เมื่อเงาที่มองเห็นไม่ใช่แค่เงา และปีศาจอาจอยู่ใกล้กว่าที่คุณคิด คุณจะยืนหยัดสู้หรือปล่อยให้ความมืดนั้นกลืนกินตัวคุณ?

เอลิน มนตรา และปีศาจ - 5 Chapter-4 โดย Petri K. @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,พารานอมอล,ดราม่า,ลึกลับ,ดาร์ค,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เอลิน มนตรา และปีศาจ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,พารานอมอล,ดราม่า,ลึกลับ,ดาร์ค

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

เอลิน มนตรา และปีศาจ โดย Petri K. @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เมื่อเงาที่มองเห็นไม่ใช่แค่เงา และปีศาจอาจอยู่ใกล้กว่าที่คุณคิด คุณจะยืนหยัดสู้หรือปล่อยให้ความมืดนั้นกลืนกินตัวคุณ?

ผู้แต่ง

Petri K.

เรื่องย่อ

ในเงามืดของโลกที่ความจริงหลอมรวมกับความลวง “เอลิน” เด็กสาวผู้มองเห็นสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น แต่สายตาพิเศษนี้ไม่ได้มอบอำนาจหรือความปลอดภัยให้เธอ มีเพียงความหวาดกลัวและความโดดเดี่ยวที่ค่อยๆ กลืนกินหัวใจ

จนกระทั่ง “ไคล์” ปรากฏตัว …ปีศาจจากอีกมิติที่หลุดร่วงผ่านประตูแห่งความมืด การมาของเขาไม่ได้ชำระล้างความทุกข์ในชีวิตของเอลิน หากแต่เป็นดั่งเงาดำทมิฬที่ซ้อนทับโลกอันบิดเบี้ยวของเธอให้ลึกลงสู่ห้วงอันมิอาจหยั่งถึง เสียงกระซิบของวิญญาณแปรเปลี่ยนเป็นเสียงกรีดร้องสะเทือนจิตใจ และพลังลี้ลับบางอย่างที่หลับใหลในตัวเธอก็เริ่มตื่นขึ้น

“ในโลกที่เงาไม่ใช่เพียงเงา และปีศาจอาจอยู่ใกล้กว่าที่คุณคิด คุณจะยืนหยัดต่อสู้ หรือจะยอมกลายเป็นส่วนหนึ่งของความมืดนั้น?”


สารบัญ

เอลิน มนตรา และปีศาจ-1 Prologue ,เอลิน มนตรา และปีศาจ-2 Chapter 1 ,เอลิน มนตรา และปีศาจ-3 Chapter-2,เอลิน มนตรา และปีศาจ-4 Chapter-3,เอลิน มนตรา และปีศาจ-5 Chapter-4

เนื้อหา

5 Chapter-4

สุดท้ายเธอก็ลากร่างชายหนุ่มกลับมาถึงบ้านจนได้…

เอลินทรุดตัวลงนั่งพิงประตูห้องเก็บของทันทีที่ปิดมันลง ร่างกายที่ล้าแทบทรงตัวไม่ไหว ลมหายใจหอบหนักราวกับดึงความร้อนออกจากร่างจนหนาวสะท้าน แม้แต่แสงจากหลอดไฟเก่า ๆ บนเพดานที่กะพริบเบา ๆ ก็ยิ่งเพิ่มความอึดอัดในบรรยากาศ

นี่คือความคิดที่โง่ที่สุดในชีวิตเธอหรือเปล่า?

เด็กสาวมองชายหนุ่มที่นอนนิ่งอยู่บนพื้นไม้ แสงไฟเผยให้เห็นใบหน้าซีดเซียวและบาดแผลที่ฉีกขาดทั่วร่าง เสื้อผ้าที่ชุ่มเลือดส่งกลิ่นคาวจาง ๆ ลอยอบอวล ทว่า…บางสิ่งในตัวเขาทำให้รู้สึกเย็นวาบในอก

ถ้าเขาไม่ใช่มนุษย์… แต่เป็นปีศาจ หรืออะไรที่เลวร้ายกว่านั้นล่ะ?

