เมื่อเกิดใหม่อีกครั้งก็ยังไม่ได้ดั่งใจ ต่อจากนี้ไปจะขอลิขิตชะตาชีวิตด้วยตัวเอง

หนทางพลิกชะตาของตัวประกอบผู้เลอโฉม - ตอนที่ 2 ยาปลุกกำหนัด โดย มู่จิ่น 木槿 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,จีน,เกิดใหม่,ครอบครัว,ชาย-หญิง,ชีวิตใหม่ของอ้ายปิง ,ตัวประกอบที่จืดจาง,เกิดใหม่,นิยายรักจีนโบราณ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

หนทางพลิกชะตาของตัวประกอบผู้เลอโฉม

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,จีน,เกิดใหม่,ครอบครัว,ชาย-หญิง

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ชีวิตใหม่ของอ้ายปิง ,ตัวประกอบที่จืดจาง,เกิดใหม่,นิยายรักจีนโบราณ

รายละเอียด

หนทางพลิกชะตาของตัวประกอบผู้เลอโฉม โดย มู่จิ่น 木槿 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เมื่อเกิดใหม่อีกครั้งก็ยังไม่ได้ดั่งใจ ต่อจากนี้ไปจะขอลิขิตชะตาชีวิตด้วยตัวเอง

ผู้แต่ง

มู่จิ่น 木槿

เรื่องย่อ

พนักงานบริษัทธรรมดาๆ ที่ใช้ชีวิตหาเลี้ยงตัวเองและหาเงินมาซื้อนิยายอ่านไปวันๆ กลับต้องมาจบชีวิตลงเนื่องจากถูกลูกหลงคนยิงปืนขึ้นฟ้าในวันเคานต์ดาวน์ปีใหม่เป็นการเฉลิมฉลอง ในตอนแรกก็คิดว่าตัวเองตายไปแล้วแต่ไม่ใช่เพราะดวงวิญญาณเธอกลับเข้ามาอยู่ในร่างของเหรินอ้ายปิงตัวประกอบในนิยายเซตติ้งจีนโบราณที่ตัวเองอ่านค้างไว้ก่อนตายแบบงงๆ ที่ตอนเกิดว่าน่าสงสารไม่มีใครต้องการแล้วก็ยังมาตายอย่างน่าเวทนาเพราะความอิจฉาริษยาของคนอีก

แต่เพื่อเป็นการตอบแทนใครหรืออะไรก็ตามที่ทำให้ตัวเธอได้มีชีวิตอยู่ต่อแม้จะไม่ถูกที่ถูกทางต้องมาอยู่ในร่างของตัวประกอบที่จืดจางในนิยายที่เกิดมาแล้วตายไปแบบไร้คนเหลียวมองแต่หลังจากนี้ไปชโลธรตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะขอขีดชะตาชีวิตของเหรินอ้ายปิงเสียใหม่ด้วยหัวสมองและสองมือของเธอเอง

 

หมายเหตุ นิยายเรื่องนี้ไม่อิงประวัติศาสตร์ไม่ว่าจะ สถานที่ เหตุการณ์ หรือตัวบุคคลในเรื่องล้วนเกิดจากจินตนาการของผู้เขียนทั้งสิ้นค่ะ

 

กติกาการลงนิยาย

ลงเนื้อหาให้อ่านฟรีทั้งหมด 10 ตอนหลังจากนั้นจะติดเหรียญล่วงหน้า รายละเอียดดังนี้

1. ติดเหรียญล่วงหน้า 1 สัปดาห์

2. ปลดเหรียญอ่านฟรี 1สัปดาห์

3. หลังจากนั้นจะติดเหรียญถาวรราคาเต็มไปจนถึงตอนจบค่ะ

สารบัญ

หนทางพลิกชะตาของตัวประกอบผู้เลอโฉม-ตอนที่ 1 ความเจ็บไม่มีเสียง,หนทางพลิกชะตาของตัวประกอบผู้เลอโฉม-ตอนที่ 2 ยาปลุกกำหนัด,หนทางพลิกชะตาของตัวประกอบผู้เลอโฉม-ตอนที่ 3 เปลี่ยนชีวิตแค่พลิกฝ่ามือ,หนทางพลิกชะตาของตัวประกอบผู้เลอโฉม-ตอนที่ 4 สารพัดสารพันจะกลั่นแกล้ง,หนทางพลิกชะตาของตัวประกอบผู้เลอโฉม-ตอนที่ 5 คุณชายใหญ่กลับถึงเรือน,หนทางพลิกชะตาของตัวประกอบผู้เลอโฉม-ตอนที่ 6 ชีวิตใหม่ที่ไม่คุ้นชิน

