ครั้งหนึ่งเขาเคยถูกใจเด็กหนุ่มปริศนาที่บ้านพักของพี่ชายในไทย ยังไม่ทันได้อ่อยก็โดนสั่งห้ามไม่ให้รัก แต่จะทำยังไงเฉินไป๋ก็ลืมใบหน้าจิ้มลิ้มนั้นไม่ได้เลย เมื่อได้มาไทยอีกครั้ง ภารกิจลอบรักจึงเริ่มขึ้น

ร้านเค้กคุณรัก - 3. โดย summer_T @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-ชาย,ยุคปัจจุบัน,ไทย,วาย,มาเฟีย,feelgood,นิยายวาย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ร้านเค้กคุณรัก

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-ชาย,ยุคปัจจุบัน,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

วาย,มาเฟีย,feelgood,นิยายวาย

รายละเอียด

ร้านเค้กคุณรัก โดย summer_T @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ครั้งหนึ่งเขาเคยถูกใจเด็กหนุ่มปริศนาที่บ้านพักของพี่ชายในไทย ยังไม่ทันได้อ่อยก็โดนสั่งห้ามไม่ให้รัก แต่จะทำยังไงเฉินไป๋ก็ลืมใบหน้าจิ้มลิ้มนั้นไม่ได้เลย เมื่อได้มาไทยอีกครั้ง ภารกิจลอบรักจึงเริ่มขึ้น

ผู้แต่ง

summer_T

เรื่องย่อ

#ร้านเค้กคุณรัก

สวัสดีค่ะ เรื่องนี้เป็นเรื่องของเฮียไป๋ 

สำหรับใครที่ได้อ่านเฮียอี้มาแล้วน่าจะได้รู้จักพ่อหนุ่มนักรักมาบ้างแล้ว

แต่ใครที่ยังไม่ได้อ่านเฮียอี้ ไม่ต้องกังวลไปนะคะ เพราะเนื้อเรื่องไม่ได้ต่อกันขนาดนั้น

(แต่ถ้าสะดวกก็อยากฝากอ่านเฮียอี้ด้วยค่ะ)

 

ความยาวและจำนวนตอนจะพอ ๆ กับเรื่อง #เฮียอี้ไม่กินผัก เลยค่ะ

เรื่องนี้ส่วนตัวแล้วยังคิดว่าเป็นแนว feel good ค่ะ เพราะปมน้อยมาก ดราม่าบางเบามากอาจจะเรียกว่าไม่มีเลยก็ได้

เน้นอ่านชิวๆ เหมาะสำหรับคนที่หาเรื่องเบาๆอ่าน

ที่ต่างออกไปคือ เรื่องนี้เราตั้งใจจะไม่มี NC ค่ะ (ซึ่งถ้ามีอาจจะไปใส่ในตอนพิเศษใน E-book แทนค่ะ)

 

 

แนะนำตัวละคร

เฉินไป๋ (พระเอก)

อายุ : 28 ปี

สูง : 186 cm.

สโลแกน : เลิกคุยทั้งอำเภอ เพื่อเธอคนเดียว

 

 

ที่รัก (นายเอก)

อายุ : 22 ปี

สูง : 172 cm.

สโลแกน : กระต่ายน้อย ผู้หลงกล(รัก)นักล่า

 

Mood board

สารบัญ

ร้านเค้กคุณรัก-1. ,ร้านเค้กคุณรัก-2. ,ร้านเค้กคุณรัก-3. ,ร้านเค้กคุณรัก-4. ,ร้านเค้กคุณรัก-5. ,ร้านเค้กคุณรัก-6. ,ร้านเค้กคุณรัก-7. ,ร้านเค้กคุณรัก-8. ,ร้านเค้กคุณรัก-9. ,ร้านเค้กคุณรัก-10. ,ร้านเค้กคุณรัก-11. ,ร้านเค้กคุณรัก-12. ,ร้านเค้กคุณรัก-13. ,ร้านเค้กคุณรัก-14. ,ร้านเค้กคุณรัก-15. ,ร้านเค้กคุณรัก-16. ,ร้านเค้กคุณรัก-17. ,ร้านเค้กคุณรัก-18. ,ร้านเค้กคุณรัก-19. ,ร้านเค้กคุณรัก-20. ,ร้านเค้กคุณรัก-21.

