เรียนไปก็ปวดหัว มีผัวก็ปวด... งั้นถ้าจะต้องทนปวด... ก็ขอปวดแบบได้เงินด้วยละกัน! เลิศๆๆๆๆ
ชาย-ชาย,ซาดิส & มาโซฯ,วัยว้าวุ่น,ยุคปัจจุบัน,ไทย,PWP,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เอิร์ธเด็กเอ็นท์เรียนไปก็ปวดหัว มีผัวก็ปวด... งั้นถ้าจะต้องทนปวด... ก็ขอปวดแบบได้เงินด้วยละกัน! เลิศๆๆๆๆ
เอิร์ธเด็กเอ็นท์
Mr. Host Club
[PWP]
Written by Darkriku93
เปิดเรื่อง 04/01/2023
ประกาศ!!!
นิยายเรื่องนี้เป็นแนว PWP ไม่เน้นความสมเหตุสมผลสักเท่าไหร่ อ่านเอาฟีลลิ่ง อ่านเอามันเฉยๆ น้าาาาา
“อีเอิร์ธ!!” เสียงทับทิมเพื่อนสนิทของผมร้องตะโกนเรียกดังขึ้นก่อนจะที่มันจะวิ่งเข้ามาหาผมด้วยสีหน้าแตกตื่น
“อะไร!! ตกใจหมดอีเวร”
“สมศรีเรียกเจอมึงอะ”
“เรียกทำไมวะ”
“กูจะไปรู้เหรอ เมื่อกี๊ไปส่งงานแล้วเขาฝากมาบอก” ทับทิมที่ยังคงหอบแฮ่กเดินไปนั่งลงที่เก้าอี้ตัวข้างๆ ก่อนจะหันมาคุยกับผมต่อ “สงสัยจะเรื่องเกรดมั้ง”
“มึงรู้ได้ไง” ผมอดสงสัยไม่ได้
“อีดอก! สอบกลางภาคล่าสุดได้เท่าไหร่คะ ติด 0 กี่ตัวทำมาเป็นพูด” ทับทิมเบะปากใส่ผมระหว่างที่พูด นี่ถ้าเป็นคนอื่นผมคงกระโดดตบหน้าไปแล้วสักฉาดสองฉาดข้อหาทำหน้าน่าหมั่นไส้ ติดที่ว่าเป็นเพื่อนสนิทก็เลยรู้สันดานกันเป็นอย่างดี
“พักค่ะ กูติด 0 ทุกเทอมค่า!”
“แต่นี่ม.5 เทอมสองแล้วค่า ถ้ายังเป็นงี้อยู่มึงเรียนไม่จบแถมสอบเข้ามหาลัยไม่ได้แน่”
“กูก็ไม่ได้อยากเรียนอยู่ละปะ” ผมบอกอย่างไม่ใส่ใจนัก จริงๆ ก็ไม่ได้อยากจะเรียนสักเท่าไหร่หรอกถ้าที่บ้านไม่ได้บังคับเอาไว้ ทุกวันนี้จะมาเรียนแต่ละทีถ้าพ่อไม่ยอมขับรถไปรับไปส่งที่โรงเรียนผมก็คงไม่มาเรียนหรอก เรียนไปก็ไม่รู้จะเอาทำอะไรเพราะคนอย่างผมมันไม่มีอนาคตอยู่แล้ว
“รีบไปเหอะ เดี๋ยวจะหมดเวลาพักซะก่อน”
“เออๆๆๆ” ผมบอกปัดอย่างรำคาญ ไม่ค่อยอยากจะไปห้องของครูสมศรีสักเท่าไหร่หรอก เพราะนั่นคือคู่ปรับตลอดกาลของผม เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาที่ผมโคตรจะเกลียดขี้หน้าเลย ซึ่งก็ไม่ได้มีเหตุผลอะไรมากมายหรอกนะเพียงแต่เขาทำให้ผมรู้สึกว่าเขาจ้องที่จะจับผิดผมตลอดเวลา
คราวนี้ก็คงเหมือนกัน โดนเรียกไปบ่นจนหูชาแหงๆ...
