หมาเด็กนิสัยเปรตนิดหน่อย ตัวไม่เล็กแม่น้อยแต่อุ้มง่ายมาก

Dog Person คนสวยขาเจ้าของหมาเปรต - ตอนที่ 7 ใจข้าวสารมันก็มีเท่านี้ โดย เราพิมพ์ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,วัยว้าวุ่น,ครอบครัว,รัก,หมากินแตงโม,รุกรับสลับโพ,คลั่งรัก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Dog Person คนสวยขาเจ้าของหมาเปรต

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,วัยว้าวุ่น,ครอบครัว,รัก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

หมากินแตงโม,รุกรับสลับโพ,คลั่งรัก

รายละเอียด

Dog Person คนสวยขาเจ้าของหมาเปรต โดย เราพิมพ์ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

หมาเด็กนิสัยเปรตนิดหน่อย ตัวไม่เล็กแม่น้อยแต่อุ้มง่ายมาก

ผู้แต่ง

เราพิมพ์

เรื่องย่อ

 

คุณเคยมองใครสักคนแล้วรู้สึกเหมือนกับมีฟิลเตอร์ลูกหมาฉาบทับเอาไว้ตลอดเวลาบ้างหรือเปล่า หูหางโบกสะบัดเป็นวรรคเป็นเวรเวลาที่ดีอกดีใจเหมือนจะเกินเบอร์ไปนิดหน่อยแต่เจ้าตัวเขาก็มีนิสัยเป็นแบบนั้นจริงๆ และถึงใครๆ จะมองว่าเจ้าลูกหมาที่กำลังพันแข้งพันขาตัวเขาอยู่ยังเป็นแค่เด็กนักศึกษาไม่มีความมั่นคงและไม่ค่อยจะน่ารักเท่าไหร่เพราะติดนิสัยปากแซ่บช่างเถียงแต่เขารัชชานนท์กลับคิดว่าแบบนี้แหละที่ทำให้เจ้าหมาเด็กของเขานั้นน่ารักที่สุดในโลก

 

แจ้งให้ทราบ

นิยายเรื่องนี้มีการบรรยายถึงรสนิยมทางเพศแบบอิสระไม่จำเพาะเจาะจง รบกวนนักอ่านปล่อยใจปล่อยจอยไม่ยึดติดกับโพใดๆ เน้นเอาใจคนสวยขาและหมาเด็กเป็นหลักนะคะ

 

กติกาการลงนิยาย

ลงเนื้อหาให้อ่านฟรี 10 ตอนจากทั้งหมด 30 ตอน โดยตั้งแต่ตอนที่ 11 เป็นต้นไปจะเป็นการจะติดเหรียญล่วงหน้าให้อ่านในราคาถูกเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ปลดเหรียญอ่านฟรี 1 สัปดาห์ และหลังจากนั้นจะเป็นการติดเหรียญถาวรราคาเต็ม

 

