เรียนไปก็ปวดหัว มีผัวก็ปวด... งั้นถ้าจะต้องทนปวด... ก็ขอปวดแบบได้เงินด้วยละกัน! เลิศๆๆๆๆ
ชาย-ชาย,ซาดิส & มาโซฯ,วัยว้าวุ่น,ยุคปัจจุบัน,ไทย,PWP,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เอิร์ธเด็กเอ็นท์เรียนไปก็ปวดหัว มีผัวก็ปวด... งั้นถ้าจะต้องทนปวด... ก็ขอปวดแบบได้เงินด้วยละกัน! เลิศๆๆๆๆ
เอิร์ธเด็กเอ็นท์
Mr. Host Club
[PWP]
Written by Darkriku93
เปิดเรื่อง 04/01/2023
ประกาศ!!!
นิยายเรื่องนี้เป็นแนว PWP ไม่เน้นความสมเหตุสมผลสักเท่าไหร่ อ่านเอาฟีลลิ่ง อ่านเอามันเฉยๆ น้าาาาา
ผมใช้ชีวิตอยู่ในคืนแรกด้วยการไม่มีมือถือ ทำได้เพียงแค่นอนดูทีวีในโรงแรมโดยที่ติดต่อใครไม่ได้เลย เพราะโทรศัพท์โรงแรมที่ปกติจะต้องมีในห้องพักก็กลับไม่มีซะงั้น ผมเองก็อดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้นซึ่งพอถามพี่กันไปเขาก็บอกว่าเป็นนโยบายของโรงแรมที่อยากให้แขกได้พักผ่อน
ผมเดินเข้าห้องระหว่างในห้องกับระเบียงอยู่หลายครั้งเพราะรู้สึกเบื่อ มีบ้างที่ลงไปว่ายน้ำเล่นเพราะในแต่ละห้องมีสระว่ายน้ำส่วนตัวอยู่ในทุกห้อง ผมก็เลยแก้เบื่อด้วยการลงไปว่ายน้ำบ้างแต่ก็นั่นแหละพออยู่คนเดียวมันก็เลยไม่รู้จะทำอะไร
พี่กันเองก็แวะมาหาผมบ่อยๆ ตั้งแต่เข้ามาพักที่โรงแรมนี้ โดยเฉพาะเมื่อคืนเขาก็ขอมานอนด้วย นอนด้วยแบบนอนจริงๆ ไม่ได้ทำอะไรกัน คงเพราะเหนื่อยจากการเดินทางด้วยก็เลยทำให้เราต่างฝ่ายต่างนอนกอดกันแค่นั้น แม้ในใจผมจะรู้สึกอยากโดนพี่กันกระแทกหนักๆ ก็ตาม
ก๊อกๆๆ
เสียงเคาะประตูห้องผมดังขึ้นหลังจากที่พี่กันขอตัวกลับไปเมื่อเช้านี้เพราะจะไปอาบน้ำแต่งตัว ผมเองที่เพิ่มจะสวมเสื้อผ้าเสร็จจึงเดินออกไปเปิดประตูต้อนรับ กลิ่นน้ำหอมของพี่กันลอยมาแตะจมูกผมเรียกอารมณ์ความใคร่แต่เช้า ผมจึงต้องพยายามข่มใจเอาไว้เพราะวันนี้มีแพลนที่จะออกไปข้างนอกกัน
“เสร็จหรือยังครับ” พี่กันเอ่ยทักเมื่อผมเปิดประตูห้อง
“เสร็จแล้วครับ” ผมบอกพลางวิ่งเข้าไปหยิบกระเป๋าสะพายแล้วเดินออกไปพร้อมกับพี่กัน
บรรยากาศเช้านี้อากาศดีเป็นพิเศษ แสงแดดส่องสว่างแบบพอดีจึงไม่ทำให้อากาศร้อนจนเกิน ลมโชยบางๆ ปะทะใบหน้าของผมรวมกับเสียงคลื่นที่ดังคลออยู่เรื่อยๆ ทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายอย่างประหลาด สองขาของผมเดินตามพี่กันไปอย่างไม่รู้จุดหมาย เพราะพี่กันบอกแค่ว่าวันนี้จะไปข้างนอกกัน แต่ก็ไม่ได้บอกว่าจะพาไปไหน
“พี่กันครับ” ผมเอ่ยเรียก
“ครับ?” พี่กันที่เดินนำหน้าผมหยุดแล้วหันมามองพร้อมรอยยิ้มบางๆ บนใบหน้า
“เรากำลังจะไปไหนกันเหรอครับ”
“เดี๋ยววันนี้เราจะไปล่องเรือยอร์ชกันครับ”
“โห..”
