จิตสุดท้ายที่ยังไม่ไปไหนทำให้ 'หัสวีร์' รับรู้อีกหนึ่งตัวตนว่าเขาเป็นลูกของมาเฟีย การย้อนเวลากลับมาครั้งนี้มันคงสนุกไม่น้อยเชียวล่ะ...

พุดซ้อนสลัดได #ย้อนเวลา - 6 สลัดไดต้นที่หก โดย สินปา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,แฟนตาซี,แอคชั่น,ข้ามเวลา,ไทย,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

พุดซ้อนสลัดได #ย้อนเวลา

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,แฟนตาซี,แอคชั่น,ข้ามเวลา,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

พุดซ้อนสลัดได #ย้อนเวลา โดย สินปา @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

จิตสุดท้ายที่ยังไม่ไปไหนทำให้ 'หัสวีร์' รับรู้อีกหนึ่งตัวตนว่าเขาเป็นลูกของมาเฟีย การย้อนเวลากลับมาครั้งนี้มันคงสนุกไม่น้อยเชียวล่ะ...

ผู้แต่ง

สินปา

เรื่องย่อ

 

 ----------  มี  Ebook ----------

https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTYyMDQyNCI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjM0MTYzOCI7fQ

 


เพราะรักคำเดียวทำให้ ‘หัสวีร์’ ถึงกับสูญสิ้นทุกอย่าง

พ่อแม่จากไปด้วยอุบัติเหตุ

ธุรกิจจากความรักของครอบครัวล้มละลาย

น้องสาวที่ปกป้องจนวินาทีสุดท้ายทั้งที่เขาเคยใจร้ายขนาดนั้น

เพราะรักที่มีให้ ‘สรัล’ เป็นได้แค่บันไดดอกไม้ให้เหยียบย่ำพยุงตัวไม่เหลือสักอย่างแม้กระทั่งลมหายใจ'

จิตสุดท้ายที่ยังไม่ไปไหนทำให้ได้รู้ว่าพ่อที่แม่เคยบอกว่าเสียตั้งแต่เขายังไม่เกิดเป็น 'มาเฟีย' แถมช่วยเหลือในฐานะคู่ค้ามาตลอด

เกิดชาติหน้าฉันใด ‘พุดซ้อน’ ดอกนี้ไม่ขอส่งกลิ่นหอมเพื่อใครและจะทำตนเยี่ยงต้นสลัดไดที่คุณมากมายแต่ก็ตายได้ถ้าไม่ระวัง

ด้วยแรงอธิษฐานหรือแรงแค้นก็ไม่ทราบได้ทำให้เขาย้อนเวลากลับมาจัดการเอาคืนให้สาสมกับสิ่งที่พวกมันเคยทำและการใช้อำนาจในฐานะลูกมาเฟียมันก็ไม่ได้แย่หรอกนะ

 


 

จิ๋นซี จิตรกร อัศวชุณหะ (อายุ 32 ปี ส่วนสูง 192 cm) /เจ้าของบริษัทนำเข้าและส่งออกอะไหล่ยนต์, เจ้าของสนามแข่งรถ Steed King

วิน หัสวีร์ วัชรอมรเมฆ (อายุ 27 ปี ส่วนสูง 180 cm. / เจ้าของบริษัทลักษิกาเจ็ม (Laksika Gem)

นัท มนัสวี วัชรอมรเมฆ (อายุ 26 ปี ส่วนสูง 175 cm.) / เจ้าของโรงเรียนศิลปะ WAM Gallery 

รัน สรัล บูรณะโชติ (อายุ 30 ปี ส่วนสูง 187 cm.) / ?

เมษ เมธัส นิจอนันต์ (อายุ 29 ปี ส่วนสูง 170 cm.) / เจ้าของบริษัทนิทไดมอนด์ (NIT Diamond)

มาร์ติโน เฉิน (อายุ 55 ปี ส่วนสูง 195 cm.) / ?