ผมลุกเดินออกจากห้องเรียนอย่างเบื่อหน่าย ถอนหายใจเป็นล้านรอบตลอดทางที่เดินไปยังห้องสมศรี ไม่รู้กี่รอบแล้วเหมือนกันที่ต้องมานั่งแหมะอยู่ที่ห้องนี้เพื่อฟังสมศรีด่า รู้สึกภาพมันฉายวนซ้ำไปซ้ำมาเป็นล้านรอบ เหมือนชีวิตตกอยู่ในลูปแบบที่ไม่มีวันจะหลุดออกไปได้อีกตลอดชีวิต
ก๊อกๆๆ
ผมยกมือเคาะประตูสองสามครั้งตามมารยาท เพราะก่อนหน้านี้ก็หน้าหนาทำเป็นไม่สนใจเดินโพล่งเข้าไปเลยแบบไม่เคาะประตู สุดท้ายก็โดนด่ายับตลอดจนหลังๆ ก็เลยต้องเสียเวลายกมือขึ้นมาเคาะสักหน่อยเพราะไม่งั้นคงต้องนั่งฟังสมศรีบ่นมากกว่าเดิม
“เข้ามา” เสียงสมศรีดังขึ้นมาจากภายในห้อง ผมก็เลยเปิดประตูเดินเข้าไป
“หวัดดีครับ”
“นายปฐพี รู้ตัวมั้ยว่าเกรดเธอมันตกลงทุกเทอม” สมศรีพูดกับผมเสียงแข็ง
“รู้ครับ”
“โดยเฉพาะเทอมนี้เกรดเธอแค่ 1.30 เองนะ”
เห้อ...
“...”
“เธอจะทำยังไงปฐพี” สมศรีเอ่ยถามต่อ
“ไม่รู้ครับ แต่ผมไม่อยากเรียนแล้ว” ผมบอกพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่
“แล้วเธอจะทำอะไร ถ้าไม่เรียน”
“ยังไม่รู้ครับ”
“เธอเป็นนักเรียน หน้าที่ของเธอก็คือการเรียน เธอควรจะตั้งใจเรียนให้ดี”
บลาๆๆๆๆๆๆๆๆ
หูผมตัดไปตั้งแต่ตอนที่สมศรีพูดว่า ‘หน้าที่ของเธอคือการเรียน’ แล้วล่ะ หลังจากนั้นไม่ว่าสมศรีจะพล่ามคำใดออกมาอีก ผมก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรทั้งนั้น สงสัยจะเป็นกลไกการป้องกันตัวของผมที่โดนมาบ่อยจนรู้ดีว่าควรจะต้องทำตัวยังไงจะได้ไม่ต้องทนฟังอีกฝ่ายบ่นให้รำคาญ
“นี่เธอได้ฟังที่ฉันพูดมั้ยเนี่ย” สมศรีถามเสียงดัง ผมก็เลยสะดุ้งเล็กน้อยเพราะเพิ่งจะได้ยินเหมือนกัน
“ครับ”
“เธอเหม่ออะไร ไม่ได้ฟังที่พูดเลยใช่มั้ย”
“ผมกำลังคิดว่าถ้าไม่เรียนแล้วผมจะทำอะไรได้บ้าง”
“ฉันล่ะเหนื่อยกับเธอจริงๆ กลับไปได้แล้ว ใกล้หมดเวลาพักละ”
“ครับ”
ผมค่อยๆ ลุกขึ้นยืนเอามือลูบแขนทั้งสองข้างของตัวเองเบาๆ เพราะแอร์ก็เย็นเสียเหลือเกิน ก่อนจะเดินออกจากห้องนั้นผมก็ไม่ลืมที่จะยกมือขึ้นไหว้ลาสมศรีลวกๆ แล้วหันหลังเปิดประตูเดินออกไป
บอกตรงๆ ว่าคาบบ่ายนี้ผมก็ไม่ค่อยอยากจะเข้าเรียนสักเท่าไหร่แล้ว มันน่าเบื่อไปหมดสำหรับผม ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน สุดท้ายก็เลยตัดสินใจเดินกลับไปเอากระเป๋านักเรียนที่ห้องแล้วเหวี่ยงขึ้นสะพายหลังก่อนจะเดินออกมาแต่ก็โดนทับทิมร้องทักเอาไว้ก่อน
“อีเอิร์ธ มึงจะไปไหน”
“กลับบ้าน”
“ห้ะ?”
