เรียนไปก็ปวดหัว มีผัวก็ปวด... งั้นถ้าจะต้องทนปวด... ก็ขอปวดแบบได้เงินด้วยละกัน! เลิศๆๆๆๆ

เอิร์ธเด็กเอ็นท์ - บทที่ 34 งานนอกค้างคืน โดย Run_Kantheephop @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,ซาดิส & มาโซฯ,วัยว้าวุ่น,ยุคปัจจุบัน,ไทย,PWP,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เอิร์ธเด็กเอ็นท์

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,ซาดิส & มาโซฯ,วัยว้าวุ่น,ยุคปัจจุบัน,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

PWP

รายละเอียด

เอิร์ธเด็กเอ็นท์  โดย Run_Kantheephop @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เรียนไปก็ปวดหัว มีผัวก็ปวด... งั้นถ้าจะต้องทนปวด... ก็ขอปวดแบบได้เงินด้วยละกัน! เลิศๆๆๆๆ

ผู้แต่ง

Run_Kantheephop

เรื่องย่อ

เอิร์ธเด็กเอ็นท์

Mr. Host Club

[PWP]

Written by Darkriku93

เปิดเรื่อง 04/01/2023

ประกาศ!!!

นิยายเรื่องนี้เป็นแนว PWP ไม่เน้นความสมเหตุสมผลสักเท่าไหร่ อ่านเอาฟีลลิ่ง อ่านเอามันเฉยๆ น้าาาาา

สารบัญ

เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -Prologue บทนำ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 1 ปัญหาชีวิต,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 2 หนี,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 3 เข้าสู่วงการ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 4 เริ่มเลย,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 5 เข้าสังกัด,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 6 วันแรกในบาร์,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 7 ค้นพบหนทางใหม่,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 8 ผ่านไปได้ด้วยดี,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 9 บ่อกุ้งสะดุ้งรัก,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 10 แกะกุ้งเสียหน่อย,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 11 ปลดปล่อยสักหน่อย,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 12 รับงานนอก,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 13 พวกตำรวจมันชอบความรุนแรง,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 14 รับงานแทน,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 15 ได้โบนัส,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 16 เทิร์นรุกดูสักหน่อย,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 17 แรกเจอ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 18 ถูกตาต้องใจ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 19 อาชาคือม้าทรงพลัง,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 20 อาชาคือม้าทรงพลัง 2,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 21 เกาหลีเขาซื้อฉันแล้ว!,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 22 เกาหลีเขาซื้อฉันแล้ว 2,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 23 ไม่รู้อิจฉาหรือว่าน้อยใจ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 24 ติดอกติดใจ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 25 หน้ามือเป็นหลังมือ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 26 หรือว่าจะเลิก,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 27 ไหนว่าจะพัก,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 28 เอาวะ! ลุย!!,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 29 ไม่ได้ตั้งใจ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 30 ครั้งแรกก็ติดใจเสียแล้ว,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 31 นี่เดทปะเนี่ย!?,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 32 ครับเชฟ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 33 เลอะเทอะไปหมด,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 34 งานนอกค้างคืน,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 35 แขกคนใหม่,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 36 เวลาส่วนตัว,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 37 เซ็กส์บนรถก็น่าสนุกดีเหมือนกัน,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 38 Outdoor ครั้งแรก,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 39 เรือ (ยอร์ช) สำราญ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 40 ขอแจมหน่อย,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 41 แขกพิเศษ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 42 เดินเล่นหย่อนใจ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 43 ริมหาด,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 44 แปลกๆ ละ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 45 เอาอีกแล้ว,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 46 คิดไม่ผิด,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 47 ระเบียงร้อนรัก,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 48 ระเบียงร้อนรัก 2,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 49 อะไรกันวะเนี่ย!?,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 50 โดนรุม,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 51 ความจริงปรากฏ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 52 เรื่องเชี่ยอะไรวะเนี่ย!?,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 53 โรงละคร,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 54 โรงละคร 2,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 55 โรงละคร 3,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 56 เป็นอะไรของเขา,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 57 ลองอะไรใหม่ๆ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 58 นายทาส,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 59 ป่วยซะแล้ว,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 60 อาการเป็นไงไหนบอกหมอ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 61 หมอจะฉีดยาให้นะ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 62 Mission สุดท้าย,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 63 กลางแจ้ง,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 64 กัดฟันทนอึดใจสุดท้าย,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 65 กลับมาแล้ว!,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 66 ที่พักใจ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 67 เปิดประสบการณ์,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 68 เรียนรู้กันและกัน,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 69 ได้รับยารักษาใจ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 70 ทำงานได้แล้ว,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 71 จะเอายังไง,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 72 รู้ใช่ไหมว่าควรทำยังไง,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 73 ขอจัดสักหน่อย,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 74 เอาไงเอากัน,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 75 ยอมรับหัวใจ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -Special Chapter 1,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -Special Chapter 2

