นักการทูตสาวจากเมือง'ซัลมา' ต้องเข้าไปเชื่อมสัมพันธไมตรีกับรัฐใหญ่อย่าง'ซารียาส' แต่ภายใต้การเดินทางครั้งนี้เธอมีภารกิจอย่างอื่นที่เปิดเผยไม่ได้ "ฮันนา"จะทำงานนี้สำเร็จหรือไม่เมื่อมี "รียา" ผู้ปกครองสูงสุดของซารียาสเป็นกระดูกชิ้นใหญ่ที่คอยขัดขวาง
รัก,หญิง-หญิง,ครอบครัว,ยุคปัจจุบัน,ดราม่า,ฟินGL,ฟิน,หวาน,คลั่งรักขั้นสุด,รัฐ,ทะเลทราย,คลั่งรัก,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
นักการทูตสาวจากเมือง'ซัลมา' ต้องเข้าไปเชื่อมสัมพันธไมตรีกับรัฐใหญ่อย่าง'ซารียาส' แต่ภายใต้การเดินทางครั้งนี้เธอมีภารกิจอย่างอื่นที่เปิดเผยไม่ได้ "ฮันนา"จะทำงานนี้สำเร็จหรือไม่เมื่อมี "รียา" ผู้ปกครองสูงสุดของซารียาสเป็นกระดูกชิ้นใหญ่ที่คอยขัดขวาง
ผู้แต่ง
Number17
เรื่องย่อ
ดินแดนทะเลทรายอันไกลโพ้น มีรัฐอิสระที่แยกตัวออกมาปกครองตนเองอยู่สี่รัฐ ซารียาส อะมาลี ยาซีส และซัลมา
ซารียาส มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดและอุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่ประเมินค่าไม่ได้ อย่างน้ำมันและทองคำ เป็นรัฐที่มั่งคั่งและร่ำรวย รัฐบาลมีการจัดการที่ดีให้ชาวเมืองได้รับสวัสดิการที่เหมาะสม ภูเขาสูงย่อมมีเหวลึก เมื่อมีซารียาสที่เป็นดั่งแดนสวรรค์ ซัลมา รัฐเล็กๆที่มีพื้นที่ติดต่อกับซารียาสก็เป็นดั่งเหวลึก รัฐบาลซัลมาภายใต้การปกครองในยุครัฐบาลปัจจุบันชาวเมืองห่างไกลคำว่าสุขสบายไปมาก ผู้คนชั้นแรงงานส่วนใหญ่อดอยาก จึงมีปัญหาแรงงานที่ล้นทะลักเข้าไปทำงานยังซารียาสอย่างผิดกฎหมายมากขึ้นทุกปี
ปัญหาเริ่มบานปลายเมื่อคนลักลอบไปทำงานมากขึ้นและเริ่มส่งผลต่อแรงงานของคนพื้นถิ่น เป็นเหตุให้รัฐบาลซารียาสต้องเร่งผลักดันพวกเขาออกไป แต่มันไม่ใช่แค่นั้นเมื่อบทกำหนดโทษของผู้กระทำความผิดตามกฎหมายของซารียาสนั้นแตกต่างออกไป นั่นก็คือการเฆี่ยนด้วยแส้ รวมถึงมีข่าวจากวงในว่าจะมีการปราบปราบแรงงานอย่างเข้มงวด
เป็นเหตุให้ ฮันนา หญิงสาวลูกครึ่งชาวซัลมา+อังกฤษที่ทำงานอยู่ในกระทรวงการต่างประเทศของซัลมาจะต้องหาวิธีเข้าไปช่วยแรงงานคนของรัฐให้กลับมาก่อนที่จะมีประกาศกวาดล้างอย่างจริงจัง
เธอตัดสินใจเข้าไปเป็นทูตเพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรีที่ไม่ดีนักของทั้งสองรัฐ เบื้องหลังเพื่อช่วยเหลือคนงานอย่างลับๆ แต่ทุกอย่างที่เธอทำอยู่ภายใต้การจับตามองของผู้ครองแคว้นสุดเข้มงวดอย่าง รียา ผู้ครองแคว้นลำดับที่สิบสามของซารียาส มีข่าวลือหนาหูออกมาว่าเธอเป็นพวกอนุรักษ์นิยมสุดโต่งและไม่ชอบชาวซัลมาอย่างมาก เพราะเหตุขัดแย้งเมื่อหลายสิบปีก่อน
