นักการทูตสาวจากเมือง'ซัลมา' ต้องเข้าไปเชื่อมสัมพันธไมตรีกับรัฐใหญ่อย่าง'ซารียาส' แต่ภายใต้การเดินทางครั้งนี้เธอมีภารกิจอย่างอื่นที่เปิดเผยไม่ได้ "ฮันนา"จะทำงานนี้สำเร็จหรือไม่เมื่อมี "รียา" ผู้ปกครองสูงสุดของซารียาสเป็นกระดูกชิ้นใหญ่ที่คอยขัดขวาง
รัก,หญิง-หญิง,ครอบครัว,ยุคปัจจุบัน,ดราม่า,ฟินGL,ฟิน,หวาน,คลั่งรักขั้นสุด,รัฐ,ทะเลทราย,คลั่งรัก,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
นักการทูตสาวจากเมือง'ซัลมา' ต้องเข้าไปเชื่อมสัมพันธไมตรีกับรัฐใหญ่อย่าง'ซารียาส' แต่ภายใต้การเดินทางครั้งนี้เธอมีภารกิจอย่างอื่นที่เปิดเผยไม่ได้ "ฮันนา"จะทำงานนี้สำเร็จหรือไม่เมื่อมี "รียา" ผู้ปกครองสูงสุดของซารียาสเป็นกระดูกชิ้นใหญ่ที่คอยขัดขวาง
ผู้แต่ง
Number17
เรื่องย่อ
ดินแดนทะเลทรายอันไกลโพ้น มีรัฐอิสระที่แยกตัวออกมาปกครองตนเองอยู่สี่รัฐ ซารียาส อะมาลี ยาซีส และซัลมา
ซารียาส มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดและอุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่ประเมินค่าไม่ได้ อย่างน้ำมันและทองคำ เป็นรัฐที่มั่งคั่งและร่ำรวย รัฐบาลมีการจัดการที่ดีให้ชาวเมืองได้รับสวัสดิการที่เหมาะสม ภูเขาสูงย่อมมีเหวลึก เมื่อมีซารียาสที่เป็นดั่งแดนสวรรค์ ซัลมา รัฐเล็กๆที่มีพื้นที่ติดต่อกับซารียาสก็เป็นดั่งเหวลึก รัฐบาลซัลมาภายใต้การปกครองในยุครัฐบาลปัจจุบันชาวเมืองห่างไกลคำว่าสุขสบายไปมาก ผู้คนชั้นแรงงานส่วนใหญ่อดอยาก จึงมีปัญหาแรงงานที่ล้นทะลักเข้าไปทำงานยังซารียาสอย่างผิดกฎหมายมากขึ้นทุกปี
ปัญหาเริ่มบานปลายเมื่อคนลักลอบไปทำงานมากขึ้นและเริ่มส่งผลต่อแรงงานของคนพื้นถิ่น เป็นเหตุให้รัฐบาลซารียาสต้องเร่งผลักดันพวกเขาออกไป แต่มันไม่ใช่แค่นั้นเมื่อบทกำหนดโทษของผู้กระทำความผิดตามกฎหมายของซารียาสนั้นแตกต่างออกไป นั่นก็คือการเฆี่ยนด้วยแส้ รวมถึงมีข่าวจากวงในว่าจะมีการปราบปราบแรงงานอย่างเข้มงวด
เป็นเหตุให้ ฮันนา หญิงสาวลูกครึ่งชาวซัลมา+อังกฤษที่ทำงานอยู่ในกระทรวงการต่างประเทศของซัลมาจะต้องหาวิธีเข้าไปช่วยแรงงานคนของรัฐให้กลับมาก่อนที่จะมีประกาศกวาดล้างอย่างจริงจัง
