เรียนไปก็ปวดหัว มีผัวก็ปวด... งั้นถ้าจะต้องทนปวด... ก็ขอปวดแบบได้เงินด้วยละกัน! เลิศๆๆๆๆ
ชาย-ชาย,ซาดิส & มาโซฯ,วัยว้าวุ่น,ยุคปัจจุบัน,ไทย,PWP,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เอิร์ธเด็กเอ็นท์เรียนไปก็ปวดหัว มีผัวก็ปวด... งั้นถ้าจะต้องทนปวด... ก็ขอปวดแบบได้เงินด้วยละกัน! เลิศๆๆๆๆ
เอิร์ธเด็กเอ็นท์
Mr. Host Club
[PWP]
Written by Darkriku93
เปิดเรื่อง 04/01/2023
ประกาศ!!!
นิยายเรื่องนี้เป็นแนว PWP ไม่เน้นความสมเหตุสมผลสักเท่าไหร่ อ่านเอาฟีลลิ่ง อ่านเอามันเฉยๆ น้าาาาา
เสียงยวบยาบของเตียงดังขึ้นในขณะที่ผมพลิกตัวไปมาหลังจากที่เริ่มฟื้นขึ้นจากการหลับใหล ปวดเมื่อยตัวไปหมด นี่ก็ผ่านมาเป็นอาทิตย์แล้วแต่ร่างกายผมก็ยังไม่ค่อยจะปกติสักเท่าไหร่ ตั้งแต่ไปเจอไอ้ลูกค้าหัวขวดที่เป็นนายตำรวจใหญ่นั่น อาการไข้ออดๆ แอดๆ ก็ไม่ยอมหายสักที รวมไปถึงรอยบีบที่คอของผม แม้จะจางลงไปมากแล้วแต่ถ้าสังเกตดีๆ ก็จะยังพอมองเห็นได้อยู่
แต่ถ้าถามว่าทำไมผมถึงไม่หายสักทีก็ไม่ต้องแปลกใจหรอกเพราะตั้งแต่วันนั้นผมก็ยังรับงานอยู่เรื่อยๆ คนมันต้องทำมาหากินนี่นา จะให้หยุดไปเลยก็ใช่เรื่อง แต่ผมก็เลือกงานมากขึ้นนะ เลือกแต่แขกที่ผมไม่ต้องทำงานหนักไม่งั้นผมคงไม่รอดตายมาจนถึงทุกวันนี้
“ไหวปะเนี่ย” ไอ้มิคที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จเดินออกมาเห็นสภาพผมเอ่ยทักขึ้น
“มั้ง”
“ก็เหี้ยละ ดูหน้ามึงด้วย โทรมฉิบหาย”
“เหรอวะ”
“เออดิ ไม่สมศักดิ์ศรีตัวท็อปของร้านเจ๊เปรี้ยวเลย” ไอ้มิคพูดก่อนจะโยนผ้าขนหนูที่เช็ดหัวมาใส่ผม
“ไอ้สัตว์” ผมด่ามันพลางหยิบผ้าผืนนั้นออกแล้วโยนลงพื้นไป
“พักสักหน่อยมั้ยวะ”
“จะดีเหรอวะ” ผมถามอย่างไม่แน่ใจ
“กูว่าดีกว่า มึงต้องคิดถึงระยะยาวด้วยนะเว้ย ปล่อยตัวแบบนี้มึงจะทำอาชีพนี้ได้ไม่นานเอา” ไอ้มิคเตือนด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“เออๆ เดี๋ยวกูโทรไปลากับเจ๊เอง” ผมบอกแล้วหยิบมือถือของตัวเองขึ้นมากดไล่หาเบอร์เจ้าของร้านบาร์โฮสต์ที่ผมทำงานอยู่
(ว่าไงจ๊ะ) เจ๊เปรี้ยวเอ่ยพูดขึ้นทันทีที่รับสาย
“เจ๊ วันนี้ผมขอลานะ”
(เอ้า! เป็นไรอะ)
“ป่วยอะเจ๊”
(โควิดปะเนี่ย)
“ไม่ใช่เจ๊! มันไม่ค่อยดีมาตั้งแต่ตอนนั้นละไง ที่โดนไอ้ตำรวจหัวขวดนั่นทำร้ายเอาอะ”
(อ่อ ยังไม่หายอีกเหรอ)
“ยังเลยเจ๊ ก็เลยว่าจะขอลากสักวันสองวันนี่แหละ”
(เออๆ ไปรักษาตัวให้หายดีก่อน ตำแหน่งตัวท็อปร้านเจ๊ยังรอต้อนรับเสมอ)
“ครับเจ๊ ขอบคุณมากครับ”
(จ้า!!)
ผมกดวางสายแล้วนอนเกลือกกลิ้งอยู่บนเตียงเพราะวันนี้ก็คือว่างแล้วแบบไม่มีแพลนใดๆ ส่วนไอ้มิคก็นั่งแต่งหน้าทำผมเตรียมจะออกไปทำงานคืนนี้ จริงๆ ผมก็แอบอิจฉามันเหมือนกันนะที่ไม่เคยเห็นมันเจ็บป่วยเลยสักครั้ง ก็อยากจะรู้เคล็ดลับมันเหมือนกันว่าทำยังไง แถมตลอดชีวิตการทำงานเป็นเด็กเอ็นท์ของมันก็ยังไม่เคยเจอแขกไม่ดีเลยด้วย งงกับมันเหมือนกัน
ทำไมถึงได้โชคดีนัก...
