นักการทูตสาวจากเมือง'ซัลมา' ต้องเข้าไปเชื่อมสัมพันธไมตรีกับรัฐใหญ่อย่าง'ซารียาส' แต่ภายใต้การเดินทางครั้งนี้เธอมีภารกิจอย่างอื่นที่เปิดเผยไม่ได้ "ฮันนา"จะทำงานนี้สำเร็จหรือไม่เมื่อมี "รียา" ผู้ปกครองสูงสุดของซารียาสเป็นกระดูกชิ้นใหญ่ที่คอยขัดขวาง
รัก,หญิง-หญิง,ครอบครัว,ยุคปัจจุบัน,ดราม่า,ฟินGL,ฟิน,หวาน,คลั่งรักขั้นสุด,รัฐ,ทะเลทราย,คลั่งรัก,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
นักการทูตสาวจากเมือง'ซัลมา' ต้องเข้าไปเชื่อมสัมพันธไมตรีกับรัฐใหญ่อย่าง'ซารียาส' แต่ภายใต้การเดินทางครั้งนี้เธอมีภารกิจอย่างอื่นที่เปิดเผยไม่ได้ "ฮันนา"จะทำงานนี้สำเร็จหรือไม่เมื่อมี "รียา" ผู้ปกครองสูงสุดของซารียาสเป็นกระดูกชิ้นใหญ่ที่คอยขัดขวาง
ผู้แต่ง
Number17
เรื่องย่อ
ดินแดนทะเลทรายอันไกลโพ้น มีรัฐอิสระที่แยกตัวออกมาปกครองตนเองอยู่สี่รัฐ ซารียาส อะมาลี ยาซีส และซัลมา
ซารียาส มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดและอุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่ประเมินค่าไม่ได้ อย่างน้ำมันและทองคำ เป็นรัฐที่มั่งคั่งและร่ำรวย รัฐบาลมีการจัดการที่ดีให้ชาวเมืองได้รับสวัสดิการที่เหมาะสม ภูเขาสูงย่อมมีเหวลึก เมื่อมีซารียาสที่เป็นดั่งแดนสวรรค์ ซัลมา รัฐเล็กๆที่มีพื้นที่ติดต่อกับซารียาสก็เป็นดั่งเหวลึก รัฐบาลซัลมาภายใต้การปกครองในยุครัฐบาลปัจจุบันชาวเมืองห่างไกลคำว่าสุขสบายไปมาก ผู้คนชั้นแรงงานส่วนใหญ่อดอยาก จึงมีปัญหาแรงงานที่ล้นทะลักเข้าไปทำงานยังซารียาสอย่างผิดกฎหมายมากขึ้นทุกปี
ปัญหาเริ่มบานปลายเมื่อคนลักลอบไปทำงานมากขึ้นและเริ่มส่งผลต่อแรงงานของคนพื้นถิ่น เป็นเหตุให้รัฐบาลซารียาสต้องเร่งผลักดันพวกเขาออกไป แต่มันไม่ใช่แค่นั้นเมื่อบทกำหนดโทษของผู้กระทำความผิดตามกฎหมายของซารียาสนั้นแตกต่างออกไป นั่นก็คือการเฆี่ยนด้วยแส้ รวมถึงมีข่าวจากวงในว่าจะมีการปราบปราบแรงงานอย่างเข้มงวด
เป็นเหตุให้ ฮันนา หญิงสาวลูกครึ่งชาวซัลมา+อังกฤษที่ทำงานอยู่ในกระทรวงการต่างประเทศของซัลมาจะต้องหาวิธีเข้าไปช่วยแรงงานคนของรัฐให้กลับมาก่อนที่จะมีประกาศกวาดล้างอย่างจริงจัง