เนื้อหา

3.

     ความเงียบยามเช้าในร้านเค้กเล็ก ๆ ถูกแทนที่ด้วยเสียงเตรียมของในครัว ที่รักยืนอยู่หน้าเตาอบ มือขวาถือไม้พายคลุกเคล้าแป้งในชามขนาดใหญ่ เสียงเครื่องตีไข่ไฟฟ้าดังขึ้นเป็นจังหวะ แป้งค่อย ๆ รวมตัวกันจนเป็นเนื้อเดียว กลิ่นวานิลลาหอมกรุ่นลอยฟุ้งอบอวลไปทั่วทั้งร้าน

     ดวงตากลมโตจดจ่ออยู่กับขั้นตอนการทำเค้กอย่างตั้งใจ วันนี้เป็นวันส่งเค้กก้อนใหญ่สำหรับลูกค้าประจำ ซึ่งเป็นหนึ่งในออเดอร์สำคัญที่ไม่ควรมีผิดพลาดเกิดขึ้น

     เสียงกระดิ่งหน้าร้านดังขึ้นเบา ๆ ที่รักจึงเงยหน้ามองผ่านกระจกครัวออกไป เห็นร่างสูงของมาเฟียหนุ่มกำลังเดินเข้ามาในร้าน พร้อมกับถือถุงกระดาษสีขาวใบเล็กในมือ

     “ทำงานแต่เช้าอีกแล้วเหรอ?” ไป๋ทักด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ที่รักรีบวางไม้พายลง เช็ดมือกับผ้ากันเปื้อนก่อนจะเดินออกมาหา 

     “พี่ไป๋...ไม่ได้รีบขึ้นเชียงใหม่เหรอครับ”

     “เฮียแวะเอาของมาฝาก” ไป๋ยื่นถุงกระดาษให้ ที่รักรับมาอย่างงง ๆ

     เมื่อเปิดถุงดูจึงเห็นกล่องข้าวขนาดกลางสองกล่องและกล่องนมสดรสน้ำผึ้งที่เขาชอบกิน ก่อนที่เขาจะได้เอ่ยปากถามอะไร คนยื่นถุงกระดาษก็พูดขึ้นเสียก่อน 

     “เห็นเด็กที่บ้านบอกว่ารักชอบลืมกินข้าวเวลารีบ ๆ ก็เลยคิดว่าเช้านี้น่าจะยังไม่ได้กินอะไร”

     คำพูดนั้นทำให้หัวใจของที่รักอุ่นวาบขึ้นมาฉับพลันจนเหมือนว่าความอุ่นนั้นมันแผ่ลามขึ้นมาบนใบหน้า ที่รักยกยิ้มส่งให้ก่อนเอ่ยขอบคุณ 

     “ขอบคุณนะครับ...พี่ไป๋ใจดีจัง”

     ไป๋พยักหน้ารับเบา ๆ ก่อนเดินสำรวจร้านที่ค่อย ๆ มีลูกค้าเริ่มทยอยเข้ามา เขาหยุดมองโต๊ะตรงมุมร้านที่ยังว่างอยู่ และพูดขึ้นลอย ๆ

     “ช่วงนี้มีใครมาช่วยที่ร้านไหม?”

     “ก็มีคุณจอมมาบ้างบางวันครับ” ที่รักตอบตามตรง ไม่ทันสังเกตสีหน้าของคนพูดว่าเปลี่ยนไปอย่างไรเมื่อได้ยินชื่อของบุคคลที่สามที่ถูกเอ่ยขึ้นมา

     “อืม...” ไป๋ตอบรับสั้น ๆ ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุย “แล้วเค้กที่ต้องส่งวันนี้เป็นยังไงบ้าง?”

     ที่รักหันกลับมาที่ครัว พร้อมรอยยิ้มสดใส “ใกล้เสร็จแล้วครับ พี่ไป๋อยากลองชิมไหมครับ?”

     ไป๋มองตามแผ่นหลังเล็กที่กลับไปยังครัว ดวงตาคมมีแววประกายขึ้นมาจากความคิดบางอย่าง 

     “เอาสิ...”

