ธนิดาถูกจับเป็นตัวประกันเพื่อใช้หนี้ให้มาเฟียอย่างนาวิน ความใกล้ชิดค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นความรัก ทว่าท่ามกลางอันตรายและความลับที่ปิดซ่อน นาวินต้องตัดสินใจปล่อยเธอไป แต่ธนิดาเลือกกลับมาเผชิญหน้ากับหัวใจตน
รัก,ดราม่า,ชาย-หญิง,ยุคปัจจุบัน,ไทย,รักโรแมนติก,มาเฟีย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
สัญญาใจใต้รัตติกาลธนิดาถูกจับเป็นตัวประกันเพื่อใช้หนี้ให้มาเฟียอย่างนาวิน ความใกล้ชิดค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นความรัก ทว่าท่ามกลางอันตรายและความลับที่ปิดซ่อน นาวินต้องตัดสินใจปล่อยเธอไป แต่ธนิดาเลือกกลับมาเผชิญหน้ากับหัวใจตน
เปิดเรื่อง 28/09/2024
ธนิดาถูกจับตัวไปเพื่อรอชดใช้หนี้ให้มาเฟียอย่างนาวิน ความใกล้ชิดค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นความรัก ทว่าท่ามกลางอันตรายและความลับที่ปิดซ่อน นาวินต้องตัดสินใจปล่อยเธอไป แต่ธนิดากลับเลือกกลับมาเผชิญหน้ากับหัวใจตัวเองและคนที่เธอรัก ทั้งสองจะเอาชนะโชคชะตาและความเสี่ยงของโลกมาเฟียได้หรือไม่?
แสงอาทิตย์ยามเย็นค่อยๆ จางลง ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีจากส้มเข้มเป็นม่วงหม่น บรรยากาศในคฤหาสน์ใหญ่ยังคงเงียบสงัดแต่เต็มไปด้วยความกดดัน แม้จะไม่มีเสียงของผู้คนเดินผ่านไปมา แต่เสียงลมพัดเบาๆ ผ่านหน้าต่างที่เปิดไว้ให้ความรู้สึกเหมือนเสียงกระซิบอันน่าสะพรึงกลัว
ในห้องรับรองของคฤหาสน์ธนิดานั่งอยู่บนโซฟากลางห้องอย่างหนักอึ้ง ความสับสนในใจยังคงวนเวียนอยู่ตั้งแต่ที่เธอได้รู้ความจริงจากภูมิ สิ่งที่เธอเพิ่งได้ยินนั้นเปลี่ยนทุกอย่างที่เธอเคยรู้เกี่ยวกับนาวิน เขาไม่ใช่ผู้ชายแบบที่เธอคิดอีกต่อไป แต่กลับกลายเป็นคนที่มีเบื้องหลังที่มืดมนกว่าที่เธอเคยคาดคิด
เสียงประตูห้องเปิดออกช้าๆ นาวินเดินเข้ามาในห้องใบหน้าของเขายังคงนิ่งเฉยเหมือนเช่นเคย แต่ดวงตาของเขามีประกายความสงสัยและความเจ้าเล่ห์ซ่อนอยู่ เขามองตรงไปที่ธนิดา ราวกับว่าเขารู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่
“ฉันได้ยินมาว่าเธอไปหาภูมิมาอีกแล้ว” เขาเริ่มต้นบทสนทนาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่แฝงไปด้วยความกดดัน
ธนิดาเงยหน้าขึ้นมองเขา เธอพยายามสงบสติอารมณ์แต่หัวใจของเธอเต้นแรงมากจนเธอรู้สึกได้ถึงความกดดันที่เพิ่มขึ้นทุกวินาที
“ใช่ค่ะ ฉันไปหาภูมิมา” เธอตอบเสียงเรียบ แต่ความกลัวในใจเริ่มสั่นไหว
นาวินหัวเราะเบาๆ ก่อนที่จะเดินเข้ามาใกล้เธอ เขานั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้าม ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มบางๆ ที่ดูเหมือนไม่ได้เป็นมิตร
“แล้วภูมิพูดอะไรบ้างล่ะ ฉันเดาว่าเขาคงพูดถึงฉันในทางไม่ดีใช่ไหม...” นาวินถามอย่างเจ้าเล่ห์
“เขาบอกฉันเกี่ยวกับธุรกิจของคุณ” ธนิดาตอบตรงไปตรงมา สายตาของเธอจ้องมองตรงไปที่นาวิน เธอรู้ว่าเธอไม่สามารถปกปิดอะไรได้อีกต่อไป
นาวินหยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง ดวงตาของเขาแฝงความอันตราย “งั้นเหรอ...เขาเล่าอะไรให้เธอฟังบ้าง?”
“เขาบอกฉันว่าคุณไม่ได้ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพียงอย่างเดียว แต่คุณยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับองค์กรใต้ดินที่มันผิดกฏหมาย” ธนิดาพูดด้วยเสียงที่มั่นคง แม้ในใจจะยังเต็มไปด้วยความกลัว
นาวินยิ้มเล็กๆ ก่อนจะเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ เขามองธนิดาด้วยสายตาที่เย็นชา
“ก็จริง… ภูมิไม่ได้พูดผิดเลย ฉันทำธุรกิจทุกอย่างที่เธอได้ยินมา...”
“...”