“ตื่นเต้นเหรอ” พี่กันเอ่ยถามพลางเดินเข้ามาหาผมแล้วยกมือขึ้นลูบหัวผมเบาๆ
“ครับ เกิดมายังไม่เคยนั่งเรือยอร์ชเลยครับ”
“ดีเลย พี่รับรองว่าน้องเอิร์ธจะลืมไม่ลงเลยครับ” พี่กันบอกพร้อมจับมือผมแล้วพาเดินออกไป
ผมหัวใจเต้นรัวแบบบอกไม่ถูก ทั้งตื่นเต้นที่จะได้ขึ้นเรือยอร์ชและตื่นเต้นที่พี่กันดูแลผมดีขนาดนี้ แม้จะอึดอัดที่ไม่ได้ใช้มือถือแต่ถ้าแลกกับการที่พี่เขาเอาใจใส่ขนาดนี้ก็น่าจะพอแลกกันได้
ผมกับพี่กันเดินมาตามทางเดินของโรงแรมเลาะมาตามชายหาดจนมาถึงท่าเรือ ผมเห็นเรือยอร์ชจอดอยู่ไกลๆ มีผู้ชายยืนรออยู่สองคนซึ่งผมเองก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรสักเท่าไหร่เพราะก็คิดว่าน่าจะเป็นคนขับเรือนั่นแหละ
“เราจะนั่งเรือไปไหนกันเหรอครับ” ผมเอ่ยถามขึ้นเมื่อเราทั้งคู่เดินมาถึงท่าเรือ
“ไปเกาะส่วนตัวของพี่ครับ”
“ห้ะ?” ผมอุทานออกมาด้วยความตกใจ
เวอร์มากไอ้พี่กัน
“ได้ยินไม่ผิดหรอกครับ พี่จะพานั่งเรือยอร์ชไปเกาะส่วนตัวของพี่เอง ปกติไม่ค่อยมีใครได้ไปหรอกนะครับ นอกจากคนพิเศษของพี่” เขากระซิบบอกข้างหูผมแล้วส่งยิ้มให้ก่อนจะเดินขึ้นเรือไปก่อน
ผมมองตามพี่เขาขึ้นไปก่อนจะหันไปมองคุณพี่อีกคนที่ยืนส่งยิ้มมาให้ผมแล้วผายมือเชิญให้ผมเดินขึ้นเรือไป ผมพยักหน้าให้เขาหนึ่งทีแล้วเดินก้าวขึ้นเรือ บอกตรงๆ ว่าตื่นเต้นมาก เพราะเรือยอร์ชมันใหญ่และสวยกว่าจินตนาการที่ผมคิดเอาไว้เยอะ ผมตรงขึ้นไปบนดาดฟ้าเรือทันที ยืนหลบอยู่ตรงที่เงาของใบเรือตกทอดลงมาเพราะไม่อยากโดดแดดเผา
เสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นเมื่อทุกคนพร้อม เรือค่อยๆ ออกตัวจากท่าเรือแล้วแล่นสู่ท้องทะเลทันที ผมเดินไปยืนรับลมอยู่ที่หัวเรือเพราะยังคงตื่นเต้นกับประสบการณ์ใหม่ๆ
“ดื่มไวน์หน่อยมั้ยครับ” พี่กันก็เดินถือแก้วไวน์มาให้ผม
“ขอบคุณครับ” ผมรับแก้วนั้นไว้แล้วยกขึ้นจิบ
เสียงเพลงสากลดังอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ออกเรือมา ซึ่งเข้ากับไวน์และบรรยากาศเป็นอย่างดี ผมรู้สึกผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก นานแล้วที่ไม่ได้รู้สึกว่าร่างกายได้พักผ่อนแบบนี้ อาจเพราะต้องทำงานกลางคืนคอยรับแขกอยู่ทุกวันจนร่างกายอ่อนล้าเต็มที พอได้ออกมาเห็นเดือนเห็นตะวันบ้างร่างกายก็เลยตื่นตัวเป็นพิเศษ
พี่กันเดินเข้ามาหาผมทางด้านหลังพร้อมยกไวน์แก้วที่สามขึ้นดื่มจากนั้นเขาก็โอบกอดจากด้านหลังของผม ผมรู้สึกขนลุกเล็กน้อยเมื่อลมหายใจของอีกฝ่ายสัมผัสเข้ากับต้นคอของผม จากนั้นริมฝีปากของพี่กันก็บรรจงจูบลงที่ลำคอนั้นทำเอาผมสะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็ปล่อยตัวไปตามอารมณ์ไม่ได้ขัดขืนอะไร เพราะถือว่านี่คืองานของผมที่พี่กันจ้างมา