สาวนักการทูตจากซัลมาจะทำภารกิจของเธอสำเร็จหรือไม่ การเชื่อมความสัมพันธ์ทั้งสองรัฐที่มีปัญหากันมายาวนานจะจบลงแบบไหน
หรือจะมีความสัมพันธ์แบบใหม่ที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้นก็ไม่มีใครรู้ ร่วมเดินทางไปด้วยกันนะคะ
สวัสดีค่ะทุกคนเป็นนิยายเรื่องแรกที่ลองนำมาลงที่ Plotter ฝากติดตามด้วยนะคะ
ครั้งนี้เข้าบุกตะลุยดินแดนทะเลทรายกับบ้างที่รับรองว่าร้อนจริง จะเป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างรัฐที่เขียนขึ้นมาเอง...ห่ะๆ ชื่อสถานที่ เมือง กฎหมายตั้งขึ้นตามใจไรต์นะคะ (เป็นเรื่องแต่งขึ้นตามจินตนาการของไรต์นะคะ) ที่จริงแล้วไรต์เองที่เป็นผู้ครองแคว้นตัวจริง
ฝากนิยายเรื่องนี้ไว้อีกสักเรื่องนะคะ ขอบคุณทุกคนที่ติดตามกันมาตลอด ไรต์จะพยายามสร้างสรรค์ผลงานออกมาให้อ่านกันเรื่อยๆ เพราะเหงาอยากคุยกับนักอ่าน
คอมเม้นต์มาคุยกันได้ตลอดนะคะ รักทุกคนค่ะ
[Number17]
27
ประกาศกฎหมายใหม่
ผู้คนในเมืองต่างให้ความสนใจกับกฎหมายใหม่ที่ออกมา ท่านรียาได้ให้มีการพิมพ์เป็นหนังสือส่งให้แต่ละบ้านแล้ว และยังเปิดเว็ปไซต์ให้ดาวน์โหลดได้ตลอดเวลาสำหรับผู้ที่สะดวกใช้เทคโนโลยี และวันนี้จะมีการประกาศใช้อย่างเป็นทางการ
หัวข้อหลักๆที่ชาวเมืองสนใจก็คงจะเป็นการยกเลิกการลงโทษผู้กระทำความผิดโดยการเฆี่ยน จะเปลี่ยนเป็นการคุมขังและปรับไปตามความผิดตามกฎหมายสากล เรื่องนี้ทุกคนก็เห็นด้วย
ส่วนในเรื่องของการปรับแก้ไขสำหรับการปกครองชาวเมืองก็ไม่ได้มีข้อโต้แย้ง เพราะหากว่ายังอยู่ภายใต้การปกครองของตระกูลอัลฮาซอ พวกเขาก็รู้ดีว่าจะได้รับความเป็นอยู่ที่ดี ดังที่เป็นอยู่มายาวนาน คนของตระกูลนี้มีจิตใจที่รักบ้านเมืองสืบต่อกันมาทุกรุ่น
ด้านหน้าอาคารสีขาว ทำเนียบรัฐบาลซารียาส กลุ่มคนจำนวนมากต่างก็มาออกันอยู่เพื่อฟังประกาศจากจากรียา ภายในกลุ่มนั้นมีผู้คนหลากหลายอาชีพทั้งนักการเมือง นักข่าว รวมถึงบุคคลทั่วไปผู้ที่ให้ความสนใจเข้ามาฟังกันเป็นจำนวนมาก
ฮันนาและรอบีสเองก็มายืนให้กำลังใจรียาอยู่ห่างๆก่อนที่พวกเขาจะกลับไปยังซัลมาหลังจากจบพิธีการในครั้งนี้
