วงการซีรีส์วาย บันเทิงกว่าที่คิด... โดยเฉพาะเรื่องที่มันเกิดขึ้นหลังกล้องอะนะ
รัก,ตลก,ชาย-ชาย,สะท้อนปัญหาสังคม,วัยว้าวุ่น,วายบันเทิง,วาย,นิยายวาย,แฉ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
วายบันเทิงวงการซีรีส์วาย บันเทิงกว่าที่คิด... โดยเฉพาะเรื่องที่มันเกิดขึ้นหลังกล้องอะนะ
วายบันเทิง
The Gossip of BL
Run_Kantheephop
เรื่องแต่ง 99% อีก 1% คือเค้าโครงจากเรื่องจริง
ขออนุญาตแก้ไขวันและเวลาในการอัพนิยายนะครับ เนื่องจากช่วงนี้มีภารกิจจากหน้าที่การงานเข้ามาจึงทำให้เขียนนิยายได้น้อยลงกว่าเดิม จากนี้ไปจะขออัพนิยายเพียงแค่สัปดาห์ละ 1 ตอนนะครับ (ทุกวันเสาร์ เวลา 18:00 น.)
ขอบคุณสำหรับทุกการติดตามครับ
********************************************************************************
มีทั้งหมด 5 เล่ม
E-Book วางจำหน่ายแล้ว บน MEB
ทุกคนมาถึงที่พักบนม่อนแจ่มที่บุ๊คเป็นคนติดต่อจองไว้ สถานที่พักเป็นสไตล์โดมใสที่มองเห็นวิวภายนอกได้อย่างชัดเจน ตอนแรกกันต์ก็แอบคิดว่าดูไม่ค่อยจะเป็นส่วนตัวสักเท่าไหร่ โชคดีที่มีผ้าม่านติดเอาไว้ให้รูดปิดเวลาที่อยากได้ความส่วนตัว ข้อเสียอีกอย่างที่สต๊าฟของที่พักบอกไว้ก็คือช่วงกลางวันค่อนข้างที่จะร้อนนิดหน่อย แต่ทางที่พักก็มีแอร์ตู้ขนาดพอดีกับไซส์ห้องให้เปิดเพื่อคลายความอบอ้าวได้บ้าง ต่างกับตอนกลางคืนที่อากาศเย็นจัด อุณหภูมิเหลือแค่เลขเพียงตัวเดียวเท่านั้น
“ผมขอนอนริมนี้ละกัน”
“งั้นพี่กับนังแคนขอนอนฝั่งนี้ มันใกล้แอร์”
“เคครับ”
กันต์เลือกที่นอนที่อยู่ริมซ้ายสุดของโดมเพราะเขามักจะชอบลุกไปเข้าห้องน้ำกลางดึกบ่อยๆ จึงไม่อยากให้รบกวนคนอื่น ส่วนแคนกับนุ่นเลือกนอนทางขวาสุดของโดม เหลือเพียงบุ๊คที่ไม่สามารถเลือกตำแหน่งของฟูกได้อีก
“เลือกไม่ได้แล้วสินะ” บุ๊คเอ่ยขึ้นมาเบาๆ ก่อนจะวางกระเป๋าลงที่ปลายเตียงแล้วหย่อนตัวลงนั่งที่ข้างกันต์
“ทำไม ไม่อยากนอนข้างกันต์เหรอ”
“เปล่า...”
“อ่อ...”
