เมื่อฟีเอลย้ายเข้ามาทำงานเป็นคนรับใช้ในคฤหาสน์แห่งหนึ่ง สิ่งที่เขาไม่รู้คือบ้านหลังนี้มีแต่วิญญาณ! แถมสถานที่เก็บดวงวิญญาณร้ายถูกทำลายลงด้วยฝีมือใครบางคนอีก พวกเขาต้องล่าพวกมันกลับสู่ที่เดิม!

วุ่นนัก วิญญาณรักคอยสื่อใจ - บทที่ 4-2 เรื่องไม่คาดฝัน โดย ช่อกาญจน์ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,แฟนตาซี,ชาย-ชาย,รั้วโรงเรียน,ไทย,ผี,ปราบผี,วิญญาณ,รักวัยรุ่น,โรงเรียน,วายแฟนตาซี,แฟนตาซี,รัก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

วุ่นนัก วิญญาณรักคอยสื่อใจ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,แฟนตาซี,ชาย-ชาย,รั้วโรงเรียน,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ผี,ปราบผี,วิญญาณ,รักวัยรุ่น,โรงเรียน,วายแฟนตาซี,แฟนตาซี,รัก

รายละเอียด

วุ่นนัก วิญญาณรักคอยสื่อใจ
 โดย ช่อกาญจน์ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เมื่อฟีเอลย้ายเข้ามาทำงานเป็นคนรับใช้ในคฤหาสน์แห่งหนึ่ง สิ่งที่เขาไม่รู้คือบ้านหลังนี้มีแต่วิญญาณ! แถมสถานที่เก็บดวงวิญญาณร้ายถูกทำลายลงด้วยฝีมือใครบางคนอีก พวกเขาต้องล่าพวกมันกลับสู่ที่เดิม!

ผู้แต่ง

ช่อกาญจน์

เรื่องย่อ

ชายหนุ่มกดกริ่งหน้าประตู พลางชะเง้อชะแง้เข้าไปในตัวบ้านหลังใหญ่ กดเรียกอยู่ 2-3 ครั้งก็มีเสียงตอบกลับมา


"ใครครับ"


"อะ เอ่อ ผมฟีเอล คอเทลครับ คนที่จะมาเป็นพ่อบ้าน..." เขาตอบกลับไปอย่างประหม่าเพราะไม่เห็นหน้าคนพูด


"อ้อ เข้ามาสิ" สิ้นเสียงคำสั่ง ประตูรั้วตรงหน้าก็ค่อยๆ เลื่อนเปิดออกทีละนิดอย่างเชิญชวน


ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะได้คิดอะไรไปมากกว่านี้ เขาก็ได้เห็นอะไรบางอย่างที่ชวนให้ขนลุกขนพองในขณะที่นัยน์ตาสีม่วงเบิกกว้างขึ้นมองดูภาพรางๆ ของใครบางคนที่อยู่ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นมาใต้ต้นไม้ใหญ่นั่น


ผมยาวสยายสีแดงเพลิงที่ปกคลุมใบหน้ารูปไข่ขาวซีดกับชุดวันพีชสีขาวที่ยาวไปถึงเข่า ดูจากรูปร่างแล้วอายุน่าจะพอๆ กับชายหนุ่ม


"เจ้า เป็น ใคร น่ะ...มนุษย์ เหรอ...อยาก ไป อยู่ กับ ข้า ไหม ล่ะ" บวกกับเสียงที่ฟังดูเย็นยะเยือกจนชวนให้ขนลุกซู่กับคำพูดที่ฟังดูเอื่อยๆ เหมือนกับว่าติดขัดอะไรบางอย่าง แค่นั้นก็พอที่จะทำให้ชายหนุ่มที่ยืนตาค้างด้วยรู้แล้วว่า สิ่งที่ยืนอยู่ตรงหน้าของเขานั้นไม่ใช่คน แต่เป็น.. วิญญาณ!

สารบัญ

วุ่นนัก วิญญาณรักคอยสื่อใจ -บทที่ 1-1 คฤหาสน์พิศวง,วุ่นนัก วิญญาณรักคอยสื่อใจ -บทที่ 1-2 คฤหาสน์พิศวง,วุ่นนัก วิญญาณรักคอยสื่อใจ -บทที่ 2-1 เจ้านายทั้งสาม,วุ่นนัก วิญญาณรักคอยสื่อใจ -บทที่ 2-2 เจ้านายทั้งสาม,วุ่นนัก วิญญาณรักคอยสื่อใจ -บทที่ 3-1 ประธานนักเรียนคนใหม่,วุ่นนัก วิญญาณรักคอยสื่อใจ -บทที่ 3-2 ประธานคนใหม่,วุ่นนัก วิญญาณรักคอยสื่อใจ -บทที่ 4-1 เรื่องไม่คาดฝัน,วุ่นนัก วิญญาณรักคอยสื่อใจ -บทที่ 4-2 เรื่องไม่คาดฝัน

