นักการทูตสาวจากเมือง'ซัลมา' ต้องเข้าไปเชื่อมสัมพันธไมตรีกับรัฐใหญ่อย่าง'ซารียาส' แต่ภายใต้การเดินทางครั้งนี้เธอมีภารกิจอย่างอื่นที่เปิดเผยไม่ได้ "ฮันนา"จะทำงานนี้สำเร็จหรือไม่เมื่อมี "รียา" ผู้ปกครองสูงสุดของซารียาสเป็นกระดูกชิ้นใหญ่ที่คอยขัดขวาง
รัก,หญิง-หญิง,ครอบครัว,ยุคปัจจุบัน,ดราม่า,ฟินGL,ฟิน,หวาน,คลั่งรักขั้นสุด,รัฐ,ทะเลทราย,คลั่งรัก,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ประกันรักดินแดนเถื่อนนักการทูตสาวจากเมือง'ซัลมา' ต้องเข้าไปเชื่อมสัมพันธไมตรีกับรัฐใหญ่อย่าง'ซารียาส' แต่ภายใต้การเดินทางครั้งนี้เธอมีภารกิจอย่างอื่นที่เปิดเผยไม่ได้ "ฮันนา"จะทำงานนี้สำเร็จหรือไม่เมื่อมี "รียา" ผู้ปกครองสูงสุดของซารียาสเป็นกระดูกชิ้นใหญ่ที่คอยขัดขวาง
ดินแดนทะเลทรายอันไกลโพ้น มีรัฐอิสระที่แยกตัวออกมาปกครองตนเองอยู่สี่รัฐ ซารียาส อะมาลี ยาซีส และซัลมา
8
เมืองหลวงซารียาส
ฮันนาลืมตาตื่นขึ้น รอบตัวของเธอเหมือนกับว่ามันหมุ่นได้ เธอหลับตาลงอีกครั้งแล้วใช้มือคลึงที่ศีรษะของตัวเองก่อนจะค่อยๆตั้งสติ ภาพสุดท้ายคือตอนที่เธอเข้าไปในกระโจมหมู่บ้านในป่าที่ไหนสักแห่งกับทหารหญิงตัวสูงคนหนึ่ง หญิงสาวเอามือลูบตัวเองก็พบว่าเธอยังไม่ตาย ฮันนามองไปรอบๆที่นี่ไม่ใช่กระโจมมืดๆแต่เป็นห้องนอนสีขาวที่กว้างมากๆ ภายในห้องตกแต่งด้วยความปราณีต เหมือนกับโรงแรมหรูๆราคาแพง
"ที่นี่ที่ไหน" ฮันนายันตัวลุกขึ้น ชุดที่เธอสวมใส่ยังคงเป็นชุดหนังเต็มตัวสีแดงที่เธอใส่มาเมื่อเช้า ตอนนี้หญิงสาวรู้สึกเหนียวตัวไปหมด แต่เรื่องของตัวเองเอาไว้ก่อนฮันนาอยากจะรู้ว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน
ก๊อกๆๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้นยังไม่ทันที่คนด้านในจะเอ่ยอนุญาตหญิงสาวสองคนก็เปิดประตูเข้ามาทันที ทั้งสองสวมชุดคล้ายกันเหมือนจะเป็นฟอร์มของแม่บ้านหรือพนักงาน ฮันนาพยายามสังเกตทุกอย่างเท่าที่ทำได้
"คุณผู้หญิงหิวหรือเปล่าคะ"