กันต์เล่นหูเล่นตาหลังจากได้แกล้งพูดหยอกคนพี่ เขาชอบเวลาที่บุ๊คยู่ปากเล็กๆ ตอนที่โดนแกล้ง มันดูน่ารักอย่างบอกไม่ถูก แม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้ดูเป็นคนในไทป์ที่สามารถเรียกได้ว่าน่ารักแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าวิธีการแสดงออกทางสีหน้าแบบนั้นมันน่ารักเสียจนกันต์ก็อดใจเอาไว้แทบไม่ไหว
นี่ถ้าไม่ติดว่ามีแคนกับนุ่นอยู่เขาคงจะผลักอีกฝ่ายลงไปนอนแล้วเริ่มกิจกรรมอย่างว่าไปแล้ว
“พวกมึงหยุดเดี๋ยวนี้ กูดูออกนะ!” แคนถึงกับร้องแซวเหมือนเห็นรังสีบางอย่างแผ่ออกมาจากรอบตัวของทั้งกันต์และบุ๊ค
คนอายุน้อยที่สุดได้ยินเสียงร้องแซวมาแบบนั้นก็ได้แต่หันไปมองแล้วยิ้มแห้งออกมา เขาอุตส่าห์จะแอบส่งซิกให้บุ๊ค แต่ก็ไม่คิดว่าพี่แคนจะสังเกตเห็น
“ขอโทษครับ” กันต์เอ่ยตอบเสียงแผ่ว
“ผีเห็นผีค่ะคุณน้อง!” แคนบอกกลับพลางเบ้ปากแล้วลุกออกจากโดมที่พักไป
นุ่นเห็นแบบนั้นก็เดินตามออกไปโดยที่ตามไม่ทันเรื่องที่กลุ่มชายหนุ่มคุยกันอยู่สักเท่าไหร่ สีหน้าดูงุนงงเล็กน้อยเพราะตอนที่ทั้งสามหนุ่มคุยกันเรื่องสองแง่สองง่ามนั้น เธอมัวแต่ดูโทรศัพท์แล้วตอบแชทของชายหนุ่มเชื้อชาติแขกขาวที่เธอกำลังอยู่ในช่วงดูๆ กันอยู่
“รอกูด้วยค่า!”
บุ๊คหันหน้ามองกันต์แล้วหลุดยิ้มมุมปากเล็กน้อย เขาก็ไม่คิดว่าจะโดนเพื่อนแซว เอาจริงก็แอบเขินเหมือนกัน ที่ผ่านมาตั้งแต่สมัยเรียน เพื่อนฝูงเขาก็รู้ดีว่าตัวเขานั้นชอบผู้ชายแต่ก็ไม่เคยมีใครที่จะได้เห็นหน้าคนคุยหรือแฟนหนุ่มของบุ๊คเลยแม้แต่ครั้งเดียว ด้วยเหตุผลที่ว่าเด็กหนุ่มเหล่านั้นไม่อยากเปิดเผยตัวตนให้ใครรู้ เพราะพวกเขาไม่พร้อมที่จะเปิดตัวว่าชอบผู้ชาย จนเพื่อนหลายคนแอบแซวว่าบุ๊คสร้างเรื่องขึ้นมา ไอ้ที่มาเล่าๆ ให้ฟังก็คงจะเป็นแฟนในมโนทั้งนั้น
แต่บุ๊คก็ไม่อยากจะไปต่อล้อต่อเถียงสักเท่าไหร่ เพราะพูดไปก็ยิ่งจะดูแก้ตัว ปล่อยให้คนเข้าใจไปแบบนั้นแหละ จะได้ไม่ต้องเหนื่อยพูดปากเปียกปากแฉะ
ดูเหมือนกันต์จะเป็นคนแรกที่เพื่อนสนิทในกลุ่มได้เห็นหน้าค่าตาแบบจริงๆ จังๆ แม้ว่าปากของบุ๊คจะพร่ำบอกว่าเป็นพี่น้องกันก็ตาม แต่แคนกับนุ่นก็รู้ดีว่าไม่ใช่แค่นั้นแน่ๆ
กันต์เองก็ไม่อยากที่จะคิดไปมากกว่านี้ แม้ว่าการกระทำของพวกเขาทั้งคู่มันจะมากกว่าพี่น้องก็ตาม แต่เพราะได้ตกลงกันไปแล้วว่าพวกเขาจะคงความสัมพันธ์ฉันพี่น้องเอาไว้ ไม่พัฒนาไปมากกว่านี้ การที่จะเอาใจลงไปเล่นก็คงไม่ใช่เรื่อง อาจมีหวั่นไหวไปบ้างแต่กันต์ก็ยังคุมความรู้สึกเอาไว้ได้เป็นอย่างดี เขาเองก็ชอบแบบนี้เหมือนกัน ไม่ต้องผูกมัก แถมยังสนุกกับเรื่องบนเตียงได้เรื่อยๆ
อนาคตปล่อยผ่านไปก่อน หากต้องเผชิญหน้ากับปัญหาค่อยว่ากันอีกที...
