ธนิดาถูกจับเป็นตัวประกันเพื่อใช้หนี้ให้มาเฟียอย่างนาวิน ความใกล้ชิดค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นความรัก ทว่าท่ามกลางอันตรายและความลับที่ปิดซ่อน นาวินต้องตัดสินใจปล่อยเธอไป แต่ธนิดาเลือกกลับมาเผชิญหน้ากับหัวใจตน
รัก,ดราม่า,ชาย-หญิง,ยุคปัจจุบัน,ไทย,รักโรแมนติก,มาเฟีย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
สัญญาใจใต้รัตติกาลธนิดาถูกจับเป็นตัวประกันเพื่อใช้หนี้ให้มาเฟียอย่างนาวิน ความใกล้ชิดค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นความรัก ทว่าท่ามกลางอันตรายและความลับที่ปิดซ่อน นาวินต้องตัดสินใจปล่อยเธอไป แต่ธนิดาเลือกกลับมาเผชิญหน้ากับหัวใจตน
เปิดเรื่อง 28/09/2024
ธนิดาถูกจับตัวไปเพื่อรอชดใช้หนี้ให้มาเฟียอย่างนาวิน ความใกล้ชิดค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นความรัก ทว่าท่ามกลางอันตรายและความลับที่ปิดซ่อน นาวินต้องตัดสินใจปล่อยเธอไป แต่ธนิดากลับเลือกกลับมาเผชิญหน้ากับหัวใจตัวเองและคนที่เธอรัก ทั้งสองจะเอาชนะโชคชะตาและความเสี่ยงของโลกมาเฟียได้หรือไม่?
รถคันหรูแล่นฝ่าความมืดของยามค่ำคืน ถนนที่ทอดยาวดูราวกับไม่มีที่สิ้นสุด มีเพียงแสงไฟถนนที่ส่องสว่างเป็นระยะๆ ฝนยังคงโปรยปรายลงมาอย่างไม่ขาดสาย เสียงปัดน้ำฝนที่กระทบกระจกดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ในห้องโดยสารที่เงียบงัน ธนิดานั่งอย่างสงบเสงี่ยมข้างนาวิน สายตาของเธอทอดยาวออกไปข้างนอก ราวกับพยายามหลีกเลี่ยงการสบตากับเขา
นาวินชายหนุ่มที่นั่งข้างเธอ เอนหลังพิงพนักด้วยท่าทางผ่อนคลาย เขามีใบหน้าที่คมเข้ม เส้นผมสีดำที่สั้นได้รูป และดวงตาที่แฝงไปด้วยอำนาจ นาวินมีความมั่นใจในตัวเองอย่างยิ่ง และความรู้สึกนั้นแผ่ออกมารอบตัวเขา ธนิดารู้สึกได้ถึงความกดดันจากตัวเขาโดยไม่ต้องแม้แต่จะหันไปมอง
“อย่ากังวลไป” นาวินพูดขึ้นทำลายความเงียบ
“...”
“เธอจะไม่เป็นอะไร ถ้าเธอเชื่อฟังฉัน...”
ธนิดาหันไปมองเขาอย่างไม่พอใจ แต่เธอไม่ได้ตอบกลับ เธอไม่รู้จะพูดอะไร และไม่อยากมีเรื่องกับเขาในสถานการณ์เช่นนี้
หลังจากนั้นไม่นานรถคันหรูได้เคลื่อนตัวมาถึงคฤหาสน์ใหญ่ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางพื้นที่สวนกว้างขวาง รั้วเหล็กสูงปกคลุมด้วยเถาวัลย์สีเขียวทอดตัวยาวตลอดแนว คฤหาสน์หลังนี้มีลักษณะโดดเด่น เป็นบ้านสไตล์ยุโรปที่หรูหราด้วยการตกแต่งภายในที่ดูคลาสสิก ไฟสว่างจากภายในบ้านส่องออกมาทางหน้าต่างบานใหญ่ เหมือนกับส่องนำทางให้เธอเข้าสู่โลกที่ไม่คุ้นเคย
ประตูใหญ่ของคฤหาสน์ถูกเปิดออกโดยบอดี้การ์ดคนหนึ่ง เขาสวมชุดสูทสีดำและมีท่าทางเคร่งขรึม ชายคนนั้นโค้งเล็กน้อยเป็นการทักทายก่อนผายมือเชิญให้นาวินและธนิดาเข้าไปภายใน
“โห...”
