เรียนไปก็ปวดหัว มีผัวก็ปวด... งั้นถ้าจะต้องทนปวด... ก็ขอปวดแบบได้เงินด้วยละกัน! เลิศๆๆๆๆ

เอิร์ธเด็กเอ็นท์ - บทที่ 26 หรือว่าจะเลิก โดย Run_Kantheephop @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,ซาดิส & มาโซฯ,วัยว้าวุ่น,ยุคปัจจุบัน,ไทย,PWP,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เอิร์ธเด็กเอ็นท์

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,ซาดิส & มาโซฯ,วัยว้าวุ่น,ยุคปัจจุบัน,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

PWP

รายละเอียด

เอิร์ธเด็กเอ็นท์  โดย Run_Kantheephop @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เรียนไปก็ปวดหัว มีผัวก็ปวด... งั้นถ้าจะต้องทนปวด... ก็ขอปวดแบบได้เงินด้วยละกัน! เลิศๆๆๆๆ

ผู้แต่ง

Run_Kantheephop

เรื่องย่อ

เอิร์ธเด็กเอ็นท์

Mr. Host Club

[PWP]

Written by Darkriku93

เปิดเรื่อง 04/01/2023

ประกาศ!!!

นิยายเรื่องนี้เป็นแนว PWP ไม่เน้นความสมเหตุสมผลสักเท่าไหร่ อ่านเอาฟีลลิ่ง อ่านเอามันเฉยๆ น้าาาาา

สารบัญ

เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -Prologue บทนำ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 1 ปัญหาชีวิต,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 2 หนี,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 3 เข้าสู่วงการ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 4 เริ่มเลย,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 5 เข้าสังกัด,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 6 วันแรกในบาร์,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 7 ค้นพบหนทางใหม่,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 8 ผ่านไปได้ด้วยดี,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 9 บ่อกุ้งสะดุ้งรัก,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 10 แกะกุ้งเสียหน่อย,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 11 ปลดปล่อยสักหน่อย,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 12 รับงานนอก,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 13 พวกตำรวจมันชอบความรุนแรง,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 14 รับงานแทน,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 15 ได้โบนัส,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 16 เทิร์นรุกดูสักหน่อย,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 17 แรกเจอ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 18 ถูกตาต้องใจ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 19 อาชาคือม้าทรงพลัง,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 20 อาชาคือม้าทรงพลัง 2,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 21 เกาหลีเขาซื้อฉันแล้ว!,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 22 เกาหลีเขาซื้อฉันแล้ว 2,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 23 ไม่รู้อิจฉาหรือว่าน้อยใจ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 24 ติดอกติดใจ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 25 หน้ามือเป็นหลังมือ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 26 หรือว่าจะเลิก,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 27 ไหนว่าจะพัก,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 28 เอาวะ! ลุย!!,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 29 ไม่ได้ตั้งใจ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 30 ครั้งแรกก็ติดใจเสียแล้ว,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 31 นี่เดทปะเนี่ย!?,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 32 ครับเชฟ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 33 เลอะเทอะไปหมด,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 34 งานนอกค้างคืน,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 35 แขกคนใหม่,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 36 เวลาส่วนตัว,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 37 เซ็กส์บนรถก็น่าสนุกดีเหมือนกัน,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 38 Outdoor ครั้งแรก,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 39 เรือ (ยอร์ช) สำราญ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 40 ขอแจมหน่อย,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 41 แขกพิเศษ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 42 เดินเล่นหย่อนใจ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 43 ริมหาด,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 44 แปลกๆ ละ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 45 เอาอีกแล้ว,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 46 คิดไม่ผิด,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 47 ระเบียงร้อนรัก,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 48 ระเบียงร้อนรัก 2,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 49 อะไรกันวะเนี่ย!?,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 50 โดนรุม,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 51 ความจริงปรากฏ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 52 เรื่องเชี่ยอะไรวะเนี่ย!?,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 53 โรงละคร,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 54 โรงละคร 2,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 55 โรงละคร 3,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 56 เป็นอะไรของเขา,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 57 ลองอะไรใหม่ๆ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 58 นายทาส,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 59 ป่วยซะแล้ว,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 60 อาการเป็นไงไหนบอกหมอ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 61 หมอจะฉีดยาให้นะ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 62 Mission สุดท้าย,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 63 กลางแจ้ง,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 64 กัดฟันทนอึดใจสุดท้าย,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 65 กลับมาแล้ว!,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 66 ที่พักใจ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 67 เปิดประสบการณ์,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 68 เรียนรู้กันและกัน,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 69 ได้รับยารักษาใจ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 70 ทำงานได้แล้ว,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 71 จะเอายังไง,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 72 รู้ใช่ไหมว่าควรทำยังไง,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 73 ขอจัดสักหน่อย,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 74 เอาไงเอากัน,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 75 ยอมรับหัวใจ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -Special Chapter 1,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -Special Chapter 2

