เรียนไปก็ปวดหัว มีผัวก็ปวด... งั้นถ้าจะต้องทนปวด... ก็ขอปวดแบบได้เงินด้วยละกัน! เลิศๆๆๆๆ
ชาย-ชาย,ซาดิส & มาโซฯ,วัยว้าวุ่น,ยุคปัจจุบัน,ไทย,PWP,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เอิร์ธเด็กเอ็นท์เรียนไปก็ปวดหัว มีผัวก็ปวด... งั้นถ้าจะต้องทนปวด... ก็ขอปวดแบบได้เงินด้วยละกัน! เลิศๆๆๆๆ
เอิร์ธเด็กเอ็นท์
Mr. Host Club
[PWP]
Written by Darkriku93
เปิดเรื่อง 04/01/2023
ประกาศ!!!
นิยายเรื่องนี้เป็นแนว PWP ไม่เน้นความสมเหตุสมผลสักเท่าไหร่ อ่านเอาฟีลลิ่ง อ่านเอามันเฉยๆ น้าาาาา
พอเวลาผ่านไปได้ครึ่งคืนระยะห่างของเรามันก็ค่อยๆ ลดลง จากที่นั่งห่างกันเป็นศอกเป็นวาตอนนี้กลายเป็นว่าแทบจะนั่งเกยกัน ตัวติดกันไหล่ชิดกันจนอีกนิดก็ต้องขึ้นไปนั่งตักกันแล้ว แอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปก็ไม่ได้น้อยแต่ก็ยังพอกรึ่มในแบบที่ควบคุมตัวเองได้
ซึ่งผมเองก็ปรนนิบัติพัดวีแจมินเขาเป็นอย่างดีจนได้รู้ว่าครอบครัวเขาย้ายมาทำงานที่ไทยเขาก็เลยต้องย้ายมาเรียนมหาลัยที่นี่ด้วย แบบนี้ก็ยิ่งเข้าทีเพราะอายุมากกว่าผมแถมยังหล่อสูงขาวตี๋ แอบเสียดายนิดหน่อยเพราะถ้าหากหมดคืนนี้ไปก็ไม่รู้จะได้เจอกันอีกทีเมื่อไหร่หรืออาจจะไม่ได้เจอกันอีกก็ได้
อยากเก็บไว้กินนานๆ จัง
แต่จะให้ขอคอนแทคส่วนตัวก่อนต้องโดนด่าแน่ถ้าเจ๊เปรี้ยวรู้เพราะกฎเหล็กของที่นี่คือห้ามหลงรักแขกเด็ดขาด!
“เดี๋ยวผมต้องกลับแล้ว” แจมินบอกพร้อมยกมือเรียกพนักงานร้านให้มากเช็กบิล
“รีบกลับจัง”
“แหะๆ ครับ”
“ยังคุยกันสนุกอยู่เลย” ผมมีท่าทีอิดออดเพราะยังไม่ได้กินของดีเลย มันจะรีบกลับไปไหนวะ ก็แอบแปลกใจตั้งแต่แรกแล้วแหละเพราะเห็นไม่ได้ซื้อวีไอพีก็เลยคิดว่าคงไม่ได้อยากจะมีเรื่องอย่างว่า แต่พอนั่งคุยกันมาได้พักใหญ่ก็รู้สึกเลยว่าผมจะปล่อยไปไม่ได้อย่างน้อยต้องได้ขย่มให้แจมินสักรอบก็น่าจะดี
จะรีดน้ำให้หมดตัวเลยคอยดู...
กินเรียบไม่ให้เหลือสักหยด!
