วงการซีรีส์วาย บันเทิงกว่าที่คิด... โดยเฉพาะเรื่องที่มันเกิดขึ้นหลังกล้องอะนะ
รัก,ตลก,ชาย-ชาย,สะท้อนปัญหาสังคม,วัยว้าวุ่น,วายบันเทิง,วาย,นิยายวาย,แฉ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
วายบันเทิงวงการซีรีส์วาย บันเทิงกว่าที่คิด... โดยเฉพาะเรื่องที่มันเกิดขึ้นหลังกล้องอะนะ
วายบันเทิง
The Gossip of BL
Run_Kantheephop
เรื่องแต่ง 99% อีก 1% คือเค้าโครงจากเรื่องจริง
ขออนุญาตแก้ไขวันและเวลาในการอัพนิยายนะครับ เนื่องจากช่วงนี้มีภารกิจจากหน้าที่การงานเข้ามาจึงทำให้เขียนนิยายได้น้อยลงกว่าเดิม จากนี้ไปจะขออัพนิยายเพียงแค่สัปดาห์ละ 1 ตอนนะครับ (ทุกวันเสาร์ เวลา 18:00 น.)
ขอบคุณสำหรับทุกการติดตามครับ
********************************************************************************
มีทั้งหมด 5 เล่ม
E-Book วางจำหน่ายแล้ว บน MEB
กันต์ มิน และฮันพากันเดินเซไปเซมาเพื่อขึ้นไปยังห้องพักของฮันหลังจากที่พี่ใหญ่อุตส่าห์ขับรถพาทั้งสามหนุ่มมาส่งยังคอนโดของฮันเพราะอยู่ใกล้ที่สุด สภาพของทั้งกันต์และมินนั้นทำให้พี่ใหญ่ไม่ไว้วางใจที่จะให้ทั้งคู่เดินทางกลับไปยังคอนโดของตัวเองด้วยกลัวว่าจะไปไม่ถึง ฮันจึงอาสาเปิดห้องของตนเองให้เป็นที่พักชั่วคราว
“อาบน้ำกันก่อนไหมพี่” ฮันเอ่ยถามขึ้นเมื่อประตูห้องปิดลง สองรุ่นพี่กระเตงพากันไปล้มตัวลงนั่งที่โซฟาหน้าทีวี
“อือๆ” กันต์พยักหน้ารับก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นยืนอย่างไม่มั่นคงนัก ฮันจึงเข้าไปประคอง ในขณะที่มินยังคงนอนนิ่งอยู่ที่โซฟานั้น
“เดี๋ยวผมหาเสื้อผ้าไว้ให้ ค่อยๆ เดินนะพี่ ไม่ต้องล็อกประตูห้องน้ำนะ” ฮันพูดขณะที่พากันต์เดินเข้าห้องน้ำไปอย่างทุลักทุเล ใจก็อดเป็นห่วงไม่ได้ว่าอีกฝ่ายจะล้มตึงไปหรือไม่ระหว่างที่อาบน้ำ จึงบอกให้อีกฝ่ายไม่ต้องลงกลอนประตูเผื่อว่าเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นจะได้ช่วยไว้ได้ทัน
“เข้ามาอาบให้หน่อยดิ” กันต์เอ่ยพูดพลางยกยิ้มเล็กน้อย ดวงตาเยิ้มด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์
“ไม่เอา!! ตลกละพี่ เข้าไปอาบเร็ว เผื่อจะได้สร่างเมา” ฮันรีบดึงตัวเองออกมาทันทีแล้วดึงบานประตูมาปิดเอาไว้
เสียงน้ำไหลจากฝักบัวกระทบพื้นห้องน้ำทำให้เจ้าของห้องอย่างฮันรู้สึกสบายใจขึ้นมาเล็กน้อยในขณะที่ตัวเองนั้นก็ต้องเดินกลับมาช่วยจัดท่าทางของมินให้นอนสบายมากขึ้นกว่าเดิมอีกสักหน่อย โชคดีที่โซฟาของเขาสามารถดึงออกมาเป็นเตียงได้ ทำให้มินมีพื้นที่ในการนอนเพิ่มขึ้น ไม่ต้องอึดอัดจนเกินไป
“อื้อ...” เสียงของมินร้องผ่านลำคอของออกมาเบาๆ พร้อมสีหน้าหงุดหงิดเล็กน้อยที่มีคนมารบกวนเวลานอนของเขา
“นอนดีๆ พี่” ฮันเอ่ยบอกแล้วเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าไว้ใส่ให้กับทั้งคู่
เห้อ...
