หมาเด็กนิสัยเปรตนิดหน่อย ตัวไม่เล็กแม่น้อยแต่อุ้มง่ายมาก
ชาย-ชาย,วัยว้าวุ่น,ครอบครัว,รัก,หมากินแตงโม,รุกรับสลับโพ,คลั่งรัก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Dog Person คนสวยขาเจ้าของหมาเปรตหมาเด็กนิสัยเปรตนิดหน่อย ตัวไม่เล็กแม่น้อยแต่อุ้มง่ายมาก
คุณเคยมองใครสักคนแล้วรู้สึกเหมือนกับมีฟิลเตอร์ลูกหมาฉาบทับเอาไว้ตลอดเวลาบ้างหรือเปล่า หูหางโบกสะบัดเป็นวรรคเป็นเวรเวลาที่ดีอกดีใจเหมือนจะเกินเบอร์ไปนิดหน่อยแต่เจ้าตัวเขาก็มีนิสัยเป็นแบบนั้นจริงๆ และถึงใครๆ จะมองว่าเจ้าลูกหมาที่กำลังพันแข้งพันขาตัวเขาอยู่ยังเป็นแค่เด็กนักศึกษาไม่มีความมั่นคงและไม่ค่อยจะน่ารักเท่าไหร่เพราะติดนิสัยปากแซ่บช่างเถียงแต่เขารัชชานนท์กลับคิดว่าแบบนี้แหละที่ทำให้เจ้าหมาเด็กของเขานั้นน่ารักที่สุดในโลก
แจ้งให้ทราบ
นิยายเรื่องนี้มีการบรรยายถึงรสนิยมทางเพศแบบอิสระไม่จำเพาะเจาะจง รบกวนนักอ่านปล่อยใจปล่อยจอยไม่ยึดติดกับโพใดๆ เน้นเอาใจคนสวยขาและหมาเด็กเป็นหลักนะคะ
กติกาการลงนิยาย
ลงเนื้อหาให้อ่านฟรี 10 ตอนจากทั้งหมด 30 ตอน โดยตั้งแต่ตอนที่ 11 เป็นต้นไปจะเป็นการจะติดเหรียญล่วงหน้าให้อ่านในราคาถูกเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ปลดเหรียญอ่านฟรี 1 สัปดาห์ และหลังจากนั้นจะเป็นการติดเหรียญถาวรราคาเต็ม
หลังจากสอบวิชาสุดท้ายเสร็จเจตนิพัทธ์ก็หายเข้ากลีบเมฆไปเลยถึงสองวันเต็มๆ ซึ่งรัชชานนท์ก็ไม่ได้มีเวลาไปถามหาหรือว่าวุ่นวายอะไรกับน้องมากแม้จะเคยคุยกันอยู่ทุกวันรวมไปถึงเจ้าลูกหมายังคอยรายงานตัวอยู่ตลอดจนเหมือนเขาจะรับรู้มันจนกลายเป็นกิจวัตรประจำวันอย่างหนึ่งของตัวเองไปแล้ว แต่ที่ไม่ได้ทักไปถามอะไรเพราะตัวเองกำลังสนุกอยู่กับการไลฟ์ขายต้นไม้ที่เริ่มขึ้นอีกครั้งหลังจากที่ส่งของรอบแรกออกไปจนหมดแล้วและไม่น่าเชื่อว่าจะมีลูกค้าที่เอฟไม้ไปรอบแรกกลับมาซื้ออีกเพราะของที่ส่งไปนั้นลูกค้าได้รับกันหมดแล้วในช่วงเช้าตอนบ่ายจึงมาเอฟของเพิ่มกันแบบรัวๆ
“วันนี้ขยับเป็นไม้ฟอกอากาศดีไหมนะขายแต่ต้นเล็กต้นน้อยกลัวคนจะเบื่อเรามีพวกมอนสเตอร่า ต้นจั๋ง แล้วก็ลิ้นมังกรแคระอยู่เยอะใช่ไหมก้าว แก้ว” ช่วงเช้าวันนี้รัชชานนท์เรียกก้าวกับแก้วมาคุยเรื่องไลฟ์ขายไม้รอบต่อไปกันโดยพวกเขาจะจัดไลฟ์ตามวันไม่ได้ไลฟ์อะไรเรื่อยเปื่อยเพราะว่ากลัวคนเบื่อแล้วช่วงเวลาดีๆ ที่เลือกมาได้ก็เป็นวันจันทร์ พุธ ศุกร์และวันเสาร์ช่วงเที่ยงๆ บ่ายๆ เพราะว่าเผื่อเวลาแพ็กไม้ส่งให้ทันในเย็นวันนั้นเลยซึ่งแม้มันจะเป็นเวลาที่สวนทางกับพ่อค้าแม่ค้าคนอื่นๆ ที่มักจะนิยมไลฟ์กันในช่วงค่ำๆ แต่เจ้าของร้านต้นไม้นั้นสะดวกแบบนี้มากกว่า