นี่เธอกำลังเอาตัวเองมาเสี่ยงเกินไปหรือเปล่านี่…

เด็กสาวพยายามกลืนน้ำลาย แต่ความกลัวที่ซ่อนอยู่ลึก ๆ ทำให้รู้สึกเหมือนมีก้อนหินกดข่มอยู่ มือสั่นเล็กน้อยเมื่อขยับเข้าไปใกล้ ใช้ปลายนิ้วแตะจมูกชายหนุ่มเบา ๆ ลมหายใจแผ่วเบาที่สัมผัสได้ทำให้เธอโล่งใจอยู่ชั่วขณะ

“ห้ามตายที่นี่เด็ดขาดนะ…” เธอกระซิบเสียงแผ่ว เหมือนคำพูดนั้นไม่ใช่แค่คำสั่งแต่เป็นคำภาวนา

ทันใดนั้น มือเย็นเฉียบของเขาก็คว้าข้อมือเธอไว้แน่นจนสะดุ้ง ร่างที่ดูเหมือนใกล้ตายเมื่อครู่กลับพลิกตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ดวงตาสีเงินเย็นเยียบลืมขึ้น เหมือนสัตว์ร้ายที่เพิ่งตื่นจากการหลับใหล

“เฮ้! ปล่อยนะ!” เอลินดิ้นรนสุดแรง แต่แรงของเธอกลับเทียบไม่ได้กับเขาเลย

ชายหนุ่มโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ ลมหายใจของเขาหนาวเหน็บเหมือนลมหนาวกลางฤดูเหมันต์ เธอได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองเต้นโครมครามเหมือนระฆังเตือนภัย ก่อนที่ริมฝีปากของอีกฝ่ายจะประกบลงมาอย่างไม่ทันตั้งตัว

ความเย็นเหมือนน้ำแข็งพุ่งทะลุเข้าสู่ร่างกายพร้อมกับพลังชีวิตที่ไหลเวียนถูกดึงออกไปช้า ๆ เด็กสาวพยายามดิ้นหนี แต่ความเหนื่อยล้าเพิ่มทวีคูณอย่างรวดเร็วราวกับพลังทั้งหมดในร่างกายถูกดูดออกไปจนหมด

หัวใจที่เต้นรัวช้าลงทีละนิด ความมืดคืบคลานเข้ามาใกล้… จนกระทั่งเขาผละออก

เอลินทรุดลงกับพื้นทันที หายใจหนักพร้อมกับใบหน้าที่ซีดเผือด ดวงตาพร่ามัวขณะมองชายหนุ่มตรงหน้า ใบหน้าที่เคยซีดขาวกลับมาดูมีสีเลือด ร่างที่ดูใกล้ตายเมื่อครู่แม้ไม่หายดีทั้งหมดแต่ก็ดูฟื้นคืนความแข็งแรงขึ้นมาได้อย่างปาฏิหาริย์

นี่เขากำลังดูดพลังชีวิตจากเธอเพื่อรักษาตัวเองงั้นเหรอ?

“คุณนี่มัน…” เสียงสั่นระริกสบถออกมาอย่างหัวเสีย “…ไอ้เลวเอ๊ย”

เขาไม่ได้ตอบคำพูดเธอ เพียงจ้องมองอย่างไร้ความรู้สึกเหมือนกับมองสิ่งของชิ้นหนึ่ง

“เป็นเจ้าที่ยื่นช่วยข้าเอง…” เสียงเรียบเย็นดังขึ้น “…เพราะฉะนั้นอย่าโทษที่ข้าทำแบบนี้”

คำพูดนั้นแทงใจเหมือนคมมีด เด็กสาวกัดฟันแน่น ความโกรธพลุ่งพล่าน แต่ยังไม่ทันได้โต้ตอบ เสียงเคาะประตูดังขึ้น

“เอลิน! หนูอยู่ในนั้นเหรอ?” เสียงป้าเมย์ดังขึ้น น้ำเสียงที่แฝงความกังวลยังคงปะปนด้วยร่องรอยของความไม่พอใจ

“โกรธป้าจนออกไปเดินเล่นข้างนอกตั้งนาน ไม่รีบกลับบ้าน แต่กลับมามุดในห้องเก็บของนี่ทำไม?”

เอลินสะดุ้ง รีบเหลือบมองชายหนุ่มที่เอนพิงลังไม้ในมุมห้อง แม้เขาจะนิ่งเหมือนรูปปั้น แต่สายตาของเขายังคงจับจ้องมาที่เธอ เด็กสาวคว้าผ้าห่มเก่ามาคลุมร่างเขาไว้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะก้าวไปเปิดประตู

“หนูแค่มาหาของนิดหน่อยค่ะป้า นี่ก็กะว่ากำลังจะกลับขึ้นไปข้างบนพอดี” เธอพยายามส่งเสียงให้ปกติที่สุดคนตรงหน้าขมวดคิ้วเล็กน้อย แม้ภายนอกจะดูสงบลง แต่ความไม่พอใจยังชัดเจนในน้ำเสียง “ดึกป่านนี้ยังจะหาอะไรในนี้อีก เอลิน? หนูไม่เคยฟังป้าบ้างเลยใช่ไหม! รีบออกมาได้แล้ว!”