ฮันถอนหายใจเล็กน้อยหลังจากที่เขาตระเตรียมทุกอย่างเสร็จสิ้น ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องดีหรือไม่ดีกันแน่ที่เขาตัดสินใจตกปากรับคำจากพี่ใหญ่ว่าจะดูแลกันต์กับมินให้เอง เพราะดูไปแล้วเหมือนกับว่ามันเป็นการสร้างภาระให้ตัวเองเสียอย่างนั้น แต่ก็นั่นแหละ หากจะให้เขาปฏิเสธตั้งแต่แรกก็ทำไม่ได้อีก เขาไม่อยากให้พี่ชายของเขาทั้งสองคนต้องได้รับอันตรายระหว่างเดินทางกลับบ้าน เพราะอาการเมาขนาดนี้ดีไม่ดีอาจจะไปไม่ถึงบ้านด้วยซ้ำ
เขานั่งเล่นมือถืออยู่ตรงนั้นเพื่อฆ่าเวลารอกันต์อาบน้ำเสร็จ ทั้งที่ตัวเองก็เมาอยู่ไม่น้อยแต่ก็ไม่อยากจะหลับไปทั้งอย่างนั้น มันรู้สึกเหนียวตัวอย่างบอกไม่ถูก และไม่กล้าที่จะเอาตัวเองขึ้นไปนอนบนเตียงโดยที่ตัวยังไม่สะอาด ที่ผ่านมาเขาค่อนข้างถือเรื่องนี้เป็นสำคัญ ไม่ว่าใครก็ตาม จะสนิทมากขนาดไหน ก็ไม่ยอมให้ใครขึ้นเตียงก่อนอาบน้ำเป็นเด็ดขาด กลัวว่าเชื้อโรคจากข้างนอกจะมาติดอยู่บนเตียงแล้วจะทำให้เขาป่วยได้ง่าย
“เสร็จแล้วเหรอพี่” ฮันเอ่ยทักพลางชะโงกหน้ามองเมื่อเห็นบานประตูห้องน้ำเปิดออก
“อื้อ”
“เสื้ออยู่ตรงหน้าทีวีเลยพี่” เจ้าของเอ่ยบอกกันต์เสียงดัง
“...” กันต์ยืนจ้องหน้าคนพูดเพียงครู่เดียวก่อนจะพยักหน้าเข้าใจเมื่อได้ยินสิ่งที่ฮันเอ่ยพูด
เขาหันมองไปตามเรียวนิ้วของฮันที่ชี้บอกแล้วยื่นมือไปหยิบเอาเสื้อผ้านั้นกลับเข้าไปสวมในห้องน้ำ ไม่นานเขาก็เดินออกมาด้วยชุดนอนที่ด้านบนเป็นเสื้อยืดแบดมินตันกับกางเกงบอลขาสั้น ฮันเห็นแบบนั้นก็เผยอยิ้มออกมาเบาๆ เพราะดูเหมือนว่าขนาดมันจะพอดีกับร่างกายของกันต์แบบเป๊ะๆ
“ใส่ได้ใช่มั้ยพี่กันต์”
“ได้ดิ สบายมาก”
“นี่สร่างขึ้นแล้วปะเนี่ย”
“นิดนึงละ” กันต์ตอบก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งที่พื้นข้างหน้าโซฟาเพราะข้าบนไม่มีที่ว่างพอจะให้เขาแทรกตัวลงไปนั่งได้
“เอ้ย! พี่มานั่งนี่ เดี๋ยวผมจะเข้าไปอาบน้ำละ” ฮันลุกขึ้นยืนในทันทีหลังจากที่เห็นการกระทำของอีกฝ่าย
“ให้พี่ช่วยอาบเปล่า” กันต์แกล้งพูดหยอกพร้อมยกยิ้มขึ้นที่มุมปากอย่างกวนๆ
“ไม่เป็นไร ผมอาบเองได้ พี่นอนเหอะ” ฮันหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วก้าวขาเดินเข้าห้องน้ำไป
