จิตสุดท้ายที่ยังไม่ไปไหนทำให้ 'หัสวีร์' รับรู้อีกหนึ่งตัวตนว่าเขาเป็นลูกของมาเฟีย การย้อนเวลากลับมาครั้งนี้มันคงสนุกไม่น้อยเชียวล่ะ...
ชาย-ชาย,แฟนตาซี,แอคชั่น,ข้ามเวลา,ไทย,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
พุดซ้อนสลัดได #ย้อนเวลาจิตสุดท้ายที่ยังไม่ไปไหนทำให้ 'หัสวีร์' รับรู้อีกหนึ่งตัวตนว่าเขาเป็นลูกของมาเฟีย การย้อนเวลากลับมาครั้งนี้มันคงสนุกไม่น้อยเชียวล่ะ...
---------- มี Ebook ----------
เพราะรักคำเดียวทำให้ ‘หัสวีร์’ ถึงกับสูญสิ้นทุกอย่าง
พ่อแม่จากไปด้วยอุบัติเหตุ
ธุรกิจจากความรักของครอบครัวล้มละลาย
น้องสาวที่ปกป้องจนวินาทีสุดท้ายทั้งที่เขาเคยใจร้ายขนาดนั้น
เพราะรักที่มีให้ ‘สรัล’ เป็นได้แค่บันไดดอกไม้ให้เหยียบย่ำพยุงตัวไม่เหลือสักอย่างแม้กระทั่งลมหายใจ'
จิตสุดท้ายที่ยังไม่ไปไหนทำให้ได้รู้ว่าพ่อที่แม่เคยบอกว่าเสียตั้งแต่เขายังไม่เกิดเป็น 'มาเฟีย' แถมช่วยเหลือในฐานะคู่ค้ามาตลอด
เกิดชาติหน้าฉันใด ‘พุดซ้อน’ ดอกนี้ไม่ขอส่งกลิ่นหอมเพื่อใครและจะทำตนเยี่ยงต้นสลัดไดที่คุณมากมายแต่ก็ตายได้ถ้าไม่ระวัง
ด้วยแรงอธิษฐานหรือแรงแค้นก็ไม่ทราบได้ทำให้เขาย้อนเวลากลับมาจัดการเอาคืนให้สาสมกับสิ่งที่พวกมันเคยทำและการใช้อำนาจในฐานะลูกมาเฟียมันก็ไม่ได้แย่หรอกนะ
จิ๋นซี จิตรกร อัศวชุณหะ (อายุ 32 ปี ส่วนสูง 192 cm) /เจ้าของบริษัทนำเข้าและส่งออกอะไหล่ยนต์, เจ้าของสนามแข่งรถ Steed King
วิน หัสวีร์ วัชรอมรเมฆ (อายุ 27 ปี ส่วนสูง 180 cm. / เจ้าของบริษัทลักษิกาเจ็ม (Laksika Gem)
นัท มนัสวี วัชรอมรเมฆ (อายุ 26 ปี ส่วนสูง 175 cm.) / เจ้าของโรงเรียนศิลปะ WAM Gallery
รัน สรัล บูรณะโชติ (อายุ 30 ปี ส่วนสูง 187 cm.) / ?
เมษ เมธัส นิจอนันต์ (อายุ 29 ปี ส่วนสูง 170 cm.) / เจ้าของบริษัทนิทไดมอนด์ (NIT Diamond)
มาร์ติโน เฉิน (อายุ 55 ปี ส่วนสูง 195 cm.) / ?
