ความลับที่เก็บซ่อนไว้ ความสัมพันธ์ที่ถูกห้ามปราม และหัวใจที่แตกสลาย เขาเป็นคนที่ทำให้ผมรู้จักคำว่ารัก และก็เป็นเขาเองอีกนั่นแหละที่บอกว่าผมไม่มีหัวใจ ผมจะพิสูจน์ให้เขาเห็นเองว่าหัวใจของผมมีอยู่จริง
รัก,ชาย-ชาย,ดราม่า,วัยว้าวุ่น,ยุคปัจจุบัน,ดราม่า,นิยายวาย,รักโรแมนติก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เขาบอกผมไม่มีหัวใจความลับที่เก็บซ่อนไว้ ความสัมพันธ์ที่ถูกห้ามปราม และหัวใจที่แตกสลาย เขาเป็นคนที่ทำให้ผมรู้จักคำว่ารัก และก็เป็นเขาเองอีกนั่นแหละที่บอกว่าผมไม่มีหัวใจ ผมจะพิสูจน์ให้เขาเห็นเองว่าหัวใจของผมมีอยู่จริง
เปิดเรื่อง 20/09/2024
ความลับที่เก็บซ่อนไว้ ความสัมพันธ์ที่ถูกห้ามปราม และหัวใจที่แตกสลาย เมื่อเขาเป็นคนที่ทำให้ผมรู้จักคำว่ารัก และก็เป็นเขาเองอีกนั่นแหละที่บอกว่าผมไม่มีหัวใจ จากคนไร้หัวใจ สู่คนที่เต็มไปด้วยความรัก แสงสว่าง และความอบอุ่น ในเมื่อเขาบอกว่าผมไม่มีหัวใจ ผมนี่แหละจะพิสูจน์ให้เขาเห็นเองว่าหัวใจของผมมีอยู่จริง
ผ่านไปไม่นานก็ถึงวันรับปริญญาของโบ๊ท อันที่จริงวีร์เคยเฝ้าฝันถึงวันเวลาที่จะได้ไปทำกิจกรรมอะไรบางอย่างที่บ่งบอกสถานะความสัมพันธ์ระหว่างเขากับโบ๊ทบ้าง แต่ก็ไม่ทันได้คิดว่าจะเป็นวันนี้
มันเป็นวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส แสงแดดสาดส่องลงมาเป็นประกายระยิบระยับ สนามของมหาวิทยาลัยเต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความตื่นเต้นและความสุข นักศึกษาสวมชุดครุยสีดำยืนเรียงรายกันอย่างสง่างาม บางคนยิ้มแย้ม บางคนซึมซับความภาคภูมิใจที่ได้ประสบความสำเร็จ รวมไปถึงเพื่อนฝูงและญาติพี่น้องของบัณฑิตที่มาร่วมแสดงความยินดีกันเต็มพื้นที่
วีร์มองดูโบ๊ทที่กำลังยืนรับช่อดอกไม้จากครอบครัว ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความปลื้มปิติ ภาพของโบ๊ทในชุดครุยนั้นทำให้หัวใจของวีร์พองโตขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว เป็นครั้งแรกที่เขาได้เจอกับครอบครัวของโบ๊ทแบบจริงๆ จังๆ เห็นใบหน้าของพ่อแม่ที่มองดูลูกชายของตนด้วยความภูมิใจ เห็นเพื่อนๆ ของโบ๊ทที่ต่างมาร่วมแสดงความยินดี ทุกคนยิ้มแย้ม หัวเราะ และแบ่งปันช่วงเวลาที่มีความหมายนี้ร่วมกัน
วีร์มาในวันนี้ก็มาในฐานะผู้ช่วยบัณฑิตอีกทีหนึ่ง เขารู้ดีว่าวันรับปริญญามันเหนื่อยแบบหนักหนาสาหัสแค่ไหน การมีคนรู้ใจคอยช่วยอยู่ข้างๆ นับเป็นเรื่องดีที่สุด ซึ่งหน้าที่แบบนี้ส่วนใหญ่เขาก็ให้แฟนมาทำกันทั้งนั้น หรือใครไม่มีแฟนก็เรียกใช้เพื่อนสนิทให้มาคอยอยู่ข้างๆ แทน การที่เขาได้มายืนอยู่จุดนี้ในวันนี้ทำให้เขารู้สึกอิ่มใจไม่น้อย ถึงแม้ว่าจะยังไม่ได้ตกลงเป็นแฟนกันอย่างจริงจัง แต่การกระทำหลายๆ อย่างในช่วงที่ผ่านมาก็เป็นเครื่องยืนยันความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองคนได้เป็นอย่างดี
เมื่อถึงเวลาแห่งการถ่ายรูปหมู่ โบ๊ทเรียกวีร์ให้มาร่วมถ่ายรูปด้วยกัน วีร์เดินเข้ามาใกล้ๆ พยายามจะเป็นธรรมชาติที่สุด แต่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เมื่อต้องอยู่ท่ามกลางครอบครัวและเพื่อนๆ ของโบ๊ท
“นี่พี่วีร์ครับ เราเล่นละครเวทีคู่กัน” โบ๊ทแนะนำวีร์ให้กับครอบครัวด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตร
