เรียนไปก็ปวดหัว มีผัวก็ปวด... งั้นถ้าจะต้องทนปวด... ก็ขอปวดแบบได้เงินด้วยละกัน! เลิศๆๆๆๆ
ชาย-ชาย,ซาดิส & มาโซฯ,วัยว้าวุ่น,ยุคปัจจุบัน,ไทย,PWP,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เอิร์ธเด็กเอ็นท์เรียนไปก็ปวดหัว มีผัวก็ปวด... งั้นถ้าจะต้องทนปวด... ก็ขอปวดแบบได้เงินด้วยละกัน! เลิศๆๆๆๆ
เอิร์ธเด็กเอ็นท์
Mr. Host Club
[PWP]
Written by Darkriku93
เปิดเรื่อง 04/01/2023
ประกาศ!!!
นิยายเรื่องนี้เป็นแนว PWP ไม่เน้นความสมเหตุสมผลสักเท่าไหร่ อ่านเอาฟีลลิ่ง อ่านเอามันเฉยๆ น้าาาาา
พี่กันเดินหยิบมือถือออกไปหลังจากที่มีข้อความเข้าแล้วหายไปพักใหญ่ จนผมต้องนั่งรออยู่ในร้านคนเดียวแบบเหงาๆ เพราะไม่มีอะไรจะทำ มือถือก็โดนยึดไปตั้งแต่วันแรกที่มาถึงจนป่านนี้ก็ยังไม่ได้คืน จะติดต่อหาใครก็ไม่ได้ พอจะใช้โทรศัพท์บ้านก็โดนถอดออกไปจนหมด พอยืมมือถือคนรอบข้างทุกคนก็บอกว่าพี่กันห้ามไว้ว่าไม่ให้ผมยืมโดยเด็ดขาด พอจะไปยืมมือถือของนักท่องเที่ยวต่างชาติทุกคนก็พูดตรงกันว่าถูกยึดตั้งแต่เข้ามาที่เกาะนี้เหมือนกัน นั่นก็เลยทำให้ผมรู้สึกเหมือนติดคุกอยู่นี่แหละ เวลาที่ไม่มีพี่กันอยู่ด้วยก็คือโคตรจะว่างโคตรจะเหงาเพราะไม่รู้จะทำอะไร
ผมนั่งรออยู่นานจนต้องบอกให้พนักงานเสิร์ฟเอาของว่างมาให้กินเล่นรอไปพลางๆ เพราะเบื่อมาก แต่พอของว่างมาเสิร์ฟได้ไม่นานพี่กันก็เดินกลับมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มซะงั้น ผมล่ะไม่เข้าใจพี่เขาจริงๆ ทำไมยิ่งอยู่ด้วยยิ่งรู้สึกลึกลับพิกล
“โทษทีนะ พอดีไปคุยธุระมา” พี่กันเดินเข้ามาหาผมที่กำลังนั่งกินของว่างอยู่ด้วยใบหน้าเซ็ง
“ไม่เป็นไรครับ”
“งอนเหรอ” พี่กันเอ่ยถามขึ้น
“เปล่าครับ”
“แล้วน้องเอิร์ธเป็นอะไรครับ ทำไมทำหน้าแบบนี้”
“ผมเบื่อ” ผมเอ่ยตอบพี่กันกลับไปด้วยน้ำเสียงอ่อน
“งั้นออกไปดูวิวกันครับ” พี่กันลุกขึ้นแล้วเดินเข้ามาหาผม ก่อนจะคว้ามือผมแล้วออกแรงดึงให้ผมลุกขึ้นยืน ทีแรกผมก็อิดออดไม่อยากจะลุกไปไหนเพราะว่าอยากจะกลับบ้านแต่ไหนๆ ก็ไหนๆ ได้ออกมาข้างนอกแล้วก็ออกไปดูนู่นนี่สักหน่อยแล้วกัน ไม่งั้นชีวิตคงได้อยู่แต่ในบ้านพักของไอ้พี่กันแน่ๆ
“ก็ได้ครับ” ผมตอบแล้วลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินตามพี่กันไป
ผมกับพี่กันเดินตามกันมายังฝั่งริมระเบียงของร้านอาหารที่อยู่ด้านในสุดซึ่งมีไว้สำหรับให้ลูกค้าไว้ชมวิว ซึ่งมีประตูกระจกกั้นเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ลมพัดเข้ามาภายในร้าน พี่กันเปิดประตูกระจกนั้นออกแล้วพาผมเดินออกไป ลมพัดมาวูบหนึ่งปะทะเข้ามาที่ร่างกายของผม เปลือกตาผมหลับลงโดยอัตโนมัติเพราะกลัวว่าจะมีฝุ่นหรือสิ่งแปลกปลอมลอยมาเข้าตาแต่พอลมพัดผ่านไปผมก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นจึงได้เห็นภาพวิวด้านล่างของเกาะในเวลากลางคืนที่สวยจนผมพูดไม่ออก
ไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมถึงได้กลายเป็นร้านอาหารอันดับหนึ่งบนเกาะนี้...
