นักการทูตสาวจากเมือง'ซัลมา' ต้องเข้าไปเชื่อมสัมพันธไมตรีกับรัฐใหญ่อย่าง'ซารียาส' แต่ภายใต้การเดินทางครั้งนี้เธอมีภารกิจอย่างอื่นที่เปิดเผยไม่ได้ "ฮันนา"จะทำงานนี้สำเร็จหรือไม่เมื่อมี "รียา" ผู้ปกครองสูงสุดของซารียาสเป็นกระดูกชิ้นใหญ่ที่คอยขัดขวาง
รัก,หญิง-หญิง,ครอบครัว,ยุคปัจจุบัน,ดราม่า,ฟินGL,ฟิน,หวาน,คลั่งรักขั้นสุด,รัฐ,ทะเลทราย,คลั่งรัก,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
นักการทูตสาวจากเมือง'ซัลมา' ต้องเข้าไปเชื่อมสัมพันธไมตรีกับรัฐใหญ่อย่าง'ซารียาส' แต่ภายใต้การเดินทางครั้งนี้เธอมีภารกิจอย่างอื่นที่เปิดเผยไม่ได้ "ฮันนา"จะทำงานนี้สำเร็จหรือไม่เมื่อมี "รียา" ผู้ปกครองสูงสุดของซารียาสเป็นกระดูกชิ้นใหญ่ที่คอยขัดขวาง
ผู้แต่ง
Number17
เรื่องย่อ
ดินแดนทะเลทรายอันไกลโพ้น มีรัฐอิสระที่แยกตัวออกมาปกครองตนเองอยู่สี่รัฐ ซารียาส อะมาลี ยาซีส และซัลมา
ซารียาส มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดและอุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่ประเมินค่าไม่ได้ อย่างน้ำมันและทองคำ เป็นรัฐที่มั่งคั่งและร่ำรวย รัฐบาลมีการจัดการที่ดีให้ชาวเมืองได้รับสวัสดิการที่เหมาะสม ภูเขาสูงย่อมมีเหวลึก เมื่อมีซารียาสที่เป็นดั่งแดนสวรรค์ ซัลมา รัฐเล็กๆที่มีพื้นที่ติดต่อกับซารียาสก็เป็นดั่งเหวลึก รัฐบาลซัลมาภายใต้การปกครองในยุครัฐบาลปัจจุบันชาวเมืองห่างไกลคำว่าสุขสบายไปมาก ผู้คนชั้นแรงงานส่วนใหญ่อดอยาก จึงมีปัญหาแรงงานที่ล้นทะลักเข้าไปทำงานยังซารียาสอย่างผิดกฎหมายมากขึ้นทุกปี
ปัญหาเริ่มบานปลายเมื่อคนลักลอบไปทำงานมากขึ้นและเริ่มส่งผลต่อแรงงานของคนพื้นถิ่น เป็นเหตุให้รัฐบาลซารียาสต้องเร่งผลักดันพวกเขาออกไป แต่มันไม่ใช่แค่นั้นเมื่อบทกำหนดโทษของผู้กระทำความผิดตามกฎหมายของซารียาสนั้นแตกต่างออกไป นั่นก็คือการเฆี่ยนด้วยแส้ รวมถึงมีข่าวจากวงในว่าจะมีการปราบปราบแรงงานอย่างเข้มงวด
เป็นเหตุให้ ฮันนา หญิงสาวลูกครึ่งชาวซัลมา+อังกฤษที่ทำงานอยู่ในกระทรวงการต่างประเทศของซัลมาจะต้องหาวิธีเข้าไปช่วยแรงงานคนของรัฐให้กลับมาก่อนที่จะมีประกาศกวาดล้างอย่างจริงจัง
เธอตัดสินใจเข้าไปเป็นทูตเพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรีที่ไม่ดีนักของทั้งสองรัฐ เบื้องหลังเพื่อช่วยเหลือคนงานอย่างลับๆ แต่ทุกอย่างที่เธอทำอยู่ภายใต้การจับตามองของผู้ครองแคว้นสุดเข้มงวดอย่าง รียา ผู้ครองแคว้นลำดับที่สิบสามของซารียาส มีข่าวลือหนาหูออกมาว่าเธอเป็นพวกอนุรักษ์นิยมสุดโต่งและไม่ชอบชาวซัลมาอย่างมาก เพราะเหตุขัดแย้งเมื่อหลายสิบปีก่อน