เธอตัดสินใจเข้าไปเป็นทูตเพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรีที่ไม่ดีนักของทั้งสองรัฐ เบื้องหลังเพื่อช่วยเหลือคนงานอย่างลับๆ แต่ทุกอย่างที่เธอทำอยู่ภายใต้การจับตามองของผู้ครองแคว้นสุดเข้มงวดอย่าง รียา ผู้ครองแคว้นลำดับที่สิบสามของซารียาส มีข่าวลือหนาหูออกมาว่าเธอเป็นพวกอนุรักษ์นิยมสุดโต่งและไม่ชอบชาวซัลมาอย่างมาก เพราะเหตุขัดแย้งเมื่อหลายสิบปีก่อน
สาวนักการทูตจากซัลมาจะทำภารกิจของเธอสำเร็จหรือไม่ การเชื่อมความสัมพันธ์ทั้งสองรัฐที่มีปัญหากันมายาวนานจะจบลงแบบไหน
หรือจะมีความสัมพันธ์แบบใหม่ที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้นก็ไม่มีใครรู้ ร่วมเดินทางไปด้วยกันนะคะ
สวัสดีค่ะทุกคนเป็นนิยายเรื่องแรกที่ลองนำมาลงที่ Plotter ฝากติดตามด้วยนะคะ
ครั้งนี้เข้าบุกตะลุยดินแดนทะเลทรายกับบ้างที่รับรองว่าร้อนจริง จะเป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างรัฐที่เขียนขึ้นมาเอง...ห่ะๆ ชื่อสถานที่ เมือง กฎหมายตั้งขึ้นตามใจไรต์นะคะ (เป็นเรื่องแต่งขึ้นตามจินตนาการของไรต์นะคะ) ที่จริงแล้วไรต์เองที่เป็นผู้ครองแคว้นตัวจริง
ฝากนิยายเรื่องนี้ไว้อีกสักเรื่องนะคะ ขอบคุณทุกคนที่ติดตามกันมาตลอด ไรต์จะพยายามสร้างสรรค์ผลงานออกมาให้อ่านกันเรื่อยๆ เพราะเหงาอยากคุยกับนักอ่าน
คอมเม้นต์มาคุยกันได้ตลอดนะคะ รักทุกคนค่ะ
[Number17]
15
บทลงโทษ
วันนี้รียาและฮันนาไปที่ทำเนียบแต่เช้า มีงานสำคัญที่รียาจะต้องทำ เป็นครั้งแรกที่ฮันนาได้เห็นผู้ครองแคว้นสวมชุดอื่นที่ไม่ใช่เครื่องแบบทหาร หรือชุดลายพราง รียาสวมเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเข้มเนื้อผ้าบางเบาเพื่อป้องกันไม่ให้กระทบกับบาดแผลมากนักแต่ก็มีสีเข้มพอที่จะปกปิดไม่ให้คนนอกรู้ว่าเธอได้รับบาดเจ็บ ส่วนกางเกงเป็นกางเกงผ้าสีอ่อนและรองเท้าหนังสีดำ ผมยาวสีดำขลับปล่อยสยายยาว แว่นกันแดดสีดำถูกนำมาสวมใส่เอาไว้
ฮันนาวันนี้เธอสวมชุดกระโปรงเป็นทางการเรียบร้อยให้เกียรติสถานที่ และคิดว่าคนที่เดินอยู่ข้างหน้าคงงดพาเธอออกไปผจญภัยข้างนอกสักพักใหญ่
รถยนต์ประจำตำแหน่งเคลื่อนมาจอดที่หน้าทำเนียบทั้งสองลงมาจากรถคันเดียวกัน หากเป็นคนที่รู้จักรียาดีจะแปลกใจมากเพราะเธอนั้นขึ้นชื่อว่าเป็นพวกอนุรักษ์นิยมสุดโต่งแต่วันนี้กลับนั่งรถมากับหญิงสาวชาวซัลมาเลือดไม่ร้อย
"เธอไปพบเพื่อนของเธอก็ได้ เราจะเข้าประชุมกับคณะกรรมาธิการอาวุโส"
"ท่านคะวันนี้มีนัดประชุมอะไรเหรอคะ"
