วงการซีรีส์วาย บันเทิงกว่าที่คิด... โดยเฉพาะเรื่องที่มันเกิดขึ้นหลังกล้องอะนะ
รัก,ตลก,ชาย-ชาย,สะท้อนปัญหาสังคม,วัยว้าวุ่น,วายบันเทิง,วาย,นิยายวาย,แฉ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
วายบันเทิงวงการซีรีส์วาย บันเทิงกว่าที่คิด... โดยเฉพาะเรื่องที่มันเกิดขึ้นหลังกล้องอะนะ
วายบันเทิง
The Gossip of BL
Run_Kantheephop
เรื่องแต่ง 99% อีก 1% คือเค้าโครงจากเรื่องจริง
ขออนุญาตแก้ไขวันและเวลาในการอัพนิยายนะครับ เนื่องจากช่วงนี้มีภารกิจจากหน้าที่การงานเข้ามาจึงทำให้เขียนนิยายได้น้อยลงกว่าเดิม จากนี้ไปจะขออัพนิยายเพียงแค่สัปดาห์ละ 1 ตอนนะครับ (ทุกวันเสาร์ เวลา 18:00 น.)
ขอบคุณสำหรับทุกการติดตามครับ
********************************************************************************
มีทั้งหมด 5 เล่ม
E-Book วางจำหน่ายแล้ว บน MEB
กันต์กับบุ๊คเดินออกมาจากร้านหม่าล่าหลังจากที่กินเสร็จ ทีแรกพี่บุ๊คอาสาจะเลี้ยงมื้อนี้แต่เพราะกันต์จ่ายเงินไปก่อนแล้ว บุ๊คจึงชวนให้ไปหาของหวานกินล้างปากเพื่อที่ว่าเขาจะเลี้ยงขนมหวานแทน
“บิงซูมั้ย” บุ๊คเอ่ยถามขึ้นระหว่างที่เดินหาร้านของหวานแล้วบังเอิญสายตาของเขาหันไปเห็นป้ายโฆษณาร้านบิงซูพอดี
“ได้พี่”
“มันอยู่ตรงไหนนะ”
“จำได้ว่าอยู่ชั้นนี้นะ” กันต์ตอบพลางชะเง้อหน้ามองหน้าว่าร้านที่พูดถึงมันอยู่ตรงไหนก่อนจะพาคนพี่เดินไปเพราะคุ้นๆ อยู่ว่ามันอยู่อีกฝั่งหนึ่งตรงบริเวณที่มีลิฟต์ตั้งอยู่
ไม่นานทั้งสองคนก็พากันเดินมาถึงร้านบิงซูเจ้าดังจากเกาหลี พวกเขาพากันเดินเข้าไปด้านในโดยบุ๊คบอกให้กันต์เป็นคนไปหาที่นั่งส่วนเขาจะเป็นคนสั่งและจ่ายเงินเอง
กันต์ไม่รอช้าเดินเข้าไปที่ด้านในสุดของร้านซึ่งมีมุมประจำของเขาอยู่ เวลาที่เขามากับเพื่อนๆ ก็มักจะเดินเข้าที่ด้านในสุดของร้านเพราะมีโต๊ะที่มีโซฟาฝั่งหนึ่งเพราะนั่งสบายกว่า
บุ๊คเดินกลับมาพร้อมเครื่องส่งสัญญาณกับใบเสร็จหนึ่งใบ ก่อนจะหย่อนตัวลงมานั่งที่ฝั่งตรงข้ามกันต์ แต่ยังไม่ทันที่จะได้พูดคุยอะไรกัน พี่บุ๊คที่กำลังมองออกไปด้านนอกร้านผ่านบานกระจกใสก็ยกมือขึ้นโบกทักทายใครบางคน กันต์จึงหันหน้าไปมองด้วยความอยากรู้ก่อนจะพบว่าเป็นพี่อิ๋วประสานงานกองถ่ายซีรีส์นั่นเอง
พี่อิ๋วดูดี๊ด๊าที่บังเอิญเจอบุ๊คกับกันต์ เธอรีบวิ่งเข้ามาในร้านทันทีก่อนจะมาหย่อนตัวจุ้มปุ๊กที่นั่งข้างบุ๊ค แล้วยิ้มกว้างให้เด็กๆ ทั้งสองคน
“หวัดดีครับพี่อิ๋ว” กันต์ยกมือขึ้นไหว้
“เป็นไงกันมั่ง ไม่คิดว่าจะเจอ” พี่อิ๋วเอ่ยทัก น้ำเสียงติดหอบเหนื่อยจากการวิ่งเข้ามาในร้าน ด้วยอายุและร่างกายที่มีน้ำหนักเกินกว่าเกณฑ์มาตรฐานมานิดหน่อย จึงทำให้เธอเหนื่อยหอบได้ง่ายกว่าคนทั่วไป
“ก็ดีนะพี่ เรื่อยๆ ครับ” กันต์เอ่ยตอบ
ครืดดดด!