“พวกมึง ออกมาถ่ายรูปกัน วิวดีมาก” นุ่นโผล่หน้าเข้ามาเรียกบุ๊คกับกันต์
“เออๆ” บุ๊คตอบก่อนจะลุกตามไปโดยมีกันต์เดินตามไปติดๆ
ก่อนหน้านี้ระหว่างที่นั่งรถขึ้นมากันต์ก็พอจะเห็นอยู่บ้างว่าบรรยากาศโดยรอบตอนมองลงไปจากม่อนแจ่มมันเป็นยังไง ยิ่งพอได้มาเห็นชัดๆ แบบนี้ยิ่งทำให้เขารู้สึกดีไม่น้อย เขาสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ไม่ได้รู้สึกถึงอากาศที่บริสุทธิ์ขนาดนี้มานานเหมือนกัน
“อากาศโคตรดี” แคนเอ่ยพูดพลางเหยียดมือขึ้นสุดแขน
“พวกมึงมาถ่ายสตอรี่กัน” นุ่นหยิบกล้องขึ้นมาเปิดสตอรี่ไอจีพร้อมเรียกทุกคนให้โผล่หน้าเข้าไปในเฟรมกล้องก่อนจะกดถ่ายบูมเมอแรงเพื่อเก็บโมเมนต์แห่งความสุขเอาไว้แชร์ให้คนอื่นๆ บนโซเชียลได้เห็นบ้าง
“เสียดายมาถึงเย็นเกิน ไม่งั้นกูจะพาพวกมึงตะลอนกินร้านเด็ดๆ บนนี้” บุ๊คเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงติดเสียดายหน่อยๆ
“ช่างมันเหอะพี่ พรุ่งนี้ก็ยังทัน”
“จริงงง พี่นุ่นคนสวยเห็นด้วยกับน้องกันต์ค่ะ”
“กูจะอ้วก”
“อีแคน มึงหุบปาก! เดี๋ยวกูทุบค่ะ”
กันต์หลุดหัวเราะออกมาอีกครั้งเมื่อเห็นว่าแคนกับนุ่นเริ่มที่จะตีกันอีกครั้ง ตั้งแต่เจอหน้า กันต์ยังไม่เห็นว่าสองคนนี้จะมีช่วงเวลาที่คุยกันดีๆ เลยด้วยซ้ำ
“แล้วเย็นนี้จะแดกไรดีอะ” แคนหันมาถามในระหว่างที่ทุกคนกำลังดื่มด่ำกับบรรยากาศโดยรอบ
“เราสั่งหมูกระทะกันไหมครับ กันต์ว่าที่พักเขามีบริการด้วยนะครับ”
“เอ้ย! เอาๆๆๆ เจ้อยากกิน”
“อีนุ่นหยุด กูเพิ่งไปแดกมา”
“เงียบไปเลยอีแคน ขึ้นดอย อากาศเย็นๆ ก็ต้องแดกหมูทะร้อนๆ ดิวะ จริงไหมไอ้บุ๊ค”
นุ่นหันไปถามเพื่อนสนิทตัวสูงที่ยืนถ่ายรูปอยู่เงียบๆ คนถูกถามไม่ได้เอ่ยปากตอบอะไร เพียงแค่หันหน้ามามองแล้วพยักหน้ารับเบาๆ เท่านั้น
บุ๊คก็คิดแบบนั้นตั้งแต่แรกว่าจะสั่งหมูกระทะเป็นดินเนอร์ แค่ยังไม่ได้เอ่ยปากบอกใคร เขารู้ดีว่าการมาทริปบนดอยถ้าไม่ได้สั่งหมูกระทะมาทำคอนเทนต์ล่ะก็ เป็นเรื่องที่พลาดอย่างแรง
