วงการซีรีส์วาย บันเทิงกว่าที่คิด... โดยเฉพาะเรื่องที่มันเกิดขึ้นหลังกล้องอะนะ
รัก,ตลก,ชาย-ชาย,สะท้อนปัญหาสังคม,วัยว้าวุ่น,วายบันเทิง,วาย,นิยายวาย,แฉ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
วายบันเทิงวงการซีรีส์วาย บันเทิงกว่าที่คิด... โดยเฉพาะเรื่องที่มันเกิดขึ้นหลังกล้องอะนะ
วายบันเทิง
The Gossip of BL
Run_Kantheephop
เรื่องแต่ง 99% อีก 1% คือเค้าโครงจากเรื่องจริง
ขออนุญาตแก้ไขวันและเวลาในการอัพนิยายนะครับ เนื่องจากช่วงนี้มีภารกิจจากหน้าที่การงานเข้ามาจึงทำให้เขียนนิยายได้น้อยลงกว่าเดิม จากนี้ไปจะขออัพนิยายเพียงแค่สัปดาห์ละ 1 ตอนนะครับ (ทุกวันเสาร์ เวลา 18:00 น.)
ขอบคุณสำหรับทุกการติดตามครับ
********************************************************************************
มีทั้งหมด 5 เล่ม
E-Book วางจำหน่ายแล้ว บน MEB
เสียงฟึดฟัดจากอาการหายใจไม่สะดวกของกันต์ดังขึ้นเล็กน้อยพร้อมกับเปลือกตาที่เริ่มขยับเตรียมเปิดขึ้นเพราะตื่นนอน ชั่วขณะหนึ่งเขาลืมไปว่าที่นี่ไม่ใช่ห้องนอนของเขา และข้างกายเขาไม่ใช่หมอนข้างใบที่เขากอดประจำ หากแต่เป็นรุ่นน้องคนสนิทอย่างฮันที่ยังคงนอนหลับปุ๋ยโดยไม่ได้รู้สึกตัวเลยว่ากำลังถูกแขกที่มาเยือนนอนกอดอยู่
กันต์ขยับตัวเล็กน้อยพลางลืมขึ้นอย่างช้าๆ แวบแรกเขายังไม่ทันเห็นได้ชัดว่าภาพตรงหน้าคืออะไร แต่เมื่อพอสายตาได้ปรับโฟกัสจนภาพชัดขึ้นเขาก็เกิดอาการตกใจนิดหน่อยเมื่อเห็นว่าตนเองกำลังนอนโอบอีกฝ่ายอยู่ เขาค่อยๆ ยกแขนออกอย่างเนิบช้า ไม่อยากรบกวนคนข้างๆ ที่กำลังหลับอยู่ แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้ลุกไปไหน ฮันก็ขยับและพลิกตัวหันกลับมาจนใบหน้าของทั้งคู่ประสานกัน
เชี่ยละ...
คำอุทานดังชัดขึ้นในหัวของกันต์ เขาเองไม่ได้อยากจะรู้สึกหวั่นไหวนักหรอกเพราะศักดิ์ศรีคำว่าพี่น้องมันค้ำคอเอาไว้ อีกอย่างเขาก็เคยเอ่ยปากบอกกับพี่ใหญ่ไว้แล้วด้วยว่าไม่มีทางที่จะเอาฮันข้ามเส้นแบ่งความสัมพันธ์ของกับว่าน้องมาเป็นแฟนอย่างแน่นอน แต่ไอ้ความใกล้ชิดนี่มันก็ช่างร้ายกาจ เพราะบังอาจกล้ามาล้อเล่นกับหัวใจของเขาในเวลานี้ได้เสียนี่
แพขนตาหนายาวเรียงตัวสวยขับให้ใบหน้าของฮันดูหวานกว่าผู้ชายคนอื่นๆ ขนาดจมูกและริมฝีปากที่รับกับใบหน้าทำให้คนตรงหน้าดูจิ้มลิ้มมากคนทั่วไป สายตาของกันต์ไล่มองพิจารณาวงหน้าของฮันอย่างละเมียด แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีโอกาสได้อยู่ใกล้ชิดกันหลายครั้ง แต่ยังไม่เคยมีครั้งไหนที่ได้ใกล้ชิดขนาดนี้ แถมยังมีเวลาเพียงพอที่เขาได้จ้องมองใบหน้าของอีกฝ่ายอย่างละเอียด
อึ่กก...
