วงการซีรีส์วาย บันเทิงกว่าที่คิด... โดยเฉพาะเรื่องที่มันเกิดขึ้นหลังกล้องอะนะ

วายบันเทิง - บทที่ 56 อดีตช่วยย้ำเตือน โดย Run_Kantheephop @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ตลก,ชาย-ชาย,สะท้อนปัญหาสังคม,วัยว้าวุ่น,วายบันเทิง,วาย,นิยายวาย,แฉ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

วายบันเทิง

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ตลก,ชาย-ชาย,สะท้อนปัญหาสังคม,วัยว้าวุ่น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

วายบันเทิง,วาย,นิยายวาย,แฉ

รายละเอียด

วายบันเทิง โดย Run_Kantheephop @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

วงการซีรีส์วาย บันเทิงกว่าที่คิด... โดยเฉพาะเรื่องที่มันเกิดขึ้นหลังกล้องอะนะ

ผู้แต่ง

Run_Kantheephop

เรื่องย่อ

วายบันเทิง

The Gossip of BL

Run_Kantheephop

เรื่องแต่ง 99%  อีก 1% คือเค้าโครงจากเรื่องจริง

ขออนุญาตแก้ไขวันและเวลาในการอัพนิยายนะครับ เนื่องจากช่วงนี้มีภารกิจจากหน้าที่การงานเข้ามาจึงทำให้เขียนนิยายได้น้อยลงกว่าเดิม จากนี้ไปจะขออัพนิยายเพียงแค่สัปดาห์ละ 1 ตอนนะครับ (ทุกวันเสาร์ เวลา 18:00 น.)

