นักการทูตสาวจากเมือง'ซัลมา' ต้องเข้าไปเชื่อมสัมพันธไมตรีกับรัฐใหญ่อย่าง'ซารียาส' แต่ภายใต้การเดินทางครั้งนี้เธอมีภารกิจอย่างอื่นที่เปิดเผยไม่ได้ "ฮันนา"จะทำงานนี้สำเร็จหรือไม่เมื่อมี "รียา" ผู้ปกครองสูงสุดของซารียาสเป็นกระดูกชิ้นใหญ่ที่คอยขัดขวาง
รัก,หญิง-หญิง,ครอบครัว,ยุคปัจจุบัน,ดราม่า,ฟินGL,ฟิน,หวาน,คลั่งรักขั้นสุด,รัฐ,ทะเลทราย,คลั่งรัก,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
นักการทูตสาวจากเมือง'ซัลมา' ต้องเข้าไปเชื่อมสัมพันธไมตรีกับรัฐใหญ่อย่าง'ซารียาส' แต่ภายใต้การเดินทางครั้งนี้เธอมีภารกิจอย่างอื่นที่เปิดเผยไม่ได้ "ฮันนา"จะทำงานนี้สำเร็จหรือไม่เมื่อมี "รียา" ผู้ปกครองสูงสุดของซารียาสเป็นกระดูกชิ้นใหญ่ที่คอยขัดขวาง
ผู้แต่ง
Number17
เรื่องย่อ
ดินแดนทะเลทรายอันไกลโพ้น มีรัฐอิสระที่แยกตัวออกมาปกครองตนเองอยู่สี่รัฐ ซารียาส อะมาลี ยาซีส และซัลมา
ซารียาส มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดและอุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่ประเมินค่าไม่ได้ อย่างน้ำมันและทองคำ เป็นรัฐที่มั่งคั่งและร่ำรวย รัฐบาลมีการจัดการที่ดีให้ชาวเมืองได้รับสวัสดิการที่เหมาะสม ภูเขาสูงย่อมมีเหวลึก เมื่อมีซารียาสที่เป็นดั่งแดนสวรรค์ ซัลมา รัฐเล็กๆที่มีพื้นที่ติดต่อกับซารียาสก็เป็นดั่งเหวลึก รัฐบาลซัลมาภายใต้การปกครองในยุครัฐบาลปัจจุบันชาวเมืองห่างไกลคำว่าสุขสบายไปมาก ผู้คนชั้นแรงงานส่วนใหญ่อดอยาก จึงมีปัญหาแรงงานที่ล้นทะลักเข้าไปทำงานยังซารียาสอย่างผิดกฎหมายมากขึ้นทุกปี
ปัญหาเริ่มบานปลายเมื่อคนลักลอบไปทำงานมากขึ้นและเริ่มส่งผลต่อแรงงานของคนพื้นถิ่น เป็นเหตุให้รัฐบาลซารียาสต้องเร่งผลักดันพวกเขาออกไป แต่มันไม่ใช่แค่นั้นเมื่อบทกำหนดโทษของผู้กระทำความผิดตามกฎหมายของซารียาสนั้นแตกต่างออกไป นั่นก็คือการเฆี่ยนด้วยแส้ รวมถึงมีข่าวจากวงในว่าจะมีการปราบปราบแรงงานอย่างเข้มงวด
เป็นเหตุให้ ฮันนา หญิงสาวลูกครึ่งชาวซัลมา+อังกฤษที่ทำงานอยู่ในกระทรวงการต่างประเทศของซัลมาจะต้องหาวิธีเข้าไปช่วยแรงงานคนของรัฐให้กลับมาก่อนที่จะมีประกาศกวาดล้างอย่างจริงจัง