กันต์ชะงักไปเมื่อเปลือกตาของฮันค่อยๆ เปิดขึ้นเผยให้เห็นแววตาที่ซ่อนอยู่ด้านใน แม้ว่าจะยังไม่ตื่นดี แต่กันต์ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนตรงหน้ามีเสน่ห์มากพอที่จะทำให้ใจของเขาสั่นไหว
“อื้อ...” เสียงครางในลำคอของฮันดังขึ้นเล็กน้อย เป็นสัญญาณให้กันต์รีบเหลือบตามองไปทางอื่นในทันที
“ตื่นแล้วเหรอ” กันต์เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ยังตื่นไม่เต็มที่นัก
“อื้อ” ฮันพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะพลิกตัวนอนหงายแล้วยืดแขนออกไปบิดขี้เกียจ
กันต์ขยับตัวลุกขึ้นนั่งตั้งสติอยู่หนึ่งก่อนจะเคลื่อนตัวลงจากเตียงแล้วตรงไปยังห้องน้ำทันที เขาหยิบแปรงสีฟันที่ฮันหยิบมาวางไว้ให้เขาเมื่อคืนขึ้นมาบีบยาสีฟันแล้วยัดเข้าไปแปรงในปาก เสียงสีฟันดังก้องสะท้อนผนังในห้องน้ำพอได้ยิน
“เชี่ย...” เสียงอุทานดังอู้อยู่ในปากของกันต์เมื่อสายตาของเขาหันไปเห็นฮันยืนงัวเงียอยู่ที่ประตูหน้าห้องน้ำเพราะเขาดันเปิดประตูทิ้งไว้
“แปรงด้วย” เจ้าของห้องเอ่ยบอกเพียงเท่านั้นก่อนจะเดินเข้ามาด้านใน
จังหวะหนึ่งขณะที่ฮันเดินเข้ามาภายในห้องน้ำ หัวไหล่ของเขาสัมผัสเข้ากับหัวไหล่ของกันต์ ทำให้คนพี่รู้สึกขึ้นมาเล็กน้อย เขาไม่รู้ว่าทำไมช่วงนี้ทั้งร่างกายและหัวใจของเขาถึงได้อ่อนไหวนัก อาจเพราะอยู่ในช่วงเหงา ไม่ก็อยู่คนเดียวมานาน พอมีอะไรที่เข้ามากระตุ้นเขาแค่นิดหน่อยก็ทำให้พวกเขารู้สึกกระเจิดกระเจิงได้ไม่น้อย
“พี่...” อยู่ๆ ฮันก็เอ่ยทักขึ้นมาขณะที่มองผ่านเข้าไปในกระจก
“หื้ม?” กันต์เอ่ยเสียงพร้อมหันไปมองอย่างสงสัย
“แต่เช้าเลยเหรอ” ฮันพูดพลางยกยิ้มยิ้มเล็กน้อยก่อนจะพยักเพยิดหน้าผ่านกระจกเงาให้อีกฝ่ายมองตาม
กันต์ยังไม่เข้าใจว่าสิ่งที่ฮันกำลังพูดหมายถึงอะไร เขาได้แต่มองตามสายตาที่อีกฝ่ายชี้นำ แล้วก็ต้องตกใจแถมยังรู้สึกอายเป็นอย่างมากเมื่อพบว่าส่วนตรงนั้นของเขามันตื่นตัวจนตั้งชูชันจนเป้ากางเกงพองแหลมออกมา
“เชี่ยย!” กันต์รีบเบี่ยงตัวหลบไปอีกทางทันที ความรู้สึกอายพุ่งพล่านอยู่ภายในตัวเขาเป็นอย่างมาก
ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้ตัวว่าตรงนั้นมันกำลังแข็งตัว เขารู้ตัวดีเพราะมันเป็นกลไกธรรมชาติเพียงแต่เขาแค่ลืมตัวไปว่าค่ำคืนที่ผ่านมาเขาไม่ได้นอนอยู่ในห้องของตัวเอง และไม่ได้อยู่ลำพังคนเดียว แถมกางเกงกีฬาของฮันที่เอามาให้ยืมใส่นอนเมื่อคืนมันก็ช่างบางเสียเหลือเกิน พอไอ้นั่นมันตื่นตัวขึ้นมาจึงทำให้เตะตาได้เป็นพิเศษ
“โทษที...” กันต์เอ่ยพูดเสียงอ่อน
“ฮ่าๆ ผมแซวนะพี่ เข้าใจ เรื่องปกติของผู้ชายปะ”
“แต่มันมาชูต่อหน้ามึงก็ยังไงอยู่หรือเปล่า” กันต์หันใบหน้ากลับมาเล็กน้อยเพื่อพูดกับฮัน
“ก็เพิ่งตื่นไงพี่ ของผมก็เหมือนกัน แค่ผมใส่เกงในเลยไม่โด่ออกมาแบบพี่” ฮันพูดต่อพลางหัวเราะออกมาเล็กน้อยก่อนจะก้มหน้าลงไปบ้วนฟองยาสีฟันออกจากปาก “นี่ไง พาดอยู่แบบนี้”
ฉิบหายละ…
เล่นกับใจกูสุดๆ
กันต์ถึงกับไปไม่เป็นเมื่อสิ้นคำพูดของฮัน น้องก็เอามือข้างที่ว่างอยู่จับเข้าที่เป้ากางเกงแล้วใช้มือรูดไปตามแก่นกายที่แข็งตัวอยู่จนเขามองเห็นเป็นลำชัด เขาถึงกับกลืนน้ำลายอึกใหญ่ พยายามที่จะควบคุมสติและอารมณ์ของตัวเองให้อยู่ในร่องในรอย
“เดี๋ยวๆ นี่เราสนิทกันถึงขนาดนี้ละเหรอ” กันต์เอ่ยบอกทีเล่นทีจริง ทเป็นไม่สนใจ
“เรื่องธรรมชาติปะพี่ ชิลๆ”
กันต์แค่นหัวเราะออกมาเล็กน้อยก่อนจะรีบแปรงฟันให้เสร็จแล้วเดินออกไปนั่งรอข้างนอกเพราะฮันบอกว่าหลังแปรงฟันเสร็จจะขอใช้ห้องน้ำสักหน่อย เขาหย่อนตัวนั่งลงที่โซฟาในห้องนั่งเล่นเพื่อเล่นมือถือรอ
เสียงคลิปจากติ๊กตอกดังลอดผ่านบานประตูห้องน้ำออกมาอยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเสียงเพลงตามมาด้วยเสียงน้ำจากฝักบัวตกกระทบพื้นห้องน้ำเป็นสัญญาณบอกว่าตอนนี้ฮันกำลังเริ่มอาบน้ำ ไม่นานฮันก็เดินออกมาพร้อมหัวเปียกหมาด ใส่กางเกงขาสั้นตัวเดิมที่ใส่นอน เปลือยร่างกายท่อนบนเอาไว้
กันต์เผลอหันไปมองตาค้าง เขานิ่งไปเพราะไม่ได้คาดคิดมาก่อนหุ่นของน้องฮันจะดีแบบนี้ ร่างกายที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อโดยเฉพาะกล้ามหน้าอกและหน้าท้องที่กระชับได้รูปทำเอากลไกของร่างกายเขาถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง เขาแสร้งทำเป็นนิ่งแล้วก้มลงมาเล่นโทรศัพท์เหมือนกับว่าไม่ได้รู้สึกอะไรทั้งที่ในใจแทบจะระเบิดออกมา
พุธโธ... พุธ... โธ...
