระตุกวูบสั่นไหวทันทีที่ได้เห็น

 

ชายหนุ่มที่กำลังก้าวเดินออกมานั้น เป็นบุคคลเดียวกันกับเด็กนักเรียนชายที่อยู่ในรูปบนโต๊ะทำงานของเฟรนด์

 

จัสท์…

 

เฟรนด์นึกชื่อนั้นขึ้นมาเพียงในใจ

 

ภาพความทรงจำสมัยมัธยมแทรกเข้ามาในหัวของเขา เพื่อย้ำเตือนว่าครั้งหนึ่งเขาเคยชื่นชอบจัสท์มากแค่ไหน ซึ่งนั่นก็แอบทำให้หัวใจของเขาที่ปิดตายมานานกระตุกวูบอีกครั้ง

 

แต่ก็ไม่ทันที่เขาจะได้ไหวหวั่นเกินไปนัก ภาพความทรงจำครั้งที่เขานั่งร้องไห้ฟูมฟายคนเดียวก็โผล่ขึ้นมาฉายทับดับภาพก่อนหน้าไปจนหมดสิ้น สิ่งนั้นเรียกคืนสติเขากลับมาอยู่กับตัวได้เป็นอย่างดี มันเป็นคืนที่เขานั่งเสียใจจนจะเป็นจะตาย น้ำตาไหลทั้งคืนเพียงเพราะการกระทำบางอย่างของจัสท์ที่ทำร้ายจิตใจของเขามากเสียจนเขาเองก็หมดความอดทน จนเผลอทำสิ่งที่ทำร้ายจิตใจของจัสท์กลับไปเหมือนกัน

 

“คุณครับ” เสียงทุ้มเอ่ยเรียกเฟรนด์อีกครั้ง

 

“คะ..ครับ” เฟรนด์สะดุ้งเบาๆ เมื่อได้สติ

 

“มีอะไรหรือเปล่าครับ”

 

“คือเสียงมันดังรบกวนผมอ่ะครับ” เฟรนด์ยืนเท้าสะเอวแล้วพูดเสียงแข็ง

 

“ขอโทษด้วยนะครับ” จัสท์เอ่ยด้วยเสียงนุ่ม

 

“แล้ว?” เฟรนด์เชิดหน้าสู้ราวกับจะหาเรื่อง

 

“ครับ?”

 

“แล้วจะแก้ไขยังไงครับ ในเมื่อการก่อสร้างในบ้านคุณมันรบกวนการทำงานของผม”

 

“...”

 

“เอ้า! คุณ ผมถามก็ตอบสิครับ ไม่ใช่มาเงียบใส่”

 

“แต่.. บ้านผมกำลังตกแต่งภายใน ถ้าจะไม่ให้เกิดเสียงเลยก็ออกจะยากไปสักหน่อยนะครับ” คนตัวสูงเอ่ยตอบพลางขำออกมาเบาๆ นั่นยิ่งทำให้คนตัวเล็กตรงหน้าออกอาการหัวเสียมากขึ้นกว่าเดิม

 

“นี่คุณกวนตีนผมหรอ! ”

 

“เปล่านะครับ” จัสท์อมยิ้ม

 

“คุณจะบอกว่าผมคิดไปเองหรอ!!!! ”

 

“ผมยังไม่ได้พูดอะไรเลยนะ”

 

“หึ้ยยยยยย!!! ” เฟรนด์กำหมัดแน่นเพราะอยากจะทุบอีกฝ่ายเสียแทบขาดใจแต่ก็จะดูเสียมารยาทไปสักหน่อยสำหรับการเจอกันในครั้งแรก

 

หมายถึงเจอกันครั้งแรกในวัยผู้ใหญ่ที่สถานะคือคนแปลกหน้าที่เพิ่งเคยเจอกันอ่ะนะ

 

เขาก็เลยทำได้เพียงแค่แสดงความหงุดหงิดหัวเสียออกมาเพียงเท่านั้น

 

“ใจเย็นๆ ก่อนสิคุณ” จัสท์เอ่ยขึ้น

 

เฟรนด์เหล่มองตาขวาง

 

“คุณลองคิดถึงหลักความเป็นจริงหน่อย ว่าสิ่งที่ผมพูดมันถูกต้องหรือเปล่า” คนตัวสูงพูดเสริม

 

“...” เฟรนด์นิ่งไป พยายามคิดตามซึ่งเอาจริงๆ แล้วมันก็เป็นไปตามที่อีกฝ่ายพูดนั่นแหละ ว่าการก่อสร้างจะไม่ให้มีเสียงได้ยังไง แต่ก็ไม่อยากเสียหน้าไง เผลอหัวร้อนใส่ไปแล้ว ก็ต้องไปให้สุด

 

คนอย่างไอ้เฟรนด์มันแพ้ไม่ได้ว้อยยยยยยย!!!