เมื่อก้าวเข้าไปข้างใน ธนิดาก็พบกับความหรูหราที่ชวนให้ตกตะลึงจนเธอเผลออุทานออกมาเบาๆ พื้นที่ด้านในกว้างขวาง ปูด้วยพรมสีแดงเข้ม หน้าต่างบานใหญ่ที่ปกคลุมด้วยผ้าม่านกำมะหยี่หรูหรา โต๊ะและเก้าอี้ทำจากไม้โอ๊คที่ขัดเงา และโคมไฟระย้าที่ห้อยลงมาจากเพดานสูง ทุกสิ่งทุกอย่างบ่งบอกถึงฐานะและอำนาจของเจ้าของสถานที่แห่งนี้
ธนิดามองรอบๆ ด้วยความตะลึง สถานที่นี้ใหญ่โตเกินกว่าที่เธอเคยเห็นมาในชีวิต เธอรู้สึกเหมือนตกอยู่ในโลกที่ไม่คุ้นเคย โลกของคนที่มีอำนาจและความมั่งคั่ง แต่ในขณะเดียวกัน ก็รู้สึกโดดเดี่ยวและหวาดหวั่น
“ตามฉันมา”
“ค่ะ”
นาวินสั่งเสียงเบา แต่เป็นน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยอำนาจ เขาเดินนำเธอขึ้นบันไดที่กว้างขวางทอดยาวไปยังชั้นบน ธนิดาเดินตามเขาไปโดยไม่พูดอะไร เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำตามสิ่งที่เขาสั่ง
บันไดทำจากไม้เนื้อแข็งที่เคลือบเงาสวยงาม ทำให้ทุกย่างก้าวของเธอมีเสียงก้องเล็กน้อย เมื่อขึ้นมาถึงชั้นสอง นาวินพาผู้มาเยือนคนใหม่ไปยังห้องพักห้องหนึ่งที่ตั้งอยู่ตรงกลางของทางเดิน
“ที่นี่คือห้องของเธอ” นาวินกล่าวพร้อมเปิดประตูห้องกว้าง ภายในห้องพักนั้นใหญ่โตเกินกว่าที่เธอคิดไว้ ตกแต่งอย่างหรูหรา เตียงใหญ่สีขาวสะอาดตั้งอยู่ตรงกลางห้อง ผ้าม่านหนาสีครีมขึงปิดหน้าต่างไว้อย่างเรียบร้อย
ธนิดายืนอยู่ตรงประตู มองไปรอบๆ อย่างเงียบงัน เธอไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกอย่างไรในตอนนี้ สถานที่แห่งนี้สวยงามก็จริง แต่มันให้ความรู้สึกที่เย็นเยียบและไร้ชีวิตชีวา
“เธอจะต้องอยู่ที่นี่จนกว่าหนี้จะได้รับการชำระ” นาวินบอกด้วยน้ำเสียงเรียบเย็น
“...” ธนิดานิ่งเงียบ ไม่พูดอะไร
“อย่าคิดหนี และอย่าคิดเล่นตุกติก ไม่อย่างนั้นผลลัพธ์อาจจะไม่สวยงามอย่างที่เธอคิด”
ธนิดาพยายามกลืนความกลัวลงคอ “ฉันเข้าใจแล้วค่ะ”
นาวินพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะเดินออกจากห้องไป ปล่อยให้ธนิดาอยู่คนเดียวท่ามกลางห้องที่ดูสวยงามแต่กลับให้ความรู้สึกอ้างว้าง เธอทรุดตัวลงบนเตียงใหญ่ เงยหน้ามองเพดานที่สูงโปร่ง ภายในใจของเธอเต็มไปด้วยความคิดที่สับสน
คืนนั้นเวลาผ่านไปอย่างช้าๆ ธนิดานอนไม่หลับ เธอเอาแต่คิดถึงพ่อและสถานการณ์ที่เธอต้องเผชิญอยู่ในตอนนี้ เธอรู้สึกกังวลเกี่ยวกับอนาคต ไม่รู้ว่าจะต้องอยู่ในสถานการณ์นี้นานเท่าไร และเธอจะสามารถเอาตัวรอดจากสถานการณ์ที่ตึงเครียดนี้ได้อย่างไร เธอนอนคิดไปมาอยู่แบบนั้นจนกระทั่งเธอเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว
ก๊อกๆๆ!
