เมื่อเงาที่มองเห็นไม่ใช่แค่เงา และปีศาจอาจอยู่ใกล้กว่าที่คุณคิด คุณจะยืนหยัดสู้หรือปล่อยให้ความมืดนั้นกลืนกินตัวคุณ?
แฟนตาซี,พารานอมอล,ดราม่า,ลึกลับ,ดาร์ค,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เอลิน มนตรา และปีศาจเมื่อเงาที่มองเห็นไม่ใช่แค่เงา และปีศาจอาจอยู่ใกล้กว่าที่คุณคิด คุณจะยืนหยัดสู้หรือปล่อยให้ความมืดนั้นกลืนกินตัวคุณ?
เวลาผ่านไปเนิ่นนานเพียงใดสำหรับการดิ้นรนครั้งนี้ ไคล์ไม่อาจบอกได้…
ชายหนุ่มกัดฟันแน่น ร่างสูงใหญ่ที่เปรอะไปด้วยเลือดวิ่งฝ่าความมืดในป่าอย่างยากลำบาก เสียงหัวใจของเขาดังก้องในหู บรรยากาศรอบตัวหนักอึ้งด้วยจิตสังหารที่กดดันจนแม้แต่สัตว์ราตรีก็พากันเงียบงัน ไม่มีแม้เสียงฝีเท้าของผู้ล่าหรือเสียงลมหายใจของเหยื่อ บรรยากาศนี้เพียงพอที่จะบอกได้ว่า… พวกมันหาเขาพบแล้ว
เสียงแหวกอากาศดังขึ้นกะทันหัน ก่อนที่เงาของวัตถุคมกริบจะพุ่งเข้ามาในความมืด ไคล์เหลือบตามองก่อนยกมือขึ้นตวัด พลังสีดำพลันหมุนวนรอบตัวเขา ปรากฏเป็นเกราะเวทย์ขึ้นทันที มีดคมกริบหลายเล่มเข้าปะทะจนเกิดเสียงดังสะท้อนทั่วบริเวณ ชายหนุ่มขบฟันแน่น ร่างกายเขาแทบหมดแรง แต่สมาธิไม่อาจแตกซ่าน
“ดิ้นรนมาได้ถึงขนาดนี้… เจ้าก็ไม่ธรรมดาเหมือนกันนะ”
เสียงหนึ่งเอ่ยขึ้นในความมืด มันแผ่วเบาแต่ทรงอำนาจ คล้ายดังก้องมาจากทุกทิศทาง ไคล์หันมองรอบตัว ริมฝีปากยกยิ้มเย็นชา แม้ความเจ็บปวดจะแทบทำให้ทรงตัวไม่อยู่ก็ตาม
“พวกเจ้าก็ กัดไม่ปล่อย ได้เก่งไม่แพ้กัน…”
เขาพึมพำตอบกลับ สายตาเพ่งไปยังกลุ่มเงาที่ค่อย ๆ ปรากฏขึ้นใต้แสงจันทร์เหนือพุ่มไม้ รูปร่างสูงใหญ่ในชุดคลุมมืดหลายคนรายล้อมเขาไว้ กลิ่นอายของพวกมันบีบให้หัวใจเต้นกระหน่ำด้วยสัญชาตญาณเตือนภัย
พวกนักล่าปีศาจ
“ขอบใจสำหรับคำชม”
หนึ่งในกลุ่มนักล่าเอ่ยขึ้นพร้อมกับแค่นหัวเราะอย่างเยือกเย็น เขายกมือขึ้นเป็นเชิงสั่งการเบา ๆ
“ดูเหมือนว่าเกมไล่ล่าของเราจะมาถึงจุดจบแล้วจริง ๆ ไคล์ เพราะต่อจากนี้ เจ้าจะไม่มีวันได้เห็นแสงจันทร์อีก…”
สิ้นคำ อาวุธระลอกใหม่ก็พุ่งเข้าโจมตี ความรวดเร็วและความรุนแรงเพิ่มขึ้นจนน่าตกใจ เกราะเวทย์ของไคล์รับแรงกระแทกอย่างหนักหน่วงจนร่างเขาเซถลาไปด้านหลัง ความพ่ายแพ้ค่อย ๆ ก่อตัวในหัวใจของเขา
นี่คือจุดจบของเขาอย่างงั้นหรือ?