“มีเยอะเลยครับ ยางอินเดียต้นสูงหนึ่งฟุตกับสองฟุตก็มีเยอะอยู่นะครับ เดหลีก็เริ่มแทงดอกแล้วคนน่าจะชอบกัน” ก้าวแนะนำไม้ที่ชำไว้และพร้อมขายเพิ่มที่แม้ว่ากระแสจะเบาบางลงมากแล้วแต่ต้นยางอินเดียก็ยังเป็นที่ต้องการของตลาดอยู่จนถึงทุกวันนี้ส่วนเดหลีก็อย่าประมาทดอกขาวๆ ของมันเพราะถึงจะไม่มีกลิ่นอะไรเหมือนดอกไม้หอมอื่นๆ แต่สีขาวที่ตัดกับใบสีเขียวเข้มก็ยังดึงดูดความสนใจได้เป็นอย่างดี
“รอบนี้ขายพวกไม้ต้นใหญ่อย่างยางอินเดียกับพวกปาล์มรอบต่อไปขายพวกเฟิร์นกับไม้เลื้อยไม้เล็กๆ หน่อยดีไหมครับพวกเฟิร์นบอสตันกับฟิโลใบหัวใจ พลูต่างเรามีเยอะเลยนะ” แก้วเสนอความคิดเห็นของตัวเองบ้างเพราะเขาเพิ่งไปรดน้ำต้นไม้มาเลยจำได้ว่าตอนนี้ที่ร้านมีอะไรที่พร้อมขาย
“ก็ดีนะเราสองคนไปเตรียมไม้ใหญ่ให้พี่ก่อน ยางอินเดีย จั๋ง ปาล์มคัดมาเลยตั้งแต่ไซซ์เล็กสุดไปถึงใหญ่สุดแต่ถ้ามันขนออกมายากก็จัดกลุ่มเอาไว้ในสวนนั่นแหละเดี๋ยวเราไปไลฟ์ตรงนั้นได้หน้าร้านให้น้องเกดดูไปก่อน” เพราะช่วงนี้เด็กๆ ในบ้านที่กรุงเทพฯ ของคุณย่าปิดเทอมกันอยู่หลายคนรัชชานนท์จึงได้เด็กๆ มาช่วยงานเพิ่มขึ้นโดยคนที่มาบ่อยจนได้เป็นพนักงานประจำในช่วงวันหยุดก็คือน้องลูกเกดน้องสาวคนเล็กของก้าวและแก้วที่กำลังจะขึ้นมหาวิทยาลัยปีสองอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเจ้าหมาเด็กพอดีเลย
รัชชานนท์ขำตัวเองที่เป็นเอามากไม่ว่ามีอะไรใจมันก็เผลอไปคิดถึงผู้ชายตัวโตที่ไม่ได้คุยกันมาสองวันแล้วอยู่เรื่องสงสัยจะคิดถึงแล้วสินะ
“หน้านิ่วคิ้วขมวดเลยนะครับคนสวยนี่กำลังคิดถึงผมหรือว่าเครียดกับงานกันนะ” คิดถึงหมาหมาก็โผล่มาให้เห็นแบบตัวเป็นๆ ทำเอารัชชานนท์ถึงกับลืมเก็บสีหน้าและอาการของตัวเองไปเลยจึงได้เผลอหันไปยิ้มหวานทันทีที่เสียงของเจ้าหมาเด็กดังขึ้นมาที่ด้านหลังของตนเอง
“สงสัยจะเพราะคิดถึงคนบางคนละมั้งก็เห็นว่าหายไปนานแล้วนี่หอบอะไรเมาเยอะแยะครับ” น้อยครั้งที่เจตนิพัทธ์จะมาหารัชชานนท์มือเปล่าแรกๆ ก็ซื้อขนมหรือไม่ก็กาแฟมาฝากเขาแค่คนเดียวแต่พอรู้ว่าที่ร้านมีพนักงานอยู่ด้วยถึงสี่คนก็ซื้อของมาให้ครบตามจำนวนโดยที่เจ้าของร้านอย่างเขาไม่ได้ร้องขอเลยสักคำ