ขอบคุณสำหรับทุกการติดตามครับ

********************************************************************************

มีทั้งหมด 5 เล่ม

E-Book วางจำหน่ายแล้ว บน MEB

สารบัญ

วายบันเทิง-Intro บทนำ,วายบันเทิง-บทที่ 1 เด็กบ้านนอกคนหนึ่ง,วายบันเทิง-บทที่ 2 ผลลัพธ์ที่ดี,วายบันเทิง-บทที่ 3 ทริปมิตรสัมพันธ์,วายบันเทิง-บทที่ 4 สังสรรค์หรือสงคราม,วายบันเทิง-บทที่ 5 ยังไงกันแน่,วายบันเทิง-บทที่ 6 แต่ความจริงคือ...,วายบันเทิง-บทที่ 7 ระมัดระวัง,วายบันเทิง-บทที่ 8 ข่าวลือ,วายบันเทิง-บทที่ 9 มันจริงมั้ย?,วายบันเทิง-บทที่ 10 คุยกันแล้วไม่ใช่เหรอ,วายบันเทิง-บทที่ 11 เคลียร์ใจ,วายบันเทิง-บทที่ 12 มีซัมติงไหม?,วายบันเทิง-บทที่ 13 นี่ว่าใช่ ไม่ได้มโน,วายบันเทิง-บทที่ 14 โดนกับตัว,วายบันเทิง-บทที่ 15 ไม่พอใจ,วายบันเทิง-บทที่ 16 ต้องเลือก,วายบันเทิง-บทที่ 17 เมามาย 1,วายบันเทิง-บทที่ 18 เมามาย 2,วายบันเทิง-บทที่ 19 ทำไมทำงี้!?,วายบันเทิง-บทที่ 20 โอกาสเดียว,วายบันเทิง-บทที่ 21 หมดความอดทน,วายบันเทิง-บทที่ 22 ไม่จบไม่สิ้น,วายบันเทิง-บทที่ 23 โดนปลด,วายบันเทิง-บทที่ 24 เกาะกระแส,วายบันเทิง-บทที่ 25 ข่าวล่ามาไว,วายบันเทิง-บทที่ 26 เพื่อนใหม่,วายบันเทิง-บทที่ 27 งงไปหมด,วายบันเทิง-บทที่ 28 คนใหม่?,วายบันเทิง-บทที่ 29 มันเอาอีกละ,วายบันเทิง-บทที่ 30 สามหนุ่มเปิดใจ,วายบันเทิง-บทที่ 31 ก้าวใหม่,วายบันเทิง-บทที่ 32 คลาสแอคติง,วายบันเทิง-บทที่ 33 ไปแคสติงกัน,วายบันเทิง-บทที่ 34 ช่วยมาคุมความประพฤติอีสันดานนี่ที,วายบันเทิง-บทที่ 35 ข่าวเก่าเล่าใหม่,วายบันเทิง-บทที่ 36 ไม่เป็นไร,วายบันเทิง-บทที่ 37 รียูเนียน?,วายบันเทิง-บทที่ 38 เลิฟซีนเป็นเหตุ,วายบันเทิง-บทที่ 39 นั่นปากเหรอ!?,วายบันเทิง-บทที่ 40 เอาแล้วหัวใจ,วายบันเทิง-บทที่ 41 ระยะปลอดภัย,วายบันเทิง-บทที่ 42 เรื่องของฮัน,วายบันเทิง-บทที่ 43 หัวใจเจ้ากรรม หวั่นไหวง่ายจัง,วายบันเทิง-บทที่ 44 แค่พี่น้อง?,วายบันเทิง-บทที่ 45 ไปเชียงใหม่กันไหม,วายบันเทิง-บทที่ 46 เริ่มเลย,วายบันเทิง-บทที่ 47 เริ่มเลย 2,วายบันเทิง-บทที่ 48 ยินดีต้อนรับ,วายบันเทิง-บทที่ 49 ม่อนแจ่ม,วายบันเทิง-บทที่ 50 ไปขึ้นเขากัน,วายบันเทิง-บทที่ 51 กิ่วแม่ปาน,วายบันเทิง-บทที่ 52 เบื่อจริงๆ ไอ้พวกปากแข็ง,วายบันเทิง-บทที่ 53 ขอสักหน่อย หายไปหลายคืน,วายบันเทิง-บทที่ 54 กลับไป ไม่กลับใจ,วายบันเทิง-บทที่ 55 ความพยายาม,วายบันเทิง-บทที่ 56 อดีตช่วยย้ำเตือน,วายบันเทิง-บทที่ 57 เริ่มต้นเปิดใจ,วายบันเทิง-บทที่ 58 บททดสอบ,วายบันเทิง-บทที่ 59 ความลับที่ฉันซ่อนไว้,วายบันเทิง-ตอนที่ 60 ตอนจบที่มีความสุข

เนื้อหา

บทที่ 56 อดีตช่วยย้ำเตือน

บุ๊คตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่พร้อมกับแสงแดดอ่อนๆ ที่ส่องพาดผ่านเข้ามาทางหน้าต่างคอนโด ปกติเขามักจะปิดผ้าม่านไว้ตลอดเวลาเพราะเขาเป็นคนที่นอนหลับยากและค่อนข้างไวต่อแสงมาก แต่ไม่รู้ทำไมเมื่อคืนเขาถึงได้ลืมที่จะรูดผ้าม่านปิดจนทำให้เช้านี้แสงสีส้มทะลุเข้ามาสัมผัสใบหน้าของเขาได้

ดวงตาทั้งสองข้างยังเปิดขึ้นได้ไม่เต็มที่นัก เขาขยี้ตาเล็กน้อยแล้วขยับตัวไปนั่งริมหน้าต่างก่อนจะมองออกไปด้วยสายตาที่กำลังโฟกัส เห็นทิวทัศน์ของละแวกคอนโดในยามเช้า ถนนเริ่มคึกคักเต็มไปด้วยรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ บ้างก็ขับจักรยาน บ้างก็เดินไปมาขวักไขว่ ควันสีขาวลอยขึ้นอยู่ไม่ไกลจากรถเข็นขายอาหารจำพวกหมูปิ้งและไก่ย่าง บรรยากาศของผู้คนที่ออกมาใช้ชีวิตประจำวันเริ่มต้นขึ้นแล้ว เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าวันใหม่ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ

ติ๊ง!

            เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์มือถือของบุ๊คที่วางอยู่บริเวณหัวเตียงดังขึ้น เขาหมุนตัวเดินกลับไปหยิบขึ้นมาดูหน้าจอแสดงผลแจ้งเตือนจากปฏิทินว่าเขามีนัดกับเพื่อนสนิทสมัยมหาวิทยาลัยเอาไว้ตอนเที่ยง ยังพอมีเวลาให้เขาได้แวะลงไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสคอนโดสักประมาณสองชั่วโมงก่อนจะออกไปตามนัด

            เพื่อนสนิทที่ว่าเป็นเพื่อนที่เขาไม่ได้เจอมาเป็นเวลานานพอสมควรเนื่องจากอีกฝ่ายย้ายกลับไปอยู่บ้านที่ต่างจังหวัด ทั้งสองคนเคยมีความรู้สึกดีๆ ต่อกันสมัยที่เรียนอยู่ในคณะ แต่ก็ไม่เคยมีใครได้พูดอะไรออกมา บุ๊คคิดว่าการนัดเจอเพื่อนเก่าคนนี้อาจจะช่วยให้เขาเข้าใจความรู้สึกของตัวเองได้บ้างไม่มากก็น้อย

            พวกเขานัดกันที่คาเฟ่แห่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากคอนโดของบุ๊คมากนัก เป็นร้านที่เขาเห็นผ่านหน้าติ๊กตอกเมื่อไม่กี่วันก่อน เป็นคาเฟ่เล็กๆ ที่มีขนาดไม่ใหญ่มากตั้งอยู่ใจกลางเมือง มีบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นกันเอง หลายคนที่รีวิวก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าควรค่าแก่การมาเยี่ยมเยียนสักครั้ง บุ๊คจึงตัดสินใจเลือกร้านนี้ได้แบบไม่ต้องคิดหนัก

            เขารู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อยในขณะที่เดินเข้าไปหาที่นั่งภายในร้าน การที่ไม่ได้พบเจอกับเพื่อนสนิทมานานก็ทำให้หัวใจของเขาแอบเต้นเร็วขึ้นมากกว่าปกติอยู่เหมือนกัน สายตาของเขามองสำรวจไปรอบๆ ร้านเห็นต้นไม้และดอกไม้สดถูกประดับอยู่ตามมุมต่างๆ กลิ่นหอมของกาแฟที่ลอยอบอวลในอากาศ ทำให้รู้สึกสดชื่นและผ่อนคลายได้ไม่น้อย ระหว่างนั้นสายตาของเขาก็หันไปเห็นร่างหนึ่งที่คุ้นเคยนั่งอยู่ที่มุมหนึ่งของร้าน รอยยิ้มบนใบหน้าของเขายกขึ้นเล็กน้อยก่อนที่จะก้าวสองขายาวเดินเข้าไปหา

            “ไอ้เท็น!” บุ๊คเอ่ยเรียกด้วยเสียงที่ไม่ดังมากนักเมื่อเดินไปถึงคนที่นั่งอยู่

            “อ้าว! มาแล้วเหรอ” คนถูกเรียกหันมาเห็นก่อนจะยกยิ้มกว้าง

“รอนานไหมวะ”

“หึ! กูก็เพิ่งถึง นั่งก่อนๆ”

บุ๊คหย่อนตัวลงนั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามก่อนจะเริ่มสนทนาต่อ “หล่อขึ้นนะมึงอะ”

“มึงก็เหมือนกันนั่นแหละ”

“ไม่ได้เจอกันโคตรนาน”

“จริง ก็ตั้งแต่เรียนจบกูก็กลับไปช่วยงานที่บ้าน มึงก็หายไปเลย แทบจะไม่ได้คุยกันด้วยซ้ำ ตอนนั้น” เท็นบ่นอุบสีหน้าดูน้อยใจนิดหน่อย

“โทษที ตอนนั้นกูก็ยุ่งๆ กับเรื่องหางานเหมือนกัน”

เท็นมองหน้าบุ๊คนิ่งก่อนจะพูดต่อ “โคตรคิดถึงมึงเลย...”