“ไปเที่ยวบ้านผมกันมั้ยครับ”
“ห้ะ?” ผมตกใจที่จู่ๆ แจมินก็เอ่ยถามขึ้นราวกับได้ยินเสียงในหัวของผม
“อยากไปต่อที่บ้านผมมั้ยครับ”
“แต่ผมยังไม่เลิกงานเลย”
“อ่อ น่าเสียดายจัง”
“แต่ผมขอเลิกงานไวได้นะ” ผมเสนอเพราะไม่อยากพลาดโอกาสทอง
“เหรอครับ งั้นผมจะรอนะครับ”
ผมยิ้มแล้วพยักหน้าให้ก่อนจะรีบลุกเดินออกไปเพื่อคุยกับเจ๊เปรี้ยวและไม่ลืมที่จะแวะบอกไอ้มิคว่าจะกลับก่อนเพราะมีไปต่อที่บ้านลูกค้า เจ๊เปรี้ยวก็ไม่ได้ห้ามอะไรเพียงแต่บอกว่าให้รู้จักระวังตัวและดูแลตัวเองให้ดี ถ้ารู้สึกไม่ปลอดภัยให้รีบส่งโลเคชั่นหาเจ๊ทันที ผมก็ได้แต่รับคำแล้วเข้าไปหยิบกระเป๋าเป้ของตัวเองเดินออกมาแต่ก็ต้องเจอไอ้ต่อมายืนดักที่หน้าห้องพักเสียก่อน
“ทำไมรีบกลับไวจังวันนี้” ไอ้ต่อเอ่ยถาม
“กูจะไปบ้านลูกค้า”
“ไอ้เกาหลีอะนะ”
“เออ หล่อขนาดนั้นปล่อยหลุดมือได้ไง”
“แล้วทำไมไม่ใช้ห้องนวด” ไอ้ต่อสงสัย
“กูจะไปรู้เขาเหรอ คงไม่มีตังล่ะมั้ง ยังเป็นนักศึกษาอยู่เลย”
“แล้วจะคุ้มเหรอ ออกไปบ้านเขาอะ”
“โดนเขาเย็ดก็คุ้มละ หล่อ ขาว หุ่นดีขนาดนี้”
“เห้อ คนเรา” ไอ้ต่อมันถอนหายใจพร้อมบ่นด้วยสีหน้าปลงๆ แต่ผมไม่ได้สนใจเท่าไหร่หรอกกลัวว่าแจมินจะต้องรอนาน เลยรีบดันไอ้ต่อให้หลบออกจากหน้าประตูแล้วเดินหนีไปทันที
พอมาถึงที่โต๊ะก็พบว่าแจมินเตรียมความพร้อมอยู่แล้ว จึงพากันเดินออกไปที่ลานจอดรถหน้าร้าน ตอนแรกก็ไม่ได้คาดหวังอะไรสักเท่าไหร่หรอกนะ แต่พอเห็นรถยนต์ของเขาที่จอดอยู่ก็ได้แต่ตาเบิกโพลงเพราะมันคือเบนซ์ตัวท็อปที่ผมเองคงไม่มีปัญญาได้ซื้อเป็นของตัวเองแน่ๆ
“รถพ่อเหรอ” ผมแกล้งถาม
“รถผมเอง ผมซื้อเอง”
“โห รวยนะเนี่ย”
“ไม่หรอกครับ ทำงานหาเงินมาได้ ก็เอาเงินมาใช้แค่นั้นเองครับ” พูดจบแจมินก็เดินมาเปิดประตูรถฝั่งคนนั่งให้ผม ผมก็เลยก้าวขึ้นไปนั่งด้วยความขวยเขินเพราะปกติไม่เคยมีคนมาเทคแคร์แบบนี้สักเท่าไหร่ ไอ้ที่เขาพูดกันว่าคนเกาหลีโรแมนติกก็คงจะจริง
พอรถยนต์ของแจมินขับออกไปได้สักพักระหว่างที่กำลังเคลิบเคลิ้มกับเพลงเกาหลีที่คนขับเปิดบรรเลง ผมก็รู้สึกหนาวขึ้นมาหน่อยๆ เพราะแอร์ที่เปิดมันค่อนข้างเย็นกว่าปกติ
“หนาวเหรอครับ” แจมินหันมาถามเมื่อเห็นท่าทีของผม
“นิดหน่อยครับ”
“โทษทีครับ ผมชินกับอากาศหนาวน่ะครับ” แจมินบอกก่อนจะยื่นมือมากดปรับอุณหภูมิแอร์ให้ผม
ไม่นานเท่าไหร่นักรถก็ขับมาจอดที่คอนโดหรูใจกลางเมือง แจมินวนรถขึ้นไปจอดที่ชั้นหก ก่อนจะพาผมลงจากรถแล้วเดินเข้าภายในตัวอาคารไป ห้องของเขาก็อยู่ที่ชั้นหกเหมือนกันก็เลยค่อนข้างที่จะสะดวกสบายเล็กน้อย พอเดินเข้าจากลานจอดรถปุ๊บก็เดินมาถึงได้ปั๊บไม่ต้องมานั่งรอลิฟท์ให้เสียเวลา