“หายไปใช้เวลานอนนานไปหน่อยครับแต่ตอนนี้ชาร์ตพลังเต็มพร้อมรบแล้ว นี่กาแฟครับซื้อมาฝากทุกคนเลยแต่ผมไม่รู้ว่ามีน้องผู้หญิงมาทำงานด้วยเลยไม่ได้ซื้อน้ำหวานมาฝากน้องจะกินกาแฟได้ไหมนะ”
“ไม่เป็นไรหรอกครับน้องข้าว นั่นน้องเกดเป็นน้องสาวคนเล็กของพวกพี่เองคนนั้นเขาไม่กินน้ำหวานหรอกกลัวหุ่นไม่สวยขอบคุณนะครับสำหรับของฝาก ถ้าอย่างนั้นผมกับแก้วจะแวะเอากาแฟเข้าไปในสวนแล้วก็ดูไม้ออกมาเพิ่มเลยนะครับพี่แตงโม ฝากเจ้านายพี่ด้วยนะน้องข้าว” ก้าวเป็นคนบอกเรื่องน้องสาวของตัวเองจากนั้นก็ฝากฝังรัชชานนท์ไว้กับคนที่ไม่ได้เห็นหน้าค่าตามาเป็นเดือนแต่กลับมาเสียทีก็ดีเหมือนกันเจ้านายเขาจะได้ไม่ต้องชะเง้อคอมองไปที่หน้าร้านอยู่บ่อยๆ
“ถ้าอย่างนั้นผมยกขนมให้น้องดีกว่าไม่มีอะไรมาฝากกลัวว่าจะเสียใจ” ว่าแล้วเจตนิพัทธ์ก็แบ่งขนมที่ตั้งใจซื้อมากินกับพี่แตงโมสองคนให้น้องไปหนึ่งกล่องอีกทั้งยังแวะถามไปเลยว่าน้องมีเครื่องดื่มอะไรที่ชอบกินหรือไม่วันหลังเขาจะได้ซื้อมาฝากทำเอาหญิงสาวคนเดียวในร้านประทับใจแบบงงๆ ที่มีคนใจดีกับเธอแม้จะเป็นการพบเจอกันเป็นครั้งแรกก็ตาม
จากท่าทางที่เอาใจใส่คนรอบตัวดีขนาดนี้ลูกเกดจึงไม่แปลกใจเลยที่พี่ชายฝาแฝดของตัวเองเปิดด่านให้เข้าใกล้เจ้านายอย่างพี่แตงโมได้แสดงว่าพี่ข้าวสารนี่เขามีของดีจริงๆ
“วันนี้จะเตรียมไลฟ์ขายต้นไม้อีกเหรอครับให้น้องข้าวช่วยนะ” เมื่อกลับมาเห็นว่าคนสวยขาวุ่นวายเตรียมป้ายราคาหลากหลายจึงเอ่ยถามทั้งๆ ที่ก็รู้คำตอบอยู่แล้วแหละ
“อื้อ ถ้าอยากทำก็ทำเลยครับดีเสียอีกมีคนหล่อๆ มาช่วยขายของให้ร้านพี่จะได้ขายดี” เรื่องมีคนช่วยหรือไม่มีรัชชานนท์ไม่ได้ซีเรียสเพราะเขากับแก้วและก้าวทำกันไหวแต่ที่ชมว่าอีกคนหน้าตาดีนั้นก็เป็นเรื่องจริงและเขาก็เชื่อว่าเจตนิพัทธ์ยังหน้าตาดีมากกว่านี้ได้อีกหากเบบี้แฟตบนแก้มไม่อยู่แล้วรออีกปีสองปีให้เป็นหนุ่มเต็มตัวก่อนเถอะขี้คร้านจะมีสาวๆ หนุ่มๆ มาขายขนมจีบจนหัวบันไดบ้านไม่แห้งก็เป็นได้
และก็ไม่รู้ว่าวันนี้เพราะไม้ที่ขายนั้นเป็นไม้ที่ค่อนข้างใหญ่แต่ราคาย่อมเยาหรือว่าผู้ช่วยพรีเซนต์สินค้าหน้าตาดีมากไม้ของรัชชานนท์จึงขายหมดภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมงอีกทั้งยอดคนติดตามก็พุ่งทะยานเป็นประวัติการณ์ทำเอาคนทั้งร้านถึงกับนั่งปาดเหงื่อเมื่อเห็นจำนวนคร่าวๆ ที่ต้องส่งต้นไม้ออก