เนื้อหา

บทที่ 34 งานนอกค้างคืน

ผมกับไอ้มิคพากันนั่งรถมาถึงที่ร้านแต่หัววันเพราะอยากกินส้มตำร้านประจำที่อยู่ข้างบาร์ของเจ๊เปรี้ยว ปกติพวกเราสองคนมักจะมานั่งกินบ่อยๆ ก่อนจะเข้างานหรือไม่บางทีพวกเราก็พากันซื้อเข้าไปแบ่งกินกับเพื่อนคนอื่นในร้าน

            ป้าเจ้าของร้านยิ้มกว้างให้ผมกับไอ้มิคก่อนจะบอกให้รอแป๊บหนึ่งเพราะในเวลานี้มีลูกค้าต่อคิวยาวอยู่อีกประมาณสามสี่คน ร้านดังก็แบบนี้ถ้ามาผิดเวลาล่ะก็รอไปเหอะ บางวันรอจนถึงเวลาเข้างานยังไม่ได้กินก็มี

            ผมกับไอ้มิคยืนรออยู่พักใหญ่ โชคดีที่วันนี้เราตัดสินใจออกจากคอนโดมาเร็วหน่อยเพราะรู้ว่ายังไงก็ต้องมารอคิวที่หน้าร้านอีกนาน เพราะถ้าออกมาช้ากลัวจะไม่ทันได้กินก็ต้องไปเข้าร้านเสียก่อน วันนี้พวกผมก็เลยไม่ได้ร้อนใจเท่าไหร่นัก จากการคาดคะเนด้วยสายตาแล้วยังพอมีเวลาเหลือเฟือให้พวกเราได้เถลไถลอีกเยอะแม้ว่าจะซื้อส้มตำเสร็จแล้วก็ตาม

            “วันนี้กินไรดีจ๊ะ” ป้าเจ้าร้านส้มตำเอ่ยถาม

            “เอาตำปูปลาร้าหนึ่ง น้ำตกหมูหนึ่ง ซุปหน่อไม้หนึ่ง ยำขนมจีนหนึ่งจ้า” ไอ้มิคสั่งรวดเดียวยาวเหยียดจนผมต้องหันไปมองเพราะรู้ทันทีว่ามันกำลังสั่งอาหารในเวลาที่หิว ปกติมันก็ไม่ใช่คนกินเยอะหรอกนะแต่ก็ดันชอบเผลอสั่งเยอะ แล้วเวลาที่อาหารเหลือก็มักจะเป็นผมทุกทีที่ต้องกินให้หมดเพราะรู้สึกเสียดายของ

            “แดกหมดเหรอ” ผมเอ่ยถาม

            “ไม่รู้”

            “พอแดกไม่หมดก็ลำบากกูอีก”

            “เอาน่ะ ก็ไม่ได้สั่งเยอะเท่าไหร่หรอกแหม่” 

            “งั้นมึงจ่ายนะ”

            “เออ งั้นมึงไปซื้อน้ำละกัน” ไอ้มิคพยักหน้ารับก่อนจะพยักเพยิดให้ผมไปซื้อน้ำร้านประจำที่พวกมักจะซื้ออยู่บ่อยๆ ให้หน่อย เพราะมันจ่ายค่าอาหารไปแล้ว ค่าน้ำก็ต้องกลายเป็นส่วนที่ผมต้องรับผิดชอบ

