นักการทูตสาวจากเมือง'ซัลมา' ต้องเข้าไปเชื่อมสัมพันธไมตรีกับรัฐใหญ่อย่าง'ซารียาส' แต่ภายใต้การเดินทางครั้งนี้เธอมีภารกิจอย่างอื่นที่เปิดเผยไม่ได้ "ฮันนา"จะทำงานนี้สำเร็จหรือไม่เมื่อมี "รียา" ผู้ปกครองสูงสุดของซารียาสเป็นกระดูกชิ้นใหญ่ที่คอยขัดขวาง
รัก,หญิง-หญิง,ครอบครัว,ยุคปัจจุบัน,ดราม่า,ฟินGL,ฟิน,หวาน,คลั่งรักขั้นสุด,รัฐ,ทะเลทราย,คลั่งรัก,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
นักการทูตสาวจากเมือง'ซัลมา' ต้องเข้าไปเชื่อมสัมพันธไมตรีกับรัฐใหญ่อย่าง'ซารียาส' แต่ภายใต้การเดินทางครั้งนี้เธอมีภารกิจอย่างอื่นที่เปิดเผยไม่ได้ "ฮันนา"จะทำงานนี้สำเร็จหรือไม่เมื่อมี "รียา" ผู้ปกครองสูงสุดของซารียาสเป็นกระดูกชิ้นใหญ่ที่คอยขัดขวาง
ผู้แต่ง
Number17
เรื่องย่อ
ดินแดนทะเลทรายอันไกลโพ้น มีรัฐอิสระที่แยกตัวออกมาปกครองตนเองอยู่สี่รัฐ ซารียาส อะมาลี ยาซีส และซัลมา
ซารียาส มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดและอุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่ประเมินค่าไม่ได้ อย่างน้ำมันและทองคำ เป็นรัฐที่มั่งคั่งและร่ำรวย รัฐบาลมีการจัดการที่ดีให้ชาวเมืองได้รับสวัสดิการที่เหมาะสม ภูเขาสูงย่อมมีเหวลึก เมื่อมีซารียาสที่เป็นดั่งแดนสวรรค์ ซัลมา รัฐเล็กๆที่มีพื้นที่ติดต่อกับซารียาสก็เป็นดั่งเหวลึก รัฐบาลซัลมาภายใต้การปกครองในยุครัฐบาลปัจจุบันชาวเมืองห่างไกลคำว่าสุขสบายไปมาก ผู้คนชั้นแรงงานส่วนใหญ่อดอยาก จึงมีปัญหาแรงงานที่ล้นทะลักเข้าไปทำงานยังซารียาสอย่างผิดกฎหมายมากขึ้นทุกปี
ปัญหาเริ่มบานปลายเมื่อคนลักลอบไปทำงานมากขึ้นและเริ่มส่งผลต่อแรงงานของคนพื้นถิ่น เป็นเหตุให้รัฐบาลซารียาสต้องเร่งผลักดันพวกเขาออกไป แต่มันไม่ใช่แค่นั้นเมื่อบทกำหนดโทษของผู้กระทำความผิดตามกฎหมายของซารียาสนั้นแตกต่างออกไป นั่นก็คือการเฆี่ยนด้วยแส้ รวมถึงมีข่าวจากวงในว่าจะมีการปราบปราบแรงงานอย่างเข้มงวด
เป็นเหตุให้ ฮันนา หญิงสาวลูกครึ่งชาวซัลมา+อังกฤษที่ทำงานอยู่ในกระทรวงการต่างประเทศของซัลมาจะต้องหาวิธีเข้าไปช่วยแรงงานคนของรัฐให้กลับมาก่อนที่จะมีประกาศกวาดล้างอย่างจริงจัง
เธอตัดสินใจเข้าไปเป็นทูตเพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรีที่ไม่ดีนักของทั้งสองรัฐ เบื้องหลังเพื่อช่วยเหลือคนงานอย่างลับๆ แต่ทุกอย่างที่เธอทำอยู่ภายใต้การจับตามองของผู้ครองแคว้นสุดเข้มงวดอย่าง รียา ผู้ครองแคว้นลำดับที่สิบสามของซารียาส มีข่าวลือหนาหูออกมาว่าเธอเป็นพวกอนุรักษ์นิยมสุดโต่งและไม่ชอบชาวซัลมาอย่างมาก เพราะเหตุขัดแย้งเมื่อหลายสิบปีก่อน
