วงการซีรีส์วาย บันเทิงกว่าที่คิด... โดยเฉพาะเรื่องที่มันเกิดขึ้นหลังกล้องอะนะ

วายบันเทิง - บทที่ 58 บททดสอบ โดย Run_Kantheephop @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ตลก,ชาย-ชาย,สะท้อนปัญหาสังคม,วัยว้าวุ่น,วายบันเทิง,วาย,นิยายวาย,แฉ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

วายบันเทิง

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ตลก,ชาย-ชาย,สะท้อนปัญหาสังคม,วัยว้าวุ่น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

วายบันเทิง,วาย,นิยายวาย,แฉ

รายละเอียด

วายบันเทิง โดย Run_Kantheephop @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

วงการซีรีส์วาย บันเทิงกว่าที่คิด... โดยเฉพาะเรื่องที่มันเกิดขึ้นหลังกล้องอะนะ

ผู้แต่ง

Run_Kantheephop

เรื่องย่อ

วายบันเทิง

The Gossip of BL

Run_Kantheephop

เรื่องแต่ง 99%  อีก 1% คือเค้าโครงจากเรื่องจริง

ขออนุญาตแก้ไขวันและเวลาในการอัพนิยายนะครับ เนื่องจากช่วงนี้มีภารกิจจากหน้าที่การงานเข้ามาจึงทำให้เขียนนิยายได้น้อยลงกว่าเดิม จากนี้ไปจะขออัพนิยายเพียงแค่สัปดาห์ละ 1 ตอนนะครับ (ทุกวันเสาร์ เวลา 18:00 น.)

