วงการซีรีส์วาย บันเทิงกว่าที่คิด... โดยเฉพาะเรื่องที่มันเกิดขึ้นหลังกล้องอะนะ
รัก,ตลก,ชาย-ชาย,สะท้อนปัญหาสังคม,วัยว้าวุ่น,วายบันเทิง,วาย,นิยายวาย,แฉ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
วายบันเทิงวงการซีรีส์วาย บันเทิงกว่าที่คิด... โดยเฉพาะเรื่องที่มันเกิดขึ้นหลังกล้องอะนะ
วายบันเทิง
The Gossip of BL
Run_Kantheephop
เรื่องแต่ง 99% อีก 1% คือเค้าโครงจากเรื่องจริง
ขออนุญาตแก้ไขวันและเวลาในการอัพนิยายนะครับ เนื่องจากช่วงนี้มีภารกิจจากหน้าที่การงานเข้ามาจึงทำให้เขียนนิยายได้น้อยลงกว่าเดิม จากนี้ไปจะขออัพนิยายเพียงแค่สัปดาห์ละ 1 ตอนนะครับ (ทุกวันเสาร์ เวลา 18:00 น.)
ขอบคุณสำหรับทุกการติดตามครับ
********************************************************************************
มีทั้งหมด 5 เล่ม
E-Book วางจำหน่ายแล้ว บน MEB
เสียงดนตรีพื้นเมืองของเชียงใหม่ดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ในขณะที่สองหนุ่มกำลังมุ่งหน้าไปยังถนนคนเดิน กันต์บ่นตั้งแต่บ่ายว่าอยากจะมา แต่พอไปตะลอนมาทั่วเชียงใหม่ทั้งวัน ความอ่อนล้าก็เกือบจะทำให้เขาล้มเลิกความตั้งใจไปเหมือนกัน ดีที่พี่บุ๊คเอ่ยปากบอกว่าขอกลับไปงีบที่โรงแรมตอนช่วงบ่ายสี่โมงกว่า เพราะทนความร้อนจากแดดไม่ไหว เขาจึงมีโอกาสได้งีบเอาแรงบ้างเหมือนกัน
พอตกเย็นเขาก็สะดุ้งตื่นเพราะได้ยินเสียงเคาะประตูปลุกจากคนพี่ แม้จะงัวเงียแต่เขาก็รีบตื่นในทันที มองนาฬิกาเพื่อเช็กเวลาก็แอบตกใจเล็กน้อยที่ตอนนี้เป็นเวลาหกโมงเย็นแล้ว ไอ้ที่คิดว่าจะงีบแค่พักเดียวกลายเป็นพากันหลับไปนานโข
ทั้งสองคนเดินมาตามเส้นถนนจนมาถึงด้านหน้าของตลาด ผู้คนทั้งไทยและต่างชาติเดินกันขวักไขว่จนน่าเวียนหัว แม้กันต์จะตั้งใจมาเดินที่นี่ก็ตาม แต่จำนวนคนที่มาเที่ยวถนนคนเดินก็ทำเอาเขาชักอยากจะกลับไปนอนเล่นอยู่ที่ห้อง
“คนเยอะจัด” กันต์บ่นออกมาเล็กน้อย
“ก็ปกติปะ”
“ไม่นึกว่าจะเยอะไง ตอนเราบินมาบนไฟล์ทก็คนไม่ได้เยอะปะ”
“เชียงใหม่มันมีบินไฟล์ทเดียวมั้ง”
กันต์ถึงกับหันขวับไปมองหน้าบุ๊คตาขวางเมื่อได้ยินคำพูดประชดประชันจากอีกฝ่าย เขาก็ยอมรับแหละว่าตอนที่พูดไม่ได้นึกถึงหลักเหตุผลของความเป็นจริงด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่พี่บุ๊คพูดมันก็เป็นเรื่องจริงทั้งหมด บางครั้งเขาก็สับสนในตรรกะของตัวเองอยู่บ่อยๆ เหมือนกัน
“หิวยัง” บุ๊คเอ่ยถามขึ้นระหว่างที่เดินเข้ามาในบริเวณด้านในของถนนคนเดิน