สาวนักการทูตจากซัลมาจะทำภารกิจของเธอสำเร็จหรือไม่ การเชื่อมความสัมพันธ์ทั้งสองรัฐที่มีปัญหากันมายาวนานจะจบลงแบบไหน
หรือจะมีความสัมพันธ์แบบใหม่ที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้นก็ไม่มีใครรู้ ร่วมเดินทางไปด้วยกันนะคะ
สวัสดีค่ะทุกคนเป็นนิยายเรื่องแรกที่ลองนำมาลงที่ Plotter ฝากติดตามด้วยนะคะ
ครั้งนี้เข้าบุกตะลุยดินแดนทะเลทรายกับบ้างที่รับรองว่าร้อนจริง จะเป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างรัฐที่เขียนขึ้นมาเอง...ห่ะๆ ชื่อสถานที่ เมือง กฎหมายตั้งขึ้นตามใจไรต์นะคะ (เป็นเรื่องแต่งขึ้นตามจินตนาการของไรต์นะคะ) ที่จริงแล้วไรต์เองที่เป็นผู้ครองแคว้นตัวจริง
ฝากนิยายเรื่องนี้ไว้อีกสักเรื่องนะคะ ขอบคุณทุกคนที่ติดตามกันมาตลอด ไรต์จะพยายามสร้างสรรค์ผลงานออกมาให้อ่านกันเรื่อยๆ เพราะเหงาอยากคุยกับนักอ่าน
คอมเม้นต์มาคุยกันได้ตลอดนะคะ รักทุกคนค่ะ
[Number17]
2
กฎหมายเถื่อน
ทันทีที่กลับมาถึงบ้าน คุณโรเจอร์ตรงเข้าไปหอมแก้มภรรยาที่กำลังทำกับข้าวอยู่ในครัว บ้านของคุณโรเจอร์และภรรยาโอ่อ่าสมฐานะของชาวเมืองผู้ร่ำรวย โดยบ้านหลังนี้คุณ ราสจี แม่ของฮันนาได้รับช่วงต่อมาจากคุณตาของเธอ ผู้เป็นข้าหลวงเก่าแห่งรัฐ
รูปทรงของบ้านเป็นตึกทรงคฤหาสน์โบราณ มีระเบียงเป็นทางยาวด้านบนเหมือนอาคารเรียนมัธยมและฝั่งหนึ่งเป็นโดมทรงพุ่มเหมือนโดมที่ทัชมาฮาล คุณตาของฮันนาบอกว่าได้แรงบันดาลใจมาจากที่นั่น เพราะเป็นสถานที่ที่สื่อถึงความรัก คุณตาอยากให้บ้านของท่านเป็นสถานที่แห่งความรักของลูกหลานในรุ่นต่อๆไปด้วย
ครอบครัวของฮันนามีสี่คน พ่อ แม่ ฮันนาและน้องชายโยนาช อามาดีน เคนเดิลอายุสิบเก้าปี ตอนนี้ไปเรียนมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ ประเทศไทย ทุกเย็นโยนาชจะโทรกลับมาบ้านตลอด
กลิ่นของอาหารลอยมาเตะจมูกทำให้ฮันนาท้องร้องได้ง่ายๆ พอกลับมาถึงบ้าน จากหญิงสาวเวิร์คกิ้งวูแมนผู้สุขุม กลับกลายเป็นแมวเหมียวขี้อ้อนไปโดยทันที เธอตรงเข้าไปกอดเอวคุณราสจีแล้วหอมแก้มแม่ต่อจากผู้เป็นบิดาของเธอ เป็นแบบนี้ทุกวันจนเคยชินไปแล้ว
"แม่ทำอะไรคะ หอมมากเลย"
"วันนี้แม่อบพิซซ่ากินกับสตูเนื้อ"
