หมาเด็กนิสัยเปรตนิดหน่อย ตัวไม่เล็กแม่น้อยแต่อุ้มง่ายมาก

Dog Person คนสวยขาเจ้าของหมาเปรต - ตอนที่ 2 ลูกหมาล็อกเป้า โดย เราพิมพ์ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,วัยว้าวุ่น,ครอบครัว,รัก,หมากินแตงโม,รุกรับสลับโพ,คลั่งรัก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Dog Person คนสวยขาเจ้าของหมาเปรต

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,วัยว้าวุ่น,ครอบครัว,รัก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

หมากินแตงโม,รุกรับสลับโพ,คลั่งรัก

รายละเอียด

Dog Person คนสวยขาเจ้าของหมาเปรต โดย เราพิมพ์ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

หมาเด็กนิสัยเปรตนิดหน่อย ตัวไม่เล็กแม่น้อยแต่อุ้มง่ายมาก

ผู้แต่ง

เราพิมพ์

เรื่องย่อ

 

คุณเคยมองใครสักคนแล้วรู้สึกเหมือนกับมีฟิลเตอร์ลูกหมาฉาบทับเอาไว้ตลอดเวลาบ้างหรือเปล่า หูหางโบกสะบัดเป็นวรรคเป็นเวรเวลาที่ดีอกดีใจเหมือนจะเกินเบอร์ไปนิดหน่อยแต่เจ้าตัวเขาก็มีนิสัยเป็นแบบนั้นจริงๆ และถึงใครๆ จะมองว่าเจ้าลูกหมาที่กำลังพันแข้งพันขาตัวเขาอยู่ยังเป็นแค่เด็กนักศึกษาไม่มีความมั่นคงและไม่ค่อยจะน่ารักเท่าไหร่เพราะติดนิสัยปากแซ่บช่างเถียงแต่เขารัชชานนท์กลับคิดว่าแบบนี้แหละที่ทำให้เจ้าหมาเด็กของเขานั้นน่ารักที่สุดในโลก

 

แจ้งให้ทราบ

นิยายเรื่องนี้มีการบรรยายถึงรสนิยมทางเพศแบบอิสระไม่จำเพาะเจาะจง รบกวนนักอ่านปล่อยใจปล่อยจอยไม่ยึดติดกับโพใดๆ เน้นเอาใจคนสวยขาและหมาเด็กเป็นหลักนะคะ

 

กติกาการลงนิยาย

ลงเนื้อหาให้อ่านฟรี 10 ตอนจากทั้งหมด 30 ตอน โดยตั้งแต่ตอนที่ 11 เป็นต้นไปจะเป็นการจะติดเหรียญล่วงหน้าให้อ่านในราคาถูกเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ปลดเหรียญอ่านฟรี 1 สัปดาห์ และหลังจากนั้นจะเป็นการติดเหรียญถาวรราคาเต็ม

 