คนพี่พยายามข่มใจหวังจะปล่อยให้เจ้าของห้องเดินผ่านหน้าไปเพื่อแต่งตัวให้เรียบร้อย หลังจากนั้นเขาจะรีบเข้าไปอาบน้ำเพื่อจะได้แยกย้ายกับน้องสักที ก่อนที่เขาจิตใจของเขาจะต้องทำงานหนักไปมากกว่านี้ แต่ก็เหมือนโชคชะตาเล่นตลก แทนที่ฮันจะเดินไปแต่งตัวแต่กลับมาหยุดยืนอยู่ที่ด้านหน้ากันต์เสียอย่างนั้น
“หื้ม? มีไร” กันต์เอ่ยถามโดยพยายามให้น้ำเสียงเป็นปกติที่สุด
“เดี๋ยวเสร็จแล้ว ออกไปหาไรกินกันปะพี่”
“ได้นะ”
“กินเสร็จค่อยไปหาที่เดินเล่นกัน”
“ได้ๆ รีบไปแต่งตัวได้แล้ว” กันต์รีบเอ่ยปากบอกไล่คนตรงหน้า เพราะหัวใจของเขากำลังเต้นรัวเกินจะควบคุม เขาลอบถอนหายใจเล็กน้อยเมื่ออีกฝ่ายเดินออกไปจากตรงนั้น ก่อนจะรีบลุกเดินเข้าห้องน้ำไป
เขาเท้ามือทั้งสองข้างลงบนอ่างล้างหน้าพลางจ้องมองตัวเองในกระจกแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา ไอ้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเขากับฮันมันไม่มีทางที่จะพัฒนาไปมากกว่านี้แน่นอน เขามั่นใจเป็นอย่างมาก ในสายตาของเขาฮันอยู่ในหมวดหมู่ของน้องชายที่เขาเอ็นดู แม้ในความเป็นจริงไฟราคะภายในตัวจะทำให้เขาอยากจะดูอย่างอื่นมากกว่าก็ตาม ฮันเองก็ดูเหมือนจะไม่ได้คิดอะไรกับเขามากไปกว่าพี่ชายเช่นเดียวกัน
กันต์ใช้เวลาพักใหญ่อยู่ในห้องน้ำเพื่ออาบน้ำและทำธุระส่วนตัวให้อารมณ์อะไรๆ ข้างในได้ผ่อนคลายลงไปบ้าง หากไม่ได้ปลดปล่อยสักหน่อยเขาคงจะรู้สึกอึดอัดไม่น้อย
เสื้อผ้าที่กันต์เตรียมมาถูกหยิบออกจากกระเป๋ามาสวมใส่หลังจากที่เขาอาบน้ำเสร็จ โดยมีฮันนอนเล่นเกมรออยู่บนโซฟา
“ไป เสร็จละ” กันต์เอ่ยเมื่อแต่งตัวเสร็จ
“อาเค” ฮันตอบรับพลางกดเล่นเกมอยู่อีกนิดหน่อยก็จบเกม เขาลุกขึ้นยืนแล้วยัดมือถือลงกระเป๋ากางเกงด้านหลังก่อนจะเดินไปคว้ากระเป๋าสะพายใบเล็กประมาณฝ่ามือมาพาดบ่าแล้วเดินไปใส่รองเท้าก่อนจะเปิดประตูแล้วเดินนำออกไปโดยมีกันต์เดินตามไปติดๆ