     เสียงตอบรับดังขึ้นเบา ๆ ก่อนที่ไป๋จะเดินตามเจ้าของร้านร่างเล็กเข้าไป ไป๋ก้าวเข้ามาในครัว สายตาคมมองไปรอบ ๆ ก่อนหยุดอยู่ที่แผ่นหลังของที่รักซึ่งกำลังตั้งใจตกแต่งหน้าเค้กด้วยมือที่คล่องแคล่ว

     “ก้อนนี้เป็นเค้กตัวอย่างตอนรักลองอัตราส่วนแป้งสูตรใหม่ครับ พี่ไป๋ลองชิมได้นะครับ” 

   ที่รักวางจานเล็กที่ตัดแบ่งชิ้นเค้กขนาดพอดีคำจากก้อนเค้กรุ่นทดลองตรงหน้าเขา ริมฝีปากบางสวยยิ้มจนตาหยีอย่างภูมิใจในผลงาน

     ไป๋หยิบส้อมขึ้นมาชิมอย่างเงียบ ๆ รสหวานนุ่มละมุนกระจายไปทั่วปลายลิ้น เขาพยักหน้าเบา ๆ เป็นสัญญาณบอกเจ้าของเค้กที่เฝ้ามองรอผลตอบรับด้วยดวงตากลมโตส่องประกายจนน่าเอ็นดูว่าเจ้าตัวทำได้ดีแล้ว

     “อร่อย”

     คำชมตรงไปตรงมาทำให้ที่รักยิ้มกว้างขึ้น แต่ก่อนที่เขาจะพูดอะไรต่อ เสียงโทรศัพท์ของไป๋ก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะเสียก่อน

     ไป๋มองชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอ สายเรียกเข้ามาจากผู้ช่วยของเขาในเชียงใหม่

     “ขอโทษนะ เฮียต้องรับสาย” ไป๋บอกสั้น ๆ ก่อนจะเดินออกไปด้านนอกเพื่อรับสายโทรศัพท์

     ที่รักมองตามอย่างเสียดายที่บทสนทนาถูกขัดและจบลงเพียงเท่านั้น แต่ก็เข้าใจดีว่าธุรกิจต้องมาก่อน เขาจึงหันกลับไปสนใจเค้กตรงหน้าต่อ เวลาผ่านไปสักพักร่างสูงก็เดินกลับเข้ามาด้วยใบหน้าที่ดูจริงจังกว่าเดิม

     “ที่รัก เฮียมีธุระด่วนต้องไปเชียงใหม่ อาจจะกลับดึกหน่อย เดี๋ยวจะให้คนที่บ้านไปรับเราแทน”

     “พี่ไป๋ไม่ต้องห่วงรักหรอกครับ รักกลับเองได้ ไม่อยากกวนพี่ ๆ เขา” 

     ที่รักหมายความตามนั้นจริง ๆ แม้ว่าพี่อี้จะทิ้งบอดี้การ์ดไว้เพื่อช่วยดูแลเขา แต่ในความเป็นจริง ที่รักก็รู้ดีว่าพี่ ๆ เหล่านั้นต่างก็มีหน้าที่อย่างอื่นที่ต้องทำด้วยเช่นกัน เช่น การช่วยอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยให้พี่ไป๋เวลามาทำงานที่ไทย ซึ่งนั้นก็ยุ่งมากพอแล้ว

     “กวนอะไร นั่นมันหน้าที่เขา เดี๋ยวเฮียจะโทรไปสั่งพวกมันไว้ให้ เอาตามนี้นะที่รัก”

     “แต่ว่า...”

     “จำได้ไหมว่าเราตกลงกันว่ายังไง รักห้ามดื้อกับเฮีย” ที่รักพยักหน้าเบา ๆ ยอมจำนนกับคำสั่งของพี่ไป๋ แค่กวนพี่ ๆ บอดี้การ์ดสักวันคงดีกว่าที่จะให้พี่อี้รู้เรื่องที่เขาดื้อแอบมาเปิดร้าน