เธอตัดสินใจเข้าไปเป็นทูตเพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรีที่ไม่ดีนักของทั้งสองรัฐ เบื้องหลังเพื่อช่วยเหลือคนงานอย่างลับๆ แต่ทุกอย่างที่เธอทำอยู่ภายใต้การจับตามองของผู้ครองแคว้นสุดเข้มงวดอย่าง รียา ผู้ครองแคว้นลำดับที่สิบสามของซารียาส มีข่าวลือหนาหูออกมาว่าเธอเป็นพวกอนุรักษ์นิยมสุดโต่งและไม่ชอบชาวซัลมาอย่างมาก เพราะเหตุขัดแย้งเมื่อหลายสิบปีก่อน
สาวนักการทูตจากซัลมาจะทำภารกิจของเธอสำเร็จหรือไม่ การเชื่อมความสัมพันธ์ทั้งสองรัฐที่มีปัญหากันมายาวนานจะจบลงแบบไหน
หรือจะมีความสัมพันธ์แบบใหม่ที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้นก็ไม่มีใครรู้ ร่วมเดินทางไปด้วยกันนะคะ
สวัสดีค่ะทุกคนเป็นนิยายเรื่องแรกที่ลองนำมาลงที่ Plotter ฝากติดตามด้วยนะคะ
ครั้งนี้เข้าบุกตะลุยดินแดนทะเลทรายกับบ้างที่รับรองว่าร้อนจริง จะเป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างรัฐที่เขียนขึ้นมาเอง...ห่ะๆ ชื่อสถานที่ เมือง กฎหมายตั้งขึ้นตามใจไรต์นะคะ (เป็นเรื่องแต่งขึ้นตามจินตนาการของไรต์นะคะ) ที่จริงแล้วไรต์เองที่เป็นผู้ครองแคว้นตัวจริง
ฝากนิยายเรื่องนี้ไว้อีกสักเรื่องนะคะ ขอบคุณทุกคนที่ติดตามกันมาตลอด ไรต์จะพยายามสร้างสรรค์ผลงานออกมาให้อ่านกันเรื่อยๆ เพราะเหงาอยากคุยกับนักอ่าน
คอมเม้นต์มาคุยกันได้ตลอดนะคะ รักทุกคนค่ะ
[Number17]
3
รักและศรัทธา
ฮันนาเคยถามพ่อว่าทำไมพ่อถึงเลือกที่จะมาอยู่ที่ซัลมาทั้งที่บ้านเกิดของพ่อนั้นแตกต่างจากที่นี่โดยสิ้นเชิง ทั้งความสะดวกสบาย ความอิสระ พ่อมีสิทธิ์ที่จะได้ทำอะไรหลายอย่างตามที่ตัวเองต้องการ รวมถึงเรื่องของการยอมรับจากคนในสังคมที่มีมากกว่า หากว่าพ่อทำงานที่อังกฤษไม่แน่ว่าชื่อของนายกรัฐมนตรีอาจจะมีชื่อโรเจอร์อยู่สักสมัยหนึ่งก็ได้
คำตอบที่ฮันนาได้รับคือที่อังกฤษไม่มีคนที่ชื่อ ราสจี และอาจไม่มีเด็กสาวขี้อ้อนที่ชื่อฮันนา เด็กชายจอมป่วนที่ชื่อโยนาช ที่ที่มีแม่อยู่คือที่ของพ่อ และพ่อก็ไม่เคยเสียใจที่ได้มาอยู่ที่นี่ หลังจากวันนั้นฮันนาก็ไม่เคยถามพ่ออีกเลย และเชื่ออย่างสุดหัวใจว่าผู้ชายที่เธอจะรักและศรัทธาคือผู้ชายตัวสูงตรงหน้าคนนี้
เวลาผ่านไปจนเกือบเที่ยงคุณโรเจอร์ก็ยังไม่ได้ยื่นหนังสือให้คณะกรรมการของรัฐสภาเลยสักคน คณะกรรมการชั้นผู้ใหญ่ที่มีอำนาจสั่งการรองจากนายกรัฐมนตรีห้าท่านที่เรียกว่าสภาที่ปรึกษาพิเศษก็ยังไม่เข้ามาที่ทำเนียบสักคน
