ในโลกที่เคยรุ่งเรือง สงครามนิวเคลียร์ได้ทำลายทุกสิ่ง ทิ้งไว้เพียงซากปรักหักพังและความเงียบสงัด หลังจากเหตุการณ์ "โดมิโน่เอฟเฟกต์" ที่คร่าชีวิตผู้คนนับไม่ถ้วน โลกก็เข้าสู่ยุคแห่งความว่างเปล่า
แอคชั่น,ไซไฟ,ชาย-หญิง,ดาร์ค,ไทย,ดราม่า,ผจญภัย,ต่อสู้,เอาชีวิตรอด,วันสิ้นโลก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Seed of Hope in the Wasteland : เมล็ดพันธุ์แห่งความหวังในดินแดนรกร้างในโลกที่เคยรุ่งเรือง สงครามนิวเคลียร์ได้ทำลายทุกสิ่ง ทิ้งไว้เพียงซากปรักหักพังและความเงียบสงัด หลังจากเหตุการณ์ "โดมิโน่เอฟเฟกต์" ที่คร่าชีวิตผู้คนนับไม่ถ้วน โลกก็เข้าสู่ยุคแห่งความว่างเปล่า
เรื่องย่อ
ในโลกที่เคยรุ่งเรือง สงครามนิวเคลียร์ได้ทำลายทุกสิ่ง ทิ้งไว้เพียงซากปรักหักพังและความเงียบสงัด หลังจากเหตุการณ์ "โดมิโน่เอฟเฟกต์" ที่คร่าชีวิตผู้คนนับไม่ถ้วน โลกก็เข้าสู่ยุคแห่งความว่างเปล่า
หนึ่งศตวรรษต่อมา ในโลกที่กำลังฟื้นตัว เด็กหนุ่มชื่อไคใช้ชีวิตอยู่กับปู่ท่ามกลางซากปรักหักพัง แต่โลกที่ดูสงบสุขกลับซ่อนเร้นอันตรายเอาไว้ เมื่อผู้คนเริ่มค้นพบพลังพิเศษในตัวเอง พลังที่แฝงมาด้วยคำสาปแห่งความตายก่อนอายุ 30 ปี
พลังพิเศษที่ปรากฏขึ้นมา กลายเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามครั้งใหม่ ผู้คนที่มีพลังต่างแก่งแย่งอำนาจ และผู้นำที่กระหายอำนาจก็ปรากฏตัวขึ้น พวกเขาต้องการใช้พลังพิเศษเพื่อควบคุมโลกและสร้างความวุ่นวาย
ไค เด็กหนุ่มที่เพิ่งค้นพบพลังในตัวเอง ต้องเผชิญหน้ากับความจริงที่โหดร้าย เขาต้องเลือกเส้นทางของตัวเองว่าจะใช้พลังเพื่ออะไร จะเป็นเพียงผู้สังเกตการณ์ หรือจะเข้าไปมีส่วนร่วมในการต่อสู้เพื่ออนาคตของโลก
เรื่องราวของไคจะพาเราไปสำรวจโลกที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง ระหว่างความหวังและความสิ้นหวัง ระหว่างความดีและความชั่ว และการต่อสู้เพื่อความอยู่รอดของมนุษยชาติ
"ซากปรักหักพังของเมืองใหญ่เงียบเชียบราวกับสุสาน ความเงียบสงัดปกคลุมไปทั่วทุกหนแห่ง... ใครจะคาดคิดว่าโลกที่เคยเต็มไปด้วยชีวิตชีวาทำมั้ยจะต้องมาจบลงเช่นนี้ด้วย? สงครามนิวเคลียร์ในปี 2014 และ "โดมิโน่เอฟเฟกต์" ได้ทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง ทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่าและคำถามที่ไม่มีวันหาคำตอบได้"
ณ ชายแดนไทยยามเย็น เวลา 19.00 น. สายตาคู่ใสของเด็กน้อยวัย 8 ขวบชื่อไค จ้องมองท้องฟ้าครามที่ประดับประดาไปด้วยดวงดาวระยิบระยับ
"ปู่ครับ วันนี้ดาวสวยจังเลย" ไคเอ่ยถามเสียงใสพลางชี้มือไปยังท้องฟ้า
ปู่ของไค ยิ้มให้หลานชายอย่างเอ็นดู ก่อนจะลูบศีรษะเบา ๆ "ใช่ล่ะนะหลาน ดาวคืนนี้สวยงามมาก" ท่านพูดพลางเหลือบมองท้องฟ้าด้วยแววตาที่แฝงความคิดถึง "แต่ก่อนนะหลาน ท้องฟ้าของเราสวยกว่านี้อีกมากเลย"
ความสงสัยผุดขึ้นในใจของไค "ทำไมเหรอครับปู่? แล้วก่อนหน้านั้นเป็นยังไงบ้างครับ?"