“หิวดิพี่ แต่ไม่รู้จะกินไร”
“ก็เดินดูไปก่อนไหม พี่ว่าจะซื้อของกินจุบจิบเนี่ยแหละ จะได้เดินกินได้”
“ได้นะ”
พอตกลงกันได้ทั้งสองคนก็พากันเดินตรงไปยังโซนอาหารทันที เมนูแปลกตาที่พวกเขาไม่เคยเห็นมีอยู่หลากหลายร้าน คงเป็นอาหารเหนือที่ไม่คุ้นเคยแต่บุ๊คกับกันต์ก็ไม่ได้มีท่าทีปฏิเสธแต่อย่างใด โดยเฉพาะกันต์ที่แวะเกือบทุกร้าน เขาอยากจะชิมทุกอย่างที่เขาไม่เคยลองมาก่อน ซึ่งบุ๊คก็ไม่ได้ห้ามอะไร ยินดีที่จะลองชิมไปกับน้องแถมยังออกเงินค่าอาหารให้ทุกร้านอีกต่างหาก
ลมเย็นพัดโชยมาตลอดเวลาที่พวกเขาเดินเล่นอยู่ที่นั่น เสียงเพลงเมืองเหนือและเสียงผู้คนที่พูดคุยจอแจดังอยู่รอบตัวพวกเขา คาดคะเนจากสายตาส่วนใหญ่ก็มีแต่นักท่องเที่ยวทั้งนั้น ถามว่าเขารู้สึกเพลิดเพลินกับการมาเดินเล่นที่ถนนคนเดินแห่งนี้ไหม คำตอบก็คือใช่ เพราะได้ลองกินอาหารอะไรใหม่ๆ ที่อร่อยเยอะแยะไปหมด แต่ถามว่าชอบบรรยากาศไหมก็ไม่ อากาศที่ว่าเย็นสบายพอมาอยู่ในสถานที่ที่แออัดไปด้วยผู้คนมันก็ร้อนขึ้นมาเสียอย่างนั้น
“กลับเหอะ” กันต์หันไปบอกบุ๊คที่กำลังยืนซื้อน้ำผลไม้ปั่นหลังจากที่เดินกินนู่นนี่มาตลอดทาง
“ทำไมอะ”
“ร้อนอ่า... ไม่อยากเดินแล้ว”
“เคๆ งั้นเดี๋ยวแวะซื้อหอยทอดร้านตรงหัวมุมนั่นก่อน จะสั่งกลับไปโรงแรม เผื่อดึกๆ หิว”
“ได้พี่”
สิ้นบทสนทนาบุ๊ครับน้ำผลไม้ปั่นที่สั่งเอาไว้มาดื่มแล้วพาคนน้องที่หน้าบูดเป็นตูดเด็กเดินไปยังร้านหอยทอดดังกล่าวก่อนจะรีบจัดการสั่งซื้อให้เสร็จสรรพ แม้จะต้องยืนรออีกพักใหญ่แต่กันต์ก็ไม่ได้บ่นอะไรเพิ่ม
กว่าจะได้กลับไปที่โรงแรมก็ใช้เวลาผ่านไปอีกนานโข เพราะหลังจากที่พวกเขาซื้อหอยทอดกันเสร็จก็พากันเดินทอดน่องต่อเล็กน้อยระหว่างทางที่เดินกลับโรงแรม พวกเขาแวะถ่ายรูปตามรายทางซึ่งนั่นดูเหมือนจะทำให้กันต์ดูจะอารมณ์ดีขึ้นได้มากกว่าเดิม เพราะไม่ต้องทนอึดอัดกับคนเยอะๆ ในตลาดเหมือนก่อนหน้านี้
ความเงียบงันในตอนดึกและลมเย็นๆ พัดผ่านไปมาตลอดเวลาสร้างบรรยากาศที่ดีให้พวกเขาทั้งสองคน ระหว่างที่พวกเขาถ่ายรูปให้กันและกัน ความรู้สึกบางอย่างภายในใจของทั้งคู่เริ่มก่อตัวขึ้นอีกครั้ง กันต์รู้ดีว่าไม่ควรแต่มันก็ห้ามไม่ได้จริงๆ เขาพยายามอย่างยิ่งที่จะข่มจิตข่มใจ แต่ความน่ารักของบุ๊คก็ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะหวั่นไหว ฝ่ายบุ๊คเองก็อดรนทนไม่ไหวต่อสายตายั่วเสน่ห์ของคนน้องเหมือนกัน