ขอบคุณสำหรับทุกการติดตามครับ

********************************************************************************

มีทั้งหมด 5 เล่ม

E-Book วางจำหน่ายแล้ว บน MEB

สารบัญ

วายบันเทิง-Intro บทนำ,วายบันเทิง-บทที่ 1 เด็กบ้านนอกคนหนึ่ง,วายบันเทิง-บทที่ 2 ผลลัพธ์ที่ดี,วายบันเทิง-บทที่ 3 ทริปมิตรสัมพันธ์,วายบันเทิง-บทที่ 4 สังสรรค์หรือสงคราม,วายบันเทิง-บทที่ 5 ยังไงกันแน่,วายบันเทิง-บทที่ 6 แต่ความจริงคือ...,วายบันเทิง-บทที่ 7 ระมัดระวัง,วายบันเทิง-บทที่ 8 ข่าวลือ,วายบันเทิง-บทที่ 9 มันจริงมั้ย?,วายบันเทิง-บทที่ 10 คุยกันแล้วไม่ใช่เหรอ,วายบันเทิง-บทที่ 11 เคลียร์ใจ,วายบันเทิง-บทที่ 12 มีซัมติงไหม?,วายบันเทิง-บทที่ 13 นี่ว่าใช่ ไม่ได้มโน,วายบันเทิง-บทที่ 14 โดนกับตัว,วายบันเทิง-บทที่ 15 ไม่พอใจ,วายบันเทิง-บทที่ 16 ต้องเลือก,วายบันเทิง-บทที่ 17 เมามาย 1,วายบันเทิง-บทที่ 18 เมามาย 2,วายบันเทิง-บทที่ 19 ทำไมทำงี้!?,วายบันเทิง-บทที่ 20 โอกาสเดียว,วายบันเทิง-บทที่ 21 หมดความอดทน,วายบันเทิง-บทที่ 22 ไม่จบไม่สิ้น,วายบันเทิง-บทที่ 23 โดนปลด,วายบันเทิง-บทที่ 24 เกาะกระแส,วายบันเทิง-บทที่ 25 ข่าวล่ามาไว,วายบันเทิง-บทที่ 26 เพื่อนใหม่,วายบันเทิง-บทที่ 27 งงไปหมด,วายบันเทิง-บทที่ 28 คนใหม่?,วายบันเทิง-บทที่ 29 มันเอาอีกละ,วายบันเทิง-บทที่ 30 สามหนุ่มเปิดใจ,วายบันเทิง-บทที่ 31 ก้าวใหม่,วายบันเทิง-บทที่ 32 คลาสแอคติง,วายบันเทิง-บทที่ 33 ไปแคสติงกัน,วายบันเทิง-บทที่ 34 ช่วยมาคุมความประพฤติอีสันดานนี่ที,วายบันเทิง-บทที่ 35 ข่าวเก่าเล่าใหม่,วายบันเทิง-บทที่ 36 ไม่เป็นไร,วายบันเทิง-บทที่ 37 รียูเนียน?,วายบันเทิง-บทที่ 38 เลิฟซีนเป็นเหตุ,วายบันเทิง-บทที่ 39 นั่นปากเหรอ!?,วายบันเทิง-บทที่ 40 เอาแล้วหัวใจ,วายบันเทิง-บทที่ 41 ระยะปลอดภัย,วายบันเทิง-บทที่ 42 เรื่องของฮัน,วายบันเทิง-บทที่ 43 หัวใจเจ้ากรรม หวั่นไหวง่ายจัง,วายบันเทิง-บทที่ 44 แค่พี่น้อง?,วายบันเทิง-บทที่ 45 ไปเชียงใหม่กันไหม,วายบันเทิง-บทที่ 46 เริ่มเลย,วายบันเทิง-บทที่ 47 เริ่มเลย 2,วายบันเทิง-บทที่ 48 ยินดีต้อนรับ,วายบันเทิง-บทที่ 49 ม่อนแจ่ม,วายบันเทิง-บทที่ 50 ไปขึ้นเขากัน,วายบันเทิง-บทที่ 51 กิ่วแม่ปาน,วายบันเทิง-บทที่ 52 เบื่อจริงๆ ไอ้พวกปากแข็ง,วายบันเทิง-บทที่ 53 ขอสักหน่อย หายไปหลายคืน,วายบันเทิง-บทที่ 54 กลับไป ไม่กลับใจ,วายบันเทิง-บทที่ 55 ความพยายาม,วายบันเทิง-บทที่ 56 อดีตช่วยย้ำเตือน,วายบันเทิง-บทที่ 57 เริ่มต้นเปิดใจ,วายบันเทิง-บทที่ 58 บททดสอบ,วายบันเทิง-บทที่ 59 ความลับที่ฉันซ่อนไว้,วายบันเทิง-ตอนที่ 60 ตอนจบที่มีความสุข

เนื้อหา

บทที่ 58 บททดสอบ

บุ๊คกับกันต์กลับมาที่คอนโดของบุ๊คหลังจากทั้งสองคนได้ใช้เวลาในช่วงยามเย็นด้วยกันที่สวนสาธารณะใจกลางเมือง ตอนแรกพวกเขาก็คิดไว้ว่าจะหาอะไรกินข้างนอกแต่เพราะเป็นช่วงเวลามื้อเย็นย่านที่เขาขับรถผ่านจึงไม่ค่อยจะมีที่จอดรถสักเท่าไหร่ ทำให้คนพี่ตัดสินใจเลี้ยวรถกลับคอนโดเพื่อจะสั่งอาหารมากินที่ห้องแทน ไม่อยากเสียเวลาไปกับการวนหาที่จอดรถ 

“สรุปไม่กินข้าวแล้วเหรอ” กันต์เอ่ยปากถามด้วยความสงสัยเมื่อเห็นว่าคนพี่ขับรถออกห่างจากย่านที่มีร้านรวงต่างๆ ออกมาเรื่อยๆ

“เดี๋ยวกลับไปกินที่คอนโดละกัน มันไม่มีที่จอดรถอะ”

“อ่อ ก็จริง”

“อยากกินไรปะ” คนตัวสูงหันมาถาม

“ไม่รู้อะ”

“งั้นเธอเลือกจากในแอพเลย แล้วกดสั่งให้มันไปส่งที่คอนโด”

