เรียนไปก็ปวดหัว มีผัวก็ปวด... งั้นถ้าจะต้องทนปวด... ก็ขอปวดแบบได้เงินด้วยละกัน! เลิศๆๆๆๆ
ชาย-ชาย,ซาดิส & มาโซฯ,วัยว้าวุ่น,ยุคปัจจุบัน,ไทย,PWP,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เอิร์ธเด็กเอ็นท์เรียนไปก็ปวดหัว มีผัวก็ปวด... งั้นถ้าจะต้องทนปวด... ก็ขอปวดแบบได้เงินด้วยละกัน! เลิศๆๆๆๆ
เอิร์ธเด็กเอ็นท์
Mr. Host Club
[PWP]
Written by Darkriku93
เปิดเรื่อง 04/01/2023
ประกาศ!!!
นิยายเรื่องนี้เป็นแนว PWP ไม่เน้นความสมเหตุสมผลสักเท่าไหร่ อ่านเอาฟีลลิ่ง อ่านเอามันเฉยๆ น้าาาาา
แสงไฟหลากสีจากดวงไฟทั้งบนเพดานและเวทีสาดส่องไปทั่วทั้งร้าน เสียงเพลงจากดีเจที่เปิดแผ่นมิกซ์อยู่ด้านบนเวทีก็ดังกึกก้องไปทั่วจนแทบจะคุยกันไม่ได้ยิน แม้จะยื่นหน้าไปใกล้กันแต่ก็ยังต้องตะโกนคุยกันอยู่ดี
ผมนั่งอยู่ที่บาร์กำลังจิบคอกเทลตัวดังของร้านหลังจากที่นั่งรอลูกค้า ไม่รู้เหมือนกันว่าวันนี้มันเป็นวันอัปมงคลหรืออะไรแต่ลูกค้าไม่เลือกผมเลยตั้งแต่เปิดร้าน อาจเพราะเป็นวันธรรมดาและลูกค้าที่มาก็เป็นเพียงลูกค้าขาจรที่ไม่ได้มีกำลังซื้อมากสักไหร่นัก ผมก็เลยต้องนั่งแห้งอยู่กับพี่บาร์เทนเดอร์ที่บาร์ด้วยความเหงาหงอย
“ไม่มีลูกค้าเหรอวันนี้” ไอ้ต่อที่เดินออกมาจากหลังร้านเอ่ยทัก
“ถ้ามีกูจะมานั่งอยู่ตรงนี้มั้ยล่ะ” ผมหันไปบ่นกับมันตาเขม็ง
“ใจเย็น กูก็แค่ถามเล่นๆ มึงจะมาโมโหใส่กูทำไม”
“สงสัยจะไม่ใช่วันของกูมั้ง” ผมบอกแล้วยกแก้วคอกเทลขึ้นมาจิบอีกครั้ง แต่นับว่าเป็นอึกที่ใหญ่อยู่เหมือนกันเพราะทั้งพี่บาร์เทนเดอร์ทั้งไอ้ต่อต่างก็ตาโตกันใหญ่ พลางเอ่ยปากบอกว่าแดกอย่างงี้เปลืองฉิบหาย แต่ผมก็ไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่เพราะไอ้ที่กินๆ เนี่ยก็เป็นเงินที่ได้จากลูกค้ามาทั้งนั้น แบ่งแค่เศษเงินมาแดกเหล้าคงไม่ได้ทำให้ผมล่มจมหรอก
“เอิร์ธ!” เสียงผู้หญิงคุ้นหูตะโกนเรียกก่อนที่จะมีมือมาสัมผัสที่ไหล่ของผมจนต้องหันไปหา
“ว่าไงเจ๊” ผมเอ่ยทักเมื่อหันไปเห็น
“ได้เวลาของมึงละ”
“มีลูกค้าเหรอเจ๊” ผมกระดกคอกเทลที่เหลือจนหมดแก้วแล้วเช็ดปากแบบลวกๆ
“เออ วีไอพี เป็นเชฟมิชลินด้วย”
“โปรไฟล์ปังว่ะ” ไอ้ต่อเอ่ยแซว