“อันที่จริง อาจจะมากกว่านั้นด้วยซ้ำ”
คำพูดของนาวินทำให้ธนิดารู้สึกเหมือนลมหายใจหยุดลง เธอไม่คิดว่านาวินจะยอมรับอย่างเปิดเผยแบบนี้ แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่านั้นคือใบหน้าของเขายังคงนิ่งสงบ ไม่รู้สึกผิดหรือมีความลังเลใดๆ เลย
“แล้วเธอจะทำยังไงต่อไปเหรอ” นาวินถามด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “จะหนีไปหรือจะอยู่ต่อ...”
ธนิดาเงียบไปครู่หนึ่ง ความกลัวและความสับสนถาโถมเข้าใส่เธอ แต่เธอรู้ดีว่าตอนนี้ไม่มีทางหนี นาวินเป็นคนที่มีอำนาจเหนือเธอในทุกๆ ทาง
“ฉันไม่รู้” เธอตอบเสียงแผ่วเบา “ฉันไม่รู้ว่าต้องทำยังไง”
นาวินยิ้มอีกครั้ง เขาลุกขึ้นและเดินเข้ามาหาเธอ มือของเขาจับไหล่ของธนิดาอย่างแน่นจนเธอรู้สึกถึงแรงกดดัน
“ถ้าเธอไม่รู้ว่าจะทำยังไง ก็แค่ฟังฉัน” เขากระซิบข้างหูเธอ เสียงของเขาเย็นเยือก “ฉันไม่ต้องการให้เธอหนีไปไหน ฉันต้องการให้เธออยู่กับฉัน...ที่นี่”
คืนนั้นธนิดาไม่สามารถนอนหลับได้ ใจของเธอยังคงหมุนวนไปกับความคิดที่สับสน สิ่งที่นาวินพูดทำให้เธอต้องเผชิญหน้ากับความจริงที่เธอไม่อยากยอมรับ เธอไม่สามารถหนีไปจากสถานการณ์นี้ได้อีกต่อไป
เธอเดินออกไปที่ระเบียงห้อง ท้องฟ้ายามค่ำคืนเต็มไปด้วยดวงดาวที่ส่องแสงระยิบระยับ แต่บรรยากาศรอบๆ ตัวเธอกลับเต็มไปด้วยความเงียบงันที่น่ากลัว เธอรู้สึกเหมือนติดอยู่ในกรงขังที่ไม่มีทางออก
เสียงฝีเท้าเบาๆ ดังขึ้นที่ด้านหลัง นาวินเดินเข้ามาหยุดอยู่ข้างเธอ ทำเอาธนิดาตะใจไม่น้อย
“คุณเข้ามาในห้องฉันได้ยังไง”
“ก็นี่มันบ้านฉัน จะเข้าจะออกห้องไหนก็ได้ทั้งนั้นนั่นแหละ”
แม้ว่าธนิดาจะรู้สึกไม่พอใจอยู่บ้างแต่ก็ไม่กล้าที่จะแสดงท่าทีอะไรไปมากกว่านี้ เธอรู้สึกว่ากำลังถูกรุกล้ำความเป็นส่วนตัว แต่ก็อย่างว่า เธอไม่ได้อยู่ในฐานะแขกของเขา แต่อยู่ในฐานะเชลยของเขามากกว่า หากจะต่อล้อต่อเถียงไปมากกว่านี้อาจทำให้ชีวิตของเธออันตรายมากกว่าเดิมก็ได้
นาวินเดินเข้ามาใกล้ธนิดาแล้วมองออกไปที่ท้องฟ้าเช่นเดียวกับเธอ แต่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมืดมน
“ชีวิตที่เธอกำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ไม่ใช่สิ่งที่เธอคิดไว้ตอนแรกใช่ไหม?” นาวินถามเบาๆ น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเสียดเย้ย
“ไม่เลยสักนิด” ธนิดาตอบอย่างจริงจัง เธอหันมองเขาด้วยสายตาที่สั่นไหว “แต่ทำไมคุณถึงทำแบบนี้? ทำไมคุณถึงเลือกเส้นทางนี้?”
นาวินหัวเราะเบาๆ “มันเป็นเส้นทางที่ผมต้องเลือก ไม่มีใครหนีจากสิ่งที่ตัวเองถูกกำหนดไว้ได้”
คำพูดของเขาทำให้ธนิดารู้สึกหนาวสะท้าน เธอไม่เข้าใจว่านาวินกำลังคิดอะไรอยู่ แต่เธอรู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขากำลังเดินทางไปสู่จุดที่ไม่อาจย้อนกลับ
เช้าวันต่อมาธนิดาตัดสินใจที่จะทำในสิ่งที่เธอไม่เคยคิดว่าจะทำมาก่อน เธอไปหาภูมิอีกครั้งที่ห้องทำงานของเขา สถานที่เดิมที่เธอเคยได้ยินความจริงอันน่ากลัว
ภูมิยืนอยู่ที่โต๊ะทำงานเช่นเคย ใบหน้าของเขาดูจริงจังเมื่อเห็นเธอเดินเข้ามา
“คุณมีอะไรหรือเปล่า?”
“ฉันต้องการให้คุณช่วย” ธนิดาพูดอย่างหนักแน่น สายตาของเธอเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
ภูมิยืนนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนที่จะพยักหน้า “ผมจะช่วยคุณ แต่คุณต้องเตรียมตัวให้พร้อม... เพราะสิ่งที่เรากำลังเผชิญหน้าต่อจากนี้จะไม่ง่าย”
ธนิดารู้ว่าทางข้างหน้าเต็มไปด้วยอุปสรรค แต่เธอตัดสินใจแล้ว เธอไม่อาจกลับไปที่เดิมได้ เธอต้องเดินหน้าต่อไป แม้ว่าความจริงนั้นจะเจ็บปวดแค่ไหนก็ตาม