เรียนไปก็ปวดหัว มีผัวก็ปวด... งั้นถ้าจะต้องทนปวด... ก็ขอปวดแบบได้เงินด้วยละกัน! เลิศๆๆๆๆ

เอิร์ธเด็กเอ็นท์ - บทที่ 53 โรงละคร โดย Run_Kantheephop @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,ซาดิส & มาโซฯ,วัยว้าวุ่น,ยุคปัจจุบัน,ไทย,PWP,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เอิร์ธเด็กเอ็นท์

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,ซาดิส & มาโซฯ,วัยว้าวุ่น,ยุคปัจจุบัน,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

PWP

รายละเอียด

เอิร์ธเด็กเอ็นท์  โดย Run_Kantheephop @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เรียนไปก็ปวดหัว มีผัวก็ปวด... งั้นถ้าจะต้องทนปวด... ก็ขอปวดแบบได้เงินด้วยละกัน! เลิศๆๆๆๆ

ผู้แต่ง

Run_Kantheephop

เรื่องย่อ

เอิร์ธเด็กเอ็นท์

Mr. Host Club

[PWP]

Written by Darkriku93

เปิดเรื่อง 04/01/2023

ประกาศ!!!

นิยายเรื่องนี้เป็นแนว PWP ไม่เน้นความสมเหตุสมผลสักเท่าไหร่ อ่านเอาฟีลลิ่ง อ่านเอามันเฉยๆ น้าาาาา

สารบัญ

เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -Prologue บทนำ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 1 ปัญหาชีวิต,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 2 หนี,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 3 เข้าสู่วงการ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 4 เริ่มเลย,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 5 เข้าสังกัด,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 6 วันแรกในบาร์,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 7 ค้นพบหนทางใหม่,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 8 ผ่านไปได้ด้วยดี,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 9 บ่อกุ้งสะดุ้งรัก,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 10 แกะกุ้งเสียหน่อย,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 11 ปลดปล่อยสักหน่อย,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 12 รับงานนอก,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 13 พวกตำรวจมันชอบความรุนแรง,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 14 รับงานแทน,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 15 ได้โบนัส,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 16 เทิร์นรุกดูสักหน่อย,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 17 แรกเจอ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 18 ถูกตาต้องใจ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 19 อาชาคือม้าทรงพลัง,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 20 อาชาคือม้าทรงพลัง 2,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 21 เกาหลีเขาซื้อฉันแล้ว!,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 22 เกาหลีเขาซื้อฉันแล้ว 2,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 23 ไม่รู้อิจฉาหรือว่าน้อยใจ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 24 ติดอกติดใจ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 25 หน้ามือเป็นหลังมือ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 26 หรือว่าจะเลิก,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 27 ไหนว่าจะพัก,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 28 เอาวะ! ลุย!!,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 29 ไม่ได้ตั้งใจ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 30 ครั้งแรกก็ติดใจเสียแล้ว,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 31 นี่เดทปะเนี่ย!?,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 32 ครับเชฟ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 33 เลอะเทอะไปหมด,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 34 งานนอกค้างคืน,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 35 แขกคนใหม่,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 36 เวลาส่วนตัว,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 37 เซ็กส์บนรถก็น่าสนุกดีเหมือนกัน,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 38 Outdoor ครั้งแรก,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 39 เรือ (ยอร์ช) สำราญ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 40 ขอแจมหน่อย,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 41 แขกพิเศษ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 42 เดินเล่นหย่อนใจ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 43 ริมหาด,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 44 แปลกๆ ละ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 45 เอาอีกแล้ว,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 46 คิดไม่ผิด,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 47 ระเบียงร้อนรัก,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 48 ระเบียงร้อนรัก 2,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 49 อะไรกันวะเนี่ย!?,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 50 โดนรุม,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 51 ความจริงปรากฏ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 52 เรื่องเชี่ยอะไรวะเนี่ย!?,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 53 โรงละคร,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 54 โรงละคร 2,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 55 โรงละคร 3,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 56 เป็นอะไรของเขา,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 57 ลองอะไรใหม่ๆ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 58 นายทาส,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 59 ป่วยซะแล้ว,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 60 อาการเป็นไงไหนบอกหมอ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 61 หมอจะฉีดยาให้นะ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 62 Mission สุดท้าย,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 63 กลางแจ้ง,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 64 กัดฟันทนอึดใจสุดท้าย,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 65 กลับมาแล้ว!,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 66 ที่พักใจ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 67 เปิดประสบการณ์,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 68 เรียนรู้กันและกัน,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 69 ได้รับยารักษาใจ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 70 ทำงานได้แล้ว,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 71 จะเอายังไง,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 72 รู้ใช่ไหมว่าควรทำยังไง,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 73 ขอจัดสักหน่อย,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 74 เอาไงเอากัน,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 75 ยอมรับหัวใจ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -Special Chapter 1,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -Special Chapter 2