“ชาบูไหม?” คนน้องเอ่ยปากถามขึ้นมาเพราะอยากรู้ความคิดเห็นจากอีกฝ่าย ถ้านั่งกินที่คอนโด อาหารจำพวกสุกี้ชาบูก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีเหมือนกัน

“ได้นะ หนูกดสั่งมาเลย”

“อาเคครับ”

กันต์รับคำแล้วรีบเปิดหาร้านที่ดูน่าสนใจจากในแอพด้วยความตื่นเต้น ถ้าไม่นับก่อนหน้านี้ก็ถือว่าเป็นครั้งแรกที่พวกเขาจะได้ใช้เวลาร่วมกันในสถานที่ที่เป็นส่วนตัวในฐานะแฟนกันเป็นครั้งแรก อะไรๆ ก็เลยดูเหมือนว่าจะแตกต่างไปจากเดิมสักหน่อย บรรยากาศที่เกิดขึ้นมันค่อนข้างจะพิเศษกว่าครั้งไหนๆ

คอนโดของบุ๊คตั้งอยู่บนชั้นสูงของตึกที่มีวิวทิวทัศน์ของเมืองในยามค่ำคืนปรากฏให้เห็นได้อย่างชัดเจน หน้าต่างที่มีกระจกใสบานใหญ่เผยให้เห็นแสงไฟของเมืองที่สว่างไสวและสะท้อนกับแม่น้ำที่ไหลผ่านกลางเมือง กันต์เดินมายืนมองวิวจากหน้าต่างในขณะที่บุ๊คเพิ่งลงไปเอาชุดชาบูที่คนตัวเล็กสั่งเอาไว้ที่ด้านล่างคอนโด

ติ๊ดๆๆๆ

เสียงกดรหัสประตูอัตโนมัติดังขึ้นเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเจ้าของห้องกลับมาแล้ว เขาหันหลังกลับไปส่งยิ้มให้เมื่อเห็นว่าคนพี่ถือถุงชาบูถุงใหญ่เข้าไปในครัว คนน้องก้าวขาเดินตามเข้าไปหาทันที

บุ๊คยืนเตรียมชุดชาบูที่แกะออกจากในถุงใส่จานจัดเรียงอย่างสวยงาม กันต์ที่เดินตามเข้ามายื่นมือเข้ามาช่วย คนพี่จึงส่งถุงน้ำซุปให้คนตัวเล็กเอาไปเทใส่หม้อแบ่งสองช่องแล้วนำออกไปวางบนเตาไฟฟ้าที่โต๊ะอาหารด้านนอก

คนพี่เดินตามออกมาเมื่อจัดเตรียมเนื้อหมู อาหารทะเล และล้างผักที่ได้มาจากร้านชาบูเสร็จเรียบร้อย ทุกอย่างถูกนำมาจัดวางบนโต๊ะอย่างสวยงามก่อนที่เจ้าของห้องจะหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปเก็บเอาไว้ลงสตอรี่ไอจี

“ที่นี่วิวสวยมากเลยอะ” กันต์เอ่ยปากพูดในระหว่างที่หย่อนตัวเองนั่งลงบนเก้าอี้

“เธอเพิ่งจะรู้เหรอ”

“อือ ก็ปกติมาถึงเคยได้มีเวลาดูอะไรที่ไหนล่ะ โดนผลักลงเตียงมั่ง โซฟามั่ง ไม่ทันจะได้มองอะไรสักอย่าง” คนน้องบ่นอุบพลางแสร้งทำหน้ายู่

“โทษทีๆ” คนพี่เอ่ยปากบอกพลางยิ้มแห้ง

“เธอโชคดีมากเลยอะที่ได้อยู่ที่นี่”

“ใช่ วันไหนทำงานเหนื่อยๆ วิวพวกนี้แหละที่ทำให้ผ่อนคลายขึ้นมาได้บ้าง” บุ๊คขยับตัวเข้าไปใกล้แล้วสวมกอดกันต์จากทางด้านหลังก่อนจะยื่นริมฝีปากไปใกล้กับใบหูของอีกฝ่ายแล้วกระซิบเบาๆ “หนูอยากย้ายมาอยู่ด้วยกันไหมล่ะ”

“อื้อ!” คนน้องตอบพลางพยักหน้า ใบหูขึ้นสีแดงจากความเขิน

จุ๊บ!