ทั้งสองคนไม่ได้พ่นคำสนทนาใดออกมาอีกนอกเสียจากการจ้องมองดวงตาของกันและกันไปมาอย่างนั้นตลอดระยะเวลาที่สลับกันถ่ายรูปเพื่อเก็บเอาไว้ลงในอินสตาแกรม
“แกลองเช็กรูปดูว่าได้ไหม” บุ๊คยื่นมือถือให้กันต์
“ได้อยู่ละ ปกติพี่ถ่ายรูปสวยจะตาย”
“เอาดีๆ”
“พูดจริง”
“งั้นกลับโรงแรมกันไหม ร้อนเกิน อยากตากแอร์เย็นๆ” บุ๊คบ่นพลางยกมือข้างหนึ่งเช็ดเหงื่อที่ไหลเป็นเม็ดอยู่บริเวณลำคอขาว
สายตาของกันต์จดจ้องแบบไม่กะพริบตา เขาเผลอกลืนน้ำลายแบบไม่รู้ตัว ความยั่วยวนของบุ๊คแบบที่เจ้าตัวก็ไม่ได้ตั้งใจทำเอาคนที่กำลังมองต้องกลืนน้ำลายอึกใหญ่เพราะรู้สึกกระหายขึ้นมาเสียอย่างนั้น
“ไปได้แล้ว ยืนมองอยู่นั่นแหละ” บุ๊คสะกิดเข้าที่ไหล่ของกันต์เบาๆ เพื่อเรียกสติ
คนโดนทักสะบัดหัวเล็กน้อยเพื่อไล่ความคิดสกปรกออกไปจากหัวแล้วรีบเดินตามหลังคนตัวสูงไปในทันที
บานประตูห้องพักของบุ๊คเปิดออกก่อนที่คนทั้งคู่จะเดินตามกันเข้าไป ทีแรกกันต์บอกว่าจะขอกลับไปนั่งเล่นอยู่ที่ห้องของตัวเอง แต่เพราะบุ๊คเป็นคนบอกว่าให้มานั่งเล่นด้วยกันที่ห้องของเขาก่อน กันต์จึงยอมตามมาแต่โดยดี
“เหนียวตัวมากเลยอะ ขออาบน้ำแป๊บ” บุ๊คบอกพลางหยิบผ้าขนหนูมาพาดบ่าก่อนจะหยิบรีโมททีวีขึ้นมากดเปิดแล้วยื่นให้กันต์
“หื้ม?”
“เผื่อจะนั่งดูแก้เบื่อ”
“โห่พี่! กันต์ดูติ๊กตอกยังสนุกกว่าดูทีวีอีกมั้ง” กันต์เอ่ยพูดพลางแค่นหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะปล่อยให้คนพี่เดินเข้าห้องน้ำไป
แม้จะรู้ตั้งแต่ตอนมาเช็คอินว่าห้องน้ำมันเป็นกระจกฝ้าแบบขุ่น พอจะเห็นเงาของคนลางๆ เวลาเข้าใช้ แต่กันต์ก็ไม่ได้นึกเอะใจอะไรจนกระทั่งตอนนี้ พอบุ๊คเดินเข้าไปด้านในห้องน้ำ เปิดไฟปุ๊บ เงาตะครุ่มๆ ของบุ๊คก็เด่นชัดขึ้นทันที
ตึกๆ ตึกๆ
หัวใจของกันต์จากที่นิ่งเงียบก็กำลังเต้นแรงขึ้น สายตาจดจ้องอยู่ที่เงาดำที่ปรากฏอยู่ภายในห้องน้ำนั้น แม้ว่าจะไม่ได้เห็นรายละเอียดร่างกายทั้งหมดแบบชัดเจน แต่ไอ้เงาดำๆ แบบนี้นั่นแหละยิ่งทำให้เกิดความตื่นเต้นไม่น้อย ทำเอาคนมองจินตนาการไปไหนต่อไหนได้ดีทีเดียว
“ฉิบหายละกู...” กันต์บ่นเบาๆ กับตัวเองก่อนจะถอนหายใจยาวพรูออกมาแล้วหันไปสนใจหน้าจอมือถือที่กำลังเล่นคลิปในติ๊กตอกแทน
แต่สายตาเจ้ากรรมของเขาก็ไม่ได้เชื่อฟังความคิดนัก ยังคงเหลือบมองเป็นระยะ โดยเฉพาะเวลาที่บุ๊คกำลังปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกจากร่างกายยิ่งทำให้กันต์รู้สึกว่าอะไรบางอย่างข้างในตัวเริ่มปะทุมากขึ้นทุกที ภาพตรงหน้ามันยั่วเย้ากามารมณ์เขามากเป็นพิเศษ ไอ้ตรงนั้นที่ว่านอนหลับนิ่งอยู่ก็ค่อยๆ ตื่นตัวมากขึ้นเรื่อยๆ จนเขาต้องพยายามเบี่ยงเบนความสนใจจากคนที่อยู่ในห้องน้ำนั้น