การได้เข้ามาในซารียาสสร้างความเข้าใจใหม่ๆให้กับพวกเขาทั้งสองคนอย่างมาก ทำให้รู้ว่าทำไมรัฐนี้จึงเข้มแข็งและมั่งคั่ง นอกจากจะมีทรัพยากรที่มาจากธรรมชาติแล้วการบริหารจัดการที่ดีก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่เป็นจุดเด่นของซารียาส
ผิดกับซัลมาเมืองเล็กๆที่เหมือนจะจัดการได้ง่ายกว่ากลับล้มเหลวในการบริหาร เพราะสวัสดิการต่างๆไปกระจุกอยู่กับกลุ่มคนเพียงกลุ่มเดียว และขาดความใส่ใจปากท้องของคนชั้นแรงงาน หากมีโอกาสฮันนาอยากจะผลักดันเรื่องนี้หลังจากที่เธอกลับไป เธอได้แต่หวังว่าพลังเล็กๆของเธอจะทำอะไรได้บ้างไม่มากก็น้อย
เสียงฮือฮาดังขึ้นเบื้องหน้า รียาเดินออกมาจากที่โถงกลางของทำเนียบ เธอสวมชุดเป็นทางการของผู้ครองแคว้น เป็นชุดกางเกงสีขาวทั้งตัวที่หน้าอกและไหล่ทั้งสองข้างติดประดับตราเกียรติยศมากมาย เป็นครั้งแรกที่ฮันนาได้เห็น
มันช่างดูสง่างามและศักดิ์สิทธิ์ เธอรู้สึกภาคภูมิใจในตัวของรียามากที่สุด รอบีสที่ยืนอยู่ข้างๆฮันนาเขาเองก็รู้สึกถึงก้อนบ้างอย่างในอก ภาพของรียาสะท้อนภาพของผู้หญิงอีกคนในความนึกคิดของเขา ชายหนุ่มเอามือกำจี้ล็อกเก็ตที่สวมอยู่เอาไว้ตัวสั่น ครั้งหนึ่งผู้หญิงในรูปนี้ก็เคยสวมชุดที่ศักดิ์สิทธิ์ตรงหน้า ผู้หญิงคนนั้นคือแม่ของเขา
รียากางประกาศสีทองตรงหน้าออก เธอยืนอยู่กลางโถงกว้างทุกคนถอยออกห่างจากบริเวณนั้นทพให้รียาโดดเด่นยิ่งขึ้น ก่อนที่เธอจะได้ประกาศข้อความภายในนั้นก็มีเสียงของชายผู้หนึ่งดังขึ้นด้านข้าง
"เราขอคัดค้านการประกาศกฎหมายใหม่ของซารียาส"
เสียงของผู้ชายคนหนึ่งที่ดังขึ้นทำให้เรียกสายตาของผู้คนที่อยู่บริเวณนั้นไปทั้งหมด ท่านอัคนัตน้องชายของรียา
"ท่านอัคนัต ท่านอัคนัตเข้ามาในรัฐได้ยังไง" เสียงของผู้คนแตกตื่นและตั้งคำถาม
รียาย่นคิ้วเข้าหากันอย่างสงสัย เธอจำได้ว่ายังไม่ได้ส่งข่าวไปให้น้องชายรู้ เธอตั้งใจเอาไว้ว่าหลังจากประกาศกฎหมายใหม่จึงจะส่งข่าวให้น้องๆ พวกเขาจึงจะกลับเข้ารัฐได้นั่นจึงจะไม่ถือว่าเป็นความผิดฐานก่อกบฎ
"อัคนัตมาได้ยังไงรู้หรือเปล่าว่าทำอะไรอยู่" รียาบอกกับน้องชายด้วยความเป็นห่วง กลัวว่าอัคนัตจะมีความผิดไปด้วย
"ผมรู้ ผมจึงต้องมายังไงล่ะ พี่จะทำแบบนี่ไม่ได้นะจะให้ใครที่ไหนก็ไม่รู้เข้ามาปกครองรัฐของเราได้ง่ายๆ จะพาลทำให้ซารียาสเสียหายได้"
"พูดอะไร" รียาทำหน้าสงสัยไม่เข้าใจความหมายที่น้องชายของเธอจะสื่อ
ไม่นานกลุ่มของท่ารัฐมนตรีวาเฟียก็เดินเข้ามากลางโถงใหญ่ ผู้คนต่างให้ความสนใจในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เป็นครั้งแรกที่พี่น้องของผู้ครองแคว้นอยู่ในรัฐด้วยกัน และตอนนี้ก็กำลังเผชิญหน้ากันอยู่