เนื้อหา

บทที่ 4-2 เรื่องไม่คาดฝัน

"ว้ากกก วอร์เซลนี่มันอะไรกันเนี่ย!?" ร่างเล็กของเด็กหนุ่มวิ่งข้ามผ่านธรณีประตูเข้ามาในห้องรับแขกอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของเขาแสดงความตื่นตระหนกออกมาอย่างเห็นได้ชัด

"หืม...มีอะไรเหรอ?" ชายหนุ่มเจ้าของนามเงยหน้าขึ้นจากหนังสือในมือ

"ก็ไอ้เจ้าตัวเนี้ย มันอะไรกัน!?" ฟีเอลถามแล้วชี้ไปที่ตัวประหลาด 2 ตัวที่เกาะไหล่เขาอยู่ด้วยความสงสัย วอร์เซลมองที่ไหล่ซ้ายและขวาก็เห็นเป็นก้อนกลมๆ ขนาดเล็กเท่าฝ่ามือ เต็มไปด้วยไอสีดำจนแทบมองไม่เห็นรูปร่างลักษณะ แลดูเลือนราง กะพริบติดๆ ดับๆ เหมือนหลอดไฟ แล้วตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย เหมือนไม่ทุกข์ร้อนอะไร

"ก็...วิญญาณ 2 ตัว"

"ห๊ะ ผะ...ผีงั้นเหรอ!?" ฟีเอลหน้าซีดขึ้นมา ตั้งท่าจะวิ่งหนีต่อ แต่แล้วก็หยุดชะงักลง "เดี๋ยวก่อนสิ ทำไมฉันถึงมองเห็นมันได้ล่ะ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เห็นแม้แต่วี่แวว แถมยังเป็นตอนกลางวันอีก"

"อาจเป็นเพราะว่านายได้รับพลังมาจากพวกเราก็ได้"

"พลังอะไร?"

"พลังในการมองเห็นวิญญาณน่ะ ที่จริงพวกเรามีพลังแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆ แล้วล่ะ การที่คนอื่นเหยียบย่างเข้ามาในเขตของบ้านหลังนี้หรือสัมผัสกับตัวพวกเราที่มีพลังวิญญาณ หรือว่าอยู่ใกล้ๆ ตัวพวกเรามากเกินไป คนนั้นก็จะสามารถมองเห็นวิญญาณเหมือนกันได้ยังไงล่ะ แต่อาจจะเป็นแค่เสี้ยววินาทีนึงก็ได้นะ" วอร์เซลอธิบาย

"แต่ฉัน...ไม่อยากมองเห็นเจ้าพวกนี้นี่" ฟีเอลโอดครวญ ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้

"งั้นนายก็ลาออกจากบ้านหลังนี้ซะสิ" เวย์ทิสพูด เดินเข้ามาในห้องรับแขกพร้อมกับวาเลียสก่อนที่เขาจะหย่อนก้นลงนั่งกับพื้นโซฟาแล้วพูดขึ้นด้วยนํ้าเสียงที่เรียบเฉยว่า "คนรับใช้ก่อนหน้านี้ก็ลาออกด้วยเหตุผลเดียวกับนายนั่นแหละ ถ้านายจะลาออกก็เชิญออกได้ตามสบาย ไม่มีใครห้ามนายอยู่แล้วนี่"

"ใครว่าฉันจะลาออกกัน!" ฟีเอลตะโกนขึ้นมาอย่างเหลืออด "วอร์เซล! ฉันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ พวกนายกินอาหารกันได้เลยนะ ฉันเตรียมไว้ให้แล้ว" เขาบอกและเดินออกจากห้องรับแขกไป

"ฮึ นายนี่ก็เก่งเหมือนกันนะเวย์ทิส รู้จักพูดไม่ให้ฟีเอลลาออกได้ด้วย" วาเลียสบอกอย่างชื่นชม

"แล้วใครว่าฉันอยากให้เจ้าหมอนั่นอยู่บ้านหลังนี้กันล่ะ"

"อ้าว? นี่นาย ไม่ได้พูดเล่นหรอกเหรอ" วาเลียสหน้าเหวอ เหล่มองวอร์เซลเหมือนขอความเห็น แต่อีกฝ่ายเพียงยักไหล่เบาๆ

...หนอยย! คิดจะให้ฉันลาออกจากบ้านหลังนี้งั้นเหรอ? ไม่มีวันซะหรอก ฉันไม่มีวันยอมแพ้นายเด็ดขาดเวย์ทิส! และฉันก็ไม่มีวันยอมแพ้เจ้าวิญญาณพวกนี้ด้วย!