     “เด็กดี” ฝ่ามือใหม่วางลงบนกลุ่มผมนุ่ม ลูบไปมาอย่างเอ็นดู

     “ไม่ต้องห่วงหรอกครับพี่ เดี๋ยวผมไปส่งรักเอง ผมไปส่งรักทุกครั้งเวลาปิดร้านดึก ๆ” ยังไม่ทันจะได้เพลิดเพลินกับเด็กน้อยที่ยอมจำนนกับข้อเสนอของเขา คิ้วของมาเฟียหนุ่มก็กระตุกขึ้น เมื่อเสียงของผู้มาใหม่ดังขึ้นมาจากประตูครัว

     เมื่อหันไปก็พบกับใบหน้าชายหนุ่มที่ไป๋ไม่ค่อยถูกชะตามากนัก และไม่ชอบใจเอาเสียเลยเวลาได้พบหน้าบุคคลนี้ในร้านเค้กของที่รัก

     “คุณจอม มารักเค้กเหรอครับ รักใส่กล่องไว้แล้ววางไว้ตรงเคาน์เตอร์” ที่รักยกยิ้มทักทายตอบกลับ เสียงใสเอ่ยบอกตำแหน่งที่วางเค้กที่แขกประจำร้านสั่งไว้ล่วงหน้าตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็น

     “อันนี้ใช่ไหม เอามาแล้วขอบคุณมาก ผมไปก่อนนะที่รัก ไปก่อนนะครับพี่ไป๋ ไม่ต้องห่วงนะครับเดี๋ยวเย็นนี้ผมไปส่งที่รักให้เอง” ว่าจบจอมที่โผล่เข้ามาในครัวเพียงช่วงบนก็ชูถุงใสที่ภายในมีกล่องเค้กขนาดกลางใส่ไว้อย่างดี ก่อนจะยกยิ้มเอ่ยลาคนทั้งสอง แล้วหายวับไปไม่รอคำปฏิเสธหรือตอบตกลงจากคนทั้งสอง

 “เอ่อ...เดี๋ยวรักให้คุณจอมไปส่งก็ได้...ไหมครับ” จากประโยคที่ตั้งใจจะบอกความต้องการถูกเปลี่ยนเป็นประโยคคำถามเมื่อที่รักหันไปเห็นใบหน้าหล่อเหลาของมาเฟียหนุ่มที่เคร่งขรึมขึ้นจนน่ากลัว

     ชื่อของจอมทำให้ไป๋นิ่งไปชั่วครู่ ดวงตาคมวูบไหวเพียงเสี้ยววินาที แต่เขาก็กลับมาควบคุมสีหน้าได้อย่างรวดเร็ว ถึงจะไม่ผ่อนคลายเท่าตอนแรกที่อยู่กันเพียงลำพังสองคนก่อนหน้านี้ก็ตาม

     “ได้ แล้วแต่รัก แต่ให้เขาอยู่ส่งแค่หน้าบ้านนะ เฮียไม่อยากให้ใครเข้ามาในบ้านเท่าไหร่ถ้าไม่จำเป็น”

     ที่รักพยักหน้ารับรู้แม้จะอยากบอกว่าคุณจอมเคยเข้าไปนั่งเล่นนอนเล่นในบ้านหลายครั้งแล้ว แต่สถานการณ์ตอนนี้เงียบไว้น่าจะเป็นทางที่เหมาะสมกว่า

     ที่รักเดินไปส่งร่างสูงถึงหน้าประตูร้าน หันหลังกลับเข้าร้านยังไม่ทันก้าวเดินเกินก้าวที่สามเสียงทุ้มของคนที่เพิ่งเดินไปส่งหน้าร้านก็ดังขึ้น

     “ที่รัก”

     “ครับ? พี่ไป๋” ที่รักเอ่ยตอบรับเสียงเรียกรวดเร็ว ใบหน้าขาวผ่องหันกลับไปหาพี่ชายไม่แท้ชาวมาเก๊า

     “บอกเพื่อนของเราด้วย ว่าอย่ามาเรียกเฮียว่าพี่ เฮียไม่ชอบ เข้าใจไหม”

     “ครับ พี่ไป๋”

 

     ค่ำวันเดียวกัน

     ที่รักกลับมาถึงบ้านพร้อมจอมผู้ที่เอ่ยอาสาว่าจะมาส่ง ทั้งสองเดินคุยกันและหัวเราะอย่างสนุกสนานจนกระทั่งถึงหน้าประตูบ้าน จอมหยุดฝีเท้ายกยิ้มก่อนจะหันมามองที่รักที่ยืนอยู่ข้างกัน