ทั้งสองคนเดินทางจากคอนโดมุ่งตรงเข้าไปยังห้างใหญ่ใจกลางเมืองโดยรถไฟฟ้าใต้ดินที่อยู่ด้านหน้าคอนโดของฮัน พวกเขาใช้เวลาเพียงไม่นานก็มาถึงปลายทางที่พวกเขาตั้งใจเอาไว้ โชคดีที่ตัดสินใจโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดิน หากมาด้วยรถแท็กซี่แบบที่ฮันบอกทีแรกคงจะไม่มาถึงได้รวดเร็วขนาดนี้ บนถนนเวลานี้รถจำนวนมากจอดกันนิ่งสนิทเพราะการจราจรที่ติดขัด
“เออ ลืมเล่า พี่ได้ซีรีส์เรื่องใหม่ละนะ” ระหว่างเดินหาร้านอาหารกันต์ก็หันไปเอ่ยบอกกับฮัน
“จริงปะพี่ วายปะ” ฮันดูมีสีหน้าดีใจและตื่นเต้นกับสิ่งที่ได้ยินไม่น้อย แววตาเขาดูเป็นประกายอย่างจริงใจ
“วายเหมือนเดิม พี่บุ๊คก็เล่นด้วยนะเรื่องนี้”
“เลิศ!”
“จริง พี่บุ๊คเป็นคู่หลัก ส่วนพี่เป็นคู่สอง”
“ปังมากกกกก รอดูเลย” ฮันตอบพลางชี้นิ้วบอกให้กันต์เดินเลี้ยวตามเขามาอีกทางหนึ่ง ซึ่งเป็นทางที่จะพาพวกเขาไปยังร้านอาหารที่ฮันบ่นว่าอยากกินตั้งแต่เดินออกมาจากคอนโด
ร้านอาหารญี่ปุ่นที่โดดเด่นในเมนูประเภททงคัตสึ แถมการตกแต่งหน้าร้านก็ยังดึงดูดสายตาชวนให้เดินเข้าไปเป็นอย่างมาก กันต์และฮันรีบเดินเข้าไปด้านในร้านทันที โชคดีที่ไม่มีคิวรออยู่ก่อนหน้า พวกเขาจึงสามารถเข้าไปนั่งที่โต๊ะและสั่งอาหารได้ในทันที
“จริงๆ ผมก็มีซีรีส์เรื่องใหม่แล้วเหมือนกันนะพี่” ฮันพูดขึ้นหลังจากที่พนักงานรับเมนูแล้วเดินออกไป
“เห้ย! ดีใจด้วย”
“วายเหมือนกัน”
“คู่กับไจ๋เหมือนเดิมปะ” กันต์ถามต่อ เพราะช่วงหนึ่งตอนซีรีส์ที่พวกเขาเล่นด้วยกันออกอากาศ กระแสคู่จิ้นไจ๋ฮันก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ออกงานอีเวนต์รัวๆ ไม่เว้นแต่ละวัน พอได้ยินน้องพูดว่าได้ซีรีส์วายเรื่องใหม่เขาก็รู้ได้ในทันทีว่าอีกฝ่ายที่มาเล่นคู่กันก็คงหนีไม่พ้นไจ๋
“ช่าย...”