“ตัวหอมจังครับ” พี่กันเอ่ยพูดขึ้น
“พี่กันเมาหรือเปล่าเนี่ย”
“เปล่าครับ”
“แต่ลมหายใจของพี่มันมีแต่กลิ่นไวน์เลยนะครับ” ผมเอ่ยพูดกลั้วเสียงหัวเราะเพราะรู้สึกว่าอีกฝ่ายกำลังโกหก เพราะสิ่งที่พูดกับสิ่งที่ผมเห็นจากท่าทางของพี่กันนั้นมันช่างตรงกันข้าม
“แล้วชอบมั้ยครับ” เสียงกระเส่าของพี่กันเอ่ยถามผม ก่อนที่พี่เขาจะกดจูบลงมาที่ลำคอของผมอีกครั้งแต่ครั้งนี้เขาใช้ลิ้นเลียเบาๆ ราวกับต้องการจะแกล้ง ซึ่งก็ดูเหมือนจะได้ผลเพราะว่าการกระทำนั้นมันทำให้ผมขนลุกซู่ขึ้นมาทันที
“พะ..พี่กัน ไม่เอา ไม่เล่นแบบนี้ครับ” ถึงจะชอบแต่ก็ต้องเล่นตัวสักหน่อย
“ไม่ชอบเหรอ” พี่กันผละออกแล้วถามย้ำพร้อมยิ้มมุมปาก “แต่ร่างกายน้องเอิร์ธมันตรงกันข้ามเลยนะครับ”
“พี่กัน!” ผมแกล้งถอยตัวออกมาแล้วหันไปฟาดลงที่แขนของพี่เขาเบาๆ
“ทำไม เขินเหรอ”
“เปล่าครับ”
“งั้นก็ขอพี่จูบหน่อยนะครับ” พี่กันดึงผมเข้าไปอีกครั้ง ความแรงทำเอาไวน์ในแก้วของผมกระเด็นออกมาเล็กน้อยเปื้อนเสื้อของอีกฝ่าย แต่เขาก็ไม่ได้สนอะไรมากไปกว่าความต้องการที่จะลิ้มรสริมฝีปากของผม
ผมอมยิ้มเล็กน้อยพอประมาณแถมแกล้งเขินบ้างอยู่ในทีแต่ก็ไม่ได้ขัดขืนอะไรมากนักเพราะความใคร่ที่แท้จริงในใจผมก็อยากจะลิ้มลองในรสชาติตัวของพี่กันอีกสักหลายๆ ครั้งอยู่เหมือนกัน
สายตาของผมประสานเข้ากับสายตาของพี่กันอยู่พักใหญ่ แววตาของพี่เขานั้นมันดูน่าลุ่มหลงอย่างประหลาดซึ่งผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามันกำลังสื่อสารอะไรอยู่ รู้เพียงแค่ว่ามันน่าสนใจอยู่ไม่น้อย ยิ่งมองก็ยิ่งหลงใหลมากขึ้น มือหนาของพี่กันแตะเข้ามาที่ท้ายทอยของผมแล้วออกแรงดึงหัวของผมให้เข้ามาใกล้ก่อนที่ริมฝีปากของเขาจะบรรจงประทับลงมา
สัมผัสแรกของความอุ่นจากริมฝีปากของพี่กันเรียกเอาผมขนลุกซู่ไปทั้งตัว ยิ่งในยามที่ลิ้นจากอีกฝ่ายสอดแทรกผ่านเข้ามาในโพรงปากของผมนั่นก็ยิ่งทำให้ความรู้สึกเสียวซ่านเกิดขึ้นจนผมต้องแอบบีบมือไปที่ต้นแขนหนาของพี่เขา ผมตอบรับลิ้นร้อนนั้นแล้วสู้กลับ เกี่ยวกระหวัดลิ้นจากอีกฝ่ายโต้ตอบกันอย่างทันท่วงที ใบหน้าของเราทั้งคู่เอียงรับองศาที่จะทำให้การจูบในครั้งนี้ไม่มีติดขัด ความร้อนเริ่มปะทุขึ้นมาในร่างกายของผมแต่โชคดีที่ลมทะเลพัดมาวูบหนึ่งจึงช่วยให้ความรู้สึกซาบซ่านบรรเทาลงไปได้บ้าง แม้จะไม่ได้มากก็ตาม
“อื้อ...” ผมครางในลำคอเบาๆ เมื่อพี่กันลอบขบกัดริมฝีปากของผมเบาๆ ผมเลยผละออกมาแล้วยกฝ่ามือบางตีเข้าไปที่หน้าอกของคนตัวหนาเบาๆ เพื่อเป็นการตักเตือนว่าการที่พี่เขาทำแบบนี้ผมไม่โอเคสักเท่าไหร่
ก็มันกลัวปากเป็นแผลนี่หว่า...