สาวนักการทูตจากซัลมาจะทำภารกิจของเธอสำเร็จหรือไม่ การเชื่อมความสัมพันธ์ทั้งสองรัฐที่มีปัญหากันมายาวนานจะจบลงแบบไหน
หรือจะมีความสัมพันธ์แบบใหม่ที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้นก็ไม่มีใครรู้ ร่วมเดินทางไปด้วยกันนะคะ
สวัสดีค่ะทุกคนเป็นนิยายเรื่องแรกที่ลองนำมาลงที่ Plotter ฝากติดตามด้วยนะคะ
ครั้งนี้เข้าบุกตะลุยดินแดนทะเลทรายกับบ้างที่รับรองว่าร้อนจริง จะเป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างรัฐที่เขียนขึ้นมาเอง...ห่ะๆ ชื่อสถานที่ เมือง กฎหมายตั้งขึ้นตามใจไรต์นะคะ (เป็นเรื่องแต่งขึ้นตามจินตนาการของไรต์นะคะ) ที่จริงแล้วไรต์เองที่เป็นผู้ครองแคว้นตัวจริง
ฝากนิยายเรื่องนี้ไว้อีกสักเรื่องนะคะ ขอบคุณทุกคนที่ติดตามกันมาตลอด ไรต์จะพยายามสร้างสรรค์ผลงานออกมาให้อ่านกันเรื่อยๆ เพราะเหงาอยากคุยกับนักอ่าน
คอมเม้นต์มาคุยกันได้ตลอดนะคะ รักทุกคนค่ะ
[Number17]
23
ผู้หญิงอันดับหนึ่ง
นาดาวางกระเป๋าอุปกรณ์ของเธอลงเบาๆแล้วเปิดนำสายวัดด้านในออกมาเตรียมวัดตัวเพื่อตัดชุดที่โดดเด่นที่สุดในงานวันนั้น
"เอาตามตรงนะนาดาไม่จำเป็นต้องตัดชุดอะไรพวกนี้เลยสิ้นเปลืองเปล่าๆ ใช้ได้แค่ครั้งเดียวเอาเงินที่จะมาตัดชุดไร้สาระนี่ไปสั่งโรงงานตัดชุดทหารได้ตั้งเท่าไหร่"
"ห่ะๆ มันเหมือนกันซ่ะที่ไหนละคะท่านรียา ชุดแต่ละชุดเครื่องแบบแต่ละอย่างล้วนแต่สำคัญต่างกันไม่มีชุดอะไรไร้สาระหรอกค่ะ ท่านเองก็ทำประโยชน์ต่อรัฐมามากมายแค่งบตัดชุดไม่เท่าไหร่ไม่มีใครว่าหรอกค่ะ"
"เฮ้อ!" รียาถอนหายใจยาวและเอนตัวพิงไปยังโซฟาตัวใหญ่
นาดาเป็นรุ่นน้องที่มหาวิทยาลัยของท่านรียา ครอบครัวของเธอตัดสูทให้กับทางการมาตั้งแต่สมัยรุ่นปู่ย่าตายาย ทำให้ทั้งคู่สนิทสนมกันและรียาก็ชอบนาดาเพราะเธอเป็นคนเรียบร้อยวางตัวเหมาะสม พี่น้องของรียาถูกให้ออกไปจากรัฐกันหมด คนที่เธอพอจะเรียกได้ว่าเป็นน้องสาวก็มีนาดาที่ใกล้เคียงที่สุด
"ท่านนายพลฮารีสบอกว่ามีอีกคนหนึ่งที่นาดาจะต้องวัดตัวและตัดชุดให้ เป็นท่านทูตจากซัลมา"
"อ่อ!" รียาดีดตัวขึ้นก่อนจะบอกกับเด็กๆในบ้านให้ไปตามฮันนาตอนนี้เธอคงจะตื่นแล้ว
"ไม่คิดว่าท่านจะให้ทูตจากซัลมาจะได้พักที่นี่"
"อะไรกันเธอเองก็คิดว่าพี่เป็นพวกเหยียดคนต่างรัฐไปด้วยหรือไง"