บุ๊คยิ้มรับแต่ไม่ทันที่จะได้พูดอะไรต่อพนักงานร้านก็เดินเข้ามารับออเดอร์ พวกเขาทั้งคู่สั่งกาแฟและเค้กมากินด้วยกันประมาณสามถึงสี่เมนู โดยปกติของหวานไม่ใช่ที่บุ๊คถนัดสักเท่าไหร่ แต่การจะมานั่งที่ร้านเฉยๆ โดยไม่สั่งอะไรก็จะดูเสียมารยาท เขาจึงเลือกสั่งสุ่มๆ จากเมนูที่พนักงานแนะนำ 

"แล้วมึงอะ เป็นไงบ้างช่วงนี้?" เพื่อนเก่าอย่างเท็นถามด้วยความสนใจ

บุ๊คนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยปากตอบ "จริงๆ ก็โอเคนะ...”

“แต่...?” เท็นหรี่ตามองเมื่อเห็นว่าท่าทีของอีกฝ่ายดูมีอะไรบางอย่างแอบซ่อนเอาไว้ในใจ เหมือนอยากจะพูดแต่ก็ยังไม่รู้ว่าควรจะพูดออกมาดีหรือเปล่า

“....”

“ไม่เป็นไรมึง ไม่อยากเล่าก็ไม่ต้องเล่า”

เห้อ!

บุ๊คลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ คนตรงข้ามเห็นเข้าก็ถึงกับหลุดหัวเราะออกมา เขากับบุ๊คสนิทกันมาตั้งหลายปี ถึงแม้ว่าจะมีช่วงเวลาที่ห่างหายกันไปบ้าง แต่ทำไมเขาจะดูไม่ออกว่าในตอนนี้เพื่อนซี้ของเขากำลังมีเรื่องให้หนักใจ

“จริงๆ มันก็เล่าได้แหละ”

“....”

“กู... มีเรื่องหนึ่งที่กำลังสับสนอยู่อะ" บุ๊คเอ่ยปากพูดออกมาอย่างไม่ค่อยเต็มเสียงนัก สีหน้าของเขาดูเป็นกังวลอยู่ไม่น้อย

เท็นมองไปยังที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามด้วยสายตาที่ห่วงใย “เรื่องอะไรเหรอ?”

            เห้อออ~

            “คือ... กูมีเพื่อนคนหนึ่ง ตอนนี้สนิทกันมาก ใกล้ชิดกันมาก แล้วอยู่ดีๆ วันหนึ่งมันก็มีเรื่องบางอย่างระหว่างกูกับมันเกิดขึ้น แต่กูก็ยังไม่แน่ใจว่ากูรู้สึกยังไงกันแน่”

            เท็นได้ยินคำพูดจากปากบุ๊คก็ถึงกับหลุดยิ้มแผ่วๆ ออกมา ทำเอาคนพูดถึงกับจ้องกลับด้วยแววตาสงสัย

            “ทำไมวะ?”

            “มึงรู้ไหม ตอนมหาลัย กูก็เคยรู้สึกแบบนั้นกับมึงเหมือนกัน แล้วกูก็ไม่เคยกล้าพูดมันออกมาเลยสักครั้งเดียว”

บุ๊คนิ่งฟังด้วยความประหลาดใจ “ห้ะ? จริงปะเนี่ย ทำไมกูไม่เคยรู้มาก่อน”

“อือ... กูก็เคยรู้สึกดีกับมึงนะ แต่กูกลัวว่าจะทำให้มึงไม่สบายใจ กุก็เลยเลือกที่จะไม่พูดมันออกมา จนกระทั่งพวกเราแยกย้ายกันไปตามทางของตัวเองหลังเรียนจบนั่นแหละ”