"ย้ายมาทำงานที่นี่เลยสิถ้าอยากรู้" รียาพูดจบก็เดินขึ้นลิฟท์ไปยังชั้นบนสุดของทำเนียบลิฟท์แก้วใสทำให้มองเห็นร่างของหญิงสาวที่มาด้วยเป็นอย่างดี ฮันนาเองก็เงยหน้ามองรียาเคลื่อนตัวขึ้นไปจนสุดสายตายังชั้นบนสุดของตึกทำเนียบ
ความสูงเพียงห้าชั้นยังพอให้เธอมองตามขึ้นไปได้ รียาเดินตรงไปยังห้องประชุมใหญ่มุมสุด บนนั้นมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่แม้แต่ยุงสักตัวก็ไม่กล้าขึ้นไป เธอรีบไปขอใช้โทรศัพท์เพื่อติดต่อหารอบีสทันที เธอไม่ต้องการสื่อสารอะไรผ่านเครื่องมือสื่อสารมากนักเพราะรู้ดีว่าทุกอย่างที่พูดจะถูกส่งไปยังรัฐบาลซารียาส
"ฉันอยู่ที่โถงหน้าทำเนียบ"
รอบีสรีบมาหาฮันนาทันที เมื่อรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน
"ฮันนาเธอหายไปไหนมาตั้งหลายวัน"
"เรื่องมันยาว ตอนนี้เราต้องเข้ากลุ่มติดต่อแกนนำคนงานที่นี่ให้เร็วที่สุด คณะกรรมการจะเสนอรายงานอีกสองอาทิตย์ข้างหน้าแล้วการออกจับกุมจะเริ่มขึ้น"
"มาถึงฉันยังไม่ได้แตะคอมฯเลย ได้แต่เดินดูทำนียบกับอ่านหนังสือชีวประวัติผู้มีคุณูปการของซารียาส"
"โทรศัพท์ฉันก็โดนทำพังไปแล้ว แล้วเราจะทำยังไงดี"
"ระบบการสื่อสารของที่นี่เข้มงวดมาก ถ้ามีการล็อคอินอะไรเขาต้องรู้แน่"
"แต่ก็ทำได้ถ้ามีเวลาให้ฉันสามสิบนาที ฉันจะล็อคอินเข้าเครื่องทางนี้แล้วอัปโหลดข้อมูลไปให้ทางซัลมาควบคุมจอ แต่ต้องใช้เวลาสามสิบนาที"
ฮันนายกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเวลาไม่รู้ว่ารียาจะประชุมนานแค่ไหนแต่ตอนนี้พวกเธอต้องรีบแล้ว
สองทูตจากซัลมาเดินเข้าไปในห้องทำงานของเจ้าหน้าที่ทำเนียบเป้าหมายคือโต๊ะทำงานของคนดูแลรอบีส
"คุณมุสฟานี่ฮันนาหนึ่งในทูตเชื่อมสัมพันธไมตรีครั้งนี้"
"ยินดีที่ได้รู้จักครับ" มุสฟายื่นมือไปเพื่อทักทายสาวสวย
"ได้ยินว่าที่ทำเนียบมีงานศิลปะให้ชมมากมายเลยใช่ไหมคะ"
"ใช่ครับ"
"จะเป็นการรบกวนหรือเปล่าที่คุณมุสฟาจะพาฉันเดินชมบ้าง"
"อ่อ! ยินดีครับ" มุสฟาหันไปทางรอบีสเพื่อจะชวนออกไปด้วย
"โอ้ย! คุณมุสฟาสามวันมานี้ผมเดินชมจนจำได้ทุกงานทุกชิ้นของทำเนียบแล้วครับผมขอนั่งรอที่นี่ดีกว่า เชิญคุณเถอะครับ"
"ถ้าอย่งนั้นเชิญคุณฮันนาทางด้านนี้เลยครับ"