พอประตูห้องเปิดออกผมก็ถึงจะได้เห็นชัดๆ ว่าไอ้คอนโดหรูที่ใครๆ ชอบพูดกันมันเป็นยังไง ภายในถูกตกแต่งไว้อย่างสวยงามจนไม่น่าเชื่อว่ามันจะเป็นห้องที่มีคนอยู่จริงๆ ทีแรกผมคิดว่าเป็นห้องตัวอย่างด้วยซ้ำ
“นั่งก่อนเลยครับ” แจมินผายมือให้ผมไปนั่งที่โซฟาโซนห้องนั่งเล่น
“ครับ” ผมเดินตัวลีบไปนั่งเพราะรู้สึกว่าที่นี่มันไม่เหมาะกับผม ดูเกินฐานะผมไปมากทีเดียว
เสียงทีวีดังขึ้นทำเอาผมตกใจเพราะว่าไม่รู้ว่าแจมินกดเปิดมันตั้งแต่เมื่อไหร่ เป็นรายการวาไรตี้เกาหลีที่เขาเปิดมันจากในยูทูป สักพักเขาก็เดินกลับมาพร้อมขวดและแก้วไวน์วางลงที่โต๊ะหน้าโซฟา
“ดื่มมั้ยครับ” เขาถาม
“ได้ครับ” ผมเอ่ยตอบแล้วรับแก้วไวน์มาจากมือของแจมิน
พวกเรานั่งจิบไวน์กันไปได้ประมาณสองแก้วซึ่งในระหว่างนั้นก็พูดคุยอะไรกันไปเรื่อยเปื่อยสลับกับดูยูทูปด้วยกันไปเรื่อย แต่มือไม้ของผมนั้นก็ไม่ค่อยอยู่สุขสักเท่าไหร่เพราะเริ่มรู้ใจตัวเองแล้วว่าความต้องการมันเริ่มปะทุมาแบบไม่หยุด มือข้างหนึ่งของผมประกบอยู่ที่หน้าขาของอีกฝ่ายตลอดเวลาพลางบีบนวดไปด้วยในตัว
แจมินรู้สึกยังไงไม่รู้แต่ตอนนี้ของผมมันแข็งไปหมดแล้ว
แต่ให้พูดตรงๆ ก็คิดว่าเขาคงคิดอะไรอยู่บ้างแหละเพราะลำพังถ้าคนที่ไม่ได้คิดอะไรเจอผมคุกคามแบบนี้มันคงได้กระโดดถีบหน้าผมไปแล้ว แต่นี่นั่งนิ่งราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมก็เลยแอบขยับมือให้สูงขึ้นอีกจนเกือบจะถึงจุดเป้าหมายนั้น
สายตาของแจมินเหลือบมองมาที่ผมแต่ก็นิ่งไม่พูดอะไร เขาเพียงแต่อมยิ้มน้อยๆ แล้วยกไวน์ขึ้นดื่มเป็นอึกสุดท้ายแล้วหันไปวางแก้วลง ผมเห็นท่าทางดูไม่ติดขัดอะไรก็เลยเลื่อนมือของผมขึ้นไปจนชิดง่ามขาของเขา แจมินเหลือบตามองตามฝ่ามือของผม ผมรู้สึกได้ว่าเขาหายใจแรงขึ้นก่อนจะยกฝ่ามือหนามาจับที่ต้นขาผมแล้วแล้วนวดคลึงเบาๆ
ฉิบหายแล้ว ไอ้ที่แข็งอยู่แล้วกลับแข็งขึ้นไปอีก
ผมแกล้งขยับเข้าไปใกล้พลางลอบมองริมฝีปากอีกฝ่ายเป็นการส่งสัญญาณ ผมเองก็ไม่ทันได้ตั้งตัวเพราะพอทำแบบนั้นปุ๊บแจมินก็พุ่งเข้าจู่โจมผมทันที เขากดริมฝีปากลงมาที่ริมฝีปากของผมก่อนจะบดขยี้อย่างรุนแรง แวบแรกก็ตกใจแต่ก็ตอบสนองกลับไปด้วยไฟราคะที่กำลังครุกรุ่น
ผมเอนตัวลงพิงกับโซฟาฝ่ายแจมินก็โน้มตัวลงมาที่ผมแบบเต็มกำลังมือหน้าประคองช้อนศีรษะของผมเอาไว้จนถึงเบาะรองนั่งของโซฟาแล้วจึงปล่อยออก
ลิ้นร้อนชอนไชเข้ามาภายในปากของผม ลิ้นของผมก็ตอบรับตวัดเกี่ยวพันกันอยู่ครู่ใหญ่ ฝ่ามือของอีกฝ่ายเริ่มสอดเข้ามาภายใต้กางเกงผมก่อนจะลูบคลึงที่บริเวณแก้มก้น จากนั้นแจมินจึงเคลื่อนริมฝีมากมากดจูบที่ลำคอและใบหู