เสียงฝักบัวในห้องน้ำยังคงทำให้เขาเสียสมาธิ กันต์ตัดสินใจหยิบรีโมทขึ้นมากดเพิ่มเสียงทีวีหวังให้กลบเสียงน้ำ แต่ก็อย่างว่า ใจมันรู้ทั้งรู้ก็เลยทำให้เขาลอบแอบมองอยู่บ่อยๆ
“โว้ยยย!!!” กันต์ยีหัวตัวเองรัวๆ เมื่อหัวใจมันยังคงเต้นแรงอยู่แบบนั้น รวมไปถึงน้องชายของเขาก็ดันตื่นตัวเต็มที่เสียแล้ว เขาตัดสินใจทิ้งตัวลงนอนบนเตียงแล้วดึงผ้าห่มมาคลุมโปงเอาไว้ ก่อนเปิดติ๊กตอกดูข่มจิตข่มใจ เผื่อว่ามันจะเพลินแล้วหลับๆ ไป ไม่ต้องแอบมองบุ๊คอาบน้ำในห้องน้ำอีก
ดูเหมือนว่าจะได้ผลอยู่นิดหน่อย พอจะทำให้กันต์ได้เพลิดเพลินขึ้นมาบ้าง คลิปตลกเหล่านั้นสามารถดึงความสนใจของกันต์ได้ไม่น้อย เขาไม่ทันได้สังเกตด้วยซ้ำว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน จนกระทั่ง...
“กันต์....” เสียงเรียกของบุ๊คเอ่ยทักขึ้นพร้อมกับฝ่ามือที่สัมผัสลงมาที่ด้านนอกของผ้าห่มที่กันต์ใช้คลุมตัวอยู่ก่อนที่คนพี่จะออกแรงเขย่าเบาๆ
“เสร็จแล้วอ่อ” กันต์เปิดผ้าห่มที่ปิดบังใบหน้าของตัวเองออกก่อนจะพบว่าใบหน้าของบุ๊คอยู่ใกล้กว่าที่คิด
“หลับเหรอ” บุ๊คถามเสียงนุ่ม ใบหน้าที่ยื่นเข้ามาใกล้ทำเอาอีกฝ่ายได้ยินเสียงลมหายใจเบาๆ
“ปะ..เปล่า... ดูติ๊กตอกอะพี่” เสียงตอบตะกุกตะกักเล็กน้อยเพราะสายตาของกันต์ดันไปโฟกัสอยู่กับผิวขาวผ่องของบุ๊คที่กำลังเปิดเผยให้เขาเห็นอยู่เต็มตา
กล้ามหน้าท้องเป็นลอนบางของพี่บุ๊คนั้นปลุกอารมณ์เขาได้ดีชะมัด...
“อ่อ นึกว่าหนีหลับ” คนพี่เอ่ยแซว
“ทำไมอะ”
“ก็..เปล่า...”
“แปลกๆ” กันต์หรี่ตามองคนตรงหน้า ท่าทีแบบนี้มันดูไม่ปกติเอาเสียเลย
“ลุกไปอาบน้ำไป มานอนเตียงกูแบบนี้ เตียงกูเลอะหมดละ” บุ๊คแกล้งบ่นพึมพำก่อนจะเดินเปลือยท่อนบนไปที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งเพื่อทาครีมบำรุง คนโดนบ่นลอบมองอีกแวบหนึ่งก่อนจะตัดสินใจลุกเดินเข้าห้องน้ำไป
มือขวากดเปิดเพลงจากยูทูปจนเสียงเพลงดังผ่านโทรศัพท์มือถือออกมาลั่นห้องน้ำ กันต์วางมันไว้ใกล้ๆ อ่างล้างหน้าก่อนจะถอดเสื้อผ้าออกจนไร้ซึ่งสิ่งใดปกปิดร่างกาย
แกร๊ก!
“เชี่ยยย!!” กันต์หันขวับทันทีเมื่อบานประตูห้องน้ำเปิดออก ก่อนจะพบว่าบุ๊คยืนอยู่ตรงนั้น เขาลืมไปเสียสนิทว่าห้องน้ำที่นี่มันไม่มีกลอนประตูให้ล็อก
“...”
“พี่!! เข้ามาทำไมเนี่ย”
“...”