            ผมเดินตรงมายังร้านท้ายสุดของซอยเพื่อสั่งน้ำหวานและน้ำผลไม้ปั่นตามที่เคยสั่งอยู่ประจำทุกวี่ทุกวัน เพราะส่วนใหญ่เมนูที่ทั้งผมและไอ้มิคกินก็มักจะเดิมๆ ไม่ค่อยเปลี่ยนสักเท่าไหร่

            “เอาแตงโมปั่นแก้วหนึ่งครับ แล้วก็นมชมพูปั่นแก้วหนึ่ง” ผมเอ่ยสั่งตามเดิมเพราะไม่เคยคิดอยากจะลองเมนูใหม่ๆ

            “เอิร์ธ!” เสียงคุ้นหูเอ่ยทักผมหันกลับไปมองก็ไม่ผิดคาดเพราะเป็นไอ้ต่อเดินเข้ามาใกล้ “ทำไมวันนี้มาเร็วจัง”

            “ไอ้มิคมันอยากกินส้มตำอะ เลยรีบมากลัวต้องรอคิวนาน”

            “อ่อ แล้วนี่ซื้อไรอยู่”

            “ยืนอยู่หน้าร้านน้ำ คงซื้อกับข้าวอยู่มั้ง” ผมบอกพลางทำหน้ากวนตีนใส่มัน 

“เออเนอะ กูก็ถามไม่คิด” มันเองก็หัวเราะออกมาเบาๆ

“พ่อหนุ่มเอาอะไรจ๊ะ” แม่ค้าร้านน้ำเอ่ยถามหลังจากที่ทำออเดอร์ของผมเสร็จแล้วทั้งสองแก้ว 

“มะม่วงปั่นครับ” ไอ้ต่อเอ่ยสั่งระหว่างนั้นผมก็เลยบอกมันว่าจะขอตัวเดินไปหาไอ้มิคมันก่อนเพราะขี้เกียจยืนรอไอ้ต่อมัน แต่ว่ามันก็ดันรั้งมือผมเอาไว้แล้วบอกว่าให้อยู่กับมันก่อน ค่อยเดินไปพร้อมกัน ผมก็เลยต้องยืนรออย่างไม่เต็มใจนัก

“...”

“ไป เสร็จละ” ไอ้ต่อหันมาบอกผมที่ยืนรอด้วยความเงียบไม่พูดไม่จาอะไร ผมก็เลยหันไปมองมันกับน้ำในมือของมันก่อนจะพยักหน้ารับแล้วเดินนำมันออกไป

ผมเดินก้าวขายาวกลับมาหาไอ้มิคที่ยืนรอส้มตำและอาหารที่สั่งเอาไว้โดยมีไอ้ต่อเดินตามหลังมา มันพยายามจะจับแขน พยายามจะสะกิดแล้วชวนคุยเพราะคิดว่าผมงอนอะไรมันหรือเปล่า ซึ่งจริงๆ ก็ไม่ได้มีอะไรเลยเพียงแต่ว่าวันนี้ผมตื่นเช้ากว่าปกติก็เลยยังไม่พร้อมจะยิ้มแย้มสักเท่าไหร่ คงต้องรอหลังเที่ยงไปแล้วนั่นแหละผมถึงจะมีชีวิตชีวามากขึ้นกว่านี้

“เสร็จยัง” ผมเอ่ยถามเมื่อเดินกลับมาถึงร้านส้มตำ

“เสร็จละ” ไอ้มิคเอ่ยบอกพร้อมยื่นมือไปรับถุงหูหิ้วที่ใส่ทุกอย่างที่สั่งเอาไว้รวมกันพร้อมกับผักสดที่จะหยิบเท่าไหร่ก็ได้ไม่อั้น

