เรียนไปก็ปวดหัว มีผัวก็ปวด... งั้นถ้าจะต้องทนปวด... ก็ขอปวดแบบได้เงินด้วยละกัน! เลิศๆๆๆๆ

เอิร์ธเด็กเอ็นท์ - บทที่ 70 ทำงานได้แล้ว โดย Run_Kantheephop @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,ซาดิส & มาโซฯ,วัยว้าวุ่น,ยุคปัจจุบัน,ไทย,PWP,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เอิร์ธเด็กเอ็นท์

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,ซาดิส & มาโซฯ,วัยว้าวุ่น,ยุคปัจจุบัน,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

PWP

รายละเอียด

เอิร์ธเด็กเอ็นท์  โดย Run_Kantheephop @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เรียนไปก็ปวดหัว มีผัวก็ปวด... งั้นถ้าจะต้องทนปวด... ก็ขอปวดแบบได้เงินด้วยละกัน! เลิศๆๆๆๆ

ผู้แต่ง

Run_Kantheephop

เรื่องย่อ

เอิร์ธเด็กเอ็นท์

Mr. Host Club

[PWP]

Written by Darkriku93

เปิดเรื่อง 04/01/2023

ประกาศ!!!

นิยายเรื่องนี้เป็นแนว PWP ไม่เน้นความสมเหตุสมผลสักเท่าไหร่ อ่านเอาฟีลลิ่ง อ่านเอามันเฉยๆ น้าาาาา

สารบัญ

เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -Prologue บทนำ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 1 ปัญหาชีวิต,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 2 หนี,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 3 เข้าสู่วงการ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 4 เริ่มเลย,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 5 เข้าสังกัด,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 6 วันแรกในบาร์,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 7 ค้นพบหนทางใหม่,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 8 ผ่านไปได้ด้วยดี,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 9 บ่อกุ้งสะดุ้งรัก,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 10 แกะกุ้งเสียหน่อย,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 11 ปลดปล่อยสักหน่อย,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 12 รับงานนอก,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 13 พวกตำรวจมันชอบความรุนแรง,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 14 รับงานแทน,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 15 ได้โบนัส,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 16 เทิร์นรุกดูสักหน่อย,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 17 แรกเจอ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 18 ถูกตาต้องใจ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 19 อาชาคือม้าทรงพลัง,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 20 อาชาคือม้าทรงพลัง 2,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 21 เกาหลีเขาซื้อฉันแล้ว!,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 22 เกาหลีเขาซื้อฉันแล้ว 2,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 23 ไม่รู้อิจฉาหรือว่าน้อยใจ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 24 ติดอกติดใจ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 25 หน้ามือเป็นหลังมือ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 26 หรือว่าจะเลิก,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 27 ไหนว่าจะพัก,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 28 เอาวะ! ลุย!!,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 29 ไม่ได้ตั้งใจ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 30 ครั้งแรกก็ติดใจเสียแล้ว,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 31 นี่เดทปะเนี่ย!?,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 32 ครับเชฟ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 33 เลอะเทอะไปหมด,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 34 งานนอกค้างคืน,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 35 แขกคนใหม่,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 36 เวลาส่วนตัว,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 37 เซ็กส์บนรถก็น่าสนุกดีเหมือนกัน,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 38 Outdoor ครั้งแรก,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 39 เรือ (ยอร์ช) สำราญ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 40 ขอแจมหน่อย,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 41 แขกพิเศษ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 42 เดินเล่นหย่อนใจ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 43 ริมหาด,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 44 แปลกๆ ละ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 45 เอาอีกแล้ว,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 46 คิดไม่ผิด,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 47 ระเบียงร้อนรัก,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 48 ระเบียงร้อนรัก 2,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 49 อะไรกันวะเนี่ย!?,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 50 โดนรุม,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 51 ความจริงปรากฏ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 52 เรื่องเชี่ยอะไรวะเนี่ย!?,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 53 โรงละคร,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 54 โรงละคร 2,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 55 โรงละคร 3,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 56 เป็นอะไรของเขา,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 57 ลองอะไรใหม่ๆ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 58 นายทาส,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 59 ป่วยซะแล้ว,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 60 อาการเป็นไงไหนบอกหมอ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 61 หมอจะฉีดยาให้นะ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 62 Mission สุดท้าย,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 63 กลางแจ้ง,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 64 กัดฟันทนอึดใจสุดท้าย,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 65 กลับมาแล้ว!,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 66 ที่พักใจ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 67 เปิดประสบการณ์,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 68 เรียนรู้กันและกัน,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 69 ได้รับยารักษาใจ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 70 ทำงานได้แล้ว,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 71 จะเอายังไง,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 72 รู้ใช่ไหมว่าควรทำยังไง,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 73 ขอจัดสักหน่อย,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 74 เอาไงเอากัน,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -บทที่ 75 ยอมรับหัวใจ,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -Special Chapter 1,เอิร์ธเด็กเอ็นท์ -Special Chapter 2