“อะไร”
“มีไรวะ ทำไมจะกลับบ้าน เดี๋ยวก็โดนปกครองลากเข้าห้องดำหรอก” ทับทิมถามผมด้วยแววตาที่สงสัยหนัก
“กูลาออกละ บาย”
ผมไม่อยู่รอฟังคำคัดค้านจากปากทับทิม เดินดุ่มๆ ออกมาจากห้องโดยไม่แคร์สายตาเพื่อนร่วมห้องด้วยซ้ำ สองเท้าของผมก้าวยาวไปเรื่อยๆ โดยไม่ฟังใคร แม้คุณลุงรปภ.หน้าประตูโรงเรียนจะพยายามวิ่งเข้ามาห้ามแต่ผมก็ไม่รับฟังแต่อย่างใด เดินหน้านิ่งอย่างมุ่งมั่นเพื่อที่จะออกไปจากโรงเรียนนี้ให้ได้
สองข้างทางที่เต็มไปด้วยรถเข็นขายอาหารหน้าโรงเรียนต่างพากันมองผมที่เดินออกมาจากโรงเรียนในเวลานี้เพราะยังไม่ใช่เวลาเลิกเรียน แต่ผมก็ไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่นัก เดินเล่นมือถือไปเรื่อยๆ จนถึงบ้าน ซึ่งผมก็ทำใจมาแล้วแหละว่าบางทีการหนีออกจากโรงเรียนกลับมาบ้านในเวลานี้อาจจะทำให้ต้องทนฟังพ่อด่าต่อจากสมศรีอีกที
“ทำไมกลับบ้านเร็ว!!”
นั่นไง! พ่อถามผมจริงๆ ด้วย
“ลาออกแล้ว...”
“มึงโดดเรียนอีกแล้วเหรอ” พ่อเริ่มขึ้นเสียง อีกไม่นานผมคงโดนเตะอีกตามเคย
“...” ผมเลือกที่จะไม่ตอบแล้วเดินหนีขึ้นห้องนอนที่อยู่ชั้นสองของบ้านไป
ปังๆๆ!!!!!
เสียงทุบประตูห้องนอนของผมดังลั่นขึ้นซึ่งผมก็ไม่ได้รู้สึกตกใจสักเท่าไหร่หรอกเพราะทุกครั้งที่ผมเลือกปิดปากเงียบแล้วเดินหนีพ่อมาแบบนี้ก็มักจะต้องลงเอยด้วยการที่ผมโดนพ่อกระทืบอยู่ทุกครั้งไป
ถามว่าเจ็บมั้ย... ก็คงต้องบอกว่าเจ็บจนชินและชาไปแล้ว
“มึงเปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ!!”
“มีอะไรอีกอะพ่อ!!” ผมตะโกนตอบเสียงดังทะลุผ่านบานประตูไป
“มึงออกมาคุยกับกูเดี๋ยวนี้ เพราะถ้าให้กูเปิดเข้าไปเอง มึงจะโดนไม่ใช่น้อย!!”
เห้อออ!!!
ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ เมื่อได้ยินประโยคติดปากของพ่อตะโกนดังเข้ามา เอาอีกแล้วสินะ เตรียมตัวโดนกระทืบอีกแล้ว...