+ - + - + - + - +


"เฮ้อ..." ฟีเอลนอนทับแขนที่วางเหยียดบนโต๊ะแล้วถอนหายใจอย่างปลงตกกับเหตุการณ์เมื่อเช้าที่เขาเจอที่บ้านหลังนั้น เขาแทบจะล้มเลิกความคิดที่อยากรู้แล้วว่าบ้านหลังนี้มีอะไรซ่อนอยู่ เพราะแต่ละเรื่องที่เขาเจอมักเป็นเรื่องที่เขาไมเคยคิดจะพบเจอที่ไหนเลยด้วยซ้ำ

"เป็นอะไรรึเปล่าฟีเอล หมู่นี้นายดูเหนื่อยๆ นะ" โคซิสชะโงกหน้าข้ามโต๊ะมาถามหลังจากได้ยินเสียงถอนหายใจของเพื่อนสนิทที่นอนนิ่งกับโต๊ะเรียน ไม่ร่าเริงเหมือนเคย

"เอ่อ...ก็ไม่เชิงหรอกนะ"

เด็กหนุ่มตอบแบบกำกวม ดึงตัวขึ้นจากโต๊ะ บิดขี้เกียจเล็กน้อยพลางคิดแบบคนต่อมน้ำตาจะแตก ...น่าจะบอกว่าทะเลาะกับเจ้านายและวิ่งหนีพวกผีมากกว่าถึงจะถูก

โคซิสมองคนที่เท้าคางกับโต๊ะนักเรียนแบบเหม่อๆ แล้วก็ไม่ถามอะไรต่อ ก่อนจะนึกอะไรขึ้นมาได้จึงเปลี่ยนเรื่องถาม "นายได้ยินข่าวหรือยังฟีเอล"

"ข่าวอะไรเหรอ" เขาเอ่ยถาม ไม่ได้มีท่าทางสนใจอะไรมากนัก วันๆ ไม่ปวดหัวเรื่องเรียน ก็ปวดหัวเรื่องเจ้านายเขานี่แหละ จะไปสนใจข่าวที่ไหนกัน

"ข่าวที่ว่านักเรียนหญิงห้องเราหายตัวไป 2 คนน่ะสิ"

"หายตัวไป!" ฟีเอลร้องอย่างตกใจ หันมองเพื่อนที่ทรุดตัวลงนั่งข้างๆ ขวับ "เกิดอะไรขึ้น?"

"ไม่รู้สิ เห็นหลายๆ คนคุยกัน บอกว่ามีคนหายตัวไปเมื่อวาน"

"เป็นการเข้าใจผิดหรือเปล่า พวกเธออาจจะหนีออกจากบ้านก็ได้..."

ฟีเอลแย้ง นัยน์ตาสีม่วงมีแววสงสัย

"ตอนแรกฉันก็คิดเหมือนนาย" โคซิสบอก มองซ้ายมองขวานิดนึงก่อนชะโงกหน้าเข้ามาใกล้ เอ่ยเสียงกระซิบติดเครียด ""แต่ฟังไปเรื่อยๆ ก็รู้ว่าเมื่อตอนกลางดึกมีคนเห็นพวกเธอไลฟ์สดอยู่ที่โรงเรียน..."

"ไลฟ์สด? ถ่ายคลิปวิดีโอออนไลน์เหรอ"

"ใช่ ไลฟ์สดเมื่อคืนนี้ แถมทางผู้ปกครองนักเรียนก็แจ้งให้ตำรวจออกไปค้นหาทุกซอกทุกมุมทุกสถานที่ที่คาดว่าพวกหล่อนจะไปแล้ว แต่ก็ยังหาไม่เจอ และที่แปลกกว่านั้น เมื่อเช้า ตอนที่ภารโรงมาเปิดประตูโรงเรียน เขาก็เจอกับไอ้นี่...กล้องวิดีโอ"

โคซิสพูดพลางยกมือถือที่แอบถ่ายภาพมาจากเหตุการณ์เมื่อเช้าได้ ฟีเอลยื่นหน้าเอาไปมอง ใกล้ซะจนหัวแทบเกยไหล่คนตัวสูงกว่า

"ไหนๆ" เด็กหนุ่มเลื่อนสายตามองภาพในจอมือถือ ขณะที่โคซิสยืนนิ่ง มองหัวทุยๆ สีน้ำตาลของเพื่อนชายคนสนิทที่ระวังตัวกับผู้ชายทุกคนยกเว้นกับเขาแล้วไม่รู้จะดีใจหรือร้องไห้ดี

ภาพที่ปรากฏในมือถือ เป็นภาพกล้องถ่ายวิดีโอสีดำมีร่องรอยขีดข่วนรอบตัวกล้อง หน้าจอแตกร้าว เลนส์กล้องโดนบิดแทบหักจากตัวกล้อง บ่งบอกถึงการตกกระแทกที่รุนแรง ดูรวมๆ แล้วไม่น่าจะกลับมาใช้งานได้อย่างเดิม

ฟีเอลละสายตาเมื่อโคซิสขยับตัวถอยห่างออกไป แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงสงสัย นัยน์ตาเคร่งเครียด "ฉันไม่เข้าใจเลย ทำไมพวกกรรมการนักเรียนต้องพากันปิดข่าวด้วยนะ"

"ปิดข่าวเหรอ?"