บุ๊คขโมยหอมแก้มอีกฝ่ายทันทีหลังจากที่ได้ยินคำตอบ คนตัวเล็กกว่ารีบผลักคนตัวสูงให้ออกห่างแล้วไล่ให้ไปนั่งที่เก้าอี้อีกตัวที่อยู่ตรงกันข้าม เพราะในตอนนี้น้ำย่อยในกระเพาะอาหารเริ่มจะส่งเสียงประท้วงขึ้นมาแล้ว แม้อันที่จริงการกระทำดังกล่าวจะเป็นไปเพื่อปกปิดอาการเขินของตัวเองก็ตาม

อาหารถูกนำมาจัดวางที่โต๊ะเรียบร้อย พวกเขาทั้งคู่จึงเริ่มลงมือจัดการหยิบวัตถุดิบต่างๆ ลงในหม้อชาบูที่น้ำกำลังเดือดทันที ควันสีขาวโพยพุ่งขึ้นมาเป็นระยะ ทั้งสองเริ่มรับประทานอาหารเมื่อเห็นว่าสิ่งที่ใส่ลงไปเริ่มสุกก่อนจะเริ่มพูดคุยกัน

"เธอ มีเรื่องอยากถามหน่อยอะ” กันต์เอ่ยปากบอกเมื่อกลืนหมูที่เพิ่งเคี้ยวอยู่เมื่อครู่ลงคอไปด้วยน้ำเสียงที่ดูไม่ค่อยมีความมั่นใจสักเท่าไหร่นัก

“อะไรเหรอ” บุ๊คถามกลับพลางมองตาอีกฝ่ายด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสนใจ

“เธอว่า เธอจะพร้อมเปิดเผยความสัมพันธ์ของพวกเราให้คนอื่นรู้ไหม” คนตัวเล็กเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวล

            คนพี่นิ่งไปครู่หนึ่งเพื่อใช้ความคิด “เอาจริงก็ยังไม่ค่อยแน่ใจอะ มันก็ดูจะเป็นเรื่องส่วนตัวของเราสองคนปะ แล้วมันก็เพิ่งจะเริ่มด้วย...”

            “...”

            “ถ้าเกิดว่าเราเปิดตัวกันไป กลัวว่าจะทำให้หนูลำบาก รู้ว่าจะต้องเผชิญกับอะไรบ้าง”

            “กลัวทำให้หนูลำบาก หรือกลัวทำให้ตัวเองลำบากกันแน่”

            “...”

            อึ่ก! 

            บุ๊คถึงกับสะอึกเมื่อถูกคนตัวเล็กกว่าสวนกลับ เขารู้ดีว่าสิ่งที่พูดออกไปไม่ใช่เหตุผลที่แท้จริง แต่ก็ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะจับได้แบบคาหนังคาเขาขนาดนี้

            “เอ่อ... คือ”

กันต์ลอบถอนหายใจก่อนจะเอ่ยพูดต่อ “หนูเข้าใจนะ มันยังทำตัวไม่ถูกแหละ ก็เข้าใจได้”

“ขอโทษนะ” สีหน้าของบุ๊คดูไม่ค่อยดีนัก

“ไม่ต้องขอโทษแล้ว เอาเวลาไปเตรียมตัวพี่ให้พร้อมเถอะ หนูไม่รู้หรอกว่าวันไหนพี่จะกล้าเปิดเผยความสัมพันธ์ของเรา ที่ผ่านมาหนูก็ยอมรับนะว่ามีบ้างที่ต้องคอยซ่อนความรู้สึกตัวเองเอาไว้ แต่ในเมื่อเราตกลงกันแล้วว่าจะเป็นแฟนกัน มันก็ไม่ใช่เรื่องน่าอายอะไรสักหน่อยที่บอกข่าวดีให้คนรอบตัวเราได้รู้อะ”