สาม สารัช อัศวชุณหะ (อายุ 34 ปี ส่วนสูง 193 cm.) / เจ้าของโรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้และป้องกันตัว Sarach Gym
เธียร เธียรวิชญ์ รัตนสาโรชน์ (อายุ 24 ปี ส่วนสูง 183 cm.) / เจ้าของบริษัททีอาร์ออแกไนซ์
การย้อนเวลากลับมาแก้แค้นได้เริ่มต้นแล้วเพราะหลัวที่ดีคือหลัวใหม่
ปล. การทำธุรกิจในเรื่องอาจไม่ตรงกับความเป็นจริง 100% แต่พยายามหาข้อมูลให้มากที่สุดบางเหตุการณ์แต่งขึ้นเองเพื่ออรรถรส
- TRIGGER WARNING -
มีเนื้อหาที่บรรยายถึงการใช้ความรุนแรงและการกระทำที่ไม่เหมาะสมเกิดจากจินตนาการเท่านั้นไม่ควรลอกเลียนแบบ
มีเหตุการณ์ที่ทำให้หดหู่หรือจิตตก
มีการบรรยายถึงบาดแผลและเลือด
Toxic relationship
“ยังไงฉันก็ไม่ยอมเด็ดขาดค่ะ”
เสียงโวยวายดังสวนขึ้นทันทีหลังจากที่ชายหนุ่มพูดจบประโยค
“ไหนคุณลองให้เหตุผลมาสิครับว่าทำไม”
เจ้าของตาคมสีเฮเซลเอ่ยถามหัวหน้าการตลาดสาวด้วยแววตานึกสนุก
“พี่อาทิตย์เตรียมแผนงานมาตั้งนานอีกแค่หนึ่งเดือนก็ถึงวันเปิดตัวแล้วไหนจะค่าใช้จ่ายส่วนต่างที่ออกไปก่อนอีกแบบนี้ไม่แย่ไปหน่อยเหรอคะนี่ผ่านการคิดมาแล้วเหรอ”
หลายคนไม่พอใจกับท่าทางเย่อหยิ่งกับคำพูดหักหน้าเจ้านายที่พวกเขาเคารพรัก แต่ต้องเก็บอาการไว้เพียงเพราะอีกฝ่ายคือน้องสาวสรัลผู้เป็นสามีของชายหนุ่ม
แล้วยิ่งหงุดหงิดใจที่ผู้ถูกกระทำไม่ได้แสดงสีหน้าไม่พอใจหรือเป็นเป็นเดือดเป็นร้อนสักนิดซึ่งเป็นภาพที่คุ้นตาแต่ไม่เคยชินเสียที ทำไมครั้งนี้มันรู้สึกเสียวสันหลังแปลกๆ กับรอยยิ้มที่ยังคงประดับอยู่บนใบหน้าหล่อเหลานั่น
“ไม่เอาน่าริน”
สรัลเอ่ยปรามน้องสาว
“ทำไมก็รินพูดเรื่องจริง”
สิรินยังคงลอยหน้าลอยตาเพราะถึงยังไงพี่ชายของเธอก็ไม่ได้ปรามแบบจริงจังอยู่แล้ว
“นั่นสิครับวินมันกระชั้นชิดไปหรือเปล่านี่ทางนั้นเขาก็เริ่มเตรียมงานให้เราแล้วเพราะของตกแต่งบางชิ้นต้องนำเข้าจากต่างประเทศด้วยบริษัทออแกไนซ์ของพี่อาทิตย์อาจจะฟ้องเรากลับได้นะ”
“อืมที่พวกคุณพูดก็ถูกนะ”
สิรินยิ่งลำพองใจที่เห็นพี่สะใภ้แสนโง่เง่าผู้เป็นบ่อเงินบ่อทองของเธอยังคงเห็นด้วยกับสิ่งที่เธอพูดไม่ได้นึกเอะใจกับรอยยิ้มที่ส่งไปไม่ถึงดวงตาและสรรพนามที่เปลี่ยนไปยามที่อีกฝ่ายเอื้อนเอ่ยออกมา
“คุณมินตราครับ”