ฮันนาไม่สงสัยเลยว่าทำไมรัฐของเธอจึงเป็นรัฐที่ยากจนที่สุดในบรรดารัฐอิสระทั้งสี่ในดินแดนตะวันออก
"ขืนรออยู่แบบนี้คงไม่ได้เรื่องแน่ค่ะ เรากลับกันดีกว่าค่ะคุณพ่อ รออยู่แบบนี้ก็เสียเวลากลับไปที่กระทรวงลองหาวิธีอื่นดูกันดีกว่าค่ะ"
คุณโรเจอร์ถอนหายใจยาว เขาไม่เคยรู้สึกสิ้นหวังต่อกระบวนการของรัฐสภามากเท่าครั้งนี้มาก่อน สุดท้ายแล้วเขาก็ต้องกลับไปที่กระทรวงโดยฝากเรื่องเอาไว้กับเลขาของท่านนายกรัฐมนตรีตามที่บอกเช่นเดิม
•••
กระทรวงการต่างประเทศ รัฐซัลมา
ฮันนาพยายามหาข้อมูลติดต่อกลุ่มแรงงานทางฝั่งนั้น เธอรู้ข้อมูลมาว่ากลุ่มแรงงานที่เดินทางเข้าไปทำงานอย่างผิดกฎหมายในรัฐซารียาสนั้นมีกลุ่มปิดที่รับเฉพาะกลุ่มแรงงานเท่านั้นเอาไว้เพื่อติดต่อสื่อสารและช่วยเหลือกันภายใน เธอพยายามขอเข้ากลุ่มแต่มีการให้ตอบคำถามที่เฉพาะพอสมควร ที่คนไปทำงานเท่านั้นจะรู้ทำให้หญิงสาวไม่สามารถเข้ากลุ่มปิดนี้ได้
"เขตที่คุณทำงานอยู่?.."
"งานที่ทำ?.."
"ค่าแรงที่ได้รับ?..."
ฮันนาพยายามเปิดหาข้อมูลเพื่อนำมาตอบคำถาม
"คำถามสุดท้าย..รหัสผู้จ้างงาน...."
"คืออะไรกัน รหัสโรงงานเหรอ เฮ้อ!" ฮันนาต้องมาตกม้าตายที่คำถามสุดท้ายไม่คิดว่ากลุ่มลับนี้จะมีการป้องกันที่ดีขนาดนี้ เธอเข้าใจว่าคนในกลุ่มจำเป็นจะต้องปิดบังตัวตนเพราะการหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายทุกคนรู้ดีว่ามันผิด แต่ตอนนี้หากพวกเขาถูกตามตัวเจอโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐซารียาส นั่นจะยิ่งอันตรายมากกว่า
เธอลุกขึ้นแล้วเดินไปยังห้องทำงานห้องหนึ่งที่อยู่ข้างๆแล้วเคาะประตูสองสามครั้ง จนมีเสียงตอบกลับจากภายในตอบกลับมา
"เข้ามา"
ฮันนาเปิดประตูเข้าไปในห้องทำงานห้องนั้น คนที่นั่งอยู่เป็นชายหนุ่มหน้าตาคมเข้มรูปร่างผอมสูงเขาสวมแว่นตาหน้าจนมองดวงตาของเขาแทบจะไม่ชัด
"รอบีส ขอปรึกษาหน่อย" หญิงสาวยื่นไอแพดให้กับชายหนุ่มที่อยู่ในห้องนั้นดู
"พอจะรู้จักกลุ่มปิดนี่ไหม นายแฮ็กซ์เข้าไปได้หรือเปล่า เราอยากส่งข่าวให้แรงงานรู้จากในกลุ่มนี้"
"ถ้าเราแฮ็กซ์เข้าไปแล้วปล่อยข่าวเรื่องนี้ไม่นานก็คงโดนเตะออกจากกลุ่มเหมือนเดิมแถมยังจะโดนกล่วหาว่าเป็นพวกไปป่วนในกลุ่มอีก ไม่มีใครเชื่อหรอก"
ฮันนาคิดตามที่รอบีสบอก
"เธอทำลังคิดเรื่องแรงงานที่ลักลอบเข้าไปใช่ไหม"
"ใช่น่ะสิ"