สาม สารัช อัศวชุณหะ (อายุ 34 ปี ส่วนสูง 193 cm.) / เจ้าของโรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้และป้องกันตัว Sarach Gym

เธียร เธียรวิชญ์ รัตนสาโรชน์  (อายุ 24 ปี ส่วนสูง 183 cm.) / เจ้าของบริษัททีอาร์ออแกไนซ์ 

 


การย้อนเวลากลับมาแก้แค้นได้เริ่มต้นแล้วเพราะหลัวที่ดีคือหลัวใหม่

ปล. การทำธุรกิจในเรื่องอาจไม่ตรงกับความเป็นจริง 100% แต่พยายามหาข้อมูลให้มากที่สุดบางเหตุการณ์แต่งขึ้นเองเพื่ออรรถรส

- TRIGGER WARNING -

มีเนื้อหาที่บรรยายถึงการใช้ความรุนแรงและการกระทำที่ไม่เหมาะสมเกิดจากจินตนาการเท่านั้นไม่ควรลอกเลียนแบบ

มีเหตุการณ์ที่ทำให้หดหู่หรือจิตตก 

มีการบรรยายถึงบาดแผลและเลือด

Toxic relationship

 

สารบัญ

พุดซ้อนสลัดได #ย้อนเวลา-1 สลัดไดต้นที่หนึ่ง,พุดซ้อนสลัดได #ย้อนเวลา-2 สลัดไดต้นที่สอง,พุดซ้อนสลัดได #ย้อนเวลา-3 สลัดไดต้นที่สาม,พุดซ้อนสลัดได #ย้อนเวลา-4 สลัดไดต้นที่สี่,พุดซ้อนสลัดได #ย้อนเวลา-5 สลัดไดต้นที่ห้า,พุดซ้อนสลัดได #ย้อนเวลา-6 สลัดไดต้นที่หก ,พุดซ้อนสลัดได #ย้อนเวลา-7 สลัดไดต้นที่เจ็ด,พุดซ้อนสลัดได #ย้อนเวลา-8 สลัดไดต้นที่แปด

เนื้อหา

6 สลัดไดต้นที่หก

หัสวีร์มาพบชัชชัยที่ร้านเลอฌาเพียงคนเดียวเปิดห้องเข้าไปเจอแขกนั่งรออยู่แล้วทั้งที่ยังไม่ถึงเวลานัด

ชายวัยกลางคนแต่งตัวภูมิฐานบุคลิกน่าเชื่อถือ สายตาไม่ว่อกแว่กยามจดจ้องสนทนา อีกทั้งโปรไฟล์ที่สร้างขึ้นมาในแวดวงธุรกิจยังดูดีอีกด้วยไม่แปลกใจที่ก่อนหน้าจะมีคนตกเป็นเหยื่อถูกต้มตุ๋น

“ผมบอกเลยว่าคุณหัสวีร์ตาแหลมมากจริงๆ”

“คุณชัชชัยอยากได้เท่าไหร่ครับ”

หัสวีร์ถามหยั่งเชิงในขณะที่คู่ค้าได้ยินแล้วตาลุกวาวในใจลิงโลดแต่ต้องเก็บอาการไว้กลัวไก่ตื่น

“เหมืองทับทิมสยามทุกที่ปิดถาวรไปหมดแล้วสี่ก้อนผมขอล้านห้าแล้วกันครับ”

ชัยชัยเอ่ยราคาในใจพร้อมมองสีหน้าเรียบนิ่งของชายหนุ่มที่ไม่มีปฏิกิริยาตอบรับก็เริ่มใจคอไม่ดี

หรือมันแพงไปวะชวดรอบนี้อดแน่กู

“แต่สำหรับคุณผมคิดแค่หนึ่งล้านพอ”

ท่าทีที่เริ่มร้อนรนทำให้ผู้บริหารหนุ่มกระตุกยิ้มบางมองด้วยสายตานึกสนุกก่อนจะหยิบเช็คขึ้นมาเขียนหลังตรวจสอบแล้วว่าข้างในมีอัญมณีแน่นอน

“ไม่ต้องหรอกครับเอาราคาแรกนั่นแหละ”