ลมเย็นเริ่มโชยมาเมื่อพระอาทิตย์เริ่มจะคล้อยต่ำลงเรื่อยๆ ทุกคนเริ่มสัมผัสอากาศเย็นขึ้นมาได้บ้าง ก่อนจะพากันไปเดินเล่นแถวบริเวณที่พักเพื่อถ่ายรูป แสงอาทิตย์ยามเย็นแบบนี้ทำให้ภาพถ่ายของพวกเขาดูสวยขึ้นมาไม่ใช่น้อย
“พวกมึงเดินเล่นไปก่อนนะ กูกับกันต์ไปสั่งหมูทะแป๊บ”
“เออๆ”
บุ๊คเดินออกมาพร้อมกันต์หลังจากที่สิ้นเสียงตอบรับของนุ่น ทั้งคู่เดินออกจากบริเวณจุดชมวิวที่พวกเขากำลังถ่ายรูปกันอยู่แล้วเดินตรงไปยังจุดบริการลูกค้าของที่พักเพื่อติดต่อสั่งเซตหมูกระทะสำหรับสี่คนไว้กินกันในคืนนี้
“สวัสดีครับ” บุ๊คยื่นหน้าเข้าไปที่บริเวณเคาท์เตอร์ของสำนักงาน
“ค่า” พนักงานสาวจากเพื่อนบ้านตอบรับด้วยรอยยิ้มกว้าง
“จะสั่งหมูกระทะหน่อยครับ”
“เซตไหนดีคะ”
“เซต C ครับ”
“เซต C สำหรับ 4-5 คนนะคะ”
“ใช่ครับ”
“แต่จะทานกันหมดเหรอคะ” พนักงานสาวเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“เอ่อ... คือมากันสี่คนครับ”
“อ่อค่ะ ขอโทษค่ะ หนูเพิ่งเปลี่ยนกะมา”
“ครับ”
“เดี๋ยวเงินค่อยมาจ่ายทีเดียวตอนเช็กเอาท์ก็ได้ค่ะ เผื่อสั่งอย่างอื่นเพิ่มอีก”
“โอเคครับ”
แม้ว่าพนักงานจะมีท่าทีดูงงๆ ทำเอาบุ๊คกับกันต์รู้สึกแปลกๆ ไปบ้างก็ตาม แต่พวกเขาก็ไม่ได้ถือเป็นอารมณ์ มันเป็นเรื่องที่พอจะเข้าใจกันได้ ทั้งคู่เดินออกมาจากบริเวณนั้นก่อนจะเดินไปตามเส้นถนนลูกรังภายในที่พัก
“อยากถ่ายรูปปะ”
“ได้พี่ ถ่ายให้หน่อย”
บุ๊คหันมาถามกันต์ที่เดินเงียบอยู่ด้านข้าง คนโดนถามตอบรับทันที กันต์เดินออกไปยืนบริเวณไหล่ทาง เบื้องหลังของเขาเป็นวิวภูเขากว้างสุดลูกหูลูกตา ลมเย็นที่พัดพาทำให้เขาเริ่มรู้สึกหนาวขึ้นมาเล็กน้อย ด้วยเสื้อที่ใส่อยู่เป็นเพียงเสื้อผ้าฝ้ายบางๆ แต่เขาก็ยังกัดฟันอดทนยืนตรงพร้อมยกยิ้มกว้างเพื่อให้คนตรงหน้าช่วยเก็บภาพความประทับใจเอาไว้ให้
“หนึ่ง สอง ซั่ม!”
แชะ!