“อื้อ..” ผมร้องออกมาเพราะเสียวซ่านที่บริเวณใบหู
แจมินเห็นแบบนั้นยิ่งได้ใจใหญ่สอดมือหนาเข้ามาภายใต้เสื้อผมแล้วลูบไล้ลากผ่านยอดหน้าอกจนความกระสันของผมพุ่งเพิ่มขึ้น มือเรียวของผมยกขึ้นไปปลดกระดุมเสื้อโปโลของอีกฝ่ายออกแล้วยกชายเสื้อให้เปิดขึ้นเพื่อเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าให้เขารีบถอดเสื้อออกซะ
อยากเห็นจะแย่แล้วว่าภายในจะแซ่บขนาดไหน
เหมือนแจมินจะรู้เขาผละริมฝีปากออกจากร่างกายของผมแล้วลุกขึ้นไปถอดเสื้อและกางเกงออกเหลือเพียงกางเกงในตัวเดียว ผมเห็นแบบนั้นก็ไม่รอช้ารีบถอดเสื้อของตัวเองแล้วปลดกางเกงออกเช่นกัน
“เห้ย!” ผมร้องลั่นด้วยความตกใจเพราะจู่ๆ แจมินก็คว้าไวน์มาเทใส่ตัวผมจนเปียกชุ่ม
“เพิ่มรสชาติหน่อยนะครับ” เขาบอกก่อนจะวางขวดไวน์ลงที่โต๊ะเหมือนเดิมแล้วเดินมาขึ้นคร่อมผมเหมือนเดิม
สายตาประดุจเหยี่ยวปรากฏขึ้นชัดจนผมเริ่มใจสั่น แจมินก้มลงเลียไวน์ที่ชุ่มฉ่ำอยู่ตัวผม ขนผมลุกซู่เมื่อได้รับสัมผัสร้อนนั้น ลิ้นร้อนไล้วนอยู่ที่ยอดอกของผมก่อนจะใช้ปากครอบลงไปแล้วดูดกลืนราวกับไม่อยากจะให้ไวน์เหลือสักหยด
“อ่า...” ผมเผลอครางออกมาอีกครั้งเพราะทนต่อความเสียวไม่ไหว
แจมินเคลื่อนริมปากลงต่ำไปเรื่อยๆ หลังจากหมดสนุกกับบริเวณยอดอกนั้น เขากดจูบลงไปเรื่อยๆ ผ่านหน้าท้องที่แอบมีพุงน้อยๆ ของผมอยู่ เขาแวะคลอเคลียอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะงับเบาๆ ด้วยอารมณ์หมั่นเขี้ยว
“เจ็บ” ผมฟาดมือเบาๆ ไปที่แขนของเขาเพื่อตักเตือน
“ขอโทษครับ” แจมินเอ่ยบอกพลางยิ้มล้อเลียนก่อนจะกลับไปสนใจกับสิ่งถัดไปที่อยู่เบื้องล่าง
สองมือหนาคว้าเข้าที่แก่นกายของผมผ่านเนื้อผ้าของกางเกงในที่ปิดบังอยู่ ผมสะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็ปล่อยตัวปล่อยใจให้อีกฝ่ายเต็ม ไม่ว่าพ่อหนุ่มเกาหลีกล้ามแน่นคนนี้จะทำอะไรผมก็ยอมทั้งหมด
“แข็งมากเลยนะครับ” แจมินเอ่ยทัก
“ก็พร้อมแล้วนี่ครับ”
สองนิ้วของแจมินค่อยๆ เกี่ยวกางเกงในของผมแล้วปลดมันออกอย่างรวดเร็วเผยให้เห็นส่วนสำคัญของผมชี้โด่เด่ประชันหน้ากับอีกฝ่ายแบบเต็มตา
ผมรู้สึกเขินนิดหน่อยแต่ใบหน้าหล่อเหลาตรงเสป๊คจับจ้องอยู่ที่ส่วนนั้นก่อนที่เขาจะคว้าหมับเข้าให้แล้วลูบคลึงอยู่นิดหน่อยเรียกอารมณ์ผมให้เพิ่มขึ้นมาอีกเท่าตัว จากนั้นแจมินก็ก้มลงเอาปากครอบครองส่วนกลางของผมไว้แบบเต็มปากเต็มคำ แล้วขยับปากขึ้นลงจนผมเสียวกระสันจนต้องเผลอบิดตัวหนีแต่ก็ถูกอีกฝ่ายล็อคเอาไว้ก็เลยต้องระบายผ่านฝ่ามือที่บีบเกร็งบนไหล่อีกฝ่าย
“อื้อออ”