บุ๊คยังคงนิ่งเงียบไม่ตอบอะไรออกมา คนตัวสูงก้าวเท้าเดินเข้าไปหากันต์ทันที จากนั้นก็ไม่ได้พูดพร่ำทำเพลงอะไรอีก คนตัวสูงกว่าผลักกันต์ไปจนชิดผนังห้องน้ำแล้วประกบจูบในทันที
“เดะ... เดี๋ยวพี่” คนน้องดันอกบุ๊คให้ออกห่าง เขาอดตกใจไม่ได้ แม้ว่าที่ผ่านมาเขากับพี่บุ๊คจะเคยมีประสบกามร่วมกันมาก่อน แต่ก็ตกลงว่าจะเป็นพี่น้องกันไปแล้ว พอวันนี้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาอีก เขาก็เลยรับมือไม่ทันนิดหน่อย ทั้งที่พยายามจะห้ามจิตห้ามใจตัวเองแต่อีกฝ่ายกลับมาเสนอให้กันขนาดนี้
“ทำไม...”
“พี่จะทำไร”
“โห... พี่ทำขนาดนี้ แกยังจะถามอีกเหรอ”
“ไม่... คือผมรู้ แต่.. หมายถึง... เรายังทำแบบนั้นได้อยู่เหรอพี่... เราเป็นพี่น้องกันไม่ใช่เหรอ” กันต์เอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากจะมีอะไรกับพี่บุ๊ค แต่เขาแค่ไม่แน่ใจว่าสิ่งพวกเขากำลังทำอยู่มันถูกไหม
“ทำไมอะ ก็เป็นพี่น้องแบบที่ทำอย่างงี้ได้ไง”
บุ๊คพูดจบก็กดจูบลงไปบนริมฝีปากของกันต์อีกครั้ง เพียงแต่ว่าคราวนี้อีกฝ่ายไม่ได้ต่อต้านอีกแล้ว กันต์ตอบรับสัมผัสนั้นอย่างเร่าร้อน ปลายลิ้นของทั้งคู่แลกเปลี่ยนกันไปมาในโพรงปาก แขนทั้งสองข้างของกันต์โอบขึ้นคล้องลำตัวคนตัวสูงแล้วลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังนั้น
เสียงเพลงที่เคยดังก้องในห้องน้ำ บัดนี้คนตัวเล็กไม่ได้ยินมันเสียแล้ว เพราะเขาเอาแต่จดจ่ออยู่กับกิจกรรมตรงหน้า เขาดันอกบุ๊คให้ออกห่างเล็กน้อยเมื่อเริ่มรู้สึกหายใจไม่ทัน เขาแอบเห็นว่าคนพี่ลอบยิ้มมุมปากนิดหนึ่งก่อนจะจูงมือพาเขาเดินไปยังบริเวณอ่างล่างหน้าแล้วช้อนตัวเขาให้ขึ้นไปนั่งอยู่บนนั้น
“อุ้ย!” กันต์สะดุ้งเล็กน้อยเมื่อผิวหนังของเขาสัมผัสโดนความเย็นบริเวณขอบอ่างทำเอาบุ๊คหลุดขำออกมาเบาๆ
“เย็นอ่อ”
“อื้อ”
กันต์ยู่ปากเล็กน้อยเชิงอ้อน ทำเอาบุ๊คทนไม่ไหวจุ๊บปากไปอีกครั้งก่อนจะจับขาทั้งสองข้างของกันต์ให้กว้างออกแล้วแทรกตัวเองเข้าไป มือบางของกันต์สัมผัสเข้าที่หน้าท้องและหน้าอกของบุ๊คพลางลูบไล้เล็กน้อยก่อนจะเคลื่อนมือลงไปยังส่วนนั้นของคนพี่แล้วกอบกุมเอาไว้อย่างเบามือ
บุ๊คยื่นหน้าเข้ามาใกล้พลางกระซิบที่ข้างหูกันต์ด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ที่ฟังดูก็รู้ว่ากำลังต้องการขนาดไหน “ขอทำนะวันนี้”
“หื้ม?” กันต์ร้องอุทานออกมาอย่างประหลาดใจ
“ไม่ได้เหรอ” แววตาและน้ำเสียงออดอ้อนแบบนั้นทำเอากันต์ไปไม่เป็นเหมือนกัน
“ก็ถ้าพี่ขอแบบนี้ กันต์จะไม่ให้ได้ยังไงอะ”
สิ้นเสียงอนุญาตจากคนน้อง บุ๊คก็เริ่มประพรมจูบนั้นลงไปบริเวณลำคอของอีกฝ่ายทันที ยามที่ลิ้นอุ่นสัมผัสเข้าที่ผิวหนังของกันต์ เจ้าตัวก็เผลอฮึมฮัมในลำคออย่างพอใจ
“อืม...”
