วงการซีรีส์วาย บันเทิงกว่าที่คิด... โดยเฉพาะเรื่องที่มันเกิดขึ้นหลังกล้องอะนะ

วายบันเทิง - บทที่ 35 ข่าวเก่าเล่าใหม่ โดย Run_Kantheephop @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ตลก,ชาย-ชาย,สะท้อนปัญหาสังคม,วัยว้าวุ่น,วายบันเทิง,วาย,นิยายวาย,แฉ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

วายบันเทิง

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ตลก,ชาย-ชาย,สะท้อนปัญหาสังคม,วัยว้าวุ่น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

วายบันเทิง,วาย,นิยายวาย,แฉ

รายละเอียด

วายบันเทิง โดย Run_Kantheephop @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

วงการซีรีส์วาย บันเทิงกว่าที่คิด... โดยเฉพาะเรื่องที่มันเกิดขึ้นหลังกล้องอะนะ

ผู้แต่ง

Run_Kantheephop

เรื่องย่อ

วายบันเทิง

The Gossip of BL

Run_Kantheephop

เรื่องแต่ง 99%  อีก 1% คือเค้าโครงจากเรื่องจริง

ขออนุญาตแก้ไขวันและเวลาในการอัพนิยายนะครับ เนื่องจากช่วงนี้มีภารกิจจากหน้าที่การงานเข้ามาจึงทำให้เขียนนิยายได้น้อยลงกว่าเดิม จากนี้ไปจะขออัพนิยายเพียงแค่สัปดาห์ละ 1 ตอนนะครับ (ทุกวันเสาร์ เวลา 18:00 น.)

ขอบคุณสำหรับทุกการติดตามครับ

********************************************************************************

มีทั้งหมด 5 เล่ม

E-Book วางจำหน่ายแล้ว บน MEB

สารบัญ

วายบันเทิง-Intro บทนำ,วายบันเทิง-บทที่ 1 เด็กบ้านนอกคนหนึ่ง,วายบันเทิง-บทที่ 2 ผลลัพธ์ที่ดี,วายบันเทิง-บทที่ 3 ทริปมิตรสัมพันธ์,วายบันเทิง-บทที่ 4 สังสรรค์หรือสงคราม,วายบันเทิง-บทที่ 5 ยังไงกันแน่,วายบันเทิง-บทที่ 6 แต่ความจริงคือ...,วายบันเทิง-บทที่ 7 ระมัดระวัง,วายบันเทิง-บทที่ 8 ข่าวลือ,วายบันเทิง-บทที่ 9 มันจริงมั้ย?,วายบันเทิง-บทที่ 10 คุยกันแล้วไม่ใช่เหรอ,วายบันเทิง-บทที่ 11 เคลียร์ใจ,วายบันเทิง-บทที่ 12 มีซัมติงไหม?,วายบันเทิง-บทที่ 13 นี่ว่าใช่ ไม่ได้มโน,วายบันเทิง-บทที่ 14 โดนกับตัว,วายบันเทิง-บทที่ 15 ไม่พอใจ,วายบันเทิง-บทที่ 16 ต้องเลือก,วายบันเทิง-บทที่ 17 เมามาย 1,วายบันเทิง-บทที่ 18 เมามาย 2,วายบันเทิง-บทที่ 19 ทำไมทำงี้!?,วายบันเทิง-บทที่ 20 โอกาสเดียว,วายบันเทิง-บทที่ 21 หมดความอดทน,วายบันเทิง-บทที่ 22 ไม่จบไม่สิ้น,วายบันเทิง-บทที่ 23 โดนปลด,วายบันเทิง-บทที่ 24 เกาะกระแส,วายบันเทิง-บทที่ 25 ข่าวล่ามาไว,วายบันเทิง-บทที่ 26 เพื่อนใหม่,วายบันเทิง-บทที่ 27 งงไปหมด,วายบันเทิง-บทที่ 28 คนใหม่?,วายบันเทิง-บทที่ 29 มันเอาอีกละ,วายบันเทิง-บทที่ 30 สามหนุ่มเปิดใจ,วายบันเทิง-บทที่ 31 ก้าวใหม่,วายบันเทิง-บทที่ 32 คลาสแอคติง,วายบันเทิง-บทที่ 33 ไปแคสติงกัน,วายบันเทิง-บทที่ 34 ช่วยมาคุมความประพฤติอีสันดานนี่ที,วายบันเทิง-บทที่ 35 ข่าวเก่าเล่าใหม่,วายบันเทิง-บทที่ 36 ไม่เป็นไร,วายบันเทิง-บทที่ 37 รียูเนียน?,วายบันเทิง-บทที่ 38 เลิฟซีนเป็นเหตุ,วายบันเทิง-บทที่ 39 นั่นปากเหรอ!?,วายบันเทิง-บทที่ 40 เอาแล้วหัวใจ,วายบันเทิง-บทที่ 41 ระยะปลอดภัย,วายบันเทิง-บทที่ 42 เรื่องของฮัน,วายบันเทิง-บทที่ 43 หัวใจเจ้ากรรม หวั่นไหวง่ายจัง,วายบันเทิง-บทที่ 44 แค่พี่น้อง?,วายบันเทิง-บทที่ 45 ไปเชียงใหม่กันไหม,วายบันเทิง-บทที่ 46 เริ่มเลย,วายบันเทิง-บทที่ 47 เริ่มเลย 2,วายบันเทิง-บทที่ 48 ยินดีต้อนรับ,วายบันเทิง-บทที่ 49 ม่อนแจ่ม,วายบันเทิง-บทที่ 50 ไปขึ้นเขากัน,วายบันเทิง-บทที่ 51 กิ่วแม่ปาน,วายบันเทิง-บทที่ 52 เบื่อจริงๆ ไอ้พวกปากแข็ง,วายบันเทิง-บทที่ 53 ขอสักหน่อย หายไปหลายคืน,วายบันเทิง-บทที่ 54 กลับไป ไม่กลับใจ,วายบันเทิง-บทที่ 55 ความพยายาม,วายบันเทิง-บทที่ 56 อดีตช่วยย้ำเตือน,วายบันเทิง-บทที่ 57 เริ่มต้นเปิดใจ,วายบันเทิง-บทที่ 58 บททดสอบ,วายบันเทิง-บทที่ 59 ความลับที่ฉันซ่อนไว้,วายบันเทิง-ตอนที่ 60 ตอนจบที่มีความสุข