“รีบไป อย่าให้ลูกค้ารอนาน” เจ๊เปรี้ยวบอกอีกครั้งแล้วเดินออกไปรับแขกที่ด้านหน้าร้านส่วนผมก็ลุกเดินไปยังโต๊ะโซนวีไอพีทันที
ผมหยิบมือถือขึ้นมาเปิดกล้องหน้าเพื่อเช็กหน้าผมอีกครั้งก่อนจะไปเจอหน้าลูกค้าเพราะอยากให้อีกฝ่ายประทับใจได้มากที่สุด พอเห็นว่าสภาพภายนอกของผมมันดูดีพร้อมใช้งานแล้ว ผมก็เลยเก็บมือถือลงกระเป๋ากางเกงก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกแล้วเดินตรงเข้าไปที่โต๊ะของลูกค้าวีไอพีคนนั้นทันที
“สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้พลางยิ้มหวานก่อนจะเดินไปนั่งลงด้านข้าง
“เอิร์ธใช่มั้ย”
“ใช่ครับ แล้วพี่ชื่อ...?” ผมเอ่ยถามกลับ
“เรียกพี่ว่าเชฟต้อมก็ได้ครับ” เขายิ้มแล้วจยับตัวเข้ามาใกล้จนขาของเราทั้งคู่สัมผัสกัน
“ครับ เชฟ... มาครั้งแรกเหรอครับ”
“ใช่ครับ พอดีเพื่อนแนะนำมา”
“อยากดื่มอะไรหน่อยมั้ยครับ”
“พี่สั่งไปแล้วล่ะ”
“กับแกล้มล่ะครับ” ผมถามต่อ
“พี่สั่งไว้หมดแล้วครับ” เขายกมือขึ้นมาโอบเอวผมแล้วยื่นหน้ามาใกล้จนริมฝีปากของเขาสัมผัสที่ใบหูของผม “เดี๋ยวเขาเอาไปเสิร์ฟให้ที่ห้องนวดครับ”
“อะ...อ่อครับ”
“เราไปกันเลยมั้ยล่ะ” ไอ้เชฟนั่นพูดจบก็ลุกขึ้นโดยลากผมให้ยืนตามไปด้วย อะไรมันจะฉับพลันทันด่วนขนาดนี้ ไหนบอกว่ามาครั้งแรกไงวะ ทำไมมันถึงได้เตรียมพร้อมขนาดนี้สั่งทุกอย่างไว้แล้วเสร็จสรรพ ผมไม่ต้องทำอะไรเลยนอกจากเทคแคร์มันอย่างเดียว
“ครับ” ผมตอบรับด้วยสีหน้างงจนอีกฝ่ายสังเกตได้ เขาหัวเราะออกมาเล็กน้อยแล้วกระชับแขนที่โอบเอวผมให้แน่นขึ้นกว่าเดิม จากนั้นพนักงานเสิร์ฟประจำโต๊ะก็พาผมกับไอ้เชฟนั่นเดินขึ้นห้องนวดไป
ผมก้าวขาเดินตามด้วยความรู้สึกประหลาด ไม่รู้ว่าเพราะเจอแขกที่มีรสนิยมประหลาดมาหลายคนจนมีประสบการณ์หรือเพราะสัญชาตญาณในตัวเองที่มันบ่งบอกว่าลูกค้าคนข้างๆ ไม่ใช่คนปกติอย่างแน่นอน แววตาและรอยยิ้มรวมถึงพลังงานบางอย่างที่ส่งออกมามันดูแฝงไปด้วยเลศนัยบางอย่าง
ผมเอื้อมมือไปจับลูกบิดประตูห้องนวดแล้วออกแรงบิดก่อนจะผลักมันเข้าไป สองขาของผมก้าวเข้าไปด้านในก่อนที่สายตาทั้งสองข้างของผมจะต้องตกตะลึงเมื่อพบว่าในห้องนั้นมีโต๊ะวางอยู่กลางห้อง ซึ่งบนโต๊ะนั้นถูกจัดวางไปด้วยอาหารและเครื่องดื่มเมนูต่างๆ จนแน่นขนัด
“โห... นี่คือที่พี่สั่งเหรอครับ” ผมถามอย่างประหลาดใจ
“ใช่...”