“สวัสดีครับ” วีร์ยิ้มตอบเล็กน้อย พลางยกมือไหว้ทักทายพ่อแม่ของโบ๊ท ซึ่งมองกลับมาด้วยสายตาที่อบอุ่น แต่ก็มีแววสงสัยเล็กๆ ซ่อนอยู่
“หล่อนะเนี่ย” เสียงแม่ของโบ๊ทดังแว่วมาหลังจากนั้นทำเอาวีร์อดที่จะรู้สึกเขินไม่ได้
“ขอบคุณครับ”
“มาๆ เข้ามาถ่ายรูปกัน” พ่อของโบ๊ทยกแขนขึ้นคว้าไหล่ของวีร์แล้วดึงให้เข้าไปยืนข้างๆ
“สวัสดีนะจ๊ะ” แม่ของโบ๊ททักทายวีร์อีกครั้งพลางยิ้มให้ แต่แล้วก็หันไปถามโบ๊ทเบาๆ “เพื่อนคนนี้ดูสนิทกันดีนะ แล้ว...เขามีอะไรพิเศษหรือเปล่า”
โบ๊ทยังคงยิ้มและตอบด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจ “พี่วีร์เป็นพี่ที่สนิทมากๆ ครับ เราช่วยกันในหลายๆ เรื่องโดยเฉพาะตอนซ้อมละคร”
ครอบครัวของโบ๊ทยิ้มอย่างเข้าใจ แต่วีร์รู้สึกได้ถึงคำถามที่ไม่ได้ถูกตอบออกมา มันทำให้เขาเริ่มรู้สึกน้อยใจเล็กน้อย แม้จะพยายามเข้าใจว่าทำไมโบ๊ทถึงไม่กล้าเปิดเผยความสัมพันธ์ของพวกเขาให้ครอบครัวรู้ก็ตาม
หลังจากถ่ายรูปและทักทายกับเพื่อนๆ และครอบครัวเสร็จแล้ว วีร์และโบ๊ทแยกตัวออกมานั่งพักที่มุมเงียบๆ ของสวนสนาม ทั้งคู่ต่างมองออกไปยังท้องฟ้าและผู้คนที่เดินผ่านไปมา แต่ในใจของวีร์กลับรู้สึกหน่วงๆ
“พี่วีร์...” โบ๊ทเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เบาๆ ราวกับกลัวว่าอีกฝ่ายจะโกรธ "ผมขอโทษนะที่ยังไม่กล้าพอที่จะบอกกับที่บ้านเรื่องของเรา”
วีร์หันไปมองโบ๊ท ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งความเข้าใจ ความน้อยใจ และความรักที่ซ่อนอยู่ในใจ
“เราเข้าใจ” วีร์ตอบกลับอย่างใจเย็น แม้ว่าภายในใจจะเต็มไปด้วยความคิดที่หลากหลาย “เธอไม่ต้องรีบหรอก เราเองก็ยังไม่พร้อมที่จะบอกใครเหมือนกัน”
แต่เมื่อพวกเขาแยกย้ายกันกลับบ้าน วีร์กลับไม่สามารถสลัดความรู้สึกน้อยใจที่เกาะกินในใจออกไปได้ เขารู้ว่าครอบครัวของโบ๊ทเป็นครอบครัวคนจีนที่มีความคิดแบบอนุรักษ์นิยม จึงเป็นเรื่องยากที่จะเปิดเผยความสัมพันธ์ที่ไม่ตรงตามขนบธรรมเนียมปฏิบัติ แต่ในขณะเดียวกัน วีร์ก็รู้สึกเหมือนว่าเรื่องนี้เป็นปมที่ติดค้างในใจเขามาตลอด
เมื่อกลับมาถึงบ้าน วีร์โทรหาเหมยในทันที ความรู้สึกที่อัดอั้นในใจต้องการการระบายออกมา ไม่อย่างนั้นเขาคงรู้สึกอึดอัดจนไม่เป็นอันทำอะไรแน่ๆ
“โบ๊ทยังไม่กล้าบอกครอบครัวเรื่องของเราเลย” วีร์พูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความน้อยใจ
“มึงก็เข้าใจเขาใช่ไหม? ครอบครัวจีนมันไม่ง่ายที่จะยอมรับเรื่องแบบนี้” เหมยเอ่ยตอบกลับอย่างใจเย็น พยายามให้กำลังใจเพื่อนซี้ของตัวเอง
“กูเข้าใจ แต่ก็อดคิดมากไม่ได้อยู่ดี” วีร์พูดเบาๆ ราวกับพูดกับตัวเอง
จริงๆ แล้ว วีร์แอบคิดมากเรื่องนี้มาตลอด ความรู้สึกที่ถูกปิดกั้นไว้ทำให้เขานึกถึงปมในใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในอดีตที่ไม่สมหวัง ความกลัวที่จะถูกปฏิเสธและไม่ได้รับการยอมรับยังคงฝังลึกอยู่ในจิตใจของเขา แม้ว่าโบ๊ทจะพยายามอธิบายและให้กำลังใจ แต่ความรู้สึกนั้นก็ยังไม่จางหายไป
ในคืนนั้นวีร์นอนอยู่บนเตียงมองเพดานห้องที่มืดมิด เขาคิดถึงโบ๊ท คิดถึงความสัมพันธ์ที่ยังคงต้องปิดบัง แต่ก็ไม่อาจหนีจากความจริงที่ว่าเขารักโบ๊ทมากเพียงใด ในใจของเขาได้แต่หวังว่าสักวันหนึ่งจะได้เปิดเผยความรักของพวกเขาต่อหน้าทุกคนได้อย่างภาคภูมิใจ