นักการทูตสาวจากเมือง'ซัลมา' ต้องเข้าไปเชื่อมสัมพันธไมตรีกับรัฐใหญ่อย่าง'ซารียาส' แต่ภายใต้การเดินทางครั้งนี้เธอมีภารกิจอย่างอื่นที่เปิดเผยไม่ได้ "ฮันนา"จะทำงานนี้สำเร็จหรือไม่เมื่อมี "รียา" ผู้ปกครองสูงสุดของซารียาสเป็นกระดูกชิ้นใหญ่ที่คอยขัดขวาง
รัก,หญิง-หญิง,ครอบครัว,ยุคปัจจุบัน,ดราม่า,ฟินGL,ฟิน,หวาน,คลั่งรักขั้นสุด,รัฐ,ทะเลทราย,คลั่งรัก,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
นักการทูตสาวจากเมือง'ซัลมา' ต้องเข้าไปเชื่อมสัมพันธไมตรีกับรัฐใหญ่อย่าง'ซารียาส' แต่ภายใต้การเดินทางครั้งนี้เธอมีภารกิจอย่างอื่นที่เปิดเผยไม่ได้ "ฮันนา"จะทำงานนี้สำเร็จหรือไม่เมื่อมี "รียา" ผู้ปกครองสูงสุดของซารียาสเป็นกระดูกชิ้นใหญ่ที่คอยขัดขวาง
ผู้แต่ง
Number17
เรื่องย่อ
ดินแดนทะเลทรายอันไกลโพ้น มีรัฐอิสระที่แยกตัวออกมาปกครองตนเองอยู่สี่รัฐ ซารียาส อะมาลี ยาซีส และซัลมา
ซารียาส มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดและอุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่ประเมินค่าไม่ได้ อย่างน้ำมันและทองคำ เป็นรัฐที่มั่งคั่งและร่ำรวย รัฐบาลมีการจัดการที่ดีให้ชาวเมืองได้รับสวัสดิการที่เหมาะสม ภูเขาสูงย่อมมีเหวลึก เมื่อมีซารียาสที่เป็นดั่งแดนสวรรค์ ซัลมา รัฐเล็กๆที่มีพื้นที่ติดต่อกับซารียาสก็เป็นดั่งเหวลึก รัฐบาลซัลมาภายใต้การปกครองในยุครัฐบาลปัจจุบันชาวเมืองห่างไกลคำว่าสุขสบายไปมาก ผู้คนชั้นแรงงานส่วนใหญ่อดอยาก จึงมีปัญหาแรงงานที่ล้นทะลักเข้าไปทำงานยังซารียาสอย่างผิดกฎหมายมากขึ้นทุกปี
ปัญหาเริ่มบานปลายเมื่อคนลักลอบไปทำงานมากขึ้นและเริ่มส่งผลต่อแรงงานของคนพื้นถิ่น เป็นเหตุให้รัฐบาลซารียาสต้องเร่งผลักดันพวกเขาออกไป แต่มันไม่ใช่แค่นั้นเมื่อบทกำหนดโทษของผู้กระทำความผิดตามกฎหมายของซารียาสนั้นแตกต่างออกไป นั่นก็คือการเฆี่ยนด้วยแส้ รวมถึงมีข่าวจากวงในว่าจะมีการปราบปราบแรงงานอย่างเข้มงวด
เป็นเหตุให้ ฮันนา หญิงสาวลูกครึ่งชาวซัลมา+อังกฤษที่ทำงานอยู่ในกระทรวงการต่างประเทศของซัลมาจะต้องหาวิธีเข้าไปช่วยแรงงานคนของรัฐให้กลับมาก่อนที่จะมีประกาศกวาดล้างอย่างจริงจัง