+ - + - + - + - +


ปัง!

ประตูห้องคณะกรรมการนักเรียนถูกผลักอย่างแรง พร้อมกับการปรากฏตัวของเด็กหนุ่มร่างเล็ก สีหน้าร้อนรน กระโจนตัวเข้ามาในห้องคณะกรรมการโดยไม่ได้สนใจอย่างอื่น นอกจากเรื่องราวที่ได้ยินมาจากเพื่อนสนิทเมื่อครู่

"วอร์เซล! เรื่องข่าวลือในโรงเรียน...."

"อ้าว...มาพอดีเลยฟีเอล ฉันกำลังอยากอยากเจอนายอยู่พอดี"

"เรื่องข่าวที่มีคนหายไป เป็นความจริงหรือเปล่า แล้วทำไมนายต้องปิดข่าวกับพวกผู้ปกครองด้วยเหรอ ทั้งที่นายก็รู้ว่าเจ้าของกล้องอันนี้เป็นของลูกพวกเขา แล้วนายจะปิดบังพวกเขาไปทำไมกัน" เด็กหนุ่มถามอย่างสงสัย

"ฟีเอล...นี่เป็นปัญหาภายในโรงเรียน เราไม่ต้องการดึงผู้ปกครองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เรื่องนี้พวกเราจะเป็นคนจัดการกันเอง" วอร์เซลบอกด้วยสีหน้าเคร่งขรึม "ฉันรู้ว่านายเป็นห่วงเพื่อนๆ ในห้องของนาย แต่อย่ากังวลไปเลย เดี๋ยวพวกเราสามคนจะจัดการเรื่องนี้กันเอง...นะ"

"นายคิดว่ายังไงวอร์เซล" อยู่ๆ เวย์ทิสก็ถามขึ้นมา ทำให้ฟีเอลเพิ่งสังเกตเห็นว่ารอบข้างไม่ได้มีแค่เขากับประธานนักเรียนแค่ 2 คน แต่ยังมีวาเลียส เวย์ทิส เจ้านายอีก 2 คนรวมอยู่ด้วย

มากันครบทีมเลยแฮะ ดีนะไม่มีคนอื่นนอกจากเจ้านายเขา ไม่งั้นไอ้ที่โวยวายไปเมื่อกี้คงอายจนแทบวิ่งหนี

"ฉันคิดว่าสองคนนั้นอาจจะหายตัวไปในระหว่างที่อยู่ในโรงเรียนนี้...."

วอร์เซลคาดคะเน เอนตัวพิงสะโพกกับโต๊ะประชุมตัวยยาวด้วยสีหน้าครุ่นคิด ขณะที่เวย์ทิสกับวาเลียสนั่งหน้าขรึมอยู่ฝั่งตรงข้ามเขา

"หายตัวไป ก่อนที่พวกหล่อนจะทำกล้องวิดีโอตกเอาไว้" วาเลียสเสริมขึ้นมา

"บางที...พวกเธออาจจะโดนลักพาตัวไปก็ได้นะ" ฟีเอลออกความเห็น

"ไม่หรอก จากที่ฉันตรวจสอบมาโรงเรียน ไม่มีร่องรอยจากการถูกงัดแงะเลย" เวย์ทิสบอก

"แล้วนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่มนักเรียนหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย..." คนเป็นประธานนักเรียนเอ่ยเสียงเรียบ "หลายปีมานี้มีนักเรียนหายตัวไปอยู่ครั้ง แต่ส่วนใหญ่เป็นเด็กมีปัญหา ที่ชอบก่อเรื่องไปทั่วทำให้หลายคนคิดว่าหนีออกจากบ้านแล้วไม่กลับมา"

"แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน" เวย์ทิสเอ่ยเสริม

"......." บรรยากาศเงียบกริบลงทันที

"เดี๋ยวก่อนนะ...หรือว่า!?" พูดค้างไว้แค่นั้นวอร์เซลก็รีบกระโจนออกไปจากห้องคณะกรรมการทันทีโดยมีร่างของชายหนุ่มอีก 3 คนวิ่งตามไปติดๆ อย่างไม่ยอมทิ้งระยะห่าง

"มีอะไรเหรอวอร์เซล อยู่ๆ ก็วิ่งออกมา" ฟีเอลถามหน้าตาตื่นพลางหอบหายใจ

"......." ชายหนุ่มไม่ตอบ มีเพียงสีหน้าของเขาเท่านั้นที่บ่งบอกถึงความตึงเครียดของเหตุการณ์


+ - + - + - + - +


ร่างของชายหนุ่มทั้ง 4 หยุดยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งในสวนดอกไม้ของโรงเรียน ดอกไม้หลากหลายพันธุ์ปลิ้วไสวไปตามสายลมของยามบ่าย มีเพียงลมหายใจหอบถี่ของพวกเขาเท่านั้นที่บ่งบอกถึงการมีตัวตนอยู่ในสวนแห่งนี้

"นี่นายคงไม่คิดว่า..."

