เพราะรัก เธอจึงยอมเปลี่ยนแปลงตัวเองในแบบที่เขาชอบเพื่อให้อยู่ในสายตาของเขา กับเขา 'คนที่ไม่สมควรเป็นพระเอกในชีวิตของใคร' เมื่อ"จอมขวัญ" คือคนที่เขาทั้งรักและเกลียด เหตุเกิดจากการเข้าใจผิดในวันนั้น!

นวนิยายเรื่องนี้ไม่มีพระเอก - ๐๑ ปัจจุบัน โดย ว.วโรตมะ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,yaoi,วาย,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

นวนิยายเรื่องนี้ไม่มีพระเอก

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

yaoi,วาย,ดราม่า

รายละเอียด

นวนิยายเรื่องนี้ไม่มีพระเอก โดย ว.วโรตมะ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เพราะรัก เธอจึงยอมเปลี่ยนแปลงตัวเองในแบบที่เขาชอบเพื่อให้อยู่ในสายตาของเขา กับเขา 'คนที่ไม่สมควรเป็นพระเอกในชีวิตของใคร' เมื่อ"จอมขวัญ" คือคนที่เขาทั้งรักและเกลียด เหตุเกิดจากการเข้าใจผิดในวันนั้น!

ผู้แต่ง

ว.วโรตมะ

เรื่องย่อ


"นวนิยายเรื่องนี้ไม่มีพระเอก"

ว.วโรตมะ

นวนิยายบางเรื่องก็สร้างขึ้นมาจากเรื่องจริงของชีวิต และชีวิตของเขาคนนี้ก็เปรียบได้ดังนวนิยาย ทว่านิยายเล่มนี้ของเขากลับไม่มีใครที่คู่ควรในตำแหน่ง 'พระเอก' เพราะบางทีการที่นวนิยายไม่มีพระเอกนั้น ก็อาจจะมีตอนจบที่สวยงามมากกว่าการที่มีพระเอกเสียด้วยซ้ำ

ชีวิตของ"จอมขวัญ"ได้เปลี่ยนไปราวฟ้ากับเหว เมื่อเขาเป็นคนเลือกเองที่จะเอาชีวิตเข้าไปพัวพันกับคนอย่าง"พลทัพ" ทั้งที่รู้ทั้งรู้ว่าเขาเกลียดคนประเภทนี้ แต่เขากลับทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้หัวใจของเขา ผลสุดท้ายก็คือได้หัวใจที่บอบช้ำกลับมาทั้งน้ำตา มิหนำซ้ำเขายังทิ้งเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาฝากไว้ในท้อง ถูกทอดทิ้งอย่างไร้ความใยดี เขาต้องหอบลูกหนีหัวซุกหัวซุน ก็ไม่วาย พลทัพยังตามมาอาฆาตแค้น เพราะความเข้าใจผิด คิดว่าจอมขวัญคือฆาตกรคนนั้นที่ทำลายชีวิตของ"เพียงขวัญ" ผู้หญิงที่พลทัพรักที่สุด หากไม่ตายไปกันคนละข้าง ความพยาบาทนี้ก็คงไม่จบลง

"พี่รักเพียงขวัญนะ พี่สัญญา พี่จะตามล่าตัวไอ้ฆาตกรคนนั้นมาชดใช้ในสิ่งที่มันทำกับเพียงขวัญให้ได้!"

"จอมขวัญไม่ได้ทำนะคะ พี่ทัพให้โอกาสจอมขวัญได้อธิบายเถอะนะคะ"

"อย่ามาตอแหล! กูรู้สันดานมึงดี กูตามหาตัวมึงมาตั้งนาน ที่แท้มึงก็อยู่ใกล้ตัวกูนี่เอง อีจอมขวัญ อีนังแพศยา! อีกะเทย! ลงไปชดใช้กรรมในนรกซะเถอะมึง"

*****

"คุณกลับมาทำไม?"