“พี่... ขอนะ” พี่กันเอ่ยถามเสียงกระเส่า
“ครับ?”
“พี่อยากมาก ทนไม่ไหวแล้ว” พี่เขาพูดต่อพลางแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปาก สายตาเต็มไปด้วยความหื่นกระหาย
ผมจ้องมองหน้าพี่กันนิ่งก่อนจะชะเง้อหน้าไปมองทางที่คนขับเรืออยู่ สีหน้าของผมเปลี่ยนไปเล็กน้อยแต่ก็ไม่สามารถรอดพ้นสายตาของคนพี่ได้
“ไม่กล้าเหรอ” พี่กันถามผม
“ก็มันมีคนอื่นอยู่ด้วยนี่ครับ”
“คนกันเองทั้งนั้น” พี่กันยิ้มพูด
“คนกันเองของพี่ แต่ไม่ใช่ของผมนี่ครับ” ผมบ่นก่อนจะเดินหนีไปที่ริมขอบเรือเพื่อรับลมสักหน่อย ให้ไฟราคะในตัวได้ลดการปะทุลงบ้าง
บรื้นนนน~
เสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นทำเอาผมสะดุ้งขึ้นมาเล็กน้อย ตอนแรกก็คิดว่าเป็นเสียงจากเรือลำที่พวกเรากำลังโดยสารกันอยู่แต่ไม่ใช่ เพราะมันเป็นเสียงเครื่องยนต์จากเรือเล็กอีกลำที่กำลังขับเข้ามาเทียบกับเรือของพวกเรา
“ใครมาอะครับ” ผมเอ่ยถามอย่างสงสัย
“หื้ม?” พี่กันส่งเสียงในลำคอด้วยความสงสัยแล้วหันมองไปตามทางที่ผมชี้นิ้วไป
“นู่นอะครับ”
“อ๋อ มารับพวกพนักงานกับคนขับเรือนั่นแหละ” พี่กันเอ่ยพูดแล้วยิ้มอ่อนให้กับผมที่กำลังทำหน้าสงสัย เพราะอะไรๆ ก็ดูจะเป็นใจไปเสียหมด
“พี่กันเป็นคนให้มารับกลับเหรอครับ”
“ไม่บอก” พี่กันยิ้มกริ่มแล้วเดินไปดูใกล้ๆ เพื่อส่งทุกคนที่กำลังลงจากเรือพวกเราเพื่อไปขึ้นเรือเล็กแล้วกลับฝั่ง
ทันทีที่เรือของพนักงานขับออกไป ความเงียบก็เกิดขึ้นภายในเรือลำนี้ พี่กันหันมามองหน้าผมแล้วยิ้มก่อนจะเดินดุ่มๆ บุกเข้ามาหาผมทันที สองมือคว้าหมับเข้าที่ต้นแขนของผมแล้วดันไปจนชิดเสาของใบเรือก่อนจะกดจูบลงมาด้วยความรุนแรง ผมพยายามที่จะต้านแรงของอีกฝ่ายเอาไว้เพราะตกใจและยังไม่ทันได้ตั้งตัว
พี่กันบุกจู่โจมอย่างดุเดือดจนผมหายใจแทบไม่ออก ริมฝีปากหนาขโมยจูบจากปากผมอย่างไม่หยุดยั้งจนผมที่กำลังจะขาดอากาศหายใจต้องยกกำปั้นขึ้นมาทุบอกพี่เขารัวๆ เพื่อส่งสัญญาณบอกว่าผมกำลังจะตายในอีกไม่ช้า
เฮือกกกก!!!