"ใช่ อย่างที่นายคิดนั่นแหละเวย์ทิส"

"แต่จะเป็นไปได้ยังไงกัน ก็ในเมื่อ....." วาเลียสแย้งขึ้นมาก่อนที่เสียงนั้นจะเงียบหายไป

"งั้นพวกเราเข้าไปพิสูจน์กันไหมล่ะ" ว่าแล้วพวกเขา 3 คนก็เดินหายเข้าไปในต้นไม้ใหญ่เหมือนกับว่ามันเป็นประตูอีกด้านหนึ่งของพวกเขาในขณะที่ฟีเอลได้แต่ยืนมองตาค้างด้วยความตกใจอยู่ด้านนอก

"นายก็เข้ามาด้วยกันสิฟีเอล" วาเลียสโผล่หน้าออกมาพร้อมกับเอื้อมมือไปดึงแขนคนที่ยืนงงอยู่

"ดะ เดี๋ยวก่อนสิวาเลียส...อ้าว?" เมื่อร่างบางผ่านช่องว่างเข้ามาก็ร้องอุทานด้วยความแปลกใจและงุนงงเป็นที่สุด ก็จะไม่ให้แปลกใจได้ยังไงเล่า ก็ที่ที่เขายืนอยู่ตอนนี้กับสถานที่ที่เขายืนอยู่ก่อนหน้านี้มันเหมือนกันราวกับถอดแบบมา เพียงแต่สถานที่นี้ไม่มีสายลมพัดผ่าน ไม่มีกลิ่นหอมของดอกไม้ มีเพียงแต่ความหยุดนิ่งของสิ่งต่างๆ ที่อยู่ในที่นี่เท่านั้น

"เป็นอย่างที่ฉันคาดไว้ไม่มีผิด" วอร์เซลพูดเสียงเข้มด้วยความโมโห

"ใครกันที่ทำเรื่องแบบนี้" เวย์ทิสมีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาอีกคน

"อะ เอ่อ พูดเรื่องอะไรกันเหรอ?" ฟีเอลโผล่หน้าเข้ามาถามด้วยความสงสัยกับท่าทางของแต่ละคน

"มีคนลอบเข้ามาในนี้แล้วทำลายโฮลเพื่อปลดปล่อยดวงวิญญาณร้ายน่ะสิ!"

"มีคนลอบเข้ามาในนี้แล้วทำลายโฮลเพื่อปลดปล่อยดวงวิญญาณร้ายน่ะสิ" วาเลียสบอก

"โฮล? ปลดปล่อยดวงวิญญาณ? อะไรเหรอ" ร่างบางมีสีหน้างงกว่าเดิม

"นายเห็นไอ้นั่นรึเปล่า?" วาเลียสถามพลางชี้ไปที่ประตูบานนึงที่มีสีดำสนิท ตั้งอยู่ด้านหน้าไม่ห่างจากตัวพวกเขามากนัก มีเพียงลูกบิดประตูที่หลุดหายไป เกิดเป็นช่องเล็กๆ ที่แทบไม่สังเกตเห็น แต่ก็ทำให้มองเห็นอากาศภายในที่เต็มไปด้วยกลุ่มควันสีขาวจางๆ รูปร่างของมันหมุนวนไปมาเป็นวงกลม เดี๋ยวเป็นรูปร่างคน เดี๋ยวเป็นใบหน้า ปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ไม่แน่นอน

ฟีเอลพยักหน้ารับพลางจ้องมองมันนิ่ง

"นั่น...พวกเราเรียกกันว่า 'โฮล' " วอร์เซลเอ่ยแล้วเริ่มอธิบาย

"โฮลเป็นช่องว่างที่มีขนาดใหญ่และกว้างขวาง พวกเราจำเป็นต้องมีมันไว้เพื่อกักขังดวงวิญญาณร้ายที่ไม่ยอมไปผุดไปเกิด หรือพวกวิญญาณที่ไม่ยอมหมดห่วง วางความแค้นได้สักที ได้แต่หลบพนีพวกยมทูตแล้วไปทำความเดือดร้อนให้คนอื่น แต่อีกนัยนึงพวกเราก็ต้องดูแลรักษาไม่ให้มันถูกทำลายหรือเกิดรอยร้าวได้..."