คนเป็นเลขารู้ใจเจ้านายโดยไม่ต้องกล่าวอะไรเพิ่มก็มีแฟ้มเอกสารมาวางตรงหน้าสิรินทันที
ฟุบ
“นี่อะไรคะ”
“นั่นสิครับ ผมก็อยากถามคุณสิรินเหมือนกัน”
สรรพนามการเรียกที่แปลกไปของหัสวีร์สะกิดใจสรัลอยู่ไม่น้อยแต่ไม่ใช่กับสิรินที่คิดว่าตัวเองอยู่เหนือกว่าเสมอ
“ก็แค่งบการตลาดของไตรมาสแรกนี่จะเอามาทำไมอีก”
“ใช่ครับ คุณสิรินดูดีๆ สิครับว่าอะไรแปลกไปนี่ยังไม่รวมกับงบที่ใช้จัดงานประมูลในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้าเลยนะ”
“ไม่เห็นจะมีอะไรแปลกแถมงบก็สรุปเรียบร้อยแล้วนี่คะ”
ทั้งที่พูดด้วยความมั่นใจออกไปแบบนั้นแต่สิรินเริ่มรู้สึกหวั่นใจยังไงบอกไม่ถูกเพราะมีชนักติดหลังอยู่ยิ่งมองหัสวีร์ที่กำลังส่งยิ้มอ่อนๆ มาให้ยิ่งเสียวสันหลังแปลกๆ แต่ก็สลัดความคิดนั้นออกไปแล้วไงล่ะเธอมีพี่ชายหนุนหลังอยู่จะกลัวอะไร
“นั่นสินะครับเอาเป็นว่าคุณไปแก้ต่างที่ศาลแล้วกัน”
“ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดฉันไม่ไป พี่รันคะดูภรรยาของพี่สิกำลังปรักปรำรินอยู่
สิรินเสียงแข็งก่อนที่หันไปทางผู้เป็นพี่ชายด้วยความความเอาแต่ใจเหมือนเคย
“วินครับ นี่อาจจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันก็ได้นะ”
ผู้เป็นสามีเอ่ยกับคนรักด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเอาน้ำเย็นเข้าลูบเหมือนเคยเพราะรู้ว่าอีกฝ่ายนั้นใจอ่อนก็เขาเสมอ ไม่เคยคาดคิดว่ามันใช้ไม่ได้ผลกับครั้งนี้
“ผมไม่ยักรู้ว่าคุณสรัลเห็นด้วยกับการยักยอกทรัพย์ของบริษัทไปเป็นทรัพย์สินส่วนตัว”
หัสวีร์ยังคงมีรอยยิ้มประดับบนใบหน้าไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมาทั้งที่ในใจอยากจะหั่นอีกฝ่ายออกเป็นชิ้นๆ ก็ตาม
แค่นี้ก็เพียงพอที่จะทำให้สรัลไม่กล้าแก้ตัวอะไรให้กับน้องสาวตัวเองอีก แต่เจ้าตัวยังคงหาวิธีช่วยอย่างแน่นอน ค่อยไปหว่านล้อมหัสวีร์ทีหลังแล้วกัน อย่างไรอีกฝ่ายก็รักและตามใจเขาอยู่แล้ว
“โอเค เลิกประชุมได้”
“แกจะทำอย่างนี้กับฉันไม่ได้กลับมาเดี๋ยวนี้นะ พี่รันปล่อยริน”
เสียงสิรินลอยออกมาจนกระทั่งประตูห้องประชุมปิดสนิทถึงได้เงียบไปไม่ใช่เพราะเลิกโวยวายเหมือนคนบ้าแต่มันเป็นห้องเก็บเสียงทุกคนเลยไม่ต้องปวดประสาทกับเสียงนั้น