"แบบนี้จะทำยังไงดีล่ะครับท่านรียา" รัฐมนตรีวาเฟียพูดขึ้นท่านมกลางผู้คนหลายร้อยคนในโถง
"ไม่เคยมีในประวัติศาสตร์ของรัฐเรามาก่อน"
ตอนนี้รียาเหมือนถูกบีบ มีทางให้เธอเลือกสองทางคือหนึ่งจะต้องถูกน้องชายยึดอำนาจและลงจากการเป็นผู้ปกครอง.และนั่นจะทำให้สิ่งที่เธอตั้งใจเอาไว้ทั้งหมดสูญเปล่า และสองคือจับน้องชายของเธอสำเร็จโทษในข้อหากบฎ และนั่นมีโทษสูงสุด
"วาเฟีย" รียากัดฟัดกรอดมองรัฐมนตรีวาเฟียด้วยสายตาโกรธแค้น หากไม่ได้อยู่ต่อหน้าผู้คนมากมายเธอคงจัดการคนๆนี้ไปแล้ว
ฮันนาและรอบีสมองรียาด้วยความเป็นห่วงก่อนที่เธอจะถูกกันออกจากโถงนี้ไป
"ท่านรียา ท่านรียา นี่อย่าผลักได้ไหมคะ" ฮันนาต่อว่าเจ้าหน้าที่ที่ผลักพวกเธอออกจากที่นั่น
"พวกเราจะไปส่งท่านทูตที่ชายแดน เชิญครับ"
"อะไรกันคะ"
"เชิญ!" นายทหารผู้นั้นเสียงเข้มขึ้น รอบัสดึงรั้งแขนของฮันนาเอาไว้พลางส่ายหน้าช้าๆ สัญลักษณ์ทางหน้าตาถูกนำมาใช้อีกครั้ง ตอนนี้เลยเวลาที่พวกเธอจะต้องกลับออกไปมากแล้ว หากไปช้าด่านจะผิด และวีซ่าที่ขออนุญาตเข้าเมืองก็จะหมดลงในวันนี้ ฮันนาเป็นห่วงรียาจับใจจากสถานการณ์เมื่อครู่เธออยากจะอยู่ข้างๆรียา
ตอนนี้เธอเข้าใจรีดาหญิงสาวคนนั้นแล้วว่าทำไมจึงไม่อยากกลับไป
หญิงสาวหันซ้ายหันขวาเธอไม่เห็นท่านนายพลฮารีสอยู่ในบริเวณนี้เลย ถ้าตอนนี้มีท่านนายพลอยู่เธอก็ยังพลอยเบาใจไปได้
"พวกเราจะอยู่ที่นี่จะไม่ไแไหนทั้งนั้น" ฮันนาประกาศกร้าวขึ้นมาอย่างมั่นใจ
•••
ตอนนี้ผู้คนที่ไม่เกี่ยวข้องถูกกันออกจากโถงทำเนียบ เหลือเพียงเจ้าหน้าที่ผู้ใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็เหมือนจะเป็นฝ่ายคนของรัฐมนตรีวาเฟีย รียามองน้องชายของตนเองด้วยสายตาผิดหวัง ไม่คิดว่าเขาจะฟังคนอื่นมากกว่าพี่สาวของตนเอง นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมรียาจึงอยากจะให้พี่น้องทุกคนกลับมาอยู่ด้วยกัน ความห่างไกลเป็นความอ่อนไหวอย่างหนึ่ง เป็นเรื่องง่ายที่จะได้รับข้อมูลผิดๆ จากผู้ที่ไม่หวังดี
"ว่ายังไงท่ารียาเพียงแค่ท่านสั่งมาะวกเราจะทำตามที่ท่านสั่งทุกอย่าง" รัฐมนตรีวาเฟียกล่าวขึ้น
เจ้าหน้าที่อารักขายกปืนเล็กไปที่ท่านอัคนัต หากเธอบอกว่าจะสละตำแหน่งน้องชายของเธอจึงจะปลอดภัยและจะได้ขึ้นปกครองรัฐทันที แต่ถ้าหากเธอไม่ยินยอมกระสุนปืนนั้นจะวิ่งตรงไปยังท่านอัคนัตในฐานะผู้ก่อกบฎ
ปัง!