เนื้อหา

ตอนที่ 2 ยาปลุกกำหนัด

คำเตือน : มีการบรรยายฉากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่เต็มใจ ขออภัยที่อาจทำให้คุณนักอ่านไม่สบายใจสามารถข้ามตอนนี้ไปได้ค่ะ

 

 

 

“จื่อหานเจ้าไปพักผ่อนเถิดไม่ต้องห่วงทางนี้ข้าจะดื่มน้ำแกงแล้วก็พักผ่อนเลยเหมือนกัน” คุณชายใหญ่ฟ่านไฉสั่งความกับคนสนิทที่ตามติดเขาไม่ต่างจากเงาตามตัว ในเวลานี้พวกเขาทั้งคู่ควรได้พักผ่อนเสียทีหลังจากที่เร่งรีบกับการควบม้ากลับมาให้ทันเวลาปิดประตูเมืองไม่เช่นนั้นคืนนี้คงต้องหาที่นอนกันที่ฝั่งนอกกำแพงไปอีกหนึ่งคืน

ทั้งคู่เพิ่งกลับมาจากการตรวจสอบความเรียบร้อยของร้านค้าสกุลฟ่านที่กำลังจะเปิดทำการในเมืองข้างๆ ที่อยู่ติดกับเมืองหลวงเพื่อขยายกิจการเตรียมไว้ให้บรรดาน้องชายแยกกันไปดูแลเมื่อถึงเวลาอันสมควรในภายภาคหน้าส่วนตัวฟ่านไฉที่เป็นพี่ชายคนโตแน่นอนว่ากิจการจำหน่ายแพรพรรณในเมืองหลวงย่อมเป็นของเขาโดยไร้ข้อกังขา

แต่ในเมื่อกิจการหลักของครอบครัวมั่นคงดีแล้วก็จำเป็นต้องขยายกิจการเพื่อเตรียมการเอาไว้ให้สำหรับน้องๆ ทั้งหมดของตนเองโดยในระยะสองถึงสามปีหลังมานี้คุณชายใหญ่ฟ่านมุมานะพยายามเพื่อที่จะวางรากฐานกิจการร้านค้าเอาไว้ให้น้องๆ ทุกคนของตนเองไม่ว่าจะเป็นสตรีหรือว่าบุรุษ

สกุลฟ่านนั้นเป็นตระกูลพ่อค้าเก่าแก่แต่เดิมมีกิจการขายแพรพรรณที่นำเข้ามาจากต่างเมืองต่างแคว้นเป็นหลักแต่สิ่งที่ทำให้สินค้าของสกุลฟ่านเป็นที่นิยมและมีชื่อเสียงขึ้นมากกว่าเมื่อครั้งอดีตคือตั้งแต่มารดาของเขาแต่งงานเข้าสกุลฟ่านและนางได้นำวิชาเย็บปักประจำตระกูลถงของนางติดตัวมาจัดการอบรมสั่งสอนช่างฝีมือของร้าน

เมื่อนำวิธีการเย็บปักที่งดงามและซับซ้อนมาประยุกต์เข้ากับวัตถุดิบทรงคุณค่าที่มีอยู่ในมือแล้วยิ่งเพิ่มมูลค่าให้สินค้ามากขึ้นทั่วทั้งเมืองหลวงไม่ว่าจะเป็นดรุณีน้อย คุณหนูในห้องหอหรือแม้แต่ฮูหยินจวนเศรษฐีตลอดไปจนถึงจวนขุนนางเพียงได้มีอาภรณ์หรือสินค้าที่ตัดเย็บจากร้านแพรพรรณสกุลฟ่านอยู่ในครอบครองแม้เพียงหนึ่งชิ้นก็นับว่าดูเบาพวกนางมิได้