เธอตัดสินใจเข้าไปเป็นทูตเพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรีที่ไม่ดีนักของทั้งสองรัฐ เบื้องหลังเพื่อช่วยเหลือคนงานอย่างลับๆ แต่ทุกอย่างที่เธอทำอยู่ภายใต้การจับตามองของผู้ครองแคว้นสุดเข้มงวดอย่าง รียา ผู้ครองแคว้นลำดับที่สิบสามของซารียาส มีข่าวลือหนาหูออกมาว่าเธอเป็นพวกอนุรักษ์นิยมสุดโต่งและไม่ชอบชาวซัลมาอย่างมาก เพราะเหตุขัดแย้งเมื่อหลายสิบปีก่อน
สาวนักการทูตจากซัลมาจะทำภารกิจของเธอสำเร็จหรือไม่ การเชื่อมความสัมพันธ์ทั้งสองรัฐที่มีปัญหากันมายาวนานจะจบลงแบบไหน
หรือจะมีความสัมพันธ์แบบใหม่ที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้นก็ไม่มีใครรู้ ร่วมเดินทางไปด้วยกันนะคะ
สวัสดีค่ะทุกคนเป็นนิยายเรื่องแรกที่ลองนำมาลงที่ Plotter ฝากติดตามด้วยนะคะ
ครั้งนี้เข้าบุกตะลุยดินแดนทะเลทรายกับบ้างที่รับรองว่าร้อนจริง จะเป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างรัฐที่เขียนขึ้นมาเอง...ห่ะๆ ชื่อสถานที่ เมือง กฎหมายตั้งขึ้นตามใจไรต์นะคะ (เป็นเรื่องแต่งขึ้นตามจินตนาการของไรต์นะคะ) ที่จริงแล้วไรต์เองที่เป็นผู้ครองแคว้นตัวจริง
ฝากนิยายเรื่องนี้ไว้อีกสักเรื่องนะคะ ขอบคุณทุกคนที่ติดตามกันมาตลอด ไรต์จะพยายามสร้างสรรค์ผลงานออกมาให้อ่านกันเรื่อยๆ เพราะเหงาอยากคุยกับนักอ่าน
คอมเม้นต์มาคุยกันได้ตลอดนะคะ รักทุกคนค่ะ
[Number17]
5
นักการทูตสาวสวย
"ส่งทูตมาเพื่อเจริญสันถวไมตรี..น่าขำจริงๆ ตอบกลับไปว่าเราขอปฏิเสธ เราอ่านแค่ประโยคแรกก็แทบจะสำรอกออกมาแล้ว คำว่าหลอกลวงลอยเด่นขึ้นกลางตัวหนังสือเลย ท่านไม่เห็นเหรอ" รียาปิดแฟ้มแล้วโยนออกไปตรงหน้าด้วยความไม่พอใจ แค่เพียงได้ยินชื่อซัลมาก็ทำให้อาการของผู้ครองแคว้นแสดงออกมาอย่างปิดไม่อยู่
"ท่านจะยกข้อไหนเป็นเหตุแห่งการปฏิเสธทูตสันถวไมตรีตามสนธิสัญญาวาฟาฮ์"
"เหตุผลที่ว่ารังเกียจ มากพอไหม"
"เห็นทีว่าคงจะไม่พอ"
รียาหันควับไปยังนายพลผู้เฒ่าประจำรัฐผู้เป็นสหายของบิดาด้วยสีหน้าไม่พอใจ
"ผมรู้ว่าท่านรู้สึกยังไงแต่เป็นไปได้ว่าเรื่องนี้ทางซัลมาคงส่งหนังสือแจ้งไปยังทุกรัฐแล้วว่าจะมีการส่งทูตมา"
"แล้วไง! เราจำเป็นต้องกลัวพวกเขาอย่างนั้นเหรอ"
"ไม่ใช่แบบนั้นหรอกท่านรียา แต่จะไม่ดีกว่าหรือถ้าเราจะให้บทเรียนกับซัลมาบ้าง ที่ผมคิดเอาไว้ทางซัลมาคงจะหาวิธีประวิงเวลาเพื่อช่วยเหลือแรงงานของตนที่เข้ามาอย่างผิดกฎหมายแน่ๆ น่าสนุกดีนะที่ท่านจะได้เห็นหนูมาวิ่งเล่นลนลานในกรงที่ท่านทำไว้"
รียาหันไปมองหน้านายพลชราอีกครั้ง รอยยิ้มเล็กๆผุดขึ้นจากริมฝีปากจนแทบสังเกตไม่เห็นแต่คำพูดนั้นดูเหมือนจะเป็นที่น่าพอใจ