“หนูโกรธใช่ไหม”

“น้อยใจมากกว่า”

“ขอเวลาอีกนิดนะ”

“ตามสะดวกเลย รอมาตั้งนานละ รอต่ออีกนิดจะเป็นไรไป” กันต์ยกยิ้มบาง แม้ในใจจะรู้สึกหน่วงๆ จากความน้อยใจก็ตาม แต่เรื่องแค่นี้ก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับบุ๊คจะไปต่อไม่ได้ อาจจะต้องใช้เวลาในการปรับตัวเข้าหากันสักหน่อย ต่อไปคงค่อยๆ ดีขึ้น

“ขอบคุณนะครับ” คนพี่เอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงอ้อนและรอยยิ้มกว้าง

ทำเอาคนน้องหัวใจเต้นแรงขึ้นมาในทันทีเมื่อได้เห็นใบหน้าของอีกฝ่าย เขาค่อนข้างแพ้รอยยิ้มกับความขี้อ้อนของบุ๊คเป็นอย่างมาก เห็นทีไรก็ทำให้หัวใจของเขาอ่อนระทวยได้ทุกที

“หนูจะรอวันที่เราสามารถอยู่ด้วยกันได้อย่างเปิดเผยแล้วก็ไม่ต้องหลบซ่อนอะไรนะ”

            บุ๊คยกยิ้มแผ่วๆ “ขอบคุณจริงๆ นะที่เข้าใจ พี่จะพยายามให้ดีที่สุด เพื่อเราสองคนนะ”

            “ครับ... เอ้อ! มีเรื่องหนึ่งอยากขออะ” กันต์เอ่ยบอกเมื่อนึกขึ้นมาได้

“อะไรครับ”

“เธอกลับมาแทนตัวเองว่าพี่ได้ไหม... ถ้าให้หนูแทนตัวเองว่าหนู มันดูเหมาะกับคำว่าพี่มากกว่า พี่กับหนู หนูกับพี่ไรงี้”

“เหรอ? ฉันกับเธอก็น่ารักดีออก”

“แต่มันประหลาดอะ หนูกับเธอ ฉันกับหนู ไม่ตลกเหรอ” คนตัวเล็กพูดพลางทำสีหน้างุนงงจนคิ้วแทบจะชนกัน

“อ่า...”

“หนูกับพี่นั่นแหละดีแล้ว”

“...”

“หรือจะให้แทนว่าหนูกับป๊าดีไหม ฮ่าๆ” กันต์แกล้งหยอกต่อ แต่ดูก็รู้ในทันทีว่าอีกฝ่ายไม่เอาด้วย สีหน้าของบุ๊คดูขยะแขยงทันทีที่ได้ยิน

“อี๋! ไม่เอาด้วยหรอกนะ พี่ก็พี่”

ครืดดด~!! 

            ระหว่างที่พวกเขากำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ก็มีเสียงโทรศัพท์ของบุ๊คดังขึ้น คนตัวสูงหันไปหยิบขึ้นมาดูจึงได้เห็นว่าเป็นสายเรียกเข้าจากเพ่อนร่วมงานคนสำคัญ

            “พี่ขอไปสายก่อนนะ สายนี้สำคัญจริงๆ”

“ครับ”

บุ๊คเดินออกไปที่ระเบียงหลังพูดจบ ส่วนกันต์พอกินเสร็จก็เดินไปนั่งรออยู่ในห้องนั่งเล่น เขาบังเอิญมองไปเห็นรูปถ่ายของคนพี่กับครอบครัวที่วางอยู่บนชั้นวางของที่ตั้งอยู่บริเวณมุมห้อง เขารู้ดีว่าในตอนนี้คนพี่กำลังพยายามจัดการความรู้สึกและความรับผิดชอบที่มีในชีวิต ครอบครัวคงเป็นส่วนยากที่สุดที่คนพี่จะจัดการได้ เพราะดูๆ เหมือนอีกฝ่ายจะเป็นลูกชายคนเดียวด้วยซ้ำ คงต้องใช้เวลาในการจัดการตัวเองอีกพักใหญ่ แต่ในขณะเดียวกันเขาเองก็รู้สึกกังวลเพราะไม่รู้ว่าจะต้องรอไปอีกนานแค่ไหน

หลังจากที่คนตัวสูงเดินออกไปรับโทรศัพท์ที่นอกระเบียงแล้วเดินกลับเข้ามาในห้องนั่งเล่น กันต์มองจ้องไปที่บุ๊คด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยกอนะจเอ่ยปากถาม “ทุกอย่างโอเคไหม?”