เนื้อหา

บทที่ 26 หรือว่าจะเลิก

ผมสะลึมสะลือค่อยๆ ตื่นลืมตาขึ้นมาในห้องที่แปลกตาไป ผนังและเพดานไม่คุ้นเคยก็เลยแน่ใจว่าไม่ใช่ห้องที่ผมอยู่กับไอ้มิคแน่ๆ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าที่ไหนเหมือนกัน ผมเลยพยายามขยับตัวเพื่อจะลุกขึ้นนั่งแต่ก็ลำบากอยู่เหมือนกันเพราะมันรู้สึกเจ็บไปหมดทั่วทั้งตัว

“ค่อยๆ นะ” เสียงคุ้นหูดังขึ้นก่อนจะปรากฏตัวเจ้าของเสียงที่รีบเดินเข้ามาประคองผมให้นั่งเอนหลังพิงกับหัวเตียง

“ต่อ?”​

“อื้อ”

“มึงมาอยู่นี่ได้ไง” ผมเอ่ยถามอย่างสงสัย

“ก็นี่มันห้องกู”

“งั้น... กูมาอยู่นี่ได้ไง” 

“ก็กูเข้าไปช่วยมึงไว้ไง” ต่อพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งแล้วคว้าเอาแก้วน้ำมายื่นให้ผมดื่มเข้าไปเพื่อแก้กระหาย

“อย่างมึงเนี่ยนะ!” 

“เออดิ อย่างกูเนี่ยแหละ ดีนะที่วันนั้นกูเกิดอยากสอดรู้สอดเห็นขึ้นมาก็เลยแอบขึ้นไป ถึงได้ยินเสียงมึงร้องขอความช่วยเหลือนั่นแหละ ก็เลยรีบตามพี่พนักงานในร้านมาช่วยกันพังประตูห้องแล้วจับไอ้เหี้ยนั่นส่งตำรวจไปละ กูนึกว่ามึงจะตายซะแล้ว”

“นี่มึงจะมาแอบดูกูโดนเอาเหรอ” ผมถามด้วยความแปลกใจ

“เออ แล้วมึงจะทำไม”

“ไอ้เวร”

“แล้วถ้าวันนั้นกูเสือกไม่ได้อยากไปแอบดู กูถามหน่อยว่ามึงจะรอดออกมามั้ย” มันเอ่ยพูดเสียงแข็งราวกับจะทวงบุญคุณ

“ขอบใจ” ผมพูดเสียงอ่อนเพราะรู้สึกผิดที่มาสงสัยเรื่องแบบนี้ในเวลาที่ไม่ควร

สายตาของผมหันมองไปทั่วห้องก่อนจะหันกลับมามองตัวเองแล้วพบว่าเสื้อผ้าของผมถูกเปลี่ยนเป็นอีกชุดที่ไม่เคยเห็นมาก่อนผมก็เลยเอะใจว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้หันไปถามคนข้างๆ มันก็ตอบกลับมาราวกับรู้ว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่

“กูเปลี่ยนให้เองอะ” ไอ้ต่อเอ่ยพูดขึ้น

“...”

“กูไม่ฉวยโอกาสจากมึงหรอกน่า”

“เออ”

ผมถอนหายใจแล้วพยายามขยับตัวให้นั่งสบายอีกครั้งโดยมีแววตาเป็นห่วงจากต่อคอยมองอยู่ตลอด ผมเองก็ไม่ได้อะไรมากมายนักหรอกแต่พอมันจ้องไม่หยุดแบบนี้ผมเองก็รู้สึกประหลาดอยู่เหมือนกัน

“มีไร มองอยู่ได้” ผมถามเพราะทนต่อไปไม่ไหว

“มึงอยากทำอาชีพนี้จริงๆ เหรอวะ” จู่ๆ ไอ้ต่อก็เอ่ยถามขึ้น ทำเอาผมไปต่อไม่ถูก

“ทำไมวะ”