เนื้อหา

บทที่ 53 โรงละคร

ก๊อกๆๆ

เสียงเคาะประตูห้องนอนของผมดังขึ้นหลายครั้งจนผมที่พยายามจะฝืนหลับตาเพื่อนอนต่อทนไม่ไหว ต้องลุกขึ้นด้วยความหงุดหงิดเพราะอดรำคาญไม่ได้ที่โดนปลุกเสียตั้งแต่ตอนเช้า ใบหน้าของผมมุ่ยยับเพราะยังงัวเงียจากการหลับใหล ผมหันมองไปทางประตูด้วยใบหน้าหงุดหงิด

“ค้าบบบบ” ผมตะโกนส่งเสียงออกไปเพื่อให้คนที่กำลังยืนอยู่ด้านนอกได้ยินและรับรู้ว่าผมตื่นแล้ว

“วันนี้คุณเอิร์ธมีออกไปข้างนอกกับคุณกันนะครับ” เสียงพี่ต้อมดังแว่วผ่านประตูห้องเข้ามา

“ครับพี่ต้อม” ผมตอบรับไปอย่างเสียไม่ได้ ถึงแม้จะไม่อยากไปสักแค่ไหนแต่ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี เพราะคำตอบมีได้แค่อย่างเดียวคือต้องไปเท่านั้น

ผมนั่งทำใจอยู่พักใหญ่ หายใจเข้าออกเพื่อสงบสติและอารมณ์ที่ระอุอยู่ภายในใจ แม้จะอยากได้เงินรางวัลจำนวนห้าล้านบาทแต่นี่มันก็ดูจะหนักหน่วงเกินไปนิดหน่อยสำหรับสภาพจิตใจของผม เพราะการมาที่นี่มันไม่ได้เกิดจากการที่ผมยินยอมพร้อมใจแต่มันเกิดขึ้นเพราะผมถูกหลอกซื้อมาต่างหาก ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องที่ผมจะเต็มใจสักเท่าไหร่นัก แต่ก็เพราะไอ้เงินห้าล้านนี่แหละที่ทำผมกล้ำกลืนฝืนทนที่จะอยู่ต่อเพื่อทำภารกิจให้สำเร็จ

แบบนี้มันเข้าตำรารู้เขาหลอกแต่เต็มใจให้หลอกมั้ยนะ...

ผมรู้แหละว่ามันค่อนข้างที่จะ Toxic อยู่เหมือนกันแต่ให้ทำไงได้ก็ในเมื่อผมอยู่บนหลังเสือแล้วในตอนนี้ หากกระโดดลงไปก็มีแต่ตายกับตายเท่านั้น ไม่เห็นหนทางที่จะมีชีวิตรอดเลยแม้แต่น้อย

สองขาของผมค่อยๆ หย่อนลงไปสัมผัสบนพื้นห้องนอนทีละข้างก่อนผมจะใช้สองมือออกแรงยันตัวเองให้ลุกขึ้นยืน ผมหันหน้าเข้าไปมองกระจกเงาเพื่อส่องดูสภาพของตัวเองที่เพิ่งตื่น เอาจริงๆ ก็ไม่ได้น่าเกลียดสักเท่าไหร่หรอก แต่ถ้าใครมาเห็นก็คงจะไม่คิดว่านี่คือหนึ่งในตัวท็อปของร้านเจ๊เปรี้ยว