เพราะวิวมันสวยจับใจเลย
พี่กันพาผมมาที่ริมระเบียงตรงขอบรั้วตรงจุดที่มีป้ายแปะเอาไว้ว่าเป็นจุดชมวิวรวมถึงเป็นจุดถ่ายรูปที่นักท่องเที่ยงส่วนใหญ่มักจะมาเช็กอินกันด้วย ผมเองก็สนใจนะแต่ไม่มีมือถือไงจะให้ถ่ายได้ยังไงกันล่ะ
“อยากถ่ายรูปมั้ย” พี่กันเอ่ยถามผม
“อยากครับ แต่ไม่มีมือถือ”
“งั้นเดี๋ยวพี่ถ่ายไว้ให้ก่อนเนอะ”
“ก็ได้ครับ”
“น้องเอิร์ธเดินไปยืนตรงสติ๊กเกอร์รูปเท้าเลย เดี๋ยวพี่ถ่ายให้ครับ” พี่กันบอกผมแล้วชี้ให้เดินไปที่พื้นที่มีสติ๊กเกอร์รูปรอยเท้าแปะไว้สำหรับการยืนถ่ายรูปเพื่อให้ได้มุมที่จะถ่ายออกมาแล้ววิวสวยที่สุด
ผมก้มหน้าเดินไปยังจุดที่พี่เขาบอกแล้วหันหน้าเข้าไปหาพี่เขาเพื่อที่จะให้พี่เขาถ่ายรูปให้ เอาจริงๆ ถ้าตัดเรื่องอื่นๆ ไปพี่กันเขาก็ดูเป็นผู้ชายที่อบอุ่นคนหนึ่งแต่ก็อย่างว่านั่นแหละพอผมกำลังจะรู้สึกอะไรที่มันเกินเลยมากกว่าเด็กบาร์โฮสต์กับลูกค้า ภาพริมชายหาดวันนั้นมันก็วนเข้ามาในหัวของผมอีกครั้ง ซึ่งมันก็ทำให้ผมได้สติขึ้นมาทุกครั้ง
แชะ!
พอพี่กันถ่ายรูปให้ผมเสร็จเรียบร้อยผมก็รีบหันหน้าออกไปมองวิวด้านนอกในทันที แสงไฟยามค่ำคืนสว่างไปทั่วทุกพื้นที่บนเกาะ โดยเฉพาะย่านที่มีร้านค้าและที่พักก็จะสว่างมากเป็นพิเศษ หลายแห่งตกแต่งไฟได้สวยงามจนผมเองก็แปลกใจยิ่งได้มาเห็นจากมุมสูงแล้วนั้นยิ่งน่าประทับใจ แต่ผมแทบจะไม่เคยได้ออกไปลิ้มลองบรรยากาศร้านพวกนั้นเลยด้วยซ้ำ เพราะถูกขังเอาไว้แต่ในบ้าน พอได้ออกไปเที่ยวก็ไปแค่รีสอร์ทและชายหาดที่พี่กันควบคุมอยู่ทั้งหมด ไม่เคยได้เป็นอิสระเลยแม้แต่ครั้งเดียว
แม้ในความเป็นจริงทั้งเกาะนี้จะถูกพี่กันควบคุมเอาไว้ทั้งหมดก็เถอะ...
ผมแค่อยากออกไปเที่ยวแบบอิสระ ไม่ต้องมีคนคอยติดตาม ไม่ต้องมีพี่กันตัวติดกับผมไปด้วยทุกที่ แต่ก็เนอะในเมื่อเขาซื้อผมมานี่นา ก็เท่ากับว่าผมมาทำงานไม่ได้มาเที่ยวเล่น พี่กันก็เปรียบเสมือนเป็นเจ้านายของผมอีกที จะทำอะไรก็ต้องเชื่อฟังพี่เขานั่นแหละ จะมาทำตามใจตัวเองอย่างเดียวก็คงไม่ได้
“อุ๊ย!” ผมสะดุ้งเมื่อระหว่างที่ผมกำลังชมวิวด้านล่างอยู่เพลินๆ พี่กันก็เดินเข้ามากอดผมจากด้านหลังแน่น
“บรรยากาศดีเนอะ” พี่เขากระซิบที่ข้างหูผม
“ใช่ครับ วิวสวยมาก ลมเย็นดี”
“เรามาหาอะไรสนุกๆ ทำกันมั้ยครับ” พี่กันเขาพูดแล้วกดจูบลงที่ใบหูของผม
“พี่กัน...” ผมร้องห้ามเบาๆ เพราะรู้ดีว่าที่ไม่ได้มีแค่เราสองคน
“นะครับ” พี่เขาพูดต่อด้วยน้ำเสียงอ้อน แล้วดูหน้าพี่เขาสิหล่อขนาดนี้จะให้ใจแข็งก็ลำบากไง แต่ไม่ได้ ผมจะไม่ยอมอับอายเป็นครั้งที่สอง
“ไม่เอาครับ”
“ทำไมล่ะครับ”
“คนเยอะ”
“ไม่เห็นมี ตรงนี้มีแค่เราสองคนเองครับ” พี่กันพูดต่อพลางคลอเคลียผมไม่หยุด
“ข้างนอกนู่นไง คนเยอะแยะ” ผมพูดพลางมองไปด้านนอกเพื่อต้องการจะย้ำว่าตรงนี้ไม่ได้มีแค่เราสองคน
พี่กันหันมองตามผมแล้วยกยิ้มออกมาโดยที่ไม่ได้มีทีท่าว่าจะรู้สึกอะไรสักนิด เหมือนกับว่าสิ่งที่เขาทำอยู่นั้นมันเป็นเรื่องปกติ เขาก้มลงหอมแก้มผมแล้วเริ่มซุกไซร้ที่ซอกคอของผมอีกครั้งด้วยอารมณ์ความใคร่ที่มีมากกว่าเดิม ซึ่งผมก็พยายามที่จะห้ามด้วยการยกมือมาผลักเขาออกแต่ก็ไม่เป็นผล แถมพี่เขายังออกแรงมากกว่าเดิมเสียอีก
“พี่กัน ผมเจ็บ!”