 

เข้าตำราที่ว่าเสียเงินไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้!!

 

“เถียงไม่ออกสินะคุณ” จัสท์ยืนกอดอกพลางตอกกลับบ้าง

 

“หึ! คิดไปเองหรือเปล่า”

 

“ก็เห็นอยู่ว่าคุณเงียบไปอ่ะ”

 

“มันก็ต้องใช้เวลาคิดหน่อยป้ะ” เฟรนด์พยายามเหล่มองอีกฝ่ายด้วยท่าทีนิ่งเฉย แม้ภายในใจจะปะทุจนแทบเผาไหม้ด้วยความหงุดหงิด

 

หงุดหงิดตรงที่มันเอาแต่เก๊กหน้าหล่อเหมือนเมื่อก่อนนี่แหละ

 

ตอนนั้นชอบมันไปได้ยังไงวะ..

 

นึกแล้วก็ขนลุก

 

“ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เข้าใจหรอกนะ” เฟรนด์พยายามรักษามารยาทไว้ เพราะอย่างน้อยการผูกมิตรไว้กับเพื่อนบ้านคนใหม่ก็ยังดีกว่าเป็นศัตรูกันนี่นา

 

“ผมขอรบกวนแค่สองอาทิตย์เท่านั้นแหละครับ”

 

“ก็นานอยู่นะครับ” เฟรนด์พูดพลางหัวเราะบางๆ

 

จัสท์เองก็ไม่ได้ตอบอะไรเพียงแต่ยิ้มแหยๆ ออกมาเท่านั้น

 

“ยังไงผมจะให้ช่างเร่งมือแล้วกันนะครับ จะได้ไม่ต้องรบกวนคุณมากเกินไป” จัสท์เน้นคำว่ารบกวนด้วยเสียงที่ชัดถ้อยชัดคำจนเฟรนด์ที่ได้ยินเกิดอาการหน้ากระตุกขึ้นมาเล็กน้อย

 

“มันก็เป็นเหตุสุดวิสัยอ่ะเนอะ ผมจะไปโมโหคุณมันก็ดูไม่เข้าท่าสักเท่าไหร่” เฟรนด์กอดอกพร้อมฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์

 

“...”

 

“แต่ผมก็อยากบอกคุณไว้หน่อยนะครับว่างานของผมมันต้องใช้ความเงียบ เพราะฉะนั้นการก่อสร้างของคุณมันอาจจะกระทบงานของผมน่ะครับ” เฟรนด์พูดด้วยน้ำเสียงนิ่ง

 

“ยังไงก็ต้องขอโทษด้วยจริงๆ นะครับ” จัสท์พยายามกล่าวขอโทษด้วยความเกรงใจ แต่การก่อสร้างหากไม่ให้มันเกิดเสียงเลยก็คงจะเป็นไปไม่ได้ แม้ว่าเขาจะเริ่มรู้สึกหมั่นไส้คนตัวเล็กนี่อยู่หน่อยๆ แต่ก็ไม่อยากจะมีเรื่องสักเท่าไหร่ เพราะหากว่าการรีโนเวทภายในเสร็จสิ้น เขาคงต้องย้ายมาอยู่ข้างๆ กับคนปากแจ๋วนี่ไปอีกนาน

 

“ช่างมันเถอะ ผมจะพยายามจัดการตัวเองดูก่อนละกันครับ” เฟรนด์พูดจบก็จะหันหลังเดินกลับเข้าบ้านของตัวเอง แต่เสียงของอีกฝ่ายก็เอ่ยขึ้นดังรั้งเขาเอาไว้ก่อน

 

“ว่าแต่..”