เนื้อหา

บทที่ 70 ทำงานได้แล้ว

เสียงก๊องแก๊งดังมาจากในครัวทำเอาผมต้องสะดุ้งตื่น จริงๆ จะเรียกแบบนั้นก็ไม่ถูกเสียทีเดียวเพราะว่าผมตื่นมาพักใหญ่แต่ด้วยความขี้เกียจก็เลยอยากจะพยายามหลับต่อแต่มันก็แค่สะลึมสะลือเท่านั้นไม่ยอมหลับต่อสักที จนกระทั่งได้ยินเสียงช้อนกระทบแก้วกระเบื้องจากการคนกาแฟในตอนเช้าของไอ้มิคดังขึ้นมานั่นแหละ

ผมยกมือมาขยี้ตาเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้นเพื่อสู้กับแสงสว่างที่สาดส่องผ่านบานหน้าต่างเข้ามา จากนั้นผมก็ลุกขึ้นนั่งคว้ามือถือมาดูว่ามีข้อความอะไรจากไอ้ต่อมั้ย เพราะช่วงนี้พอแยกย้ายกันกลับบ้านผมกับมันก็มักจะคุยกันผ่านไลน์อยู่ตลอดเวลา บางทีก็คุยกันยาวจนเผลอหลับคามือถือไปกันก็มี ตื่นเช้ามาก็เลยจะได้เห็นข้อความที่อีกฝ่ายพิมพ์ไว้จนชิน ถ้าเช้าไหนตื่นมาแล้วไม่เห็นก็จะรู้สึกแปลกอยู่หน่อยๆ โชคดีที่วันนี้ยังมีข้อความจากไอ้ต่อที่ไลน์ทิ้งไว้ว่าจะนอนแล้ว เชื่อมั้ยว่าแค่นี้ก็ทำให้ผมยิ้มไปได้ทั้งวันแล้ว

สองขาของผมก้าวลงจากเตียงแลวเดินออกจากห้องนอนไปยังบริเวณหน้าเคาท์เตอร์ครัวที่ไอ้มิคกำลังชงกาแฟพร้อมกินขนมปังปิ้งพลางดูรายการยูทูปในมือถือไปด้วย

“ตื่นเช้าจังวะ” ผมเอ่ยถามอีกฝ่ายด้วยความแปลกใจ

“หิวอะดิ เลยนอนต่อไม่หลับ”

“อ่อ”

“แล้วมึงรีบตื่นทำไม” มันถามผมกลับ

“ก็เล่นชงกาแฟซะดังลั่นห้องขนาดนั้น ใครมันจะไปหลับต่อได้ล่ะ” 

“ฮ่าๆ โทษๆ”

ผมได้แต่ส่ายหัวให้มันแล้วเดินไปเปิดตู้เย็นเพื่อเอาครัวซองก์ที่ซื้อติดตู้เย็นไว้ตั้งแต่วันก่อนออกมาอุ่นในไมโครเวฟ ถึงแม้ว่าข้างกล่องมันจะเขียนว่าไม่ควรอุ่นด้วยไมโครเวฟเพราะจะทำให้เนื้อสัมผัสของครัวซองก์เปลี่ยนไปแล้วมันจะไม่อร่อย แต่ผมก็ไม่ได้แคร์นักหรอก กินให้มันหายหิวก็พอละจะมานั่งพิถีพิถันทำไม 

ติ๊ง!

