วงการซีรีส์วาย บันเทิงกว่าที่คิด... โดยเฉพาะเรื่องที่มันเกิดขึ้นหลังกล้องอะนะ

วายบันเทิง - บทที่ 45 ไปเชียงใหม่กันไหม โดย Run_Kantheephop @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ตลก,ชาย-ชาย,สะท้อนปัญหาสังคม,วัยว้าวุ่น,วายบันเทิง,วาย,นิยายวาย,แฉ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

วายบันเทิง

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ตลก,ชาย-ชาย,สะท้อนปัญหาสังคม,วัยว้าวุ่น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

วายบันเทิง,วาย,นิยายวาย,แฉ

รายละเอียด

วายบันเทิง โดย Run_Kantheephop @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

วงการซีรีส์วาย บันเทิงกว่าที่คิด... โดยเฉพาะเรื่องที่มันเกิดขึ้นหลังกล้องอะนะ

ผู้แต่ง

Run_Kantheephop

เรื่องย่อ

วายบันเทิง

The Gossip of BL

Run_Kantheephop

เรื่องแต่ง 99%  อีก 1% คือเค้าโครงจากเรื่องจริง

ขออนุญาตแก้ไขวันและเวลาในการอัพนิยายนะครับ เนื่องจากช่วงนี้มีภารกิจจากหน้าที่การงานเข้ามาจึงทำให้เขียนนิยายได้น้อยลงกว่าเดิม จากนี้ไปจะขออัพนิยายเพียงแค่สัปดาห์ละ 1 ตอนนะครับ (ทุกวันเสาร์ เวลา 18:00 น.)

ขอบคุณสำหรับทุกการติดตามครับ

********************************************************************************

มีทั้งหมด 5 เล่ม

E-Book วางจำหน่ายแล้ว บน MEB

สารบัญ

วายบันเทิง-Intro บทนำ,วายบันเทิง-บทที่ 1 เด็กบ้านนอกคนหนึ่ง,วายบันเทิง-บทที่ 2 ผลลัพธ์ที่ดี,วายบันเทิง-บทที่ 3 ทริปมิตรสัมพันธ์,วายบันเทิง-บทที่ 4 สังสรรค์หรือสงคราม,วายบันเทิง-บทที่ 5 ยังไงกันแน่,วายบันเทิง-บทที่ 6 แต่ความจริงคือ...,วายบันเทิง-บทที่ 7 ระมัดระวัง,วายบันเทิง-บทที่ 8 ข่าวลือ,วายบันเทิง-บทที่ 9 มันจริงมั้ย?,วายบันเทิง-บทที่ 10 คุยกันแล้วไม่ใช่เหรอ,วายบันเทิง-บทที่ 11 เคลียร์ใจ,วายบันเทิง-บทที่ 12 มีซัมติงไหม?,วายบันเทิง-บทที่ 13 นี่ว่าใช่ ไม่ได้มโน,วายบันเทิง-บทที่ 14 โดนกับตัว,วายบันเทิง-บทที่ 15 ไม่พอใจ,วายบันเทิง-บทที่ 16 ต้องเลือก,วายบันเทิง-บทที่ 17 เมามาย 1,วายบันเทิง-บทที่ 18 เมามาย 2,วายบันเทิง-บทที่ 19 ทำไมทำงี้!?,วายบันเทิง-บทที่ 20 โอกาสเดียว,วายบันเทิง-บทที่ 21 หมดความอดทน,วายบันเทิง-บทที่ 22 ไม่จบไม่สิ้น,วายบันเทิง-บทที่ 23 โดนปลด,วายบันเทิง-บทที่ 24 เกาะกระแส,วายบันเทิง-บทที่ 25 ข่าวล่ามาไว,วายบันเทิง-บทที่ 26 เพื่อนใหม่,วายบันเทิง-บทที่ 27 งงไปหมด,วายบันเทิง-บทที่ 28 คนใหม่?,วายบันเทิง-บทที่ 29 มันเอาอีกละ,วายบันเทิง-บทที่ 30 สามหนุ่มเปิดใจ,วายบันเทิง-บทที่ 31 ก้าวใหม่,วายบันเทิง-บทที่ 32 คลาสแอคติง,วายบันเทิง-บทที่ 33 ไปแคสติงกัน,วายบันเทิง-บทที่ 34 ช่วยมาคุมความประพฤติอีสันดานนี่ที,วายบันเทิง-บทที่ 35 ข่าวเก่าเล่าใหม่,วายบันเทิง-บทที่ 36 ไม่เป็นไร,วายบันเทิง-บทที่ 37 รียูเนียน?,วายบันเทิง-บทที่ 38 เลิฟซีนเป็นเหตุ,วายบันเทิง-บทที่ 39 นั่นปากเหรอ!?,วายบันเทิง-บทที่ 40 เอาแล้วหัวใจ,วายบันเทิง-บทที่ 41 ระยะปลอดภัย,วายบันเทิง-บทที่ 42 เรื่องของฮัน,วายบันเทิง-บทที่ 43 หัวใจเจ้ากรรม หวั่นไหวง่ายจัง,วายบันเทิง-บทที่ 44 แค่พี่น้อง?,วายบันเทิง-บทที่ 45 ไปเชียงใหม่กันไหม,วายบันเทิง-บทที่ 46 เริ่มเลย,วายบันเทิง-บทที่ 47 เริ่มเลย 2,วายบันเทิง-บทที่ 48 ยินดีต้อนรับ,วายบันเทิง-บทที่ 49 ม่อนแจ่ม,วายบันเทิง-บทที่ 50 ไปขึ้นเขากัน,วายบันเทิง-บทที่ 51 กิ่วแม่ปาน,วายบันเทิง-บทที่ 52 เบื่อจริงๆ ไอ้พวกปากแข็ง,วายบันเทิง-บทที่ 53 ขอสักหน่อย หายไปหลายคืน,วายบันเทิง-บทที่ 54 กลับไป ไม่กลับใจ,วายบันเทิง-บทที่ 55 ความพยายาม,วายบันเทิง-บทที่ 56 อดีตช่วยย้ำเตือน,วายบันเทิง-บทที่ 57 เริ่มต้นเปิดใจ,วายบันเทิง-บทที่ 58 บททดสอบ,วายบันเทิง-บทที่ 59 ความลับที่ฉันซ่อนไว้,วายบันเทิง-ตอนที่ 60 ตอนจบที่มีความสุข

