เรียนไปก็ปวดหัว มีผัวก็ปวด... งั้นถ้าจะต้องทนปวด... ก็ขอปวดแบบได้เงินด้วยละกัน! เลิศๆๆๆๆ
ชาย-ชาย,ซาดิส & มาโซฯ,วัยว้าวุ่น,ยุคปัจจุบัน,ไทย,PWP,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เอิร์ธเด็กเอ็นท์เรียนไปก็ปวดหัว มีผัวก็ปวด... งั้นถ้าจะต้องทนปวด... ก็ขอปวดแบบได้เงินด้วยละกัน! เลิศๆๆๆๆ
เอิร์ธเด็กเอ็นท์
Mr. Host Club
[PWP]
Written by Darkriku93
เปิดเรื่อง 04/01/2023
ประกาศ!!!
นิยายเรื่องนี้เป็นแนว PWP ไม่เน้นความสมเหตุสมผลสักเท่าไหร่ อ่านเอาฟีลลิ่ง อ่านเอามันเฉยๆ น้าาาาา
“เมื่อไหร่จะมาวะ หิวจะตายละเนี่ย” ผมเอ่ยบ่นเมื่อเห็นว่าพี่กันยังไม่เข้ามาในร้านสักที
นั่นไง... บ่นไปไม่ทันขาดคำก็เดินเข้ามาเลย
“มาแล้วครับ”
“...” ผมเงียบไม่ตอบกลับอะไรไป
“โอ๋ๆ หิวเหรอครับ มาๆๆๆ”
พอเห็นผมนิ่งเงียบไม่พูดไม่จาพี่เขาก็รีบยกมือส่งสัญญาณให้พนักงานร้านทันที ไม่นานอาหารที่พี่กันได้สั่งเอาไว้แต่แรกก็ถูกนำมาเสิร์ฟ เอาจริงๆ หน้าตาอาหารก็เป็นเมนูจานที่ผมไม่ค่อยคุ้นเคยหน้าตาสักเท่าไหร่ ก็อาหารฝรั่งอะเนอะ ผมเองก็ไม่รู้จักและเรียกไม่ถูกหรอกแต่ก็กินๆ ไป หิวจะตายแล้ว
“ไม่ถ่ายรูปหน่อยเหรอ” พี่กันเอ่ยถาม
“ไม่อะครับ หิว”
“แปลกดีๆ ปกติคนอื่นเขาจะถ่ายก่อนกินนะ ถ้าอาหารมาสวยๆ แบบนี้”
“ก็นั่นคนอื่นไงครับ นี่ผม”
“น่าสนใจ” พี่กันพูดต่อด้วยสายตาแฝงอะไรบางอย่างเอาไว้ ผมเองก็เดาไม่ถูกแต่ด้วยความหิวเลยไม่อยากจะใส่ใจอะไรๆ ในตอนนี้มานักนอกเสียจากอาหารที่อยู่ในจาน
อร่อยแฮะ...
ผมนึกในใจ สมคำร่ำลือที่พี่กันเขาโม้เอาไว้อยู่เหมือนกันว่าเป็นร้านอาหารอันดับหนึ่งบนเกาะนี้ แต่ก็อย่างที่บอกไปทีแรกนั่นแหละครับว่าน่าแปลก การที่อาหารอร่อยและวิวนอกร้านเวลามองออกไปสวยขนาดนี้ทำไมถึงไม่มีลูกค้าคนอื่นเลยแม้แต่คนเดียว ทั้งร้านตอนนี้มีแค่ผมกับพี่กันแล้วก็พนักงานเสิร์ฟ ด้านนอกก็เป็นพวกลูกน้องของพี่กันทั้งนั้นที่ตามมาคุ้มครองดูแล
“อร่อยมั้ย” พี่กันเอ่ยถามขึ้นขณะที่ผมกำลังเคี้ยวสเต๊กตุ้ยๆ
“อร่อยครับ อร่อยมาก”
“พี่ดีใจนะเนี่ยที่น้องเอิร์ธชอบ”
“พี่กันครับ ผมมีเรื่องสงสัย” จู่ๆ ผมก็ถามโพล่งขึ้นมาแต่พี่กันก็ไม่ได้ดูตกใจอะไร
“ว่าไงครับ”
“ทำไมไม่มีลูกค้าคนอื่นเลยล่ะครับ ทั้งๆ ที่พี่บอกว่าเป็นร้านดัง”
พี่กันหัวเราะออกมาทันทีเมื่อได้ยินคำถามแบบนั้นจากปากของผม “ก็พี่เคยบอกแล้วไงว่าที่นี่คือเกาะส่วนตัวของพี่”
“ครับ?”
“เพราะฉะนั้นทุกอย่างบนเกาะนี้คือของพี่ทั้งหมด” พี่เขาเอยพูดด้วยน้ำเสียงนิ่ง
“พี่กันหมายถึงร้านนี้..”
“ใช่ครับ ร้านนี้เป็นร้านของพี่เอง” พี่กันเอ่ยพูดด้วยสีหน้าและท่าทางที่ดูภูมิใจแต่สำหรับผมที่แอบมีอคติเล็กๆ มองว่าเขากำลังพยายามโอ้อวดเสียมากกว่า
“อ่อ ก็ว่า...”