“หิวเหรอครับ” น้ำเสียงผมเอ่ยถามอีกฝ่ายไปอย่างติดตลก
“ประมาณนั้น ถอดเสื้อผ้าออกสิครับ” ไอ้เชฟต้อมเอ่ยบอกผมพร้อมยกยิ้มมุมปากในขณะที่หย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้ มือข้างหนึ่งของมันปลดกระดุมเสื้อตัวเองแล้วค่อยๆ ถอดออกแล้วเขวี้ยงไปมุมหนึ่งของห้องจากนั้นมันก็หันมาดึงแขนผมให้เข้าไปใกล้เมื่อเห็นว่ายังยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น
“เชฟจะทำไรครับ”
“ก็พี่บอกให้หนูถอดเสื้อผ้า แต่หนูไม่ยอมถอดนี่นา เดี๋ยวก็เปื้อนหมดหรอก” มือของมันล้วงเข้าไปด้านในเสื้อผ้าของผมแล้วค่อยๆ เลื่อนขึ้นเพื่อปลดเสื้อออกจากร่างกายของผม พอเสร็จจากด้านบนมันก็หันไปสนใจด้านล่างของผมต่อ มือหนาของมันปลดกระดุมกางเกงของผมแล้วปล่อยลงไปกองกับพื้นเผยให้เห็นกางเกงในสีฟ้าอ่อนของผมที่กำลังปิดบังส่วนลับที่มันยังคงสงบอยู่
“มือไวจังนะครับ แป๊บเดียวผมหมดตัวซะแล้ว” แม้ภายในหัวของผมจะยังตีกันสับสนกับเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นแต่ก็ยังพยายามทำใจดีสู้เสือ
เอาวะ... ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ลุยต่อละกัน
“หมดตัวอะไร ก็ยังเห็นมีกางเกงในอยู่เลย”
“แหม เชฟก็...” ผมพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนพลางส่งสายตายั่วยวนก่อนจะใช้นิ้วเรียวของตัวเองเริ่มเกี่ยวกระหวัดเข้าไปภายในเนื้อผ้าแล้วดึงกางเกงในตัวน้อยนั้นลงไปที่พื้นแล้วยกขาเพื่อเหวี่ยงมันออกไปไกลตัว
“น่ากินจังนะครับ” ไอ้เชฟต้อมส่งสายตาดุจเหยี่ยวที่กำลังจะพิฆาตเหยื่อมาให้ผม จากนั้นมันก็ลุกขึ้นยืนแล้วถอดกางเกงของมันออกไปจนในที่สุดสัดส่วนของมันก็เปิดเผยต่อสายตาของผมแบบไม่มีอะไรปิดบังทั้งสิ้น
เออ... มีของดีอยู่เหมือนกันแฮะ
เห็นแล้วก็หิวขึ้นมาทันที แต่ไม่ใช่หิวอาหารบนโต๊ะนะ หิวไอ้สิ่งนั้นที่อยู่บนตัวเชฟมากกว่า
ซ่า!!
“เชี่ยยยย” ผมร้องลั่นเมื่ออีกฝ่ายคว้าขวดไวน์มาเปิดแล้วสาดใส่ผมจนเปียกไปทั้งตัว “ทำไรเนี่ยพี่!!”
“ไม่ต้องตกใจนะ พี่แค่จะเพิ่มรสชาติให้น้องเฉยๆ” มันพูดจบก็พุ่งตรงเข้ามาผลักผมลงบนเตียงทันที แล้วขึ้นมานั่งคร่อมบนตัวผม มือสองข้างของผมถูกมันใช้มือหนาตรึงเอาไว้จนขยับไม่ได้
ไอ้เชฟต้อมค่อยๆ ก้มลงยังบริเวณผิวหน้าอกแล้วกดริมฝีปากลงบนนั้นก่อนจะออกแรงดูดแผ่วเบา เขาเคลื่อนไปเรื่อยๆ เพื่อชิมรสชาติของไวน์ที่เปื้อนอยู่บนผิวของผม กลิ่นไวน์อ่อนที่ลอยมาแตะจมูกของผมผสมกลมกลืนไปกับแรงดูดและลิ้นอุ่นที่ไอ้เชฟต้อมกำลังมอบให้มันปลุกเร้าอารมณ์ความต้องการภายในใจของผมให้ปะทุขึ้นมา
สองมือของผมเริ่มซุกซนไล้ไปตามแผ่นหลังของอีกฝ่าย ปลายนิ้วของผมกดจิกลงบนผิวของเชฟต้อมในทุกครั้งที่คนตัวสูงลงลิ้นหยอกล้อกับยอดอกของผม ความเสียวกระสันกระตุ้นให้ผมแอ่นอกรับในทุกครั้ง
“อื้อ” ผมเผลอครางออกมาเมื่ออีกฝ่ายออกแรงดูดที่ยอดอกผมแรงกว่าเดิม
เขาเลื่อนใบหน้าขึ้นมาจากหน้าอกของผมแล้วประทับริมฝีปากลงบนริมฝีปากของผม ผมอ้าปากรับแล้วจูบตอบเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่อีกฝ่ายสอดลิ้นร้อนเข้ามาภายในโพรงปากของผมก็เลยทำให้ลิ้นของเราทั้งคู่ได้แวะทักทายกันพอให้ได้ลิ้มรสความหวานพอหอมปากหอมคอ
“แป๊บนะ” ไอ้เชฟต้อมลุกขึ้นเดินไปที่โต๊ะอาหารแล้วทิ้งให้ผมมองตามด้วยความงงก่อนที่มันจะเดินกลับมาพร้อมกับโยเกิร์ตรสธรรมชาติและผลไม้สดพวกเบอร์รี่กลับมาที่เตียง
“จะทำอะไรครับ” ผมเอ่ยถามเพราะไม่ไว้ใจ
“นอนเฉยๆ เหอะน่า”