เสียงในหัวก้องกังวาน เขาผ่านอะไรมามากมายเพียงเพื่อให้ทุกอย่างจบลงเช่นนี้หรือ?
คมมีดนับร้อยที่พุ่งเข้ามาทำให้หายใจติดขัด ไคล์กำหมัดแน่น สายตาที่พร่าเลือนวูบไหวด้วยความโกรธแค้น รอยเลือดไหลอาบร่างกายยิ่งทำให้เขาดูราวกับปีศาจในคราบมนุษย์
“แต่ข้าจะไม่ตายที่นี่…”
เสียงทุ้มต่ำกระซิบราวคำสาบาน พลังที่ถูกผนึกไว้พลันตื่นขึ้น เงามืดหมุนวนรอบตัวเขาอย่างรุนแรง รอยสลักปริศนาบนผิวหนังเริ่มเรืองแสงจาง ๆ เสียงของมิติบิดเบี้ยวดังสะท้อนไปทั่วบริเวณ
“จงเปิด…”
น้ำเสียงของเขาแน่วแน่ แม้จะเบาหวิวจนเหมือนลมหายใจสุดท้าย
รอยแยกของอากาศเบื้องหน้าพลันปรากฏ คล้ายประตูสู่อีกโลกหนึ่งที่กำลังถูกฉีกทึ้งออก เสียงกรีดร้องจากความว่างเปล่าดังก้องในหัว… เสียงที่ไม่ใช่เสียงมนุษย์หรือสิ่งมีชีวิตใด
“หยุดมัน! มันกำลังจะเปิดประตูหนีไปโลกอื่นแล้ว!”
ผู้ตามล่าอีกคนตะโกนขึ้น อาวุธที่พุ่งเข้ามาเพิ่มความเร็วขึ้นอย่างผิดธรรมชาติ แต่ควันสีนิลจากวงแหวนเวทย์รอบตัวไคล์พลันสว่างวาบ ก่อให้เกิดแรงระเบิดจนอาวุธทั้งหมดกระเด็นกระจาย เงาผู้ล่าต่างถอยหนีด้วยความตื่นตระหนก
“ห้ามปล่อยให้มันรอดไปได้เด็ดขาด!”
แต่สายเกินไปแล้ว ประตูมิติแปรเปลี่ยนเป็นความว่างเปล่าที่มืดมิด ไคล์สูดลมหายใจลึกครั้งสุดท้ายก่อนทิ้งตัวลงไปในรอยแยก สายลมเย็นเยียบจากความว่างเปล่าเบื้องหน้ากรีดแทงผิวหนังของเขาราวกับเตือนให้หยุด ชายหนุ่มหายใจหอบ กำหมัดแน่น ความกลัวแทรกซึมในหัวใจพร้อม ๆ กับความโกรธที่เดือดพล่าน แต่เขาไม่มีทางเลือกแล้ว ไม่ใช่ในตอนนี้…
รอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้าที่ซีดเซียวคือสิ่งสุดท้ายที่เหล่านักล่าได้เห็น ประตูนั่นได้ปิดตัวลงมาทิ้งไว้เพียงความเงียบงันในป่าและร่องรอยของความพินาศ
“มันหนีไปแล้วจริง ๆ หรือนี่!” เสียงหนึ่งตะโกนลั่น ความโกรธผสมความสิ้นหวังฉายชัดในน้ำเสียง
“มันหนีไปได้ตอนนี้…” ชายร่างสูงจ้องมองจุดที่ไคล์หายไป ราวกับมองผ่านทะลุความมืดไปยังที่ที่ปีศาจ
หลบซ่อน
“แต่หนีไม่ได้ไปตลอดหรอก เราจะตามล่ามันจนกว่ามันจะไม่มีที่ยืนในโลกนี้…หรือโลไหนก็ตาม!”
*********************