เพียงหนึ่งนาทีที่ไมโครเวฟทำงาน ครัวซองก์ก็อุ่นได้ที่ ผมเปิดแล้วหยิบออกมาแล้ววางลงบนจานอย่างรวดเร็วเพราะไอ้ที่คิดว่าจะแค่อุ่นๆ แต่มันกลับร้อนจนเกินคาด แม้เนื้อสัมผัสจะนิ่มไปบ้างแต่ความหอมก็ยังคงจัดเต็มอยู่เหมือนเดิม

“เอากาแฟมั้ย เดี๋ยวชงให้” ไอ้มิคหันมาถาม

“ไม่เอาอะ เดี๋ยวกินกับนมแทน”

“เคๆ งั้นกูอาบน้ำก่อนนะ”

“อือ”

ผมพยักหน้าให้ไอ้มิคแล้วเปิดตู้เก็บของด้านบนเคาท์เตอร์ครัวเพื่อหยิบนมถั่วเหลืองกล่องใหญ่ออกมาพร้อมกับถือจานครัวซองก์เดินไปนั่งหน้าทีวี วันนี้ผมเองรู้สึกสดชื่นขึ้นมากหลังจากที่ป่วยไปหลายวัน โชคดีที่ระหว่างนั้นไอ้ต่อคอยมาอยู่เป็นเพื่อน คอยดูแลเทคแคร์ตลอดเวลาที่ไอ้มิคออกไปทำงานที่ร้านแล้วผมต้องอยู่ห้องคนเดียว

เสียงทีวีดังขึ้นเมื่อผมกดเปิด รายการตลกกำลังออกอากาศผมก็เลยลองเปิดใจดูสักหน่อย ปกติผมไม่ค่อยดูอะไรแบบนี้หรอกครับเพราะไม่ชอบที่บางครั้งในรายการชอบเล่นมุกตลกที่มันค่อนข้างจะกดขี่คนอื่นหรือฟังดูแล้วกระอักกระอ่วนไม่ใช่น้อย อย่างไอ้พวกมุกเหยียดเพศไม่ก็มุกที่มันล้อเลียนกายภาพคนอื่น ฟังแล้วคลื่นไส้อยากจะอ้วก 

โชคดีที่รายการนี้ไม่ได้มีอะไรแบบนั้น ก็เลยทำให้ผมดูได้อย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ ผมหยิบครัวซองก์เข้าปากแล้วเคี้ยวตุ้ยๆ พลางแกะหลอดมาเจาะนมกล่องดูดตามเข้าไป เป็นเช้าที่ผมรู้สึกว่ามันค่อนข้างชิลมากทีเดียว อากาศข้างนอกก็ดูเหมือนจะดีด้วยซ้ำเห็นได้จากท้องฟ้าใสๆ และลมที่พัดยอดต้นไม้ปลิวเอื่อยๆ 

ทั้งวันผมนั่งอยู่ตรงนั้นจนถึงเวลาบ่ายโดนที่มีไอ้มิคมานั่งดูอยู่ด้วย หลังจากรายการตลกที่ผมดูจบลง ผมก็ลุกเดินไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนจะออกมาเจอว่าไอ้มิคมันเปลี่ยนไปดูหนังในเน็ตฟลิกซ์ซะแล้ว ดีที่วันนี้มันเลือกดูหนังแนวแฟนตาซีซึ่งเป็นแนวที่ผมชื่นชอบเป็นพิเศษก็เลยเดินไปนั่งดูข้างๆ มันได้แบบเต็มใจแถมยังรู้สึกสนุกตามไปด้วย ไม่เหมือนบางครั้งที่ต้องทนดูหนังสยองขวัญที่ผมไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่

“จะจบยังวะ” ผมหันไปถามไอ้มิค

“อีกนิดเดียว”

“เค งั้นเดี๋ยวจบแล้วออกไปร้านกัน เดี๋ยวจะสาย”

“มึงโอเคเหรอ?” มันหันมาถามด้วยสีหน้าสงสัย

“หื้ม?”