“รียูเนียนสุดๆ” กันต์แซวพลางยกยิ้มเล็กน้อย
“เหรอพี่...” ฮันหน้ายู่เล็กน้อยหลังพูดจบ
“เอ่า! ทำไมอะ ไม่ดีใจเหรอ”
“พี่ก็รู้อยู่ว่าทำไม”
“เออน่า...” กันต์พยายามที่จะเข้าใจว่าทำไมฮันถึงได้มีสีหน้าแบบนั้นออกมาต้องที่เอ่ยไปถึงไจ๋
ที่ผ่านมาตอนร่วมงานกัน สองคนนี้ก็ไม่ได้ญาติดีกันเท่าไหร่ ทะเลาะกันบ่อย โดยเฉพาะช่วงหลังๆ มาไจ๋ไม่ค่อยให้ความร่วมมือในการปั่นกระแสคู่จิ้น แม้ผู้ใหญ่จะเรียกไปคุยหลายครั้งว่าให้ช่วยเซอร์จิ้นแฟนๆ บ้างเวลาไปออกงานอีเวนต์ แต่ไจ๋ก็ดูไม่ค่อยพอใจ ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลอะไร อาจเพราะไจ๋เป็นชายแท้ หรือไม่ก็คงเพราะไม่ชอบหน้าฮันล่ะมั้ง แต่มันก็เป็นเพียงแค่คำสันนิษฐานระหว่างชาวแก๊งอย่างกันต์ พี่ใหญ่ และฮัน ที่คิดกันเอาเองว่าสาเหตุที่ไจ๋มีพฤติกรรมแบบนี้มันเกิดจากอะไรได้บ้าง
“รียูเนียนไปเจอกับความประสาทแดกแน่ๆ” ฮันบ่นอุบ “ผมแยกแยะได้นะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวอะ คือถ้ามันจะไม่ชอบหน้าผม ผมก็ไม่ได้ติดอะไรเลย นอกเวลางานจะไม่คุย ไม่ยุ่งกัน อันนั้นผมรับได้ แต่เวลาทำงาน ไปออกอีเวนต์หรือไปไลฟ์ขายของอะไรแบบนั้นอะ ถ้าไจ๋มันจะไม่ให้ความร่วมมือ ไม่คุย ไม่เล่น ไม่มีโมเมนต์อะไรให้แฟนคลับหวีดบ้างเลย แล้วลูกค้าที่จ้างไปเขาจะรู้สึกแฮปปี้เหรอ เขาก็ต้องสงสัยแล้วไหมว่าทำไมน้องๆ ทั้งสองคนถึงไม่มืออาชีพเลยงี้”
“อ่า... พี่เข้าใจ”
“มีครั้งหนึ่งไปอีเวนต์งานเปิดตัวน้ำหอมอะ ลูกค้ามาบรีฟว่าขอหวานๆ สวีทๆ เพราะเป็นคอนเซปต์น้ำหอมของคู่รัก ลูกค้าเลยขอภาพคู่กันหน่อย ฟีลแฟนใดๆ สรุปนางไม่ยอมถ่าย จนลูกค้ามากระซิบถามพี่ใหญ่ว่า ไจ๋เป็นอะไร ทำไมดูไม่แฮปปี้กับการทำงานเลย สุดท้ายใครเสีย ก็ตัวมันเองนั่นแหละ แถมมันยังเสียมาถึงพี่ใหญ่กับผมด้วยไง เพราะลูกค้าเขามองภาพรวมอยู่แล้ว ไม่ได้มองเป็นรายบุคคลนี่” ฮันบ่นยืดยาวราวกับอัดอั้นตันใจมานานหลายวัน พอบ่นเสร็จก็ถอนหายใจยาวจนกันต์หลุดหัวเราะออกมาเบาๆ
“ใจเย็นๆ เดี๋ยวกินข้าวให้อิ่มก่อนละค่อยเม้ากันต่อละกันนะ” กันต์เอ่ยห้ามหรามเมื่อเห็นพนักงานเดินเอาอาหามาเสิร์ฟ นับว่าเป็นจังหวะที่ลงตัวแบบพอดีเป๊ะ เพราะมันทำให้ฮันที่กำลังหิวได้มีเวลาพักผ่อนจากการบ่นขึ้นมาได้บ้างเล็กน้อย พอสายตาของฮันหันมาเห็นอาหารบนโต๊ะ แม้ว่าจะยังไม่หายหัวเสียแต่เขาก็รู้สึกเบาลงมากทีเดียว