“อื้อ! เรื่องงานนิดหน่อย แต่จัดการได้ ไม่ต้องห่วง”

“สู้ๆ นะพี่ อย่าเอาแต่คิดเรื่องงานแล้วลืมเรื่องของเรานะ”

คนพี่ขยับเดินเข้ามาใกล้พลางยกมือขึ้นลูบหัวอีกฝ่ายก่อนจะหย่อนตัวนั่งลงข้างๆ “พี่ไม่เคยลืมเรื่องหนูนะ พี่แค่ต้องการเวลาอีกสักหน่อย เพื่อที่จะทำทุกอย่างให้ดี พี่ไม่อยากให้หนูต้องมาเจออะไรแย่ๆ อะ คนรอบตัวหนูอาจจะไม่เท่าไหร่ แต่พี่ไม่แน่ใจเลยว่าถ้าคนรอบตัวพี่รู้เรื่องระหว่างเรา จะมีท่าทียังไง โดยเฉพาะที่บ้านพี่อะ ไม่อยากให้หนูต้องรับมือกับความรู้สึกแย่ๆ เพราะถ้ามันเป็นแบบนั้นพี่ก็คงเสียใจไม่น้อย

“หนูเชื่อในตัวพี่นะ สัญญาว่าจะอยู่ข้างๆ เสมอ ไม่ว่าพี่จะต้องเจอกับเรื่องอะไร หนูจะไม่ทิ้งพี่แน่นอน”

พูดจบทั้งสองคนก็จ้องตากันนิ่ง ในห้วงเวลานั้นทุกอย่างเงียบลงจนทั้งคู่เหมือนกับจะได้ยินเสียงหัวใจของกันและกันเต้นเป็นจังหวะถี่เร็ว ใบหน้าของทั้งสองคนเคลื่อนเข้ามาใกล้กันมากขึ้นทีละนิด ทีละนิด จนปลายจมูกเริ่มแตะสัมผัสกัน ริมฝีปากของบุ๊คบรรจงกดลงบนริมฝีปากของกันต์ แต่ยังไม่ทันจะได้ไปต่อก็ถูกขัดจังหวะขึ้นเสียก่อน

ก๊อกๆๆ!!

เสียงเคาะประตูดังขึ้นทำเอาคนทั้งสองสะดุ้งก่อนจะหันไปมองที่บานประตูนั้น บุ๊คตัดสินใจเดินไปเปิดประตูจึงได้พบกับใบหน้าที่คุ้นเคย

“ขอพี่เข้าไปได้ปะ” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นที่หน้าประตู 

“ได้ แต่มีเพื่อนอยู่ด้วยนะ”

พอเจ้าของห้องอนุญาต แขกผู้มาเยือนก็เดินแทรกเข้ามาใน้ห้องทันที กันต์หันหน้าไปมองจึงเห็นว่าแขกคนนั้นคือใคร

“อ้าว หวัดดีครับพี่บอส” คนน้องรีบยกมือไหว้ทันที เพราะคนตรงหน้าคือผู้จัดการส่วนตัวคนใหม่ของบุ๊ค ซึ่งพวกเขาก็รู้จักและคุ้นเคยกันอยู่บ้าง จากที่เคยได้เจอกันตามงานอยู่สองสามครั้ง

“เอ้า! ก็นึกว่าใคร เห็นเจ้าบุ๊คมันบอกว่ามีเพื่อนอยู่ด้วย”

“กันต์เองงง! แล้วนี่พี่บอสมาทำไรครับ”