“ก็ที่ป่วยอะ หายดีแล้วเหรอ”

“ดีขึ้นเยอะแล้ว” ผมย้ำพลางยิ้มกว้างให้มัน

“เคๆ งั้นเดี๋ยวจบแล้วค่อยกดเรียกแท็กซี่”

ผมเอนตัวนอนดูหนังกับมันต่อจนเกือบเผลอหลับไปอีกรอบ ดีที่หนังจบเสียก่อนก็เลยสะดุ้งตื่นขึ้นมาได้ทันเวลา ไอ้มิคมันกดรีโมทปิดทีวีพลางลุกขึ้นแล้วออกแรงดึงผมให้ลุกขึ้นยืนตามมันไปด้วย ผมที่เกือบจะเผลอหลับไปเมื่อครู่ก็เลยต้องใช้กำลังภายในอยู่มากเสียหน่อยเพื่อที่จะปลุกเอเนอจี้ให้สดชื่นขึ้นมาอีกครั้ง

รถแท็กซี่ที่ไอ้มิคกดเรียกผ่านแอพเอาไว้มาจอดที่ด้านหน้าคอนโด พอผมสองคนเดินลงไปก็เห็นมีคนอื่นที่เดินอยู่ข้างหน้าพวกเราเข้าไปเปิดประตูรถแท็กซี่แต่คนขับก็ปฏิเสธ ทีแรกที่เห็นทำเอาผมรู้สึกใจหายอยู่หน่อยๆ เพราะกลัวว่าคนขับรถแท็กซี่จะรับผู้โดยสารผิดคน

พอเราทั้งสองคนก้าวขึ้นรถแท็กซี่ได้ปุ๊บไอ้มิคก็รีบบอกย้ำถึงปลายทางที่ต้องการจะไปอีกครั้งแม้ว่าในแอพจะมีระบุสถานที่ปลายทางเอาไว้แล้วก็ตาม วันนี้รถดูไม่ค่อยเยอะสักเท่าไหร่ แท็กซี่ก็เลยวิ่งได้ฉิวแบบไม่มีติดเลยด้วยซ้ำ แม้กระทั่งสัญญาณไฟจราจรผมยังเจอแต่ไฟเขียวตลอดเลย

“เจ๊หวัดดีครับ” ไอ้มิคเอ่ยทักเมื่อเดินนำเข้าไปในร้าน

“หวัดดีเจ๊” ผมยกมือไหว้ตามหลังจากที่เห็นใบหน้าเจ้าของร้านหันมามองผม

“เอ้าไอ้เอิร์ธ หายดีละเหรอ”

“หายละเจ๊ พร้อมทำงาน”

“เออดีละ ลูกค้าประจำมึงมาถามหาทุกวัน กูไม่รู้จะตอบยังไงละเนี่ย”

“แหม่! ก็คนมันฮอตอะเจ๊ ต้องทำใจหน่อย”

“ค่า!!! ฮอตจริง ฮอตจนโดนหลอกไปขังไว้บนเกาะจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด” 

“เจ๊!!!” ไอ้มิคตะคอกใส่ทันทีพลางยกนิ้วขึ้นแตะที่ปากเพื่อส่งสัญญาณว่าไม่ให้พูดถึงเรื่องนี้อีก ผมเข้าใจว่าไอ้มิคมันก็คงเป็นห่วงผมนั่นแหละ 

“อุ๊ย! เจ๊ขอโทษนะเอิร์ธ”

“ไม่เป็นไรเจ๊ เรื่องมันผ่านไปแล้ว ชิลมาก แล้วนี่ไอ้ต่อไปไหนอะเจ๊” ผมบอกปัดก่อนจะชะเง้อหน้ามองหน้าหลานชายเจ้าของร้าน 

“อยู่หลังร้านอะ ดูรถที่มาส่งของอยู่”

“อ่อ” 

ผมเอ่ยบอกพลางเดินเข้าไปยังหลังร้านทันทีโดยทิ้งไอ้มิคเอาไว้ตรงนั้น หัวใจผมเต้นแรงระหว่างที่เดินเข้าหาไอ้ต่อ เพราะเมื่อวานไม่ได้เจอกันหนึ่งวัน แม้ว่าจะได้คุยกันตลอดในไลน์แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความคิดถึงที่ผมมีต่อมันลดน้อยลงไป มีมากขึ้นด้วยซ้ำ