“สาวใช้จากโรงครัวนำน้ำแกงมาให้แล้วนะขอรับคุณชายดื่มตอนที่ยังอุ่นๆ เลยจะดีกว่า” หม่าจื่อหานจัดการยกถ้วยน้ำแกงที่ยังมีควันลอยกรุ่นส่งให้กับเจ้านายที่เป็นทั้งสหายที่สามารถตายแทนกันได้

“ขออนุญาตคุณชายใหญ่ บ่าวมาเตรียมน้ำร้อนให้เจ้าค่ะ” ดื่มน้ำแกงลงท้องไปได้ไม่เท่าไหร่สาวใช้ก็เข้ามาเตรียมน้ำร้อนให้ฟ่านไฉอาบโดยสาวใช้ผู้นี้นั้นทั้งคุณชายใหญ่ฟ่านและหม่าจื่อหานต่างก็จำได้ว่านางคือเหรินอ้ายปิงสาวใช้ทั่วไปของเรือนสกุลฟ่านซึ่งปกติแล้วนางจะประจำอยู่ในครัวแต่ก็จะมารับใช้ฟ่านไฉในเรือนนี้เป็นงานประจำอีกหนึ่งอย่าง

สิ่งที่ทำให้นางได้รับหน้าที่นี้ก็เป็นเพราะเขาชอบที่นางเป็นคนไม่สอดรู้สอดเห็นและเป็นคนที่ไม่พูดจาเพ้อเจ้อพ่อบ้านหลันจึงมักจะจัดให้นางมาคอยดูแลความเรียบร้อยต่างๆ ให้อยู่เสมอแต่ส่วนมากก็จะมาทำในตอนที่เขาไม่อยู่ที่เรือน

“วันนี้เจ้าช่วยผสมน้ำให้ร้อนสักหน่อยนะข้าค่อนข้างจะเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวอยู่มาก” เพราะการออกไปนอกเมืองหลวงครั้งนี้อะไรๆ ก็รีบเร่งไปเสียหมดด้วยเวลาที่มีจำกัดแม้จะเดินทางเป็นระยะเวลาสั้นๆ แต่กล้ามเนื้อบนร่างกายของฟ่านไฉก็ตึงเครียดไปเสียหมดแล้ว

“คุณชายต้องการให้บ่าวไปนำสมุนไพรผ่อนคลายมาใส่ในถังน้ำด้วยหรือไม่เจ้าคะ” ด้วยคุณชายใหญ่ไม่ชอบคนที่สอดรู้หรืออวดฉลาดทำงานเกินหน้าที่ของตนเองเวลาที่บ่าวไพร่ในเรือนต้องการจะทำสิ่งใดจึงจำเป็นต้องบอกกล่าวเขาก่อนเสมอซึ่งข้อนี้เหรินอ้ายปิงก็จำได้ขึ้นใจแม้นางจะไม่ค่อยพูดแต่ถ้าเป็นเรื่องการรับใช้เจ้านายในเรือนนางยังรู้จักซักถามนับว่าเป็นสตรีที่ค่อนข้างฉลาดอยู่พอสมควร

“ก็ดีเหมือนกัน ขอบใจเจ้ามาก”

“รบกวนรอสักครู่เจ้าค่ะบ่าวจะรีบไปแจ้งพ่อบ้านหลันก่อน” จะหยิบจับอะไรแม้จะนำมาให้เจ้านายในเรือนก็ใช่ว่าจะทำได้โดยพลการอย่างน้อยๆ ก็ต้องแจ้งพ่อบ้านไม่ก็คนดูแลเรื่องนั้นๆ เอาไว้ก่อนเมื่อคุณชายต้องการสมุนไพรแช่ตัวเหรินอ้ายปิงก็ไม่รีรอรีบวิ่งไปแจ้งพ่อบ้านหลันเพื่อขอสมุนไพรจากนั้นก็ไปตักน้ำร้อนมาเพิ่มเพราะคุณชายต้องการแช่น้ำร้อนเป็นพิเศษ