ผมถอดเสื้อยืดสีเทาตัวที่ใส่นอนออกจนเผยให้เห็นกล้ามเนื้ออ่อนๆ บริเวณหน้าอกและหน้าท้อง ผิวขาวเนียนแบบที่ลูกค้าทุกคนหลงใหล จากนั้นผมจึงเริ่มปลดกางเกงนอนออกเผยให้เห็นไอ้นั่นของผมที่มันอยู่ในภาวะกึ่งหลับกึ่งตื่น ผมก้มลงไปหยิบเสื้อผ้าเหล่านั้นโยนใส่ตะกร้าผ้าเพื่อรอเวลาให้แม่บ้านเข้ามาเอาไปทำความสะอาดให้แล้วคว้าเอาผ้าขนหนูมาพาดบ่าเดินเข้าห้องน้ำไป

ซู่!!!

เสียงน้ำจากฝักบัวไหลออกมาดังขึ้นหลังจากที่ผมใช้มือซ้ายยื่นไปหมุนบิดก๊อกน้ำใต้ฝักบัวนั้น ผมยืนรออยู่ครู่หนึ่งเพื่อให้เครื่องทำน้ำอุ่นได้ทำงานเพื่อเปลี่ยนจากน้ำเย็นจัดให้อยู่ในอุณหภูมิที่ผมพอจะรู้สึกสบายตัวเมื่อเอาร่างกายเข้าไปสัมผัส

“อ่า...” ผมร้องครางออกมาเมื่อผิวกายสัมผัสเข้ากับน้ำอุ่นที่กำลังพอดีจนรู้สึกผ่อนคลาย

ผมยืนนิ่งให้น้ำจากฝักบัวไหลผ่านหัวอยู่พักหนึ่งก่อนจะนึกขึ้นมาได้ว่าลืมเปิดเพลง ผมจึงถอยตัวออกมาแล้วยื่นมือไปเช็ดกับผ้าขนหนูที่แขวนไว้ข้างผนังห้องน้ำจนแห้งหมาดแล้วเดินไปคว้าเอามือถือขึ้นมาเปิดเพลงโปรดจากในยูทูปก่อนจะเดินกลับมาอาบน้ำต่อ

เสียงเพลงดังขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาที่ผมอาบน้ำ และเป็นปกติที่เวลาเพลงเร็วดังขึ้นแล้วผมจะเต้นตามซึ่งนี่ก็เลยกลายเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ผมมักจะใช้เวลาอาบน้ำนานกว่าคนปกติทั่วไป

เพราะมัวแต่เปิดคอนเสิร์ตอยู่ในห้องน้ำนั่นแหละ...

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานขนาดไหนแต่เพลย์ลิสต์เพลงในยูทูปของผมมันก็เล่นไปเรื่อยๆ หลายเพลงแล้วเหมือนกัน พอผมเห็นสมควรว่าได้เวลาจะต้องออกจากห้องน้ำไปแต่งตัวได้แล้วก็เลยยกมือไปหมุนปิดก๊อกน้ำเพื่อให้น้ำจากฝักบัวหยุดไหลแล้วผมก็ยื่นแขนไปคว้าเอาผ้าขนหนูที่แขวนไว้มาเช็ดจนทั่วตัวก่อนจะพันเอวแล้วเดินออกจากห้องนอนไป

ก๊อกๆๆ

หื้ม? ตามอีกละเหรอ

“ครับพี่ต้อม” ผมตะโกนตอบออกไป

“เมื่อไหร่จะเสร็จ” เสียงคุ้นหูดังขึ้นแต่มันดันไม่ใช่เสียงของพี่ต้อมน่ะสิ เพราะมันคือเสียงของพี่กันที่ค่อนข้างจะเรียบนิ่งไร้ซึ่งอารมณ์จนยากจะเดาได้ว่าตอนนี้เขากำลังรู้สึกยังไง