เนื้อหา

บทที่ 35 ข่าวเก่าเล่าใหม่

‘#บุ๊คกันต์ นี่เขาแอบคบกันปะเอาดีๆ’

            ‘ฉันเจอพี่บุ๊คกับกันต์อยู่ด้วยกันต์อีกแล้ว #บุ๊คกันต์’

            ‘#บุ๊คกันต์ มีจริงไหม? เอาไงดี ฉันเจอพี่บุ๊คกับกันต์อยู่ด้วยกันบ่อยมาก’

            ‘สยามค่ะ เจอบ่อยสุด #บุ๊คกันต์’

            ‘#บุ๊คกันต์ เท่านั้นค่ะ ไม่รับความเห็นต่าง โน #กันต์บุ๊ค ค่ะ’

 

            ความเห็นคิดเห็นมากมายในแอพลิเคชัน X ถูกส่งมาให้กันต์อ่านเป็นจำนวนมาก ด้วยฝีมือของพี่ชมพู่คนดีคนเดิม เธอบอกว่าบังเอิญเห็นผ่านหน้าไทม์ไลน์ของเธอจึงกดเข้าไปดูในแท็ก พอเห็นแบบนั้นก็เลยรีบส่งมาให้อ่านทันที 

            จริงๆ มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างตลกทั้งสำหรับเขาและพี่บุ๊ค มันเคยเกิดข่าวเมาท์แบบนี้มาแล้วครั้งหนึ่งตอนที่เขากับบุ๊คเล่นซีรีส์ด้วยกันแรกๆ พอครั้งนี้มาเจอข่าวลือแบบนี้อีกจึงไม่ได้ตื่นเต้นสักเท่าไหร่นัก