หินเหล่านี้มาจากเหมืองรัตนากรจริงซึ่งมั่นใจได้ว่าเป็นทับทิมสยามแน่นอนแค่สามก้อนเท่านั้นส่วนก้อนที่เล็กเท่าไข่ไก่เพื่อนที่มาจากรัสเซียนอกเมืองห่างไกลได้มาในราคาแสนถูกเอามาฝากโก่งขายนี่คือสิ่งที่ชัชชัยไม่ได้พูดความจริงทั้งหมด

เมื่อตกลงทำสัญญาซื้อขายกันเรียบร้อยแล้วคู่ค้าของหัสวีร์ก็ขอตัวกลับทันที

ไอ้หน้าอ่อนนี่มันโง่ว่ะโชคเข้าข้างแท้ๆ เอาเงินล้านมาแลกกับหินแร่ไม่ทราบมูลค่าแบบนี้ต้องฉลองหน่อยโว้ย

 

ส่วนคนที่ถูกด่าว่าโง่ในใจนั้นกำลังมองหินในมือด้วยแววตาพราวระยับอย่างอารมณ์ดีเพราะสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขามูลค่านับร้อยล้าน ทำไมจะไม่รู้ล่ะว่าก้อนเล็กสุดไม่ใช่ทับทิมสยาม หึ โชคดีจริงๆ ที่ยังไม่หลุดมือไป

 

 

ติ๊ง

Win.W : วินอยู่ที่เลอฌาอยากได้อะไรไหมเดี๋ยวแวะไปหา

Manas_V : เอ้าเหรอ รอแป๊บนะนัทก็กำลังไปพอดีเลย

Win.W : มาไกลมากกกกก

Manas_V : มีงานแถวนี้พอดีแล้วเธียรมันอยากลอง

Win.W : ห้องชมนาดนะ งั้นสั่งอาหารมารออยากได้อะไรเป็นพิเศษไหม

Manas_V : โอเคสั่งเลย เอาอะไรก็ได้เธียรมันก็ไม่เรื่องมาก

Win.W : งั้นถ้าอยากได้อะไรเพิ่มค่อยมาสั่งเอานะ

Manas_V : ขอบคุณค้าบ

 

ร้านเลอฌาจัดเป็นอีกหนึ่งร้านเด็ดใกล้บ้านและบริษัทเขาที่มาบ่อยมากตั้งแต่สมัยพ่อแม่ยังอยู่ รสชาติอร่อย ราคาไม่แพง อาหารออกไวทั้งที่ลูกค้าเต็มร้าน และมีห้องส่วนตัวให้จองด้วย

พออาหารเริ่มเข้ามาเสิร์ฟมนัสวีและเธียรวิชญ์ก็มาถึงพอดีโดยหญิงสาวแนะนำให้คนทั้งคู่ได้รู้จักกัน

“คนนี้แหละที่เคยพูดถึง”

“สวัสดีครับพี่วิน”

“สวัสดีครับเธียร ถ้าอยากสั่งอะไรเพิ่มสั่งได้เลยนะพี่เลี้ยงเอง”

หัสวีร์เอ่ยกับคนเด็กกว่าอย่างเป็นมิตร

“หิวจังเลย”

“ก็ไปนั่งดีทานๆ ไม่ใช่ถึงแล้วซบอ้อนกันแบบนี้”

ชายหนุ่มเอ่ยแซวผลักหัวคนน้องไม่จริงจังนักหลังจากที่อีกฝ่ายนั่งลงข้างๆ กอดแขนเอียงตัวมาพิงไหล่

“ก็อยากเลียนแบบวินบ้างไง แอบขำอะไรเธียรเจ้เห็นนะ”

“เจ้ดูต่างจากตอนที่อยู่กับคนอื่นเลยนะอืม…มันดูสบายกว่าตอนทำงานเยอะเลย”

เธียรวิชญ์ท้าวคางพูดกับรุ่นพี่แต่สายตากลับมองใบหน้าของคนที่กำลังสนใจแค่อาหารบนโต๊ะยิ้มๆ

คนอะไรสีตาเหมือนแมวเลย

“จุ๊ๆๆ ก็ได้แค่มองล่ะนะน้องเธียร ว้า”

“มานงมาน้องอะไรขนลุก”