เนื้อหา

บทที่ 45 ไปเชียงใหม่กันไหม

กันต์ขยับตัวเล็กน้อยหลังจากที่ตื่นนอนก่อนจะค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้น เมื่อคืนเขาไปเที่ยวกับแก๊งพี่ใหญ่และจบวันด้วยการเมาแอ๋อีกครั้ง เขาจึงตัดสินใจนอนค้างที่ห้องของฮัน ภาพสุดท้ายที่เขาจำได้อย่างเลือนลางคือเขาทิ้งตัวนอนลงบนโซฟา แต่เช้านี้พอตื่นมาเขากลับมานอนกอดฮันอยู่บนเตียงเสียอย่างนั้น แม้ว่าจะตกใจอยู่ไม่น้อยแต่เขาก็ขยับตัวออกอย่างแผ่วเบาเพราะกลัวว่าจะทำให้อีกฝ่ายตื่น

            “ตื่นละเหรอพี่” ฮันเอ่ยทักด้วยน้ำเสียงงัวเงียขณะที่กันต์กำลังจะก้าวลงจากเตียง

“อือ”

“เช้าจัด จะรีบไปไหน”

“วันนี้มีบินไปเชียงใหม่อะ”

“ฮะ? ไปกับใครอะ ไม่เห็นรู้เรื่อง”

“ไปกับพี่บุ๊คอะ นัดกันไว้ตั้งแต่เดือนที่แล้ว”

“อ่อ... ไม่เห็นชวนเลยนะ” คนน้องแกล้งพูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจ ทำเอารู้สึกผิดขึ้นมาในทันที

“เอ่า... กูจะไปรู้ไหม มึงก็ไม่ได้สนิทกับพี่บุ๊คเขาด้วยไง จะชวนไปด้วยกันก็ยังไงๆ อยู่” 

“ผมล้อเล่น! เดี๋ยวผมก็จะกลับบ้านต่างจังหวัดเหมือนกัน” 