เมื่อฟังถึงตอนนี้ฟีเอลก็หนาวเยือกในกาย

"ไม่อย่างนั้น พวกดวงวิญญาณที่อาฆาตแค้นเหล่านี้จะกลับไปยังสถานที่ที่ตนเพิ่งตายแล้วพยายามจะคร่าชีวิตทุกคนที่ผ่านเข้าไปใกล้สถานที่แห่งนั้น" วอร์เซลอธิบาย นัยน์ตาสีฟ้าดูเป็นกังวล

"แต่ว่า...ตอนนี้ 'โฮล' ถูกถูกทำลายแล้ว" เวย์ทิสบอกข้อเท็จริงที่พวกเขาเองก็รู้ ชายหนุ่มกอดอกมองบานประตูตรงหน้า "ฉันคิดว่าบางทีเจ้าวิญญาณพวกนั้น อาจจะกำลังกลับไปยังสถานที่ที่พวกเขาตายก็ได้นะ"

"ละ แล้วอย่างนี้เราจะจัดการกับพวกนั้นยังไงล่ะ?" ฟีเอลถามเสียงสั่นๆ เริ่มตื่นตระหนกเมื่อเห็นถึงความวุ่นวายที่จะตามมา

"ถ้าเราเจอพวกมัน ขั้นแรกก็ต้องลองเกลี้ยกล่อมก่อน ถ้ายอมฟังก็ดีไป แต่ถ้าไม่ยอม...ก็คงต้องกำจัดทิ้ง"

น้ำเสียงนั้นเยือกเย็นพอที่จะทำให้ฟีเอลรู้สึกขนลุกซู่ด้วยความหวาดกลัว "ฆะ ฆ่าผีน่ะเหรอ?"

"ใช่ เพราะวิญญาณพวกนี้เป็นวิญญาณทั่วไปที่ยังมีห่วง มีความแค้นที่ต้องชำระแค้นให้เสร็จสิ้นก่อน พอหมดห่วงก็จะไปเอง แต่ถ้าไม่ยอมก็ต้องจำกัดทิ้ง เพราะถ้าไม่ทำพวกมันจะตามฆ่าพวกเราและไปทำร้ายคนอื่นๆ ..."

วอร์เซลพูดด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง จ้องมองเด็กหนุ่มอย่างบอกเป็นนัยๆ ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก

"เรื่องนี้คงต้องบอกให้พวกดาเรียสรู้..." เวย์ทิสเปรยขึ้นมาเมื่อเห็นทุกคนเงียบ

ดาเรียสเหรอ? ชื่อคุ้นๆ แฮะ... ฟีเอลนิ่งคิดก่อนจะนึกขึ้นได้ถึงชายหนุ่มผมแดงที่เขาเจอครั้งแรกที่บ้านแห่งนั้น แต่...เขาไม่ใช่คนนี่นา

"เดี๋ยวนะ หรือว่า...การที่โฮลถูกทำลายกับการที่นักเรียนคนอื่นๆ หายตัวไปจะเกี่ยวข้องกัน" วาเลียสออกความเห็นหลังจากคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

"......." บรรยากาศกลับไปตึงเครียดขึ้นมาอีกครั้ง

"แล้วนายจะทำยังไงต่อไปวอร์เซล?" เวย์ทิสถามขึ้นมา

"ก็ต้องรอดูเหตุการณ์ไปก่อน" เขาบอกพลางใช้ความคิด "ยังไงพวกเราก็ออกไปจากที่นี่ก่อนเถอะ แล้วก็คอยจับตาดูนักเรียนคนอื่นๆ ด้วยนะ เผื่อมีใครน่าสงสัยและเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ การที่ประตูกักวิญญาณเป็นแบบนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่"

พวกเขาหยักหน้ารับคำและเดินออกมาจากสถานที่แห่งนั้น โดยไม่ได้สังเกตร่างหนึ่งในความมืดที่ยืนอยู่ใต้เงาต้นไม้ ไม่ไกลกันมากนัก

ร่างนั้นแทบจะกลมกลืนไปกับความมืดของใต้เงานั้น เส้นผมสีดำสนิทปลิวไปตามสายลมขณะที่นัยน์ตาสีแดงเพลิงจ้องมองตามพวกเขาไป ริมฝีปากฉีกยิ้มหยันออกมาอย่างดูถูก "คิดว่าจะหาตัวฉันเจองั้นเหรอ มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกนะ"

บุรุษร่างสูงใต้เงานั้นมองอย่างหมายมาดก่อนจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย


+ - + - + - + - +


หลังจากเหตุการณ์วันนั้นไม่กี่วันถัดมา ทุกคนก็ยังไม่ได้วางใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถึงแม้จะไม่มีใครหายตัวไปอีกแต่ทางโรงเรียนก็ยังคงปิดข่าวกับโลกภายนอกโดยขอจัดการเองในเวลา 7 วัน ซึ่งก็ผ่านมา 3 วันแล้วแต่ตำรวจก็ยังไม่มีความคืบหน้าอะไรแต่ก็ยังค้นหาผู้สูญหายอย่างต่อเนื่อง