เสียงปืนดังขึ้นหลังจากนั้น คนที่อยู่ภายนอกประตูโถงทำเนียบนิ่งเงียบพร้อมกัน ก่อนจะมีเสียงฮือฮาเกิดขึ้น ฮันนาพยายามเบียดตัวกับกลุ่มเจ้าหน้าที่ต้องกานที่จะเข้าไปด้านใน ตอนนี้ในหัวของเธอไม่รับรู้อะไรแล้ว ต้องการรู้แค่ว่ารียายังปลอดภัยดีอยู่ไหม
ฮันนาและรอบีสถูกเจ้าหน้าที่ตวบคุบตัวและพากลับไปยังชายแดนทันที เธอร้องไห้จนไม่เหลือน้ำตาและเหนื่อล้าทั้งกายและใจตอนนี้สภาพราวกับคนที่ไม่รับรู้อะไรทั้งนั้นทั้งคู่มาถึงชายแดนจนเกือบค่ำ เป็นคนสุดท้ายที่ทำเรื่องข้ามแดนหลังจากนั้นด่านก็ปิดพอดี
ท่านโรเจอร์มารอรับลูกสาวตั้งแต่ช่วงเที่ยง เห็นว่าเลยเวลามามากก็ร้อนใจพยายามติดต่อฝ่ายซารียาสก็ได้ยินข่าวมาว่าเกิดปัญหาขึ้นภายใน เขารอลูกสาวอยู่เกือบหกชั่วโมงและก็เห็นฮันนาเดินกลับออกมาพร้อมรอบีส
พอเห็นหน้าผู้เป็นพ่อฮันนาก็โผเข้ากอดและปล่อยโฮออกมาจากสุดกลั้น คุณโรเจอร์กอดปลอบลูกสาว เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขค้นที่นั่นแต่จากสภาพที่หัวใจแตกสลายของฮันนาตอนนี้เขาไม่อยากถามอะไร เขาจะต้องปลอบโยนเธอให้มากที่สุดในตอนนี้
รถยนต์คันเดียวกันกับที่มาส่งทั้งคู่เมื่อเดือนที่แล้วตอนนี้ก็มารับพวกเขากลับด้วย ภายในห้องโดยสารตกอยู่ภายใต้ความเงียบ ฮันนาเอนซบที่ไหล่ของผู้เป็นบิดา รอบีสเองก็มีสภาพไม่แตกต่างกันเพียงแต่เขาเป็นผู้ชายจึงไม่ได้ฟูมฟายเหมือนฮันนา แต่ก็รับรู้ได้ถึงความกังวล เขาเป็นห่วงคนที่อยู่ที่นั่น
ไม่มีใครรู้ว่าเสียงปืนที่ดังขึ้นภายในโถงทำเนียบรัฐบาลซารียาสนั้นคืออะไร พวกเขาถูกคุมตัวกลับมาทันทีหลังจากเสียงปืนดังนั้น สิ่งที่รอบีสทำได้คือรอฟังข่าวพรุ่งนี้ว่าทางการซารียาสจะประกาศออกมาแบบไหน
•••
หนึ่งเดือนผ่านไป
ยังไม่มีรายงานข่าวใดๆออกมาจากรัฐซารียาส ฮันนาเที่ยวถามผู้เป็นบิดาว่าท่านลุงฮารีสได้ส่งข่าวมาหรือไม่ แต่ท่านรัฐมนตรีโรเจอร์ก็บอกว่ายังไม่มีรายงานเข้ามา ฮันนารู้ดีว่าหากทางนั้นต้องการปิดข่าวพวกเขาก็ทำได้อย่างดี
สิ่งที่ทรมานที่สุดคือการเฝ้ารอโดยที่ไม่รู้อะไรเลย
หลังจากที่กลับมาจากซารีซาสเมื่อเดือนก่อน พอฮันนาตั้งสติได้เธอก็เล่าเรื่องทุกอย่างให้พ่อกับแม่ฟังตั้งแต่วันแรกที่เข้าไปเหยียบแผ่นดินของซารียาส จนถึงวันสุดท้ายที่ออกจากที่นั่น รวมไปถึงความสัมพันธ์ทางหัวใจของเธอกับผู้ครองแคว้น