"จอมขวัญ นั่นลูกของพี่ใช่ไหม ตอบพี่มาสิ ว่าเขาเป็นสายเลือดของพี่"

"ใครครับจอมขวัญ ผมชื่อจอมเฉย ๆ คนที่ชื่อจอมขวัญตายไปตั้งแต่วันที่คุณผลักเขาตกเหวไปแล้ว และอีกอย่าง เด็กคนนี้เขาไม่ใช่ลูกคนสูงส่งอย่างคุณหรอกครับ เขาเป็นลูกไอ้ฆาตกรที่คุณเคยกล่าวหาไงครับ ลืมแล้วหรือไง"

"ไม่เอาน่า ขอโอกาสพี่ได้ชดใช้ในสิ่งที่พี่ทำผิดพลาดไปได้ไหม ให้โอกาสพี่ได้แก้ตัวเถอะนะ"

"พอเถอะครับ คำอ้อนวอนของคุณในวันนี้มันไม่มีประโยชน์อะไรหรอกครับ กลับไปซะเถอะ คนอย่างคุณไม่ควรมาแปดเปื้อนกับคนชั้นต่ำแบบพวกเรา"

"ให้โอกาสพี่ได้ทำหน้าที่พ่อสักครั้งเถอะนะ"

"ความเป็นพ่อของคุณมันหมดไปตั้งแต่วันแรกที่คุณไล่ผมไปเอาเขาออกแล้วล่ะครับ"

*****
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.๒๕๓๗และฉบับที่แก้ไขเพิ่มเติม


สารบัญ

นวนิยายเรื่องนี้ไม่มีพระเอก-๐๐ ข้อตกลงก่อนอ่าน,นวนิยายเรื่องนี้ไม่มีพระเอก-๐๐ บทนำ,นวนิยายเรื่องนี้ไม่มีพระเอก-๐๑ ปัจจุบัน

เนื้อหา

๐๑ ปัจจุบัน

แสงแดดยามเช้ากำลังจับต้องปลายขอบฟ้า ร่างสูงสง่าของพลทัพ ศักดิ์ศิริก้าวลงจากรถยนต์หรูสีดำเงาวับ ชายหนุ่มในชุดสูทสีเทาเข้มเนี๊ยบทุกกระเบียดนิ้วสะท้อนภาพลักษณ์ของผู้บริหารสูงสุดแห่ง ศักดิ์ศิริ กรุ๊ป บริษัทนำเข้าอะไหล่ยานยนต์ระดับประเทศ ใบหน้าคมคายของเขาเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นที่ผสานความเฉยชาของผู้ชายที่ดูเหมือนเข้าถึงยากคนหนึ่ง


พนักงานที่ผ่านไปมาต่างหยุดยืนพร้อมพนมมือไหว้พลทัพอย่างสุภาพ บางคนถึงกับยกยิ้มด้วยความเกรงใจ แต่ไม่มีใครกล้าพูดคุยหรือหยอกล้อเหมือนเพื่อนร่วมงานทั่วไป เพราะทุกคนรู้ว่าพลทัพเป็นคนเจ้าระเบียบ ตรงต่อเวลา และมักจะคาดหวังความสมบูรณ์แบบจากลูกน้องอยู่เสมอ


พลทัพเดินตรงเข้าไปในอาคารสำนักงานใหญ่ กระเป๋าเอกสารในมือข้างหนึ่งถูกจับไว้มั่น เสียงรองเท้าหนังของเขากระทบพื้นหินอ่อนดังก้อง ดูผ่าเผยสมฐานะผู้บริหารระดับสูง และทายาทเพียงหนึ่งเดียวของเศรษฐีระดับประเทศ


บนชั้นสูงสุดของอาคาร น้ำขิง เลขาสาววัยยี่สามสิบสองปีที่ใครต่อใครในบริษัทต่างรู้จักกันดี กำลังจัดแฟ้มเอกสารอยู่บนโต๊ะทำงานที่ตั้งอยู่ในห้องติดกับห้องทำงานส่วนตัวของพลทัพ