"ท่านคิดแบบนั้นเหรอ"
นายพลฮารีสก้มหัวลงเล็กน้อยยืนยันคำพูดของตน
"ตาแก่เจ้าเล่ห์ทำไมเราจะไม่รู้ว่าท่านมีความสัมพันธ์อะไรกับรัฐมนตรีการต่างประเทศของซัลมา"
"เรื่องนี้ผมไม่คิดว่าจะปิดท่านได้อยู่แล้ว"
"เฮ้อ! แต่ก็เอาเถอะ ความคิดของท่านก็ดีเหมือนกันเราอยากจะดูพวกเขาเล่นะครสักหน่อย ยังไงสุดท้ายคนที่จะตัดสินใจว่าจะทำหรือไม่ทำอะไรก็เป็นเรา"
"ใช่ครับ"
"ให้พวกเขาเดินทางมาได้"
"ผมจะกลับไปแจ้งเดี๋ยวนี้" นายพลฮารีสกำลังจะถอยเดินออกไป
"เดี๋ยวท่านนายพล"
"ครับ"
"ให้พวกเขามารอที่ด่านข้ามแดน เราจะส่งคนไปรับเอง" รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นมาบนใบหน้าสวยของผู้ครองแคว้น นายพลฮารีสฉุกคิดเล็กน้อยก่อนจะก้มหน้ารับคำแล้วเดินออกไป
นายพลฮารีสถอนหายใจยาวพลางคิดในใจส่งไปถึงคุณโรเจอร์ว่าเขาทำได้ดีที่สุดแล้ว หลังจากนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับความสามารถของคณะทูตจากซัลมาแล้วว่าจะเป็นอย่างไร
รียานั่งลงเปิดดูแฟ้มรายงานอีกครั้งหนึ่ง พร้อมกับอ่านอย่างละเอียดอีกครั้ง ในเมื่อเธอตัดสินใจให้คณะทูตเข้ามาในนี้เธอจะต้องดูข้อมูลอย่างละเอียด ด้วยอำนาจที่ถืออยู่ไม่อนุญาตให้เธอทำอะไรผิดพลาดเด็ดขาด เพราะมันหมายถึงบ้านเมืองของเธอ
"ฮันนา อามาดีน เคนเดิล" มือเรียวคลิกไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ทันทีที่เธออ่านชื่อจบ
"จบปริญญาโทรัฐศาสตร์ที่ประเทศอังกฤษ อายุยี่สิบหกปี พูดได้สี่ภาษา" รียาอ่านประวัติของนักการทูตสาวสวยที่ทางซัลมาส่งมา เธอมองรูปของฮันนาอยู่นาน หญิงสาวคนนี้เป็นแบบที่รียาไม่เคยเจอ แค่ดูจากรูปก็พอจะรู้แล้วว่าเป็นคนประเภทที่ไม่ยอมคนโดยเฉพาะจมูกเชิดๆนั่น
รียานั้นเรียนรู้ทุกศาสตร์ทุกแขนง เธอเตรียมตัวเพื่อที่จะขึ้นปกครองที่นี่มาตั้งแต่เกิด ตั้งแต่รู้ว่าตนเองเป็นบุตรคนแรกของผู้ครองแคว้น ดังนั้นแค่การดูลักษณะคนแค่ปรายตาเดียวก็แทบจะมองทะลุไปถึงในความคิดแล้ว ไม่มีอะไรภายใต้ซารียาสที่จะหลบหลีกสายตาของรียาไปได้
"มาดูกันว่าพวกเธอจะมาไม้ไหน แม่สาวเลือดผสม" รียาพูดพร้อมกับจ้องเขม็งไปยังรูปของฮันนา รอยยิ้มจางๆเจืออยู่ในนั้น ความรู้สึกตื่นเต้นเหมือนกับเสือร้ายที่มองเหยื่อ