เสียงนับบอกจังหวะก่อนที่บุ๊คจะกดชัดเตอร์ดังขึ้น วูบหนึ่งเพียงเสี้ยววินาทีก่อนการกดชัตเตอร์นั้น สีหน้าที่ดูตั้งใจในการถ่ายรูปของบุ๊คทำให้หัวใจของกันต์แอบสั่นไหวขึ้นมาหน่อยๆ เขาไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงได้หลงใหลในความจริงจังของอีกฝ่ายนัก แต่เท่าที่ผ่านมาเขาก็มักจะพ่ายแพ้ให้กับคนที่พยายามตั้งใจทำอะไรบางอย่างมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตั้งใจทำอะไรบางอย่างเพื่อเขา
“กันต์...”
“...”
“ไอ้กันต์!” บุ๊คเพิ่มเสียงในการเรียกอีกฝ่ายให้ดังขึ้น ทำเอาคนโดนเรียกสะดุ้งขึ้นเล็กน้อย
“ห้ะ!”
“เหม่อไร”
“ปะ... เปล่าพี่”
จะให้กันต์พูดออกมาได้ยังไงว่าเหม่อเพราะจ้องหน้าบุ๊คเมื่อครู่ หากอีกฝ่ายได้ยินเข้าคงหลุดหัวเราะออกมาแน่ๆ
ครืดดด~!
เสียงสั่นของโทรศัพท์มือถือบุ๊คดังขึ้น เขารีบหยิบขึ้นมารับในทันที กันต์เงี่ยหูแอบฟังเล็กน้อย ได้ยินเสียงพี่นุ่นลอดออกมาถามว่าอยู่ไหน หลังจากนั้นก็ไม่ได้ยินอะไร เพราะบุ๊คใช้นิ้วกดลดเสียงไปเสียก่อน
“กลับห้องกัน นุ่นบอกว่าหมูทะมาละ” บุ๊คหันมาบอกก่อนจะยื่นมือมาคว้าข้อมือของกันต์เอาไว้แล้วจูงเดินไป
คนตัวเล็กกว่าลอบอมยิ้มเล็กน้อย เขารู้สึกเขินเล็กๆ ที่ได้รับโมเมนต์อะไรแบบนี้จากอีกฝ่าย แม้จะรู้ดีว่าบุ๊คคงดูแลคนอื่นแบบเดียวกับที่ทำให้เขา แต่มันก็นับว่าเป็นเรื่องราวดีๆ ที่ทำให้เขามีความสุขขึ้นมาได้บ้าง ฟีลไอ้ตัวเล็กของพี่ตัวโตอะไรแบบนั้น
พอพวกเขาเดินกลับไปจนเกือบจะถึงบริเวณที่พัก บุ๊คก็ปล่อยมือออกแล้วเดินนำหน้าไป กันต์ก็เหมือนจะรู้ตัวดีรีบเก็บมือมาล้วงกระเป๋า ถึงจะเสียดายแต่เขาก็รู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร การที่ปากพร่ำบอกว่าเป็นพี่น้องกัน แต่หากทำอะไรที่มันดูมากกว่านั้น พี่นุ่นกับพี่แคนก็คงอดเคลือบแคลงใจไม่ได้
“แอบไปสวีทกันมาเหรอ” นุ่นเอ่ยปากถามทันทีเมื่อเห็นหน้าบุ๊ค
“ก็แย่ละ” บุ๊คตอบเสียงนิ่งก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งข้างเพื่อนสาว ส่วนกันต์ก็นั่งลงถัดออกมา
เซตหมูกระทะถูกพนักงานนำมาจัดวางไว้ที่โต๊ะด้านหน้าโดมที่พักอย่างสวยงาม ราวกับรู้ใจว่าแขกจะต้องถ่ายรูปลงโซเชียลอย่างแน่นอน ซึ่งก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับที่พัก เพราะทุกการลงในโซเชียลของแขกที่เข้ามาพักนั้นถือเป็นการโปรโมทสถานที่ไปในตัว
“จุดเตาดิ๊” นุ่นหันไปสั่งแคนที่กำลังหยิบไฟแชคขึ้นมาจุดบุหรี่ที่คาบอยู่ในปาก
“จิ๊! มึงนี่นะ”
“ไม่ต้องบ่นค่ะ ให้ไว กูหิวละ”
“เห้อ...”