ยังไม่ทันที่บุ๊คจะตอบอะไรเครื่องส่งสัญญาณก็สั่นดังขึ้นเสียก่อน ทุกคนสะดุ้งเล็กน้อยก่อนบุ๊คจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปรับบิงซูที่ตัวเองสั่งไปกลับมาที่โต๊ะ
บิงซูมะม่วงสีเหลืองสุกชามโตถูกนำมาวางไว้ที่โต๊ะ พร้อมด้วยช้อนทั้งหมดสองอันกับนมข้นหวานสำหรับเพิ่มเติมความหวานหากยังไม่สะใจพอ กันต์ตาโตเมื่อเห็นแบบนั้นเพราะของหวานตรงหน้ามันดูน่ากินทุกครั้งที่มายังร้านนี้ เขาแทบจะอดใจไม่ไหวแต่ก็ต้องห้ามตัวเองเอาไว้ก่อนเพราะกลัวว่าจะมีคนอยากถ่ายรูปลงสตอรี่
ระหว่างนั้นกันต์เพิ่งสังเกตเห็นว่าบนโต๊ะยังไม่มีน้ำดื่มเลยแม้แต่แก้วเดียว เขาจึงอาสาเดินไปกดน้ำชาที่ทางร้านมีบริการฟรีให้ ไม่นานเขาก็เดินกลับมาพร้อมถาดใส่แก้วน้ำชาแก้วเล็กๆ ประมานแปดถ้วย
“โห ทำไมเอามาเยอะจัง” พี่อิ๋วทักเมื่อเห็นจำนวนแก้วชาที่กันต์ถือมา
“แก้วมันเล็กอะพี่ จะได้ไม่ต้องเดินหลายรอบ” กันต์ทยอยหยิบแก้วชาเหล่านั้นลงวางบนโต๊ะจนครบก่อนจะยกมือเรียกพนักงานในร้านมาเก็บถาดรองแก้วคืนกลับไป
บิงซูถูกจ้วงตักหลังจากที่พูดคุยกันเสร็จ จากที่มีเสียงสนทนาของแต่ละฝ่ายกลับกลายเป็นทั้งโต๊ะเงียบกริบเพราะทั้งกันต์และบุ๊คต่างก็สนใจอยู่แต่กับของหวานตรงหน้า ช้อนจ้วงตัดเข้าปากไม่มีหยุด ทั้งที่ก่อนหน้านี้ทั้งสองคนบ่นอิ่มอยู่เป็นเนืองๆ แต่พอเจอของหวานเข้าไปก็กินต่อเนื่องแบบไม่มีปริปากออกมาสักคำ
“ก่อนหน้านี้ใครบ่นอิ่มนะ” บุ๊คมองหน้าคนน้องแล้วยิ้มบางเพราะเอ็นดูที่เมื่อครู่ในร้านหม่าล่ากันต์บ่นอุบตอนที่กินเสร็จใหม่ๆ ว่าอิ่มมาก กินไรไม่ลงแล้ว แต่พอชวนกินของหวานก็ไม่มีท่าทีที่จะปฏิเสธแถมยังช่วยหาร้านให้อีกด้วย
“ของคาวของหวานมันคนละกระเพาะกัน!!!” กันต์เถียงกลับพลางทำตาโต
กันต์คิดอยู่ว่าเรื่องแบบนี้ใครจะไปยอมได้ล่ะ ของหวานหลังมื้ออาหารคาวมันคือความถูกต้อง จะละเลยได้ยังไง ด้วยท่าทีแบบนั้นทำเอาบุ๊คหลุดหัวเราะออกมาไม่หยุด ความจริงจังกับเรื่องการกินของกันต์ทำเอาคนพี่อดที่จะเอ็นดูไม่ได้
“กันต์กับบุ๊คนี่ดูสนิทกันดีเนอะ” พี่อิ๋วพูดขึ้นในระหว่างนั้น
“น่าจะเพราะอายุใกล้กันมั้งครับ ห่างกันปีเดียวเอง” บุ๊คเอ่ยตอบ
“เหรอ... แล้วคนอื่นล่ะ”
“คนอื่นค่อนข้างจะห่างกันอะพี่ เด็กๆ กันหมด คุยกับไอ้กันต์มันรู้เรื่องอยู่คนเดียว” น้ำเสียงติดตลกของพี่บุ๊คทำให้ดูไม่ได้ซีเรียสนัก แต่จากแววตาของอีกฝ่ายทำให้กันต์รู้ได้ทันทีว่าบุ๊คกำลังอึดอัดอยู่กับการสนทนาในครั้งนี้เป็นอย่างมาก
“เอ้า! แต่ก่อนหน้านี้พี่เห็นสนิทกับน้องก้องไม่ใช่เหรอ”
“ใช่พี่”
“แล้วตอนนี้ไม่สนิทกันละเหรอ” พี่อิ๋วถามต่อด้วยสีหน้าอยากรู้
“ก็ยังสนิทกันพี่ แต่น้องมันเรียนหมอ ช่วงนี้เรียนหนักอะเลยไม่ค่อยได้คุยกันสักเท่าไหร่” พี่บุ๊ค
“แล้วกันต์ล่ะ สนิทกับก้องมั้ย” พี่อิ๋วหันมาถามก้องที่กำลังจดจ่ออยู่กับบิงซูตรงหน้า เพราะพยายามที่จะไม่สนใจสิ่งที่ทั้งสองคนกำลังพูดคุยกัน
“คะ... ครับ?”