“อ่อ เออ กูรีบไปอาบน้ำก่อน เดี๋ยวต้องกลับไปเอากระเป๋าเสื้อผ้าที่คอนโดอีก” กันต์พูดจบก็กระโดดลงจากเตียงแล้วรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำทันที

ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจากที่ปกติเขาจะเป็นคนที่ทำอะไรต๊ะต่อนยอนไปเสียหมด แต่วันนี้เหมือนกับกลายเป็นคนละคน เขาเร่งรีบทำทุกอย่างเสร็จภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ สาเหตุก็เพราะเขากลัวจะโดนพี่บุ๊คด่าหากว่าไปสาย

อุตส่าห์วางแผนทุกอย่างเอาไว้แล้วแท้ๆ แต่เมื่อคืนกลับอดรนทนต่อคำชวนให้ออกมากินเหล้าจากปากของฮันไม่ไหว วันนี้ก็เลยต้องมาเหนื่อยเร่งรีบให้ทุกอย่างทันเวลา

กันต์ตัดสินใจเรียกวินมอเตอร์ไซค์เพื่อตรงดิ่งกลับคอนโด ใช้เวลาเดินทาง 20 นาทีรวมกับการที่เขารวบเก็บเสื้อผ้าจากในตู้ลงกระเป๋า สกินแคร์ใดๆ ถูกโกยลงในกระเป๋าเดินทางแบบไม่ต้องเสียเวลาเลือก จากนั้นเขาก็รีบกดเปิดแอพลิเคชั่นเพื่อเรียกแท็กซี่ตรงไปสนามบินในทันที ซึ่งก็ยังนับว่าเป็นโชคดีของเขาที่ไม่ต้องรอรถนานมากนัก เพียงครู่เดียวรถที่กดเรียกก็มาจอดอยู่ที่หน้าคอนโด

“ขึ้นทางด่วนเลยพี่ รีบสุดๆ”

เขาเอ่ยบอกคนขับหลังจากที่ลากกระเป๋าขึ้นมาบนแท็กซี่ พี่คนขับก็ดูเหมือนจะเข้าใจพยักหน้ารับแล้วออกตัวในทันที แรกๆ ก็ทำความเร็วได้ไม่มากนักเพราะว่าถนนแถวคอนโดของเขาเป็นย่านชุมชนทำให้มีรถสัญจรเป็นจำนวนมาก ใจของกันต์เต้นตุ๊มๆ ต่อมๆ ด้วยกลัวว่าจะตกเครื่อง ถ้าเป็นแบบนั้นคงโดนพี่บุ๊คด่ายับกลายเป็นทริปที่หมดสนุกอย่างแน่นอน

แต่พอรถแท็กซี่ขึ้นมาทางด่วนได้พี่คนขับก็เหมือนกลายเป็นนักแข่งรถขึ้นมาเสียอย่างนั้น เหยียบคันเร่งมิดจนกันต์ถึงกับต้องหงายหลังจนตัวติดเบาะ ซึ่งแม้จะน่ากลัวแต่ก็ทำให้ผู้โดยสารอย่างเขาเริ่มเบาใจขึ้นมาได้บ้าง 

ไม่นานป้ายชื่อสนามบินตัวโตก็ปรากฏเด่นชัดให้กันต์ได้มองเห็น เขาก้มมองนาฬิกาบนหน้าจอมือถือก่อนจะถอนหายใจพรูยาวออกมาด้วยความโล่งใจ ไอ้ที่คิดเอาไว้ว่าจะไม่ทันสุดท้ายก็มาทันจนได้ เขากระชับมือเข้าจับที่กระเป๋าเดินทางเพื่อเตรียมตัวลงรถ โชคดีที่เลือกจ่ายเงินแบบตัดผ่านบัตรเครดิต ทำให้เขาไม่ต้องกังวลเรื่องจ่ายเงินตอนมาถึงปลายทาง

พอรถแท็กซี่จอดที่ด้านหน้าประตูทางเข้าอาคารผู้โดยสารขาออกภายในประเทศ เขาก็รีบเปิดประตูแล้วพุ่งลงจากรถทันทีโดยไม่ลืมที่จะกล่าวขอบคุณพี่คนขับรถที่พาเขามาถึงจุดหมายปลายทางได้อย่างทันเวลา