กันต์ยันตัวลุกขึ้นเพื่อย้ายไปนั่งบนโซฟา แม้ว่าจะยังรู้สึกมึนหัวอยู่เล็กน้อยแต่ก็พอมีสติที่จะสามารถประคองร่างกายของตัวเองให้ขึ้นไปนั่งบนโซฟาข้างๆ มินที่หลับอยู่ได้อย่างไม่ยากลำบากนัก
“หื้มมม...” มินขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะส่งเสียงออกมา เปลือกตาทั้งสองข้างของเขาค่อยๆ เปิดขึ้นก่อนจะหันมามองกันต์ที่กำลังนั่งเล่นมือถืออยู่ข้างๆ
“ฟื้นละอ่อ” กันต์หันมาเอ่ยถาม
“อือ อยู่ไหนวะ”
“ห้องไอ้ฮัน มึงจำไม่ได้จริงดิ”
“อ่อ เออ นึกออกละ”
“จะอาบน้ำมั้ยหรือจะนอนเลย” กันต์ถามต่อเพราะตอนนี้กลิ่นตัวไอ้คนข้างๆ เต็มไปด้วยกลิ่นเหล้าเหม็นหึ่ง
“อยากอาบแต่ก็ง่วง”
“แล้วแต่มึงเลย” กันต์ตอบก่อนจะขยับตัวเตรียมจะก้าวลงจากโซฟา ทำเอาคนที่นอนอยู่ด้านข้างอดสงสัยไม่ได้
“เอ่า! จะไปไหนอะ”
“จะไปนอนในห้อง มึงตัวเหม็นเหล้าขนาดนี้กูไม่นอนด้วยหรอก”
“เออๆ เดี๋ยวกูไปอาบ” มินขยับร่างกายเพื่อดันตัวเองให้ลุกขึ้นนั่งแล้วยีหัวตัวเองเบาๆ เพื่อเรียกสติจากอาการมึนเมา กันต์เห็นแบบนั้นก็หลุดขำออกมาเล็กน้อยเพราะตอนนี้หัวของมินฟูยุ่งเหยิงจนไม่เป็นทรง
แกร็ก!
เสียงปลดกลอนประตูห้องน้ำดังขึ้นพร้อมกับบานประตูที่เปิดออก เผยให้เห็นใบหน้าของฮันเจ้าของห้องที่อนุญาตให้พวกเขาซุกหัวนอนในค่ำคืนนี้โผล่ออกมา เส้นผมที่เปียกชุ่มทำเอาเจ้าของใบหน้าหวานนั้นดูมีเสน่ห์เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว กันต์รู้สึกร้อนฉ่าขึ้นมาในทันที เพราะไอ้เจ้าของห้องนั้นกำลังทำให้หัวใจของเขาเต้นไม่เป็นจังหวะ ใครจะไปคิดว่าตอนน้องฮันหัวเปียกจะยั่วเย้าอารมณ์เขาได้มากขนาดนี้
“อ้าว! ตื่นแล้วเหรอพี่” ฮันเอ่ยทักเมื่อสายตาของเขาเห็นว่ารุ่นพี่อีกคนที่เมาหลับไปก่อนหน้านี้กำลังนั่งหน้ามึนอยู่บนโซฟา
“อือ เดี๋ยวจะอาบน้ำละ ไอ้กันต์มันบ่นฉิบหายว่าถ้าไม่อาบจะไม่นอนด้วย”
“พี่กันต์ไปนอนบนเตียงกับผมก็ได้ ให้พี่มินมันนอนโซฟาไปคนเดียว ถ้าไม่ยอมอาบน้ำ” ฮันเอ่ยพูดติดตลกพลางเช็ดผมแล้วเดินมาหย่อนตัวลงนั่งที่พนักวางแขนฝั่งที่กันต์นั่งอยู่
เชี่ยละ! ตัวหอมจังอะ...
