องค์รัชทายาทเทโยนั้นต้องไปออกรบ ในขณะที่วันวานนั้นผ่านไป องค์หญิงฮิมาวารจะมิเป็นของผู้ใดอื่น ทรงหนีออกไปตามรักมาคืนใจของพระองค์แล้ว
ย้อนยุค,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
บุบผาแห่งตะวันองค์รัชทายาทเทโยนั้นต้องไปออกรบ ในขณะที่วันวานนั้นผ่านไป องค์หญิงฮิมาวารจะมิเป็นของผู้ใดอื่น ทรงหนีออกไปตามรักมาคืนใจของพระองค์แล้ว
ร่างน้อยที่เหมือนหลับฝันไปว่านอนอยู่บนปุยนุ่นแสนอบอุ่น เริ่มรู้สึกว่ามีน้ำเย็นมากระทบตัว จึงขยับปลายนิ้วปัดออกไปด้วยความรำคาญ
“องค์หญิงๆ องค์หญิงเพคะ ทรงได้ยินซาจิหรือไม่เพคะ”
นางกำนัลร้องเรียกองค์หญิงฮิมาวาริ เมื่อเห็นว่าทรงรู้สึกพระองค์ขึ้นมาแล้ว
“อือ! อย่าเสียงดังสิซาจิ ข้าปวดหัว”
ร่างน้อยที่ยังไม่ยอมลืมตาตื่นเพราะรู้สึกเวียนพระเศียร บ่นขึ้นมาเบาๆ
“ปวดหัวหรือเจ้า”
เสียงพูดทุ่มนุ่มอยู่ใกล้ๆใบหู แสนช่างอ่อนหวาน แต่ร่างน้อยนั้นถึงกับรีบลืมตาขึ้นมาพลัน เนื่องด้วยเป็นเสียงของบุรุษเพศ
“พวกเจ้า ให้ใครไปตามหมอมาอีกทีซิ”
ร่างสูงตะโกนออกไปโดยที่ฝ่าพระหัตถ์ ยังอังอยู่บนดวงหน้าน้อยๆนั้น
“ไม่ต้องๆเรามิเป็นอันใดมาก พวกเจ้ามิต้องออกไป”
ทรงตรัสเอ่ยเบาๆกับนางกำนัล พร้อมกับดึงฝ่ามือร้อนๆ ออกจากหน้าผากตนเองเบาๆ แต่ฝ่ายตรงข้ามกลับไม่ยอมแต่โดยดี ขัดขืนเกร็งข้อมือกดทับไว้ จนร่างน้อยต้องออกแรงอีก เพราะรู้แล้วว่าคนตัวโตนี้กลั่นแกล้ง
“เอามือของท่านออกไปเดี๋ยวนี้นะ!!!!”
เสียงตวาดแหว แสดงอาการฉุนขาดเพราะโดนแกล้ง ฝ่ามือร้อนถึงได้ดึงออกไป พร้อมกับเสียงดุของบรรดาพระพี่เลี้ยงที่ดังขึ้นมาแทน
“องค์หญิง อย่าทรงทำกิริยาเช่นนั้นนะเพคะ !!"