“พี่กันเหรอครับ” ผมถามย้ำเพราะอยากที่จะมั่นใจว่าเจ้าของเสียงคือคนๆ นั้นจริงๆ

“อืม...” พี่กันตอบรับด้วยน้ำเสียงนิ่ง

“รออีกแป๊บนะครับ ผมเพิ่งอาบน้ำเสร็จ”

“พี่จะรอนะ” พอพี่กันพูดจบเสียงฝีเท้าก็เดินห่างออกจากประตูหน้าห้องของผมไป

ผมรีบดึงผ้าขนหนูที่พันรอบเอวออกแล้วรีบเปิดตู้เสื้อผ้าแล้วรีบคว้าเอาเสื้อผ้าในนั้นออกมาใส่อย่างรวดเร็ว จริงๆ ก็ไม่ได้กลัวสักเท่าไหร่หรอกนะแต่ด้วยน้ำเสียงที่ได้ยินเมื่อกี๊บวกกับการที่พี่กันเดินตามผมเองถึงที่ห้องนั่นก็หมายความว่าพี่เขากำลังใกล้จะหมดความอดทนเต็มที ดังนั้นผมจึงไม่อยากเสี่ยงชีวิตกับการไปยั่วเย้าอารมณ์โกรธของเขาอีกด้วยการปล่อยให้เขาต้องรอนานมากไปกว่านี้

ครีมบำรุงและเครื่องสำอางถูกแต่งลงบนใบหน้าของผมอย่างเร่งรีบก่อนจะตามด้วยแวกซ์และเสปรย์จัดแต่งทรงผมให้เข้าร่องเข้ารอย จากนั้นก็รีบหยิบเอาน้ำหอมกลิ่นโปรดมาประพรมจนทั่วทั้งตัวแล้วเดินไปหยิบกระเป๋าสะพายข้างใบเล็กเข้าแขวนที่ไหล่แล้วเปิดประตูออกไปทันที

“เอ้า!” ผมร้องอุทานตกใจออกมาเล็กน้อย เมื่อเปิดประตูออกมาแล้วพบว่าพี่ต้อมยืนรออยู่ตรงนั้น

“พร้อมแล้วใช่มั้ยครับคุณเอิร์ธ” พี่ต้อมยิ้มแล้วเอ่ยถามทันทีเมื่อเห็นหน้าผม

“ครับ” ผมตอบรับแล้วพยักหน้าเล็กน้อย

“เชิญทางนี้เลยครับ” พี่ต้อมบอกผมแล้วออกเดินนำหน้าไป ผมก็รีบเดินตามทันที

ไม่รู้เหมือนกันว่าวันนี้ไอ้พี่กันมันจะพาผมไปไหน แล้วผมจะโดนทำอะไรพิเรนทร์ๆ อีกหรือเปล่า แต่ก็คิดเอาไว้อยู่ในใจแล้วว่าอาจจะไม่รอด ก็วันนั้นเขาเล่นพูดมาซะขนาดนั้นว่ามีมิชชั่นอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้คนดูคอยโหวตว่าจะให้ทำอะไร แล้วคิดดูว่าตอนนี้ผมก็ต้องมานั่งลุ้นอีกว่า ไอ้พวกจิตวิปริตจะโหวตให้ผมโดนเอาตรงไหนอีก ซึ่งก็คงไม่ใช่ในสถานการณ์ปกติ สถานที่ปกติแบบธรรมดาทั่วไปแน่ๆ

เหมือนจะเริ่มชินแต่ก็ยังรู้สึกอยู่ดีว่ามันประหลาด...