 

เฟรนด์ได้ยินเสียงอีกฝ่ายก็หยุดชะงักแล้วหันมามอง

 

“อะไร?”

 

“หน้าคุณคุ้นๆ นะครับ” จัสท์เอ่ยพลางขยับเดินเข้ามาใกล้

 

เฟรนด์แอบตกใจเล็กน้อย เพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะจำตัวเองได้

 

“ใช่คนที่วาดรูปในยูทูปหรือเปล่าครับ”

 

เฟรนด์งงไปพักหนึ่งหลังจากได้ยินคำถาม เพราะสิ่งที่ได้ยินผิดไปจากที่คาดไว้

 

“คุณ..” คนตัวสูงเอ่ยเรียกอีกครั้ง

 

“อะ..อ่อ ใช่ รู้จักผมด้วยหรอ”

 

“เคยเห็นผ่านๆ น่ะครับ พี่สาวผมชอบดู”

 

“อ่อครับ ฝากขอบคุณพี่สาวที่ติดตามด้วยนะครับ” เฟรนด์ตอบแล้วหันหลังเพื่อจะเดินกลับเข้าบ้าน

 

“ตัวจริงไม่เห็นเหมือนในคลิปเลยนะครับ” จัสท์พูดต่อ

 

ร่างเล็กชะงักอีกครั้งพร้อมหันมามองอีกฝ่ายด้วยสายตาฉงน คิ้วทั้งสองขมวดเข้าหากันจนผูกกันเป็นปม

 

“เมื่อกี๊คุณว่าไงนะ”

 

“ผมบอกว่าตัวจริงคุณไม่เห็นเหมือนในคลิปเลยนะครับ” จัสท์ย้ำด้วยสีหน้ากวน

 

“แล้วมันยังไง”

 

“ก็ในคลิปดูใจเย็น นั่งวาดรูปนิ่งๆ ได้เป็นชั่วโมงๆ แต่ตัวจริง...” จัสท์เว้นวรรคไปแล้วยิ้มกริ่ม

 

“ทำไม!” เสียงคนตัวเล็กตะคอกขึ้น ทำเอาอีกฝ่ายยิ่งอยากจะหัวเราะออกมา

 

“ปากแจ๋วกว่าในคลิปอีกนะครับ ฮ่าๆๆ” จัสท์ระเบิดหัวเราะออกมาเสียงดัง

 

“นี่คุณ!!!!”

 

“ใจเย็นๆ สิคุณ”

 

“ทำไมห้ะ! ผมปากแจ๋วแล้วจะทำไม” เฟรนด์ยืนเท้าสะเอวเชิดหน้าเถียง

 

“ก็ไม่ทำไมนะ แค่แปลกใจที่ตัวจริงกับในคลิปมันต่างกันขนาดนี้เลยเหรอ”

 

“ผมจะเป็นยังไงมันก็เรื่องของผม!”

 

“แสดงว่าคุณก็หลอกลวงผู้บริโภคงั้นดิ”

 

“นี่คุณ ในยูทูปมันก็แค่คอนเทนต์ป้ะ ไม่ใช่ตัวตนจริงของผมสักหน่อย”

 

“เอ้า! งี้ก็แปลว่าสร้างภาพ?”

 

“มันจะมากไปละนะ” เฟรนด์จ้องคนตัวสูงตาแข็งด้วยความโมโหก่อนจะเดินเข้ามาใกล้

 

“ก็ผมพูดตามความจริง” จัสท์ยังคงต่อความยาวสาวความยืดด้วยใบหน้ากวน

 

“แต่ไม่พูดก็ไม่มีใครว่าคุณเป็นใบ้หรอกนะ!”

 

“ก็ตัวจริงคุณมันปากแจ๋วจริงๆ นี่นา” จัสท์เอ่ยพร้อมหลี่ตามองด้วยความเจ้าเล่ห์

 

“หึ! แค่นี้ยังน้อยไปนะ ผมน่ะปากแจ๋วได้มากกว่าที่คุณคิดอีก!”

-------------------------------------------------------------------------------

ฝาก #จฟเพื่อนไม่ไหว ด้วยนะค้าบบบบบ พูดคุยเกี่ยวกับนิยายอย่าลืมติดแท้กด้วยนะค้าบ