ภายในห้องตอนนี้เหลือเพียงสรัลและสิริน
“ใจเย็นริน อย่าทำให้พี่เสียเรื่อง”
“รินไม่เย็นมันมีสิทธิ์อะไรมาทำกับรินแบบนี้เงินแค่ไม่กี่ล้านเอง พี่รันต้องจัดการให้รินนะ”
“เดี๋ยวพี่จัดการให้แล้วรินอย่าเรียกวินว่ามันอีก”
“ทำไมอย่าบอกนะว่าพี่เริ่มรักมันแล้วน่ะ รินจะฟ้องพี่เมษ”
“หยุดเดี๋ยวนี้นะริน ควบคุมอารมณ์ตัวเองหน่อยสิรู้ตัวไหมว่ากำลังพูดอะไรออกมา”
คนเป็นน้องสาวกำลังจะเถียงต่อแต่เห็นสรัลที่เสียงแข็งทำหน้าจริงจังเลยทำได้แค่ฮึดฮัดเดินตึงตังออกจากห้องไป ผู้เป็นพี่ชายได้แต่ส่ายหน้ากับความเจ้าอารมณ์จากการถูกสปอยจนเคยตัวมาตั้งแต่เด็ก
พอนึกถึงท่าทีของภรรยาเมื่อครู่สรัลค่อนข้างแปลกใจแต่ไม่ได้หนักใจนักเพราะหัสวีร์หัวอ่อนเชื่อฟังเขาอยู่แล้ว
ณ กรุ๊ปไลน์เม้ามอยออฟฟิตกลุ่มลับ (สมาชิก 12 คน)
ติ้ง!
เอมม่า : แกเอ้ยเมื่อกี้ฉันโคตรสะใจเลยว่ะ
ซี : เออจริง ฉันไม่เคยเห็นคุณวินเป็นแบบนี้มาก่อนเลย
มิ้ว : โอ๊ย แทบอยากลุกขึ้นมารำฉุยฉายถวายเจ้าที่ค่า สาธุ99
เพชร : +1 สาคู99
โอเล่ : @เอมม่า แกว่าเพื่อนรักจะโดนไรมะ
เลย์ : @เอมม่า ใช่ๆ เพื่อนรักแกอ่ะ
เอมม่า : @โอเล่ @เลย์ เพื่อนรักบ้านป้าแกสิ
เลย์ : ฮิฮิ
โรส : คุณวินเอาจริงไหมวะรอบนี้
มิ้ว : เอาจริง แต่ผลเปลี่ยนไหมไม่รู้ถ้ามีคนช่วยพูดให้น้องสาวตัวเอง
ซี : +1 ทำไมคนดีๆ อย่างคุณวินต้องเจออะไรแบบนี้ด้วยวะ
มินตรา : อะแฮ่ม
เอมม่า : เจ๊มาแล้ว ตลาดวายด่วน
โรส : หลังเลิกงานเจอกันร้านหมูกระทะลุงฉุยนะ
มินตรา : ตามนั้น
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เชิญครับ”
ผู้เป็นเจ้าของห้องที่กำลังยืนมองวิวตึกสูงถูกสวมกอดจากทางด้านหลัง
“เย็นนี้ไปดินเนอร์กับพี่นะครับ”
“ทำไมครับจะมาพูดแก้ตัวแทนน้องสาวเหรอ”
หัสวีร์ยืนนิ่งโดยที่ไม่ได้หันไปมองอีกฝ่าย ไม่ใช่เพราะเขากลัวใจอ่อนแต่กลัวว่าจะซ่อนแววตาขยะแขยง เคียดแค้นจนอยากฆ่าตัวปรสิตพวกนี้ให้ตายไม่มิดต่างหาก
“ที่รักลืมวันครบรอบของพวกเราแล้วเหรอครับ”
นั่นสินะเกือบลืมไปได้ยังไงในเมื่อวันครบรอบเป็นจุดเริ่มต้นของการนับถอยหลังสู่หายนะของ Laksika Gem อีกหนึ่งเดือนข้างหน้าและยังเป็นจุดแตกหักที่ไม่มีทางเหมือนเดิมได้ของเขากับน้องสาว
“วินทำงานจนลืมไปเลยน่ะครับ”