"ไม่ใช่เลยค่ะ! แค่คิดว่าท่านไม่กลัวว่าคุณโซเฟียกับคุณราณาจะคิดมาก ก็แสดงว่าหญิงสาวผู้นี้น่าจะพิเศษ"
"รู้มาก สงสัยที่ร้านคงไม่มีลูกค้าสินะ"
"ห่ะๆ ก็คนในศาลที่ทำเนียบวันนั้นเล่ากันมาทั่วเมืองว่าท่านรียาอุ้มท่านทูตสาวจากซัลมาออกไป ท่าทางดูห่วงใยพิเศษ" นาดายิ้มแซวๆ
เสียงก้าวเดินลงมาจากบันไดชั้นบนหยุดการสนทนาของสองสาวเอาไว้ สายตาของทั้งคู่มองไปยังจุดเดียวกัน ฮันนาเดินลงมาด้วยชุดผ้าซาตินผืนพริ้วสีเขียวสดเปิดเว้าด้านหลังจนถึงเอว มีผ้าผืนบางอีกฝืนคลุมไหล่เอาไว้ ผมสีอ่อนถูกรวบเอาไว้ด้านหลังหลวมๆแบบไม่ตั้งใจแต่กลับสวยลงตัว ท่าทางการก้าวเดินงดงามดุจพญาหงส์
"เข้าใจแล้วค่ะว่าทำไมเธอจึงได้อยู่ที่คฤหาสน์ดวงดาว งดงามโดดเด่นเชียวนะคะ"
"หยุดพูดไปเลย" รียาหันมาทำหน้าดุๆให้นาดาแล้วหันกลับไปมองสาวสวยที่สะกดตาคนนั้นอีกครั้ง
"ท่านให้เรียกดิฉันเหรอคะ"
"พอดีช่างตัดเสื้อตกยากมาของานทำน่ะ เขาบอกว่าตัดชุดให้ท่านทูตฟรีหนึ่งชุด"
"สวยแบบนี้นาดาสูทตัดให้สิบชุดเลยค่ะ สวัสดีค่ะนาดาค่ะ" เจ้าของห้องเสื้อดังยื่นมือไปยังสาวสวยพร้อมกับแนะนำตัว
"สวัสดีค่ะฮันนาค่ะเป็นทูตจากซัลมา คุณนาดาเป็นช่างตัดชุดเหรอคะ"
"ใช่ค่ะ! ดิฉันมาตัดชุดสำหรับงานของท่านรียาอาทิตย์หน้าท่านนายพลสั่งให้วัดตัวคุณฮันนาและตัดให้ด้วยค่ะ"
"ขอบคุณมากเลยนะคะ ต้องขอโทษด้วยที่แต่งตัวไม่เรียบร้อย...เอ่อ" ฮันนาไม่กล้าพูดต่อเพราะไม่รู้ว่าจะเหมาะไหม
"เรื่องนั้นดิฉันรู้แล้วค่ะ คุณฮันนากล้าหาญมากเลยนะคะแต่ก็คงเจ็บน่าดู"
ฮันนาก้มหน้าลงเล็กน้อยรู้สึกขอบคุณในความเข้าใจที่หญิงสาวตรงหน้ามอบให้ หลายคนคงคิดว่าการกระทำของเธอเป็นความคิดที่โง่เขลามากกว่า แต่ในเวลานั้นเธอคิดได้แค่อย่างเดียวคือต้องหยุดการลงโทษดังกล่าวให้เร็วที่สุดเพื่อให้มีการตรวจสอบที่แน่ชัด
สองสาวที่เพิ่งได้เจอกันครั้งแรกกลับเข้ากันได้เป็นอย่างดีเพราะอุปนิสัยที่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ฮันนาชอบนาดามากเธอเป็นผู้หญิงที่วางตัวดีและที่สำคัญเธอมีความจริงใจ ไม่มีแววตาหรือท่าทางเหยียดหยันให้ได้เห็นเหมือนสตรีสูงศักดิ์คนอื่นๆที่ฮันนาพบ
ทั้งคู่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นรวมไปถึงเล่าเรื่องบ้านเมืองของตนให้แต่ละฝ่ายฟัง รียาเห็นแบบนั้นก็รู้สึกเบาใจ ก่อนหน้านี้เธอมัวแต่ยุ่งเรื่องงานจึงลืมนึกถึงนาดาไป คิดว่าน่าจะแนะนำให้พวกเธอได้เจอกันเร็วกว่านี้ อย่างน้อยฮันนาจะได้มีเพื่อนคุยที่ถูกคอ