สารบัญ

Dog Person คนสวยขาเจ้าของหมาเปรต-ตอนที่ 1 ธงเขียวที่จริงใจ,Dog Person คนสวยขาเจ้าของหมาเปรต-ตอนที่ 2 ลูกหมาล็อกเป้า,Dog Person คนสวยขาเจ้าของหมาเปรต-ตอนที่ 3 สองคนพี่น้อง,Dog Person คนสวยขาเจ้าของหมาเปรต-ตอนที่ 4 ขออนุญาตเรียกมันว่าพรหมลิขิต,Dog Person คนสวยขาเจ้าของหมาเปรต-ตอนที่ 5 พ่อค้าขายต้นไม้,Dog Person คนสวยขาเจ้าของหมาเปรต-ตอนที่ 6 ชาบูหมูกระทะ,Dog Person คนสวยขาเจ้าของหมาเปรต-ตอนที่ 7 ใจข้าวสารมันก็มีเท่านี้,Dog Person คนสวยขาเจ้าของหมาเปรต-ตอนที่ 8 ปาร์ตี้ชุดนอน,Dog Person คนสวยขาเจ้าของหมาเปรต-ตอนที่ 9 สงสัยที่บ้านไม่เคร่งเรื่องมารยาท,Dog Person คนสวยขาเจ้าของหมาเปรต-ตอนที่ 10 ช่วงเวลาหฤโหด,Dog Person คนสวยขาเจ้าของหมาเปรต-ตอนที่ 11 ปิดเทอมมันว่างเลยมาเป็นลูกจ้างร้านขายต้นไม้ ปลดเหรียญอ่านฟรี 17/01/68 ติดเหรียญถาวร 24/01/68,Dog Person คนสวยขาเจ้าของหมาเปรต-ตอนที่ 12 เข้ามาทางไหนออกไปทางนั้นได้นะครับ ปลดเหรียญอ่านฟรี 18/01/68 ติดเหรียญถาวร 25/01/68,Dog Person คนสวยขาเจ้าของหมาเปรต-ตอนที่ 13 สวยสร้างเรื่อง ปลดเหรียญอ่านฟรี 19/01/68 ติดเหรียญถาวร 26/01/68,Dog Person คนสวยขาเจ้าของหมาเปรต-ตอนที่ 14 พักกายพักใจ ปลดเหรียญอ่านฟรี 20/01/68 ติดเหรียญถาวร 27/01/68,Dog Person คนสวยขาเจ้าของหมาเปรต-ตอนที่ 15 หมูกระทะกับอ้อมกอดอุ่นๆ ปลดเหรียญอ่านฟรี 21/01/68 ติดเหรียญถาวร 28/01/68,Dog Person คนสวยขาเจ้าของหมาเปรต-ตอนที่ 16 เรื่องนี้จริงหรือเค้ก ปลดเหรียญอ่านฟรี 22/01/68 ติดเหรียญถาวร 29/01/68,Dog Person คนสวยขาเจ้าของหมาเปรต-ตอนที่ 17 แคมป์ปิ้งแซ่บลืม ปลดเหรียญอ่านฟรี 23/01/68 ติดเหรียญถาวร 30/01/68,Dog Person คนสวยขาเจ้าของหมาเปรต-ตอนที่ 18 แตงโม แต่งโม่ แตงโม ปลดเหรียญอ่านฟรี 24/01/68 ติดเหรียญถาวร 31/01/68

เนื้อหา

ตอนที่ 7 ใจข้าวสารมันก็มีเท่านี้

“บ่ายไปไหนกันไหมพวกมึง อยากดูหนังว่ะมีหนังผีภาคต่อเข้าพอดีเลยไปดูกันหน่อยไหม” หลังหมดคาบเรียนที่หนักหน่วงเป็นเอกก็หันมาถามเพื่อนๆ ที่นั่งเรียงหน้ากระดานอยู่ในสภาพที่ดูไม่จืดตอนนี้แต่ละคนต่างนั่งไหลไปกับเก้าอี้เลคเชอร์ตาลอยไปใจลอยอยู่ไหนกันบ้างก็ไม่รู้

“ถ้าไปไม่กี่ชั่วโมงกูไปได้นะตอนเย็นต้องกลับไปช่วยแม่ปิดร้านช่วงนี้คนงานลาหยุดบ่อยจนแม่จะหาจ้างคนใหม่มาแทนแล้วเนี่ย หยุดไปทำธุระแม่กูไม่เคยห้ามไม่เคยบ่นแต่นี่หยุดไปตามจับผิดผัวมีกิ๊กแต่ก็นั่นแหละเรื่องของครอบครัวเราไปยุ่งมากไม่ได้พูดไปแม่กูก็จะเสียผู้ใหญ่อีก” ฉกาจบ่นอย่างเนือยๆ กับคนงานที่แม่จ้างเอาไว้ ทำงานก็พอใช้ได้แต่ติดที่ชอบเบิกเงินล่วงหน้าอ้างว่าต้องส่งไปให้ลูกที่อยู่ต่างจังหวัดแถมตอนนี้ก็ยังมาทำงานแบบวันเว้นสองวันทำเอาเดือดร้อนกันไปหมด

ร้านอาหารตามสั่งของมารดาฉกาจนั้นถึงจะเป็นเพียงร้านเล็กๆ มีแค่เพียงสิบโต๊ะแต่ก็มีคนเข้าไม่ขาดอีกทั้งยังเป็นขวัญใจพนักงานออฟฟิศแถวนั้นเนื่องจากแม่ขายในราคาสมเหตุสมผลมีช่วงที่ขึ้นราคาบ้างหากวัตถุดิบในท้องตลาดขึ้นราคาไปพร้อมๆ กันหลายอย่างแต่สุดท้ายแล้วแม่ก็ยังพยายามจะตรึงราคาเดิมเอาไว้เพื่อให้ลูกค้าได้รับผลกระทบน้อยที่สุดอีกทั้งร้านของแม่ยังเติมข้าวได้ฟรีและที่สำคัญที่สุดเลยก็คืออาหารมีรสชาติอร่อยมากคนถึงได้ติดกันหนึบหนับ