ชายหนุ่มผมสีควันบุหรี่กรอกตาส่ายหน้าแล้วหันมาตักอาหารเข้าปาก

อาหารที่หัสวีร์สั่งมาไม่ได้เอาอะไรเพิ่มระหว่างทานอาหารทั้งสามคนมีพูดคุยกันบ้างในเรื่องทั่วๆ ไปแต่ส่วนใหญ่เธียรวิชญ์กับมนัสวีจะคุยเรื่องงานส่วนคนพี่ออกความเห็นบ้าง

“เธียรอยากทานของหวานอะไรไหม”

“พี่วินมีแนะนำไหมครับ”

“กระท้อนลอยแก้วไหมซิกเนเจอร์ของที่นี่เลยพี่สั่งทานประจำ”

“ได้ครับ”

“นัทเอาเหมือนกันไหม แล้วทำไมต้องทำหน้าตลก ฮะ ฮะ”

ชายหนุ่มหันไปถามคนที่กำลังเบะปากใส่คนที่ปกติไม่ชอบทานผลไม้ก็ส่ายหน้าขำทันที

“ได้ๆ”

“เห็นเจ้บอกว่าพี่วินอยากได้ออแกไนซ์ใหม่แทนนายอาทิตย์”

“ใช่ครับ งานประมูลที่จะจัดสิ้นเดือนนี้”

“เดี๋ยวเธียรขอเช็คตารางก่อนนะครับว่ามีทีมเหลือไหม”

หัสวีร์สังเกตว่าเธียรวิชญ์ในเวลาปกติมักทำตัวสบายๆ ดูเข้าถึงง่ายแต่พอเข้าเรื่องงานเปลี่ยนโหมดเป็นสุขุมจริงจังทันทีอายุน้อยกว่าเขาสามปีแต่ดูเป็นมืออาชีพมากไม่แปลกใจที่รุ่นพี่อย่างมนัสวีร์แนะนำ

ส่วนรุ่นพี่ที่เป็นหญิงสาวคนเดียวในโต๊ะกำลังหรี่ตามองรุ่นน้องสองมาตรฐานอย่างนึกสนุกกับเธอหรือคนอื่นแทนตัวว่าผมแต่พอเป็นหัสวีร์แทนเป็นชื่อเล่น กำลังเปิดเช็คตารางงานบนสมาร์ทโฟน 

หึหึ ไอ้น้องชายเจ้จะรอดู

 

“ได้นะครับ”

เจ้าของดวงตาสีเฮเซลจากที่นั่งลุ้นก็หลุดยิ้มออกมา

“นึกว่าจะต้องจ้างเจ้าอื่นแล้วเนี่ย”

“พี่แจ้งธีมของงานมารายละเอียดต่างๆ เดี๋ยวเธียรจะส่งใบเสนอราคาตามไปให้”

“ได้สิ งั้นพี่ขอคอนแทรคเราหน่อยนะ”

“พอดีไม่ได้พกนามบัตรมาเพราะช่วงนี้สอนแต่ที่แกลอรี่พี่วินแอดไลน์แทนนะครับ”

เธียรวิชญ์ยื่นคิวอาร์โค้ดมาคนพี่พยักหน้าแสกนเพิ่มเพื่อนทันทีเนื่องจากต้องกลับแกลอรี่กันก่อนเพื่อประชุมงานชายหนุ่มจึงให้หัสวีร์ส่งรายละเอียดต่างๆ เข้าไลน์แทนถ้ามีตรงไหนไม่เข้าใจหรือสำคัญมากๆ ค่อยนัดเจอกันอีกที

“มองหน้าพี่มีอะไรจะพูดหรือเปล่าเธียร”

หัสวีร์หันไปถามหนุ่มรุ่นน้องตั้งแต่เดินออกจากห้องมาก็เหลือบมองอยู่บ่อยๆ”

คนถูกตั้งคำถามเกาแก้มเก้อเขินเพราะถูกจับได้

“ชอบสีตาพี่ มีคนเคยบอกไหมครับว่าตาพี่เหมือนแมว”