"ดิฉันจะออกแบบชุดที่ไม่ให้กระทบต่อแผลของคุณฮันนานะคะ ที่จริงเราสามารถออกแบบให้เหมือนชุดนี้เปลือยด้านหลังไปเลยก็ได้"
"ไม่ดีมั้ง" หญิงสาวอีกคนที่นั่งมองอยู่ขัดขึ้น ทำให้ช่างตัดเสื้อสาวถึงกับต้องหยุดมอง แล้วเธอก็ยิ้มกริ่มขึ้นอย่างรู้ทัน
"เหมือนจะมีคนหวงนะคะ"
"อะแฮ่ม! หรือว่าเธออยากจะโชว์ให้คนเห็นว่าบ้านเราต้อนรับแขกด้วยรอยแส้กันล่ะนาดา"
"เข้าใจแล้วค่ะท่านรียา" หญิงสาวก้มหน้ารับทราบ เธอเองก็คิดน้อยไปในจุดนั้น พอทำธุระเรียบร้อยแล้วนาดาก็ขอตัวกลับไปเตรียมงาน เธอยังต้องตัดชุดให้กับข้าราชการชั้นสูงของรัฐอีกหลายท่าน
"วันที่ชุดเรียบร้อยดิฉันจะแจ้งนะคะจะนำชุดมาให้ลองสวมที่นี่"
"ขอบคุณคุณนาดามากค่ะ" ฮันนาเดินไปส่งเธอพร้อมกับรียา หญิงสาวมองตามเพื่อนใหม่อย่างอิ่มสุข รียามองหน้าหญิงสาวรู้สึกมีความสุขตามไปด้วย วันนี้ดูฮันนาสดใสขึ้นกว่าเมื่อวาน
"ยังเจ็บแผลอยู่ไหม"
"ที่จริงก็ไม่เจ็บเท่าไหร่แล้วค่ะ"
"อยากไปนั่งรถเล่นหรือเปล่า"
"ได้หรือคะ"
"ได้สิ! มีหลายที่ที่เราอยากพาเธอไปดู เธอจะต้องชอบแน่ๆ"
"งั้นดิฉันไปเปลี่ยนชุดนะคะ"
ฮันนาตื่นเต้นเธอรีบขึ้นไปเปลี่ยนชุดทันที หญิงสาวสวมเสื้อเชิ้ตตัวบางกับกางเกงผ้าพริ้วหยิบหมวกปีกกว้างใบใหญ่ติดมาด้วยพร้อมกับแว่นกันแดด เมื่อทุกอย่างพร้อมรียาก็ให้ทหารนำรถสปอร์ตคันหรูของเธอออกมา
ครั้งแรกที่ฮันนาเห็นรถยุโรปทันสมัยคันนี้ เธอคิดว่ารียาขับเฉพาะรถฮัมวี่ทหารคันโตนั่นซ่ะอีก
"เชิญค่ะคุณผู้หญิง"
ฮันนายิ้มกว้างเมื่อผู้ครองแคว้นคนสวยเปิดประตูให้กับเธอ ตอนนี้รียาเองก็เปลี่ยนชุดเป็นผ้าสบายๆเข้ากับฮันนา ในเมื่อหนีไม่ได้ก่อนจะเจอกับเรื่องปวดหัวก็ขอผ่อนคลายสักหน่อยดีกว่า
•••
ว่ากันว่าบางเรื่องหากเกินที่จะควบคุมก็ควรปล่อย ก่อนจะถึงวันที่เธอจะต้องเลือกคู่ครองรียาอยากจะทำอย่างที่ใจตัวเองต้องการ รถสปอร์ตคันหรูขับออกมาจากคฤหาสน์อัดดัรที่กว้างใหญ่ สุดท้ายแล้วคนเราก็ต้องการคนรู้ใจเพียงหนึ่งเท่านั้น คนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจที่สุด
"ท่านจะพาดิฉันไปไหนคะ"
"วันนี้มาปลดปล่อยกันสักวัน ขอเราเป็นคนธรรมดา เป็นรียาผู้หญิงคนหนึ่งของซารียาสกับฮันนาสาวสวยจากซัลมาก็แล้วกัน ได้ไหม"
"ค่ะ"