“ทำไมครับ”
“ไม่มีลูกค้าเลย” ผมเอ่ยแซวแล้วหันกลับไปกินอาหารในจานต่อ
“ปกติก็คนเยอะแหละครับ แต่วันนี้ตั้งใจว่าจะพาน้องเอิร์ธมากินไง พี่เลยสั่งปิดร้าน จะได้ส่วนตัวหน่อย”
“แล้วพี่ไม่เสียดายเงินเหรอครับ ปิดแบบนี้รายได้หดหมด”
“แหม่.. ปิดแค่วันเดียวเงินทองพี่มันคงไม่ได้ร่อยหรอไปเยอะสักเท่าไหร่หรอกครับ”
“...” ผมนิ่งอึ้งกับคำพูดของอีกฝ่าย การเป็นคนรวยที่มีเงินเหลือเฟือนี่มันสุดยอดไปเลยนะครับ คิดอยากจะทำอะไรก็ทำได้หมด ไม่ต้องวางแผนหรือคิดหน้าคิดหลังให้ดีเลย
“แค่นี้สบายมาก พี่อยากเอาใจน้องเอิร์ธมากกว่าครับ อยากให้น้องเอิร์ธ ประทับใจ” พี่กันเอ่ยพูดต่อด้วยน้ำเสียงอ้อน
“อยากเอาใจหรือว่าอยากเอาเฉยๆ กันแน่ครับ” ผมแซวต่อ
“จริงๆ ก็อยากทั้งสองอย่างนั่นแหละ”
“เห็นมั้ยล่ะ” ผมตอบกลับอย่างรู้ทันแล้วปรายตามองอีกฝ่ายอย่างหมั่นไส้
พี่กันเขาก็ได้แต่หัวเราะออกมาเบาๆ แล้วหันไปสนใจกับอาหารและไวน์ที่เขาสั่งมา โดยไม่ได้มีท่าทีรู้สึกผิดหรือนึกถึงเรื่องเมื่อตอนกลางวันเลยด้วยซ้ำ หรือจริงๆ พี่เขาเป็นคนแบบนี้อยู่แล้วนะ อยากตรงไหนทำตรงนั้นเหรอ ฟีลแบบทั้งเกาะนี้เป็นของฉัน ฉันจะทำอะไรก็ได้ไม่ต้องอายใครอะไรแบบนี้
หรือจริงๆ แล้วเรื่องนี้มันควรปล่อยผ่านแบบไม่ต้องไปคิดมาก อาจจะเป็นผมคนเดียวที่ซีเรียสเรื่องแบบนี้งั้นเหรอ? มันก็ควรจะซีเรียสไม่ใช่เหรอครับเพราะการที่เขาซื้อผมมาเอ็นเตอร์เทนก็หมายถึงว่ามันควรจะต้องเอ็นเตอร์เทนแค่พี่เขาคนเดียวแบบส่วนตัวสิ หรือถ้าพี่เขาจะมีกลุ่มเพื่อนก็ควรจะอยู่ในที่ลับไม่ใช่มาเอากันสาธารณะให้คนอื่นดูเหมือนหมาข้างทางแบบนี้
เนี่ย! พอวนมาคิดเรื่องนี้ก็หงุดหงิดอีกแล้ว ไม่ใช่อะไรหรอกนะ แค่อยากให้พี่เขาเคารพศักดิ์ศรีของผมบ้าง แม้ว่าผมจะทำงานอาชีพแบบนี้ก็เถอะ
“น้องเอิร์ธครับ” จู่ๆ พี่กันก็เอ่ยเรียกชื่อผมในขณะที่ความคิดยังวิ่งวนวุ่นวายในหัวสมองของผมแล้วพยักเพยิดหน้าให้ผมหันมองไปทางเวทีที่ตอนนี้มีฝรั่งหนึ่งคนยืนถือแซกโซโฟนเตรียมที่จะเป่าโชว์อยู่
ทันทีที่ผมหันไปมองเสียงแซกโซโฟนก็ดังขึ้นทั่วทั้งร้านที่เงียบสงบ เสียงของมันสร้างความโรแมนติกให้กับพื้นที่แห่งนี้ได้อย่างน่าประหลาด ผมเคลิบเคลิ้มไปกับเสียงดนตรีนั้นจนลืมไปว่าเมื่อครู่กำลังเครียดเรื่องอะไรอยู่
เสียงดนตรีนี่มันวิเศษจริงๆ นะครับ
“เพราะเนอะ” พี่กันเอ่ยพูดขึ้นแล้วมองหน้าผมนิ่ง
“ช่ายครับ” ผมพันมามองแล้วพยักหน้าตอบ
พี่กันเขาพยายามจะยื่นมือหนาของเขามากอบกุมมือของผมเอาไว้แต่ผมก็ไม่ได้ใส่ใจมากนักเพราะสายตายังคงจดจ่ออยู่กับการแสดงบนเวทีที่ค่อนข้างจะดึงดูดสายตาของผมได้มากทีเดียว เพราะส่วนตัวผมก็ชอบดูอะไรแบบนี้อยู่แล้วตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่เท่าที่จำได้คือวันหนึ่งเผลอเปิดไปดูทีวีช่อง 7 แล้วเห็นเอาหนังเก่ามาฉายชื่อเรื่องว่า Season Change เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย แล้วตัวละครในหนังเล่นดนตรีซึ่งนั่นเป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกว่าดนตรีมันช่างน่าสนใจ จากนั้นผมก็อินมาเรื่อยๆ แต่ไม่ได้ไปหาเรียนดนตรีเพิ่มหรอกนะเพราะไม่ได้ขยันขนาดนั้น แค่ชอบดูเฉยๆ เป็นหนังเรื่องเดียวที่ผมดูซ้ำแล้วซ้ำอีกได้แบบไม่มีเบื่อเลย