“ได้ค่ะป้า” เด็กสาวตอบรับ รีบคว้ากล่องเครื่องมือที่อยู่ใกล้มือขึ้นมาถือเป็นข้ออ้าง

ป้าเมย์จ้องเธอด้วยสายตาเหนื่อยหน่าย “แล้วนี่อะไร ทำไมถึงต้องทำอะไรลับ ๆ ล่อ ๆ ตลอดเลย” น้ำเสียงเธอยังแข็ง แต่ไม่ได้กดดันจนเกินไป

เอลินฝืนยิ้ม “แค่หากล่องเครื่องมือค่ะป้า ป้าจะใช้ซ่อมประตูพรุ่งนี้ไม่ใช่เหรอคะ?”

ป้าเมย์ถอนหายใจหนัก ยอมรับกล่องเครื่องมือโดยไม่ถามอะไรเพิ่มเติม “คราวหน้าจะทำอะไรก็บอกป้าด้วย เข้าใจไหม? ป้าไม่อยากให้หนูเอาแต่ทำอะไรคนเดียวเหมือนเดิมอีก”

เพื่อไม่ให้เรื่องบานปลายไปอีก เด็กสาวเพียงพยักหน้ารับคำโดยไม่พูดอะไรมาก

แต่ทันทีที่เสียงฝีเท้าของป้าเมย์จางหาย ขาทั้งสองของเอลินก็แทบจะทรุดลงพื้น เธอหอบหายใจเบา ๆ ก่อนจะค่อย ๆ ปิดประตูห้องเก็บของอย่างระมัดระวัง ราวกับต้องการกักเก็บความวุ่นวายทั้งหมด รวมถึงเขาไว้ข้างในนั้น

มันไม่ต่างอะไรกับคนที่กำลังเดินหลงเข้าไปในเขาวงกตที่เต็มไปด้วยกับดัก…และนี่อาจจะเป็นเพียงแค่กับดักแรกเท่านั้น

**********************

ไคล์รู้สึกเหมือนร่างกายกำลังถูกฉีกออกเป็นชิ้น ๆ ความเจ็บปวดแผ่กระจายราวกับเปลวไฟที่ไม่มีวันดับ เสียงลมหายใจหอบหนักดังสะท้อนในโสตประสาท สติของเขาเลือนรางราวกับม่านหมอกที่ปกคลุมจิตใจ เขารู้สึกถึงความเปราะบางของตัวเอง…ความรู้สึกที่เขาเกลียดที่สุด

ที่นี่…คือที่ไหน

คำถามลอยเข้ามาในหัว ขณะที่เขาแทบไม่มีเรี่ยวแรงจะลุกขึ้น ร่างกายเขาอ่อนล้าจนไม่ตอบสนอง การบาดเจ็บจากการถูกตามล่าและการผ่านมิติทำให้พลังในร่างสูญสลายไปแทบหมดสิ้น

แต่แล้วเขาก็สัมผัสได้ถึงบางสิ่ง…บางสิ่งที่แตกต่างจากเขาโดยสิ้นเชิง มันคือพลังชีวิตที่อบอุ่นและบริสุทธิ์ของมนุษย์ หญิงสาวร่างเล็กที่กำลังประคองร่างเขาอยู่ในมุมหนึ่งของสถานที่ที่ดูเหมือนจะเป็นที่ของนางเอง เด็กสาวตรงหน้าดูอ่อนแอ เปราะบางเกินกว่าจะรับมือกับปีศาจอย่างเขา แต่ถึงกระนั้น นางก็ยังคงพยายามช่วยเขา

ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาเกือบจะพลั้งมือฆ่า…เหตุใดจึงยังเลือกช่วยเขาอยู่?

ชายหนุ่มหัวเราะในลำคออย่างเย้ยหยัน ท่ามกลางห้วงความมืดที่โอบล้อมร่างกายเขา ความหนาวเหน็บเริ่มกัดกินเข้าไปในกระดูก เขารู้ดีว่าความตายอยู่ไม่ไกลแล้ว…

“ห้ามตายที่นี่เด็ดขาดนะ…” เสียงของนางดังขึ้นในความพร่าเลือน มันแฝงไปด้วยความดื้อดึงและคำสั่งที่เขาไม่คุ้นเคย

กลิ่นอายพลังชีวิตของอีกฝ่ายยิ่งเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ มันปลุกสัญชาตญาณปีศาจในตัวเขาให้คำรามขึ้นอย่างรุนแรง ผลักดันให้เขาทำสิ่งที่จำเป็นที่สุดเพื่อความอยู่รอด

เขาต้องการพลังชีวิตของนาง ที่นี่ ตอนนี้ และเดี๋ยวนี้!