ฮันนาหัวใจพองโตหลังจากที่ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างเธอได้เห็นอีกมุมหนึ่งของรียา ผู้หญิงคนนี้เข้มแข็งและเด็ดเดี่ยวเป็นผู้นำที่เป็นที่พึ่งของทุกคนได้ และตอนนี้ฮันนาก็ได้อยู่เคียงข้างคนๆนี้ ถึงมันจะเป็นแค่ช่วงเวลาหนึ่งเธอก็ไม่รู้สึกเสียใจ
ฮันนานั่งตัวตรงเธอไม่ได้พิงเบาะเพราะแผลที่หลังยังเจ็บอยู่ รียาเหลือบมองนิดๆก่อนจะเอื้อมมือไปคว้าศีรษะของเธอให้เอนลงมาซบบนไหล่ซ้ายเบาๆ
"แผลท่านหายเจ็บแล้วเหรอคะ"
"หายแล้ว"
ฮันนายิ้มเขินเธอขยับเข้าไปใกล้ชิดคนข้างๆอีกนิด ความอบอุ่นแผ่ซ่านอยู่เต็มหัวใจ ถนนเบื้องหน้าทอดยาวตรงไปฮันนาอยากให้ถนนนี้เป็นถนนที่ไม่มีจุดสิ้นสุด
รียาขับรถออกไปจากนอกตัวเมืองตรงไปยังสถานที่แห่งหนึ่งทะเลสาปเดรอส
สถานที่พักตากอากาศของเหล่านชั้นสูงของซารียาส ฮันนาตื่นตาตื่นใจอย่างมากหุบเขาแถบนี้เขียวชอุ่มเบื้องล่างเป็นทะเลสาบที่มีน้ำสีฟ้าใส รอบๆเป็นรายล้อมไปด้วยสถานที่พักที่สวยงามแปลกตา นี่คงเป็นสถานที่ที่เรียกว่าโอเอซีสแห่งทะเลทราย รถยนต์คันหรูจอดอยู่หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่งเหมือนว่าวิวของร้านนี้จะสวยที่สุด
ฮันนาเองก็เป็นผู้หญิงถึงเธอจะเป็นคนเก่งและบ้างานแต่ในใจลึกๆพอเห็นสถานที่สวยๆบรรยากาศดีๆแบบนี้ก็อดที่จะตื่นเต้นดีใจไม่ได้
"ชอบไหม"
"ชอบมากเลยค่ะ"
"ตอนกลางคืนหุบเขาฝั่งโน้นจะมีไฟด้วยนะ"
"ไฟอะไรเหรอคะ"
"เอาไว้รอดูเอง ไปหาอะไรกินดีกว่าหิวแล้ว"
รียาอมยิ้มแล้วเดินนำหน้าฮันนาเข้าไปในร้านอาหาร
"ที่จองไว้ค่ะ"
"คุณรียาสองที่นะคะ" พนักงานอ่านทวนรายชื่อลูกค้าเธอเงยหน้าขึ้นมองก็ต้องตกใจ
"อุ้ย! ท่าน..."
"ชู่วว์ เรามาส่วนตัว"
"อ่ะ คะ ค่ะ เชิญทางนี้ค่ะ" พนักงานพอเห็นหน้าลูกค้าแล้วก็ต้องตกใจรียาถึงกับต้องรีบบอกไว้ พอตั้งสติได้เธอก็พาลูกค้าคนพิเศษมายังโต๊ะที่วิวดีที่สุดของร้าน โต๊ะที่จัดไว้เป็นระเบียงยกสูง เบื้องล่างมองเห็นทะเลสาบได้ทั้งหมด และหุบเขาสีเขียวเบื้องหน้า
รียาเลื่อนเก้าอี้ให้หญิงสาวที่มาด้วย เธอนั่งลงและกล่าวของคุณพร้อมกับถอดหมวกปีกกว้างใบนั้นและแว่นกันแดดออกมองไปยังวิวเบื้องหน้าให้สายลมที่พัดมาจากหุบเขาด้านนั้นเข้าประทะใบหน้าสวย
สันจมูกคมรับกับริมฝีปากที่เผลอขึ้นเล็กน้อย สะกดให้คนที่มาด้วยจ้องมองจนไม่อาจละสายตา ทุกอย่างที่รวมเป็นฮันนาดูสมบูรณ์แบบ ทั้งรูปร่างหน้าตาภายนอกรวมไปถึงความคิดและจิตใจภายในของเธอ
"เมนูค่ะ" เด็กพนักงานเดินมายื่นเมนูอาหารขัดจังหวะการชื่นชมความสวยงามของรียาไปชั่วครู่
"อยากทานอะไรเป็นพิเศษไหม"
"ขอเนื้อเยอะๆเลยค่ะ"