ผู้เป็นเจ้าของดวงตาคู่สวยหัวเราะขบขันคนตรงหน้า ปกติคงจะมีคนคิดบ้างแหละมั้งเพราะสีตาเขาแปลกแต่ไม่เคยมีใครพูดออกมาตรงๆ แบบนี้นอกจากมนัสวีกับจิตรกรที่ชอบแซว ขนาดสรัลยังแค่ชมว่าสวยไม่เหมือนใครเท่านั้น

เธียรวิชญ์จ้องมองตาสีเฮเซลยามถูกแสงแดดตกกระทบเกิดเป็นประกายเหลืองอำพันไม่วางตา

“มีสิ ก็เจ้ของเรานี่ไง”

“แมวตัวนี้ตกทาสเก่งด้วยนะแถมไม่ค่อยจะรู้ตัวหรอก”

หัสวีร์ส่ายหน้ากับการพูดไปเรื่อยของน้องสาวส่วนคนอายุน้อยสุดก็หัวเราะชอบใจ

ก็พอรู้ตัวบ้างแค่ไม่เอามาใส่ใจตราบใดที่ไม่ได้ก้าวก่ายข้ามเส้นแต่ก็มีนะบางคนที่ปิดเสียมิดเลย

 

“งั้นวินไปก่อนนะเดี๋ยวว่างๆ แวะไปหา”

“จ้า”

 

หลังจากแยกย้ายกันออกมาหัสวีร์แวะไปยังอาคารพานิชย์สามชั้นซึ่งไม่ไกลจากตรงนี้นัก ที่นี่เต็มไปด้วยความทรงจำมากมาเดิมทีคือที่ตั้งลักษิกาเจ็มในตอนแรกเริ่มที่แม่ทำจิวเวอรี่ พอธุรกิจเติบโตจึงขยับขยายไปยังอาคารปัจจุบันแต่ยังคงดูแลปรับปรุงไม่ให้เสื่อมโทรมตามกาลเวลา

ในชีวิตที่แล้วความโง่ทำให้เขาตัดใจขายตามคำยุยงของสรัลนำเงินมาหมุนด่วนในราคาที่ต่ำกว่าที่ประเมินไว้มากทั้งที่เป็นย่านเศรษฐกิจและคนที่มาซื้อไว้คือนอมินีของเมธัส

ภายในที่เคยดูโล่งไม่ได้ตกแต่งอะไรเพราะไม่มีการใช้งานตั้งแต่ย้ายบริษัทตอนนี้กลับเต็มไปด้วยชีวิตชีวาและผู้คนส่วนหนึ่ง

“ขอบคุณนะครับลุงทวีที่กลับมาช่วยวินและก็ขอโทษทุกคนที่อยู่ตรงนี้ด้วยที่เคยดูแลไม่ดีจนเกิดเรื่อง”

“อย่าพูดแบบนั้นที่นี่ก็เหมือนบ้านของลุง อีกอย่างไม่มีใครโกรธคุณวินเลยนะเพราะตั้งแต่คุณรักษ์จากไปพวกเราก็เห็นคุณทำงานหนักมาตลอด”

ชายวัยกลางคนเห็นหัสวีร์มาตั้งแต่เด็กรู้จักนิสัยใจคออีกฝ่ายเป็นอย่างดีนึกเอ็นดูเหมือนลูกหลาน ทั้งที่ตอนแรกโกรธมากที่ถูกบีบให้ออกรวมถึงทุกคนที่นี่เหตุผลเพียงเพราะว่าอายุมากแล้วสายตาไม่ดีเดี๋ยวงานจะผิดพลาด 

แต่เป็นเพราะเขาคอยเฝ้าดูห่วงใยเลยรู้ว่าคนที่สั่งไม่ใช่คนหนุ่มตรงหน้าและในที่นี้อีกสิบสองชีวิตคือช่างจิวเวอรี่ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งลักษิกาเจ็มผู้เก๋าประสบการณ์

“งั้นวินฝากด้วยนะครับช่วงนี้ต้องทำงานหนักกันหน่อยหากขาดเหลืออะไรแจ้งกับคุณมินตราได้เลย”

 

หากอยากรักษาสิ่งที่สำคัญเอาไว้เขาจำเป็นต้องวางหมากให้รอบคอบในฐานะคิง

 


 

TBC.