เสียงแซกโซโฟนจบลงพร้อมแสงสว่างบนเวทีที่ดับไป ผมก็เลยละสายตาจากเวทีกลับมาที่โต๊ะอาหารอีกครั้ง พี่กันยิ้มบางให้ผมด้วยแววตาอบอุ่นซึ่งถ้าเป็นก่อนหน้านี้คงจะทำให้ผมรู้สึกหวั่นไหวได้บ้าง แต่ตอนนี้ก็ต้องขอบอกว่าไม่น่าจะมีวันนั้นแล้วล่ะครับเพราะเหตุการณ์ที่ริมชายหาดยังคงฝังลึกอยู่ในจิตใจของผม มันกลายเป็นภาพติดตาและเป็นตราบาปของพี่กันไปตลอดชีวิตของผมแน่ๆ
“ผมอิ่มแล้วครับ” ผมเอ่ยบอกพี่กันเพราะการที่พี่เขานั่งมองผมเงียบๆ แบบนี้มันก็ค่อนข้างที่จะน่าอึดอัดอยู่พอสมควร
“โอเค” พี่กันตอบก่อนจะหันไปหาพนักงานเสิร์ฟที่อยู่ไม่ไกลจากผมมากนักแล้วชูมือส่งสัญญาณเรียกให้อีกฝ่ายเดินเข้ามาใกล้ จากนั้นพี่เขาก็กระซิบอะไรสักอย่างที่ข้างหูของพนักงานเสิร์ฟซึ่งผมเองก็ลุ้นอยู่พอตัวว่าจะมีอะไรมาเซอร์ไพรส์ให้ผมตกใจอีก
“มีอะไรหรือเปล่าครับ” ผมเอ่ยถามด้วยความกังวล
“พี่มีของขวัญมาให้น่ะ รอแป๊บนะ”
“ครับ” ผมตอบรับด้วยความไม่ไว้ใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งรอ
ไม่นานพี่พนักงานเสิร์ฟคนที่พี่กันเรียกมาคุยก็เดินนำเข้ามาก่อนจะตามมาด้วยพี่ต้อมลูกน้องคนสนิทของพี่กันที่อุ้มช่อดอกกุหลาบช่อใหญ่เข้ามาให้ผม ผมไม่รู้หรอกว่ามันมีจำนวนทั้งหมดกี่ดอกแต่รู้ว่ามันช่อใหญ่มาก มากแบบที่ผมไม่เคยคิดว่าจะได้รับมันมาก่อน
“พี่กัน...” ผมอุทานออกมาเบาๆ ขณะที่มองช่อดอกไม้แบบไม่ละสายตา
“พี่ให้ครับ”
“เนื่องในโอกาสอะไรครับ”
“โอกาสที่อยากจะให้ครับ ไม่ได้มีอะไรพิเศษ” พี่กันบอกพร้อมรอยยิ้มจากนั้นพี่ต้อมก็เดินเอาช่อดอกไม้มายื่นให้กับผม
“ขอบคุณครับ” ผมเอ่ยพูดหลังจากที่รับช่อดอกไม้นั้นไว้แล้ววางลงกับโต๊ะมันมันค่อนข้างหนักพอสมควร
“ชอบมั้ย” พี่กันถามผม
“ชอบครับ”
“ชอบพี่หรือชอบดอกไม้”
“ก็ชอบทั้งหมดนั่นแหละครับ” ผมรีบตอบไปตามสไตล์เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายต้องการจะได้ยินอะไร
“เก่งมากครับ ทำตัวดีๆ เชื่อฟังพี่เข้าไว้ อนาคตน้องเอิร์ธจะได้เยอะกว่านี้อีกครับ” พี่กันเอ่ยพูดต่อผมก็ได้แต่ยิ้มแห้งรับเอาไว้เพราะไม่อยากจะขัดใจ
ติ๊ง!
เสียงข้อความจากมือถือของพี่กันดังขึ้น เขาหยิบขึ้นมาดูด้วยใบหน้านิ่งไม่พูดไม่จาก่อนจะขอตัวเดินออกไปด้านนอก ซึ่งผมเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่ามีอะไรเพราะสีหน้าของพี่กันนั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว แบบหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว
หวังว่าคงจะไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวข้องกับผมหรอกนะ...