“ไปนั่งแดกในร้านละกันนะ” ไอ้มิคเอ่ยบอกซึ่งผมเองก็เห็นด้วย 

ผม ไอ้มิค ไอ้ต่อพากันเดินกลับไปยังบาร์ของเจ๊เปรี้ยว ผมกับไอ้มิคเดินเข้าไปในห้องพักประจำที่พวกเราใช้อาศัยกันอยู่ทุกวัน ในนั้นจะมีโต๊ะกลางสำหรับไว้ให้พวกเราใช้กินข้าวหรือขนมเวลาหิว ไอ้มิคเอาถุงส้มตำวางไว้ที่นั้นส่วนผมก็วางน้ำปั่นที่สั่งมาเพื่อจะเดินเข้าไปในครัวเพื่อนำจานชามมาใส่อาหารแต่ไอ้ต่อก็เอ่ยปากจะเดินไปหยิบมาให้เสียก่อน

“เดี๋ยวกูไปเอาให้ มึงนั่งเถอะ”

“เค”

ผมหย่อนตัวลงนั่งแล้วหยิบเอานมชมพูปั่นมาดูดเพื่อรอเวลา ส่วนไอ้มิคก็หยิบแก้วแตงโมปั่นไปกิน ไม่นานไอ้ต่อก็เดินถือจานเปล่ากับช้อนส้อมออกมาวางไว้บนโต๊ะ

“แต๊งกิ้ว” ผมเอ่ยบอกมันแล้วคว้าเอาถุงส้มตำมาแกะหนังยางออกเพื่อจะเทออกจากถุงใส่จาน

ไอ้มิคกับไอ้ต่อก็พากันหยิบถุงน้ำตกหมูกับซุปหน่อไม้และยำขนมจีนมาแกะออก พวกเราทั้งสามคนช่วยกันจัดแจงนำทุกอย่างใส่ลงจาน กลิ่นของส้มตำลอยอบอวลไปทั่วห้องนั้นทำเอาน้องๆ หลายคนพากันเดินโฉบไปโฉบมากันยกใหญ่เพราะน้ำลายสอกันไม่ไหว

“ใครจะกินก็เดินมากินได้นะ” ไอ้มิคตะโกนบอก ทุกคนในห้องก็เลยพากันมารุมที่โต๊ะอาหารทันที อาหารอีสานกับไอ้พวกนี้น่ะนะ มันของคู่กันเลยแหละ

ช่วงเวลาของอาหารอีสานถือว่าเป็นช่วงเวลาที่พวกผมยิ้มกว้างได้มากที่สุด ยิ่งมานั่งแย่งกันกินแบบนี้ยิ่งทำให้รู้ว่าจริงๆ แล้วความสุขมันไม่ได้หายากขนาดนั้น เพราะบางครั้งมันก็มาในรูปแบบที่ง่ายแสนง่าย อย่างเช่นอะไรเล็กๆ น้อยๆ ที่พวกเรากำลังทำกันอยู่นั่นเอง

อาหารบนจานหมดเกลี้ยงทุกจานจนหมายังต้องร้องไห้เพราะสะอาดเสียจนแทบจะไม่ต้องล้างจานเลยด้วยซ้ำ ผมกับไอ้มิคทยอยเก็บจานบนโต๊ะแล้วเอาไปล้างที่หลังร้านซึ่งเป็นที่ประจำของเด็กในบาร์ทุกคนที่เป็นอันรู้กันว่ากินเสร็จต้องล้างให้เรียบร้อยไม่อย่างนั้นจะโดนเจ๊เปรี้ยวตามด่าจนหูชา

“ล้างให้มั้ย” ไอ้ต่อเอ่ยพูดขึ้นหลังจากที่มันเดินตามมาเป็นคนสุดท้าย

“ไม่เป็นไรๆ กูล้างเองได้” ผมปฏิเสธ

“ให้กูล้างเถอะ ใกล้เวลาเปิดร้านแล้ว มึงจะได้ไปเตรียมตัว”

“เคๆ ขอบคุณมาก” ผมตอบก่อนจะหันไปมองหน้าไอ้มิคแล้วพากันเดินกลับเข้าไปในห้องพักเหมือนเดิม