“สนิทกับก้องหรือเปล่า” พี่อิ๋วย้ำถามกันต์
“ไม่ค่อยสนิทนะครับ มีอะไรเหรอพี่”
“ไม่มีไรหรอก ตอนแรกว่าจะเม้าท์อะ แต่กลัวเดี๋ยวบุ๊คจะไม่โอเคหรือเปล่า เพราะแกสนิทกับน้องไง” พี่อิ๋วพูดต่อพลางหันไปมองหน้าบุ๊คเพื่อเช็กว่ารีแอ็กชั่นของอีกฝ่ายเป็นยังไง
“มีอะไรอะพี่ น้องมันทำไร” บุ๊คถามกลับด้วยน้ำเสียงนิ่ง
“ไม่มีไรหรอก วันก่อนที่ออกกองทำวุ่นกันไปทั้งกองเลย” พี่อิ๋วลดเสียงพูดลง สายตาสอดส่ายไปทั่วบริเวณเพราะกลัวว่าจะมีคนรู้จักมาได้ยิน
กันต์กับบุ๊คถึงกับหันมองหน้ากัน ก้องเนี่ยนะที่จะทำให้กองถ่ายวุ่นวายได้ทั้งกอง มันดูไม่น่าจะเป็นไปได้...
“ยังไงนะครับ” บุ๊คถามต่อด้วยความอยากรู้
“ก็น้องก้องเล่นไม่ได้เลย พี่งงมาก ว่าตอนแคสติ้งผ่านมาได้ยังไง เล่นแข็งมาก นี่! เชื่อมั้ย แค่ซีนง่ายๆ อะ ให้เดินขึ้นบันไดงี้ ตั้งเกือบสิบเทค”
“ห้ะ? ทำไมเป็นงั้นอะครับ” กันต์ถามด้วยความสงสัย
“เดินแข็งเป็นหุ่นยนต์เลย พี่งงมากนะ แค่เดินขึ้นบันไดง่ายๆ อะ ทำไมทำไม่ได้”
“แปลกมาก” บุ๊คพึมพำออกมาเบาๆ แต่ก็ไม่รอดพ้นหูของพี่อิ๋วไปได้
“จริงน้องบุ๊ค พี่ก็ว่าแปลก”
“แล้วไม่ได้บอกน้องเขาตรงๆ เหรอครับ”
“ใครจะไปกล้าพูดล่ะ เกิดน้องเครียดแล้วเล่นต่อไม่ได้ทำไง แค่นี้กองถ่ายก็เสียเวลาจะแย่ละ” พี่อิ๋วบ่นพลางคว้าช้อนที่บุ๊ควางเอาไว้ตักบิงซูเข้าปาก ทำเอากันต์กับบุ๊คถึงกับมองหน้ากันด้วยความงุนงง เพราะอันที่จริงเขากับบุ๊คก็ยังไม่ได้เอ่ยชวนพี่อิ๋วให้กินด้วยเลยสักคำ แถมยังมาใช้ช้อนของบุ๊คอีก ทำให้ทั้งคู่อดแปลกใจไม่ได้ว่าคนแบบนี้ก็มีด้วย
“ถ้าไม่มีคนบอก น้องเขาก็ไม่รู้สิครับ แล้วแบบนี้น้องก้องมันจะแก้ไขได้ยังไง” บุ๊คบ่นเสียงแข็งสีหน้าแฝงความไม่พอใจอยู่เล็กน้อย แต่พอนึกขึ้นได้เขาก็รีบปรับทันทีเพราะไม่อยากให้พี่อิ๋วเห็นท่าทีนั้น ด้วยกลัวว่าอีกฝ่ายจะเอาไปนินทาลับหลังอีก
“ก็นะ... งานแบบนี้ใครเขาจะมานั่งบอกนั่งสอนกัน งานกองถ่ายมันแข่งกับเวลานะ พี่ว่านักแสดงก็ควรต้องพร้อมทำงานด้วย ไม่ใช่แบบนี้ แข็งเป็นหิน งงเหมือนกัน”
“เขาอาจจะเกร็งมั้ยพี่” กันต์ช่วยพูดเสริม พยายามหาข้อแก้ตัวให้คนที่กำลังถูกกล่าวหา แม้เขาจะไม่ได้สนิทกับก้องมากเท่าไหร่นักแต่เขาก็รู้สึกไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ที่อีกฝ่ายโดนเอามานินทาแบบนี้