“กูว่างไปได้” จูจุนเป็นอีกคนหนึ่งที่รับปากแม้สภาพในตอนนี้เขาเหมือนไม่พร้อมจะลุกออกจากเก้าอี้เลยก็ตาม

“กูไปดูหนังได้แต่หลังจากนั้นไม่ว่างแล้วนะ” สายตาหกคู่ที่เหลือพร้อมใจกันหันมายังข้าวสารเด็กหนุ่มผู้ไม่เคยมีธุระปะปังที่ไหนหนังเลิกเรียนมาก่อนทำเอาเพื่อนๆ ที่นั่งหน้าเมื่อยมีประกายตาอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาแทบจะทันทีทันใด

“ไม่ต้องทำหน้าขี้เสือกถึงขนาดนั้นก็ได้ก็กำลังจะเล่าให้ฟัง พอดีว่าเย็นนี้นัดพี่แตงโมเอาไว้ว่าจะไปกินข้าวด้วยกันครับเพื่อนๆ”

“เอาจริงดินี่มึงดอดไปหาพี่เขาแบบนี้บ่อยเลยเหรอดูให้ดีนะไอ้ข้าวไม่ใช่ว่าพี่เขามีเจ้าของแล้วเดี๋ยวจะวืดอีก ระดับพี่แตงโมเขาไม่น่าจะโสดแล้วไหมวะมึง เช็กดีๆ แล้วหรือยัง” จุติภัทรเตือนเพื่อนด้วยความเป็นห่วงเพราะครั้งล่าสุดที่เจตนิพัทธ์เกือบจะมีหัวใจสีชมพูคนที่มาติดพันมันก็ดันมีแฟนอยู่ก่อนแล้วดีที่ไหวตัวทันไม่อย่างนั้นคงจะเจอข้อหามือที่สามให้ได้เสียชื่อไปทั่วมหาวิทยาลัยเพราะฝั่งนั้นก็เป็นที่รู้จักกันอยู่พอสมควร

“ไม่ได้เช็กแต่เท่าที่ดูพี่เขาทำงานทั้งวันไม่น่าจะมีใครเลยแต่กูอาจจะคิดไปเองก็ได้ก็ดูไปเรื่อยๆ ก่อนไม่ได้รีบอะไรนี่นา” คนที่ปากบอกไม่รีบแต่ทุกวันนี้แทบจะเช้าถึงเย็นถึงหายใจเข้าก็เป็นพี่แตงโมหายใจออกก็เป็นคุณรัชชานนท์คนสวยขา

“เรื่องพี่แตงโมเดี๋ยวกูสืบๆ ให้ได้ยินมาว่าสมัยก่อนพี่เขาป๊อปมากเลยนะมึงออกจะเจ้าชู้มากด้วยแต่ไม่รู้ว่าเพราะบุคลิกพี่เขาเป็นแบบนั้นด้วยหรือเปล่า แบบที่สุภาพแล้วก็ใจดีมากจนเกินไปเลยทำให้คนอื่นทำให้คิดไปเองน่ะ ไปๆ ไปหาข้าวกินกันจะได้ไปดูหนังแล้วแยกย้ายกันไปทำเรื่องของตัวเอง” เป็นเอกสรุปความอย่างรวบรัดก่อนที่จะขยับไปเก็บข้าวของบนโต๊ะเลคเชอร์เป็นคนแรก

หนังผีภาคต่อนั้นทำให้เวลาเกือบสามชั่วโมงมีค่ามากเพราะมันสนุกได้อย่างเหลือเชื่อที่สำคัญคือมันไม่ใช่หนังผีที่สักแต่จะมีฉากจัมป์สแกร์ตุ้งแช่ให้ตกใจแต่มันมีทั้งเรื่องราวสอบสวนระทึกขวัญปะปนมากับความสยองขวัญได้อย่างกลมกลืนและแนบเนียนทำเอาไม่กล้าละสายตาออกไปจากหน้าจอกันเลยทีเดียว

“ไปแล้วนะมึงเดี๋ยวพรุ่งนี้เจอกัน ข้าวสารขับรถดีๆ ไอ้ข้าวมึงมองอะไรวะนั่น” จูจุนที่กำลังจะบอกลาเพื่อนตรงทางออกลานจอดรถหันมาเรียกเมื่อเจตนิพัทธ์ไม่ได้เดินตามกลุ่มเพื่อนๆ มาแต่เจ้าตัวกลับยืนนิ่งมองอะไรบางอย่างอยู่