"กำลังหิวพอดีเลย"
"ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนสิลูกเดี๋ยวแม่จัดโต๊ะรอ"
"ได้ค่ะ"
ฮันนาขอตัวหลบขึ้นไปอาบน้ำอาบท่าบนห้องของเธอ คุณโรเจอร์นั่งลงที่โต๊ะอาหารแล้ววางเอกสารลงบนโต๊ะเงียบๆ หากมีเวลาว่างเพียงเล็กน้อยเขาก็ไม่ลืมที่จะนำงานขึ้นมาดู ฝ่ายภรรยาก็จัดโต๊ะอาหารไปพลางช่วงที่รอลูกสาว
ถึงบ้านพวกเขาจะเป็นคนมีเงินและมีฐานะทางสังคมสูงแต่คุณโรเจอร์และคุณราสจีก็สอนลูกๆให้ทำทุกอย่างด้วยตัวเองแทนที่จะใช้คนอื่น จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมบ้านนี้จึงมีคนงานไม่เยอะ มีเพียงแม่บ้านสองคน คนสวนอีกสามและคนขับรถหนึ่งคนเท่านั้น ทั้งที่หากเป็นครอบครัวอื่นที่มีฐานะระดับนี้ต้องมีคนงานเกือบห้าสิบคน
"มีเรื่องอะไรหนักใจเหรอคะ" คุณราสจีถามขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าของสามี เธอเลื่อนเก้าอี้นั่งลงข้างๆ แล้วหยิบเอกสารตรงหน้าขึ้นมาอ่าน
คุณผู้หญิงราสจี อามาดีน ก่อนหน้านี้เธอก็ทำงานในวงการเมืองของซัลมาแต่ได้ลาออกมาเป็นนักกฎหมายอิสระเมื่อสองปีที่แล้ว เหตุผลเพราะอยากดูแลครอบครัวและอีกอย่างสามีของเธอก็ขอเอาไว้ หากทั้งสามคนในบ้านทำงานกันหมด บ้านก็คงขาดคนดูแล แต่เธอก็เปรียบเป็นดังผู้อยู่เบื้องหลังการทำงานของสามีและลูกสาวอยู่ดี
จะว่าไปฐานอำนาจหลักก็มาจากตระกูลอามาดีนเสียเป็นส่วนใหญ่ อีกอย่างคุณราสจีคิดว่าการออกมาทำงานอิสระทำให้เธอได้ใช้ความสามารถอย่างเต็มที่มากกว่าการทำงานภายใต้อำนาจของรัฐ
"เรื่องเดิมนั่นแหละคุณ เรื่องแรงงานจากซัลมาทะลักข้ามไปยังฝั่งซารียาส ท่านนายพลแจ้งเตือนมา"
คุณหญิงมองดูตัวเลขในเอกสารแล้วก็ต้องตกใจ เมื่อแต่ละปีจำนวนผู้ที่ลักลอบข้ามพรมแดนไปนั้นยิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่เธอก็รู้เหตุผลนั่นดีว่าเพราะอะไร รัฐบาลซัลมาเองก็อ่อนแอ ไม่สามารถจัดการได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แถมยังคงปล่อยให้มีการคอรัปชั่นกันอย่างแพร่หลาย แรงงานที่ข้ามไปส่วนใหญ่นั้นก็จ่ายเงินให้กับเจ้าหน้าที่กันทั้งนั้น
การหลบเข้าไปทำงานที่ซารียาสแม้จะเสี่ยงแต่ผลที่ได้ก็คุ้มค่าแลกกับปากท้องของคนในครอบครัว แต่ก็มีหลายคนที่ไม่ได้โชคดีถูกจับได้และถูกส่งตัวกลับมานอกจากจะเสียเงินทองไปแล้วยังอาจโดนโทษของรัฐบาลซารียาสเพิ่มอีกอย่างหนึ่งด้วย นั่นก็คือการเฆี่ยนด้วยแส้ที่ทำจากก้านต้นปาล์มทะเลทราย จำนวนมากน้อยตามที่กฎหมายของซารียาสกำหนด