แต่ที่มันน่าประหลาดกว่านั้นก็คือ ทำไมผมถึงยังยินยอมอยู่ที่นี่ต่อไป ผมเองก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี หรือเพราะไอ้เงินรางวัลจำนวน 5 ล้านบาทนั่นก็ไม่อาจจะสรุปได้ เพราะเอาเข้าจริงไอ้เงินรางวัลจำนวนนั้นผมใช้เวลาทำงานเป็นเด็กเอ็นท์ในร้านเจ๊เปรี้ยวไม่เกินสามเดือนก็คงได้แล้วล่ะ

หรืออันที่จริงผมอาจจะเผลอตัวชื่นชอบการมีเซ็กส์แบบประหลาดไปแล้วก็ได้

พี่ต้อมพาผมเดินมาจนถึงโซนห้องนั่งเล่นที่อยู่บริเวณแถวหน้าบ้านที่พี่กันกำลังนั่งดื่มกาแฟอยู่พลางเล่นไอแพดไปด้วย ผมเดินตามหลังพี่ต้อมเข้าไปแล้วหยุดยืนรอในขณะที่พี่ต้อมเดินเข้าไปใกล้พี่กันแล้วกระซิบที่ข้างหู ผมเห็นไอ้พี่กันพยักหน้าเล็กน้อยแล้ววางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะก่อนจะหันหน้ามามองผมแล้วส่งยิ้มให้

พอผมเห็นแบบนั้นผมจึงเดินเข้าไปหา

“รอนานมั้ยครับ” ผมถาม

“นานมาก” พี่กันเอ่ยตอบเสียงนิ่งแต่ก็ยังปรากฏรอยยิ้มให้เห็นบนใบหน้าอยู่บ้าง

“ขอโทษนะงับ” ผมพยายามทำเสียงอ้อนและทำใบหน้าน่ารักเพราะรู้ดีว่านี่คือจุดอ่อนของไอ้พี่กัน ที่เวลามันเห็นผมเป็นแบบนี้ทีไรใจมันจะอ่อนต่อผมทุกที

“...”

ไอ้พี่กันมันนิ่งไปพักหนึ่ง ผมสังเกตเห็นแววตาที่สั่นไหวของมันและมุมปากที่เหมือนกับว่าจะยกยิ้มแต่ก็ควบคุมเอาไว้ได้ พอผมเห็นแบบนั้นก็ยิ่งได้ใจเพราะรู้สึกว่าอย่างน้อยผมก็ยังมีไพ่ไม้ตายใบสุดท้ายที่สามารถเอาไว้ต่อรองหรือเอาชนะไอ้พี่กันได้บ้าง

ก็คงไม่มีใครจะเป็นผู้แพ้ไปตลอดหรอกเนอะ!

“พี่กัน...” ผมเอ่ยเรียกชื่อเขาเมื่อเห็นว่าพี่เขานิ่งไปพักใหญ่

“...”

“พี่กันครับ” ผมเรียกย้ำ

“หะ...ห้ะ?” ไอ้พี่กันมันได้สติกลับมาอีกครั้งหนึ่งหลังจากที่โดนความน่ารักของผมเข้าจู่โจมไปเมื่อครู่ เอาจริงๆ หน้าของพี่มันเมื่อกี๊ตอนที่เด๋อด๋าแม่งโคตรน่ารักเลย แต่ก็นะมันก็เป็นเพียงแค่เสี้ยวเดียวของความรู้สึกของผมนั่นแหละ เพราะว่าไอ้เรื่องที่ผ่านมาที่พี่เขาทำกับผมเอาไว้มันก็ค่อนข้างที่จะมากเกินไปที่ผมจะให้อภัยและยอมรับในความเป็นพี่กันได้ทั้งหมด

พูดแล้วก็เศร้า ทำไมคนหล่อ บ้านรวยแบบไอ้พี่กันต้องกลายเป็นคนโรคจิตแบบนี้ด้วยก็ไม่รู้ แต่ก็อย่างว่าที่มันรวยได้ขนาดนี้คงเพราะธุรกิจชั่วๆ ของมันนี่แหละ ปกติก็เคยดูแต่ในหนังใครมันจะไปคิดว่าวันหนึ่งตัวเองจะถูกหลอกมาขังไว้บนเกาะเพื่อเป็นตัวละครแข่งขันในเรียลลิตี้เกมที่พวกคนมีเงินเขาคอยดูคอยโหวต

เอาดีๆ ทุกวันนี้ยังคิดอยู่เลยว่าฝันไปหรือเปล่า...