เธอตัดสินใจเข้าไปเป็นทูตเพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรีที่ไม่ดีนักของทั้งสองรัฐ เบื้องหลังเพื่อช่วยเหลือคนงานอย่างลับๆ แต่ทุกอย่างที่เธอทำอยู่ภายใต้การจับตามองของผู้ครองแคว้นสุดเข้มงวดอย่าง รียา ผู้ครองแคว้นลำดับที่สิบสามของซารียาส มีข่าวลือหนาหูออกมาว่าเธอเป็นพวกอนุรักษ์นิยมสุดโต่งและไม่ชอบชาวซัลมาอย่างมาก เพราะเหตุขัดแย้งเมื่อหลายสิบปีก่อน
สาวนักการทูตจากซัลมาจะทำภารกิจของเธอสำเร็จหรือไม่ การเชื่อมความสัมพันธ์ทั้งสองรัฐที่มีปัญหากันมายาวนานจะจบลงแบบไหน
หรือจะมีความสัมพันธ์แบบใหม่ที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้นก็ไม่มีใครรู้ ร่วมเดินทางไปด้วยกันนะคะ
สวัสดีค่ะทุกคนเป็นนิยายเรื่องแรกที่ลองนำมาลงที่ Plotter ฝากติดตามด้วยนะคะ
ครั้งนี้เข้าบุกตะลุยดินแดนทะเลทรายกับบ้างที่รับรองว่าร้อนจริง จะเป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างรัฐที่เขียนขึ้นมาเอง...ห่ะๆ ชื่อสถานที่ เมือง กฎหมายตั้งขึ้นตามใจไรต์นะคะ (เป็นเรื่องแต่งขึ้นตามจินตนาการของไรต์นะคะ) ที่จริงแล้วไรต์เองที่เป็นผู้ครองแคว้นตัวจริง
ฝากนิยายเรื่องนี้ไว้อีกสักเรื่องนะคะ ขอบคุณทุกคนที่ติดตามกันมาตลอด ไรต์จะพยายามสร้างสรรค์ผลงานออกมาให้อ่านกันเรื่อยๆ เพราะเหงาอยากคุยกับนักอ่าน
คอมเม้นต์มาคุยกันได้ตลอดนะคะ รักทุกคนค่ะ
[Number17]
17
ลำดับขั้นแห่งผู้ครองแคว้น
ฮันนาเดินออกมาจากห้องพร้อมกับใช้มือถูริมฝีปากออกมาด้วย พอนึกถึงสัมผัสจากลิ้นร้อนที่เคลื่อนไหวในโพรงปากของตัวเองเมื่อครู่ทำให้ฮันนาขนลุกซู่ ถึงแม้เธอจะอายุยี่สิบหกแล้วแถมยังไปเรียนต่างประเทศมาด้วย แต่เพราะความหมกมุ่นกับการเรียนมากเกินไปทำให้ฮันนายังไม่มีแม้แต่แฟนสักคน สัมผัสใกล้ชิดจากบุคคลอื่นแบบนี้จึงเป็นครั้งแรกของเธอ
จูบแรกของเราทำไมต้องมาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ด้วย หญิงสาวบ่นในใจ
"รอบีสได้อะไรบ้างไหม"
"หนังสือหนามากเราพยายามเปิดแล้วว่าจะมีกฎข้อไหนที่พอจะช่วยได้บ้าง"
"เปิดตรงหัวข้อไปเลยสิ"
"เปิดแล้ว ก็มีแค่กฎหมายทางการทูตที่บัญญัติไว้ในนี้ นี่อาจจะเป็นเหตุผลที่ทางซารียาสตอบเราให้เรามา แต่ก็อย่างที่เห็นมาก็เท่านั้นแค่ในนาม เราไม่มีสิทธิ์รู้เรื่องภายในอะไร เสนออะไรก็ไม่ได้ด้วยซ้ำ มีอย่างหนึ่งที่ได้เต็มๆ"
"อะไร"
"มาชมนิทรรศการของเก่าและอ่านประวัติเมือง"
ฮันนาถอนหายใจไม่มีข้อโต้แย้งมันเป็นแบบนั้นจริงๆ