สารบัญ

Dog Person คนสวยขาเจ้าของหมาเปรต-ตอนที่ 1 ธงเขียวที่จริงใจ,Dog Person คนสวยขาเจ้าของหมาเปรต-ตอนที่ 2 ลูกหมาล็อกเป้า,Dog Person คนสวยขาเจ้าของหมาเปรต-ตอนที่ 3 สองคนพี่น้อง,Dog Person คนสวยขาเจ้าของหมาเปรต-ตอนที่ 4 ขออนุญาตเรียกมันว่าพรหมลิขิต,Dog Person คนสวยขาเจ้าของหมาเปรต-ตอนที่ 5 พ่อค้าขายต้นไม้,Dog Person คนสวยขาเจ้าของหมาเปรต-ตอนที่ 6 ชาบูหมูกระทะ,Dog Person คนสวยขาเจ้าของหมาเปรต-ตอนที่ 7 ใจข้าวสารมันก็มีเท่านี้,Dog Person คนสวยขาเจ้าของหมาเปรต-ตอนที่ 8 ปาร์ตี้ชุดนอน,Dog Person คนสวยขาเจ้าของหมาเปรต-ตอนที่ 9 สงสัยที่บ้านไม่เคร่งเรื่องมารยาท,Dog Person คนสวยขาเจ้าของหมาเปรต-ตอนที่ 10 ช่วงเวลาหฤโหด,Dog Person คนสวยขาเจ้าของหมาเปรต-ตอนที่ 11 ปิดเทอมมันว่างเลยมาเป็นลูกจ้างร้านขายต้นไม้ ปลดเหรียญอ่านฟรี 17/01/68 ติดเหรียญถาวร 24/01/68,Dog Person คนสวยขาเจ้าของหมาเปรต-ตอนที่ 12 เข้ามาทางไหนออกไปทางนั้นได้นะครับ ปลดเหรียญอ่านฟรี 18/01/68 ติดเหรียญถาวร 25/01/68,Dog Person คนสวยขาเจ้าของหมาเปรต-ตอนที่ 13 สวยสร้างเรื่อง ปลดเหรียญอ่านฟรี 19/01/68 ติดเหรียญถาวร 26/01/68,Dog Person คนสวยขาเจ้าของหมาเปรต-ตอนที่ 14 พักกายพักใจ ปลดเหรียญอ่านฟรี 20/01/68 ติดเหรียญถาวร 27/01/68,Dog Person คนสวยขาเจ้าของหมาเปรต-ตอนที่ 15 หมูกระทะกับอ้อมกอดอุ่นๆ ปลดเหรียญอ่านฟรี 21/01/68 ติดเหรียญถาวร 28/01/68,Dog Person คนสวยขาเจ้าของหมาเปรต-ตอนที่ 16 เรื่องนี้จริงหรือเค้ก ปลดเหรียญอ่านฟรี 22/01/68 ติดเหรียญถาวร 29/01/68,Dog Person คนสวยขาเจ้าของหมาเปรต-ตอนที่ 17 แคมป์ปิ้งแซ่บลืม ปลดเหรียญอ่านฟรี 23/01/68 ติดเหรียญถาวร 30/01/68,Dog Person คนสวยขาเจ้าของหมาเปรต-ตอนที่ 18 แตงโม แต่งโม่ แตงโม ปลดเหรียญอ่านฟรี 24/01/68 ติดเหรียญถาวร 31/01/68

เนื้อหา

ตอนที่ 2 ลูกหมาล็อกเป้า

“เอ่อ สวัสดีครับยินดีที่ได้รู้จักนะ เรียกพี่ว่าพี่แตงโมก็ได้ไม่ต้องเรียกชื่อจริงหรอกมันยาวไป” รัชชานนท์ส่งยิ้มบางๆ ให้รุ่นน้องที่คล้ายจะยืนกระดิกหูแกว่งหางอยู่ตรงหน้าตัวเองพร้อมทั้งเผื่อแผ่รอยยิ้มหวานๆ ไปให้รุ่นน้องคนอื่นๆ ที่อยู่ภายในซุ้มกิจกรรมโดยทั่วกัน

“โอเคเลยครับถ้าอย่างนั้นผมเรียกพี่ว่าพี่แตงโมนะพี่เรียกผมว่าข้าวหรือน้องข้าวก็ได้ครับที่บ้านผมก็เรียกว่าน้องข้าวแบบนี้แหละ พี่แตงโมสนใจเล่นหนุ่มน้อยตกน้ำสักตาสองตาไหมครับสนุกนะเล่นไม่ยากด้วยพี่เลือกเป้าได้เลยนำครับกองทัพหนุ่มน้อยของเราใส่ชุดหมีกันน้ำรอพี่อยู่ตรงนั้นแล้ว” เมื่อคนสวยขาทั้งใจดีและเป็นกันเองถึงขนาดนี้ข้าวสารก็ไม่ลังเลเลยที่จะชวนรุ่นพี่เล่นสนุกด้วยกันสักตาสองตาเพื่อเป็นการเพิ่มสีสันให้กับซุ้มกิจกรรม

“อ้าว ผมก็มาด้วยกันคุณไม่ชวนผมบ้างเหรอเจตนิพัทธ์หรือว่าเขาห้ามอาจารย์ที่อายุเกินสี่สิบเล่นด้วย” อาจารย์วีระพูดติดตลกเพราะว่าหมั่นไส้ที่ลูกศิษย์ของตัวเองแสดงออกนอกหน้าว่าสนใจในตัวรุ่นพี่แต่ก็ไม่ได้ตำหนิอะไรเพราะเด็กมันก็ยังไม่ได้ทำอะไรน่าเกลียดเผลอๆ ก็แค่จะชื่นชมรุ่นพี่คนเก่งไปตามประสาก็เท่านั้น