ก็แหงล่ะ กลับมาเล่นซีรีส์ด้วยกันอีกมันจะแปลกอะไรถ้าจะมีช่วงเวลาที่ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น แม้ว่าจะไม่ได้เล่นคู่กัน แต่การได้มีเวลาอยู่ในกองถ่ายร่วมกันมันก็ยิ่งทำให้ทั้งบุ๊คและกันต์ต่างก็รู้สึกว่าตัวเองสนิทกับอีกฝ่ายมากขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก เวลาจะทำอะไร จะไปไหนก็มักจะตัวติดกันอยู่เสมอจนเป็นที่ชินตาของคนในกองถ่าย หลายคนก็แอบแซวกันขำๆ แต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้คิดมากอะไร ไม่มีใครคิดว่าเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโต จนกระทั่งวันนี้ที่กันต์ได้เห็นกระแสข่าวที่พี่ชมพู่ส่งมาให้อ่านนี่แหละ ถึงได้รู้ว่ามีคนนอกจับตามองเรื่องราวของเขากับพี่บุ๊คไม่น้อยเหมือนกัน ถ้ามันกลายเป็นเรื่องจริงได้อย่างที่ทุกคนเมาท์ก็คงจะดี เขาก็อยากให้มันเป็นอย่างนั้น แต่ดูเหมือนจะทำได้แค่ฝันกลางวันเอา คงไม่มีวันที่เขาจะได้สมหวังสักเท่าไหร่

เป็นอีกวันที่เขาว่างหลังจากที่ผ่านมาเป็นช่วงเวิร์กช็อปและออกกองถ่ายทำซีรีส์อย่างหนักหน่วง แถมออฟฟิศใหม่ของพี่วันดีก็ย้ายออกไปอยู่ไกลมากกว่าเดิมหลายเท่า โลเคชั่นการถ่ายทำก็แถวออฟฟิศทั้งหมด ทำเอาทั้งเขาและบุ๊คต่างก็เหน็ดเหนื่อยกับการเดินทางอยู่ไม่น้อย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากทำใจด้วยเพราะเป็นผลงานซีรีส์เรื่องใหม่ที่พวกเขาค่อนข้างตั้งใจเอาไว้มาก ผู้ใหญ่ให้ทำอะไรพวกเขาก็เลือกที่จะทำหมด เวลาเหนื่อยมากๆ หรือมีเรื่องกระทบจิตใจระหว่างวันก็มักจะขึ้นมาระบายกันบนรถระหว่างกลับบ้านแทน

กันต์เดินมาตามแนวร่มเงาของตึกที่พาดทับลงมาบริเวณฟุตบาทเพื่อหลบแดดจ้าในช่วงเที่ยงวัน เขาหยุดแวะซื้อน้ำมะพร้าวเย็นๆ จากในร้านค้าแถวนั้นมาดื่มดับกระหายระหว่างรอพี่บุ๊ค เนื่องด้วยพวกเขานัดกันมาไหว้พระแถวย่านเยาวราชเอาฤกษ์เอาชัยก่อนที่ซีรีส์จะเริ่มออนแอร์

ครืดดด~ ครืดดด~ 

“อยู่ไหนละพี่” กันต์เอ่ยปากถามทันทีที่รับสายโทรเข้าจากอีกฝ่าย

(ถึงละ วนหาที่จอดรถอยู่)

“จอดไหนอะ วัดหรือโรงแรม”

(โรงแรมๆ)

“โอเค อยู่หน้าโรงแรมเลย”

(เค รอแป๊บ)

บทสนทนาจบลงอย่างรวดเร็ว กันต์เก็บมือถือลงกระเป๋ากางเกงแล้วยกน้ำมะพร้าวขึ้นมาดื่มต่อ คิ้วทั้งสองข้างขมวดเข้าหากัน รอยยับย่นบนหน้าผากปรากฏให้เห็นเล็กน้อยด้วยเพราะอากาศที่ร้อนเกินกว่าปกติไปสักหน่อย แม้ว่าจะมีลมโชยอยู่บ้างแต่ก็ไม่ค่อยจะช่วยอะไรนัก เสื้อฮาวายตัวบางกับกางเกงผ้าขาสั้นดูเหมือนจะกลายเป็นอุปสรรคไปเสียอย่างนั้น จากที่ตั้งใจว่าจะแต่งตัวให้สบายที่สุดเพื่อที่จะได้รับมือกับอากาศร้อนในตอนกลางวัน แต่กลับกลายเป็นว่ามันไม่ได้ผล