ดวงตาสีเงินเบิกโพลง ร่างของเขาเคลื่อนไหวก่อนที่มนุษย์ตรงหน้าจะทันได้ตั้งตัว ไคล์คว้าข้อมือบางไว้แน่น พลังเงามืดหมุนวนรอบตัวเขา มันเป็นความมืดที่ดูดกลืนทุกแสงสว่างในห้อง

“เฮ้! ปล่อยนะ!” เด็กสาวร้องออกมาด้วยน้ำเสียงตกใจ พยายามดึงตัวออกห่าง แต่เขากลับเร็วกว่า ริมฝีปากของเขาประกบลงบนริมฝีปากของนาง การเชื่อมต่อระหว่างปีศาจและมนุษย์เริ่มต้นขึ้นในทันใด

กระแสพลังชีวิตที่อบอุ่นและบริสุทธิ์ไหลเข้าสู่ร่างเขาอย่างรุนแรง มันเหมือนเปลวไฟที่เผาผลาญความหนาวเย็นในตัวเขา บาดแผลเริ่มสมานตัวอย่างช้า ๆ ร่างกายของเขาค่อย ๆ ฟื้นคืนพลัง แต่ในขณะเดียวกัน ร่างของอีกฝ่ายกลับอ่อนแรงลงทุกขณะ พร้อมกับเสียงหายใจหอบหนักเมื่อเขาถอนรีมฝีปากออก

นางทรุดลงกับพื้น ร่างเล็กสั่นไหวด้วยความเหนื่อยล้า แต่สายตาที่จ้องมองกลับมาไม่ได้มีแค่ความกลัว หากยังแฝงไปด้วยความโกรธที่รอปะทุ

“คุณนี่มัน…” นางพยายามพูด เสียงแหบพร่าแต่เต็มไปด้วยแรงกดดัน “…ไอ้เลวเอ๊ย”

ไคล์จ้องมองคนตรงหน้าด้วยดวงตาสีเงินที่เฉยเมย ไม่มีความรู้สึกผิดในแววตา พลังชีวิตที่เขาดูดซับจากนางทำให้เขารู้สึกเหมือนได้ชีวิตใหม่ แต่ในขณะเดียวกัน…ความหนักอึ้งที่ซ่อนลึกในจิตใจกลับเพิ่มมากขึ้น

“เป็นเจ้าที่ช่วยข้าเอง” เขาพูดเสียงราบเรียบ ห่างเหิน ราวกับคำพูดนั้นปล่อยออกมาเพื่อปัดความรับผิดชอบไปให้อีกฝ่าย “…เพราะฉะนั้นอย่าโทษข้าที่ทำแบบนี้”

เขาเห็นนางกัดฟันแน่น จ้องมองเขาด้วยสายตาราวกับจะฆ่าเขาให้ตาย แต่ก่อนที่จะทันได้ตอบโต้อะไร เสียงบางอย่างดังขึ้นจากอีกฟากของประตู

เด็กสาวสะดุ้ง พยายามทรงตัวและรีบออกไปหาคนที่อยู่อีกฟากประตูแม้จะยังไม่มีแรง เสียงพูดคุยดังแว่วขึ้น แต่ไคล์ไม่สนใจ เขาเพียงเอนพิงผนัง มองเงาในห้องอย่างไร้อารมณ์จนกระทั่งของพวกเขาค่อย ๆ จากไป

ประตูปิดลง ทุกสิ่งกลับสู่ความเงียบงันอีกครั้ง ชายหนุ่มยังคงเอนตัวอยู่ที่เดิม ความหนาวเหน็บของกำแพงสัมผัสกับแผ่นหลังที่มีเพียงผ้าบาง ๆ กั้นอยู่ แม้พลังชีวิตที่เขาขโมยมาจะช่วยฟื้นคืนเขาได้ แต่ความเหนื่อยล้ายังคงเกาะติดอยู่ในร่าง หัวใจกลับมาเต้นอย่างมั่นคงอีกครั้ง แต่ในใจกลับรู้สึกว่างเปล่าราวกับห้วงเหว…

ทุกอย่างที่เกี่ยวกับเขาในความทรงจำของเด็กสาวคนนั้นจะหายไปในยามเช้า… รวมถึงตัวเขาเองที่จะไปจากที่นี่ด้วย

เขาคิดกับตัวเอง ความคิดนั้นเย็นชาเหมือนกับใบหน้าของเขา แต่ก็แฝงไปด้วยความคุ้นเคยที่เขายอมรับมันมานาน การลบตัวตนออกจากความทรงจำมนุษย์ที่เขาแตะต้องเป็นกลไกของธรรมชาติที่เขาคุ้นชิน และมันไม่เคยเปลี่ยนแปลง แต่ครั้งนี้กลับทิ้งความรู้สึกบางอย่างไว้ ความรู้สึกที่เขาเองก็ไม่อาจอธิบายได้…

*********************