“กูว่านั่นพี่แตงโม เขามากับใครวะมึง” เป็นฉกาจที่เอ่ยขึ้นมาพลางชี้ให้เพื่อนดูคนที่ยืนโดดเด่นอยู่ไม่ไกลจากที่ที่ตัวเองและกลุ่มเพื่อนยืนอยู่นัก

รุ่นพี่ผมแดงคนนั้นวันนี้มัดผมเป็นจุกเอาไว้กลางศีรษะซึ่งนั่นมันยิ่งทำให้เจ้าตัวทั้งดูเซ็กซี่และสวยกว่าเดิมตั้งไม่รู้กี่เท่าแต่ลำพังถ้าพี่เขามาคนเดียวเพื่อนของตัวเองคงจะไม่ยืนค้างแข็งอยู่ตรงนั้นหรอกแต่นี่พี่แกเล่นมีผู้ชายที่ตัวสูงพอๆ กันอยู่ข้างๆ พร้อมกับถือถุงช้อปปิ้งอยู่เต็มสองมือ

“เอาไงล่ะทีนี้ยังไม่ทันได้สืบเลยพวกก็มาให้เจอหรือว่าข้าวสารมันทำบุญมาดีวะผีเลยคุ้มครอง” ก่อนออกมาห้างเป็นเอกเพิ่งพูดว่าจะสืบเรื่องคนรักของพี่แตงโมให้ว่ามีหรือไม่มีแต่นี่เวลาผ่านไปยังไม่ทันข้ามวันพี่เขาก็ควงหนุ่มหล่อมาให้เห็นกันเสียแล้วแถมผู้ชายคนนั้นยังใส่สูทผูกไทเรียกว่าดูดีกว่าลูกหมาเพิ่งอดนมกว่าพวกเขาอยู่มาก

“ปกติพวกมึงไหว้แฟนก่อนกลับบ้านหรือไงเล่ามองตาเดียวก็รู้ว่ามาทรงนี้ไม่ได้เป็นแฟนกันหรอกแต่ถ้าอยากรู้ก็ต้องถามใช่ไหมล่ะเดี๋ยวกูถามเลยจะได้รู้เรื่อง” เจตนิพัทธ์ไม่ได้ใจร้อนแต่เพราะที่ผ่านมาเขาจับสังเกตและดูอาการของอีกคนแล้วมันก็ไม่เหมือนว่าจะซุกซ่อนใครเอาไว้เลยถึงเขาจะยังไม่ได้แสดงออกอะไรไปมากมายก็เถอะแต่พี่แตงโมก็น่าจะพอรู้ว่าเขานั้นคิดอะไรอยู่

“พี่แตงโมครับเย็นนี้ยังไม่ลืมนัดผมใช่หรือเปล่าสักพักผมก็น่าจะถึงแล้วนะพอดีว่าออกมาแล้ว” เจตนิพัทธ์ทำท่าไม่รู้ไม่ชี้ต่อสายโทรหาคนสวยขาของตัวเองในทันทีก็นานเหมือนกันกว่าอีกฝ่ายจะรับสายแต่พอเข้าใจได้ว่าเพราะเจ้าตัวหอบของพะรุงพะรังอยู่ในตอนนี้

“อ้าว ออกมาแล้วเหรอพอดีพี่ก็อยู่ห้างแถวๆ มหาวิทยาลัยพอดีเลยนี่ออกมาซื้อของกับพี่ชายตั้งใจว่าเสร็จแล้วจะโทรหาน้องข้าวเผื่อว่าจะได้ไปรับก็คลาดกันเลยสิทีนี้” เรื่องที่รัชชานนท์พูดออกไปนั้นคือเรื่องจริงวันนี้ลูกพี่ลูกน้องของเขาโทรชวนให้มาเลือกของขวัญวันเกิดของหลานสาวรัชชานนท์ที่ยังไม่มีของขวัญเหมือนกันเลยตัดสินใจออกมาแต่แทนที่จะได้ของหลานแต่พี่ชายกลับซื้อของให้ตัวเขาอีกเยอะแยะเต็มไปหมด