หัสวีร์หลับตาเพื่อปรับอารมณ์ก่อนที่จะหันไปยิ้มบางให้กับคนที่เอาคางเกยกับไหล่เขาทั้งที่ยืนกอดไปด้วยจนแก้มชนกับจมูกของอีกฝ่ายก่อนที่สรัลจะค่อยๆ จับตัวของคนรักให้หันมาเผชิญหน้ากันพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ละมุนว่า
“ทำงานหนักจนลืมนัดเราอีกแล้วนะครับ”
พร้อมกับจับมือข้างที่มีแหวนแต่งงานมาจรดปากลงไปอย่างทะนุถนอม
“พรุ่งนี้พี่รันมีไฟลท์เช้าไม่เป็นไรก็ได้นะครับ ไว้ค่อยกลับมาฉลองกันเดี๋ยวจะเหนื่อยเอา”
“วันสำคัญของพวกเราไม่มีคำว่าเหนื่อยเลยครับให้พี่ใช้แรงกับวินทั้งคืนก็ยังไหว”
เมื่อเห็นว่าอารมณ์ของหัสวีร์โอนอ่อนตามเขาเหมือนเคยเลยพูดเรื่องสำคัญอีกเรื่อง
“วินครับเรื่องที่รินยักยอกไปเดี๋ยวพี่จะชดใช้ทั้งหมดให้เองอย่าดำเนินคดีเลยนะ”
ขณะที่พูดก็สังเกตท่าทีของคนรักไปด้วย
“ได้สิครับ”
เมื่อได้ยินการตอบรับที่ดีกลับมาสรัลจึงดึงหัสวีร์มากอดไว้ด้วยความดีใจและโล่งอก พลางคิดหาวิธีไม่ให้น้องสาวตัวดีก่อเรื่องขึ้นอีก
“ขอบคุณนะครับ ที่รักของพี่แสนดีที่หนึ่งเลยจะไม่ให้รักขนาดนี้ได้ยังไง”
โดยไม่ได้รับรู้ว่าภรรยาที่ตนสวมกอดอยู่นั้นแววตาเปลี่ยนประกายความเลือดเย็นทันทีในขณะที่อีกฝ่ายพูดทั้งจิกมือตัวเองจนห้อเลือดอย่างสะกดกลั้น
นั่นสิครับจะให้การรับโทษเป็นหน้าที่ของกฎหมายได้ยังไงในเมื่อมันเบาไปไม่สาสมใจเขาเลยนี่นะ
หัสวีร์จำได้ว่าวันนี้สรัลต้องถูกเรียกตัวไปหาใครบางคนระหว่างที่ดินเนอร์กันกับข้ออ้างที่ว่า
“พอดีแม่โทรมาบอกว่ารินปวดท้องมากขอให้พี่พาไปโรงพยาบาลหน่อย”
“เป็นอะไรมากหรือเปล่าครับงั้นเราไปด้วยกันเลยดีกว่า”
“ที่รักอยู่นี่ทานให้อิ่มนะพี่สัญญาว่าจะกลับมาชดเชยให้”
“ไม่เป็นไรครับวินเข้าใจพี่ไปเถอะ”
ชาติที่แล้วเขานี่โง่จริงๆ ว่าคนที่สรัลไปหาไม่ใช่สิรินแต่เป็นเมธัสต่างหาก ไประเริงรักในวันครบรอบแต่งงานในขณะที่หัสวีร์ต้องดินเนอร์เพียงลำพัง
โชคดีที่หัสวีร์ วัชรอมรเมฆ ได้รับโอกาสครั้งใหญ่ย้อนเวลากลับมาในวัย 27 ปี หลังลืมตาตื่นขึ้นมาเช้านี้พร้อมกับอ้อมกอดที่แสนรังเกียจบนเตียงนอนภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน กลับมาก่อนที่หายนะใหญ่ครั้งแรกอีกหนึ่งเดือนข้างหน้ากำลังจะเกิดขึ้น
Send message
สี่ทุ่มเจอกันที่สนามหวังว่าจะได้รับข่าวดีนะครับ
TBC.