แคนส่งเสียงจิ๊จ๊ะออกจากปากเล็กน้อยพลางถอนหายใจที่ถูกขัดจังหวะในขณะที่กำลังจะสูบบุหรี่ ถึงแม้ว่าจะมีป้ายเตือนห้ามสูบบุหรี่ แต่เขาก็เห็นแล้วว่าโดยรอบข้างที่พักยังคงว่างอยู่ไม่มีแขกคนอื่นเข้าพัก อีกทั้งเพื่อนๆ ที่นั่งอยู่ด้วยกันก็เคยชินกับพฤติกรรมติดบุหรี่ของเขาอยู่แล้ว แม้จะฟังดูไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไหร่ แต่พอคนรอบข้างไม่ได้เดือดร้อนอะไร เขาก็ปล่อยเลยตามเลย
ไฟแชคของแคนถูกจุดที่กระดาษเพื่อเป็นเชื้อไฟก่อนจะใส่ลงไปในกองถ่านไม้สีดำในเตา ควันสีเทาเริ่มโพยพุ่งขึ้นมา จากถ่านสีดำก็เริ่มปรากฏสีแดงให้เห็น เป็นอันว่าการจุดเตาสำหรับย่างหมูกระทะเป็นไปได้ด้วยดีจากฝีมือของแคน นุ่นหันไปหยิบเตาหมูกระทะขึ้นมาวางและเริ่มบรรเลงฝีมือหยิบนู่นนี่นั่นใส่ลงไปบนกระทะทันที เพราะน้ำย่อยในกระเพาะของเธอเริ่มจะส่งเสียงประท้วงออกมาบ้างเล็กน้อยแล้ว
เสียงฉู่ฉี่บนกระทะเริ่มดังขึ้นทีละนิดเมื่อเมื่อไขมันจากเนื้อหมูค่อยๆ ละลายออกมาจากการสัมผัสความร้อน แต่ละคนตั้งหน้าตั้งตารออย่างใจจดจ่อ ตะเกียบคีบลงบนเนื้อและผักบางส่วนที่เริ่มสุกก่อนจะนำเข้าปากแล้วเคี้ยวกันอย่างเอร็ดอร่อย
ไม่มีใครพูดคุยกันอีก จนกระทั่ง...
“มึง... กูมีเรื่องอยากถาม” นุ่นที่กลืนหมูลงคอหันมาหาบุ๊คเพื่อนสนิท
“ว่า”
“สรุปมึงกับน้องกันต์นี่ยังไงแน่” หญิงสาวเอ่ยถามบุ๊คพลางสลับไปมองหน้ารุ่นน้องที่นั่งมองไปที่เธอด้วยสีหน้าเป็นกังวล
“พี่น้อง”
“กูไม่เชื่อ”
“แล้วกูจะโกหกมึงทำไมอีนุ่น”
“ก็มึงสองคนทำตัวอย่างกับแฟนกัน”
“เออ... แต่กูพูดจริง กูกับกันต์เป็นแค่พี่น้องกันจริงๆ”
“ค่ะ!”