ผมหย่อนตัวนั่งลงที่โต๊ะประจำของตัวเอง สายตาจ้องมองเข้าไปยังกระจกที่สะท้อนใบหน้าของตัวเองที่ดูไม่สดใสสักเท่าไหร่เพราะเหงื่อไคลที่ไหลออกมา การนั่งกินส้มตำรสชาติสุดแซ่บทำเอาเครื่องสำอางบนใบหน้าที่แต่งมาลบเลือนออกไปมากอยู่เหมือนกัน ผมเปิดกระเป๋าสะพายคว้าเอาคุชชั่นเกาหลีที่เพิ่งถอยมาใหม่ออกมาตบๆ ลงบนใบหน้าจนทั่ว

พลังของเครื่องสำอางนี่มันน่ากลัวจริงๆ จากที่ดูโทรมๆ ตอนนี้กลายเป็นว่าใบหน้าของผมดูสดใสขึ้นในทันที พอหยิบลิปสติกมาเติมอีกหน่อยก็รู้สึกถึงความสดชื่นในตัวขึ้นมา ผมยิ้มให้ตัวเองในกระจกอีกครั้งเพื่อเรียกพลังในตัวให้ลุกขึ้นมาก่อนที่จะถึงเวลาทำงานจริง

“ช่วงนี้ไอ้ต่อดูตัวติดมึงจังวะ” อยู่ๆ ไอ้มิคเอ่ยถามขึ้นขณะที่มันนั่งแต่งหน้าเซตผมอยู่ข้างๆ

“หื้ม?”

“หรือไม่จริงอะ” 

“ทำไมมึงถามงั้น” ผมหันไปมองไอ้มิคด้วยใบหน้าสงสัยว่าอะไรที่ทำให้มันรู้สึกแบบนั้น

“ก็ช่วงนี้กูเห็นมันอยู่กับมึงตลอดเลย แปลกๆ ละนะ” ไอ้มิคพูดพลางมองด้วยสายตาแปลกใจราวกับอยากจะรู้คำตอบว่าผมมีอะไรปิดบังมันไว้หรือเปล่า

“เออว่ะ ก็จริงอย่างที่มึงบอก”

“มันจีบมึงปะเนี่ย” ไอ้มิคถามขึ้นด้วยเสียงกระซิบพลางขยับตัวเข้ามาใกล้ผมเพราะกลัวว่าคนอื่นจะได้ยินเข้า

“มึงจะบ้าปะเนี่ย พูดงี้เดี๋ยวกูได้โดนเจ๊เปรี้ยวฟาดกบาลเข้าให้” ผมรีบบอกปัดพลางหันมองซ้ายขวา ดีที่ตอนนี้ในห้องพักไม่ค่อยมีใครก็เลยพอจะสบายใจขึ้นมาได้บ้าง

“เอ้า! ก็กูอยากรู้นี่หว่า สรุปยังไง”

“ไม่หรอกมั้ง ก็ไม่เห็นว่ามันจะมีทีท่าว่าจีบนะ” ผมบอกไอ้มิคมันแบบนั้นเพราะไม่อยากมีปัญหา อีกอย่างเหมือนที่ผมเคยบอก ผมไม่อยากให้มันมาคบกับคนสกปรกๆ อย่างผมด้วย

“อย่าให้รู้นะว่าแอบคุยกัน” ไอ้มิคแกล้งแซวแล้วนิ้วจิ้มมาที่ไหล่ผมยิกๆ รอยยิ้มกรุ้มกริ่มที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าของมันทำเอาผมหมั่นไส้จนแทบจะยกกำปั้นไปเขกกะโหลกให้ดังโป๊กสักทีสองที

“ไร้สาระน่ะ” ผมบ่นมันครั้งสุดท้ายก่อนจะรีบลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปหน้าร้านทันที

ผมก้าวฉับๆ เดินออกมาจากห้องพักแต่ก็ต้องหยุดชะงักเพราะไอ้ต่อดันเดินกลับเข้ามาจากหน้าร้านพอดี เราทั้งคู่เกือบจะชนกันโชคดีที่ต่างฝ่ายต่างก็เห็นกันเสียก่อนก็เลยหยุดฝีเท้าไว้ได้ทัน ไม่อย่างนั้นก็คงจะชนกันจนล้มลงไปนอนบนพื้นเหมือนในละครหลังข่าว

“โทษๆ” ผมรีบเอ่ยบอกแล้วเดินออกไปจากตรงนั้น