“พอดีจะมาคุยเรื่องงานหน่อย มีลูกค้าดีลมา รายละเอียดมันเยอะ แล้วผ่านมาแถวนี้พอดี เลยแวะเข้ามาคุยกันให้รู้เรื่องไปเลย”

“อ่อครับ”

“โทษทีนะ มารบกวนเวลาส่วนตัวหรือเปล่าเนี่ย แต่อันนี้งานด่วนจริง ขอเวลาแป๊บเดียว”

“ไม่เป็นไรพี่ นั่งเลยๆ” 

กันต์รีบลุกขึ้นแล้วผายมือให้บอสนั่งลงส่วนตัวเองเดินหายเข้าไปในครัวเพื่อจะไปหยิบน้ำดื่มมาเสิร์ฟต้อนรับแขกสักหน่อย ส่วนบุ๊คก็เดินมานั่งลงที่โซฟาอีกฝั่ง เขาพยายามที่จะทำตัวให้เป็นปกติ แต่เป็นคนน้องเองที่รู้สึกไม่สบายใจ เขารู้สึกกระอักกระอ่วนไม่น้อยแถมยังรู้สึกว่าตัวเองกำลังเป็นส่วนเกินในสถานการณ์นี้

คนตัวเล็กเดินออกมาจากในครัวพร้อมน้ำดื่มสองแก้ว เขาวางลงบนโต๊ะหน้าโซฟาแล้วยิ้มแห้ง ก่อนจะตัดสินใจเอ่ยพูดออกมา 

“เอ่อ... กันต์ว่า.. กันต์กลับก่อนดีกว่า ไม่อยากรบกวน” คนน้องเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวล

บุ๊คหันมามองหน้าอีกฝ่าย แววตาซ่อนความเสียใจเอาไว้เล็กน้อย “รอก่อนได้ไหม พี่คุยงานแป๊บเดียว เรายังมีเรื่องที่ต้องคุยกันต่อนะ”

อันที่จริงก็ไม่ได้มีเรื่องสำคัญอะไรที่อยากจะคุยต่อนักหรอก แต่ไอ้กิจกรรมที่ทำค้างไว้เมื่อครู่นี่สิที่มันเป็นประเด็นสำคัญที่คนพี่ยังไม่อยากให้คนน้องกลับออกไปต่างหาก

“ไม่เป็นไรพี่ ไว้ค่อยคุยกันวันหลังก็ได้” กันต์ยกยิ้มอย่างมีเลศนัย

คนตัวเล็กเดินออกจากคอนโดของคนพี่ด้วยความรู้สึกที่สับสนอีกครั้ง มันว้าวุ่นแบบแปลกๆ ถึงแม้ว่าจะตกลงเป็นแฟนกันแล้วแต่เขาก็รู้สึกว่าความสัมพันธ์ของพวกเขายังคงอยู่ในช่วงที่ต้องเผชิญบททดสอบและความท้าทายอีกหลายด่านทีเดียว

ความเสียดายปรากฏชัดบนใบหน้าและแววตาของบุ๊คในขณะที่กันต์เดินออกจากห้องไป มันเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและเป็นกังวล กลัวว่าคุณผู้จัดการจะจับพิรุธเอาได้

ไม่ใช่ว่าเขาอยากจะปิดบัง เพียงแต่อยากจะรอเวลาที่พร้อมมากกว่านี้อีกสักหน่อย แล้วค่อยบอกความจริงให้ฟัง

หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจและส่งพี่บอสกลับบ้าน บุ๊คก็มีเวลาได้นั่งคิดทบทวนถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เขารู้สึกว่าตนเองต้องทำอะไรสักอย่าง เพื่อไม่ให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาต้องเผชิญกับความยากลำบากมากกว่านี้ เขาจึงตัดสินใจว่าจะลองสู้ดูสักตั้ง แม้จะโดนด่าหรือตราหน้าจากผู้คนในสังคม เขาก็จะไม่สนใจอะไรอีกต่อไปแล้ว