“เล่นได้แน่นอนครับผมให้อาจารย์คิวแรกเลย น้องๆ พี่ขอคิวให้อาจารย์ได้ร่วมสนุกแป๊บนึงนะครับพวกเราเลือกเป้ารอเอาไว้ได้เลยนะ” เจตนิพัทธ์หันไปขออนุญาตน้องๆ ที่กำลังลงทะเบียนยังไม่เสร็จจากนั้นก็หันมาเตรียมลูกบอลให้ทั้งอาจารย์แล้วก็รุ่นพี่ที่น่ารักคนละหนึ่งตะกร้าถ้วน

อาจารย์วีระปาลูกบอลถูกเป้าทั้งหมดสองลูกส่งนางสงกรานต์คนงามและลูกศิษย์ของตัวเองลงไปนั่งอยู่ในถังน้ำเป็นที่เรียบร้อยจากนั้นก็ถึงตาของรัชชานนท์ที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะเลือกเป้าได้สักที

“พี่แตงโมครับสนใจเป้าคนไหนครับชี้มาได้เลยนะเดี๋ยวน้องข้าวจัดการให้เอง” เพราะอาจารย์วีระขอตัวกลับไปที่ซุ้มวิชาการก่อนเพราะมีอาจารย์ท่านอื่นโทรมาตามในตอนนี้จึงเหลือรุ่นพี่รัชชานนท์ยืนอยู่กับเขาแค่สองคนเจตนิพัทธ์จึงกล้าที่จะเดินไปคุยกับพี่เขาใกล้ๆ โดยยืนห่างกันแค่ฝ่ามือเดียว

“พี่เลือกน้องคนนี้ครับ รบกวนด้วยนะ” รัชชานนท์หันมาชี้ที่รุ่นน้องที่แอบอ้างว่าตัวเองเป็นลูกหมาธงเขียวอย่างไม่มีลังเลทำเอาข้าวสารเสียอาการเล็กน้อยที่ถูกเลือกแบบไม่ทันได้ตั้งตัวแต่พอตั้งสติได้ก็รีบไปไถชุดกันน้ำมาจากจูจุนและรีบสวมเข้าไปอย่างรวดเร็วด้วยเกรงว่าจะทำให้พี่แตงโมต้องรอนานจนเสียเวลา

“แล้วนี่พี่จะเลือกผมแค่คนเดียวเองเหรอครับถังน้ำมีตั้งสามถังนะจะเลือกใครมาเพิ่มไหม” ตอนแรกที่เปิดซุ้มก็เอาถังออกมาใช้แค่สองถังเพราะจะเก็บถังสำรองไว้หนึ่งถังเผื่อเหลือเผื่อขาดแต่ไปๆ มาๆ ก็เอามันออกมาครบทั้งสามถังตามจำนวนลูกบอลที่มีในตะกร้าไปเลยจะได้ปากันต่อเนื่องไม่ขาดตอน

“พอดีพี่ชอบเลือกทีละคนครับ น้องข้าวพร้อมแล้วนะ”

ตูม ตูม ตูม

มัวแต่มองตามรอยยิ้มหวานๆ ของรุ่นพี่โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองต้องปีนขึ้นไปนั่งบนถังน้ำอีกตั้งสองรอบจนกระทั่งร่วงลงไปนั่งในถังน้ำเป็นครั้งที่สามแล้วนั่นแหละเจตนิพัทธ์จึงเพิ่งรู้ตัวเมื่อเป็นหนึ่งตะโกนบอกให้ปีนออกจากถังมาได้เลยเพราะพี่แตงโมปาครบไปแล้วเรียบร้อย

รัชชานนท์เป็นชายหนุ่มที่หน้าตาดูดีเหมือนไม่มีอยู่จริงไม่ว่าจะปาก คอ คิ้ว คางทุกอย่างนั้นได้รูปรับกันไปหมดทั้งใบหน้าจะบอกว่าพี่เขาสวยก็สวยมากจะบอกว่าหล่อก็หล่อแบบวัวตายควายล้มนี่ยังไม่ต้องพูดถึงรูปร่างที่ดีกว่านางแบบนายแบบมืออาชีพบางคนเสียด้วยซ้ำก็ไม่รู้ว่าเจ้าตัวเขามีวิธีดูแลตัวเองแบบไหน กินอาหารเสริมอะไรหรือเข้าคลินิกไปทำหัตถการอะไรมาบ้างถึงได้เป๊ะปังวังเวอร์ไปทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดเท้า... สวยจนใจข้าวสารมันเจ็บจี๊ดๆ ไปทั้งดวงแล้ว