ระหว่างทางที่วอร์เซลและเอลริสกำลังเดินกลับไปห้องคณะกรรมการนักเรียน เพื่อจัดการเอกสารที่ได้รับการอนุมัติจากผู้อำนวยการโรงเรียนต่อ คนเป็นประธานนักเรียนก็อดครุ่นคิดถึงเรื่องเมื่อวันก่อนไม่ได้

หลังจากที่ชายหนุ่มบอกเรื่อง ‘โฮล’ กับดาเรียส ผู้ทำหน้าที่เป็นยมทูตเก็บวิญญาณเรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็บอกว่าจะช่วยจัดการอีกแรง แต่จัดการอย่างไรนั้นเขาก็ไม่รู้รายละเอียดนัก แต่ทางนั้นก็ตกลงกันแล้วว่า หากเรื่องราวบานปลายถึงขั้นร้ายแรง ก็มอบสิทธิ์ให้พวกเขากำจัดวิญญาณร้ายตนนั้นได้เลยโดยไม่ต้องถึงมือพวกยมทูต ดีกว่าปล่อยให้ไปสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่นต่อ

ถ้าถามว่ามันดีไหม ก็คงเป็นทางที่ปลอดภัยสำหรับคนรอบตัวเขาที่สุดแล้วล่ะนะ

ระหว่างกำลังคิดว่าจะทำอย่างไรต่อดี เอลริสก็ยื่นแฟ้มรายงานสีน้ำเงินเข้มมาตรงหน้า แล้วเอ่ยประโยคที่ทำให้เขาหลุดจากภวังค์ความคิดว่า

"อันนี้งานกิจกรรมที่นายต้องรีบจัดการก่อนนะ..."

"งานอะไรเหรอเอลริส" วอร์เซลรับแฟ้มมาด้วยสีหน้างุนงง เหมือนยังเรียบเรียงความคิดไม่ทัน

ชายหนุ่มกะพริบตาปริบๆ หลุดปากถามไปก่อนสมองจะประมวลผล ที่เขาต้องคอยถามสรุปจากเอลริสตลอด เพราะข้อมูลที่ได้รับมาในแต่ละวันนั้นเยอะเกินกว่าจะจำคนเดียวได้หมด

"อันนี้งานโรงเรียน ที่จะจัดขึ้นอาทิตย์หน้าไงล่ะ"

คนเป็นประธานนักเรียนหยุดชะงักฝีเท้า ก้มลงมองเอกสารในมือ ...ใกล้ถึงวันงานโรงเรียนแล้วสินะ

"มีอะไรเหรอ?" เอลริสร้องถามเมื่อเห็นคนข้างตัวยืนนิ่งไม่ขยับ

วอร์เซลเงยหน้า กำลังจะส่ายหน้าปฏิเสธก็นึกฉงนเมื่อสังเกตเห็นว่าทางที่พวกเขากำลังยืนอยู่เป็นเส้นทางลัดที่ช่วยร่นระยะทางระหว่างตึกได้เร็ว โดยปกติมักจะมีแต่พวกเด็กเกเรมานั่งเล่น แต่ตอนนี้ไม่มีใครอยู่เลย ซึ่งน่าแปลกกว่าปกติ "ทำไมช่วงนี้ไม่มีใครนั่งแถวนี้เลยล่ะ"

"อ้อ รู้สึกว่าเดือนที่แล้วจะมีข่าวลือว่าแถวนี้มีผีออกมาอาละวาดน่ะสิ"

"ผีอาละวาด?"

"หลายคนเล่าว่าได้ยินเสียงคนร้องขอความช่วยเหลือแถวชานบันไดนี้ พอเข้าไปดูก็ไม่เจอใคร ได้ยินแต่เสียง พวกเขาก็เลยคิดว่ามีพวกผีออกมาหลอกน่ะ เลยไม่มีใครกล้ามาแถวชานบันได้นี้เลย"

วอร์เซลฟังคำอธิบายจากคนตรงหน้าแล้วคิดตาม ก่อนจะนึกอะไรขึ้นมาได้

"ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง ขอบใจนะเอลริสที่เล่าให้ฟัง" วอร์เซลบอกแล้วตบไหล่คนตรงหน้าที่ทำหน้างงก่อนจะเอ่ยต่อว่า "เดี๋ยวฉันมานะ ฝากเรื่องเอกสารกับนายด้วย"

"เดี๋ยวก่อน นั่นนายจะไปไหน" เอลริสร้องถามเมื่อเห็นวอร์เซลวิ่งกลับไปทางเดิมที่เดินมา นเป็นประธานนักเรียนหยุดชะงักแล้วหันมาเตือน

"นายอย่าเดินไปทางนี้เลย ไปใช้บันไดฝั่งโน้นดีกว่านะ ฉันขอแนะนำ" ว่าแล้วก็หันหลังกึ่งเดินกึ่งวิ่งจากไป

"เฮ้...เดี๋ยวก่อนสิ นี่นายเป็นประธานนักเรียนนะ มีความรับผิดชอบหน่อยสิ วอร์เซล!"