“คงงั้นมั้ง” พี่อิ๋วหยิบน้ำยกขึ้นมาดื่มไปอึกใหญ่ก่อนจะพูดต่อ “มีอีกนะ ตอนที่ทีมพรอพบอกว่าให้ระวังเรื่องอุปกรณ์ในฉากพังเพราะว่ามันมีชิ้นเดียว ให้ระวังหน่อย เพราะในซีนมันต้องขว้างลงพื้น แต่เขายังไม่ให้ขว้างจริง ให้ทำหลอกก่อน ค่อยขว้างจริงตอนหลัง สรุปทำแตกตั้งแต่เทคแรกเลยจ้า พี่นี่ปวดหัว มันก็เลยวุ่นวายกันทั้งกอง ต้องมาเสียเวลาแก้ปัญหาอีก”
“น้องเขาอาจจะไม่ได้ตั้งใจมั้ง” บุ๊คพูดขัดขึ้นมา
“ก็น่าจะใช่นะ ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ แหละ ไม่ได้ตั้งใจฟังบรีฟตั้งแต่แรกอะ” พี่อิ๋วดูหัวเสียขึ้นมาซะอย่างนั้นตอนที่พูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา “ทีมงานเขาก็อุตส่าห์บอก ทำไมถึงไม่จำก็ไม่รู้”
“ใจเย็นก่อนนะครับพี่อิ๋ว” กันต์ยื่นมือไปวางบนแขนของอีกฝ่ายแล้วจับไว้หลวมๆ เพื่อเรียกสติของเธอให้กลับมาเพราะดูเหมือนว่าในตอนนี้พี่อิ๋วจะอินกับเรื่องที่กำลังเมาท์มากไปหน่อย
“เอ้ย พี่ไม่ได้อะไรหรอก แค่มาพูดให้ฟังเฉยๆ มันหงุดหงิดอะแทนที่งานจะราบรื่น คนทั้งกองต้องมาเสียมาเวลาเพราะคนๆ เดียว”
“เอาน่าพี่อิ๋ว น้องมันก็ใหม่แหละ เหมือนผมไง ออกกองวันแรกก็งงเหมือนกัน ไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ยืนเด๋อจนโดนผู้กำกับด่า คนเรามันก็ต้องมีการเรียนรู้กันบ้างแหละเนอะพี่” พี่บุ๊คเริ่มอดไม่ไหวจึงตอบโต้กลับไปบ้าง แม้จะพูดด้วยรอยยิ้มแต่ความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ภายใต้คำพูดเหล่านั้นก็ดูเต็มไปด้วยอารมณ์อยู่เหมือนกัน
“แหม่... ก็นะ พี่ก็เข้าใจ แต่อย่างที่บอกแหละ งานอย่างนี้มันแข่งกับเวลาจะมาเป็นตัวถ่วงคนอื่นเขาก็ใช่เรื่อง”
“...” พอได้ยินพี่อิ๋วพูดแบบนั้นทั้งบุ๊คทั้งกันต์ต่างก็มองกันตาปริบๆ เหมือนยิ่งพูดจะยิ่งแรงขึ้นเรื่อยๆ บุ๊คจึงส่งสัญญาณผ่านการใช้เท้าของตนยื่นไปสะกิดเท้าของอีกฝ่ายพลางส่งสายตาให้กันว่าถึงเวลาที่ควรจะต้องทำให้พี่อิ๋วหยุดพูดได้แล้ว ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะต้องทนไม่ไหวกันแน่ๆ
“ตอนแรกพี่ก็เคยเสนอแล้วว่าให้เอาน้องคนอื่นมาเล่นแทนก้องมั้ย เพราะมีคนที่น่าสนใจอีกตั้งหลายคน แต่ผู้จัดกับผู้กำกับก็ยืนยันว่าจะเอาคนนี้ เพราะคาแรกเตอร์ตรงกับในนิยายมากที่สุด พี่มันก็ลูกน้องเขาอีกทีอะเนอะ จะไปทำอะไรได้ ก็ต้องมาก้มหน้ารับกรรมตอนทำงานนี่แหละ เห้อ...”
