ความลับที่เก็บซ่อนไว้ ความสัมพันธ์ที่ถูกห้ามปราม และหัวใจที่แตกสลาย เขาเป็นคนที่ทำให้ผมรู้จักคำว่ารัก และก็เป็นเขาเองอีกนั่นแหละที่บอกว่าผมไม่มีหัวใจ ผมจะพิสูจน์ให้เขาเห็นเองว่าหัวใจของผมมีอยู่จริง
รัก,ชาย-ชาย,ดราม่า,วัยว้าวุ่น,ยุคปัจจุบัน,ดราม่า,นิยายวาย,รักโรแมนติก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เขาบอกผมไม่มีหัวใจความลับที่เก็บซ่อนไว้ ความสัมพันธ์ที่ถูกห้ามปราม และหัวใจที่แตกสลาย เขาเป็นคนที่ทำให้ผมรู้จักคำว่ารัก และก็เป็นเขาเองอีกนั่นแหละที่บอกว่าผมไม่มีหัวใจ ผมจะพิสูจน์ให้เขาเห็นเองว่าหัวใจของผมมีอยู่จริง
เปิดเรื่อง 20/09/2024
ความลับที่เก็บซ่อนไว้ ความสัมพันธ์ที่ถูกห้ามปราม และหัวใจที่แตกสลาย เมื่อเขาเป็นคนที่ทำให้ผมรู้จักคำว่ารัก และก็เป็นเขาเองอีกนั่นแหละที่บอกว่าผมไม่มีหัวใจ จากคนไร้หัวใจ สู่คนที่เต็มไปด้วยความรัก แสงสว่าง และความอบอุ่น ในเมื่อเขาบอกว่าผมไม่มีหัวใจ ผมนี่แหละจะพิสูจน์ให้เขาเห็นเองว่าหัวใจของผมมีอยู่จริง
วันรุ่งขึ้นหลังจากการซ้อมละครเวทีเสร็จสิ้น เวลาบ่ายแก่ๆ แสงแดดส่องลอดเข้ามาผ่านหน้าต่างของโรงละครเล็กๆ ที่ใช้ซ้อมกันทุกวัน โรงละครที่เป็นเหมือนโลกใบเล็กของพวกเขา บนเวทีที่เต็มไปด้วยฝุ่นและกลิ่นของอากาศอับชื้นจากผ้าม่านเก่าๆ แต่ที่นี่เองก็เป็นสถานที่ที่รวบรวมความทรงจำมากมาย ทั้งดีและร้าย ทั้งหัวเราะและน้ำตา
วันนี้เป็นวันที่แตกต่างจากทุกวันที่ผ่านมา เพราะบรรยากาศระหว่างวีร์และโบ๊ทไม่ได้เต็มไปด้วยความอึดอัดอีกต่อไป เพื่อนๆ ในกลุ่มต่างมองหน้ากันด้วยความสงสัย บางคนถึงกับกระซิบกระซาบถามกันเบาๆ ว่าทั้งสองคนเลิกทะเลาะกันแล้วเหรอ สายตาของพวกเขามองไปที่วีร์และโบ๊ทที่นั่งอยู่ข้างๆ กัน แต่ไม่กล้าเอ่ยถามออกมาโดยตรง
“แหม.. พอได้กันปุ๊บก็ตัวติดกันเลยน้า” เหมยเอ่ยแซวขึ้นมาเบาๆ เมื่อทุกคนเริ่มเก็บของเพื่อเตรียมกลับบ้าน
วีร์ที่นั่งอยู่ข้างๆ โบ๊ท หันมามองเหมยก่อนจะตอบเรียบๆ “ก็อยู่แล้วปะ เคลียร์ใจกันละไง”
คำตอบนั้นสั้นกระชับ แต่เต็มไปด้วยความหมายที่ทำให้เพื่อนๆ ที่ยืนอยู่แถวนั้นรู้สึกโล่งใจ แม้จะยังสงสัยว่าอะไรคือสิ่งที่เคลียร์กันได้ แต่ก็ไม่มีใครซักถามอะไรเพิ่มเติมอีก ต่างคนต่างแยกย้ายกลับบ้านไปตามทางของตัวเอง
บนถนนที่ทอดยาวจากโรงละครไปยังร้านอาหารที่อยู่ไม่ไกล วีร์และโบ๊ทเดินเคียงข้างกัน แม้จะไม่ได้พูดคุยอะไรมากมาย แต่ทั้งคู่ก็รู้สึกถึงความสัมพันธ์ที่กลับมาดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ความเงียบในครั้งนี้ไม่ใช่ความเงียบที่อึดอัด แต่เป็นความเงียบที่สบายใจ ต่างฝ่ายต่างคิดถึงความรู้สึกของตนเอง และสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเขาทั้งคู่
“พี่วีร์...” โบ๊ทเอ่ยขึ้นเบาๆ หลังจากเดินมาด้วยกันสักพัก
“หืม?” วีร์ตอบกลับโดยไม่หันไปมอง แต่รู้สึกได้ว่าโบ๊ทกำลังจะพูดอะไรที่สำคัญ
“เรื่องระหว่างเราสองคน...” โบ๊ทหยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง ทำให้วีร์หยุดเดินและหันมามองด้วยความสงสัย
“พี่อยากให้ผมปิดเรื่องนี้ไว้ก่อนไหม?” คนน้องพูดออกมาในที่สุด สายตาของเขาดูจริงจังอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