เรื่องของแรงงานที่ลักลอบเข้ามาที่ซารียาสอย่างผิดกฎหมายรียารู้มานานแล้ว แต่ในเมื่อยังไม่มีรายงานเธอก็อยากจะให้โอกาสเจ้าหน้าที่ของเธอเองได้ทำงานได้อย่างเต็มที่ หากจะเทียบกับเรื่องอื่นๆ เรื่องนี้ถือว่ายังไม่เร่งด่วนสักเท่าไหร่
คงจะเป็นการคานอำนาจกันเองระหว่างท่านนายพลกับรัฐมนตรีเศรษฐกิจของเธอมากกว่า เป็นแบบนี้ก็ดี มีสองฝั่งที่คอยตรวจสอบการทำงานของกันและกันจะได้ไม่มีส่วนไหนหละหลวม เธอเองก็คอยดูอยู่ห่างๆ หากเป็นเรื่องใหญ่ที่เกินควบคุมเธอจึงจะลงไปดูส่วนนั้น รียารู้ว่าตนเองสามารถแก้ไขได้
"รถพร้อมหรือยัง" ผู้ครองแคว้นกดสัญญาณพร้อมกับกรอกเสียงลงไปสอบถามเจ้าหน้าที่ด้านล่างตึกทำเนียบ"
"เรียบร้อยแล้วครับท่าน"
รียาปิดคอมฯแล้วหยิบเอาแจ็คเกตที่พาดอยู่เก้าอี้ทำงานมาสวม หมวกแก็ปสีดำที่มีตรา zry1 ตรงกลางถูกหยิบขึ้นมาด้วย ร่างสูงเดินออกไปจากประตูบานใหญ่ผู้คนที่อยู่ด้านนอกก้มหน้าลงทุกคนเมื่อเธอเดินผ่าน เสียงรองเท้าบูททหารที่กระทบกับพื้นหินอ่อนราคาแพงของทำเนียบรัฐบาลซารียาสดังก้องกังวาล ก้าวย่างแต่ละก้าวมั่นคงและสม่ำเสมอ ถึงใครที่ไม่รู้ว่าเธอเป็นใครแต่แค่เดินผ่านก็เหมือนจะรับรู้ได้ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา
รถฮัมวี่หุ้มเกราะสีเขียวเข้มจอดเรียงอยู่หน้าทำเนียบนับได้สิบสองคัน ทุกคันมีอาวุธครบพร้อมใช้งานราวกับว่าจะไปทำสงครามย่อมๆแต่ก็เหมาะสมกับขบวนเดินทางของผู้นำสูงสุดของแคว้น รียาเดินไปขึ้นรถคันกลางๆของขบวนที่ไม่มีใครดูทันว่าเป็นคันที่เท่าไหร่ แต่ถึงดูทันพอขบวนรถเคลื่อนตัวออกไปก็จะมีการสลับตำแหน่งกันอยู่ดี ไม่ได้ขับออกไปตามแถวตามลำดับแบบนั้น
รถทั้งหมดมุ่งหน้าขึ้นทางเหนือของซารียาสไปยังแนวเขาที่เป็นเส้นกั้นชายแดนนะหว่างซารียาสกับรัฐยาซีส เป็นสถานที่ที่เพิ่งจะค้นพบสินแร่ทองคำแห่งใหม่ ตอนนี้เริ่มก่อตั้งเหมืองถาวร รียาต้องการเข้าไปดูความคืบหน้าของโครงการ
•••
ขบวนรถฮัมวี่หุ้มเกราะของผู้ครองแคว้นซารียาสเดินทางเข้ามายังเขตหุบเขาไรอา เขตที่ค้นพบสินแร่ทองคำขนาดใหญ่ เป็นการค้นพบที่แทบจะทำให้ซารียาสกลายเป็นเมืองมหาอำนาจโดยสิ้นเชิงในดินแดนนี้ ขุมทรัพย์มูลค่ามหาศาลที่ผุดพ้นขึ้นมาจากใต้ดิน รัฐบาลเข้ามาบริหารจัดการอย่างทันท่วงที
และทรัพยากรเหล่านี้จะถูกแปลสภาพและจัดสรรกลายไปเป็นเม็ดเงินเพื่อนำมาพัฒนาประเทศ ระยะเวลาสิบปีตั้งแต่รียา อัลฮาซอขึ้นปกครองที่นี่ ความเจริญรุ่งเรืองก็เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด ใครจะคิดว่าหญิงสาวแห่งตระกูลผู้ก่อตั้งรัฐที่อายุเพียงยี่สิบสองปีตอนที่เธอขึ้นปกครองรัฐครั้งแรก จะพาซารียาสอยู่รอดมาได้จนถึงตอนนี้