“เอ้า! มาทำงานละเหรอ” ไอ้ต่อตะโกนทักเมื่อเห็นหน้าผม

“อื้อ”

“กินไรมายัง”

“กินรองท้องมาอะ” ผมเอ่ยบอกกลับไป

ซึ่งในระหว่างนั้นดันเป็นจังหวะเดียวกันกับที่คนส่งของเดินแบกของเข้ามาพอดี ผมก็เลยถอยหลังออกมานิดหนึ่งแต่เพราะพื้นบริเวณหลังร้านมันเปียกผมก็เลยไม่ทันได้ระวัง ลื่นเซไปชนกระแทกคนส่งของจนล้มลง ของในลังแตกหมด ส่วนผมเองก็มีแผลถลอกที่ฝ่ามือและหัวเข่าเล็กน้อย แล้วมันก็เป็นเรื่องที่ตลกมากเพราะปกติผมจะชอบใส่กางเกงขายาวมาที่ร้านตลอด แต่วันนี้ไม่รู้นึกครึ้มอะไรดันเลือกที่จะใส่กางเกงผ้าลูกฟูกขาสั้นสีดำมาเข้าร้านซะอย่างนั้น ตอนล้มไปก็เลยทำให้ผิวหนังของผมสัมผัสกับพื้นปูนได้โดยตรง ได้แผลถลอกจนเลือดสีแดงซึมออกมาอย่างเห็นได้ชัด

“เจ็บมั้ย” ไอ้ต่อรีบย่อตัวลงมาดูผม

“เจ็บดิ”

“เป็นไรมากมั้ยเนี่ย” 

“ไม่หรอก ไปดูพี่คนส่งของเถอะ” ผมมองที่บาดแผลถลอกของตัวเองก่อนจะเอ่ยบอกพลางรีบลุกขึ้นยืนแล้วเดินตามไอ้ต่อไปดูพี่คนส่งของที่ล้มนั่งอยู่ใกล้ๆ

“เจ็บตรงไหนมั้ยพี่” ไอ้ต่อเอ่ยถาม

“ไม่เป็นไรน้อง”

“ขอโทษนะครับพี่” ผมยกมือขึ้นไหว้พร้อมเอ่ยบอกด้วยความรู้สึกผิดแบบสุดๆ

“ไม่เป็นไรๆ มันเป็นอุบัติเหตุนี่นา” 

“มาพี่ ผมช่วย” ผมยื่นมือไปช่วยพยุงพี่คนส่งของขึ้นมา ส่วนไอ้ต่อก็จัดการเรื่องค่าเสียหายกับของที่เกิดขึ้นรวมถึงค่าทำแผลให้พี่เขาด้วย ผมเห็นแบบนั้นก็ยิ่งแปลกใจที่เจ๊เปรี้ยวยอมปล่อยให้ไอ้ต่อดูแลบริหารเรื่องเงินในส่วนสต๊อกสินค้ากันง่ายๆ แบบนี้เลยเหรอ ไม่คิดว่าไอ้ต่อมันเด็กเกินไปที่จะรับผิดชอบเรื่องแบบนี้หรือไง

พอจัดการเรื่องที่เกิดขึ้นเสร็จเรียบร้อย ไอ้ต่อก็พาผมกลับเข้าไปที่ห้องพัก ไอ้มิคเห็นผมก็อดตกใจไม่ได้เพราะตอนที่ออกจากคอนโดมาด้วยกันผมก็ยังมีสภาพดีๆ อยู่เลย หายไปหลังร้านแป๊บเดียวกลับมามีแผลเลือดออกขึ้นมาซะงั้น

“เชี่ย! มึงไปโดนอะไรมาเนี่ย” ไอ้มิครีบวิ่งเข้ามาดูผม

“ลื่นล้มหลังร้านอะ”

“โถ่เอ๊ยยยย” 