วีร์นิ่งไปชั่วขณะ ใจของเขาสับสน แต่ในที่สุดก็พยักหน้าตอบตกลง แม้ว่าความจริงเขาอยากจะบอกให้เพื่อนๆ ทุกคนรู้ความรู้สึกของเขา รู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับโบ๊ทคืออะไร สู้มาขนาดนี้ทำไมจะไม่อยากอวด แต่ในเมื่ออีกฝ่ายเอ่ยปากพูดแปลว่าเขาเองก็ยังไม่ค่อยอยากจะเปิดตัวสักเท่าไหร่ อย่างน้อยๆ ตอนนี้อะไรๆ ก็ดูจะเป็นไปในทางที่ดีขึ้น อดทนรอต่อไปอีกหน่อยก็น่าจะไม่เป็นอะไร อีกอย่างพวกเขาทั้งคู่ก็ยังไม่ได้ตกลงปลงใจว่าจะคบกันจริงๆ จังๆ ด้วย
“ตามใจเธอเลย” วีร์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล เขายิ้มบางๆ ให้โบ๊ทที่ดูโล่งใจขึ้นมาทันทีเมื่อได้รับคำตอบนั้น
พอทั้งคู่กินมื้อเย็นกันเสร็จก็พากันกลับบ้าน แน่นอนว่าไม่ได้แยกย้ายกันกลับบ้านของตัวเอง เพราะโบ๊ทเอ่ยปากขอตามวีร์กลับบ้านด้วย แม้ว่าบ้านของวีร์จะอยู่ไกลจากในเมืองมากก็ตาม
เมื่อถึงบ้านของวีร์ ท้องฟ้าก็เริ่มเปลี่ยนสีจากสีส้มอ่อนของช่วงเย็นไปเป็นสีดำเข้มที่ประดับด้วยดวงดาวระยิบระยับ วีร์เชิญโบ๊ทเข้ามาในบ้าน ทั้งคู่ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาในห้องนั่งเล่นที่สว่างไสวจากโคมไฟเล็กๆ ที่ตั้งอยู่มุมห้อง
“ยังไม่ได้ให้ของขวัญวันเกิดกับพี่เลยอะ” โบ๊ทพูดขึ้นหลังจากนั่งเงียบไปสักพัก เขาล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง หยิบกล่องเล็กๆ ออกมาพร้อมเปิดเผยสร้อยคอที่มีจี้รูปพระจันทร์เสี้ยว วีร์มองอย่างสงสัย
“อะไรอะ?” วีร์ถามขณะที่รับกล่องมาถือไว้
“ของขวัญวันเกิดพี่ สร้อยพระจันทร์เสี้ยว พี่ดูนี่นะ” โบ๊ทพูดพลางหยิบสร้อยที่ตนเองสวมอยู่ขึ้นมา “เราทั้งคู่ มีคนละหนึ่งชิ้น เมื่อเอามาต่อกันจะลงล็อกกันพอดี เหมือนกับเราสองคนไง”
วีร์มองดูจี้ที่อยู่ในมือของเขาและของโบ๊ท เมื่อเอามาต่อกันมันก็ลงล็อกกันพอดีจริงๆ ใจของเขาเต้นแรงขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“ของแบบนี้มันมีไว้ให้แฟนนะ” วีร์พูดอย่างเขินอาย
“อื้อ”
“แต่เรา...ยังไม่ได้เป็นอะไรกัน...”
โบ๊ทยกยิ้มบางๆ “ถึงเรายังไม่ใช่แฟนกัน แต่สำหรับผม…”
“...” วีร์ตั้งใจฟังอย่างใจจดจ่อ
“...พี่เป็นคนพิเศษ”
คำพูดนั้นทำให้วีร์ยิ้มออกมา ความอุ่นใจและความสุขที่เต็มเปี่ยมในหัวใจทำให้เขารู้สึกว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขากำลังเดินหน้าไปในทางที่ดีขึ้น
“ขอบคุณนะ” วีร์ตอบกลับเบาๆ ก่อนที่จะค่อยๆ สวมสร้อยที่ได้รับมาจากโบ๊ท ความรู้สึกในใจของเขายิ่งมั่นคงมากขึ้นกว่าเดิม
หลังจากนั้น ทั้งสองคนยังคงนั่งคุยกันต่อไปในยามค่ำคืนที่เงียบสงบในบ้านของวีร์ พวกเขาพูดคุยกันถึงเรื่องราวในอดีต เรื่องราวที่เคยเป็นความขัดแย้ง และเรื่องราวที่ทำให้พวกเขาได้มานั่งอยู่ด้วยกันในวันนี้ การสนทนาที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความรู้สึกที่อบอุ่นทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
แม้ว่าเรื่องราวระหว่างพวกเขาจะยังไม่ได้เป็นที่รับรู้ของคนอื่นๆ แต่ในใจของวีร์รู้ดีว่าสิ่งที่เขามีกับโบ๊ทคือสิ่งที่พิเศษมากเกินกว่าที่จะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้
และในคืนนั้น เมื่อทั้งสองคนต้องแยกย้ายกันไปนอน วีร์ก็รู้สึกได้ว่าหัวใจของเขาไม่ได้เดียวดายอีกต่อไปแล้ว