"แต่เราก็ไม่ได้จะมาเชื่อมสัมพันธ์จริงๆไม่ใช่เหรอ"
รอบีสเงยหน้าขึ้นมองฮันนานิ่งคิด เขาลืมนึกไปเลยว่าฝ่ายพวกเขาเองก็มีอะไรแอบแฝงเหมือนกัน
"เราบอกกับทางซารียาสไปตรงๆเลยดีไหมว่าจะขอเจรจาเรื่องแรงงาน" ฮันนาเสนอขึ้น
"เราก็อยากทำแบบนั้นนะ แต่เธอก็รู้ว่าถ้าเราเสนอไป ทางซารียาสจะติดต่อไปยังรัฐบาลซัลมา แล้วเธอคิดว่ารัฐบาลจะบอกว่ารู้เห็นด้วยเหรอ พวกเขาไม่ใส่ใจด้วยซ้ำ สุดท้ายทุกอย่างก็จะตกอยู่เราและกระทรวงเล็กอย่างเรา คนที่โดนเต็มๆคือมิสเตอร์โรเจอร์"
ฮันนาหน้าซีดขึ้นมารู้สึกเป็นห่วงผู้เป็นบิดาของตน
"แล้วเราจะทำยังไงกันต่อ"
"เรื่องติดต่อกับกลุ่มแรงงานทางนั้นคงจะเริ่มดำเนินการแล้ว เหลือเวลาอีกแค่สองสัปดาห์ก่อนที่รัฐมนตรีจะเสนอเรื่องเข้ารัฐสภาซารียาสใช่ไหม ก็หวังว่าภายในสองสัปดาห์พวกเขาจะกลับออกไปให้มากที่สุดจะได้ไม่โดนกวาดล้าง
"แล้วอีกหกคนที่ถูกจับตัวไว้ล่ะ"
"ตอนนั้นเราก็คงต้องช่วยไปตามสถานการณ์ อย่าลืมว่าเราเข้าไปยุ่งเรื่องนี้ไม่ได้นะฮันนา มันเป็นกฎหมายของเขา บางอย่างที่เราควบคุมไม่ได้ก็ต้องทำใจ"
ฮันนาเจ็บปวดใจที่ต้องได้ยินคำนี้ ได้แต่หวังว่าโทษที่โดนเฆี่ยนจะไม่หนักเกินไปจนคนรับไม่ไหว
หนังสือเกี่ยวกับข้อตกลงสัญญา wafa01 รอบีสก็อ่านได้ไม่จบ ชายหนุ่มจึงเดินดูรอบๆแทน เขาสนใจเรื่องเกี่ยวกับประวัติศาตร์อยู่แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่ในนี้ก็จะมีประวัติของผู้ครองแคว้นเรียงลำดับกันมาตั้งแต่แรกเริ่มจนถึงปัจจุบัน
รอบีสยืนอ่านประวัติไปเรื่อยๆ จนมาถึงประวัติของผู้ครองแคว้นคนก่อนหน้ารียาคือพ่อของเธอท่าน อาบีร ฮะซีฟ อัลฮาซอ ในประวัติกล่าวว่าท่านเป็นบุตรคนที่สองของครอบครัวซึ่งนั่นหมายถึงท่านคงรับช่วงต่อมาจากพี่ชายหรือไม่ก็พี่สาว
"พี่สาวของท่านอาบีร ลัยลา ฮะชีฟ อัลฮาซอ เสียชีวิต" รอบีสพยักหน้าเข้าใจว่าหากคนก่อนหน้าเสียชีวิตลำดับต่อไปก็ขึ้นครองรัฐต่อจากผู้เป็นพี่
"ท่านรียาจะกลับแล้วค่ะ" เจ้าหน้าที่สาวคนเมื่อครู่เดินเข้ามาแจ้งกับรอบีส ชายหนุ่มยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูก่อนจะทำหน้าเสียดายเขากำลังอ่านเพลินๆพอดี
"ผมเข้ามาอีกได้ใช่ไหมครับ"
"ต้องเป็นวันที่ท่านรียามาเท่านั้นค่ะ"
"อ่อ! ครับ"
รียา ฮันนาและรอบีสเดินออกมาจากห้องเมื่อครู่ ก่อนจะแยกกันไปคนละที่ ฮันนาตามท่านผู้นำสูงสุดไปยังรถที่จอดอยู่หน้าทำเนียบเพื่อกลับไปยังคฤหาสน์ ภายในรถตกอยู่ภายใต้ความเงียบเพราะเรื่องเมื่อครู่