"ห่ะๆๆ" รียาขำเบาๆอีกอย่างหนึ่งในตัวฮันนาที่เธอชอบคือความไม่กระมิดกระเมี้ยนจนน่ารำคาญ เธอรู้ว่าตัวเองต้องการอะไรและไม่รีรอที่จะบอก มันทำให้การใช้ชีวิตร่วมกันง่ายขึ้นไม่ต้องมานั่งเดาด้วย
"วันนี้ดิฉันขอดื่มสักหน่อยนะคะ"
"เอาสิ! ได้เลย" รียาสั่งอาหารและไวท์ชั้นดีให้กับสาวสวยที่มาด้วย
ฮันนามีความสุขจนทุกอย่างฉายออกมาทางใบหน้ามันยิ่งทำให้เธองดงามมากยิ่งขึ้น
อาหารและเครื่องดื่มมาเสิร์ฟ ฮันนายกแก้วขึ้นชนกับอีกฝ่าย
"ขอบคุณที่พามาวันนี้นะคะ แล้วก็ขอบคุณสำหรับการช่วยเหลือทุกอย่างกับพวกเราชาวซัลมา"
รียายิ้มขึ้นน้อยๆมองแววตาฉ่ำเยิ้มของสาวสวยตรงหน้าหากเป็นสถานที่ปิดรียาคงจะดึงเธอเข้ามาจูบอย่างดูดดื่มแล้ว แต่ตอนนี้ทำได้เพียงยกแก้วไวท์ขึ้นกระทบกันเบาๆแล้วจิบฉลองให้กับวันนี้
"นี่เรียกว่าเป็นเดทหรือเปล่าคะ"
"จะเรียกแบบนั้นก็ได้"
"ท่านคงมาที่นี่บ่อย"
รียายิ้มๆรู้ว่าอีกฝ่ายอยากจะถามอ้อมๆเพราะก่อนหน้านี้ฮันนาเห็นว่ามีสาวๆรอบกายเธอมากมาย
"ไม่นะถ้าจะนับจริงๆนี่เป็นครั้งที่สอง.." รียาตอบแล้วเงียบไปแล้วสังเกตปฏิกิริยาของหญิงสาวตรงหน้า เธอมีชั้นเชิงมากกว่าคนไร้ประสบการณ์อย่างฮันนามากนัก ความเงียบยิ่งทำให้จิตใจของฮันนาร้อนรุ่มเพราะความอยากรู้ว่าผู้หญิงที่รีนาพามาครั้งแรกเป็นใคร แต่เพราะศักดิ์ศรีทำให้ทูตสาวจากซัลมาไม่ยอมเอ่ยปากถาม เธอยกแก้วไวท์ขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมด
"เติมอีกได้ไหมคะ"
"ช้าๆก็ได้เรามีเวลาทั้งวัน จะรวมทั้งคืนด้วยก็ได้ถ้าเธอต้องการ"
"คงไม่รบกวนท่านขนาดนั้นหรอกค่ะ"
รียายิ้มมุมปากรู้ถึงอาการมึนตึงของอีกฝ่าย เธอยกขวดไวท์ขึ้นรินให้หญิงสาวอีกครึ่งแก้ว ฮันนาก็ยกขึ้นดื่มจนหมดอีกครั้ง
"พอได้แล้วกินข้าวก่อนเดี๋ยวก็เมาก่อนพอดี คราวที่แล้วที่มากับท่านนายพลฮารีสก็เมาแอ่กันจนต้องเรียกทหารมาขับรถให้" รียาพูดพร้อมกับขำหญิงสาวตรงหน้าด้วยสายตาเอ็นดู ฮันนาทำหน้าบึ้งรู้ตัวว่าตกหลุมพรางคนเจ้าเล่ห์เข้าให้แล้ว ใบหน้าของเธอเริ่มแดงก่ำเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์และอาการงอนที่โดนคนตรงหน้าปั่นหัว
"ท่านกำลังปั่นหัวฮันนาอยู่ใช่ไหม"
"ห่ะๆ เปล่าสักหน่อยอยากรู้ทำไมไม่ถามล่ะ ฮึ!" รียายื่นมือไปบีบแก้มของเธอเบาๆอย่างอดไม่ได้ตอนนี้อยากจะฟัดใจจะขาด รู้แบบนี้น่าจะพาไปกินข้าวที่โรงแรมซ่ะก็ดี ไม่น่ามาร้านอาหารเลย รียาคิดในใจ
.................................