พอได้ยินคำถามก็เหมือนว่าท้องของฮันนาจะตอบแทนปาก มันร้องประท้วงขึ้นจนเธออายหน้าแดง
"เอ่อ! นิดหน่อยค่ะ ว่าแต่ที่นี่ที่ไหนคะ แล้วตอนนี้กี่โมงแล้ว ฉันมาอยู่นี่ไก้ยังไง"
สองสาวหันมองหน้ากันท่าทางอึกอัก
"คุณผู้หญิงอาบน้ำแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้า ลงไปข้างล่างก่อนเถอะค่ะ" เหมือนว่าสองสาวเองก็ไม่สามารถพูดอะไรได้มาก
ฮันนามองไปยังชุดที่ทั้งสองคนเตรียมเข้ามาให้ ดูเพียงเผินๆก็รู้ว่าเป็นชุดประจำชาติของรัฐซารียาส หรือว่าตอนนี้เธออยู่ที่นี่แล้ว ความสงสัยหลายอย่างเกิดขึ้น ตอนนี้เธอคงต้องทำตามที่สองสาวบอกก่อนจะดีที่สุดแล้วค่อยๆหาคำตอบ สิ่งที่สำคัญคือเธอยังมีชีวิตอยู่
ชุดหนังสีแดงถูกผลัดเปลี่ยนออกไปหลังจากอาบน้ำชำระร่างกายเรียบร้อย อาการมึนศีรษะเมื่อครู่ก็เหมือนจะดีขึ้น หากมีอะไรตกถึงท้องฮันนาคิดว่าร่างกายของเธอคงจะมีเรี่ยวแรงมากขึ้น
ชุดกระโปรงยาวรุ่ยร่ายทรงเฉพาะไม่ใช่ชุดที่ขายตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป แต่ดูแล้วต้องมีมีการตัดเย็บให้เข้ากับแต่ละบุคคลเท่านั้น ฮันนาพอจะมีความรู้ด้านนี้อยู่บ้าง ที่น่าแปลกใจคือเธอกลับสวมมันได้อย่างพอดีราวกับว่าคนตัดชุดมาวัดตัวเธอก่อนหน้านี้
หญิงสาวเปิดประตูออกมาด้านนอก สองสาวยืนรออยู่แล้วก่อนจะนำทางเธอเดินไปยังชั้นล่าง เธอสังเกตว่าที่นี่หรูหราโอ่อ่ามากๆ ข้าวของเครื่องใช้ทุกชิ้นดูแล้วราคาไม่ธรรมดา หากจะบอกว่าเป็นพระราชวังก็คงไม่เกินไปนัก
บันไดวนที่เธอเดินลงมากว้างเกือบเท่าเลนถนน ทั้งพรมสีแดงที่ปูอยู่ก็นุ่มนวลจนเธอรู้สึกได้จากการก้าวเดินแม้จะสวมรองเท้าอยู่ ห้องโถงด้านล่างยิ่งทำให้ใจของฮันนาพองโตกับความกว้างใหญ่โอ่โถง แชงกาเลียที่ติดอยู่ด้านบนดูแปลกตางดงาม
ตอนนี้รอบตัวของเธอเริ่มหมุนอีกครั้งจากความอลังการของที่นี่
"ฮันนา"
เสียงหนึ่งเรียกสติของเธอขึ้นมาได้ หญิงสาวขอบคุณความดีของตนเองและคำสวดมนต์ก่อนหน้านี้เมื่อมองเห็นคนที่เรียกเธอชัดๆ
"รอบีส"
ชายหนุ่มที่อยู่ในชุดสูทเป็นทางการเดินเข้ามาหาเธอ
"นายยังไม่ตาย"