ฮันนารู้ตัวว่าตัวเองก็ผิดที่คิดจะเล่นแบบนั้นแต่ใครจะรู้ว่าอีกฝ่ายจะตอบกลับด้วยวิธีที่คาดไม่ถึง หญิงสาวหันไปมองคนที่นั่งหน้านิ่งอยู่ข้างๆ
"อ่ะ! แผลของท่านมีเลือดไหล"
รียาหันไปมองตามคำบอก แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร ฮันนาหยิบเอาผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าของตนขึ้นมาแล้วยื่นไปที่แผล
"จะทำอะไร"
"ดิฉันจะกดห้ามเลือดเอาไว้ให้ค่ะ"
"ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราจัดการเอง"
"ดิฉันทำให้ค่ะ" ฮันนาเองก็ไม่ยอมแถมยังมองกลับไปด้วยสายตาดุๆอย่างไม่กลัว จนรียาต้องเป็นฝ่ายยอมเสียเอง
"ท่านเองก็แปลกนะคะ ทั้งที่เป็นคนสำคัญขนาดนี้แต่ไม่ค่อยระวังตัวเองเลย กลับพาตัวเองเข้าไปอยู่ในที่อันตรายด้วยซ้ำ"
"ทำไม! เธอเป็นห่วงเราเหรอ" รียาหันมาถามอย่างจริงจัง แต่อีกฝ่ายเมินและไม่ยอมตอบ
"หรือว่าทำไปเพียงเพราะต้องการให้เราลดโทษให้คนของเธอ"
"ค่ะ! ได้ไหมละคะ"
รียาสะบัดไหล่ออกทันทีแล้วคว้าเอาผ้าเช็ดหน้าจากมือของฮันนามากดไว้เอง หญิงสาวถึงกับขมวดคิ้วกับท่าทางเหมือนเด็กนั่น
"เธอคงเป็นพวกลงทุนน้อยแค่หวังผลก้อนโตสินะ"
"ดิฉันไม่อยากเถียงกับท่านค่ะ เพราะยังไงท่านก็ไม่เคยเห็นว่าชาวซัลมาเป็นคนดีอยู่แล้ว"
"แล้วคิดว่าที่ทำอยู่ มันดีแล้วใช่ไหม"
ฮันนาถึงกับพูดไม่ออก ตอนนี้เธอสับสนไปหมด หรือว่ารียาจะรู้แล้ว เรื่องนี้เธอจะต้องทบทวนให้ดีว่าจะทำยังไงต่อไป
•••
รถยนต์ของรียาเข้ามาถึงที่คฤหาสน์อัดดัร ผู้เป็นเจ้าของเดินเข้าไปด้านในโดยเร็ว ไม่ได้รอคนที่มาด้วยว่าจะเดินตามไม่ทัน คนในคฤหาสน์เมื่อเห็นว่าท่านผู้ครองแคว้นมีเลือดไหลต่างก็วิ่งเข้ามาช่วย พยาบาลที่ประจำอยู่ก็รีบเข้ามาจะทำแผลให้
"โซเฟียไปไหน"
"คุณโซเฟียยังไม่กลับจากที่ทำงานค่ะ"
"ถ้ากลับมาแล้วให้ไปพบฉันบนห้องด้วย"
"ค่ะท่านรียา"
รียาตวัดหางตาไปมองหญิงสาวที่เดินตามเข้ามาเมื่อครู่เล็กน้อย ฮันนาถอนหายใจยาวยิ่งนานวันความสัมพันธ์ทางการทูตของเธอก็ยิ่งลดลงเรื่อยๆ จากที่มาเชื่อมไมตรีหญิงสาวกลัวว่าจะทำให้เรื่องร้ายแรงยิ่งกว่าเดิมหากยังทำอะไรลับหลังรียาอยู่แบบนี้
ฮันนาขึ้นไปบนห้องแล้วอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย เธอลงไปกินข้าวตอนเย็นเห็นว่าท่านรียายังไม่ลงมากินข้าว