“น่าเสียดายจังพอดีผมออกมาธุระกับเพื่อนด้วยเพิ่งเสร็จเลยครับ ไม่เป็นไรวันนี้อดนั่งรถพี่แตงโมแต่ก็ยังมีวันอื่นแล้วเจอกันนะครับ ขับรถดีๆ นะ” ระหว่างที่พูดก็ทำหน้าทำตาประหนึ่งผู้ชนะระหว่างที่เพื่อนๆ กำลังเงี่ยหูฟังการสนทนาของเขากับรุ่นพี่คนสวยด้วยความตั้งใจ

“โอเคครับน้องข้าวก็ขับรถระวังนะ แล้วเจอกันครับ” หลังจากที่รัชชานนท์วางสายไปแล้วฝั่งเจตนิพัทธ์และเพื่อนๆ ก็ปล่อยให้รุ่นพี่เดินหายไปจากตรงนั้นก่อนแล้วจึงค่อยแยกย้ายกันไปทำธุระปะปังของตนเองโดยที่ตัวเขานั้นขับรถออกมาคนเดียวแต่ฝั่งเป็นเอกกับฉกาจนั้นติดรถไปกับจูจุนเนื่องจากเป็นทางผ่านพอดี

ระหว่างการเดินทางที่ไม่เร่งรีบเป็นเอกก็ส่งข้อความมาในกลุ่มสนทนาของพวกเขาทั้งสี่คนเป็นข้อมูลของผู้ชายที่คนนั้นที่อยู่ด้วยกันกับพี่แตงโมเมื่อครู่จากการที่กวาดตาอ่านแบบคร่าวๆ ก็พบว่าทั้งสองคนใช้นามสกุลเดียวกันแต่ถ้าจำไม่ผิดพี่แตงโมน่าจะเป็นลูกคนเดียวไม่ใช่เหรอแล้วนี่มีพี่ชายมาจากไหน

แล้วข้อสงสัยของเจตนิพัทธ์ก็คลี่คลายด้วยเป็นเอกคนเดิมเพื่อนรักของเขาส่งข้อความตามมาอีกยาวเป็นพืดแต่จะมานั่งอ่านตอนนี้ก็ไม่ได้เพราะว่าขับรถอยู่แต่ยังดีที่มันยังใจดีตบท้ายด้วยการส่งข้อความเสียงสั้นๆ มาว่าผู้ชายคนนั้นเป็นลูกพี่ลูกน้องของพี่แตงโมเพราะนามสกุลพี่เขาเป็นคนที่มีหน้ามีตาในสังคมในระดับหนึ่งแถมยังเป็นครอบครัวใหญ่จะมีลูกพี่ลูกน้องเยอะหน่อยก็ไม่แปลกเลยทำให้เจตนิพัทธ์โล่งใจไปได้เปลาะหนึ่งนี่ตอนอยู่ในห้างแอบคิดไปแล้วว่าตัวเองอาจจะวืดตั้งแต่ยังไม่ทันได้เริ่มต้นจีบพี่แตงโมไปเสียแล้ว

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“มาถึงแล้วครับ ว้าว วันนี้พี่แตงโมดูสดใสจัง” มาถึงเจตนิพัทธ์ก็ได้แต่ตาพร่าไปกับความสดใสและเจิดจ้าของรุ่นพี่ทั้งๆ ที่อีกคนก็อยู่ในชุดที่เห็นในห้างเมื่อกี้นี้แหละแต่ไม่รู้ทำไมพอได้มาเห็นใกล้ๆ แบบนี้มันถึงได้รู้สึกว่าพี่เขาดูดีแบบหาที่ติไม่ได้เลย

เรื่องหน้าตาต้องให้ไปเลยสิบดาวคนอะไรไม่รู้จะพูดว่าหล่อก็หล่อแต่จะพูดว่าสวยเจตนิพัทธ์พูดชมออกมาได้ไม่อายปากยิ่งวันนี้พี่เขามัดผมขึ้นเป็นจุกง่ายๆ เอาไว้ครึ่งหัวยิ่งทำให้เจ้าตัวดูเหมือนเด็กมหาลัยมากขึ้นไปอีก