“เดี๋ยวกูดูมันให้เอง มึงไม่ต้องห่วงหรอก” ไอ้ต่อเดินเข้ามาหาไอ้มิคแล้วเอ่ยบอกแบบนั้น เพื่อนผมมันก็เลยสบายใจขึ้นมาได้บ้างก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่ตัวเองแล้วเซตผมต่อ

สำหรับไอ้มิคการที่ไอ้ต่อดูแลเทคแคร์ผมแบบนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติที่เขาเห็นจนชินตาแต่อาจจะเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจสักหน่อยสำหรับคนอื่นๆ เพราะทันทีที่ไอ้ต่อเดินเข้ามาแล้วพูดแบบนั้น สายตาของเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ก็หันมามองผมกับได้ต่อเป็นตาเดียว เสียงพูดคุยที่กำลังเมาท์มอยกันดังลั่นเงียบลงอย่างผิดสังเกต จนผมเองก็อดแปลกใจไม่ได้หันมองไปรอบห้องแต่ทุกคนก็หลบสายตาผม

มันมีอะไรผิดปกติมากนักหรือไง...

ผมหย่อนตัวนั่งลงตามแรงกดที่หัวไล่ทั้งสองข้างของผม ไอ้ต่อบอกให้ผมนั่งรออยู่พักหนึ่งก่อนจะเดินหายออกไป ไม่นานมันก็กลับมาพร้อมกับกล่องปฐมพยาบาลเพื่อนำมาทำแผลให้กับผม กล่องถูกวางไว้ทางด้านซ้ายของตัวผมแล้วเปิดออก เขาหยิบเอาขวดน้ำเกลือขวดเล็กออกมาบีบใส่สำลีแผ่นแล้วบรรจงเช็ดแผลให้กับผม

“โอ๊ย!” ผมร้องออกมาเพราะมันรู้สึกแสบอยู่นิดหน่อย

“โทษๆ” 

ไอ้ต่อเบามือลงกว่าตอนแรก มันค่อยๆ ทำแผลให้ผมเริ่มจากล้างแผลนั้นแล้วเอาเบตาดีนเหยาะใส่สำลีแล้วแต้มไอที่แผลหัวเข่าและฝ่ามือของผมเบาๆ ท่ามกลางสายตาของเพื่อนร่วมงานในห้องพักแต่เขาไม่ได้มีท่าทีว่าจะเขินอายหรือรู้สึกอึดอัดเลยสักนิด คงจะมีแต่ผมนี่แหละมั้งที่อึดอัดอยู่คนเดียว

หลังจากทำแผลเสร็จไอ้ต่อก็ไม่มียอมอยู่ห่างจากผมเลยแม้แต่ก้าวเดียว แม้ผมจะบอกว่าให้มันไปทำงานส่วนอื่นที่ต้องรับผิดชอบได้แล้วเพราผมดูแลตัวเองได้ อีกอย่างก็มีไอ้มิคคอยช่วยเหลืออยู่แล้ว แต่มันก็ไม่ยอมไปสักที ผมเองก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน 

ยิ่งพอร้านเปิดแล้วผมต้องออกไปทำงานหน้าร้าน ไอ้ต่อก็ดูเหมือนจะเวียนวนคอยดูแลเทคแคร์ผมตลอด ช่วงที่ไม่มีแขกเรียกใช้งาน ผมก็มานั่งรอที่บาร์โดยไอ้ต่อก็จะมานั่งอยู่ข้างๆ ชวนคุย ชวนดื่ม ชวนกินขนมไปเรื่อยแบบไม่ยอมให้ห่างกาย แต่พอมีลูกค้าเรียกตัวผม มันก็จะคอยเดินไปมาอยู่รอบกายแบบไม่ให้คลาดสายตา ซึ่งผมเองก็มองเห็นมันตลอดเวลาที่เงยหน้าขึ้นมา ซึ่งนั่นก็ทำให้ผมเสียสมาธิอยู่บ้างในบางทีเหมือนกัน แต่ผมไม่ได้โกรธอะไรมันหรอก ก็เข้าใจว่าตอนนี้ความรู้สึกของมันกำลังล้นอยู่ในอกจนไม่รู้ว่าจะจัดการควบคุมยังไงดี เลยแสดงออกมาแบบนั้น