"ท่านรียาบอกว่ายังไม่หิวค่ะ"
"อ่อค่ะ!" วันนี้ฮันนาจึงต้องได้นั่งกินข้าวคนเดียวหญิงสาวเริ่มคิดว่าสาเหตุเป็นเพราะเธอหรือเปล่า กินข้าวเสร็นแล้วฮันนาอดไม่ได้ที่อยากจะไปดูท่านรียาสักหน่อยเพราะตอนกลับมาจากทำเนียบก็มีเลือดออกที่แผลด้วย เธอเดินไปหยุดที่หน้าห้องของท่านรียา กำลังจะบกมือขึ้นเคาะประตูก็ต้องชะงักดึงมือกลับมาเมื่อได้ยินเสียงคนพูดคุยกันภายในห้อง
ฮันนากำลังจะเดินหันหลังกลับไปเพราะเห็นว่าท่านรียามีแขก แต่ก็มีบางคำที่รั้งขาของเธอเอาไว้ให้ก้าวไม่ออก
"เห็นทีว่าจะปิดเรื่องชาวซัลมาหกคนไว้ไม่ได้แล้วล่ะครับท่าน ทางท่านรัฐมนตรีวาเฟียรู้แล้วว่าเราขังแรงงานพวกนั้นเอาไว้"
"ยื้อเวลาไว้สักสองอาทิตย์ไม่ได้เหรอ"
"คงไม่ได้แล้วครับ ถ้าคณะกรรมาธิการอาวุโสรู้ว่าท่านให้การช่วยเหลือแรงงานพวกนั้นจะทำให้พวกเขาหาเรื่องตรวจสอบท่านได้นะครับ"
"ให้คนของเราไปส่งพวกเขาที่ชายแดน เรื่องนี้ห้ามให้ใครรู้ ใช้คนจากหน่วยของเราเอาป้ายคำสั่งนี่ไป" รียามอบสัญลักษณ์แทนตัวของเธอเป็นแผ่นเหล็กเล็กๆให้กับนายทหารคนนั้นไป เธอจะมีกำลังทหารส่วนตัวที่รับคำสั่งตรงจากผู้ครองแคว้นเท่านั้น ทหารกลุ่มนี้ไม่มีใครทราบว่าเป็นใครและมีจำนวนเท่าไหร่
"ครับ" นายทหารผู้นั้นรับคำสั่ง
ฮันนารีบเดินกลับไปที่ห้องเธอเอามือป้องปากอย่างตกใจกับเรื่องที่ได้ยิน แรงงานชาวซัลมาทั้งหกคนไม่ได้ถูกขังไว้รอการตัดสินแต่เป็นท่านรียาช่วยเอาไว้และกำลังจะช่วยพาพวกเขาหลบออกไป
"นี่มันอะไรกันแน่" ฮันนางงไปหมด ไม่รู้ว่าผู้ครองแคว้นกำลังทำอะไรอยู่ทำไมถึงได้ช่วยเหลือคนของซัลมา หรือว่าจริงๆแล้วข่าวลือที่เธอได้ยินมาทั้งหมดจะมีการใส่สีตีไข่เกินจริง
หญิงสาวเดินกลับไปยังห้องของรียาอีกครั้ง แล้วตัดสินใจเคาะประตู ฮันนาอยากจะเปิดใจพูดเรื่องนี้กับรียา
ก๊อกๆๆ
"ใคร โซเฟียเหรอ"
"ดิฉันฮันนาค่ะ"
รียาหันกลับไปมองที่ประตู
"เข้ามา" รียากำลังพยายามเอื้อมมือไปแกะผ้าปิดแผลอันเดิม ฮันนาเห็นแบบนั้นเธอก็เดินเข้าไปช่วย ไม่รู้ว่าทำไมรียาชอบที่จะทำอะไรพวกนี้ด้วยตัวเองทั้งที่มีพยาบาลและผู้ช่วยมากมาย
เมื่อตอนเย็นฮันนาได้ยินรียาเรียกหาโซเฟียหรือว่าเธอให้เฉพาะคนใกล้ชิดเท่านั้นแตะตัวได้
"ฉันไม่ได้ทำให้เพราะหวังอะไรหรอกนะคะ แค่อยากจะทำให้เพราะขอบคุณ"