น้ำขิงเป็นหญิงสาวที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ เธอมีใบหน้าคมสวยและรูปร่างสูงโปร่งที่มักจะดึงดูดสายตาของคนรอบข้าง เธออยู่ในตำแหน่งเลขาส่วนตัวของพลทัพมาเกือบห้าปีแล้ว และถือเป็นคนที่ใกล้ชิดกับเขามากที่สุดในบริษัท


แม้ว่าหลายคนจะชื่นชมในความสามารถและท่าทางสง่างามของเธอ แต่เบื้องหลังรอยยิ้มหวานนั้นกลับซ่อนความทะเยอทะยานไว้ลึก ๆ น้ำขิงไม่ได้เพียงชื่นชมในตัวพลทัพในฐานะเจ้านาย แต่เธอยังหวังที่จะได้ครอบครองหัวใจของเขาด้วย


ตั้งแต่เพียงขวัญ ภรรยาผู้ล่วงลับของพลทัพจากไป น้ำขิงก็รู้สึกว่าประตูโอกาสถึงกำหนดการเปิดกว้างสำหรับเธอแล้ว แต่ไม่ทันที่เธอจะได้เริ่มก้าวไปตามความต้องการของใจ จอมขวัญก็พลันปรากฏตัวขึ้นมาแทรกตัดหน้า หญิงสาวที่คล้ายคลึงกับเพียงขวัญไปเสียหมดอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งชื่อ ใบหน้า และนิสัยใจคอ ทำให้น้ำขิงไม่ถูกชะตากับเธอคนนี้เท่าใดนัก


เช้านี้ พลทัพเดินเข้าห้องทำงานพร้อมท่าทีสงบนิ่ง น้ำขิงรีบยิ้มให้พลางยื่นกาแฟแก้วโปรดที่เธอชงเตรียมไว้ให้แก่เขา


“กาแฟนะคะ ท่านประธาน” น้ำขิงกล่าวพร้อมยื่นแก้วเซรามิกสีขาวให้ชายหนุ่ม


พลทัพรับแก้วกาแฟมาก่อนเอ่ยขอบคุณสั้น ๆ “ขอบใจ”


น้ำขิงสังเกตเห็นบางสิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกโล่งใจเล็กน้อยในเช้านี้ “วันนี้คุณจอมขวัญไม่มาด้วยเหรอคะ” น้ำขิงถามด้วยน้ำเสียงใสซื่อ แต่แฝงด้วยความสาระแน


พลทัพพยักหน้า “ใช่ วันนี้เธอไม่มีธุระ เลยอยู่บ้าน”


คำตอบของเขาทำให้ดวงตาของน้ำขิงเป็นประกายฉายเฉิด เธอรู้ว่านี่เป็นวโรกาสอันดีที่จะได้ใกล้ชิดพลทัพมากขึ้น เมื่อไม่มีมารผจญมาขัดลาภ


ขณะที่พลทัพกำลังอ่านเอกสารในห้องทำงานส่วนตัวของเขาอยู่นั้น เลขาน้ำขิงยกแฟ้มข้อมูลอีกชุดมาให้ พร้อมกับหยิบยื่นคำแนะนำที่ดูเหมือนใสใจอีกฝ่ายจนเกินเจ้านายกับลูกน้อง


“ท่านประธานคะ ถ้าไม่รังเกียจ น้ำขิงขอเสนอว่าเย็นนี้เราน่าจะไปดูสถานที่จัดงานเลี้ยงฉลองครบรอบบริษัทด้วยกันดีไหมคะ” น้ำขิงยิ้มหวาน ท่าทางรอคำตอบด้วยความคาดหวัง


พลทัพเงยหน้าขึ้นมองเธอเพียงครู่เดียว ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ไม่จำเป็นหรอกครับ ผมไว้ใจให้ทีมจัดการได้”