“เจ็บก็อยู่เฉยๆ” เขาพูดเสียงนิ่งแต่แววตาแข็งกร้าว แบบที่ผมเคยเห็นครั้งก่อน โคตรน่ากลัว
“พี่กัน...”
“ถ้าไม่อยากเจ็บตัว ก็อยู่นิ่งๆ เงียบไว้ซะ” พี่กันกระซิบที่ข้างใบหูของผมในขณะที่มือหนาจับคางผมแล้วบีบไว้แน่น
มันกลับมาอีกแล้ว ไอ้ความรู้สึกแบบนี้
ความรู้สึกแบบที่ผมเจอเมื่อตอนที่อยู่ริมชายหาด...
ผมนิ่งตามคำสั่งจากอีกฝ่าย ตัวเริ่มสั่นเทาเพราะภาพเมื่อไม่กี่วันก่อนมันย้อนกลับมาอีกครั้งแบบชัดเจน รวมไปถึงความรู้สึกในวันนั้นด้วย
พี่กันกอดผมจากด้านหลังแล้วซุกไซร้อยู่ที่ลำคอของผมอยู่ครู่ใหญ่ มือหนาลูบไล้อยู่ที่ก้นของผม เขาบีบมันจนแน่นแล้วคลายออกอยู่แบบนี้หลายรอบก่อนจะเปลี่ยนเป็นลูบไล้และคลึงเบาๆ จากนั้นพี่เขาก็พยายามเอาเป้ากางเกงที่แข็งตึงเข้ามาสัมผัสแล้วลูบไล้กับก้นของผม แม้มันจะอยู่ภายใต้กางเกงตัวหนาแต่ผมก็รู้สึกถึงมันได้อย่างชัดเจน
“พะ...พี่กัน”
“คะ...ครับ”
เสียงกระเส่าของพี่เขาก็ปลุกเร้าอารมณ์ของผมได้ไม่น้อยเหมือนกัน แม้ใจของผมจะพยายามปฏิเสธแต่เหมือนกับว่าร่างกายของผมมันจะไม่ให้ความร่วมมือเลยแม้แต่น้อย เพราะอะไรๆ ก็ดูเหมือนว่าจะคล้อยตามอีกฝ่ายไปเสียหมด
“ในร้านนั่นคนอยู่เยอะนะครับ” ผมเอ่ยเตือนอีกรอบ
“ช่างมันเถอะ”
“แต่ว่า...”
“หรือมึงอยากตาย เลือกเอา!!” พี่กันตะคอกใส่ผม ทำเอาผมตกใจเป็นอย่างมากได้แต่นิ่งเงียบไม่กล้าพูดอะไรออกไปอีกเพราะกลัวว่าจะไม่ได้มีชีวิตหลุดรอดออกไปจากเกาะนี้
ผมไม่กล้าพูดอะไรต่อได้แต่นิ่งไว้แล้วยอมปล่อยตัวไปตามแต่ที่อีกฝ่ายจะบงการ ร่างกายผมสั่นเล็กน้อยด้วยเพราะความกลัวแต่ก็พยายามทำใจสู้เพื่อที่ว่าจะสามารถผ่านพ้นเหตุการณ์ในเวลานี้ไปได้ด้วยดี
พี่กันพลิกตัวผมให้หันกลับมามองหน้าเขาที่กำลังเต็มไปด้วยอารมณ์หื่นกระหาย แววตาอบอุ่นเปลี่ยนไปแล้วในเวลานี้ ไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยวให้ผมเห็น เพราะมันถูกแทนที่ด้วยกามารมณ์ที่ครุกรุ่นอยู่ในนั้น ผมจ้องมองแววตาของอีกฝ่ายด้วยความอ้อนวอนแต่ดูเหมือนว่าเขาจะมองไม่เห็นมันเพราะไฟราคะกำลังบดบังสายตาเขาไปจนหมด
อาจจะรวมถึงบดบังจิตใต้สำนึกของเขาด้วยก็ได้...
ถึงได้ทำแต่เรื่องที่มันวิปริตขนาดนี้ขึ้นมาเป็นซ้ำสอง