ขั้วอำนาจเก่าหลายคนเคยคัดค้านการขึ้นปกครองเป็นผู้นำสูงสุดของรียา และเสนอให้น้องชายของรียาที่อายุน้อยกว่าเธอสองปีอย่าง อัคนัต ฮะซีฟ อัลฮาซอ โดยอ้างเรื่องความเหมาะสมหลายอย่าง แต่ข้อบัญญัติสูงสุดในการปกครองของซารียาสนั้นแสนเรียบง่าย แค่เกิดก่อนคุณก็ได้ครอบครองไป เพราะทุกคนที่นี่เชื่อว่าพระเจ้าประทานทุกสิ่งให้กับคนที่มาก่อน
ถ้าคุณต้องการครอบครองก็ต้องแข่งขันกันตั้งแต่ยังไม่เกิด หรือไม่เช่นนั้นก็แค่รอให้คนเกิดก่อนตายไปก่อนที่มีทายาทเท่านั้นคุณก็จะได้ครอบครอง หากรอไหว
เป็นอันหมดข้อกังขาเรื่องการขึ้นปกครองรัฐ และคนที่มีส่วนสำคัญในการสนับสนุนรียาก็คือผู้มีอำนาจสองขั้วอย่างท่านนายพลฮารีสผู้กุมบังเหียนด้านความมั่นคง และท่านวาเฟียคหบดีผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจ ทำให้สิบปีมานี้ซารียาสนั้นเจริญขั้นสูงสุด
ทั้งยังมาค้นพบเหมืองทองคำที่ประเมินมูลค่าไม่ได้อีก ยิ่งไม่มีอะไรที่จะมาหยุดยั้งซารียาสได้ในแถบนี้
ขบวนรถมาจอดอยู่ที่เต้นท์บัญชาการ รียาลงจากรถคันหนึ่งเธอสวมหมวกเอาไว้แล้วเดินเข้ามายังเต้นท์บัญชาการ เจ้าหน้าที่ที่ทำงานอยู่หยุดมือทำความเคารพ
"ทำงานต่อเถอะ เราแค่มาดู"
"ครับท่านรียา"
รียาเงยหน้าขึ้นมองดูหุบเขาหินที่สูงกว้างใหญ่ไปสุดลูกหูลูกตาเบื้องหน้า มีการจัดการพื้นที่ด้านล่างไปเพียงไม่กี่เปอร์เซ็น แต่นั่นก็สามารถขุดเอาทองคำขึ้นมาได้แล้วหลายตัน หากหุบเขาทั้งแถบนี้เป็นทองคำทั้งหมด ซีกโลกฝั่งนี้ก็คงอยู่ในมือของรียา
"ท่านรียามีรายงานพบความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนใกล้ฝั่งชายแดนของยาซีส เรดาห์ของเราตรวจจับได้เมื่อวานนี้ครับ"
"ส่งคนไปตรวจสอบว่าเป็นพวกไหน ถ้าข้ามมาเขตเราก็จัดการได้ทันที"
"ครับผม" นายทหารวิ่งออกไปทำงานตามคำสั่งทันที
รียายกกระบอกน้ำขึ้นดื่มวันนี้อากาศร้อนระอุเกือบสี่สิบองศา
"ช่วยด้วยค่ะคนเป็นลมๆ" เสียงร้องตะโกนมาจากหน้างานบอกว่ามีคนเป็นลม รียาเงยหน้าขึ้นมองไปตามเสียงเรียก เจ้าหน้าที่รีบวิ่งเข้าไปดูทันที อาจจะเพราะสภาพอากาศวันนี้ก็เป็นได้ รียาผุดลุกขึ้นกำลังจะเดินออกไปดูเหตุการณ์