ผมร้องครางพลางเกี่ยวกระหวัดขาทั้งสองข้างของผมไปที่รอบตัวของแจมินเพราะทักษะการใช้ปากของคนตัวสูงมันโคตรดีกว่าหลายคนที่ผ่านมา ผมเคลิบเคลิ้มไปกับห้วงเวลานั้นจนเผลอขยับสะโพกสวนกลับไปเพื่อตอบรับริมฝีปากและลิ้นร้อนของอีกฝ่าย
“อ่อก!” แจมินสำลักออกมาเสียงดังเมื่อผมเผลอกระแทกแรงและรัวเกินไปหน่อยจนเขาหายใจไม่ทัน เราทั้งหลุดหัวเราะออกมาก่อนที่แจมินจะยกมือขึ้นเช็ดที่ริมฝีปากแล้วลุกขึ้นยืน สองมือหนาดึงกางเกงในของตัวเองลงเผยให้เห็นส่วนนั้นของเขาที่แข็งชูชันและมีขนาดที่ใหญ่กว่ามาตรฐานผู้ชายทั่วไป
“ใหญ่จัง” ผมเอ่ยพูดขึ้น
“นิดหนึ่งครับ ใหญ่กว่าคนเกาหลีทั่วไป” เขาพูดด้วยใบหน้าขิงเต็มอัตรา
“แหม่ ขี้อวดเหมือนกันนะ” ผมยิ้มน้อยๆ แล้วลุกขึ้นเดินไปหาคนตัวสูงแล้วกดริมฝีปากลงไปจูบกับอีกฝ่ายอยู่พักใหญ่แล้วค่อยๆ เปลี่ยนใจเลื่อนตัวลงมาเรื่อยๆ แล้วคุกเข่าลงจงใจปรนนิบัติส่วนนั้นอย่างเต็มที่
มือของผมกอบกุมเข้าที่แก่นกายของแจมิน ไม่เคยรู้มาก่อนว่าเกาหลีมีดีขนาดนี้เพราะปกติที่ได้ยินเขาเล่าลือกันก็มีแต่ว่าคนเกาหลีมีอันเล็กนิดเดียว เล็กกว่าของคนไทยเสียอีก แต่สิ่งนั้นไม่ได้เกิดขึ้นกับแจมินเลย บอกตรงๆ ว่ากำมือของผมพอคว้าจับไปปุ๊บ สิ่งนั้นมันพอดีมือชนิดที่ว่าปลายนิ้วโป้งกับปลายนิ้วชี้เกือบจะสัมผัสกันได้ไม่สนิท
“ขาดใจตายทำไงเนี่ย” ผมแซว
“ไหวมั้ยครับ ถ้าไม่ไหวไม่เป็นไรนะ”
“คนอย่างไอ้เอิร์ธ สู้อยู่แล้ว” ผมพูดจบปุ๊บก็อ้าปากครอบลงไปที่ส่วนนั้นทันที
อีเหี้ย หายใจแทบไม่ออก!
ผมขยับปากเข้าออกช้าๆ โดยที่มืออีกข้างหนึ่งจับตรงส่วนโคนเอาไว้เพื่อที่จะให้มันถนัดและเข้าท่าเข้าทีมากขึ้น ผมได้ยินเสียงครางต่ำออกมาจากลำคอของแจมินเป็นสิ่งซึ่งยืนยันว่าเขาค่อนข้างพึงพอใจกับสิ่งที่ผมมอบให้
“อืมมม..”
ผมยังคงสาละวนอยู่กับบริเวณนั้นเพราะผมเองก็ติดใจของรักของแจมินไม่น้อยเหมือนกัน มันเป็นกลิ่นใหม่ที่ผมเองก็ไม่เคยได้สัมผัสในคนไทยมาก่อน หรืออาจจะเป็นเพราะอาหารการกินที่มันแตกต่างกันก็เลยทำให้กลิ่นตัวและกลิ่นใดๆ ของแจมินแปลกออกไปสักหน่อย
ผมถอนปากออกมาหลังจากสุขสมตามใจแล้วใช้ลิ้นตอดตวัดส่วนบริเวณถุงอัณฑะยั่วล้อให้อีกฝ่ายเกิดอารมณ์เพิ่มมากขึ้น
“อ่า...” เสียงครางจากแจมินดังขึ้นอีกครั้งเป็นจังหวะเดียวกับที่ผมก็เริ่มจะอดทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน ผมก็เลยลุกขึ้นแล้วย้ายร่างตัวเองไปนั่งโก้งโค้งหันหลังให้คนตัวสูงในท่วงท่ากวางเหลียวหลังก่อนจะหันหน้ามาส่งสายตาเรียกให้อีกฝ่ายเข้ามาหา
แจมินเห็นแบบนั้นเลยเดินไปเปิดลิ้นชักตรงทีวีแล้วหยิบถุงยางออกมาฉีก บรรจงใส่ลงไปครอบแก่นกายของตัวเองจากนั้นจึงค่อยๆ เดินเข้ามาหาผม