บุ๊คนั่งคิดถึงสิ่งที่เพื่อนเก่าเล่าให้ฟัง เขาเริ่มตระหนักว่าหากเขาไม่ยอมรับความรู้สึกที่มีต่อกันต์ เขาอาจจะพลาดโอกาสที่สำคัญในชีวิตเหมือนกับที่เกิดขึ้นในอดีตก็เป็นได้

เอาเข้าจริงถ้าย้อนกลับไปในเวลานั้น ใช่ว่าบุ๊คจะไม่ได้รู้สึกอะไรกับเท็น แต่เป็นเพราะเขายังไม่มีความกล้ามากพอที่จะยอมรับว่าตัวเองชอบเพื่อนสนิทของตัวเอง ซึ่งก็ดูจะไม่แตกต่างจากสถานการณ์ในตอนนี้สักเท่าไหร่นัก เขามัวแต่คิดว่ากลัวจะเสียเท็นไปถ้าวันหนึ่งเกิดเลิกกันขึ้นมา และเขาคงจะทำใจยอมรับไม่ได้แน่ๆ อีกอย่างเขาค่อนข้างกลัวสายตาคนอื่นที่มองเข้ามาด้วย กลัวจะถูกนินทาว่าเป็นพวกผิดปกติ เป็นเกย์ เป็นกะเทย เป็นตัวตลกในสายตาของเพื่อนในมหาวิทยาลัย ซึ่งเอาเข้าจริงก็เป็นความคิดที่เขาระแวงไปเองทั้งนั้น และการที่เขาเป็นแบบนั้นก็ทำให้เขาเสียโอกาสในความสัมพันธ์ไปมากอยู่ไม่น้อย

ทุกอย่างดูเหมือนกำลังจะวนลูปกลับมาอีกครั้ง หากบุ๊คยังคิดที่จะทำตัวเหมือนเดิม ไม่รู้จักเรียนรู้จากบทเรียนในอดีต...

“มึงอยากให้ครั้งนี้ผลลัพธ์มันออกมาเหมือนตอนเรื่องของเราเหรอ” เท็นเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง แววตาของเขายังคงฉายแววเป็นห่วงเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ตรงหน้า

“กู... ไม่อยากพลาดโอกาสอีกแล้วว่ะ” บุ๊คย้ำอย่างหนักแน่น “กูควรจะต้องเปิดใจยอมรับความรู้สึกของตัวเองสักที”

เท็นได้ยินก็ยกยิ้มและพยักหน้ารับ “ใช่ มึงควรทำตามหัวใจตัวเองได้แล้ว ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง มึงจะไม่รู้สึกเสียใจที่ได้ลองเลยเว้ย เชื่อกู”

“ขอบใจมากมึง”

บุ๊คยกยิ้มกว้างก่อนจะลุกขึ้นเพื่อขอกอดกับเท็น การได้กลับมาพบกันในครั้งนี้ทำให้เขาได้ข้อคิดและมุมมองใหม่ๆ จากเท็น เขารู้สึกว่าเขาพร้อมแล้วที่จะเผชิญหน้ากับความรู้สึกของตัวเองและกลับไปคุยกับกันต์อย่างจริงจังอีกสักครั้งให้อีกฝ่ายได้มั่นใจและเลิกทุกข์ใจในความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาสองคนสักที

พอบุ๊คกลับถึงบ้านเขาก็เดินไปหย่อนตัวลงนั่งที่โซฟาในห้องนั่งเล่น ก่อนจะเปิดมือถือไถไอจีเล่นฆ่าเวลาเพราะยังรู้สึกเบื่อเกินกว่าที่จะไปอาบน้ำในตอนนี้ อยู่ๆ รูปที่กันต์เพิ่งกดโพสต์ลงไปจีไปเมื่อสองชั่วโมงที่แล้วก็เด้งขึ้นมา ไม่รู้อะไรดลใจให้หลังจากที่เขากดไลก์รูปเสร็จจึงกดเข้าไปที่แอพลิเคชั่นไลน์แล้วโทรออกหาคนในรูปทันที