"นี่เป็นคำทักทายหรือยังไง"
"ที่นี่ที่ไหน" ฮันนายิงคำถามทันทีอยากจะมีอะไรในหัวบ้าง เพราะตอนนี้เธอดูกลวงและว่างเปล่า
"คงจะเป็นสถานที่สำคัญมากๆ"
"แน่นอนล่ะดูของพวกนี้สิ" ฮันนาเขยิบตาไปที่ของตกแต่งห้องโถงที่ทำจากทองคำแท้
ไม่นานก็มีผู้คนที่ทั้งสองไม่คุ้นตาทยอยเดินเข้ามาเรื่อยๆ ซึ่งก็แน่นอนเพราะสถานที่ที่พวกเขาอยู่คืออีกรัฐหนึ่ง สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดสำหรับทูตทั้งสองจากซัลมาคือเงียบและมองดู
กลุ่มคนที่เดินเข้ามาในโถงใหญ่แห่งนี้แต่งกายในชุดประจำชาติแบบเดียวกับที่ทั้งสองสวมใส่ เพียงแต่บนหน้าอกของพวกเขาจะมีเครื่องราชย์ตราต่างๆมากมายละลานตา ประโคมกันติดมาจนไม่มีที่ว่าง
ชายสูงวัยในชุดทหารคนหนึ่งเดินตรงมาที่คนทั้งสองแล้วมาหยุดอยู่ต่อหน้าของฮันนา ที่หญิงสาวสังเกตอีกอย่างหนึ่งคือผู้คนที่นี่ตัวสูงใหญ่กันมาก อย่างคนตรงหน้าของเธอก็เหมือนจะสูงเท่าคุณโรเจอร์ผู้เป็นพ่อของฮันนา
"เลดี้ฮันนาใช่ไหม"
พอโดนทักหญิงสาวก็ย่อลงทันทีโดยอัตโนมัติ ทั้งที่ยังไม่รู้ว่าคนผู้นั้นเป็นใคร
"ฉันนายพลฮารีส"
ฮันนาอ้าปากค้างราวกับว่าท้องฟ้าสีหม่นของเธอเปิดจ้าออก ชายที่เธอได้ยินชื่อตั้งแต่เด็ก พ่อกับแม่ของเธอให้เรียกคุณลุงฮารีสมาตลอด จะว่าตามจริงชายผู้นี้เป็นหนึ่งในบุคคลที่เธออยากพบมากที่สุด วันนี้ได้มาพบตัวจริงสักที
"คุณลุงฮารีส อ่ะ! เอ่อ! ท่านนายพล" ความตื่นเต้นทำให้เธอเรียกชื่อของบุคคลตรงหน้าออกไปอย่างลืมตัว ไม่รู้ว่าที่นี่มีกฎเกณฑ์อะไรอื่นๆอีกบ้าง
"ห่ะๆๆ ยินดีต้อนรับสู่ ซารียาส"
•••
สถานะ
ผู้คนที่เดินเข้ามาเกือบร้อย ผ่านไปสักพักทุกอย่างรอบๆบริเวณก็เงียบลงราวกับหยุดเวลาไว้ สายตาของคนในงานมองไปยังจุดๆเดียวซึ่งแขกผู้มาจากต่างแดนทั้งสองคนก็ไม่พลาดที่จะมองตามออกไปด้วย
หญิงสาวร่างสูงที่ดูคุ้นหน้าเดินออกมาจากมุมหนึ่งของสถานที่แห่งนี้ ฮันนาดูไม่ทันว่าเธอเดินออหมาจากทางไหน เห็นอีกทีก็ตอนที่เข้ามาถึงกลางโถงใหญ่แห่งนี้แล้ว ชุดที่เธอสวมใส่ยังคงเป็นกางเกงผ้าหนาสีดำ พร้อมกับแจ็คเกตตัวใหญ่รองเท้าบูทที่หนาเตอะ ดูจากน้ำหนักการเดินคงจะหนักมากพอสมควร ผมสีดำยาวถูกรวบเอาไว้ด้านหลังใบหน้าเคร่งไม่มีรอยยิ้ม