“อย่าได้ทำให้ทรงเสียพระทัยนะเพคะ พระคู่หมั้นนั้นทรงเป็นห่วงพระองค์นะเพคะ”
นางกำนัลที่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง ว่ากล่าวองค์หญิงของตน ด้วยทรงกระทำกิริยาที่ไม่งดงามเลยในยามนี้
“เจ้าคงแข็งแรงดีแล้ว เช่นนั้นข้าคงต้องไปแล้วซินะ”
ร่างสูงยืดตัวขึ้น หลังจากที่ประทับอยู่ข้างเตียงมาเป็นเวลานานแล้ว ขณะกำลังจะออกไป ทรงหันไปเห็นนางกำนัล ออกไปด้านนอกพอดี จึงหันกลับมาล้วงปิ่นปักผมทองคำที่สลักลวดลายดอกไม้กุมไว้ในมือตน พร้อมกับมองสบตาไปที่ร่างน้อย ที่สะบัดหน้าหนีพระองค์ไปอย่างน่ารัก จากที่จะให้ดีๆแล้วกลับออกไป ก็เลยทรงเปลี่ยนใจขึ้นมาเสียแล้ว
‘จะขอแกล้งเจ้าเล่นให้หนำใจ แล้วค่อยไปดีกว่า’
ร่างสูงแกล้งเดินไปแล้วสะดุดขาตัวเองหนึ่งครา แล้วล้มตัวลงนอนข้างๆสาวน้อย จนกลิ่นหอมอ่อนๆรวยรินมาใกล้ๆ สร้างเสียงวี๊ดว๊ายให้นางกำนัลที่หันมาเห็นได้อย่างดี สร้างความอับอายแก่สาวน้อย จนหน้าแดงไปถึงไหนต่อไหนแล้ว
“ต่อไปเจ้าคงตบแต่งกับผู้ใดมิได้แล้วสาวน้อย”
“นางกำนัลของเจ้าหันมาเห็นแล้ว ว่าข้านอนบนเตียงเดียวกับเจ้าไปเสียแล้ว”
สุรเสียงนุ่มตรัสเบาๆ แต่นางกำนัลนั้นได้ยินกันทั่วไปทั้งตำหนัก พร้อมกับไล้มือไปบนเรือนผมงาม ในขณะที่เจ้าร่างน้อยตัวแข็งทื่อ ทรงปักปิ่นปักผมให้เบาๆ แล้วตรัสข้างพระกรรณให้ได้ยินกันสองคนเท่านั้นเอง
“พี่ให้เจ้าแทนของหมั้น ต่อไปจะได้มิมีชายใดได้ยลแม้แต่ขอบเตียงของเจ้าได้อีก”
“ท่าน!!!!”
องค์หญิงน้อยอายแสนอาย ที่พระคู่หมั้นนั้นบังอาจได้ถึงเพียงนี้
“ไม่ต้องไปส่งข้านะ เจ้าคงยังมิหายดี”
กล่าวด้วยแววตาระยิบระยับ พร้อมกับเสด็จดำเนินออกไปต่อหน้านางกำนัลมากมาย
“ว๊าย องค์หญิง พระคู่หมั้นทรงประทานของหมั้นมาแล้วหรือเพคะ”
บรรดานางกำนัลผู้ร่วมเหตุการณ์พากันกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ จนร่างน้อยหน้าแดงจนขึ้นสีจัด มุดตัวลงไปในพระแท่นบรรทม พร้อมกับออกปากไล่นางกำนัลให้ออกไปในทันที
“พวกเจ้าออกไปซะ ข้าจะนอนแล้ว!!”
หลังจากไล่นางกำนัลออกไป ร่างน้อยก็ผุดออกมาลุกขึ้นประทับนั่งข้างพระแท่น พร้อมกับดึงปิ่นดอกไม้ออกมา จดๆจ้องๆพร้อมกับแย้มสรวลขึ้นมา
“คนบ้า ช่างอวดดีนัก!!!”
เรื่องราวการประทานของหมั้นแสนน่ารักของสองพระองค์ ถูกนางกำนัลนำไปถ่ายทอดต่อๆกัน จนไปถึงพระกรรณ ขององค์หญิงใหญ่มิจู ซึ่งยังมิได้เคลื่อนขบวนออกไปยังเมืองของพระสวามีของพระนางเข้า เพราะทรงติดพระราชพิธี หมั้นหมายขององค์หญิงฮิมาวาริ ทำให้องค์หญิงมิจูนั้นแสนริษยายิ่งนัก เนื่องด้วยทรงแอบมองเห็นว่า พระพักตร์ขององค์ชายเทโยงดงามยิ่งนัก ชวนให้ไฝ่ฝันว่า เหตุใดจึงมิเป็นพระองค์เองกันนะที่ได้หมั้นหมายกับองค์รัชทายาทเทโย แต่กลับเป็นองค์หญิงที่ยังเยาว์วัยไม่ได้ความนั่น