กันต์ยืนรออยู่ตรงนั้นเพียงไม่นาน คนร่างสูงก็ปรากฏตัวขึ้นในเสื้อผ้าที่ดูสบายกว่าที่เคย เสื้อแขนกุดสีขาวตัวบางกับกางเกงผ้าสีดำขาสั้นที่ความยาวสิ้นสุดแค่เพียงเหนือหัวเข่าขับเน้นผิวกายขาวผ่องของพี่บุ๊คได้เป็นอย่างดี ภาพตรงหน้าสะกดสายตาของกันต์ได้อยู่หมัด

“มองไรขนาดนั้น” บุ๊คเอ่ยแซวเมื่อเดินเข้ามาใกล้

“นัดกี่โมง” คนถูกถามได้สติรีบเปลี่ยนเรื่องในทันที กลัวว่าอีกฝ่ายจะจับได้ว่าเขากำลังรู้สึกอย่างไร

“เที่ยง”

“ละนี่กี่โมง”

บุ๊คก้มมองเวลาในมือถือของตัวเองก่อนจะเงยหน้าขึ้นส่งยิ้มแห้ง “เที่ยงยี่สิบ” 

“สายมากกกก” กันต์บ่นอุบก่อนจะก้าวเท้าออกเดินในทันที

“แหม แกก็รู้จักพี่ดี จะบ่นอะไรอีก”

“จ้า!!!” กันต์ตอบรับเสียงยาวก่อนจะหันมายิ้มกว้างให้อีกฝ่าย เป็นอันรู้จักว่ากำลังหยอกล้อด้วยการประชด 

บุ๊คเห็นแบบนั้นก็อดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นมายีหัวคนน้องตรงหน้า เพราะรู้สึกมันเขี้ยวที่โดนคนตัวเล็กกว่ากวนประสาท

ตึกๆ ตึกๆ

หัวใจของกันต์เต้นแรงขึ้นมาอีกแล้วจากการกระทำของบุ๊ค คนตัวเล็กทำหน้ายู่ใส่อีกฝ่ายหลังจากที่โดนยีหัวก่อนจะบ่นกระปอดกระแปดเบาๆ ว่าผมเสียทรงหมดแล้ว บุ๊คจึงอาสาช่วยจัดทรงผมของกันต์ให้กลับมาดูดีเหมือนเดิม และนั่นยิ่งทำให้คนตัวเล็กรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาที่ใบหน้ามากขึ้นกว่าจนต้องหันหน้าหนีเพราะกลัวว่าคนตรงหน้าจะสังเกตเห็นว่าใบหน้าของเขาค่อยๆ แดงระเรื่อขึ้นเรื่อยๆ

“ไปกันเถอะพี่ คนน่าจะเยอะ” กันต์รีบเปลี่ยนเรื่องแล้วเดินไปรอริมฟุตบาทเพื่อจะข้ามถนนไปอีกฝั่ง

บุ๊คที่เดินตามมายืนข้างๆ หัวมองซ้ายขวาอยู่สองสามครั้ง พอเห็นว่าระยะรถที่วิ่งมาเริ่มห่างกันแถมยังเริ่มลดความเร็ว เขาจึงไม่รีรอคว้าข้อมือของกันต์แล้วพาเดินข้ามถนนในทันที คนตัวเล็กกว่ายังไม่ทันได้ตั้งตัวจึงเดินตามไปทั้งที่ยังงงๆ

สายตาของกันต์เหลือบมองมือของบุ๊คที่จับข้อมือของเขาเอาไว้หลวมๆ พลางรู้สึกร้อนที่ใบหน้าแถมใจเต้นแรงขึ้นมาอีกครั้ง ไม่รู้ว่าวันนี้พี่บุ๊คไปกินอะไรมา ทำไมถึงได้ดูแลเทคแคร์เขาดีแปลกๆ ไม่ใช่ที่ผ่านมาบุ๊คไม่ทำ แต่ในวันนี้มันดูมากกว่าที่เคยได้รับมาก็เท่านั้น

พี่บุ๊คคงไม่ได้คิดอะไรหรอกมั้ง...