"ค่ะ" ฮันนาเดินตามมุสฟาออกไปแล้วหันมาส่งสายตาให้รอบีสรีบๆทำงานให้เสร็จ รอบีสพยักหน้าพอทั้งคู่ออกไปแล้วเขาก็เริ่มเปิดคอมฯของคุณมุสฟาทันที ถึงหน้าจอและเครือข่ายอินเตอร์เน็ตของเจ้าของเครื่องจะล็อครหัสเอาไว้ แต่ด้วยความสามารถของรอบีสไม่ช้าก็ปลดล็อคเข้าไปได้
เขาเข้าไปที่หน้าเว็ปของกลุ่มแรงงานซัลมาในซารียาสทันที
•••
ภายในห้องประชุมใหญ่ชั้นห้าทำเนียบรัฐบาลซารียาส
เจ้าหน้าที่ที่สวมชุดสูทสีดำทั้งตัวเดินเข้ามาในห้องแล้วก้มลงกระซิบบางอย่างกับรียา เธอหันไปแล้วยื่นมือไปรับโทรศัพท์เครื่องหนึ่งจากชายคนนั้นก่อนจะกดเปิดดู ภายในห้องก็มีการประชุมเสนอนโยบายกันตามปกติ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของซารียาสสิบคนนั่งอยู่รอบโต๊ะครึ่งวงกลมเพื่อฟังรายงาน
รียาก้มลงมองหน้าจอเล็กๆนั่นอย่างสนใจภาพของหญิงสาวและเพื่อนร่วมงานกำลังหลอกล่อเจ้าหน้าที่ของเขา ใบหน้าหวานที่พยายามยิ้มเต็มที่นั่นทำให้รียาไม่พอใจ ภาพจากกล้องเล็กๆที่เธอให้เจ้าหน้าที่นำไปติดไว้เพื่อดูความเคลื่อนไหวของรอบีส ไม่คิดว่าวันนี้จะจับปลาได้ทีเดียวสองตัว
"ให้ทางเราเข้าไปแสดงตัวเลยไหมครับ" เจ้าหน้าที่ผู้นั้นถามรียา เมื่อเห็นว่ารอบีสกำลังพยายามทำอะไรบางอย่างกับเครื่องคอมฯของมุสฟา
"ไม่ต้อง! ให้คนของเราดูว่าเขาหาข้อมูลอะไร ไม่แน่เราอาจได้หลักฐานอย่างอื่น"
"ครับ"
ชายคนนั้นเดินออกไปแล้ว นานพลฮารีสมองมาที่รียาอย่างสงสัยว่าเด็กคนนี้จะทำอะไรอีก แต่เขาก็ต้องทำงานตรงหน้าก่อนเลยไม่ได้ถามอะไรตอนนี้
"ท่านนายพลจะรายงานปัญหาชายแดนเข้ารัฐสภาเมื่อไหร่จะได้สั่งการปราบปราบพวกแรงงานเถื่อนสักที" รัฐมนตรีวาเฟียเอ่ยทักขึ้นเขาคิดจะใช้โอกาสในห้องประชุมต่อหน้ารัฐมนตรีท่านอื่นๆสอบถามเรื่องนี้
"กำหนดการอีกสองอาทิตย์ข้างหน้าท่านจะรีบร้อนทำไมกันท่านวาเฟีย
"กระผมแค่ถามดูเห็นว่าหลานสาวของท่านจากซัลมามาถึงทั้งทีก็นึกว่าจะช่วยเหลือกันหรือเปล่า แต่ผมคิดว่าคนอย่างท่านนายพลคงรักชาติมากกว่าอยู่แล้วใช่ไหมครับ"
•••
รัฐมนตรีสองฝั่งที่นั่งอยู่ข้างรียาเริ่มโยนเรื่องให้กันอีกครั้ง จะว่าไปถึงรัฐมนตรีวาเฟียจะชอบจิกกัดท่านนายพลทุกครั้งแต่ตามจริงแล้วก็เป็นแบบนั้น เรื่องแรงงานที่ลักลอบเข้ามาในรัฐควรจะมีการเสนอและพิจารณาหาแนวทางแก้ไขกันตั้งนานแล้ว แต่ท่านนายพลก็เป็นห่วงเพื่อนรุ่นน้องที่สนิทกันมากๆอย่างรัฐมนตรีโรเจอร์ของซัลมาจริงๆถึงได้ปล่อยลากยาวมาจนถึงวันนี้