“ทั้งๆที่ตลอดมาสิ่งใดที่พระองค์ประสงค์ ท่านพ่อมิเคยขัดพระทัยเลยแม้คราหนึ่ง อย่างกระดิ่งทองคำที่ท่านพ่อประทานให้นั่นอย่างไรเล่า แม้จะทรงทำหายไป แต่อย่างไรเมื่อพระองค์ทรงโปรด ท่านพ่อก็ทรงให้ช่างหลวงทำขึ้นมาใหม่ และประทานลงมาให้พระองค์เหมือนกับชิ้นเดิมทุกอย่างไป แต่เหตุใดเล่าท่านพ่อจึงส่งพระองค์ให้ไปไกลเยี่ยงนั้น”
คิดแล้วก็แค้นยิ่งนัก เหตุใดทุกสิ่งจึงไม่เป็นดั่งวันวาน เมื่อทำอะไรนางตัวดีไม่ได้ ข้าวของในตำหนักจึงถูกเหวี่ยงลง กระแทกพื้นอย่างรุนแรง
“ทำไม เหตุใดจึงไม่เป็นข้ากัน กรี๊ด ทำไมกัน”
ร่างงามกรีดร้องพร้อมกับทำลายข้าวของจนยับเยินไม่มีชิ้นดี จนอารมณ์สงบลงแล้ว นางจึงได้คิดแผนการหาทางทำให้พระคู่หมั้นนั้นออกแยกจากกันไปเสีย องค์หญิงมิจูให้นางกำนัลในตำหนัก ไปไต่ถามมาว่าองค์ชายเทโยประทับที่ใด แล้วจึงแต่งองค์ให้งดงาม พร้อมกับเดินกรีดกรายออกไปจากบริเวณนั้น แล้วหยุดอยู่หลังพุ่มไม้ เมื่อได้ยินเสียงองค์รัชทายาทกำลังเสด็จมา จึงขยับผืนผ้าของพระองค์พร้อมกับจงใจ เดินไปปะทะกับเรือนร่างแข็งแกร่ง จนเสียการทรงตัว ร่างสูงจึงรองรับร่างงามไว้โดยสัญชาติญาณ
“ว๊าย ขออภัยเพคะ หม่อมฉันมิเห็นว่าพระองค์เสด็จมาทางนี้”
ร่างงามเสแสร้งแบบมีจริตมารยา วงแขนคล้องอยู่บนพระศองาม คล้ายบาดเจ็บอย่างรุนแรงแล้วทรงตัวด้วยองค์เองมิได้ ทั้งๆที่ฝ่าพระหัตถ์อุ่นคลายออกไปเสียนานแล้ว และด้วยความบังเอิญ เจ้าร่างน้อยแสนงามก็เสด็จมาเห็นภาพบาดพระเนตรเข้าพอดี ภาพที่พระคู่หมั้นทรงกกกอดกับพระพี่นางนั้น ทำให้ร่างน้อยเจ็บแปลบไปทั้งหทัย
“ทั้งๆที่อุทยานหลวงมีทหารและข้าราชบริพารมากมาย เจ้าชายทุเรศนั่นก็ยังหาญกล้ามาฉกฉวยโอกาสกับพี่หญิง!!!”
“เหมือนกับที่เสแสร้งสะดุดล้มใส่พระองค์เช่นวันวาน คิดแล้วก็แค้นตัวเองนัก ที่เผลอไผลไปหลงไหลได้ปลื้มกับเจ้าชายจอมกะล่อนนั่น คิดแล้วก็โมโห ทรงเสด็จดำเนินเร็วๆ เดินเลยเข้าไปในอุทยานชั้นใน นั่งข้างขอบสระน้ำหยิบก้อนหินชิ้นเล็กๆ ใกล้ๆพระหัตถ์ขว้างออกไปบนผิวน้ำ ยิ่งขว้างยิ่งโมโห จากหินหนึ่งก้อนเป็นสองก้อน จนทรงเหนื่อยหอบขึ้นมา แล้วก็ต้องสะดุ้งพระหทัยแทบหล่นไปกองที่พื้น เพราะสุรเสียงข้างพระกรรณนั้นเอง
“เหนื่อยแล้วหรือเจ้า พี่นึกว่าเจ้าจะขว้างหินจนหมดอุทยานเป็นแน่แท้แล้ว พี่เกือบจะให้ทหารไปหาก้อนหินที่ไม่ทำร้ายพระหัตถ์องค์หญิงของพี่มาให้เสียด้วยซ้ำ เพราะกลัวมือนุ่มๆของเจ้าจะช้ำไปเสียหมดเสียก่อน”
ใบหน้าคมขยิบดวงเนตร ทำดวงตาระยิบระยับส่งมาให้องค์หญิงฮิมาวาริ