“พี่ก็แม่นเกินไป เยี่ยมเลยครับ” คนอ่อนกว่าเอ่ยชมพร้อมกับยกมือชูนิ้วโป้งให้รุ่นพี่ทั้งสองข้างไม่สนใจจะไปเปลี่ยนชุดกันน้ำออกให้เพื่อนเลยแม้ว่าเป็นเอกกับจูจุนจะยืนมองอยู่

“พอดีว่าชอบเดินงานวัดน่ะเบื่อๆ ก็แวะไปปาเป้าไม่ก็ปาโป่งไปตามเรื่อง ขอบคุณมากนะครับน้องข้าววันนี้พี่สนุกมากจริงๆ แต่คงต้องกลับไปที่ซุ้มวิชาการแล้วล่ะ” รัชชานนท์ยิ้มหวานให้ระหว่างที่ส่งตะกร้าเปล่าๆ กลับคืนให้รุ่นน้อง

“เอ่อ ขอบคุณพี่แตงโมเหมือนกันนะครับผมก็สนุกมากๆ เลย” ถึงอยากจะพูดคุยกันให้มากกว่านี้แต่ด้วยเวลาและสถานที่ที่ไม่ค่อยเอื้ออำนวยหนุ่มน้อยข้าวสารจึงได้แต่มองตามหลังรุ่นพี่คนสวยจนแผ่นหลังที่เหยียดตรงนั้นลับหายไปจากครรลองสายตา

“เครื่องค้างเลยเพื่อนกูเห็นคนสวยขาหน่อยไม่ได้ รีบถอดชุดออกมาเร็วๆ แล้วก็ไสหัวกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองน้องๆ เขายืนรอมึงมาตั้งนานแล้ว” เป็นเอกกระตุ้นเพื่อนที่ยังเหม่อเป็นหมามองเครื่องบินด้วยการใช้เท้าซ้ายสะกิดไปที่ข้อพับขาของอีกคนเบาๆ ซึ่งก็แน่นอนว่าการได้รับสัมผัสที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักจากเพื่อนแบบนี้ก็ทำให้ข้าวสารถึงกับเข่าทรุดแต่ก็รู้สึกตัวและมีสติขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์

แต่หลังจากนั้นถ้าใครเผลอไปคุยกับข้าวสารก็จะต้องได้ยินเจ้าตัวเรียกชื่อพี่แตงโมอย่างนั้นพี่แตงโมอย่างนี้แทบจะทุกห้านาทีเลยก็ว่าได้โดยในตอนแรกเพื่อนๆ ก็รำคาญแต่หลังๆ ก็เหมือนว่าจะเอือมแล้วถ้าไอ้หมาเด็กมันอยากจะพูดอะไรก็ปล่อยไปไม่มีใครเขาห้ามแล้วเจ้าตัวก็พูดออกมาทุกครั้งที่มีโอกาสจนกระทั่งจบงานในวันนี้นั่นแหละ

“จะว่าไปพี่แตงโมเป็นอัจฉริยะหรือเปล่าวะเขาเรียนยังไงให้ได้ดีขนาดนั้นเกรดเฉลี่ยสี่จุดศูนย์ศูนย์เนี่ย คิดดูนะพวกเรากว่าจะเรียนได้เอแต่ละตัวแทบจะต้องไหว้บนเทวดาทั่วทั้งมหาลัยหรือพี่เขามีเคล็ดลับเรียนเก่ง... ไม่ได้ละกูต้องหาทางติดต่อกับพี่เขาให้ได้เลย”

"ไอ้ข้าว มึงใจเย็นๆ ก่อนยังไงพี่แตงโมเขาไม่ใช่ผู้หญิงถึงพี่แกจะสวยเซี๊ยะก็เถอะนะ มึงอย่าให้เอวบางๆ กับความเซ็กซี่ของพี่เขามาบังตาเปิดมาก็มีดุ้นเหมือนกันนะเว้ยคิดภาพแล้วสยองมาฟันดาบกันโช้งเช้ง" เสียงพูดติดตลกเจือเสียงหัวเราะขบขันของบดินทร์เพื่อนในสาขาที่เกือบจะสนิทกันแล้วแต่ขอไม่สนิทจะดีกว่าเนื่องจากนิสัยส่วนตัวและการใช้ชีวิตที่ค่อนข้างสวนทางกันไปสักหน่อย