เหรินอ้ายปิงหาบถังใส่น้ำร้อนที่มีสมุนไพรแช่ตัวกลับมาที่เรือนของคุณชายใหญ่ในเวลาไม่นานโดยนางรีบเร่งทำงานทุกอย่างให้เสร็จเรียบร้อยตามหน้าที่แต่ก็ใช่ว่ารีบแล้วจะทำอย่างลวกๆ เพราะถูกอบรมมาอย่างเข้มงวดว่าจะทำงานแบบขอไปทีมิได้โดยเด็ดขาด ซึ่งถ้าเตรียมน้ำเสร็จแล้วนางก็แค่ต้องออกไปรออยู่นอกเรือนแต่ก็ต้องไม่ออกไปไกลนักเผื่อว่าคุณชายใหญ่มีอะไรเรียกใช้นางจะได้เข้ามาได้ทัน

แต่จริงๆ แล้วระหว่างการอาบน้ำคุณชายฟ่านไฉจะไม่เรียกหาใคร

อยู่แล้วเขาจะเรียกอีกทีก็ตอนที่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยเพื่อให้นางเข้ามาทำความสะอาดถังอาบน้ำและห้องอาบน้ำให้เรียบร้อย

 

“คุณชาย้ำในถังร้อนเกินไปหรือเปล่าเจ้าคะท่านหน้าแดงมาก”

ระหว่างที่เหรินอ้ายปิงกำลังเตรียมน้ำร้อนอยู่ในห้องน้ำคุณชายใหญ่ก็เดินโซเซเข้ามาในสภาพที่เสื้อผ้าอาภรณ์ไม่เรียบร้อยอีกทั้งใบหน้าที่หล่อเหลาปานเทพเซียนของเขาก็แดงก่ำไม่ต่างจากคนที่ซมพิษไข้

“อ้ายปิง...”

“คุณชายกำลังทำให้ข้ากลัวนะเจ้าคะ ข้าเตรียมน้ำเสร็จแล้วจะออกไปรอด้านนอกหากคุณชายต้องการอะไรข้าจะไปตามพี่จื่อหานมาให้” ด้วยท่าทางของคุณชายใหญ่ฟ่านในตอนนี้ดูไม่ปกติทำให้เหรินอ้ายปิงรู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกนางจึงพยายามหลบเลี่ยงและต้องการพาตัวเองออกไปจากสถานการณ์ที่น่าอึดอัดนี้โดยเร็ว

ด้วยถูกสั่งสอนมาเป็นอย่างดีให้รู้จักการวางตัวเหรินอ้ายปิงจึงไม่เคยเอาตัวเองไปอยู่ใกล้ชิดคุณชายท่านใดในจวนสกุลฟ่านแห่งนี้ถ้าต้องมาทำงานนางก็ทำไปตามหน้าที่แต่ด้วยคุณชายทั้งสามหรือต่อให้นายท่านฟ่านก็วางตัวดีไม่เคยมีเรื่องราวเสื่อมเสียกับผู้ใดไม่ว่าจะเป็นสาวใช้หรือว่าสตรีหน้าไหนแต่ในวันนี้นางกลับรู้สึกว่าคุณชายใหญ่มีท่าทีที่เปลี่ยนไปจนน่ากลัวและสัมผัสได้ถึงความรู้สึกไม่ปลอดภัยนางจึงต้องหาทางเอาตัวออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด

แต่เท้าเล็กๆ ก็ยังไม่ทันจะได้ก้าวออกไปพ้นจากหน้าของคุณชายใหญ่เอวคอดบางปานกิ่งหลิวของนางก็ถูกคว้าไว้ด้วยมือใหญ่หนาที่แทบจะกำรอบเอวเล็กๆ ของนางได้หมดด้วยมือทั้งสองข้าง

“เหรินอ้ายปิงข้าต้องการเจ้า” น้ำเสียงที่แหบพร่าของคุณชายใหญ่กล่าวเพียงแค่นั้นก็รวบร่างของสาวรับใช้เข้าไว้ในอ้อมกอดโดยมีจุดหมายปลายทางเป็นเตียงกว้างของตนเอง