“จะออกไปแดกอะไรด้วยกันก่อนเปล่า” ไอ้มิคถามผม
“ขี้เกียจอะ”
“แล้วมึงไม่หิวเหรอ”
“ก็หิว... แต่ขี้เกียจอะ” ผมทำหน้ายู่แววตาอ้อนใส่มัน
“ไม่ต้องมาทำหน้าอ้อนเลย อีดอก กูไม่ใช่ลูกค้ามึงค่า!!” ไอ้มิคยกตีนขึ้นถีบผมก่อนจะหัวเราะออกมา
“เต็มตีนเลยนะไอ้สัตว์ เจ็บฉิบหาย” ผมเอามือลูบที่ต้นขาเบาๆ เพราะเมื่อกี๊หลบส้นตีนมันไม่ทันก็เลยโดนเข้าเต็มๆ
“สรุปจะเอาไง แดกไม่แดก”
“มึงไปเหอะ เดี๋ยวกูสั่งแกร๊บเอา” ผมบอกก่อนจะลุกขึ้นมานั่งหัวฟูอยู่บนเตียง ไอ้มิคได้ยินแบบนั้นก็เลยพยักหน้ารับแล้วคว้ากระเป๋าสะพายแล้วเดินออกไปหลังจากแต่งหน้าแต่งตัวเสร็จ
โครกกก...
เสียงท้องร้องดังขึ้นในขณะที่ผมกำลังจะเดินไปอาบน้ำผมก็เลยรีบกดแกร๊บเพื่อสั่งอาหารที่อยากกินมาแบบจัดเต็มโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ก็คนมันหิวอะเนอะแถมคืนนี้ยังไม่มีงานอีกด้วยก็เลยกินเยอะได้แบบเต็มที่
พอผมจัดการกับแอพลิเคชันสั่งอาหารเสร็จเรียบร้อยก็รีบแก้ผ้าแล้วคว้าผ้าขนหนูเดินเข้าห้องน้ำไปเพื่ออาบน้ำ จริงๆ ก็รู้สึกแอบมีอารมณ์อยู่หน่อยๆ เพราะเมื่อคืนดันฝันเห็นดาราเกาหลีคนที่ผมชื่นชอบแต่ไม่บอกหรอกนะว่าเป็นใคร ในฝันก็คือกำลังจะได้กันอยู่แล้วดันมาสะดุ้งตื่นเสียก่อน
อารมณ์มันก็เลยยังค้างเติ่งอยู่ในตัวผมเนี่ย...
แต่ก็อย่างว่าถึงแม้จะมีอารมณ์ราคะลุกโชนอยู่ในตัวแค่ไหนแต่เช้านี้ผมก็รู้สึกเหนื่อยเกินกว่าจะต้องมานั่งช่วยตัวเองเพื่อระบายอารมณ์เหล่านั้นออกไปจากตัว ก็เลยปล่อยเลยตามเลยไป ไม่ไปยุ่งกับส่วนนั้นเสียจะดีกว่าก่อนจะรีบอาบน้ำอาบท่าให้เรียบร้อยเพราะเดี๋ยวจะแต่งตัวไม่ทันตอนแกร๊บมาส่งอาหาร
เพราะให้วางทิ้งไว้ที่โต๊ะใต้คอนโดทีไรชอบโดนขโมยทุกที ไม่รู้ทำไมถึงกล้าทำแบบนี้ กล้องวงจรปิดก็เยอะแยะ แต่ผมก็ทำได้แค่โมโหนั่นแหละแต่ไม่อยากจะเอาเรื่องเพราะคิดว่าทำบุญทำทานให้ผีเปรตมันได้ส่วนบุญไปบ้าง
กริ๊งงงง
เสียงมือถือของผมดังขึ้นในขณะที่กำลังใส่เสื้อผ้าพอดิบพอดี ผมรีบหันไปคว้าหยิบขึ้นมากดรับทันทีเพราะความหิวมันเริ่มประท้วงหนักแล้ว
“ฮัลโหลครับ”
(ฮัลโหลมึง)
“เอ้า! นึกว่าแกร๊บ นี่ใครอะ” ผมถามอย่างสงสัย
(กูเอง แมกซ์)
“อ๋ออ ไอ้แมกซ์ มีไร” ผมตอบรับด้วยน้ำเสียงยาวหลังจากได้ยินชื่ออีกฝ่าย มันเป็นน้องที่อยู่ร้านเจ๊เปรี้ยวเหมือนกันนั่นแหละครับเพียงแต่ว่าก็ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น
(มึงรับงานแทนกูได้เปล่าวะคืนนี้)
“เอ้า! ละทำไมมึงไม่รับเองอะ” ผมถามอย่างสงสัย
(กูเป็นโควิด)
“ฉิบหาย” ผมร้องออกมาอย่างตกใจ “เราเจอกันล่าสุดเมื่อไหร่นะ”
(โอ้ย! สี่ห้าวันก่อนนู่นมั้ง ช่วงนี้กูรับแต่งานนอก)
“เออว่ะ ก็ว่าไม่ค่อยเห็นหน้ามึง”
(นั่นแหละ มึงไปรับงานให้กูหน่อยดิ งานนอกอะ)
“แต่วันนี้กูลาหยุดอะดิ”
(เขาให้ตั้งสองแสนนะ ไม่ไปจริงดิ) ไอ้แมกซ์พูดมาเหมือนรู้จังหวะเพราะทำให้ผมเปลี่ยนใจแทบจะทันที
“กี่ชั่วโมง”
(สองทุ่มถึงตีสี่)
“เออๆ ก็ได้”
(ขอบใจมากเว้ย เดี๋ยวกูส่งโลให้)
“เคๆ” ผมตอบแล้วก็กดวางสายไป กลายเป็นว่าวันหยุดที่ผมใฝ่ฝันเป็นอันต้องจบลงไปโดยปริยาย