กฎหมายนี้มามานานตั้งแต่ก่อตั้งรัฐคิดขึ้นโดยตระกูลอัลฮาซอ มีหลายคนที่มีโอกาสไปร่ำเรียนที่ต่างประเทศกลับมาและไม่เห็นด้วยกับบทลงโทษนี้ แต่ก็ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ผู้นำของแคว้นให้เหตุผลว่า หากไม่อยากถูกลงโทษ ก็อย่ากระทำความผิด และผู้ใดในซารียาสที่ไม่เห็นด้วยกับกฎก็ย้ายออกจากรัฐไป หลังจากนั้นก็ไม่มีใครเอ่ยอะไรขึ้นอีกเกี่ยวกับบทลงโทษนี้ ไม่รู้ว่าตอนนี้ผู้ครองแคว้นตนปัจจุบันคิดเห็นยังไง
"เรื่องนี้จะโทษทางซารียาสก็ไม่ถูก เป็นเพราะรัฐของเราเองที่บริหารจัดการไม่ดี" คุณราสจีถอนหายใจเป็นห่วงประชาชนชาวเมืองของตน เพราะความอ่อนแอของรัฐบาลแห่งรัฐซัลมา จึงทำให้เกิดปัญหาภายในสะสมจนแก้ยากขึ้น
"คุณจะทำยังไงต่อคะ"
"เย็นนี้ผมจะคุยกับท่านนายพลฮารีสก่อนว่าจะทำยังไงได้บ้าง"
มือของผู้เป็นภรรยาวางลงหลังมือของคุณโรเจอร์เบาๆ พร้อมกับรอยยิ้มน้อยๆบนใบหน้าให้กำลังใจสามี
"ถ้ามีอะไรให้ช่วยบอกได้นะคะ"
"คุณช่วยผมมากแล้วล่ะราสจี ผมโชคดีที่ได้เจอคุณและผมก็เต็มใจที่ได้ทำงานให้ซัลมา"
สองสามีภรรยายิ้มให้กันอย่างเข้าใจ การเป็นครอบครัวนักการเมืองเรียกว่าความรับผิดชอบนั้นหนักหนาอยู่แล้ว โดยเฉพาะเป็นนักการเมืองน้ำดีที่มีจำนวนอยู่น้อยนิดนั้นย่อมยากลำบากขึ้นไปอีก แต่การได้รับหน้าที่เข้ามาดูแลประชาชนแล้วคุณโรเจอร์ตั้งใจว่าจะทุ่มเทให้สุดความสามารถ
เย็นวันนั้นมื้ออาหารยังคงเต็มไปด้วยความสุขเหมือนเช่นทุกๆวัน โยนาชโทรกลับมาร่วมวงด้วยพอดี เขาเล่าให้พ่อแม่และพี่สาวฟังหลายอย่างเกี่ยวกับประเทศไทย หากมีโอกาสก็อยากจะพาครอบครัวมาเที่ยวด้วย
•••
ห้องทำงานใหญ่ฝั่งตะวันออก เวลาเกือบสามทุ่มแล้วไฟในห้องยังคงเปิดอยู่ ลมพัดผ่านเข้ามาทางหน้าต่างบานใหญ่ส่งให้ผ้าม่านสีขาวปลิวขึ้นสูง สภาพอากาศของพื้นที่แถบนี้เป็นเขตทะเลทราย มีเพียงสองฤดูเท่านั้นคือฤดูหนาวและฤดูร้อน
เขตที่ตั้งของรัฐอิสระทั้งสี่รัฐห่างจากทะเลทราย ทาเฟร่า อยู่เกือบยี่สิบกิโลเมตร ทั้งสามรัฐมีพื้นที่ติดเขตแนวภูเขา มีเพียงซัลมาที่เป็นพื้นที่ราบเป็นเหตุผลว่าทำไมซัลมาจึงเป็นรัฐที่ยากจนที่สุด เพราะมีทรัพยากรธรรมชาติน้อย บ่อน้ำมันมีอยู่บ้างแต่พื้นที่น้อยบวกกับการขุดเจาะเพื่อใช้ประโยชน์นั้นมีมานานหลายชั่วอายุคน ก็ย่อมที่จะมีวันลดน้อยลงเช่นกัน