“อย่าทำเช่นนี้เลยเจ้าค่ะคุณชายใหญ่” เสียงหวานของเหรินอ้ายปิงเอ่ยร้องขอความเมตตาจากคุณชายใหญ่สกุลฟ่านที่กำลังมัวเมาอยู่กับร่างกายของนางคล้ายกับคนไม่มีสติไม่ว่านางจะร้องขอหรืออ้อนวอนเท่าใดคุณชายใหญ่ก็คล้ายจะไม่ได้ยินได้ฟังอะไรเลย

“ได้โปรดเถิดเจ้าค่ะคุณชายใหญ่” เหรินอ้ายปิงหวาดกลัวจนเนื้อตัวสั่นด้วยไม่เคยมีใครได้สัมผัสร่างกายของนางอย่างลึกซึ้งถึงเพียงนี้ความรู้สึกอับอายแล่นริ้วเมื่อเสื้อผ้าที่สวมติดกายกำลังถูกคุณชายใหญ่ปลดเปลื้องออกไปอย่างช้าๆ แม้จะไม่ได้เป็นกิริยาที่หยาบคายแต่ก็ใช่ว่านางจะเต็มใจและจะไม่หวาดกลัว

ปทุมถันที่เต่งตึงของวัยแรกสาวถูกอุ้งปากรุ่มร้อนครอบครองครั้งแล้วครั้งเล่าและในทุกครั้งที่เหรินอ้ายปิงส่งเสียงวอนขอความเมตตาคุณชายใหญ่ก็จะละริมฝีปากที่กำลังมอมเมากับโนมเนื้อหอมหวานมาจุมพิตเพื่อสกัดกั้นเสียงร้องของนางเอาไว้ซึ่งบางครั้งก็รุนแรงจนคมฟันของเขาทำให้นางรู้สึกถึงรสสนิมข้างในปากแต่บางครั้งก็อ่อนโยนจนมือเล็กๆ ของเหรินอ้ายปิงเผลอคล้องคอคุณชายเอาไว้เป็นหลักยึดโดยไม่ได้ตั้งใจ

ปลายเล็บขาวสะอาดที่ถูกตัดเจียนจนสั้นอยู่เสมอถูกเจ้าของจิกมันจนจมหายไปกับผิวเนื้อบริเวณลาดไหล่ที่แข็งเกร็งของคนที่อยู่บนร่างยามที่เขาเสือกไสแท่งหยกที่ทั้งร้อนและแข็งกร้าวเข้าออกภายในถ้ำบุปผาน้อยๆ ของนางอย่างไม่ปรานีปราศรัยในยามนี้ในหัวของเหรินอ้ายปิงมีความรู้สึกหลากหลายปนเปกันอยู่จนไม่สามารถประมวลผลอะไรได้เลยแม้แต่น้อยนิด

ร่างเล็กที่บอบบางดั่งกิ่งหลิวถูกจับพลิกคว่ำพลิกหงายอยู่หลายท่วงท่าที่บางครั้งคุณชายฟ่านไฉก็ทำให้นางผวาเฮือกด้วยความหวาดเสียวถ้าหากเขาไม่สามารถจับร่างของตนเองเอาไว้ให้ดีก็มีหวังเหรินอ้ายปิงได้ตกลงฟื้นหัวฟาดถ้าไม่ตายก็คงจะพิการได้อย่างแน่นอน

ไม่ว่าจะเป็นที่เตียง บนโต๊ะอ่านหนังสือตัวโตหรือว่าในอ่างอาบน้ำที่คลายความร้อนไปจนหมดสิ้นแล้วคุณชายใหญ่ก็พาเหรินอ้ายปิงไปสำรวจจนทั่วทุกพื้นที่ประหนึ่งว่าตลอดสิบสองปีที่นางอาศัยอยู่ที่นี่นางไม่เคยได้สำรวจห้องนอนของเจ้านายมาก่อนทั้งๆ ที่เป็นนางนี่แหละที่ได้ทำความสะอาดปัดกวาดเช็ดถูมาแล้วทั่วทุกซอกทุกมุม

ความรู้สึกสุดท้ายก่อนที่สติสัมปชัญญะของสาวรับใช้ตัวเล็กๆ จะดับวูบก็คือเสียงครางแหบต่ำอันแสนสุขสมของคุณชายใหญ่ฟ่านไฉที่ดังอยู่ตรงข้างหูของนาง

 