กันต์เดินลากกระเป๋าเข้าไปด้านในพลางกดโทรศัพท์ส่งข้อความไปหาพี่บุ๊คเพื่อนัดหมายจุดนัดพบ ซึ่งไม่นานอีกฝ่ายก็ตอบกลับมาว่าอยู่บริเวณเคาท์เตอร์เช็กอิน เขาจึงรีบเดินไปหาคนพี่ทันที

“ถึงนานยังพี่”

“เพิ่งถึงอะ”

“แล้วคนอื่นอะ” กันต์เอ่ยถามขึ้นเมื่อยังไม่เห็นใครอยู่ตรงนั้นนอกจากบุ๊ค

“นี่แหละที่จะบอก”

“อย่าบอกนะว่าเท”

“ไม่ได้เท แต่พวกมันติดงานด่วนกันอะ ก็เลยจะบินตามไปพรุ่งนี้”

“อ่อ... ตกใจ นึกว่าทริปนี้จะเหลือแค่เราสองคน”

“วันนี้ก็คงจะต้องอย่างนั้นแหละ” บุ๊คตอบก่อนจะลากกระเป๋าเข้าไปที่เคาท์เตอร์เช็กอิน กันต์เห็นแบบนั้นจึงรีบเดินตามหลังไปในทันที

แม้จะรู้สึกเสียดายนิดหน่อยที่พี่นุ่นกับพี่แคนไม่ได้บินไปพร้อมกันตั้งแต่ต้นทริป ไม่อย่างนั้นคงจะรู้สึกเฮฮามากกว่านี้ แต่ก็อาจจะเป็นโชคดีที่ทำให้เขากับพี่บุ๊คได้ใช้เวลากันสองต่อสองมากขึ้น ถึงจะพยายามพร่ำบอกตัวเองว่าให้อีกฝ่ายอยู่แค่ในสถานะพี่ชายเท่านั้น แต่พอได้มีโอกาสอยู่ใกล้ชิดกันทีไร หัวใจของเขาก็พาลจะเกรทุกที 

ก็แหม... อีกฝั่งตรงไทป์เขามากขนาดนี้ จากที่เคยจะไม่คิดอะไรเกินเลย แต่พอได้กันครั้งนั้น แม้จะตกลงสถานะกันเรียบร้อย แต่กันต์ก็ยังอดใจไม่ได้ทุกครั้ง 

ยิ่งได้เห็นพี่บุ๊คแต่งตัวสบายๆ ด้วยเสื้อฮาวายปลดกระดุมบนสองเม็ดเผยอกเนียนกับกางเกงขาสั้นโชว์ขาขาว ไหนจะรองเท้าผ้าใบกับถุงเท้าสีขาวข้อสั้นลายสนูปปี้นั่นอีก

วันนี้พี่บุ๊คน่ารักจังวะ...

“เอาบัตรประชาชนมาหน่อย” บุ๊คหันมาบอกกันต์ที่ยืนอยู่ด้านข้าง

กันต์สะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหยิบบัตรประชาชนในกระเป๋าเงินแล้วยื่นให้อีกฝ่าย จากนั้นก็ยืนรอพนักงานที่เคาท์เตอร์เช็กอินให้จนเสร็จสรรพ เขารับตั๋วเครื่องบินมาเก็บไว้ในกระเป๋าสะพายข้างก่อนจะเดินตามบุ๊คเข้าเกทไป

ทั้งสองคนเดินหาอะไรกินรองท้องระหว่างรอขึ้นเครื่อง เมื่อใกล้เวลาบอร์ดดิ้งก็พากันเดินไปนั่งรออยู่ที่หน้าเกท จำนวนคนที่เดินทางไปเชียงใหม่ไฟล์ทเช้ามีจำนวนปานกลาง ไม่ได้มากเหมือนที่เขาเคยบินก่อนหน้านี้ อาจเพราะไม่ใช่ช่วงฤดูท่องเที่ยวแถมยังเป็นวันธรรมดาที่คนส่วนใหญ่ทำงานกัน

ใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงเศษๆ กันต์และบุ๊คก็มาถึงสนามบินเชียงใหม่ สิ่งแรกที่พวกเขาทำหลังจากที่ออกจากสนามบินนั่นก็คือไปรับรถยนต์ที่บุ๊คติดต่อเช่าไว้ตั้งแต่ตอนอยู่ที่กรุงเทพ ซึ่งก็นับว่าเป็นเรื่องดี ทีแรกเขานึกว่าจะต้องใช้รถโดยสารสาธารณะด้วยซ้ำ ถ้าเป็นแบบนั้นวันๆ หนึ่งคงจะไปเที่ยวได้แค่ไม่กี่ที่ เวลาที่เหลือคงหมดไปกับการรอรถ แถมบางที่รถโดยสารสาธารณะก็ยังเข้าไม่ถึงอีกต่างหาก

“ร้อนฉิบหาย ใครบอกเชียงใหม่หนาวไง” กันต์บ่นอุบหลังโผล่พ้นประตูออกมาจากด้านในสนามบิน

“แกเอ๊ยยย จะมาคาดหวังอะไรกับฤดูหนาวในไทย” 

“ก็จริงอีก”

บุ๊คส่ายหัวให้กับคนน้องพลางยกกระเป๋าเดินทางทั้งของตัวเองและของกันต์ขึ้นท้ายรถ จากนั้นทั้งคู่ก็พากันวิ่งขึ้นรถหนีแดดจ้าที่กำลังจะเผาให้ผิวของพวกเขาคล้ำไหม้

เห้ออออ!!

บุ๊คถอนหายใจแรงพลางสตาร์ทรถแล้วเร่งพัดลมแอร์พร้อมปรับอุณหภูมิให้ต่ำลงเพราะต้องการสัมผัสความเย็นฉ่ำ ส่วนกันต์ก็หยิบขวดน้ำที่เพิ่งซื้อจากด้านในสนามบินออกมากินอึกใหญ่ อากาศเชียงใหม่ในวันนี้หากอยู่กลางแจ้งนานๆ อาจทำให้ตายได้

รถยนต์ของบุ๊คมุ่งตรงไปยังโรงแรมทันที กันต์ก็ยังไม่รู้หรอกว่าหน้าตาโรงแรมเป็นแบบไหนเพราะทุกอย่างให้คนพี่จัดการให้ทั้งหมด เขามีหน้าที่เพียงแค่จ่ายเงินในส่วนของตัวเองก็เท่านั้น สิ่งเดียวที่เขารู้เกี่ยวกับที่พักนั่นก็คือมันตั้งอยู่ไม่ไกลจากถนนคนเดินมากนัก

ไม่นานรถของพวกเขาก็ขับเข้ามาจอดที่หน้าโรงแรมซึ่งไม่ได้มีขนาดใหญ่อะไรแต่ก็ดูร่มรื่นและน่าพักไม่น้อย ทั้งสองคนลงจากรถแล้วลากกระเป๋าเข้าไปด้านใน พอจัดการเรื่องเช็กอินอะไรเรียบร้อย พวกเขาก็พากันเดินขึ้นชั้นของโรงแรมซึ่งเป็นชั้นบนสุดแล้วมุ่งตรงไปยังฝั่งซ้ายสุดเพื่อไปยังห้องพักของตัวเอง

ห้องพักของกันต์อยู่ซ้ายสุด ถัดมาคือห้องของพี่บุ๊ค และถัดไปอีกห้องเป็นห้องของพี่นุ่นและพี่แคน ความพิเศษอยู่ตรงที่ห้องของพี่บุ๊คกับห้องของเพื่อนๆ มีประตูที่สามารถเชื่อมต่อกันได้ มีเพียงแค่ห้องของกันต์เท่านั้นที่อยู่อย่างสันโดษ ไม่มีประตูเชื่อม

“ว่างๆ แกมานั่งเล่นห้องพี่ได้ มันเชื่อมกับห้องอีนุ่น เผื่อเหงามานั่งเมาท์มอยใดๆ” บุ๊คเอ่ยบอกหลังจากที่กันต์เอากระเป๋าเดินทางเข้าไปเก็บในห้องพักแล้วเดินมาหาเขาที่ห้องพักข้างๆ