“ถ้าเจ็บบอกนะครับ” เขาพูดแบบนั้นผมก็เลยรู้ตัวว่ากำลังจะใกล้ถึงเวลาเต็มที ก็เลยขยับขาทั้งสองข้างให้ออกห่างเพื่ออำนวยความสะดวกให้คนตัวสูง
นิ้วมือของแจมินไล้วนอยู่ตรงปากทางช่องด้านหลังของผมอยู่พักหนึ่งเหมือนกับจะต้องการบอกให้ผมเตรียมตัวเตรียมใจ ผมก็ได้แต่ส่งเสียงครางปลุกเร้าอารมณ์ของอีกฝ่ายเพื่อให้บรรยากาศมันร้อนรุ่มมากขึ้น
“อ๊ะ!” ผมกระตุกตัวเล็กน้อยเมื่อส่วนหัวของแก่นกายอีกฝ่ายเริ่มเสียบผ่านเข้ามาในรูของผม
สองมือของผมจิกที่โซฟาแน่นเพราะความจุกที่เกิดขึ้น มันมวลท้องไปหมดเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ผมเจอของใหญ่ขนาดนี้ เสียงในทีวีบรรยายอะไรบ้างผมก็ไม่สามารถจับใจความได้อีกแล้วเพราะในหัวของผมมันเบลอไปหมด อาจจะด้วยอารมณ์ความใคร่ที่เกิดขึ้นมันดับสติของผมไปเกินครึ่ง
“อ่า...” แจมินส่งเสียงในลำคอเมื่อส่วนนั้นของเขาผ่านเข้ามาได้ครึ่งทาง
“อื้อ”
“ไหวมั้ยครับ” เขาถาม
“หวะ..ไหวครับ อ๊า!!!!!” ผมร้องลั่นเพราะหลังจากตอบกลับไปไม่ทันขาดคำไอ้แจมินมันก็ดันยัดส่วนที่เหลือเข้ามาจนหมดลำเรียกได้ว่ามิดด้ามกันเลยทีเดียว
ผมได้ยินเสียงเขาหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเริ่มขยับสะโพกแต่เพราะความฝืดเคืองก็เลยทำให้ผมรู้สึกเจ็บมากกว่าความเสียว ฝั่งแจมินคงจะสัมผัสได้ถึงความเกร็งของผม เขาก็เลยหยุดชะงักไปก่อนผมจะได้ยินบางเสียงดังขึ้นมา
ถุ้ย!
แจมินถ่มน้ำลายลงมาที่ตรงส่วนนั้นเพื่อหวังจะให้มันเพิ่มความชุ่มชื้นให้มันได้ไหลลื่นมากขึ้น แต่ผมน่ะโคตรเกลียดเลยเพราะรู้สึกว่ามันสกปรกแต่ก็จะพยายามมองข้ามแล้วกันนะมาถึงขนาดนี้แล้ว คนหล่อเป้าเลิศเบอร์นี้ก็อาจจะต้องยอมๆ กันหน่อย
“อื้อ” ผมร้องขึ้นอีกครั้งเมื่อรู้สึกว่าอีกฝ่ายเร่งความเร็วจนตัวผมเริ่มสั่น เสียงตุบตับดังกระจายไปทั่วห้อง
“...”
“อึกกก!!” ผมตาเหลือกพร้อมกลั้นหายใจเมื่ออยู่ดีๆ จากที่คนตัวสูงกระแทกเข้ามารัวๆ เขาก็หยุดแล้วเปลี่ยนมากระแทกแรงๆ เข้ามาอีกสองทีก่อนจะถอนออกไป
แจมินจับผมเอนนอนลงโซฟาโดยให้ขาข้างหนึ่งของผมพาดอยู่ที่บ่าของเขา ส่วนอีกข้างก็ปล่อยให้มันเป็นอิสระจากนั้นเขาก็จับส่วนนั้นของเขายัดเข้ามาอีกครั้ง โดยครั้งนี้ผมรู้สึกว่ามันเข้ามาได้ลึกและเต็มลำมากกว่าเก่า
ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า แต่ผมก็สัมผัสได้แบบนั้นจริงๆ
เมื่อแจมินเริ่มขยับตัวผมก็เริ่มสัมผัสความรู้สึกอัดแน่นในร่างกายได้อีกครั้ง ดวงตาทั้งสองข้างของผมหลับปี๋ใบหน้าเหยเกเพราะมันทั้งเจ็บทั้งเสียวในเวลาเดียวกัน
“อื้อออ” ผมครางพลางกัดริมฝีปากล่างเพื่อกดความเสียวกระสันในร่างกาย