กันต์ได้แต่คิดในใจอยู่แบบนั้น เขารู้ดีว่าไม่ควรจะคิดอะไรไปเองคนเดียว เพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะคิดแบบเดียวกันหรือเปล่า หากรีบแสดงความรู้สึกออกไปในตอนนี้เขาอาจจะเสียบุ๊คไปตลอดชีวิตเลยก็ได้

“รีบเดินเร็ว แดดร้อน” บุ๊คเอ่ยบอกพลางปล่อยมือที่จับข้อมือของกันตืออกแล้วเดินนำหน้าไป

เห็นไหมล่ะ!

แวบหนึ่งในความคิดของกันต์ขึ้นเมื่อเห็นท่าทีของอีกฝ่ายดูนิ่งเฉยเกินกว่าจะซ่อนความรู้สึกอะไรเอาไว้ เขาได้แต่ลอบยิ้มให้กับความคิดมากของตัวเองก่อนจะเดินตามหลังบุ๊คไป

โชคดีที่วันนี้เป็นวันธรรมดา จำนวนประชากรที่มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัดมังกรแห่งนี้จึงไม่ได้มีจำนวนมากจนแน่นขนัดเหมือนตอนวันหยุดสักเท่าไหร่ ทั้งบุ๊คและกันต์จึงรีบเดินเข้าไปด้านในวัดทันทีเพื่อสักการะด้านใน 

บุ๊คถือโอกาสที่จะสะเดาะเคราะห์ปีชงของตัวเองไปด้วยเลย ในขณะที่กันต์แค่ตามมาไหว้ขอพรเฉยๆ คนพี่จึงขอเวลาเดินไปแก้ปีชงก่อนจนเรียบร้อย จากนั้นจึงกลับมาพากันต์ให้เดินไปไหว้ตามจุดต่างๆ ที่ทางวัดมีให้ ทีแรกกันต์บอกจะแยกไปไหว้เองระหว่างรอบุ๊คแก้ปีชง แต่อีกฝ่ายก็ย้ำนักว่าให้รอไหว้พร้อมกัน คนตัวเล็กก็ไม่เข้าใจหรอกว่าทำไมจะต้องรอ แต่เขาก็ยินดีทำตาม มันก็ไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรงอะไรนัก

เสียงสวดมนต์ดังขึ้นเล็กน้อยจากปากของบุ๊คพอให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาได้ยิน กันต์รู้สึกเขินอยู่นิดหน่อยเพราะปกติเวลาไปไหว้พระที่ไหนก็ไม่เคยจะเห็นใครสวดมนต์ออกมาดังจนได้ยินเสียงแบบนี้

“ทำไมพี่สวดดังจัง” กันต์เอ่ยถามบุ๊คด้วยสีหน้าอยากรู้หลังจากที่พวกเขาไหว้พระกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว

“เคยคุยกับผู้ใหญ่คนหนึ่ง แล้วเขาบอกว่าควรสวดมนต์ออกเสียง เขาว่ามันดีกว่า พี่ก็ไม่รู้ว่าอะไรจริงไม่จริง แต่เขาบอกว่าดีพี่ก็เชื่อแหละว่ามันดี”

“อ่อ...”

“อย่างน้อยก็มีสมาธิมากขึ้นอะ ไม่งั้นนะ ใครคุยกันข้างหูหรือเดินผ่านไปผ่านมาพี่ก็สมาธิแตกกระเจิงละ พี่เป็นคนสมาธิสั้น แกก็รู้”

กันต์พยักหน้ารับขณะฟังเพื่อบอกให้อีกฝ่ายรับรู้ว่าเขาเข้าใจในสิ่งที่พูดออกมา จากนั้นพวกเขาทั้งคู่ก็พากันเดินออกไปยังบริเวณประตูข้างวัด เพื่อที่จะไปเดินหาอะไรกินกันสักหน่อย แต่พ้นบานประตูวัดไปได้นิดเดียวบุ๊คก็หยุดดูลอตเตอรี่ที่คุณป้าคนหนึ่งยืนขายอยู่ตรงนั้น และกันต์รู้สึกว่ามันเป็นการคิดผิดอย่างมหันต์ เพราะทันทีที่พวกเขาทั้งคู่หยุดยืนดู คุณป้าจากทุกมุมก็พากันรุมเขามาหาพวกเขาในทันที บุ๊คได้แต่ปฏิเสธแค่ว่าขอดูก่อน แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าทุกคนจะหยุดรุม