"เรื่องอะไร"
"ก็เรื่อง... เรื่องที่คุณไม่เอาผิดฉันกับรอบีสวันนี้"
"หึ! ทำผิดอะไรไว้อย่างนั้นเหรอ"
ฮันนารีบลุกขึ้นแล้วโค้งให้กับรียาอย่างสำนึกผิด ฉันขอโทษท่านด้วยนะคะที่ปิดบัง"
"ดูถูกซารียาสเกินไปหรือเปล่าคุณฮันนา คุณคิดว่าพวกคุณจะตบตาเราได้อย่างนั้นเหรอ"
"ฉันขอโทษค่ะ"
"เรื่องแรงงานที่ลักลอบเข้ามาเราได้ให้คนของเรากระจายออกไปส่งข่าวแล้วหากพวกเขารักตัวเองก็คงจะรีบออกเดินทางกลับไปบ้างแล้ว ส่วนคนที่ตัดสินใจอยู่ถ้าถูกจับได้ก็จะได้รับโทษตามกฎหมาย เรื่องนั้นเราคงทำอะไรไม่ได้" รียาพูดขึ้นเสียงเรียบยอมพูดทุกอย่างให้ทูตสาวคนนี้ฟังเพราะเธอเองก็เหนื่อยที่จะปิด
"แค่นั้นก็เพียงพอแล้วค่ะ ดิฉันขอบคุณท่านมากๆนะคะ"
"นี่ก็เท่ากับว่าภารกิจครั้งนี้ของเธอสำเร็จแล้วล่ะสิ"
ฮันนาทำหน้าเจื่อนรู้สึกระอายใจอย่างที่สุด
"ไปได้แล้วเราจะอาบน้ำ"
"ให้ฉันอาบให้ไหมคะ"
รียาเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ
"ไม่จำเป็น เธอไม่ต้องตอบแทนอะไรเราหรอกนะ เรื่องนี้เรากับท่านนายพลฮารีสทำก่อนที่เธอกับพ่อเธอจะรู้เรื่องเสียอีก และมันก็เป็นความตั้งใจของเราเอง แต่ไม่ใช่ว่าเราจะใจดียกให้ตลอดหรอกนะ คนที่ยังไม่ยอมกลับไปยังไงก็ต้องถูกลงโทษ"
"ดิฉันเต็มใจค่ะ..."
"....."
เมื่อฮันนายืนยันแบบนั้นรียาก็ตามใจเธอ หญิงสาวพยุงรียาให้ลุกขึ้นแล้วจัดการปิดแผลให้ และค่อยๆถอดเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินตัวนอกออกเหลือเพียงเกาะอกด้านในที่เผยให้เห็นหน้าท้องแบนเรียบของนายทหารสูงศักดิ์ของซารียาส
"ตัวนี้ถอดไหมคะ"
"เราจะถอดก็เฉพาะตอนร่วมรัก ถ้าเธออยากทำก็เอาสิ"
ฮันนาได้ฟังก็ตกใจนิดหน่อยแต่ไม่ได้แสดงอาการอะไรมาก มีเพียงใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่ออย่างเห็นได้ชัด
"ไม่ถอดก็ได้ค่ะ" หญิงสาวก้มหน้างุดไม่คิดว่าคนๆนี้จะพูดออกมาได้อย่างเรียบเฉยขนาดนั้น
"ทำไมกันอย่าบอกนะว่าเธอไม่เคย ไม่ใช่เด็กแล้วนี่"
ฮันนาเงยหน้าขึ้นทำเป็นว่าไม่ได้รู้สึกอะไรสักนิดทั้งที่รียาดูออกตั้งแต่ต้น และจูบตอนนั้นก็เหมือนว่าจะเป็นจูบแรกของเธอ
"ใครบอกล่ะคะ ดิฉันเคยมีแฟนมาแล้วค่ะ เรื่องแบบนี้มันไม่แปลกอะไร"
"นั่นน่ะสินะก็แค่ความปรารถนาทั่วไปของผู้คนไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร"
............................