เสียงเคาะประตูดังขึ้นในช่วงสายของวันถัดมา ธนิดาสะดุ้งตื่นจากความคิดของตัวเอง เธอลุกขึ้นจากเตียงและเดินไปเปิดประตู พบกับหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่ เธอเป็นผู้หญิงวัยประมาณ 30 ปี ใบหน้านิ่งเรียบและสวมเครื่องแบบแม่บ้านที่เรียบง่ายแต่ดูเรียบร้อย
“คุณธนิดาคะ” เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงสุภาพ “ดิฉันชื่อมณี เป็นแม่บ้านที่นี่ ฉันจะพาคุณไปทานอาหารเช้าค่ะ”
ธนิดาพยักหน้าเบาๆ แล้วเดินตามมณีออกจากห้อง ผ่านทางเดินที่ยาวและเงียบงันลงไปยังห้องอาหารขนาดใหญ่ที่ชั้นล่าง
ห้องอาหารมีขนาดใหญ่และหรูหราเช่นเดียวกับส่วนอื่นๆ ของคฤหาสน์ โต๊ะอาหารยาวตั้งอยู่ตรงกลางห้อง พร้อมจานชามที่จัดเตรียมไว้อย่างประณีต นาวินนั่งอยู่ที่หัวโต๊ะ เขาสวมชุดสูทสีดำเรียบหรูเช่นเคย เขาเหลือบตามองเธอเพียงแวบเดียว ก่อนจะหันไปสนใจอาหารที่อยู่ตรงหน้า
“นั่งสิ” นาวินบอกด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ ขณะที่มองไปยังที่นั่งตรงข้ามเขา
ธนิดานั่งลงตามคำสั่ง แม้ว่าในใจเธอจะรู้สึกอึดอัดอย่างมาก เธอไม่เคยชินกับการนั่งร่วมโต๊ะอาหารกับผู้ชายที่มีอำนาจและเย็นชาเช่นนี้
“ทำตัวสบายๆ หน่อย เธอไม่ได้เป็นนักโทษที่นี่” นาวินกล่าวขณะตักอาหารใส่จานของตัวเอง “แต่จำไว้ว่าฉันเป็นเจ้าหนี้ของเธอ”
ธนิดารับรู้ถึงแรงกดดันที่ล่องลอยอยู่ในอากาศ แม้เขาจะพูดด้วยน้ำเสียงสงบ แต่ทุกคำพูดของเขากลับสร้างความรู้สึกหวาดกลัวในใจเธออย่างต่อเนื่อง
บรรยากาศในมื้อเช้านั้นเงียบงัน ธนิดากินอาหารเพียงเล็กน้อย ขณะที่นาวินดูเหมือนจะไม่ได้สนใจเธอมากนัก เขาจบมื้อเช้าอย่างรวดเร็วและลุกออกจากโต๊ะ โดยไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติม เขาทิ้งให้เธอนั่งอยู่เพียงลำพังในห้องอาหารขนาดใหญ่ที่เงียบเหงา
เห้อ...
ธนิดาถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เมื่อเห็นว่านาวินลับสายตาไป เธอไม่แน่ใจเลยว่าจะสามารถทนใช้ชีวิตอยู่ในคฤหาสน์หลังนี้ไปได้อีกนานแค่ไหน