“มีเลข 69 ไหมครับ” กันต์ตัดสินใจพูดออกไปแบบนั้นเพียงเพราะคิดว่าไม่น่าจะมีอยู่บนแผง แต่ปรากฏว่าทุกแผงมีเลขท้ายสองตัว 69 ทั้งหมด 

กันต์แอบใช้ปลายนิ้วชี้สะกิดที่ฝ่ามือของบุ๊ค คนตัวสูงหันมามองหน้ากันต์พลางยิ้มเล็กๆ เมื่อเห็นแววตาอ้อนวอนขอความช่วยเหลือ ก่อนจะเอ่ยพูดตัวเลขข้างหน้ามาอีกตัวเพื่อจำกัดให้มันแคบลง เผื่อว่าถ้าคุณป้าชายลอตเตอรี่ทั้งหลายไม่มีตัวเลขดังกล่าว พวกเขาจะได้มีทางหนีออกจากตรงนั้นสักที

“จริงๆ อยากได้ 269 ครับ” 

‘369 ได้ไหมลูก’

‘296 แทนไหมจ๊ะ’

“ป้ามีจ้ะ 269 มี 2 ใบเอาไหม” เสียงหนึ่งดังขัดอารมณ์ขึ้นมาในทันที กันต์กับบุ๊คหันมองหน้ากันอย่างไม่ได้นัดหมาย

“ใบ... เท่าไหร่ครับ” กันต์เอ่ยถามออกไปอย่างไม่เต็มเสียงนัก ใครจะไปคิดว่ามีล่ะ ตอนแรกที่พี่บุ๊คถาม เขาก็กวาดสายตามองผ่านๆ เห็นว่าไม่มีถึงได้สบายใจขึ้นมาเล็กน้อย แต่พอโดนช็อตฟีลขึ้นมาก็เลยต้องทำเป็นแกล้งถามราคาออกไปเพราะมไอยากเสียหน้า

“ใบละ 110 บาท สองใบ 220 บาท เอาไหม” เสียงคุณป้าที่ขายลอตเตอรี่ดูมีความหวังขึ้นมาในทันที

“อย่าเพิ่งดึงนะครับ ผมขอคิดก่อน” กันต์รีบพูดแย้งขึ้นในทันทีเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังจับที่ลอตเตอรีสองใบนั้นราวกับว่าจะดึงออกมา

“จ้า”

“เอาไงดี” กันต์หันไปกระซิบกับบุ๊ค

“แพงเกิน...”

“งั้นไม่เอาเนอะ”

“อยากได้ปะล่ะ ถ้าอยากได้ก็ลองขอลดราคาดู” บุ๊คเสนอ แต่เอาเข้าจริงกันต์ก็ไม่ใช่คนที่อยากได้ตั้งแต่แรก บุ๊คต่างหากที่เป็นคนแวะดู

“ลดได้ไหมครับ” กันต์หันไปถามคุณป้าอีกครั้ง แต่คุณป้าก็ทำแค่เพียงยิ้มแห้งๆ กลับมาแล้วส่ายหัว เขาจึงตัดสินใจปฏิเสธออกไป

กว่าจะหลุดพ้นจากตรงนั้นมาได้ก็ทำเอาพวกเขาเหงื่อตก ทั้งอากาศที่ร้อนจัด ทั้งเหล่าคุณป้าที่มะรุมมะตุ้มเข้ามา เล่นเอาพวกเขาต้องรีบปาดเหงื่อกันยกใหญ่ 

กันต์กับบุ๊คพากันเดินหาร้านอาหารกันอยู่พักใหญ่ ระหว่างทางก็แวะร้านนั้นร้านนี้อีกเล็กๆ น้อยๆ ตอนที่เจอของถูกใจ แต่สุดท้ายก็ยังไม่ได้ร้านที่จะกินอยู่ดี แถมอากาศยิ่งร้อนขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเริ่มเข้าสู่ช่วงบ่ายแก่ๆ ทำให้กันต์เริ่มรู้สึกไม่ไหว

“พี่ เรากลับไปกินร้านที่อยู่ในโรงแรมไหม เย็นดี กินข้างนอกไม่ไหวละ กันต์จะเป็นลม”