"เรื่องนี้มันใหญ่เกินที่เราจะทำนะ ยังไงก็ต้องส่งเรื่องเข้าไปรัฐสภาให้มีการพูดคุยกันระหว่างรัฐถึงจะพอแก้ปัญหาได้"
"เรากับคุณพ่อเข้าไปที่ทำเนียบแล้ว แต่นายน่าจะรู้ผลดีว่าเป็นยังไง"
"เจ้าหน้าที่สำคัญที่มีส่วนในการตัดสินใจไม่มีใครเข้า.." รอบัสตอบกลับราวกับว่าเรื่องที่เขาพูดมันเป็นเรื่องปกติทั่วไป
"ใช่"
"ถ้าแบบนั้นก็ยากแล้ว ฝ่ายนั้นบอกอะไรบ้างเขาแจ้งมาไหมว่ามีมาตรการยังไง"
"ไม่แน่ใจเลยแต่คุณพ่อกังวลมากคิดว่าน่าจะหนักอยู่ ตั้งแต่ทำงานมาเราไม่เคยเห็นคุณพ่อร้อนใจขนาดนี้" ฮันนานั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้ามกับเพื่อนร่วมงานของเธอ
รอบีสเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายแผนงานที่เก่งไอทีมากๆ วันๆหนึ่งฮันนาไม่ค่อยเห็นรอบีสที่นอกห้องทำงานเลย ภาพประจำที่เธอจะเห็นคือชายหนุ่มที่สวมแว่นหนาเตะนั่งเฝ้าเครื่องคอมพิวเตอร์ของเขาราวกับว่ากลัวมันเดินหายออกไปจากห้องได้เอง
"ถ้าจะให้ดีก็ต้องให้เจ้าหน้าที่ของเราเข้าไปบอกเองที่ซารียาส แบบนั้นคนที่นั่นถึงจะรู้ว่าสำคัญต่อชีวิตของพวกเขาแล้ว"
ฮันนานิ่งเงียบเธอไม่เคยนึกถึงเรื่องนี้มาก่อน ความหมายของรอบีสคือต้องมีใครในรัฐบาลสักคนที่เสียสละเข้าไปเป็นทูตเจรจา
"เราจะไปเอง"
ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวพร้อมกับขยับแว่นตานิดหน่อย แล้วเขาก็ก้มลงไปสนใจหน้าจอคอมฯของตัวเองต่อ ราวกับว่าคำพูดของฮันนานั้นเป็นเรื่องเพ้อฝัน
อย่าว่าแต่ฮันนาเลย ถึงเป็นคุณโรเจอร์ก็เข้าไปที่ซารียาสไม่ได้ง่ายๆ ใครๆก็รู้ว่ารัฐนั้นเข้มงวดขนาดไหน เรื่องของแรงงานที่ลักลอบเข้าไปอย่างผิดกฎหมายรอบีสคิดว่ารัฐบาลซารียาสเองก็คงรู้ เพียงแต่ปิดหูปิดตาเพราะพวกเขาต้องการแรงงานเข้าไปทำงานในเหมืองทองคำแห่งใหม่ที่ค้นพบไปไม่นานมานี้
ซึ่งที่นั่นเป็นเขตอันตรายช่วงที่บุกเบิกเปิดเหมืองในตอนแรกย่อมมีความสูญเสียเกิดขึ้นแน่ๆ พวกเขาคงได้โอกาสไม่ต้องใช้คนของตัวเองเข้าไปเสี่ยง แล้วพอเปิดเหมืองเรียบร้อยแล้วก็คงผลักดันแรงงานพวกนั่นกลับออกมา คนของซารียาสทั้งเจ้าเล่ห์และโหดร้ายรอบีสได้ยินพ่อของเขาพูดแบบนั้น
•••
"คุณพ่อมีความคิดเห็นว่ายังไงคะ"
ฮันนานำเรื่องนี้มาปรึกษาคุณโรเจอร์อย่างจริงจัง ความฝันอันสูงสุดของเธอคือการได้เป็นนักการทูต ถึงแม้ว่าดินแดนบ้านเกิดที่เธออาศัยอยู่จะไม่ค่อยเอื้อกับความสำพันธ์ระหว่างรัฐสักเท่าไหร่ แต่ถ้าหากมีโอกาสสักครั้งฮันนาก็อยากจะลองดู