คำตอบสั้น ๆ ของเขาทำให้น้ำขิงชะงักไปชั่วขณะ แต่เธอก็รีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ


“ค่ะ ถ้าท่านประธานว่าอย่างนั้น น้ำขิงก็ไม่รบกวนแล้วค่ะ” เธอกล่าวด้วยเสียงนุ่มนวล


หลังจากพลทัพเดินออกจากห้องไปเพื่อประชุมกับทีมบริหาร เลขาน้ำขิงก็ยืนมองตามหลังเขาด้วยแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความโกรธและความริษยาในใจหน่อย ๆ เธอกำหมัดแน่นก่อนจะพึมพำกับตัวเองว่า


“ตั้งแต่มียัยจอมขวัญบ้าบออะไรนั่นเข้ามา ท่านประธานก็ไม่เคยสนใจใครอีกเลย แม้แต่นังเพียงขวัญก็คงถูกลืมเหมือนกัน นังนั่นมันมีอะไรดีนัก?”


น้ำขิงทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้พลางถอนหายใจหนัก ๆ ฮึดฮัด ในใจของเธอเต็มไปด้วยแผนการที่จะกำจัดจอมขวัญออกจากไปชีวิตของพลทัพ เธอมั่นใจว่า หากไม่มีจอมขวัญ เธอจะต้องเป็นหนึ่งเดียวที่อยู่เคียงข้างเขาได้


พลทัพเดินเข้าสู่ห้องประชุมใหญ่ ซึ่งเต็มไปด้วยผู้บริหารและหัวหน้าทีมจากแผนกต่าง ๆ เขาเริ่มนำเสนอแผนงานใหม่ด้วยน้ำเสียงที่ทรงอำนาจ ทุกคนในห้องต่างตั้งใจฟังคำพูดของเขาอย่างไม่คลาดสายตา


“เป้าหมายของเราปีนี้ไม่ใช่เพียงการเพิ่มยอดขาย แต่ต้องเป็นการขยายตลาดไปยังประเทศใหม่ ๆ ผมต้องการให้ทุกทีมทุ่มเทอย่างเต็มที่ เราต้องรักษาชื่อเสียงของศักดิ์ศิริ กรุ๊ปเอาไว้”


เสียงปรบมือดังขึ้นหลังจากพลทัพจบการพูด ทุกคนต่างรู้สึกถึงความมุ่งมั่นและวิสัยทัศน์อันยอดเยี่ยมของชายหนุ่ม


หลังการประชุม พลทัพเดินกลับเข้าห้องทำงาน เลขาน้ำขิงยืนรออยู่พร้อมแฟ้มเอกสารอีกชุด


“คุณน้ำขิง เดี๋ยววันนี้ผมต้องรีบกลับบ้านก่อน ถ้าหากมีอะไรด่วน ทิ้งไว้บนโต๊ะนะ”


“อ้าว เหรอคะ งั้นก็ได้ค่ะท่านประธาน” น้ำขิงตอบรับ แม้ในใจจะหงุดหงิดที่แผนการใช้เวลากับเขาในวันนี้ล้มเหลวอีกครั้ง


พลทัพเดินออกจากห้องพร้อมกระเป๋าเอกสาร น้ำขิงมองตามหลังเขาไปจนลับตา ก่อนจะพึมพำกับตัวเองด้วยความโกรธ


“รีบกลับไปหามันจังเลยนะคะ รอไปเถอะนังจอมขวัญ สักวันเธอจะไม่มีทางอยู่ในสายตาของเขาอีกต่อไป หึ”


เธอหลุดหัวเราะเบา ๆ ก่อนหันไปมองกระจกที่สะท้อนใบหน้าเหลือร้ายของเธอ ความทะเยอทะยานในดวงตาของน้ำขิงยิ่งชัดเจนขึ้นกว่าเดิม เมื่อเธอไม่อาจทนให้ศัตรูมีทุกสิ่งเหนือเธอ