ผมอ้าปากสูดหายใจเข้าปอดอย่างรวดเร็วหลังจากที่อีกฝ่ายผละตัวห่างออกไป ภาวะใกล้ความตายเป็นยังไงผมรู้แทบจะในทันที ผมจ้องมองพี่กันด้วยแววตาเขม็งเพราะไม่พอใจกับสิ่งที่เขาทำลงไปเมื่อครู่นี้ หากบอกกันก่อนคงไม่เป็นอะไรแต่นี่จู่โจมเข้ามาแบบทันทีทันใดก็ทำเอาผมตกใจอยู่ไม่น้อย และเพราะแบบนั้นผมก็เลยเตรียมตัวรับมือไม่ทันเลนเอาเกือบจะหยุดหายใจเลยทีเดียว
“ขอโทษครับ” พี่กันเอ่ยบอกผมแล้วยกมือขึ้นมาลูบหัวผมเบาๆ ซึ่งนั่นก็ทำให้ผมคลายอารมณ์โกรธไปได้บ้าง ก็ความอบอุ่นที่พี่เขามีให้นั้นมันก็ทำให้จิตใจพองโตได้อยู่บ้าง
ความอบอุ่นนี่ถือได้ว่าเป็นจุดอ่อนของผมเลยก็ได้มั้ง...
“ไม่เป็นไรครับ” ผมเอ่ยตอบแล้วยิ้มบาง
“งั้นเราต่อกันเลยมั้ยครับ ตอนนี้ไม่มีใครอยู่แล้วด้วย” พี่กันถามย้ำพลางลูบไล้มือที่บริเวณข้างเอวของผม
“คะ...ครับ” ผมพยักหน้ารับแล้วปล่อยให้ตัวเองถูกพี่กันนำพาไปยังบริเวณหัวเรือ
สองขาของผมก้าวเดินมาตามแรงดึงของคนตัวสูงก่อนจะหย่อนตัวลงนอนลงโดยมีพี่กันนั่งคร่อมอยู่ด้านแสงแดดแรงจ้าสาดส่องไปทั่วบริเวณลำเรือ โชคดีที่พี่กันเลือกที่จะพาผมมายังส่วนของเรือที่ถูกเงาของใบเรือพาดทับไว้พอดีก็เลยทำให้ไม่ต้องทนร้อนให้แดดเผาจนผิวเสีย
พี่กันกดริมฝีปากลงที่ลำคอของผมแล้วเริ่มซุกไซร้ตามอารมณ์ มือหนาของเขาปลดกระดุมกางเกงของผมออกอย่างฉับไว ในขณะที่ผมเองก็ยกสองมือขึ้นสัมผัสผิวบริเวณหน้าอกแล้วสะกิดยั่วเย้าที่ยอดอกของเขาเพื่อเรียกความเสียวซ่านให้กับอีกฝ่าย
ผมขยับตัวเล็กน้อยเมื่อพี่กันยกผละออกไปหลังจากลิ้มรสลำคอขาวของผม จากนั้นผมจึงค่อยๆ ถอดเสื้อของตัวเองออกแล้วโยนทิ้งไปไว้ด้านข้าง ส่วนสองมือของพี่กันนั้นก็กำลังถอดกางเกงของผมออกไปจนเหลือเพียงแค่กางเกงในเพียงตัวเดียว
พอเห็นแบบนั้นผมก็เลยเอามือของผมยื่นไปจับตรงเป้าของพี่กันก่อนจะพบว่าของที่อยู่ข้างในมันแข็งตัวอย่างเต็มที่ ผมเห็นพี่กันลอบยิ้มเล็กน้อยตอนที่ผมสัมผัสลงไปที่ส่วนนั้น สองมือของผมรีบปลดกางเกงของพี่เขาออกทันที เผยให้เห็นกางเกงในที่ส่วนกลางแข็งตึงจนโหนกนูนออกมา
อึก!
ผมกลืนน้ำลายอึกใหญ่เพราะยังจำประสบการณ์ในครั้งก่อนได้เป็นอย่างดีว่าของพี่กันนั้นเขามีขนาดที่ใหญ่อยู่มาก แค่คิดก็รู้สึกจุกเสียดแน่นท้องไปหมด แต่ก็สู้สิวะ โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยๆ หรอก รับงานรับเงินเขามาแล้วก็ต้องทำหน้าที่ให้มันเต็มที่เสียหน่อย