ผิดกับซารียาสที่มีพื้นกว้างใหญ่เกือบสิบเท่าของซัลมา ติดแนวเขาที่เมื่อไม่นานมานี้มีการขุดค้นพบสายแร่ทองคำแห่งใหม่ที่ประเมินมูลค่าไม่ได้ ผู้คนจึงหลั่งไหลเข้าไปเพื่อเป็นแรงงานในเหมืองทอง
คุณโรเจอร์ยกหูโทรศัพท์ต่อสายข้ามแดนไปยังซารียาส เขารู้ดีว่าถ้อยคำทุกคำที่พูดออกไปจะผ่านคณะความมั่นคงของซารียาสทั้งหมด ดังนั้นคำพูดทุกคำจะต้องไตร่ตรองให้ดี
"ท่านนายพล"
[คุณโรเจอร์]
"ผมได้รับรายงานแล้วครับ และทางเราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ผมจะรีบนำเรื่องเข้าหารือกับทางรัฐสภา"
[เรื่องนี้ผมเคยแจ้งไปแล้วสองครั้ง นอกจากจำนวนแรงงานที่หลบหนีเข้ามาจะไม่ลดลงแล้ว ยังเพิ่มจำนวนมากขึ้นจนเกินเพดานที่กฎหมายซารียาสจะรับได้ เห็นทีว่าเรื่องนี้ผมคงจะต้องยื่นรายงานเข้ารัฐสภาคงจะรอต่อไปไม่ไหว]
สิ่งที่นายพลฮารีสพูดถึงแม้จะเป็นการกดดันแต่ก็มีน้ำเสียงของความห่วงใยเจืออยู่ด้วย นายพลรู้เรื่องภายในของซัลมาดีว่าเป็นยังไง ผู้นำที่อ่อนแอเกินไปก็ยากที่จะบังคับกฎหมายได้อย่างเข้มงวด ผิดกับซารียาส
"ท่านจะยื่นเรื่องเมื่อไหร่ครับ"
[เราคงแจ้งกำหนดการต่อท่านไม่ได้ แต่คงจะเร็วๆนี้]
"...." คุณโรเจอร์นิ่งเงียบอย่างใช้ความคิด หากรายงานนี้ถูกส่งเข้ารัฐสภาซารียาส การกวาดล้างชาวเมืองซัลมาจะต้องเริ่มขึ้นทันที ซึ่งตอนนี้เขาไม่รู้ว่ามีอยู่จำนวนเท่าไหร่กันแน่ และอาจมีหลายคนที่อยู่ตามเหมืองที่ติดต่อลำบากไม่รู้ข่าวคราวอาจได้รับผลกระทบไปด้วย
"ท่านพอจะบอกได้ไหมครับว่าบทกำหนดโทษของแรงงานที่ลักลอบเข้าเมืองพวกนี้จะเป็นยังไง"
[ผมแจ้งได้แค่ว่าหากท่านติดต่อคนของท่านได้ ก็ให้รีบออกจากซารียาสให้เร็วที่สุด]
ท่านนายพลวางสายไปแล้ว สิ่งที่ได้ยินวันนี้ยิ่งสร้างความกังวลใจให้กับคุณโรเจอร์มากขึ้นไปอีก สิ่งที่นายพลฮารีสจะบอกคือคนที่กลับมาได้ก็คือจำนวนคนที่จะรอดออกมาจากซารียาส เขาไม่รู้ว่าภายในของรัฐนั้นจะทำอะไรบ้าง แต่ในเขตพื้นที่ของซารียาสทุกคนก็ต้องทำตามกฎของที่นั่นไม่มีใครฝืนได้
•••
วันต่อมา
คุณโรเจอร์และลูกสาวออกไปทำงานแต่เช้า เขาต้องการนำข่าวที่ได้รับมาไปแจ้งให้ฝ่ายรัฐบาลเพื่อดำเนินการส่งข่าวไปยังชาวซัลมาที่เป็นแรงงานผิดกฎหมายให้รีบกลับมาโดยด่วน ทางรัฐบาลอาจจะต้องจัดให้มีการช่วยเหลือด้านค่าใช้จ่ายในการพาตัวพลเมืองกลับมาด้วย
"คุณลุงฮารีสบอกมาแบบนั้นเหรอคะคุณพ่อ"
"ใช่! ลุงฮารีสของลูกคงจะยื้อเวลาให้พวกเราไม่ไหวแล้ว เรื่องนี้หากถูกเสนอไปยังรัฐสภาของซารียาสคนงานต้องได้รับโทษหนักแน่"