เธอเป็นผู้หญิงคนเดียวของที่นี่ที่ไม่ได้สวมกระโปรง แถมตอนที่เธอเดินผ่านทุกคนจะย่อ หรือไม่ก็โค้งทำความเคารพ ฮันนาหันมามองรอบีสอีกครั้งเพื่อใช้สายตาถามกันเหมือนเดิม แต่ชายหนุ่มจ้องมองไปที่หญิงสาวคนนั้นตาเขม็ง จนเธอต้องสะกิด
"รอบีส! ทหารหญิงคนนั้นแหละที่ขับรถพาฉันมาจากด่าน รอบีสได้ยินไหม"
"ห่ะ! ว่าไงนะ"
"ฉันบอกว่าผู้หญิงคนนั้นแหละคือคนที่ขับรถพาฉันมาจากด่าน" ว่าแต่ทำไมทุกคนในงานถึงดูแปลกๆตอนที่ผู้หญิงคนนี้เดินมา แม้แต่ท่านนายพลฮารีสก็เดินตรงไปหาผู้หญิงคนนั้น
"นั่นคือผู้ครองแคว้นซารียาส รียา ฮะซีฟ อัลฮาซอ" เสียงของรอบัสพูดขึ้นพร้อมกับสายตาที่จ้องมองไปยังคนที่เขาพูดชื่อเมื่อครู่ไม่วางตา
ฮันนาอ้าปากค้างอีกครั้ง ขาของเธอเริ่มสั่น คิดกลับไปถึงเหตุการณ์เมื่อตอนบ่ายที่เธอพูดกับผู้ครองแคว้น ไหนจะการที่เธอหวังจะเอาน้ำหอมฉีดใส่ตาของอีกฝ่ายอีก ทำไมการมาครั้งแรกของเธอจะต้องมีเหตุการณ์แบบนี้ด้วย
แต่จะให้โทษฮันนาฝ่ายเดียวก็ไม่ถูกฝ่ายนั้นไม่ยอมพูดอะไรแถมยังพาเธอออกนอกเส้นทาง ไม่แปลกที่เธอจะป้องกันตัวเอง หญิงสาวก้มหน้างุดลงทันที เสียงฝีเท้าของคนที่สวมรองเท้าบูธหนักๆเดินตรงมาที่คนทั้งสอง ก่อนหยุดลงต่อหน้า
"ยินดีต้อนรับทูตทั้งสองจากซัลมา"
เสียงเรียบนิ่งแต่แฝงไปด้วยอำนาจของรียา ฮะซีฟดังขึ้น ทุกอย่างรอบตัวเงียบกริบ ทั้งคู่ไม่รู้เลยว่าจะทำยังไงต่อ วิชาชีพที่ฮันนาเล่าเรียนมาเหมือนกับผลุบหายไปในสมองทันที
"คะ ขอบคุณท่านผู้ครองแคว้น" กว่าจะกลั่นกรองคำพูดออกมาได้ก็กินเวลาไปพักหนึ่ง พอพูดจบฮันนาก็เบือนหน้าหนีหลบสายตา ผิดกับอีกฝ่ายที่จ้องเธอเขม็งราวกับจะมองลึกไปจนถึงข้างในจิตใจ รียาเบ้ปากน้อยๆ แล้วหันไปที่ชายอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆฮันนา แววตาของเธอสะดุดกับใบหน้าของชายหนุ่มเล็กน้อย เหมือนกับจะคุ้นตาแต่ก็ปรับกลับมาได้อย่างรวดเร็ว
"คุณ..."