"แล้ว? ดุ้นแล้วไงใครแคร์ แล้วจะดุ้นไม่ดุ้นมันก็เป็นเรื่องของพี่แตงโมเขามึงหรือกูหรือใครๆ ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปก้าวก่าย กูจะบอกอะไรมึงเอาไว้อย่างนะบอมว่าหัดพูดถึงคนอื่นแบบให้เกียรติเขาบ้างก็ได้ปากเป็นแบบนี้กูกลัวมึงอายุไม่ยืนจริงๆ ว่ะ" คำพูดระคายหูที่อีกคนพ่นออกมาก็ทำเอามือหนาๆ ที่กำลังเร่งจัดชุดอุปกรณ์หนุ่มน้อยตกน้ำขึ้นรถกระบะถึงกับชะงักค้างอยู่กับที่เรื่องที่ทำให้สนิทกันไม่ได้หนึ่งจากร้อยเรื่องก็คือบดินทร์นั้นชอบพูดจาดูถูกเหยียดหยามผู้อื่นไม่ว่าจะตั้งใจก็ดีหรือว่าคึกคะนองก็ดีรวมไปถึงเรื่องที่พูดถึงคนอื่นในทางไม่ดีแบบนี้เจตนิพัทธ์บอกเลยว่าไม่ค่อยอยากจะฟัง

นิสัยอีกอย่างที่เขารับไม่ได้เลยก็คือหากเพื่อนคนไหนที่มีฐานะครอบครัวด้อยกว่าเจ้าตัวแล้วละก็บดินทร์ยิ่งกดข่มและจิกกัดอย่างสนุกปากด้วยถือว่าตนเองเป็นบุตรชายคนเล็กของนักธุรกิจใหญ่ที่ชาตินี้และอีกหลายชาติข้างหน้าทรัพย์สินที่พ่อของตัวเองหาไว้ก็ทำให้มีกินมีใช้ได้ไม่มีหมดโดยสมัยก่อนตอนที่เข้ามาเรียนกันใหม่ๆ ตัวของเจตนิพัทธ์กับฉกาจก็เกือบจะตกเป็นเหยื่อแล้วแต่พอดีว่าพวกเขานั้นปากแจ๋วแล้วก็สู้คนพอตัวจึงรอดปากเหยี่ยวปากกาและคนปากหมานิสัยหมามาได้

“มึงพูดแบบนี้หมายความว่าไงวะไอ้ข้าว” บดินทร์ที่ได้ยินแบบนั้นก็เริ่มหัวเสียเขาก็แค่พูดความจริงแล้วทำไมมันต้องมาสั่งสอนทำยังกับเป็นพ่อคนที่สองแต่เอาเข้าจริงๆ พ่อของบดินทร์เองก็ไม่ว่างมาสั่งสอนตักเตือนอะไรพวกนี้หรอกเวลาทุกนาทีของท่านเป็นเงินเป็นทองมีค่ามากเกินกว่าที่จะมาเสียเวลากับเรื่องหยุมหยิมเล็กน้อย

“มึงไปลงเรียนวิชาภาษาไทยเพื่อการสื่อสารใหม่อีกรอบนึงเถอะบอม เรื่องง่ายๆ แค่นี้พูดภาษาไทยแท้ๆ ยังจะต้องให้กูแปลเป็นไทยซ้ำอีก ถอยๆ เกะกะคนอื่นเขากำลังเก็บของกันถ้าไม่คิดจะช่วยก็อย่ามาขวางให้คนอื่นทำงานลำบากไปมากกว่านี้ ฉัตรฝากไปตามพวกนั้นมาให้หน่อยกูมัดของเสร็จแล้วมายกขึ้นรถกัน”

เจตนิพัทธ์ไม่ได้ให้ความสนใจอะไรคนปากไม่ดีต่อเมื่อตัวเองจัดการมัดอุปกรณ์ของหนุ่มน้อยตกน้ำแยกชุดเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลาที่ต้องยกขึ้นใส่หลังรถกระบะของจุติภัทรเพื่อนำไปส่งคืนที่ร้าน ซึ่งอันที่จริงจะเอาไปคืนวันพรุ่งนี้ก็ได้แต่เพราะยังมีเวลาและพวกเขาคุยกันแล้วว่าอยากทำให้เสร็จๆ ไปจะได้ไม่มีภาระติดค้างแม้จะต้องขับรถออกไปไกลถึงนอกเมืองก็ตามที

