เรียนไปก็ปวดหัว มีผัวก็ปวด... งั้นถ้าจะต้องทนปวด... ก็ขอปวดแบบได้เงินด้วยละกัน! เลิศๆๆๆๆ
ชาย-ชาย,ซาดิส & มาโซฯ,วัยว้าวุ่น,ยุคปัจจุบัน,ไทย,PWP,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เอิร์ธเด็กเอ็นท์เรียนไปก็ปวดหัว มีผัวก็ปวด... งั้นถ้าจะต้องทนปวด... ก็ขอปวดแบบได้เงินด้วยละกัน! เลิศๆๆๆๆ
เอิร์ธเด็กเอ็นท์
Mr. Host Club
[PWP]
Written by Darkriku93
เปิดเรื่อง 04/01/2023
ประกาศ!!!
นิยายเรื่องนี้เป็นแนว PWP ไม่เน้นความสมเหตุสมผลสักเท่าไหร่ อ่านเอาฟีลลิ่ง อ่านเอามันเฉยๆ น้าาาาา
เสียงกรี๊ดกร๊าดดังมาจากห้องข้างๆ จนผมต้องเผลอถอนหายใจออกมาด้วยความรำคาญ ผมทิ้งตัวนั่งลงที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งแล้วคว้าหยิบเอากระปุกครีมทาหน้าขึ้นมาทาในระหว่างนั้นก็มีเสียงกรี๊ดกร๊าดดังขึ้นมาอีกทำเอาผมสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะกรอกตามองบนเพราะสุดจะทนกับคนพวกนี้
“จะกรี๊ดอะไรนักหนาวะ” ผมบ่น
“เขากรี๊ดนางงามกันไง” ไอ้มิคที่เพิ่งออกจากห้องน้ำมาบอกผม
“เอ้า! เขาประกวดกันวันนี้เหรอ”
“เออ รอบพรีลิมอะ”
“อ่อ ก็ว่า”
“วาระแห่งชาติไง ให้เขากรี๊ดหน่อยนานๆ ที” ไอ้มิคเอ่ยแซวเพราะในมือของมันก็กำลังถือมือถือที่เปิดดูถ่ายทอดสดการประกวดอยู่เหมือนกัน
“มันต้องกรี๊ดขนาดนั้นเลยเหรอ”
“แหม่ มึงก็มาดูกับกูสิจะได้รู้ว่ามันลุ้นขนาดไหน”
“ไม่เอาอะ ไม่ใช่ทาง” ผมส่ายหัวแล้วหยิบครีมกันแดดมาทาปิดท้าย
“เชอะ! ก็วันๆ มึงเอาแต่กรี๊ดดาราเกาหลีไง”
“ก็เหมือนที่มึงกรี๊ดนางงามนั่นแหละ”
“ค่า!!!”