"พ่อคิดว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจดีนะ แต่สำหรับคนที่จะไปทำหน้าที่นี้ ไม่ใช่หนูแน่นอนฮันนายอดรัก" หญิงสาวหน้าเจื่อนลงทันทีที่ได้ยินคำพูดนั้น
"ฮันนาพ่อรู้ความตั้งใจของลูกดีแต่ลูกเป็นยอดดวงใจของพ่อกับแม่ พ่อเป็นห่วงชาวเมืองซัลมาก็จริงและพ่อก็จะทุ่มสุดกำลังในการช่วยเหลือในครั้งนี้ แต่พ่อคงไม่ส่งหนูไปเป็นทูตแน่ๆ"
ฮันนาไม่พูดต่อ เธอเข้าใจความรู้สึกของผู้เป็นบิดาดี หากจะพูดตามความจริงความสัมพันธ์ระหว่างสองรัฐไม่ถึงกับเป็นศัตรูแบบที่จะรบรากันซึ่งหน้าด้วยอาวุธแต่ก็ไม่ใช่พันธมิตรที่ดีงามต่อกันแน่ๆ
ความช่วยเหลือเพียงเสี้ยวอันน้อยนิดที่ซารียาสส่งให้ซัลมา เขียนอยู่ในพันธสัญญาห้าร้อยปีที่บรรพบุรุษของทั้งสี่รัฐเขียนเอาไว้ และสัญญานั้นทางซารียาสก็อยากจะฉีกทิ้งเต็มทน เหตุผลเพราะเกิดความแย้งในเรื่องการใช้เส้นทางเมื่อสี่สิบปีก่อน
ซารียาสต้องการลำเลียงแร่ทองคำเพื่อส่งไปยังสนามบินดูไบซึ่งถนนหลักต้องตัดผ่านซัลมา พวกเขาขอความอนุเคราะห์มาทางรัฐบาลแต่ซัลมาถือโอกาสเก็บค่าผ่านทางสูงลิ่ว ซารียาสจำต้องจ่ายเพราะต้องทำเวลาหากตัดอ้อมไปทางอื่นจะทำให้การขนส่งล่าช้าจนทำให้เกิดปัญหาใหญ่ได้ ทางรัฐบาลซารียาสเก็บความแค้นนี้ไว้ในใจ และพวกเขาได้ทำการตัดถนนเส้นใหม่พร้อมกับพัฒนาการคมนาคมที่รวดเร็วยิ่งขึ้นจนในปัจจุบัน ไม่ต้องใช้ถนนเส้นที่ตัดผ่านซัลมาอีกต่อไป
ประวัติศาสตร์ของทั้งสองรัฐเป็นคู่รักคู่แค้นกันมายาวนาน และส่งต่อสปีชีส์กันมาทางสายเลือดสืบต่อมา
ฮันนาจำต้องกลับมานั่งที่โต๊ะทำงานของตนทำอย่างอื่นเท่าที่จะทำได้ ติดต่อกับทุกคนที่เธอพอจะขอความช่วยเหลือเรื่องนี้ได้
สามสิบนาทีผ่านไปเธอเห็นว่าคุณพ่อของเธอรีบเดินลงไปจากตึกอย่างรีบร้อน ฮันนาวิ่งตามออกไปดูก็ไม่ทันแล้วเพราะคุณโรเจอร์นั่งรถออกจากกระทรวงไปอย่างรวดเร็ว
"พี่มานีนค่ะ ท่านรัฐมนตรีออกไปไหนเหรอคะ" หญิงสาวถือโอกาสสอบถามเลขาของคุณพ่อที่เดินผ่านมาพอดี
"เห็นว่าเรื่องที่เสนอไปมีคำสั่งออกมาแล้วค่ะ ท่านก็เลยรีบออกไปฟังนโยบาย"
"อ่อ! ค่ะ" ฮันนาตอบกลับเล็กน้อยแต่ในใจของเธอตื่นเต้นอยากรู้ว่าทางรัฐจะจัดการยังไงบ้าง แต่ตอนนี้เธอทำได้เพียงรอฟังข่าวจากคุณโรเจอร์เท่านั้น