“เก็บเรียบร้อยแล้วเนาะ ถ้าอย่างนั้นพวกเราจะเอาถังหนุ่มน้อยตกน้ำไปคืนนะเสร็จแล้วจะโอนมัดจำส่งสลิปให้ในไลน์กลุ่มเหมือนเดิม” จูจุนหัวเรือใหญ่ตะโกนบอกเพื่อนๆ ร่วมชะตากรรมจากนั้นก็ขนเพื่อนสนิทของตัวเองขึ้นรถกระบะโดยมีจุดหมายปลายทางเป็นบ้านของคนที่เปิดให้เช่าอุปกรณ์จัดกิจกรรมงานวัดแทบทุกอย่างแต่เพราะพวกเขาพอจะทำอุปกรณ์ง่ายๆ อย่างเป้าเสียบลูกโป่ง ต้นไม้สอยดาวกันเองได้จึงเช่าแต่ถังหนุ่มน้อยตกน้ำมาเพราะว่าทำกันไม่เป็นแต่ให้ทำเป็นก็คงจะไม่ทำเพราะว่าหลังงานจบแล้วไม่รู้ว่าจะเอาถังสามร้อยลิตรสามใบไปเก็บไว้ที่ไหนดี

“หิวข้าวว่ะแวะกินข้าวก่อนไปส่งของคืนได้ไหม” ฉัตรหรือฉกาจที่วันนี้ประจำการอยู่ที่ซุ้มวิชาการทั้งวันเอ่ยถามทันทีที่เพื่อนๆ ขึ้นรถมาครบกันทุกคนแล้วแน่นอนว่าคนที่ขับรถจะต้องเป็นจูจุน จุติภัทรเจ้าของรถกระบะสี่ประตูคันโต คนนั่งข้างๆ ก็คงไม่พ้นข้าวสาร เจตนิพัทธ์ที่ต้องนั่งข้างหน้าเพราะว่าจะช่วยคนขับดูทางเพราะฉะนั้นด้านหลังอีกสองที่ก็เป็นพื้นที่ของเขากับเป็นเอก

“หิวเหมือนกัน”

“หิวด้วย”

“กินครับ หิวมากกินทุกอย่างเลยตอนนี้เราไปกินข้าวเอาระหว่างทางดีไหมกูจำได้ว่ามันต้องผ่านร้านข้าวต้มที่มีป้ายไฟรูปปูตัวโตๆ อยู่ไม่ไกลจากตรงนี้ด้วยเหมือนจะขึ้นทางด่วนไปสักยี่สิบนาทีลงมาก็เจอเลยอดทนกันไหวไหมล่ะ” เป็นเอกผู้มีความจำดีเป็นที่หนึ่งเรื่องของกินเสนอความคิดเห็น

“ได้เลย” เมื่อเพื่อนๆ พร้อมใจกันตอบเป็นเสียงเดียวกันเช่นนี้แล้วจูจุนจึงออกรถโดยรักษาความเร็วไว้ที่ระดับปานกลางไม่ได้เร่งรีบแต่ถึงอยากจะรีบก็ทำไม่ได้เพราะว่าช่วงจะขึ้นทางด่วนนั้นรถออกจะหนาแน่นไปสักนิดแต่ก็ยังไม่ถึงขั้นติดแหง็กอยู่กลางถนน

พวกเขาใช้เวลาไปกับการเดินทางประมาณสามสิบนาทีในตอนนี้รถกระบะสี่ประตูก็มาจอดนิ่งสนิทอยู่ที่หน้าร้านข้าวต้มที่ขึ้นชื่อเรื่องปูดองและอาหารทะเลที่แค่เปิดประตูรถลงมากลิ่นของอาหารหอมฉุยหลากหลายชนิดก็ประเดประดังพัดเข้าหน้าพาให้น้ำลายจะไหล

“เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนยังรู้สึกว่าทนได้แต่พอมาถึงหน้าร้านแล้วข้าวสารจะไม่ทนอีกต่อไปครับพี่น้อง หูยยย ดูๆ ที่ร้านเขาเลี้ยงปลากับกุ้งเป็นๆ เอาไว้ในตู้แบบนี้เลยน่ากินดีนะเนี่ย” ตู้ปลาที่โชว์วัตถุดิบต่างๆ ให้ลูกค้าได้เห็นและมั่นใจได้ถึงความสดใหม่ทำเอาเจตนิพัทธ์แทบจะเดินน้ำลายไหลไปตามทางจนเพื่อนๆ ต้องรีบต้อนเขาให้เข้าไปในร้านก่อนที่จะน้ำลายหกออกมาให้ต้องขายขี้หน้าผู้คน