เด็กหนุ่มโวยวายแต่ก็ไม่ทันแล้ว เมื่อร่างของชายหนุ่มได้เดินหายลับไปกับมุมทางเดินฝั่งตรงข้ามเสียแล้ว

"ฮึย นี่ฉันเป็นรองประธานหรือเป็นประธานนักเรียนกันแน่นะ" เขาบ่นกับตัวเองก่อนที่จะหันไปมองบริเวณชานบันได แล้วเขาก็ได้เห็นอะไรบางอย่างที่คนอย่างเขาไม่น่าจะเห็นเข้าให้ เงาสีดำเริ่มแผ่ขยายออกมาจากกระจกหนาบานใหญ่...เรือนร่างของผู้หญิงค่อยๆ ปรากฏขึ้นมาราวกับมีตัวตนอยู่ตรงนั้น

"หืมม" เอลริสขยี้ตาตัวเองอย่างตกใจก่อนที่จะกะพริบตามองใหม่เหมือนไม่แน่ใจ เพราะตอนที่เขาเดินมาก็ยังไม่เห็นใครสักคน

แต่แล้ว...อยู่ๆ เงาร่างนั้นก็หายไปเหมือนไม่มีอะไรอยู่ตรงนั้น

"สงสัยคงจะตาฝาด ไปขึ้นฝั่งโน้นดีกว่า" เขาบอกแล้วเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองอีกเลย

"ฮึ ฮึ ฮึ เจ้า พวก มนุษย์ หน้า โง่"


+ - + - + - + - +


"ทุกคน ฉันรู้แล้ว" วอร์เซลหอบหายใจหลังจากวิ่งมาหยุดที่ห้องกรรมการนักเรียน ทั้งเวย์ทิสและวาเลียสมักจะมารวมตัวกันอยู่ที่นี่บ่อยๆ ซึ่งเป็นการดีที่พวกเขาจะหาตัวเจอกันง่ายหน่อย

"อะไรเหรอวอร์เซล?" วาเลียสเป็นเงยหน้าถามจากเกมตัวต่อที่เขาเล่นอยู่

"ฉันรู้แล้วว่าพวกนักเรียนหญิงหายไปที่ไหน"

"ที่ไหนกัน" ฟีเอลกับวาเลียสถามขึ้นมาพร้อมกัน

วอร์เซลเล่าถึงเหตุการณ์ที่เขารู้จากเอลริสให้คนอื่นๆ ฟัง พร้อมกับเสริมเหตุผลที่คิดว่าน่าจะเป็นไปได้มากที่สุดที่พวกนักเรียนหญิงหายตัวไปจะเกี่ยวข้องกับพวกวิญญาณที่หลุดรอดออกมาจากโฮลแล้วมาทำร้ายคนในโรงเรียน และการที่คนทั่วไปค้นหาแล้วไม่พบเจอร่างหรือร่องรอยอะไรเลย อาจเป็นเพราะพวกเธอถูกผีลักไปซ่อนไว้ที่สถานที่ใดที่หนึ่งหรือจะเป็นที่ที่วิญญาณตนนั้นตายก็ได้ ประจสบเหมาะกับที่โรงเรียนมีข่าวลือเรื่องผีๆ โผล่มาพอดี คนเป็นประธานนักเรียนจึงเดาว่านักเรียนหญิงทั้ง 2 คนหรืออาจจะมีคนมากกว่านั้น ถูกลักไปซ่อนที่ชายบันไดนั้นแน่ๆ

"อย่างนี้นี่เอง" วาเลียสพึมพำออกมา อดทึ่งกับการคาดเดาของคนเป็นพี่ชายไม่ได้

"แล้วนายคิดว่าจะเริ่มจัดการกับพวกวิญญาณนั่นเมื่อไหร่?" เวย์ทิสถาม นัยน์ตาสีฟ้าวาววับอย่างคนพร้อมออกล่า

"...." ฟีเอลได้แต่ยืนนิ่ง หน้าตาตื่นกับคำว่า ‘จัดการ’ ของเจ้านายทั้ง 3 คน ขณะที่วอร์เซลทำหน้าครุ่นคิดนิดนึงก่อนตอบเสียงหนักแน่นจนคนเป็นพ่อบ้านหนุ่มแทบทรุดลงไปนั่ง

"ฉันคิดว่าพวกเราจะเริ่มปฏิบัติการกัน...คืนนี้!"


+ - + - + - + - +