“แล้วจะไปได้ยัง” ผมเอ่ยถามเพราะผมเตรียมตัวพร้อมแล้วในขณะที่มันยังไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเลย
“เออ รอแป๊บ”
ไอ้คำว่ารอแป๊บของมันเนี่ยก็ใช่ว่าจะแป๊บเดียวตามคำที่มันพูดเพราะกว่ามันจะดูนางงาม กว่ามันจะแต่งตัวแต่งหน้าทำผมก็ปาไปเป็นชั่วโมงละ แล้วคนอย่างผมเนี่ย ก็ไม่ใช่ว่าจะอดทนรอมันได้หรอกนะ มันเสียเวลา ผมก็เลยขอตัวออกไปก่อนเพื่อหาอะไรกินสักหน่อยไม่งั้นมีหวังได้หิวตายซะก่อน
พอผมเดินไปหาซื้ออะไรกินที่ตลาดจนเสร็จเรียบร้อย ผมก็เดินเตร็ดเตร่อยู่ครู่ใหญ่เพื่อหาของหวานและขนมกินเล่นล้างปากอีกสักหน่อย แถมยังไม่ลืมซื้อติดไม้ติดมือไปด้วยเพราะว่าเวลาไปทำงานที่ร้านเจ๊เปรี้ยวบางทีมันก็อยากจะมีอะไรกินแก้เบื่อบ้าง ในร้านเจ๊เขามันไม่มีอะไรที่ผมชอบกินน่ะสิครับ เลยต้องซื้อไปติดตู้เย็นในห้องพักไว้สักหน่อย
ผมเดินกลับมานั่งรอที่ด้านล่างคอนโดตรงบริเวณลอบบี้เพราะขี้เกียจที่จะขึ้นไปบนห้องแล้ว รอไอ้มิคมันข้างล่างนี่แหละเดี๋ยวอีกพักหนึ่งมันก็คงลงมาแล้ว
Earth : เอากระเป๋าลงมาให้กูด้วยนะเว้ย
ผมหยิบมือถือออกมาพิมพ์ข้อความแล้วกดส่งหามัน เมื่อนั่งอยู่แล้วนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้หยิบกระเป๋าสะพายลงมาด้วยก็เลยขอไหว้วานมันสักหน่อย ไหนๆ ก็ลงมาทีหลังแล้ว
Mick : เออๆ เดี๋ยวเอาลงไปให้
Mick : จะจบละ
Earth : เคๆ
Earth : กูรออยู่ลอบบี้
พอวางมือถือได้เพียงไม่นาน ยังไม่ได้ทันที่จะได้เปิดอะไรดูเพื่อฆ่าเวลากระเป๋าเป้ของผมก็ถูกโยนมาลงที่โต๊ะตรงหน้าของผมพร้อมด้วยเสียงฝีเท้าที่เดินเข้ามาใกล้เป็นสัญญาณให้ผมรับรู้ได้ว่าไอ้มิคได้ลงมาถึงแล้ว
“ไป” มันบอกก่อนจะเดินนำผมออกไป
“ทีงี้รีบเชียวนะ รอกูด้วย” ผมบอกมันแล้วรีบคว้ากระเป๋าแล้ววิ่งตามหลังมันไป
สองขาของผมเดินเข้าไปในร้านที่ยังคงปิดไฟมืดสนิท เอาเข้าจริงทางเข้าที่หลังร้านก็มีนะแต่ที่ผมกับไอ้มิคเลือกเข้าทางนี้ก็เพราะถ้าต้องนั่งแท็กซี่จากคอนโดผมไปลงประตูหลังร้านก็จะต้องอ้อมสักหน่อย ซึ่งพวกผมมองกันว่ามันก็จะสิ้นเปลืองค่ารถ จึงเลือกที่จะลงหน้าร้านกันแทนเพราะยังไงร้านมันก็ยังไม่ได้เปิดอยู่ดีจะเข้าทางประตูไหนก็ค่าเท่ากันนั่นแหละ
ผมวางกระเป๋าลงที่โต๊ะของตัวเองพร้อมทั้งของกินเล่นที่ซื้อมาแล้วหย่อนตัวลงนั่งพักสักหน่อยเพราะถึงแม้ว่าวันนี้จะมาถึงร้านสายกว่าปกติแต่ก็ยังมีเวลาว่างอีกเยอะให้เตรียมตัว
“มาสายจังครับ” หลานเจ๊เปรี้ยวเดินเข้ามาทัก
“ติดดูนางงามไง” ผมบ่นไปทางไอ้มิค พอมันได้ยินก็ทำเป็นเบะปากใส่ผมแล้วหันกลับไปนั่งเล่นมือถือต่อ
“อ่อ ก็ว่า”
“เออ ชื่ออะไรนะ ยังไม่รู้เลย” ผมเอ่ยถามหลานเจ๊เปรี้ยว
“ชื่อต่อ”
“อ่อ กูชื่อ...”