ฮันนามีสีหน้ากังวลเธอเองก็พอจะรู้เรื่องเกี่ยวกับกฎหมายเถื่อนๆของซารียาสมาบ้าง บางบทลงโทษแทบจะเรียกได้ว่าละเมิดสิทธิมนุษยชนเลยด้วยซ้ำ แต่เรื่องของภายในที่นั่นไม่มีใครล่วงรู้ได้
"คุณพ่อจะเข้าไปทำเนียบเมื่อไหร่คะ ลูกขอไปด้วย"
"ได้สิ! พ่อจะเข้าไปยื่นหนังสือให้ท่านเลขาตอนเก้าโมงเช้า หากมีโอกาสเข้าพบท่านผู้ครองแคว้นก็จะถือโอกาสขอคำสั่งจากท่านให้ดำเนินการเลย"
"ค่ะ"
เก้าโมงเช้าสองพ่อลูกมาถึงทำเทียบรัฐบาลซัลมา เพื่อยื่นหนังสือเกี่ยวกับปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วนในตอนนี้ ประจวบเหมาะที่คุณโรเจอร์ได้พบกับท่านนายกรัฐมนตรี บาซิม พอดีจึงได้ขอโอกาสคุยกับท่านในเรื่องนี้
"ท่านครับกระผมมีเรื่องด่วนจากทางซารียาสมาแจ้งครับ"
"อ่อ! คุณโรเจอร์ ได้สิคุณฝากเลขาผมไว้เลยนะเดี๋ยวผมกลับมาผมจะมาดูให้"
"แต่ว่าท่านครับ เรื่องนี้ด่วนมากเห็นทีว่าจะรอไม่ได้"
ท่านนายกบาซิมหยุดกึกมองมาที่สองพ่อลูกด้วยสายกร้าว พร้อมกับตำหนิอยู่กลายๆ
"คุณโรเจอร์คุณเองก็เป็นเจ้าหน้าที่ผู้ใหญ่นะ ระเบียบการต่างๆก็ควรจะรู้บ้างอีกอย่างการเดินเข้ามาคุยระหว่างทางแบบนี้ก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรอยู่แล้วแต่ผมเห็นว่าคุณเป็นคนขยันเลยไม่อยากถือสาหาความ พอไม่ว่าก็ทำตัวไม่รู้มารยาทไปใหญ่"
ฮันนาหน้าร้อนผ่าวเธอรู้สึกสงสารผู้เป็นบิดา เพราะตัวเธอเองรู้ดีว่าพ่อของเธอนั้นร้อนใจและเป็นห่วงชาวเมืองซัลมา หญิงสาวก้มหน้ากัดริมฝีปากเอาไว้แน่นอย่างข่มใจ
"กระผมต้องขอโทษท่านนายกด้วยครับที่เสียมารยาท แต่ผมขอยืนยันว่าเรื่องนี้เร่งด่วนจริงๆ"
"ดื้อด้าน"
พูดจบนายกบาซิมก็เดินสวนออกไปทันทีโดยไม่สนใจคุณโรเจอร์และฮันนาอีก นายกบาซิมนั้นเป็นชายแก่อายุเจ็ดสิบห้าปี เคยทำงานกับคุณตาของฮันนาสมัยยังเป็นหนุ่ม เป็นพวกอนุรักษ์นิยมที่ไม่ค่อยชอบคุณโรเจอร์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
"คุณพ่อคะ..." หญิงสาวเรียกบิดาด้วยความเป็นห่วง
"ไม่เป็นไรลูกความปลอดภัยของชาวเมืองสำคัญกว่าศักดิ์ศรีหรือตำแหน่งพวกนี้ของพ่อเสียอีก"
ฮันดามองคุณโรเจอร์ด้วยความรู้สึกหลากหลายทั้งสงสารแต่ก็ภูมิใจในความทุ่มเทของผู้เป็นพ่อ
................................
ลงให้อ่านฟรีวันละ 2 ตอนจนจบเลยค่ะ ฝากติดตามด้วยน้าาา ใครอยากอ่านจนจบรวดเดียวมี E-book แล้วนะคะ