“ฮัลโหล”

(ว่าไงพี่)

“ตอนนี้แกว่างไหม มีเรื่องอยากคุยด้วยอะ”

(ก็... ว่างอยู่นะพี่ มีอะไรเหรอ) น้ำเสียงของกันต์ที่ตอบกลับมาดูเป็นกังวลเล็กน้อย

            “คือ... เราออกมาเจอกันหน่อยได้ไหม”

            (ที่ไหนอะพี่)

“มาหาพี่ที่บ้านได้ปะ”

(อ่า... โอเคพี่ เดี๋ยวกันต์รีบไป)

            ใช้เวลาไม่นานกันต์ก็มาถึงที้บานของบุ๊ค แม้ระยะทางตามความเป็นจริงจะต้องใช้เวลาเดินทางด้วยรถไฟฟ้าประมาณครึ่งชั่วโมง แต่คนตัวเล็กก็สามารถทำได้เร็วกว่านั้นด้วยการเรียกวินมอเตอร์ไซค์ผ่านแอพลิเคชันเพื่อตรงมาที่นี่ในเวลาอันรวดเร็ว ในเมื่อคนพี่เอ่ยปากเรียกหาเขาจะปล่อยให้อีกฝ่ายรอนานได้ยังไง

            กันต์เดินเข้ามาภายในบ้านของบุ๊คด้วยสีหน้าและแววตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย “พี่บุ๊คมีอะไรหรือเปล่า อยู่ๆ ก็เรียกมาคุยกะทันหันแบบนี้”

            คนตัวสูงสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะเอ่ยปากพูด “คือ... พี่ไปเจอเพื่อนเก่ามา แล้วก็เลยได้คุยกันถึงเรื่องเก่าๆ อะไรแบบนั้น”

“...”

“มันก็เลยพาลคิดไปถึงความรู้สึกของตัวเองขึ้นมาอะ”

“อ่า...”

“นั่นแหละ คือเหตุผลที่พี่โทรเรียกแกมาคุย”

“จริงๆ โทรคุยกัยก็ได้ไม่ใช่เหรอพี่”

“แต่พี่อยากคุยกับแกต่อหน้ามากกว่าไง”

“อ่อ...” กันต์พยักหน้ารับก่อนจะจ้องมองไปที่บุ๊คด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย “แล้วตกลงพี่คิดยังไง”

            “พี่ไม่อยากพลาดโอกาสเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในอดีต พี่รู้ว่าพี่มีความรู้สึกที่พิเศษต่อแก...”

            “อ่า...”

            ตึกๆ ตึกๆ 

            เสียงหัวใจของบุ๊คเต้นแรงพอๆ กับกันต์ที่ยืนลุ้นว่าคนตัวสูงกว่ากำลังจะเอยปากพูดอะไรต่อ 

“พี่อยากที่จะลองเปิดใจดูแล้วดูว่าพวกเราจะไปด้วยกันได้ไหม”

กันต์ยกยิ้มบางก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย ความรู้สึกเขินทำให้ใบหูและแก้มทั้งสองข้างของเขาเริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อ “อื้อ! กันต์ก็พร้อมจะอยู่ข้างๆ พี่เสมอนะ”

            บุ๊คได้ยินคำตอบของกันต์ก็ยิ้มกลับพร้อมรู้สึกว่าความกังวลที่อยู่ภายในใจตลอดมาเริ่มลดลง สายตาของทั้งคู่สอดประสานกัน แววตาประกายไปด้วยความสุข ฝ่ามือทั้งสองจับกันไว้แน่นจนทั้งคู่รับรู้ได้ถึงสัมผัสที่สงบและความอบอุ่นที่กำลังแผ่ซ่านอยู่ในหัวใจ