"เรื่องการส่งรายงานเข้ารัฐสภาก็ตามกำหนดการเดิมก็แล้วกัน แต่อาทิตย์หน้าเราจะตัดสินโทษคนที่จับมาได้คราวก่อน ท่านนายพลช่วยจัดการเรื่องนี้ให้ด้วย" รียาผุดลุกขึ้นด้วยอารมณ์โมโห ไม่ใช่เพราะสองรัฐมนตรีผู้ใหญ่แต่เป็นเพราะภาพกล้องวงจรปิดที่จับได้ต่างหาก
ผู้นำสูงสุดของซารียาสเดินออกมาจากห้องประชุมใหญ่ทันที เธอสะบัดตัวแรงเกินไปจนรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นที่แผล ตอนนี้อยากจะดูหน้าคนบางคนว่าจะแสดงละครอะไรอีก
รียาเดินลงไปที่ชั้นหนึ่งจุดแสดงศิลปะและป้ายกิจกรรมประกาศต่างๆของทำเทียบรัฐบาลที่เจ้าหน้าที่หนุ่มกำลังหลงสาวสวยพาชมอยู่ตอนนี้ รียาเดินเลงมาเจอกับทั้งคู่พอดีคุณมุสฟากำลังแนะนำแบบจำลองของธรรมเนียบ
"ถ้าอยากรู้ทุกอย่างจริงๆให้เราเป็นคนพาชมดีไหม"
"ท่านรียา" คุณมุสฟาโค้งให้กับผู้นำสูงสุดของแคว้น
"ขอบคุณคุณมุสฟาคุณกลับไปที่ห้องทำงานเถอะ ฉันจะเป็นคนพาคุณฮันนาชมที่นี่ต่อเอง"
"ครับ"
"เอ๋! เดี๋ยวค่ะ" ฮันนาตกใจรีบพูดขึ้นเสียงดังจนทุกคนที่นั่นงงกันหมด
"ฉะ ฉันหมายถึงว่าไม่รบกวนท่านรียาดีกว่าค่ะ ท่านมีงานสำคัญไม่ใช่เหรอคะ"
"งานสำคัญไม่สำคัญเราเป็นคนตัดสินใจเอง ทำไมเหรอ ดูเหมือนคุณฮันนาไม่อยากให้คุณมุสฟาไปทำงานนะ ติดใจอะไรหรือเปล่า"
หญิงสาวก้มหน้าลงสีหน้าเครียด เธอแอบมองนาฬิกาว่าตอนนี้ผ่านไปกี่นาทีแล้ว ฮันนาไม่รู้ว่าอาการของเธอถูกจับตามองอยู่ตลอด
"อีกตั้งสิบนาที" หญิงสาวบ่นพึมพำอย่างร้อนใจเธอเดินวนไปวนมาตั้งนานแต่ผ่านไปแค่ยี่สิบนาทีเท่านั้น และอีกคนก็ไม่รู้ว่าประชุมอะไรทำไมถึงเสร็จเร็วขนาดนี้
"เอ่อ! ให้คุณมุสฟาเดินไปด้วยกับเราดีไหมคะ"
"อ่อ! ต้องใช้ผู้พาชมสองคนจึงจะสมเกียรติของท่านทูตจากซัลมาสินะคะ"
โธ่เอ้ย! ไม่ใช่แบบนั้นโว้ยย.. ฮันนาถึงกับต้องตะโกนอยู่ในใจไม่คิดว่ารียาจะกลายเป็นคนเรื่องมากตอนนี้
แปดนาที
"เอ่อ! คุณมุสฟาคะดิฉันได้ยินมาว่าคุณเป็นผู้รู้เกี่ยวกับบุคคลสำคัญๆของซารียาสดีมากๆเลยใช่ไหมคะ ฉันอยากให้คุณอธิบายภาพบนนี้ค่ะว่าใครกันบ้างและแต่ละท่านมีเกียรติประวัติยังไง ได้ไหมคะท่านรียา ดิฉันอยากรู้ค่ะ"
รียาหน้าบึ้งไม่มีรอยยิ้มและอาการเห็นด้วยใดๆ
"นะคะท่าน คืนนี้ฉันจะดูแลทำแผลใส่ยาให้ท่านอย่างดีไม่อิดออดเลยค่ะ" ฮันนาไม่รู้ว่าจะใช้วิธีใดแล้วเธอจึงทำได้แค่กระซิบกับรียาเบาๆที่ได้ยินกันสองคน