“ห้าร้อยแปดสิบหกบ้าน บ้าไปแล้วเนี่ย” รัชชานนท์ลองมานับดูคร่าวๆ ยังไม่ได้คอนเฟิร์มการโอนเงินก็ถึงกับขนลุกเพราะปกติที่พวกเขาขายๆ กันเองไม้ก็ออกมากสุดเฉียดสามร้อยบ้านเท่านั้นแต่นี่อีกนิดเดียวมันก็จะทะลุไปหกร้อยบ้านแล้วถ้าลูกค้าโอนเงินครบก็เป็นเรื่องนี่ดีใจมากๆ
“แล้วปกติถ้าไลฟ์จะได้ยอดประมาณไหนหรือครับ” คนที่ยังไม่รู้ตัวว่ามาสร้างเรื่องให้ร้านขายต้นไม้ของรัชชานนท์เข้าให้แล้วถามออกมาหน้าซื่อๆ ระหว่างที่นั่งเรียนรู้การแพ็กต้นไม้ทั้งกระถางเพื่อส่งไปกับขนส่งเอกชน
“สามร้อยคือเยอะสุดแล้วครับนี่สงสัยว่าน้องข้าวจะเป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภของพี่แน่ๆ เลยเนี่ย”
“ไม้พี่แตงโมสวยมากกว่าแถมยังขายราคาไม่แพงด้วยใครๆ ก็อยากจะซื้อครับ ไม่เกี่ยวอะไรกับผมหรอก” เจตนิพัทธ์ไม่ได้ถ่อมตัวแต่ต้นไม้ที่รัชชานนท์ขายนั้นราคาเบากว่าในท้องตลาดที่เขาเคยเห็นอยู่หลายสิบบาท ไม้ถูกและราคาส่งไม่สร้างบ้านสั่งแล้วก็แค่รออยู่ที่บ้านเฉยๆ ไม่ต้องเสียค่ารถค่าเดินทางเป็นเขาก็จะซื้อ
“พี่ว่าทั้งสองอย่าง เอาล่ะก้าว แก้ว พี่ฝากข้างนอกนี่ก่อนนะเดี๋ยวพี่จะขอไปสรุปรายการให้ลูกค้าข้างในยอดมันเยอะกลัวว่าจะหลุดถ้าเสร็จแล้วพี่จะออกมาช่วย” การขายต้นไม้ของรัชชานนท์นั้นให้ลูกค้าเลือกแต่ชนิดของต้นไม้ทีละชนิดตามจำนวนที่มีไม่ได้ระบุว่าต้องเป็นต้นไหนเพราะทางร้านจะเลือกต้นที่สมบูรณ์และแข็งแรงให้
ซึ่งมันก็ส่งผลให้คนที่ทำงานทั้งคนสรุปยอดและคนแพ็กต้นไม้ทำงานแยกกันได้สบายมากที่ด้านนอกก็ปล่อยให้สามหนุ่มก้าว แก้วและข้าวสารทำงานหุ้มกระถางกันดินไหลกันไปส่วนตัวเองก็หลบไปใช้สมาธิในห้องทำงานเพราะต้องการใช้ความรอบคอบค่อนข้างมากจะได้ไม่มีรายการอะไรหลุดหรือผิดพลาดอันจะส่งผลให้เกิดความเสียหายขึ้นมาได้
หลังจากแจ้งยอดให้ลูกค้าแล้วรัชชานนท์จะรอเป็นเวลาสองวันหากไม่โอนเงินชำระค่าสินค้าเขาก็จะขออนุญาตปล่อยผ่านเก็บไม้ไปดูแลต่อไม่ได้เอาไปปล่อยขายเนื่องจากไม้หลุดจองแต่ละรอบนั้นมีไม่มากอีกทั้งเขาก็ไม่ได้ถอดกระถางล้างรากด้วยจึงไม่ต้องวุ่นวายปลูกใหม่หากจะเลี้ยงต่อไปก็ไม่มีปัญหา