นุ่นกระแทกเสียงตอบรับนิดหน่อย ออกจะติดรำคาญด้วยซ้ำ เธอรู้ดีว่าเพื่อนของเธอปากแข็งมาแต่ไหนแต่ไร แม้ท่าทีที่เธอเห็นจากเพื่อนตัวดีจะดูมากกว่าคำนิยามที่พร่ำบอกออกมา แต่ในเมื่อบุ๊คยืนยันแบบนั้น เธอก็คงต้องเลือกที่จะเชื่อใจให้ได้ก็เท่านั้น
หลังหมูกระทะมื้อเย็นจบลงพวกเขาก็แยกย้ายกันไปนั่งตามมุมต่างๆ เพื่อใช้เวลาส่วนตัวอยู่กับมือถือของตัวเอง กันต์หนีไปอาบน้ำเป็นคนแรกเพราะกลัวยิ่งดึกจะยิ่งหนาว ห้องน้ำก็ดันอยู่แยกออกมาจากที่พัก แม้จะไม่ไกลมาก แต่ลมหนาวเล็กน้อยก็ทำให้เขารู้สึกทรมานอยู่เหมือนกัน
เขานอนเล่นมือถืออยู่บนที่นอนหลังจากที่อาบน้ำเสร็จ เสื้อผ้ากันหนาวที่เตรียมมาดูเหมือนจะไม่ค่อยตอบโจทย์สักเท่าไหร่ ตอนที่เช็กสภาพอากาศล่วงหน้าในเว็บไซต์บอกว่าประมาณสิบกว่าองศา จากประสบการณ์ของเขาที่เคยอยู่ต่างประเทศก็รู้สึกว่ามันไม่ได้หนาวขนาดนั้น แต่เพราะเขาไร้ประสบการณ์ท่องเที่ยวบนดอย จึงทำให้เขาลืมนึกไปว่า บนดอยอากาศจะหนาวกว่าที่ราบด้านล่าง ทำให้เสื้อและกางเกงขายาวที่เตรียมมา ไม่ช่วยให้เขารู้สึกอบอุ่นขึ้นมาได้เลยสักนิด
“กันต์” บุ๊คกระซิบเรียกเสียงเบา เมื่อเห็นว่าแคนกับนุ่นออกไปนั่งเมาท์มอยกันข้างนอก เพราะอยากรับอากาศเย็นสักหน่อย
“ว่าไงพี่”
“แกโอเคใช่เปล่า”
“หื้ม? หมายถึงอะไรอะ” กันต์พลิกตัวกลับมาถามด้วยความรู้สึกงุนงง
“ก็เรื่องที่นุ่นถามไง”
“ทำไมอะ พี่ก็บอกถูกละนี่ เราตกลงกันว่าจะเป็นพี่น้องกันไง”
“อ่า...”
“กันต์ไม่ได้คิดมากอะไรเลย คุยกันแล้วคือจบ แต่ดูเหมือนพี่นั่นแหละที่จะไม่จบนะ ถามอยู่นั่น หลายรอบละ”
คนตัวเล็กกว่าเริ่มขึ้นเสียงเล็กน้อย นี่ไม่ใช่รอบแรกที่บุ๊คดูมีท่าทีแปลกๆ สำหรับเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาสองคน ทั้งที่กันต์คิดว่าเรื่องนี้มันจบไปตั้งแต่ที่ทำความตกลงกันในคืนนั้น แต่อีกฝ่ายยังคงวอแวอยู่ตลอด จนเขาเริ่มคิดว่ามันออกจะน่ารำคาญแล้วด้วยซ้ำ
“โทษที” บุ๊คตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ดูอ่อนลงอย่างชัดเจน
“หรือจริงๆ พี่คิดอะไรกับกันต์มากกว่านั้นเหรอ”
“เปล่า...”
“งั้นก็เลิกทำแบบนี้ซะ ไม่ต้องมาเป็นห่วงความรู้สึกของกันต์ขนาดนั้น ทุกครั้งที่ต้องพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างเราสองคน พี่ก็มักจะต้องเป็นแบบนี้ตลอด มันทำให้กันต์อดคิดไม่ได้เหมือนกัน ว่าจริงๆ พวกเราควรจะเป็นพี่น้องแบบนี้อยู่ไหม หรือจะเลื่อนขั้นไปมากกว่านี้ดี ไหนๆ ก็ได้กันแล้วนี่”
“แล้วแกจะประชดทำไม”
“ขอโทษครับ”
“อืม... พี่เข้าใจละ เข้าใจที่แกพูดทุกอย่างเลย พี่ผิดเองแหละ ที่คิดแทนแกมากเกินไป” บุ๊คบอกก่อนจะลุกขึ้นแล้วคว้าผ้าขนหนูเดินออกจากโดมไป