“เหม่ออะไรครับ” ผมเอ่ยแซวพี่กันก็เลยยกยิ้มขึ้นมาน้อยๆ แล้วส่ายหน้า

“เปล่าครับ น้องเอิร์ธน่ารักดีเมื่อกี๊”

“ขอบคุณนะครับ”

“ไปกันเถอะ” กันเอ่ยบอกผมแล้วรีบลุกขึ้นยืนเต็มความสูงทันที

“ครับ” ผมลุกขึ้นยืนตามแล้วก้าวขาเดินตามหลังพี่กันไป

ระหว่างทางที่เดินไปขึ้นรถตู้ที่จอดอยู่บริเวณลานหน้าบ้านผมก็เอะใจขึ้นมาว่าควรจะถามพี่เขาก่อนมั้ยว่ากำลังจะไปที่ไหน เพราะรู้สึกไม่อยากเสี่ยงไปตายเอาดาบหน้าอีกแล้ว อยากให้ช่วยบอกสักหน่อยว่าปลายทางที่กำลังจะนั่งรถไปนั้นมันคือที่ไหน เผื่อว่าจะได้เตรียมตัวเตรียมใจถูกหากว่าต้องตาย

“เอ้อ พี่กันครับ”

“ครับ”

“สรุปนี่เรากำลังจะไปไหนกันนะครับ” ผมตัดสินใจเอ่ยถามออกไป

“พี่จะพาน้องเอิร์ธไปดูละครเวทีครับ”

“ห้ะ? บนเกาะนี้มีโรงละครเวทีด้วยเหรอครับ” ผมถามอย่างประหลาดใจ นี่สรุปยังมีอะไรที่ผมไม่รู้อีกบ้างเนี่ย แล้วไอ้เกาะนี้มันขนาดเท่าไหร่เหรอ ทำไมมันดูมีทุกอย่างบนเกาะนี้เลย เอาจริงๆ ไม่ต้องออกจากเกาะนี้ก็ใช้ชีวิตได้สบายๆ อะ เพราะแม่งมีทุกอย่างเลย

“มีสิครับ” ไอ้พี่กันตอบพลางทำหน้าขิงเล็กน้อย

“โห เกาะส่วนตัวของพี่กันนี่มันสุดๆ ไปเลยครับ”

“ไม่หรอก เป็นโรงเล็กๆ เอง จุได้มากสุดก็แค่ร้อยคน” พี่กันเอ่ยบอกก่อนที่จะก้าวขาขึ้นรถตู้ไป 

“อ่อครับ” ผมตอบรับขณะที่เดินตามหลังพี่กันขึ้นรถตู้ก่อนจะที่พี่ต้อมจะออกแรงปิดประตูรถให้กับเราทั้งคู่

รถตู้เคลื่อนตัวออกจากตัวบ้านของพี่กันโดยมีคุณลุงคนขับรถขาประจำที่ผมเห็นหน้าจนจำได้ ส่วนพี่ต้อมก็นั่งอยู่ฝั่งข้างคนขับอีกที เอาจริงๆ ตอนนี้ผมรู้สึกผูกพันกับพี่ต้อมมากทีเดียวเพราะเขาดูแลผมดีมากจริงๆ ดูแลดีเหมือนกับว่าผมเป็นลูกหลานของเขา ซึ่งเอาเข้าจริงผมเองก็รู้สึกว่าเขาออกจะเป็นห่วงผมอยู่เล็กน้อยเพราะเขาเองก็รู้ดีว่าเจ้านายของตัวเองนั้นมีรสนิยมยังไง ผมเคยได้ยินเขาเล่าให้ฟังอยู่บ้างว่าคนก่อนๆ ก็หนีกันหัวซุกหัวซุนเพราะว่าทนรับแรงกระแทกจากความจิตไม่ปกติของไอ้พี่กันไม่ได้