“ก็กูเป็นห่วง”

“เป็นห่วงกูทำไม” ผมถามย้ำเพราะไม่เข้าใจในสิ่งที่อีกคนถาม

“กูอยู่ตรงนี้มานาน มาช่วยป้าเปรี้ยวแกทุกปิดเทอม กูเห็นมาหมดแล้วว่าใครอะไรยังไง อาชีพนี้มันไม่ยั่งยืนหรอกนะเว้ย” ไอ้ต่อเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ผมที่ได้ฟังแบบนั้นก็เริ่มรู้สึกเหมือนกำลังโดนพ่อด่ายังไงยังงั้น 

ประเด็นคือผมเป็นมนุษย์จำพวกที่ไม่ชอบให้ใครมาบ่นเรื่องที่กำลังทำอยู่เพราะรู้สึกเหมือนโดนดูถูกว่าสิ่งที่ทำมันไม่โอเค แต่แล้วไงล่ะก็ชีวิตใครชีวิตมันมั้ยล่ะ

ผมเองก็ยังไม่เคยจะยุ่งกับชีวิตของไอ้ต่อมันเลยแม้แต่น้อยก็เลยแอบโกรธนิดหน่อยที่อยู่ๆ มันก็มาพูดแบบนี้กับผม มันไม่เคยตกอยู่ในจุดเดียวกับผมมันจะไปรู้ได้ไงว่าชีวิตก่อนหน้านี้ของผมมันลำบากขนาดไหน ตอนนี้ตั้งแต่ผมมาทำงานกับเจ๊เปรี้ยว เข้าสู่วงการบาร์โฮสต์ชีวิตผมก็ดีขึ้นมาก ได้เงินได้ทองจนชีวิตสุขสบายไม่ต้องง้อใครอีก

ผมลุกขึ้นยืนด้วยความไม่พอใจแสดงอาการหงุดหงิดออกมาอย่างชัดเจนก่อนจะพยายามจะเดินออกจากห้องของมันแต่สุดท้ายก็โดนมันรั้งเอาไว้เสียก่อน

“เห้ย! ใจเย็นดิ อย่าเพิ่งโกรธ”

“อะไรอีก” ผมเหวี่ยงออกจากมือของมันแล้วมองหน้ามันนิ่ง

“ที่พูดเนี่ยเพราะเป็นห่วงจริงๆ นะเว้ย” 

“เออ กูรู้ตัวน่าว่ากำลังทำอะไรอยู่” ผมบอกแล้วคว้ากระเป๋าเตรียมที่จะเดินออกจากห้องของไอ้ต่อ จริงๆ ก็รู้แหละว่ามันเป็นห่วง เป็นถึงหลานเจ้าของร้านแล้วจะมาห้ามตัวท็อปอย่างผมไม่ให้ทำงานที่ร้าน ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องเป็นห่วงมันจะมาพูดทำไม แต่ก็นั่นแหละความดื้อของผมอะเนอะ ไม่ยอมฟังง่ายๆ หรอก เสียฟอร์มไอ้เอิร์ธตัวท็อปหมด

“เดี๋ยว” มันเอ่ยพลางเดินเข้ามาคว้าหมับเข้าที่ข้อมือของผม

“อะไรอีก”

“ไปกินข้าวกัน”

“ห้ะ?”

“ไปกินข้าวกัน มึงไม่หิวหรือไง นี่บ่ายของอีกวันแล้วนะเว้ย” 

โครกกก!!

เสียงท้องร้องของผมก็เสือกจะมาร้องขึ้นมาในจังหวะนี้แบบพอดิบพอดี เอาซะผมทำหน้าไม่ถูก ไอ้ที่ตอนแรกในหัวคิดไว้ว่าจะปฏิเสธมันเพื่อที่จะหนีกลับบ้านแต่ก็ทำไม่ได้ซะแล้วเพราะหลักฐานมันทนโท่เด่นชัดออกมาซะขนาดนี้ ก็เลยต้องจำยอมก้มหน้าไปกินข้าวกับมัน