“เอ่อ... พี่อิ๋วครับ” กันต์เอ่ยพูดแทรกขึ้นมาก่อนที่พี่อิ๋วจะพูดมากจนทำให้เรื่องมันบานปลายไปมากกว่านี้
“ว่าไงจ๊ะ”
“แล้ว... นี่พี่อิ๋วมาทำอะไรที่นี่นะครับ” กันต์ถามต่อ
“อ้อ!! ลืมไปเลยดูสิ มัวแต่เม้าท์ พี่ว่าจะแวะมาเอามือถือที่จองไว้ งั้นพี่ไปก่อนดีกว่า ไว้เจอกันน้า” พี่อิ๋วพูดจบก็รีบลุกขึ้นเดินออกไปทันทีโดยที่ไม่ทันให้กันต์กับบุ๊คได้ร่ำลาด้วยซ้ำ
พอพี่อิ๋วเดินลับสายตาไปบุ๊คก็ถึงกับส่ายหัวเพราะทนไม่ไหวกับพฤติกรรมของหญิงสาวเมื่อครู่ อยู่ๆ ก็เดินเข้ามาแล้วก็นินทาคนอื่นให้ฟัง พอนินทาจบแล้วก็ไป ทำเอาเขางงไปเหมือนกันไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้จะต้องมาพบเจอกับคนแบบนี้
“เห้อ...” บุ๊คถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ “อย่าไปคบนะคนแบบนี้”
“จริงพี่ น่ากลัวอยู่นะ”
“เอาก้องมานินทาให้เราฟังแบบนี้ แทนที่จะไปบอกไปสอนน้องมัน คนแบบนี้ไว้ใจไม่ได้ แกดูไว้เลยนะ ถ้าเจอคนแบบนี้ หนีไปให้ไกลๆ เลย เพราะเราไม่รู้ว่าอยู่กับคนอื่นเขาจะเอาเราไปนินทาหรือเปล่า” บุ๊คเอ่ยสอนกันต์ด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“เข้าใจครับ”
“แกคิดดู ตอนที่พี่ออกกอง พี่ก็โดนบ่นเรื่องอะไรแบบนี้เหมือนกันอะ แล้วพี่อิ๋วก็อยู่ในกองตอนที่พี่โดนผู้กำกับด่า แกคิดมั้ยล่ะว่าตอนนางอยู่กับคนอื่นนางจะไม่นินทาพี่อะ” พี่บุ๊คบ่นพลางส่ายหัวเบาๆ เพราะคิดว่าตัวเองคงไม่รอดจากฝีปากของพี่อิ๋วแน่ๆ
“ก็นั่นดิพี่ วงการนี้มันน่ากลัวจังแฮะ”
“วงการบันเทิงไง นี่มันแค่จุดเริ่มต้นอะแก”
“ไว้ใจใครได้มั่งเนี่ย ระแวงละ” กันต์พูดพลางทำท่าขนลุก เขาก็ยังใหม่กับวงการนี้มาก ไม่รู้เลยว่าต่อไปจะต้องเจอกับอะไรบ้าง
“พี่เป็นห่วงแกนะกันต์ แกเป็นคนเปิดรับทุกคนด้วยความจริงใจอะ เป็นคนซื่อ ดูหัวอ่อนเชื่อคนง่าย ต้องระวังหน่อย กลัวจะไปให้ใจกับคนที่ไม่จริงใจ โดนหลอกมาแกจะเจ็บใจเอาได้” สายตาของบุ๊คเต็มไปด้วยความเป็นห่วง กันต์รับรู้ได้เพียงแค่มองตาของอีกฝ่าย ดวงตาคู่นั้นทำให้เขารู้สึกอบอุ่นหัวใจขึ้นมาได้มาก เขาค่อนข้างที่จะแน่ใจว่าเส้นทางในวงการบันเทิงหลังจากนี้ อย่างน้อยเขาก็จะมีพี่บุ๊คเป็นเพื่อนร่วมทางที่ดี คอยซัพพอร์ต ช่วยเหลือ และไม่ทิ้งให้เขาเผชิญปัญหาอย่างเดียวดายแน่ๆ