“เหรินอ้ายปิง นังขี้ข้าอกตัญญู”

เหรินอ้ายปิงสะดุ้งสุดตัวเมื่อโสตประสาทได้ยินเสียงคนเรียกชื่อของตัวเองด้วยน้ำเสียงกราดเกรี้ยวบวกกับความเจ็บปวดที่หนังศีรษะจึงทำให้ไม่สามารถหลับตานอนลงได้อีกต่อไปแต่ก่อนที่นางจะลุกขึ้นออกจากเตียงไปทั้งๆ ที่ร่างกายเปล่าเปลือยก็เป็นคนที่นอนอยู่ด้านข้างนี่แหละที่คว้าร่างเล็กๆ ไม่ต่างจากเด็กที่ขาดสารอาหารของนางเอาไว้เสียก่อน

“ชุนเอ๋อร์ปล่อยมือของเจ้าออกจากคนของข้าแล้วก็พาบ่าวไพร่ของเจ้ากลับเรือนไปเสียด้วย” คุณชายใหญ่ฟ่านไฉเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลตามปกติแต่ที่ไม่ปกติก็คือดวงตาคู่นั้นที่จ้องมองมายังน้องสาวบุญธรรมของตัวเองคล้ายจะกินเลือดกินเนื้อก็มิปาน

“แต่พี่ใหญ่เจ้าคะ นังบ่าวชั้นต่ำนี่มันกล้าปีนเตียงท่าน” ฟ่านชุนเตี๋ยยังไม่ได้ทำตามสั่งของพี่ชายอีกทั้งยังจ้องมองบ่าวที่อยู่ในอ้อมแขนของชายหนุ่มด้วยแววตาที่เคียดแค้นเป็นอย่างมากเป็นเพราะนังเหรินอ้ายปิงนี่คนเดียวที่ทำให้แผนการของนางล้มเหลวไม่เป็นท่า

“แล้วต้องเป็นใครที่เหมาะสมจะปีนเตียงของข้าเล่า เป็นเจ้าอย่างนั้นหรือฟ่านชุนเตี๋ย”

พี่ชายที่ปะติดปะต่อเรื่องราวเมื่อคืนก่อนได้หลังจากที่ความรุ่มร้อนจางหายไปจากร่างกายจนหมดสิ้นแล้วก็พอที่จะเข้าใจแผนการกระจอกของหญิงสาวตรงหน้าได้เป็นอย่างดี

เป็นฟ่านชุนเตี๋ยผู้มีศักดิ์เป็นน้องสาวบุญธรรมของเขาที่สร้างเรื่องทุกอย่างขึ้นแต่กว่าที่ฟ่านไฉจะได้รู้ตัวว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับร่างกายก็หลังจากที่ดื่มน้ำแกงบำรุงร่างกายไปจนหมดชามแล้วและแม้ชามกับอุปกรณ์ที่ใส่น้ำแกงเข้ามาจะเป็นของครัวใหญ่ในเรือนสกุลฟ่านแต่คนที่ยกมาให้เขากลับเป็นบ่าวในความปกครองของนาง

แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนางจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องได้อย่างไรอีกทั้งการที่ฟ่านชุนเตี๋ยมากรีดร้องอยู่ในห้องนอนเขาตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างนี่ก็เป็นการมัดตัวคนที่มีพิรุธได้อย่างดี

“ขอโทษนะเหรินอ้ายปิงเอาไว้พรุ่งนี้เช้าข้าสัญญาว่าจะจัดการทุกอย่างให้เจ้าอย่างยุติธรรมที่สุด” คุณชายใหญ่ฟ่านไฉกระซิบข้างหูของคนที่ตัวสั่นอยู่ในอ้อมกอดที่ดูท่าแล้วจะยังเสียขวัญเป็นอย่างมากมันไม่ใช่ความผิดของนางเลยที่จะต้องมาเจออะไรเช่นนี้แต่เขาเองก็เป็นบุรุษและเป็นลูกผู้ชายพอเมื่อทำผิดไปแล้วไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ดีย่อมที่จะพร้อมยืดอกแสดงความรับผิดชอบไม่มีทางปัดความผิดทั้งหมดไปให้นางอย่างแน่นอน