“ได้เหรอ กลัวเบียดแกอะดิ” กันต์เอ่ยตอบไม่เต็มเสียงนักเพราะกำลังใจเต้นไม่เป็นระส่ำ
“นอนได้พี่ แต่ผมนอนดิ้นนะ”
“ไม่กลัว เพราะดิ้นเหมือนกัน ฮ่าๆๆ”
ระหว่างที่กันต์กับฮันกำลังคุยกันอยู่นั้น มินก็ลุกขึ้นแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป โดยไม่ลืมคว้าผ้าเช็ดตัวที่ฮันหยิบวางเอาไว้ให้ตั้งแต่แรกเข้าไปด้วย ฮันจึงย้ายก้นตัวเองจากที่เดิมมานั่งแทนที่มิน ทำให้ในเวลานี้ทั้งกันต์และฮันต่างก็นั่งข้างกันในบรรยากาศที่เงียบสงบมีเพียงเสียงสายน้ำตกกระทบพื้นจากห้องน้ำดังลอดออกมา
กันต์สูดหายใจแรงเพื่อตั้งสติเอาไว้ไม่ให้เตลิด เขารู้ดีว่าคนข้างๆ เป็นน้องที่เพิ่งจะรู้จักและสนิทกันได้ไม่นาน เขาเองก็ไม่อยากจะข้ามเส้นความสัมพันธ์ไปมากกว่านี้เพราะกลัวว่าจะต้องเสียมันไป แต่กามารมณ์ข้างในมันก็พยายามที่จะต่อต้านเสียเหลือเกิน จนเขาต้องพยายามกดมันเอาไว้ไม่ให้แสดงออกมา
“เป็นอะไรเปล่าพี่กันต์” ฮันเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าคนข้างๆ มีท่าทางผิดปกติ
“ถ้าพี่ถามอะไรแกสักอย่างหนึ่ง แกจะโกรธพี่ปะ”
“พี่จะถามอะไรอะครับ”
“พี่กลัวว่าคำถามมันจะดูละลาบละล้วงแกเกินไปอะดิ”
“ถามมาก่อนพี่ ถ้าตอบได้ก็จะตอบ” ฮันเอ่ยพูดพลางหันมายิ้มบางให้
ตึกๆ ตึกๆ
รอยยิ้มนั้นทำเอาหัวใจของกันต์เต้นแรงขึ้นมาอีกครั้งจนเขาเองก็กลัวว่าอีกฝ่ายจะได้ยิน แม้แสงไฟนีออนสีขาวในห้องจะกำลังส่องสว่างอยู่แต่กันต์ก็รู้สึกเหมือนจะหน้ามืดตามัวขึ้นมาเสียอย่างนั้น เขาหลับตาลงชั่ววินาทีหนึ่งเพื่อเรียกสติก่อนจะลืมตาขึ้นมาแล้วเอ่ยคำถามที่ค้างคาใจออกไป
“แกชอบผู้หญิงหรือผู้ชายอะ”
“ผมชอบผู้หญิงครับ” น้ำเสียงหนักแน่นจากคำตอบของฮันทำเอากันต์รู้สึกหัวใจกระตุกวูบไปเหมือนกัน แม้จะทำใจไว้บ้างแล้วว่าอีกฝ่ายจะตอบแบบนี้แต่พอได้ยินจริงๆ ก็อดไม่ได้ที่จะเสียดายขึ้นมาเล็กน้อย
“อ่อ...”