เวลาผ่านไปราวๆ หนึ่งชั่วโมงครึ่งรัชชานนท์ก็ออกมาจากห้องทำงานพร้อมใบปะหน้าพัสดุของลูกค้าที่โอนชำระเงินแล้วกว่าครึ่งซึ่งตรงนี้หน้าที่จะเป็นของก้าวกับแก้วสองฝาแฝดผู้เชี่ยวชาญในการจัดสินค้าใส่ตะกร้าส่วนตัวเจตนิพัทธ์และรัชชานนท์จะเป็นคนนั่งเช็กสินค้าในครั้งสุดท้ายก่อนบรรจุลงกล่องโดยไม่ลืมที่จะถ่ายรูปพร้อมใบปะหน้าเก็บเอาไว้ด้วยเพื่อเอาไว้ใช้เป็นหลักฐานในอนาคตเผื่อว่าเกิดมีกรณีที่สินค้าเสียหายขึ้นมาจะได้มีหลักฐานมาโต้แย้งกัน
อะไรที่ไม่เคยทำเจตนิพัทธ์ก็ได้มานั่งทำซึ่งเขาไม่เคยได้รู้เลยว่าการเป็นพ่อค้าออนไลน์มันจะเหนื่อยและลำบากมากถึงเพียงนี้แต่เพราะว่าคนข้างๆ ยังมีรอยยิ้มอยู่ตลอดเวลาที่ทำงานเขาจึงสบายใจได้เปลาะหนึ่งว่าพี่แตงโมกำลังมีความสุขมากไม่อย่างนั้นคงจะไม่ยอมทำอะไรแบบนี้หรอก
“หน้าพี่มีอะไรติดหรือเปล่าครับ” เพราะถูกสายตาอบอุ่นจ้องมองอยู่นานแล้วรัชชานนท์จึงไม่ค่อยมั่นใจว่าใบหน้าของตัวเองนั้นมีอะไรผิดปกติหรือเปล่าถึงได้มีคนจ้องมองมาแบบไม่กะพริบตากันเลยทีเดียว
“มีครับ ความสวยติดอยู่เต็มไปหมดเลย ตรงนี้ ตรงนี้ ตรงนี้ ตรงนี้ด้วย” นิ้วขาวๆ ของเจตนิพัทธ์จิ้มเบาๆ ไปที่สองข้างแก้มของชายหนุ่มรุ่นพี่ จิ้มที่จมูกโด่งๆ รั้นที่บ่งบอกถึงความเอาแต่ใจและสุดท้ายก็มาจบที่ริมฝีปากจิ้มลิ้มอวบอิ่มที่ไม่ว่าจะมองเมื่อไหร่ก็ทำเอาลมหายใจสะดุดได้ทุกครั้ง
“คิดว่าจะเขินเหรอ... ก็เขินแหละแต่อดทนอยู่” รัชชานนท์ถึงกับไปไม่เป็นเถียงไม่ออกแม้จะเคยได้ยินใครต่อใครชมว่าเขาสวยด้วยเบ้าหน้าฟ้าประทานที่ถอดแบบมาจากคุณแม่แต่ไม่มีใครสักคนที่จะชมเขาพร้อมกับจ้องมองด้วยสายตาที่เหมือนว่าพร้อมจะกลืนกินเข้าไปทั้งตัวแบบนี้... เจ้าเด็กนี่มันอันตรายกับหัวใจมากเกินไปแล้วนะ
“ก็สวยจริงนี่นาแต่ไม่ได้สวยอย่างเดียวหรอกบางมุมพี่แตงโมก็หล่อมาก หล่อแบบโซผัว ผัวแห่งชาติที่อยากเทิดทูนเอาไว้เหนือหัว” เรื่องนี้เจตนิพัทธ์ก็ไม่พูดล้อเล่นเพราะมองมุมหนึ่งรัชชานนท์นั้นจะดูสวยแบบเปรี้ยวๆ เข็ดฟันแต่ถ้ามองอีกมุมอย่างเช่นเวลาที่เจ้าตัวออกแรงทำงานในสวนก็จะออกแนวหล่อสมมงผัวแห่งชาติเอามากๆ
“ก็เกินไปแล้วอันนี้น่ะ” รัชชานนท์หัวเราะกลบเกลื่อนเพราะความเขินที่ถูกชมแบบซึ่งๆ หน้าซึ่งเจ้าตัวเองก็ไม่ได้รู้ตัวเลยว่ามีอีกหลายคนที่ชมไลฟ์แล้วคิดไปในทางเดียวกันกับเจตนิพัทธ์เหมือนกันคนเป็นเหตุให้ในสังคมออนไลน์มีหลายคนที่กำลังตามหาพิกัดร้านของเขาเพื่อที่จะมาดูให้เห็นกับตาว่าเจ้าของร้านขายต้นไม้นั้นตัวจริงนั้นสวยหรือหล่อกันแน่