ระหว่างที่รอฮันนาเปิดศึกษาข้อมูลของซารียาสแต่เว็ปไซต์บางแห่งถูกล็อคข้อมูลเอาไว้ เธอจำต้องขอความช่วยเหลือจากรอบีส ชายหนุ่มผู้เก่งกาจด้านการสืบค้นข้อมูลเพื่อนร่วมงานของเธอ
"ฉันไม่คิดว่าเธอจะเสนอเรื่องนี้จริงๆนะฮันนา"
"ทำไมล่ะ การเชื่อมความสัมพันธ์ทางการทูตทั่วโลกก็ใช้กัน แต่ที่นี่กลับนึกถึงมันเป็นเรื่องสุดท้าย ฉันเองก็ไม่เข้าใจ"
"เธอไม่เข้าใจอยู่แล้วเพราะเธอมีคุณพ่อที่เป็นชาวยุโรปผู้มองโลกในแง่ดี"
ฮันนาค้อนควับเมื่อโดนแขวะจากชายหนุ่ม เธอได้ยินทัศนคติเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างรัฐแบบนี้จากคนสูงอายุที่ไม่ยอมเปลี่ยนความคิด ไม่นึกว่าจะได้ยินจากชายหนุ่มวัยแค่ยี่สิบปลายๆ
"ถ้าเราไม่รู้จักกันมาก่อนฉันจะคิดว่านายกำลังบูลลี่ฉันนะรอบีส"
"บูลลี่อะไรกันล่ะ ไม่รู้สึกถึงความอิจฉาหรือไง ไม่รู้สิ ถ้าฉันเป็นครอบครัวคนมีฐานะแบบเธอฉันคงย้ายไปอยู่ที่โน้นแล้ว"
"ไม่มีที่ไหนเหมือนบ้านหรอกน่ารอบีส ฉันเกิดที่นี่ฉันอยากเห็นซัลมาดีขึ้น" ฮันนาพูดขึ้นดวงตาที่แน่วแน่ของเธอทำให้รอบีสเลิกเถียงต่อ และหันมาสืบค้นข้อมูลให้ตามที่เธอต้องการ
"ขอแนะนำนะ ถ้าเธอจะไปที่นั่นเธออ่านแค่นี้ไม่ได้หรอก เธอจะต้องรู้ประวัติศาสตร์ของดินแดนนี้ด้วย และก็ต้องศึกษารากเหง้าความขัดแย้งของทั้งสองรัฐ ไม่แน่พอเธอได้รู้แล้วอาจจะเปลี่ยนใจเรื่องเจราทางการทูตอะไรนั่นเลยก็ได้ เพราะความเป็นไปได้มันแทบจะเท่ากับศูนย์"
รอบีสกำกำปั้นแน่นยกโชว์ให้ฮันนาเห็นถึงเปอร์เซ็นต์เรื่องที่เธอจะทำในครั้งนี้ หญิงสาวเดินเข้าไปแล้วเอามือแกะนิ้วที่กำอยู่ของรอบีสขึ้นหนึ่งนิ้ว
"ฉันจะเป็นคนงัดเปอร์เซ็นนั้นขึ้นมาเอง แบบนี้ไง" หญิงสาวยิ้มขึ้นอย่างอารมณ์ดี เธอมีความมั่นใจเต็มที่บวกความมุ่งมั่นเต็มเปี่ยม
"เหอะ!" รอบีสแค่นหัวเราะในลำคอ แล้วส่ายหน้าน้อยๆ
สองคนก้มลงอ่านข้อมูลที่หามาได้ต่อ ฮันนาแอบแปลกใจที่รอบีสนั้นแสดงออกตลอดว่าไม่ชอบรัฐซารียาสแต่ดูเหมือนเขาจะมีข้อมูลของเมืองนั้นอยู่ในหัวมากมาย แถมอยู่ในขั้นรู้ลึกรู้จริงอีกด้วย
"ตระกูลอัลฮาซอ ผู้ก่อตั้งรัฐซารียาส"
ฮันนาสนใจข้อความนี้ หากต้องการรู้จักที่ไหนก็ต้องศึกษาผู้ที่ปกครองที่นั่น เธอเลื่อนหน้าจอไปเรื่อยๆค่อยๆอ่านช้าๆไม่อยากให้ข้ามแม้แต่ตัวอักษรเดียว
...............................