“ทำไมเหรอพี่”
“เปล่าๆ ก็ถามดูเล่นๆ ก็คิดอยู่แล้วว่าแกชอบผู้หญิง” กันต์ตอบกลับพลางหัวเราะแห้งเพราะไม่อยากให้ตัวเองดูมีพิรุธมากจนเกินไป แต่เขาก็ไม่แน่ใจนักหรอก ว่าไอ้สิ่งที่ทำอยู่นั้นมันได้ผลมากน้อยแค่ไหน
แกร็ก!
“นี่มึงอาบเสร็จแล้วเหรอ” กันต์หันไปทักทันทีที่ได้ยินเสียงเปิดประตูห้องน้ำพร้อมกับมินที่เดินออกมาพร้อมกับผ้าขนหนูพันรอบเอวโดยเปลือยท่อนบนไว้
ขาวว~
แวบหนึ่งในหัวของกันต์ผุดคำนี้ขึ้นมาโดยอัตโนมัติก่อนที่เขาจะต้องรีบสะบัดหัวเรียกสติแล้วหันไปสะกิดบอกให้ฮันหาเสื้อผ้าให้มินใส่ จากนั้นทั้งสามคนก็มานั่งล้อมวงเบียดกันอยู่บนโซฟาที่ถูกกางออกเป็นเตียง
“ไม่ต้องได้นอนกันละมั้งเนี่ย” มินที่กำลังนั่งเช็ดผมตัวเองบ่นหลังจากที่เห็นเวลาบนหน้าจอมือถือของตัวเองโชว์ขึ้นมา
03:15 น.
“จะนอนเลยไหมล่ะงั้น” กันต์เอ่ยบอกพลางทำท่าจะลุกจากโซฟาแต่ก็ถูกมินคว้าแขนรั้งเอาไว้ก่อน
“เดี๋ยว!”
“เอ้า! อะไรของมึง” กันต์ถึงเผลอบ่นหงุดหงิดออกมาก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งแล้วมองหน้ามินด้วยคิ้วขมวด
“กูมีเรื่องจะคุยด้วย” มินพูดต่อด้วยน้ำเสียงจริงจัง ทำเอากันต์และฮันหันมองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ
“อะไรวะ?”
“มึงไม่ชอบกูเหรอ” มินถามโพล่งออกมาแบบนั้น กันต์ได้ยินก็ถึงกับตกใจเพราะสิ่งที่อีกฝ่ายพูดมันก็เป็นเรื่องจริง เพียงแต่ว่ามันเป็นความรู้สึกในอดีตไปแล้ว ตอนนี้เขาไม่ได้รู้สึกแบบนั้นอีกแล้ว
“เคยไม่ชอบ...” กันต์ตอบเสียงอ่อน แววตาจดจ้องอยู่ที่ใบหน้าของคนฟัง
“อ่อ...”
“ก่อนหน้านี้กูยอมรับว่าเคยไม่ชอบมึง เพราะคิดว่ามึงมันพูดมาก น่ารำคาญ แถมยังมีคนมาเล่าให้ฟังว่ามึงชอบไปเกาะแกะคนนู้นคนนี้เพื่อที่ว่าตัวเองจะได้อยู่ในแสงตลอดเวลา แถมชอบเอาเรื่องของชาวบ้านไปนินทาอีก พอได้ยินมาแบบนี้กูก็เลยไม่ชอบ ทั้งที่จริงๆ กูไม่ได้รู้จักนิสัยมึงด้วยซ้ำ”
“กูเข้าใจ” มินพยักหน้ารับหลังจากได้ฟังสิ่งที่กันต์เอ่ยพูด
“แต่พอได้มาเจอ มาคุยกับมึงจริงๆ ถึงได้รู้ว่ามึงไม่ได้เป็นคนแบบนั้นอะ มึงแค่เป็นคนพูดไปเรื่อย” กันต์หลุดหัวเราะออกมาตอนพูดประโยคสุดท้าย ทำเอามินถึงกับง้างมือขึ้นมาราวกับว่าจะตบเข้าที่หัวของเขา ดีที่อีกฝ่ายลดมือลงไปเสียก่อนจึงไม่ต้องเจ็บตัว