“เอิร์ธไง รู้อยู่แล้ว”
“ห้ะ? รู้ได้ไงวะ” ผมถามด้วยความสงสัย
“ก็ป้าเปรี้ยวบอกไง ตอนเจอหน้าห้องน้ำก็ยังเรียกชื่ออยู่”
“จำไม่ได้”
“ช่างเหอะ” ไอ้ต่อบอกพลางเดินถือน้ำแตงโมปั่นมาวางไว้ให้
“อะไรวะ”
“ให้”
“ห้ะ?” ผมอุทานอย่างแปลกใจก่อนที่ไอ้มิคจะหันหน้ามามองผมกับไอ้ต่ออย่างสงสัย
“ให้ทำไม”
“ซื้อมาให้ป้า แต่ป้าไม่กินอะ” ไอ้ต่อบอกแล้วยิ้มให้จากนั้นจึงหันหลังเดินออกไป
“แปลกๆ นะ” ไอ้มิคเอ่ยทักขึ้น
“เออดิ”
“มันจีบมึงปะเนี่ย”
“มึงจะบ้าเหรอ!!” ผมด่าไอ้มิค จะมาชงส่งเดชไม่ได้นะ ไม่อยากมีปัญหากับเจ๊เปรี้ยว
“ก็ไม่แน่หรอกนะ” ไอ้มิคมันทำหน้าทำตาล้อเลียนก่อนจะลุกเดินออกไป
เอาจริงๆ ผมไม่ชอบคนรุ่นเดียวกันเพราะมักจะคุยกันไม่ค่อยรู้เรื่อง ตีกันบ่อยจากประสบการณ์แฟนคนเก่าๆ ที่ผ่านมา นี่ก็เลยเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมผมถึงชอบรับแขกแก่หรือคนที่อายุมากกว่า เพราะการที่ได้คุยได้คบกับคนที่อายุมากกว่ามักจะเป็นไปด้วยดีเสมอ ด้วยความมีเหตุผลและประสบการณ์ชีวิตที่มากกว่า เวลามีปัญหาอะไรคนที่อายุมากกว่ามักจะช่วยเหลือและหาทางออกได้เป็นอย่างดีด้วยเหตุและผล
คือไอ้ต่อมันก็หล่อนะถ้าเทียบเพื่อนๆ ในรุ่นเดียวกัน อยู่ในโรงเรียนคงป๊อปปูล่าน่าดู ฟีลเดือนโรงเรียนอะไรแบบนั้นจะให้มาจมปรักกับผมก็คงจะไม่ดีสักเท่าไหร่ ให้มันไปเจออนาคตที่ดีกว่าผมคงดีกว่าจะต้องมาคบกับคนสกปรกแบบผม
นาฬิกาที่ข้อมือบ่งบอกเวลาที่ใกล้เข้ามาเต็มที ผมเลยหยิบกระเป๋าเครื่องสำอางขึ้นซับหน้าเสียหน่อยเพื่อที่จะได้เตรียมความพร้อมส่วนมือถือก็เปิดเอ็มวีเพลงของวงเกาหลีฟังไปเรื่อยๆ
พอซับหน้าทำผมเสร็จผมก็เก็บของเข้าที่แล้วลุกเดินออกไปจากตรงนั้นเพื่อเดินไปนั่งในร้าน โชว์ตัวรอเวลาลูกค้ามาเลือกเพราะว่าวันนี้ไม่มีลูกค้าวีไอพีจองตัวมาก่อนทำให้คิวยังว่างอยู่
ผมนั่งอยู่ตรงเคาท์เตอร์บาร์โดยมีเจ๊เปรี้ยวเดินวนเวียนมาทักทายอยู่แป๊บหนึ่งก่อนจะเดินไปดูแลแขกวีไอพีที่เลือกไอ้มิคไปนั่งด้วย ส่วนผมยังนั่งแกร่วอยู่ที่บาร์เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือมีไอ้ต่อที่มาช่วยงานหลังบาร์คอยแอบมองอยู่เรื่อยๆ