“อ่า” เสียงครางตอบรับด้วยความพึงพอใจ
ในเวลานี้ใบหน้าที่สุขสมกับอารมณ์ที่เต็มไปด้วยความใคร่ของแจมินที่ปรากฏให้ผมเห็นนั้นมันช่างเซ็กซี่และยั่วเย้าไฟราคะในตัวได้เป็นอย่างดี พอเห็นแบบนั้นไอ้ความรู้สึกที่มันเจ็บบริเวณทางด้านหลังก็พลันหายไปเสียหมดเหลือเพียงความเสียวซ่านที่ผมได้รับและมีความสุขกับมันไม่น้อย
“อ๊ะ!” ผมร้องขึ้นเมื่ออีกฝ่ายเพิ่มความถี่ในการรัวสะโพกอีกครั้ง คราวนี้หยาดเหงื่อเริ่มผุดขึ้นมาตามผิวหนังทั่วร่างกายของคนตัวสูง
เชี่ยเอ๊ยยยย เซ็กซี่ฉิบหาย
ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะอุทานยังไงแล้วเหมือนกัน มันหาคำบรรยายแทนความรู้สึกไม่ได้เลยแม้แต่น้อย ต้องได้เห็นกับตาถึงจะเข้าใจว่าสิ่งที่ผมกำลังจะสื่อมันคืออะไร
สายตาของผมจับจ้องอยู่หุ่นของแจมินที่มีกล้ามหน้าท้องอัดแน่นเรียงตัวสวย กล้ามหน้าอกได้รูปที่ทำให้อีกฝ่ายดูแข็งแกร่งและแข็งแรง ยิ่งจังหวะที่เขาโยกตัวเพื่อกระแทกสิ่งนั้นเข้ามาในตัวผม ใบหน้าแห่งความหื่นกระหายมันทำให้ผมค่อยๆ ก้าวไปสู่จุดที่ร่างกายเกินจะรับไหว
“อ๊า.. จะเสร็จแล้ว” ผมบอกเมื่อรู้สึกถึงความเคลื่อนไหวบางอย่างในแก่นกายของผม
“เสียวมั้ย”
“อื้อ” ผมหลับจากปี๋เมื่ออีกฝ่ายกระแทกเข้ามาแรงและเร็วขึ้น
“อ่า...”
“อ๊ะ... แตกแล้ว อ๊า!!!!!” ผมร้องครางลั่นเมื่อของเหลวในตัวของผมพุ่งทะลักออกมา จังหวะที่มันกระเด็นไปเปื้อนใบหน้าและกล้ามหน้าท้องของแจมินมันเรียกให้ผมรู้สึกสะใจขึ้นมาเล็กน้อย
ไอ้เหี้ย ยั่วจัดๆ
“อื้ออ” ผมครางเสียวเมื่ออีกฝ่ายเริ่มกระแทกเร็วขึ้น ถี่ขึ้นและใบหน้ามีอารมณ์ที่เปลี่ยนไป ฝ่ามือทั้งสองข้างของเขาที่จับขาและสะโพกของผมเริ่มบีบแน่น ผมก็เลยได้รู้ว่าแจมินก็ใกล้จะเสร็จเต็มที
ผมขยับสะโพกตัวเองเล็กน้อยเพราะรู้สึกนอนมานานเกินไปจนเริ่มเมื่อย ส่วนแจมินเองก็พยายามใส่จนสุดแรงที่ตัวเองมีอยู่เพื่อให้ไปถึงจุดสุดยอด หยาดเหงื่อผุดเพิ่มขึ้นจนสัมผัสได้ถึงไอร้อนจนเครื่องปรับอากาศในห้องยังสู้ไม่ไหว
“อื้อ...” ผมร้องเพราะความรุนแรงจากแจมินที่มอบให้ผมมันมีเพิ่มขึ้น
“อ่า.. กะ...ใกล้แล้ว”
“แตกเลยครับ”
“อ๊ะ!!!! อื้ออ!!!” แจมินกระแทกเข้ามาอีกไม่กี่ครั้งก็รีบถอนแก่นกายของเขาออกจากตัวของผมแล้วรีบดึงถุงยางที่ครอบคลุมส่วนนั้นเอาไว้ออกแล้วโยนทิ้งไปด้านข้าง ก่อนจะใช้มือรูดส่วนนั้นขึ้นลงอย่างรวดเร็วแล้วน้ำขาวขุ่นจะพุ่งทะลักออกมา
“อ๊า!!!!” คนตัวสูงร้องครางลั่นออกมาพร้อมๆ กับของเหลวขาวขุ่นที่พุ่งมาเปื้อนตามใบหน้าและลำตัวของผม ผมแอบแลบลิ้นไปชิมรสชาติของสิ่งนั้นจากบริเวณที่มันกระเด็นมาเปื้อนข้างริมฝีปาก
หวานใช้ได้...