“ได้พี่ แล้วทำไมถึงเลือกห้องที่ไม่มีประตูเชื่อมให้กันต์อะ”

“ก็แกจะได้รู้สึกส่วนตัวหน่อยไง พี่กับเพื่อนสนิทกันมาเป็นสิบปี อยู่ด้วยกันจนชินแล้ว ของแกเพิ่งทริปแรก กลัวจะไม่ส่วนตัว ก็เลยเลือกแบบนี้ให้”

“อ่อ”

พอได้ฟังคำอธิบายจากปากของพี่บุ๊คก็ทำให้เขาเข้าใจได้ไม่ยาก แม้ว่าก่อนหน้านี้จะแอบน้อยใจด้วยความคิดมากไปเล็กน้อยว่าอีกฝ่ายอาจจะไม่อยากให้เข้าไปรุ่มร่ามในพื้นที่ส่วนตัว แต่อันที่จริงเขากลับเป็นห่วงความเป็นส่วนตัวของกันต์เสียมากกว่า ทำเอาสิ่งที่เขาแอบคิดลบพลันหายไปทั้งหมด กลายเป็นความอบอุ่นหัวใจขึ้นมาแทน

แล้วแบบนี้จะทำให้เขาเลิกใจเกเรได้ยังไงกันล่ะ...

“แกจะพักงีบก่อนไหม หรือจะออกไปหาอะไรกิน”

“หิว...”

“หิวข้าว?”

“พี่อย่ามาชงแบบนี้นะ!” 

กันต์บ่นทันทีเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายชงมุกมาด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ ยิ่งอยู่กันสองต่อสองแบบนี้แล้วด้วย ในหัวของเขามีแต่เรื่องอย่างว่าเต็มไปหมด แต่ดูเหมือนคนพี่จะถูกอกถูกใจไม่ใช่น้อยที่ทำให้คนน้องเสียอาการได้ 

บุ๊คหลุดขำออกมานิดหน่อยหลังจากได้เห็นท่าทีของกันต์ เขารู้ดีว่าอีกฝ่ายพ่ายแพ้ต่อเรื่องอะไรแบบนี้มาก เพียงแค่สะกิดนิดเดียวกันต์ก็พร้อมที่จะเริ่มกิจกรรมในทันที

“เร็วๆ จะกินหรือจะนอน” บุ๊คถามย้ำ

“ออกไปหาไรกินละกัน มาถึงนี่ทั้งที ออกไปตะลอนน่าจะดีกว่าเสียเวลามางีบ ไว้ค่อยนอนทีเดียวตอนกลางคืน”

“มั่นใจเหรอว่าจะได้นอน”

“หื้ม? แปลกๆ ละ” กันต์หันขวับทันทีที่ได้ยินคำพูดจากคนพี่ ไม่รู้ว่าเขาคิดมากไปเองคนเดียวหรือเปล่า แต่ความหมายในรูปประโยคนั้นดูมีนัยยะบางอย่างแฝงอยู่ 

“หมายถึงเผื่อไปเที่ยวร้านเหล้าใดๆ” บุ๊ครีบแก้ตัวทันที 

“แต่พี่ไม่กินเหล้า...”

“ก็เผื่อแกกินไง พี่ไปนั่งชิลเอาบรรยากาศ”

“อ่อๆๆ เข้าใจได้”

“สรุปจะไปกินข้าวได้ยัง” 

“เออ ไปเอากระเป๋าแป๊บ”

กันต์แอบอมยิ้มขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายมีอาการเลิ่กลั่กขึ้นมานิดหน่อยตอนที่พูดถึงเรื่องคืนนี้แบบสองแง่สองง่าม เอาเข้าจริงทั้งคู่ต่างก็รู้กันดีว่าต่างฝ่ายต่างรู้สึกต่อกันอย่างไร แม้จะกำหนดสถานะไว้ว่าเป็นเพียงแค่พี่น้อง แต่มันก็เป็นพี่น้องจำพวกที่ท้องติดกันได้ยามที่ไฟแห่งราคะมันปะทุขึ้นมานั่นแหละ