พ่อกับแม่โอบกอดเธอไว้ด้วยความรัก รับฟังและเข้าใจลูกสาวทุกอย่าง คุณโรเจอร์เองก็พยายามหาอย่างจากที่นั่นอย่างสุดความสามารถเช่นกัน
"วันนี้มีข่าวอะไรไหมคะคุณพ่อ"
ชายร่างสูงชาวยุโรปส่ายหน้าช้าๆ ไม่ใช่แค่ฮันนาที่กังวล เขาเองก็เป็นห่วงเพื่อนรักอย่างนายพลฮารีสเช่นกัน
"พ่อคะ ลูกเป็นห่วงรียาให้ลูกกลับไปที่นั่นอีกสักครั้งนะคะ" หญิงสาวทนไม่ไหวแล้วมันนานเกินไปที่เธอไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับคนที่เธอรัก สิ่งที่ฮันนาต้องการแค่เพัยงรู้ว่าอีกฝ่ายปลอดภัยหรือเปล่าเท่านนั้น
"ทางซารียาสยังไม่เปิดให้บุคคลภายนอกเข้าเมือง แจ้งแค่ว่าต้องจัดการเรื่องภายในรัฐให้เรียบร้อย ส่วนจะเปิดอีกเมื่อไหร่จะมีประกาศมาอีกที มีแค่ทางเดียวที่จะเข้าไปได้ แต่ลูกจะต้องสัญญากับพ่อว่าพอรู้ข่าวแล้วจะต้องรีบกลับมาโดยเร็วที่สุด"
แววตาของหญิงสาวเปล่งประกายด้วยความหวัง สิ่งที่โชคดีในชีวิตของฮันนาคือการที่เธอได้เกิดมาในครอบครัวนี้
คุณโรเจอร์พาลูกสาวและภรรยามาเที่ยวพักผ่อนที่อะมาลี ที่นี่เป็นรัฐที่โดดเด่นด้านการเกษตรเทคโนโลยีต่างๆได้นำมาพัฒนาปรับใช้เพื่อการเพาะปลูก และอะมาลีก็เปรียบเป็นดังห้องครัวของดินแดนนี้
เป้าหมายของสามพ่อลูกคือเขตชายแดนอะมาลีกับซารียาส ถึงซารียาสจะปิดการเข้าออกจากที่อื่นแต่กับอาหารที่ต้องส่งเข้าออกประจำทุกวันไม่มีทางปิดแน่ๆ
เขตชายแดนบริเวณนี้เปิดให้มีการเข้าออกด้วยวีซ่าพิเศษสั้นๆไม่เกินสามวัน เพื่อให้พ่อค้าแม่ค้านำผลผลิตของตนเข้าไปขายที่ตลาดอะฟาฟ นักท่องเที่ยวชอบที่จะมาเดินจับจ่ายของสดที่นี่ ทั้งผักผลไม้ เนื้อสัตว์ อาหารแห้งทุกอย่างมีให้เลือกซื้อ คุณหญิงราสจีถือโอกาสมาซื้อของกลับไปตุนไว้ที่บ้านด้วย
สามคนพ่อแม่ลูกมาในนามนักท่องเที่ยวและเปิดห้องพักใกล้ๆชายแดน
"รีบหาข่าวแล้วก็รีบกลับนะ แม่กับพ่อจะมารอที่นี่ ถ้าถึงเวลาแล้วยังไม่ได้เรื่องอะไรก็กลับมาก่อนนะลูก"
"ค่ะ ขอบคุณนะคะคุณพ่อคุณแม่" ฮันนาน้ำตาคลอสองคนนี้เป็นทุกอย่างจริงๆ เธอสัญญากับตัวเองเอาไว้ว่าจะรักตัวเองให้มากๆให้สมกับท่านทั้งสองที่รักเธอขนาดนี้
คุณโรเจอร์และภรรยาไม่ใช่ว่าไม่ห่วงลูกสาวแต่พวกเขารู้ถึงความรู้สึกของฮันนาเป็นอย่างดี หากให้เธอทนอยู่แบบนั้นหัวใจของเธอจะค่อยๆเหี่ยวเฉายิ่งกว่าตายทั้งเป็น ขอให้เธอได้รู้เรื่องที่ค้างคาในใจทุกอย่างจึงจะทุเลาลงได้
.............................