บุ๊คได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งได้ใจ เพราะรู้แล้วว่าในเวลานี้กันต์ปล่อยตัวปล่อยใจเป็นอิสระอย่างเต็มที่ ให้อารมณ์เป็นตัวนำพา ไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็คงไม่มีติดขัดอีกแล้ว
คนพี่เคลื่อนใบหน้ามากดจูบลงไปบนริมฝีปากของกันต์อีกครั้ง คราวนี้กันต์ตอบรับอย่างเร่าร้อน สองมือคล้องคอบุ๊คเอาไว้แน่น ราวกับว่าไม่อยากจะให้อีกคนถอยห่างออกไป
เสียงจูบดังอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่บุ๊คจะผละริมฝีปากแล้วถอยใบหน้าออกห่างมานิดหน่อย พลางมองหน้ากันต์ สายตายั่วยวนของคนน้องนั้นช่างเย้ายวนกามารมณ์ของเขาได้เป็นอย่างดี แต่ถึงแม้ว่าในเวลานี้ส่วนนั้นของเขาจะพร้อมใช้งานมากแค่ไหนก็ตาม เขาก็ยังไม่อยากจะเริ่มกิจกรรมอย่างว่ามันในตอนนี้ เพราะมันเป็นเวลาของการเล้าโลมและยั่วล้อไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกายคนน้องให้ได้มากที่สุดเสียก่อน
แบบนี้แหละมันถึงจะเรียกความกระสันได้เป็นอย่างดี ดียิ่งกว่าการเริ่มต้นแล้วสอดใส่ในทันทีด้วยซ้ำ...
บุ๊คก้มหน้าลงไปครอบริมฝีปากบนยอดอกของคนตรงหน้าก่อนจะใช้ลิ้นโลมเลียอยู่แบบนั้นนานสองนาน
อ๊ะ!...
ยามที่ปลายลิ้นอุ่นสะกิดเข้าที่ยอดอกสีชมพูก็ทำให้กันต์เป็นอันต้องสะดุ้งและแอ่นอกรับทุกครั้งไปด้วยความเสียวกระสันที่เกิดขึ้น
“อื้อออ”
สองมือบางของกันต์เผลอขยุ้มกลุ่มผมของคนพี่แน่น สองขาเกี่ยวกระหวัดโอบร่างกายของคนตรงหน้าเอาไว้ เมื่ออีกฝ่ายรัวลิ้นร้อนอย่างไม่ใยดี ทำเอาความเสียวซ่านแผ่ไปทั่วทั้งร่างกายของเขา เขาเงยหน้าขึ้นมองเพดานก่อนจะเผลอกัดปากตัวเองเล็กน้อยเพราะไม่อยากที่จะส่งเสียงครางร้องออกไป ดูเหมือนว่ายิ่งเขาครางมากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้พี่บุ๊คกระทำรุนแรงต่อร่างกายเขามากเท่านั้น
ไม่ใช่ไม่ชอบ แต่กลัวว่าตัวเองจะทนความเสียวไม่ไหวเสียมากกว่า...
บุ๊คขยับตัวเล็กน้อยพลางผละใบหน้าออกมาจากบริเวณหน้าอก กันต์จึงปล่อยแขนขาที่โอบรัดอีกฝ่ายออก คนพี่หย่อนตัวลงนั่งคุกเข่ากับพื้นเป็นสัญญาณให้คนน้องรู้ดีว่าอีกฝ่ายกำลังจะทำอะไร กันขยับขาทั้งสองข้างให้ออกห่างมากกว่าเดิมเพื่อให้อีกฝ่ายกระทำได้สะดวกมากขึ้น
“อ๊ะ!”
กันต์สะดุ้งเล็กน้อยเมื่อมือหนาสัมผัสไปยังจุดอ่อนไหวของเขาที่กำลังตั้งชูชันสู้มือ คนพี่ยกยิ้มให้เล็กน้อยก่อนจะขยับฝ่ามือขึ้นลงสองสามครั้งแล้วหยุดนิ่ง
“ทะ... ทำต่อสิครับ” กันต์เอ่ยบอกเสียงกระเส่า
บุ๊คยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ “ขอร้องพี่สิ”
“ช่วยกันต์หน่อยนะครับพี่บุ๊ค~”
“เก่งมากครับ”