“เอ้า! เออ ไปๆๆ ไปนั่งร้านแอร์ก็ได้ พี่ก็จะไม่ไหวละเหมือนกัน” บุ๊คตอบกลับมาแบบนั้นก่อนจะหันตัวหมุนกลับเดินย้อนกลับไปทางที่โรงแรมตั้งอยู่ทันที ดีเหมือนกันเพราะเขาจอดรถไว้ที่นั่น ถ้ากินข้าวที่นั่นจะได้เอาใบเสร็จไปประทับตราจอดรถได้ ไม่ต้องเสียค่าจอดรถแพงๆ

กันต์และบุ๊คพากันเดินกลับไปที่โรงแรม ระหว่างทางจำนวนคนเหมือนจะคราคร่ำขึ้นเล็กน้อย แม้ว่าแสงแดดและอากาศจะร้อนแต่ก็ดูว่าหลายคนไม่ได้ยี่หระต่อสิ่งนี้ 

“เอ้า!!! เราเจอดาราค่ะทุกคนนน!!” เสียงหนึ่งดังขึ้นทำเอากันต์และบุ๊คต้องหันหน้าไปมอง

ฉิบหายละ...

กันต์ยกมือขึ้นไหว้อย่างเก้ๆ กังๆ เพราะไม่คิดว่าจะเจอคนรู้จัก แถมไม่ใช่แค่คนรู้จักธรรมดาเสียด้วย แต่ดันเป็นเจ๊มาร์กี้ติ๊กตอกเกอร์ชื่อดังที่กำลังไลฟ์อยู่ 

“สวัสดีทุกคนหน่อยเร็วพี่บุ๊คน้องกันต์ กำลังไลฟ์อยู่” เจ๊มาร์กี้เอ่ยบอกขณะที่กันต์เดินเข้าไปใกล้

“สวัสดีครับทุกคน” กันต์หันไปมองกล้องที่หน้าจอมือถือที่กำลังโชว์หน้าจอไลฟ์ของติ๊กตอกอยู่ ส่วนบุ๊คเพียงแค่ยิ้มและยกมือไหว้เท่านั้น

“ว่าแต่... ทำไมมาด้วยกันสองคนคะ แปลกๆ นะ” เจ๊มาร์กี้เอ่ยถามด้วยสีหน้าสงสัย พลางยิ้มแบบมีเลศนัย

“มากันหลายคนครับ พอดีแยกกันเดิน” พี่บุ๊คเอ่ยตอบแบบทีเล่นทีจริง

“แหม... อย่าให้เจ๊รู้นะ ช่วงนี้เห็นอยู่ด้วยกันสองคนบ่อยๆ น้า”

“ฮ่าๆๆ” กันต์กับบุ๊คไม่ได้ตอบอะไรเพียงแต่หัวเราะออกไปเท่านั้น

“อะๆๆ ฝากผลงานหน่อย ช่วงนี้มีอะไรให้ติดตามไหม หรือว่าดูย้อนหลังอะไรยอ่างงี้” โชคดีที่เจ๊มาร์กี้ตัดบทไปเสียก่อน พวกเขาทั้งคู่จึงรอดพ้นจากสถานการณ์อันน่าอึดอัดไปได้

“เร็วๆ นี้จะมีซีรีส์ครับ เล่นเรื่องเดียวกัน ยังไงก็ฝากด้วยครับ” พี่บุ๊ครวบรัดตัดจบให้ในทันที เจ๊มาร์กี้ก็เลยโบกมือบ๊ายบายก่อนจะเดินไลฟ์ต่อไป

เห้ออออ....

กันต์ถอนหายใจยาวออกมาด้วยความโล่งใจ ทำเอาบุ๊คที่ยืนอยู่ตรงนั้นถึงกับหลุดหัวเราะออกมาเล็กๆ รับรองได้เลยว่าหลังจากนี้ข่าวคราวเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเขากับพี่บุ๊คจะต้องกระจายไปมากกว่าเดิมแน่ๆ เล่นมาบังเอิญเจอกับเจ๊มาร์กี้ดาวติ๊กตอกเจ้าแม่คอนเทนต์เมาท์มอยแห่งยุคที่กำลังไลฟ์สดขนาดนี้ รับรองได้เลยว่าแฮชแท็ก #บุ๊คกันต์ กลับมาติดเทรนด์แน่นอน