"ท่ารียาอย่าไปเลยครับ หน้างานทั้งร้อนทั้งฝุ่นนะครับ" ชายคนหนึ่งที่ดูการแต่งตัวเหมือนจะเป็นระดับหัวหน้างานรีบร้องห้ามเมื่อเห็นว่ารียากำลังจะเดินออกไป ทหารที่ติดตามมาด้วยกระชากตัวของชายคนนั้นกระเด็นออกไปทันทีทั้งที่ยังไม่มีการสั่งการใดๆ แค่หางตาของเธอที่เหลือบมองอย่างไม่พอใจเท่านั้นทหารที่ติดตามก็รู้หน้าที่ของตน
"ทั้งร้อนทั้งฝุ่นอย่างนั้นเหรอ เหอะ!" รียาพูดตามชายคนนั้นเสียงเบาแล้วยกมุมปากขึ้นเป็นเชิงเย้ยหยัน ตลอดชีวิตของรียาอยู่ในค่ายทหารที่ฝึกหนักที่สุดของซารียาส หากจะเทียบกับเหมืองนี่ถือว่าที่นี่เป็นห้องนอนนุ่มๆสำหรับเธอเลยด้วยซ้ำ
หญิงสาวเดินตรงไปยังที่เกิดเหตุพร้อมทหารอีกสองนาย หัวหน้างานคนเมื่อครู่ลุกขึ้นปัดฝุ่นออกจากกางเกงมองตามเธอไปด้วยใบหน้ากังวล เขามองซ้ายมองขวาก่อนจะตัดสินใจว่าจะต้องวิ่งออกไปจากเหมืองนี้ให้เร็วที่สุด
เหมือนกับโดนอ่านความคิด คอเสื้อของชายหนุ่มเมื่อครู่ถูกยกขึ้นจากนายทหารร่างยักษ์ที่สูงถึงสองเมตร
"จะไปไหนคุณหัวหน้างาน"
"ปะ ปะ เปล่าครับ ผมจะไปดูงานด้านโน้น"
"ฝั่งโน้นยังไม่มีการขุดเจาะจะไปทำไม หน้างานอยู่ด้านนี้"
"ฮือ! ปล่อยผมเถอะครับผมขอร้อง" ชายหนุ่มที่ตัวห้อยต่องแต่งอยู่ยกมือขึ้นไหว้พลางขอร้องนายทหารผู้นั้น
"ห้ามไปไหนจนกว่าจะมีคำสั่งจากท่านรียา" ร่างของชายหนุ่มหัวหน้างานถูกโยนไปไว้ข้างเต้นท์ตอนนี้เขาไม่มีสิทธิ์ไปไหนทั้งนั้น
ฝ่ายหน้างานรียาไปถึงก็เห็นว่ามีผู้หญิงตัวเล็กคนหนึ่งเป็นลมอยู่โดยมีเจ้าหน้าที่แพทย์ประจำเหมืองปฐมพยาบาลอยู่
"คนจากหน่วยไหน มีประกันสุขภาพไหม"
"เรียนท่านรียา ไม่มีบัตรประจำตัวครับ" นายแพทย์วิดาด ตอบกลับมาหลังจากเช็คทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว
"ไม่มีบัตรเหรอ" รียาเดินไปยืนอยู่ตรงหน้าหญิงสาวอีกคนที่พยายามประคองคนป่วยเอาไว้ เธอเงยหน้าขึ้นมองร่างสูงที่มองลงมาสายตาหวาดหวั่น ผู้หญิงคนนี้น่ากลัวจริงๆหญิงสาวคิดในใจ
"พวกเธอเป็นใครมาจากไหน และมีกันทั้งหมดกี่คนบอกมาเดี๋ยวนี้"
"ระ ระ เราเป็นคนเผ่าฮีลาทางใต้ของซารียาส คะ ค่ะ" หญิงสาวตอบเสียงสั่น เผ่าฮีลาเป็นชนเผ่าพื้นเมืองดั้งเดิมของซารียาสส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ในป่าทางใต้ คนที่พาพวกเธอมาบอกให้พูดแบบนั้น"
รียานั่งคุกเข่าลงมองใบหน้ามอมแมมของหญิงสาวที่อายุอยู่ราวๆไม่เกิดยี่สิบห้า พร้อมกับยิ้มขึ้น ถึงจะเป็นรอยยิ้มแต่ดูเหมือนว่าฝ่ายที่มองดูจะไม่ได้รู้สึกสบายใจ
..............................