สองข้างทางที่รถขับผ่านนั้นเริ่มคุ้นตาผมมากขึ้นหลังจากที่อยู่ที่นี่มาเป็นระยะเวลาพักใหญ่ ผมนั่งเหม่อมองวิวข้างทางไปด้วยใจที่ปล่อยเบลอ ไม่ได้คิดอะไร ส่วนพี่กันก็นั่งอ่านข่าวในไอแพดไปเรื่อยเปื่อย เราทั้งสองคนไม่ได้คุยกันสักเท่าไหร่แต่ผมก็เองก็ไม่ได้แปลกใจสักเท่าไหร่เพราะคิดว่าอยู่แบบนี้ก็ดีอยู่แล้วเพราะอยู่ด้วยกันตลอดแบบนี้หากคุยกันมากไปก็จะไม่ดี คุยกันน้อยไปก็ไม่ดีอีก การรักษาระยะห่างที่พอดีจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด 

แต่เดี๋ยวนะ? แล้วผมจะมารักษาระยะห่างระหว่างผมกับพี่กันมันทำไมเนี่ย ไม่ได้อยากจะอยู่กับมันไปตลอดชีวิตสักหน่อย

ผมสะบัดหัวไล่ความคิดเมื่อกี๊นี้ออกไป แล้วหันมามองหน้าไอ้พี่กันที่นั่งอยู่ข้างๆ คือเอาจริงๆ เลยนะ ไอ้พี่กันเนี่ยมันหน้าตาดีมาก ตอนมันนั่งนิ่งไม่พูดอะไรให้ฟีลผู้ชายเย็นชาตามแบบฉบับซีรีส์มาก แต่พอไอ้พี่กันมันพูดหรือดูแลเทคแคร์ก็อบอุ่นเสียเหลือเกิน มันชวนเขินได้ตลอดเหมือนเวลาที่เราดูซีรีส์เกาหลีนั่นแหละ แต่พอเป็นเรื่องบนเตียงก็ต้องขอบอกว่ามันเปลี่ยนคนละคนไปเลย เพราะเต็มไปด้วยความดุดันราวสัตว์ป่าแถมยังหื่นกระหายแบบที่แตกต่างจากรูปลักษณ์ภายนอกอย่างชัดเจน โดยเฉพาะรสนิยมความแปลกที่ไอ้พี่กันมันชอบมีเซ็กส์แบบประหลาดๆ อีกด้วย ไม่ว่าจะเรื่องสถานที่หรือความรุนแรงก็ตาม

ถ้าไม่มีฝ่ายไหนเจ็บตัวก็ดูเหมือนว่าไอ้พี่กันมันจะไม่พอใจสักเท่าไหร่นัก...

รถตู้เลี้ยวเข้าไปจอดยังอาคารทรงยุโรปหลังหนึ่งซึ่งผมเองก็ไม่เคยเห็นมาก่อนตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ แล้วก็ไม่ทันจะได้รู้สึกตัวด้วยซ้ำว่าไอ้รถตู้เจ้ากรรมคันนี้มันเลี้ยวออกนอกเส้นทางที่ผมคุ้นเคยไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ก่อนหน้านี้ผมก็ยังนั่งจ้องสองข้างทางอยู่เลยเพราะตั้งใจไว้ว่าหากโดนพาออกนอกเส้นทางแล้วเกิดปัญหาอะไรขึ้นจะได้จดจำเส้นทางแล้วหาทางหนีทีไล่ได้ แต่ไม่รู้ไปทำอีท่าไหนผมถึงได้ไม่เห็นว่าคุณลุงคนขับพาผมออกนอกเส้นทางถึงที่นี่โดยที่ผมไม่ทันสังเกตได้ยังไง

หรืออาจจะเพราะมัวแต่คิดถึงเรื่องตัวเองกับไอ้พี่กันมันแน่ๆ