ปู่เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องราวในอดีตให้ไคฟังด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
"คุณปู่ลุกขึ้นจากเก้าอี้ไม้เก่า ๆ เสียงเอียะอ้าค่อยๆดังขึ้น "ลุกเถอะหลาน ไหน ๆ ก็ไหน ๆ ออกไปข้างนอกนานขนาดนี้ เดี๋ยวจะไม่สบายเอา" เสียงทุ้มนุ่มเปี่ยมไปด้วยความห่วงใย
ไคพยักหน้ารับคำ ก่อนจะเดินตามคุณปู่ไปยังกระท่อมไม้หลังน้อยที่ตั้งอยู่หลังบ้าน ลมเย็นพัดโชยมาเบา ๆ พาเอากลิ่นดิน กลิ่นไม้ และกลิ่นดอกไม้ป่ามาแตะจมูก
เมื่อเข้ามาในกระท่อม ไคก็กระโดดขึ้นนอนบนเตียงไม้ที่นุ่มสบาย คุณปู่เดินมานั่งข้าง ๆ แล้วเอ่ยขึ้นเบา ๆ "อดีต... มันเป็นเรื่องราวที่ทั้งเลวร้ายและงดงามในเวลาเดียวกัน"
ดวงตาคู่โตของไคจ้องมองคุณปู่ด้วยความสนใจ "แล้วปู่จะเล่าเรื่องอะไรให้ฟังก่อนดีล่ะครับ?"
รุ่งเช้ามาพร้อมกลิ่นหอมยั่วน้ำลายลอยมาแต่วิวัฒนาการ หลังกระท่อมไม้เก่า ไคเดินไปหาปู่ที่กำลังยุ่งอยู่กับเตาไฟ “คุณปู่ทำอะไรอร่อยอย่างนั้นครับ” เสียงใสของเด็กหนุ่มดังขึ้น
ปู่หันมาพร้อมรอยยิ้มใจดี ก่อนจะตักอาหารใส่จานและชวนไคไปนั่งที่โต๊ะไม้เก่าแก่ อาหารเช้าแสนอร่อยถูกจัดเรียงอย่างเรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่น
ขณะที่ปู่กำลังจะตักอาหารเข้าปาก เสียงดังโครมครามของประตูไม้เก่าที่ถูกทุบจนพัง ทำลายความเงียบสงบในทันที กลุ่มโจรผู้หิวกระหายบุกเข้ามาในกระท่อม
การกินอาหารเช้าที่แสนสุขกลายเป็นช่วงเวลาสุดท้ายของไคและปู่ โจรกลุ่มนั้นปล้นทุกอย่างไปอย่างไม่ใยดี ก่อนจะหันปืนมาจ่อที่ทั้งสอง ไคเห็นปู่ล้มลงไปกองกับพื้นเลือดอาบ ไครีบวิ่งไปหาปู่และร้องไห้ด้วยความเสียใจ “ปู่... ปู่เป็นอะไรไป” น้ำตาไหลอาบแก้ม เขาเขย่าตัวปู่เบาๆ หวังจะให้ปู่ลืมตาขึ้นมา แต่ก็ไร้ผล เสียงปืนดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เป็นคิวของไค
เสียงร้องโหยหวนดังก้องไปทั่วห้อง ไคผุดลุกขึ้นจากเตียงด้วยความตกใจ เหงื่อท่วมตัวไปหมด เขาจ้องมองเพดานห้องด้วยสายตาหวาดกลัว ความฝันเดิมๆ ยังคงตามหลอกหลอนเขาไม่เลิกรา ทั้งๆ ที่เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ตาม "ทำไมความฝันนี้ถึงตามหลอกหลอนฉันจังนะ" เขาถามตัวเองเบาๆ
ภายในห้องที่รกระรานไปด้วยข้าวของและความทรงจำอันขมขื่น ไคผุดลุกขึ้นจากเตียง เขาเหลือบมองไปรอบๆ ห้องที่คุ้นเคยดี แต่กลับรู้สึกเหมือนเป็นคนแปลกหน้า มองเห็นภาพความฝันร้ายที่วนเวียนมาหลอกหลอนซ้ำแล้วซ้ำเล่า "ต้องทำลายมันให้สิ้นซาก" เขาพูดเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แสงแดดอ่อนๆ สาดส่องเข้ามาทางหน้าต่าง ราวกับเป็นสัญญาณบอกให้เขาเริ่มต้นวันใหม่ เสียงฝีเท้าของทหารดังก้องไปทั่วบริเวณ ไคออกจากห้องไปพร้อมกับความมุ่งมั่น เขาเดินผ่านห้องต่างๆ ที่เต็มไปด้วยความทรงจำ แล้วมุ่งหน้าไปยังโรงอาหารที่อาริสาและเคย์กำลังรออยู่
"ไคเดินเข้ามาหาอาริสาและเคย์ที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว "ตื่นเช้าจังนะเนี่ย อาริยากับอีเลนยังไม่มาอีกเหรอ" เขากระซิบถามด้วยความสงสัย
อาริสาหัวเราะเบาๆ "พวกนั้นน่ะ ตื่นสายเป็นนิสัยอยู่แล้วล่ะนะ ไหนๆ ก็มีพลังพิเศษกันขนาดนี้แล้วนี่"
เคย์พยักหน้าเห็นด้วย "ใช่สิ สิทธิพิเศษขนาดนี้ต้องใช้ให้คุ้ม" เขาพูดติดตลก
ทันใดนั้น อาเรียและอีเลนก็เดินเข้ามาสมทบ พวกเขาต่างนั่งลงบนเก้าอี้
"ตายยากจริง ๆ นะพวกนาย" เคย์แซวเพื่อนทั้งสอง
อาเรียยิ้มบางๆ "ก็พวกเรามีเวลาอีกแค่ 30 ปีเองนี่นา ต้องใช้ชีวิตให้คุ้มสิ"
to be continued....