บรรยากาศแถวนี้แปลกตากว่าแถวคอนโดที่ผมอยู่มาก มันดูเรียบร้อยเป็นระเบียบและผู้คนไม่ได้พลุกพล่านจนมากเกินไป อาจเพราะเป็นโซนธุรกิจที่มีราคาค่อนข้างแพงก็เลยทำให้เหมือนได้คัดกรองสิ่งแวดล้อมและผู้คนที่อยู่แถวนี้ไปด้วยในตัว รู้สึกไม่ชินเพราะคุ้นเคยกับความวุ่นวายมาโดยตลอด แต่ก็เอาเถอะแบบนี้ก็รู้สึกดีเหมือนกัน เหมือนได้ผ่อนคลายไปในตัวเพราะชีวิตไม่ต้องแย่งชิงหรือเบียดเสียดอะไรกับใคร

“จะกินอะไร” ต่อเอ่ยถามผมเมื่อเดินลงมาถึงโซนร้านอาหารตามสั่งที่มีเยอะจนเลือกไม่ถูก

“อยากกินอะไรร้อนๆ อะ”

“ก๋วยเตี๋ยวมั้ย ร้านนั้นอร่อยนะ” มันชี้ไปยังร้านที่อยู่ปลายสุดของแถว

“อือ เอาเหอะ หิวละ” 

ทั้งผมและไอ้ต่อพากันเดินไปสั่งก๋วยเตี๋ยวที่ร้านนั้น ไม่นานแม่ค้าก็ยื่นชามก๋วยเตี๋ยวทั้งสองชามมาให้พวกผม จากนั้นจึงพากันไปหาที่นั่งตรงโต๊ะว่างบริเวณหน้าร้าน

ควันสีขาวลอยฟุ้งอยู่เหนือชามก๋วยเตี๋ยวบ่งบอกถึงความร้อนของอาหารได้เป็นอย่างดี ผมตักเครื่องปรุงบนโต๊ะมาใส่เพิ่มลงในชามอีกเล็กน้อยเพื่อให้รสชาติถูกปากมากขึ้นจากนั้นจึงใช้ตะเกียบและช้อนคนทุกอย่างให้เข้ากันแล้วตักน้ำซุปขึ้นมาชิม

“เป็นไง” ต่อถามเมื่อเห็นว่าผมตักน้ำซุปเข้าปาก

“อร่อยดี” 

“คล่องคอมั้ยล่ะ” 

“เจ็บคออะดิ” 

“จะไปหาหมอหน่อยมั้ย” ต่อถามพลางชี้ให้ดูร่องรอยตามร่างกายของผมที่ตอนนี้มันเด่นชัดขึ้นมาเพราะเจอแสงสว่างในตอนกลางวันสาดเข้ามาแบบเต็มๆ ไอ้พวกรอยที่ตอนแรกอยู่ในห้องแล้วผมมองไม่เห็นในตอนนี้คือกระจ่างชัดเต็มตา

“ไอ้แจมิน ไอ้เหี้ย” ผมสบถด่าเมื่อสังเกตเห็นรอยตามตัว รวมถึงบริเวณใบหน้าและลำคอจากการที่ผมเปิดกล้องหน้าของมือถือแล้วส่องดู นี่มันไม่ใช่คนแล้วทำผมได้ขนาดนี้

“กูเห็นตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว แต่ป้ากูบอกว่าไม่ให้ไปส่งโรงบาลด้วยเหตุผลไร้สาะระอะไรก็ไม่รู้ กูฟังไม่ทันหรอกเพราะมัวแต่ตกใจอยู่ 

“ช่างมันเหอะ กูไม่เป็นไรหรอก พักอีกไม่กี่วันก็คงหายแหละ” 

“แล้วนี่มึงคิดจะทำงานนี้ไปอีกนานแค่ไหนวะ” ไอ้ต่อมันถามขึ้นทำเอาก๋วยเตี๋ยวที่กำลังอร่อยแทบจะหมดความอร่อยไปในทันที

“ถามงี้อีกแล้วนะ” ผมตอบกลับเสียงแข็ง

“อันนี้กูถามจริงๆ อยากรู้”

“ก็ทำไปเรื่อยๆ จนกว่าจะไม่ไหวล่ะมั้ง” ผมบอกพลางคีบก๋วยเตี๋ยวเข้าปาก

“เอาจริงดิ”