“เออ กูก็พอรู้อยู่เรื่องที่คนอื่นพูดถึงกูอะ แต่กูไม่ได้แคร์อะไร พวกนั้นไม่ได้ให้เงินกูกินข้าวนี่หว่า กูเลยปล่อยผ่าน สนใจแต่เรื่องทำงานหาเงินดีกว่า สบายใจกว่าเยอะ”
“ก็จริงของมึง” กันต์พยักหน้าเห็นด้วย
“อือ นั่นแหละ มึงก็ไม่ต้องคิดมาก กูไม่ได้อะไร” มินยกมือขึ้นตบบ่ากันต์เบาๆ สองสามทีด้วยรอยยิ้มบางเพราะเขาเองก็ไม่อยากที่จะให้เพื่อนของเขามานั่งคิดมากกับสิ่งที่มันผ่านไปแล้ว
“กูขอโทษนะ...” กันต์เอ่ยบอกอย่างรู้สึกผิด
“เออ... ก็กูบอกแล้วว่าช่างมัน ไปๆๆๆ ไปนอนกันได้ละ ไอ้ฮันมันนอนฟังเราคุยจนหลับไปละน่ะ” มินพยักเพยิดหน้าไปทางที่ฮันนอนอยู่ กันต์ไปเห็นก็หลุดหัวเราะออกมาทันที
“ฮ่าๆ สงสัยจะง่วงจริง เมื่อกี๊ยังเห็นนอนดูติ๊กตอกอยู่เลย”
“เออ ละดูดิ๊ เจ้าของห้องต้องมานอนโซฟาเนี่ยนะ” มินเอ่ยบอกในขณะที่ตัวเองกำลังเอนตัวลงนอนที่โซฟาตัวดังกล่าวเหมือนกัน
“งั้นก็นอนมันตรงนี้ให้หมดนั่นแหละ เบียดกันก็อบอุ่นดี” กันต์พูดต่อก่อนจะที่จะล้มตัวลงนอนถัดจากมินอีกที
ก็ยังถือว่าเป็นความโชคดีของเขาที่ตอนคุยกันกับมิน น้องฮันย้ายตัวเองไปเอนตัวนอนเล่นมือถือที่ฝั่งข้างมินแทน ไม่อย่างนั้นในเวลาแบบนี้เขาคงต้องเป็นคนที่ได้นอนเคียงข้างกับฮัน ถ้ามันเป็นแบบนั้นเขาคงไม่ได้นอนทั้งคืนแน่ๆ ใครจะไปนอนหลับได้ลงทั้งที่หัวใจยังคงเต้นแรงแบบนั้น ดีที่ยังมีมินมานอนคั่นกลางเอาไว้ พอให้เขาได้มีเวลาพักหายใจหายคออยู่บ้าง
“ฝันดีนะมึง” มินหันหน้ามาเอ่ยบอกกับกันต์
“เออ ฝันดี” กันต์ตอบกลับไป
แม้ในใจจะรู้สึกเสียดายอยู่นิดหน่อยที่ไม่ได้บอกฝันดีกับฮันก่อนนอน แต่การได้มาอยู่ในห้องของน้องฮันในค่ำคืนนี้ก็นับเป็นเรื่องราวดีๆ อีกหนึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นแบบที่เขาไม่ได้คาดหวังไว้ แต่ก็คงไม่มีอะไรพัฒนาได้มากไปกว่าการแอบชอบน้องอยู่ในมุมของตัวเองแบบนี้เพราะกันต์ก็ได้ยินน้องฮันย้ำชัดในคำตอบจากคำถามที่เขาได้ถามไปก่อนหน้านี้แล้วว่าน้องฮันชอบผู้หญิง หากเขาล้ำเส้นไปมากกว่านี้อาจทำให้เขาต้องสูญเสียความสัมพันธ์ในครั้งนี้ได้ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นเขาคงจะรับไม่ได้แน่ๆ