"กระผม รอบีส ซาวารี เป็นหนึ่งในคณะทูตจากซัลมา"
"เป็นคนซัลมาเหรอ"
"ครับ!" รอบีสโค้งให้กับรียา เธอมองชายคนนั้นอีกครั้ง ก่อนจะพูดขึ้น
"งานเลี้ยงต้อนรับทูตจากซัลมา พวกท่านพักผ่อนกันให้เต็มที่พรุ่งนี้เราจะเริ่มหารือกัน มาดูสิว่าการมาของพวกท่านในครั้งนี้จะเปลี่ยนแปลงอะไรได้บ้าง"
รียาหันกลับไปมองฮันนาอีกครั้ง
"อีกอย่าง! คุณควรเปลี่ยนน้ำหอมนะ กลิ่นมันฉุนเกินไปจนแสบจมูก" รียาบอกกับฮันนาแล้วเดินผละออกไปทันที รอบีสทำหน้างง แล้วหันมามองหญิงสาวเพื่อนร่วมงาน รอบีสทำจมูกฟุดฟิด ลองดมดูน้ำหอมที่ฮันนาใช้
"ก็หอมดีนี่ ทำไมผู้ครองแคว้นถึงบอกว่าแสบจมูก"
"เฮ้อ! ไม่ม่อะไรหรอกรอบีส ไปหาอะไรกินกันเถอะฉันหิวแล้ว" ฮันนาเดินหลบออกไปเช่นกันเธอหยิบอาหารที่อยู่ในงานกินให้ได้มากที่สุด สายตาก็เหลือบไปมองผู้ครองแคว้นอยู่เรื่อยๆ เธอพูดคุยอยู่กับเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคน หญิงสาวสังเกตจากตราที่ติดอยู่บนหน้าอกของคนเหล่านั้น รวมไปถึงคุณลุงฮารีสของเธอด้วย
ตอนนี้เธอเบาใจได้เปราะหนึ่งที่ไม่ได้โดนอุ้มและมาถึงเมืองหลวงซารียาสอย่างปลอดภัย เธออยากจะส่งข่าวกลับบ้านแต่ฮันนารู้ดีว่าการส่งอะไรออกจากดินแดนนี้คงไม่ใช่เรื่องง่าย คนที่เธอเล็งเอาไว้ก็คือผู้พันฮารีส คนที่แม่ของเธอบอกเอาไว้ก่อนมาถึง ว่าเธอสามารถพึ่งได้
"คุณเหรอทูตสันถวไมตรีจากซัลมา"
เสียงหนึ่งถามขึ้นจากทางด้านหลังขณะที่ฮันนายื่นเค้กก้อนเล็กเข้าปากพอดี เธอหันกลับมาแล้วใช้มือป้องปากพยายามส่งเค้กก้อนนั้นลงคอไปให้เร็วที่สุด หญิงสาวที่เอ่ยทักเหมือนจะรู้ เธอยื่นแก้มแชมเปญส่งให้กับฮันนา หญิงสาวรับเอามาก่อนจะดื่มลงไปรวดเดียวเพราะเค้กกำลังจะติดคอเธอแล้วในตอนนี้ พอดื่มลงไปอึกใหญ่เค้กเจ้าปัญหาลงคอไปอย่างดีแต่แอลกอฮอล์ดีกรีสูงจากเครื่องดื่มก็ตีขึ้นมาแทน
"แค่กๆๆ"
เดือดร้อนให้หญิงสาวคนเมื่อครู่ต้องรีบหยิบกระดาษยื่นให้อีก
"ขออภัยค่ะ" ฮันนาไม่เคยรู้สึกอับอายเท่านี้มาก่อนเธอออกงานสังคมกับผู้เป็นบิดามามากมายและสถานะของเธอก็ไม่ใช่คนธรรมดาตอนที่อยู่ในซัลมา แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าเธอเหมือนกับเด็กสาวชาวป่าที่เข้าเมืองครั้งแรก แถมยังเป็นงานใหญ่ที่เป็นการต้อนรับตนเอง
"ไม่ต้องรีบร้อนค่ะ ฉันเข้าใจ ใครที่อยู่ที่นี่ก็ตื่นเต้นกันทั้งนั้น ไม่ใช่ว่าจะมีใครมาเหยียบที่คฤหาสน์อัดดัรได้ง่ายๆ" สาวสวยในชุดประจำชาติหรูหราพูดขึ้น ท่าทางเย่อหยิ่งอย่างเห็นได้ชัด ชุดของเธอประดับด้วยเพชรระยิบระยับแสบตาไปหมด
"ฉันชื่อโซเฟีย อุสกัฟ ลูกสาวท่านรัฐมนตรีเศรษฐกิจแห่งซารียาส ใครๆก็บอกว่าฉันคือสตรีอันดับหนึ่ง"
...............................