"ได้สิ! ฉันให้เวลาห้านาที"
"สิบไม่ได้เหรอคะ"
"ห้านาที"
ฮันนาคำนวนในใจตอนนี้เหลือแปดนาทีอธิบายอีกห้านาทีเดินกลับไปก็ราวๆสามนาทีรอบีสคงจะอัปโหลดเสร็จพอดีจากนั้นเธอก็ถามดึงเกมอีกหน่อยก็น่าจะทัน
"ได้ค่ะ! เชิญค่ะคุณมุสฟา"
เจ้าหน้าที่มุสฟาอธิบายอัตชีวประวัติของบุคคลที่อยู่บนผนังตรงหน้าซึ่งเป็นผู้ครองแคว้นท่านที่ผ่านมา ฮันนาไม่ได้สนใจฟังสักเท่าใดนักเพราะเหตุผลหลักๆของเธอก็ค่อยากจะดึงเวลาของคุณมุสฟาแค่นั้น
"พอได้แล้ว มานี่!" รียาทนเห็นอีกฝ่ายเสแสร้งต่อไปไม่ไหวเธอดึงฮันนาออกมาจากตรงนั้นทันที
"มีอย่างอื่นที่น่าสนใจกว่านี้อีก"
"อะไรเหรอคะ ท่านรียาจะพาฉันไปไหน"
"ไปดูผลของสิ่งที่เธอกำลังพยายามทำอยู่ตอนนี้ไงล่ะ เธอรู้หรือเปล่าว่าที่ทำเนียบนี่ยังมีสถานที่ที่สำคัญอยู่ด้วย มันคือคุกใต้ดินไงล่ะ" รียากระชากร่างของฮันนาจนตัวปลิวให้ตามลงไปที่ชั้นใต้ดินด้านล่างตึก ท่าทางตอนนี้ของรียาน่ากลัวมากๆ มากกว่าครั้งแรกที่เจอกันตอนนั้น
"ท่านรียา ปล่อยนะคะ"
ห้องใต้ดินที่รียาพาเธอลงไปนั้นทั้งมืดและอับ ฮันนารับรู้ได้ถึงความเย็นที่สัมผัสกับผิวกายจนเธอขนลุกซู่ ด้านล่างมีเจ้าหน้าที่ท่าทางน่ากลัวอยู่หลายคนและมีกรงเหล็กเรียงรายเป็นทางยาว จนไม่ไม่รู้ว่ามันจะไปสิ้นสุดที่ตรงไหน เป็นครั้งแรกที่เธอสัมผัสได้ถึงความกลัวและสิ้นหวัง
"ท่านรียา ฉันกลัว" ฮันนาตัวสั่นจริงๆจนรียาสัมผัสได้
"ใช่! ฉันอยากให้เธอกลัวไง เธอรู้ไหมว่าบทลงโทษของคนที่ลักลอบเข้าเมืองมาโดยผิดกฎหมายนั้นบทลงโทษเทียบเท่าคดีความมั่นคง จะต้องถูกโบยคนละหกครั้งและขังอีกสามเดือน โดยไม่ได้รับการลดหย่อนใดๆทั้งสิ้น แล้วขังไว้ที่ไหนรู้ไหม ขังไว้ที่นี่ไงแบบไม่มีทางได้เห็นเดือนเห็นตะวัน ถ้ารอดก็กลับไปได้ ถ้าตายก็จะถูกเผาอยู่ที่นี่ไม่ได้กลับบ้านอีกตลอดกาล"
แค่ได้ยินแบบยนั้นหัวใจของฮันนาก็แทบแหลกสลาย สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เธอไม่ต้องการได้ยิน
"ดูสินั่นแรงงานจากซัลมาที่จับมาได้"
ฮันนามองไปที่ด้านในลูกกรงเห็นแรงงานของซัลมาทั้งหญิงและชายที่ถูกขังไว้รวมกันหกคน
น้ำตาของฮันนาไหลพรากผู้หญิงคนนี้ทำให้ฮันนากลัวได้แล้วจริงๆ กลัวในความเลือดเย็นและโหดร้าย
"อาทิตย์หน้าจะมีการตัดสินโทษของพวกเขาแล้วถือเป็นของขวัญต้อนรับคณะทูตก็แล้วกัน"
.............................