“เออ กูไม่รู้จะไปทำอะไรนี่หว่า อาชีพนี้มันได้เงินเยอะนะเว้ย ขอกูกอบโกยก่อนละกัน ถ้ามีเงินเก็บจนตั้งตัวได้กูก็จะไปซื้อบ้านสักหลังแล้วทำธุรกิจส่วนตัวสักอย่าง” 

“งั้นจนกว่าจะถึงวันนั้นก็ดูแลตัวเองให้ดีๆ แล้วกัน” ไอ้ต่อบอกแล้วก็เงียบไปเพราะก้มลงไปกินก๋วยเตี๋ยวในชาม

ผมเองได้ฟังแบบนั้นก็ไม่ได้เข้าใจมากนักหรอกเพียงแต่คิดว่าก็ดูแลตัวเองดีอยู่แล้วทุกวัน แล้วก็ป้องกันตัวเองเป็นอย่างดีด้วยไม่มีทางติดโรคจากลูกค้าอย่างแน่นอน แต่ต่อไปก็คงต้องสกรีนลูกค้าให้มากขึ้นเพราะถ้าเจอลูกค้าแบบไอ้แจมินอีกในคราวหน้าผมอาจจะไม่โชคดีมีคนมาช่วยชีวิตแบบนี้ก็ได้

“ขอบใจนะ” ผมเอ่ยพูดขึ้นแล้วมองหน้าคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

“ขอบใจเรื่อง?”

“เรื่องที่ช่วยกูออกมาไง ไม่งั้นกูตายอยู่ในห้องนั้นแน่ๆ” 

“ร้องขนาดนั้น ถ้าไม่ช่วยก็ใจดำเกินไปแล้ว” ไอ้ต่อมันพูดแล้วอมยิ้ม 

เอาจริงๆ มันก็แอบน่ารักอยู่เหมือนกันนะเนี่ย ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาแต่ละครั้งเราทั้งคู่จะเจอกันในสถานการณ์ที่ไม่น่าพึงพอใจสักเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยครั้งนี้ก็ต้องขอบคุณมันจริงๆ นั่นแหละ นับว่าเป็นผู้มีพระคุณของผมเลยก็ว่าได้

            ก๋วยเตี๋ยวของเราทั้งคู่หมดชามไปแล้วในตอนนี้ ผมยกน้ำเปล่าที่ไอ้ต่อเดินไปซื้อมาให้เมื่อครู่จนเกือบหมดขวดก่อนจะเผลอเรอออกมาเสียงดังแบบไม่ได้ตั้งใจ ไอ้ต่อที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเลยขำเอิ๊กอ๊ากออกมาเพราะไม่คิดว่าจะได้เห็นมุมแบบนี้จากผม

“วันนี้ก็พักสักวันไม่ต้องไปทำงานก็ได้เนอะ” ต่อบอกขณะที่เรากำลังจะลุกออกจากโต๊ะ

“อือ ก็คงต้องงั้นแหละ”

“จะให้ไปส่งมั้ย” ไอ้ต่อถาม

“ไม่ต้องอะ มึงขึ้นห้องไปเถอะ เดี๋ยวกูกลับเอง” 

“งั้นเอานี่ไป” ไอ้ต่อรูดซิปแล้วถอดเสื้อแจ๊คเก็ตแขนยาวของตัวเองออกก่อนจะโยนมาให้ผม “ใส่ไว้จะได้ช่วยปิดไอ้รอยพวกนี้ไว้ได้บ้าง”

“เออ ขอบใจมากเว้ย”

“กลับเองได้แน่นะ”

“เออ ขึ้นไปได้แล้ว” ผมเอ่ยบอกพลางโบกมือไล่ ไอ้ต่อก็เลยยอมที่จะเดินกลับไปแม้จะมีท่าทีอิดออดอยู่เล็กน้อยก็ตาม

ผมก็ได้แต่มองตามหลังมันไปจนลับตา จากนั้นผมก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาเบาๆ ก็ไอ้ตอนแรกที่เคยรู้สึกไม่ชอบขี้หน้ามันแต่กลับกลายเป็นว่าพอถึงเวลาที่ผมต้องการความช่วยเหลือมากที่สุดก็เป็นมันนั่นแหละที่ยื่นมือเข้ามาช่วยไว้ได้ทันเวลาพอดี นี่แหละน้าเขาถึงบอกว่าอย่าเพิ่งตัดสินใครถ้ายังไม่รู้จักเขาดีพอ