ก็พอรู้ตัวอยู่ว่าสวย แต่ถ้าจีบจริงก็คงยากหน่อยนะ เพราะไม่หวั่นไหวกับมันแน่ๆ
“ขอมาการิต้าแก้วหนึ่งครับ” ภาษาไทยสำเนียงแปลกๆ ดังขึ้นที่ข้างหูผม
ผมหันกลับไปมองจึงได้เห็นว่าเจ้าของสำเนียงแปล่งนั้นเป็นผู้ชายขาวตี๋ตรงเสป๊คผมมากเวอร์ ดูจากภายนอกก็หุ่นดีไม่น้อย ด้วยเสื้อโปโลสีขาวพอดีตัวกับกางเกงแสล็คสีเข้ม รองเท้าผ้าใบสีขาวบวกกับทรงผมแสกกลางตามสไตล์เกาหลี ทำเอาผมหยุดมองหน้าเขาไปพักใหญ่แบบไม่ทันได้รู้ตัวด้วยซ้ำ
“สวัสดีครับ” เขาหันมาเอ่ยทักผม
“สวัสดีครับ เป็นคนเกาหลีเหรอครับ” ผมถาม
“ใช่ครับ”
“พูดไทยเก่งจัง”
“เรียนที่ไทยมาได้สองปีแล้วครับ”
“ถึงว่า...” ผมพูดพลางพยักหน้าเล็กน้อย
“...”
“ชื่ออะไรนะครับ” ผมเอ่ยถามต่อ
“ชื่อแจมินครับ แล้วคุณชื่ออะไรครับ”
“ชื่อเอิร์ธครับ”
“เอิร์ธ? ที่แปลว่าโลกเหรอครับ”
“ใช่ครับ”
“คนไทยชอบมีชื่อแปลกๆ กันนะครับ” แจมินยิ้มจนตาหยี
น่ารักฉิบหาย...
ผมรู้สึกเขินพอได้เห็นรอยยิ้มนั้นก็เลยรีบหันหน้าหลบเข้าไปทางบาร์เพราะกลัวเผลอจะหลุดยิ้มเขินออกมา จนพี่บาร์เทนเดอร์ที่ยืนอยู่ตรงนั้นยิ้มแซว
“มาคนเดียวเหรอครับ” แจมินถามผม
“เปล่าครับ ผมทำงานที่นี่”
“ทำงานที่นี่?” หน้าแจมินเกิดความสงสัยขึ้นมาทันที
“ผมทำงานเป็นเด็กบาร์โฮสต์ของที่นี่ครับ”
“อ๋อ... ถ้าผมสนใจให้คุณมาเทคแคร์ต้องทำไงครับ”
“แป๊บนะครับ” ผมบอกแล้วหันไปหาไอ้ต่อที่ยืนอยู่หลังบาร์ “ต่อ ไปเรียกเจ๊เปรี้ยวมาหน่อยดิ๊”
พักเดียวเจ๊เปรี้ยวก็มาช่วยดำเนินการให้จนเสร็จสรรพ ผมกับแจมินพากันไปนั่งยังโต๊ะมุมในใกล้ๆ โซนวีไอพี ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ดูส่วนตัวมากนักแต่ถ้าเทียบกับทั่วไปก็ยังถือว่าอยู่ในมุมที่ค่อนข้างส่วนตัวอยู่ดี
“หล่อมากเลยอะ ยิ่งมองยิ่งหล่อ” ผมเอ่ยบอกขณะยกเหล้าขึ้นจิบ
“ขอบคุณครับ เอิร์ธก็น่ารักเหมือนกันครับ”
ไอ้เวรเอ๊ยยยยย อย่าพูดงี้ เขินฉิบหาย แต่ว่าผมก็ยังต้องวางฟอร์มเอาไว้อยู่ดี เชิ่ดไว้ก่อน