แจมินยืนยิ้มให้ผมด้วยรอยยิ้มหวานแบบนั้นทำเอาผมมีความสุขจนเกินจะพูดออกมาเป็นคำพูดได้ เขาคว้าหยิบเอาทิชชูมาเช็ดคราบเปื้อนออกจากร่างกายตัวเองก่อนจะเดินมาเช็ดทำความสะอาดให้ผม
“ขอบคุณครับ” ผมเอ่ยบอก
“ไปอาบน้ำกันมั้ยครับ”
“ครับ”
พอผมตอบรับเขาก็คว้าข้อมือผมแล้วดึงให้ผมลุกขึ้นก่อนจะพาเดินเข้าห้องน้ำไป พวกเราทั้งคู่ใช้เวลาอยู่ในนั้นพักใหญ่ ต่างฝ่ายต่างช่วยกันอาบน้ำ ถูสบู่ให้กันและกัน ให้ความรู้สึกเหมือนแฟนมากเพราะแจมินดูแลผมเป็นอย่างดี ทีแรกก็แอบคิดว่าอาจจะได้จัดอีกสักรอบ แต่เพราะความโรแมนติกของอีกฝ่ายที่มอบให้ก็เลยทำให้ผมเลิกคิดเรื่องนั้นไปเสียหมด
ผมเดินออกมาแล้วรับผ้าขนหนูจากแจมินที่ยื่นมาให้เพื่อเช็ดตัวให้แห้งก่อนจะเดินไปหยิบเสื้อผ้าที่ถอดกองไว้ตรงโซฟาขึ้นมาสวมใส่แล้วหยิบมือถือขึ้นมาเปิดดูก็พบว่าไอ้มิคส่งข้อความมาหารัวๆ เพราะกลัวว่าผมจะเป็นอะไรไป ก็เลยกดสติ๊กเกอร์ส่งกลับไปว่าโอเค
“ผมให้ครับ” แจมินยื่นนาฬิกาเรือนหนึ่งให้ผม
“ไม่เอาครับ คุณจ่ายเงินให้ผมอย่างเดียวก็พอ”
“เงินก็ส่วนเงินครับ ส่วนนี่เป็นของขวัญที่ทำให้ผมประทับใจครับ”
“ขอบคุณครับ” ผมรับเอาไว้เพราะยี่ห้อนี้มันหลักแสน แต่ที่ผมทำเป็นไม่อยากรับตั้งแต่ทีแรกนั้นก็เพราะว่าต้องวางฟอร์มเสียหน่อยจะได้ดูไม่กระหายในทรัพย์สินมากเกินไป แม้ผมจะเป็นพวกวัตถุนิยมก็ตาม
“เอิร์ธ” แจมินเรียกผม
“ครับ?”
“ผมถามอะไรหน่อยได้มั้ยครับ”
“ว่าไงครับ” ผมหันไปหาเพื่อตั้งใจฟัง
“ถ้าผมจะให้เอิร์ธมาอยู่กับผมได้มั้ย”
“หมายความว่าไงครับ” ผมถามอย่างสงสัย
“ผมจะจ่ายเงินให้คุณเป็นรายเดือน คุณมาอยู่กับผมสักสามเดือน”
“ต้องถามเจ๊เปรี้ยวก่อนนะครับ ผมตัดสินใจเองไม่ได้” ผมบอกปัดเพราะไม่อยากรับดีลนี้ก่อนจะเดินไปคว้ากระเป๋าเป้ขึ้นสะพายเพื่อเตรียมที่จะกลับบ้าน
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเจ๊เปรี้ยวครับ ผมจะจ้างให้คุณมาเป็นแฟนผมสามเดือน ผมให้เดือนละสองแสนแลกกับการไม่ต้องไปทำงานที่ร้านสามเดือน”
“เอ่อ...”
“สนใจมั้ยครับ”
เอาจริงๆ ข้อเสนอก็น่าสนใจมาก ได้คบกับคนหน้าตาดีสไตล์เกาหลีแบบนี้แถมยังได้เงินอีกด้วยแต่ก็อย่างว่าถ้าให้แค่เดือนละสองแสนเนี่ยผมว่ามันน้อยไปหน่อย ลำพังเวลาทำงานที่ร้านถ้าผมรับแขกวีไอพีได้คนละห้าหมื่นผมทำแค่สี่ครั้งก็ได้สองแสนแล้ว ถ้าผมรับแขกวีไอพีมากกว่าสี่คนในหนึ่งเดือนยังไงผมก็ได้มากกว่านี้อยู่แล้ว ไม่รวมบรรดาของกำนัลแบรนด์เนมราคาแพงที่ผมจะได้อีก
เพราะฉะนั้นข้อเสนอนี้ผมว่าไม่โอเค...
“ไม่เป็นไรดีกว่าครับ ขอบคุณที่สนใจนะครับ”
“น่าเสียดายจัง” แจมินทำหน้างอน ไอ้บ้าเอ๊ย! น่ารักชะมัด
“งั้นถ้าวันไหนคิดถึง หรืออยากสนุกกันอีกก็ไลน์มาหาก็ได้นะครับ” ผมพูดจบก็เปิดไลน์แล้วโชว์คิวอาร์โค้ดให้แจมินแสกนไอดีเก็บเอาไว้เผื่อติดต่อกันภายหลัง
“ก็ได้ครับ” เขาตอบรับแล้วยิ้มกว้างก่อนจะพาผมลงไปส่งกลับบ้านที่ด้านล่าง