“ก็ไปข้างนอกมาจะมาแต่งตัวมอมแมมเหมือนอยู่ที่ร้านได้ยังไงเล่า มานั่งอยู่ในนี้ก่อนเนาะข้างนอกมันร้อนพอดีพี่ต้องแยกของพวกนี้หน่อยน่ะพี่ชายที่เป็นลูกพี่ลูกน้องชวนไปซื้อของขวัญวันเกิดให้หลานสาวแต่เผลอหน่อยเดียวพี่ก็ได้ของมาเต็มสองมือโดนพี่ชายมัดมือชก มีนั่นอีกกองของฝากคุณย่าแล้วก็ผู้ใหญ่ในครอบครัวพอดีว่าเมื่อตอนเด็กๆ ทุกคนเขาก็ช่วยกันเลี้ยงพี่มาแหละนะเวลามีรวมญาติทีจะลืมใครไปไม่ได้หรอก” รัชชานนท์ไม่ได้มีเรื่องต้องปิดบังอะไรจึงเล่าเรื่องครอบครัวออกมาให้เด็กรุ่นน้องฟังได้แต่ก็เพียงแค่เรื่องผิวเผินไม่ได้ลงลึกในรายละเอียด

ถ้าให้เล่าเรื่องราวของตัวเองในวัยเด็กนั้นก็กลัวจะถูกมองว่าดราม่าเพราะถึงแม้จะเกิดมาในครอบครัวที่มีพร้อมทุกอย่างในเรื่องของวัตถุและเงินทองแต่อันที่จริงแล้วครอบครัวของรัชชานนท์กับครอบครัวฝั่งของคุณยายมีรอยร้าวที่ลึกเกินกว่าที่จะเยียวยารักษาได้ซึ่งทั้งหมดมันก็เป็นข้อบกพร่องของพวกผู้ใหญ่ที่ส่งผลกระทบมาถึงตัวเขาที่เป็นเด็กแต่ก็นับว่ายังโชคดีที่ยังได้ครอบครัวฝั่งคุณพ่อที่รักและเมตตาไม่อย่างนั้นเขาคงอยู่ไม่เต็มคนจนถึงทุกวันนี้ได้อย่างแน่นอน

“ดีจังเลยครับมีพี่น้องมีครอบครัวใหญ่น่าจะสนุกดีผมนี่มีแค่พี่สาวมาตั้งแต่ตอนยังเป็นเด็กชายเลยเพราะพ่อกับแม่ประสบอุบัติเหตุเสียไปพร้อมกันทั้งคู่เลยแต่ก็ดีนะครับพวกท่านวางแผนครอบครัวเอาไว้ให้แล้วพวกเราสองคนเลยไม่ต้องตกระกำลำบากอะไร ทุกวันนี้ถ้าถามว่าใครคือคนที่ผมรักที่สุดในชีวิตแน่นอนว่าต้องเป็นพี่ข้าวเพราะที่ผ่านมาพี่เป็นทั้งพี่สาว เป็นทั้งแม่ เป็นทั้งพ่อแล้วก็เป็นเพื่อนให้ครบจบที่คนเดียวเลย” สีหน้าและน้ำเสียงของเด็กหนุ่มไม่ปิดบังเลยสักนิดว่าตนเองนั้นทั้งภูมิใจ รัก และเทิดทูนในตัวพี่สาวมากมายขนาดไหน

“น้องข้าวเติบโตมาอย่างงดงามได้เพราะความรักจากพี่สาวสินะครับดีจังเลยนะ มีพี่น้องที่สนิทกันนี่ดีจังเลย” รัชชานนท์ดีใจด้วยที่เด็กตรงหน้ายังมีที่ยึดเหนี่ยวจิตใจในวันที่เกือบจะแตกสลายและเขาก็คิดเอาเองว่าพี่สาวข้าวสวยคนนี้ต้องเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งและจิตใจดีมากไม่อย่างนั้นคงไม่เลี้ยงน้องชายให้โตมาเป็นเด็กที่มีน้ำใจและเข้าอกเข้าใจคนอื่นได้มากถึงขนาดนี้หรอก

ถึงตัวเองเพิ่งจะรู้จักกับเจตนิพัทธ์ได้ไม่นานแต่ก็ไม่ใช่เขาจะดูคนไม่ออกแน่นอนว่าน้องเข้าหาเขาเพราะมีจุดประสงค์แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้เร่งรัดอีกทั้งเวลายืนอยู่ข้างๆ เขาก็ทำตัวได้เป็นธรรมชาติแถมยังออกจะปกป้องดูแลกันได้ด้วยซ้ำไปดูจากเหตุการณ์ที่ไปกินหมูกระทะริมน้ำดูก็ได้เพราะน้องเป็นคนแบบนี้เขาถึงสามารถเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่ไม่ต้องมานั่งสร้างภาพอะไรให้มันเหนื่อย