     “ขอบคุณที่ให้มาส่งนะครับ วันนี้สนุกดี” 

     จอมพูดก่อนเอื้อมมือไปแตะศีรษะของที่รักเบา ๆ ท่าทางไม่ต่างอะไรกับสิ่งที่พี่ชายต่างสายเลือดทำกับที่รักเมื่อตอนเช้า 

     “ขอบคุณที่มาส่งเหมือนกันนะครับ คุณจอม” ที่รักยิ้มตอบ แต่ก่อนที่เขาจะพูดอะไรต่อ จอมก็โน้มตัวลงมาใกล้ ริมฝีปากหยักของชายหนุ่มแก่กว่าขโมยหอมแก้มของที่รักอย่างรวดเร็ว

     “คุณจอม!” ที่รักเบิกตากว้าง ใบหน้าร้อนผ่าว

     “ผมแค่ล้อเล่นครับ หรือรักจะทำคืนก็ได้นะ จะได้หายกัน” จอมยิ้มกว้าง ทำแก้มพองลมจนกลมนูนเอียงใบหน้าเข้ามาเสนอให้

     “ไม่เอาหรอกครับ แต่อย่าเล่นแบบนี้อีกนะครับ รักตกใจหมด” 

     รักทำสีหน้าดุ แต่สุดท้ายก็หลุดขำออกมาเสียก่อน เขาไม่ได้โกรธหรือรู้สึกไม่ดี นั่นเพราะตั้งแต่เล็กจนโตเขามักโดนเพื่อนในกลุ่มขโมยหอมแก้มอยู่เสมอ และคุณจอมก็คือหนึ่งในคนที่เขานับเป็นเพื่อนคนสนิท

     เมื่อไม่โดนโกรธหรือต่อว่ากับการกระทำเมื่อสักครู่ของตัวเอง จอมก็ยกยิ้มกว้างกว่าเดิม ก่อนจะเดินกลับไปขึ้นรถของตัวเอง ทิ้งที่รักที่ยังคงยืนโบกมือให้จนเขาถอยรถออกพ้นรั้วบ้าน

     ร่างเล็กชะโงกมองจนแสงไฟท้ายรถของเพื่อนสนิทหายไปจากระยะมองเห็นที่หน้ารั้วบ้าน ร่างบางถอนหายใจยาวก่อนจะหันหลังเดินเข้าตัวบ้าน หัวใจยังเต้นแรงจากเหตุการณ์เมื่อครู่ ถึงไม่ได้รู้สึกไม่ดี แต่ก็ทำให้เขาตกใจอยู่ไม่น้อย เพราะคุณจอมไม่เคยทำแบบนี้กับเขาเลยสักครั้ง นี่คงเห็นเพื่อนมัธยมของเขาที่แวะมาอุดหนุนเค้กเมื่อวานก่อนทำถึงได้อยากแกล้งเขาขึ้นมาบ้าง

     อีกเรื่องที่ทำให้ที่รักถอนหายใจยาวอีกครั้งคือเรื่องคำพูดของพี่ไป๋ก่อนออกไปเชียงใหม่ ที่พี่ไป๋ไม่อยากให้ใครเข้ามาในบ้าน ที่รักรู้สึกขอบคุณโชคชะตาที่ในวันนี้คุณจอมไม่ได้เอ่ยขอเข้ามานั่งเล่นข้างใน ไม่อย่างนั้นเขาคงจะไม่กล้าปฏิเสธ 

     เพราะถ้าเป็นแบบนั้น เขาก็ไม่อยากโกหกพี่ไป๋ แต่ในทางกลับกันเขาก็ไม่อยากมีปัญหากับร่างสูงเหมือนกัน ถ้าต้องขัดคำสั่งของเจ้าของบ้าน

     ที่รักเดินขึ้นบันไดไปยังห้องนอน แต่แล้วสายตาเขาก็สะดุดกับเงาสูงของมาเฟียหนุ่มที่ยืนอยู่ในเงามืดตรงมุมห้องนั่งเล่น

     “พี่ไป๋! กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ?” เสียงของที่รักสั่นเล็กน้อยจากความตกใจ ดวงตากลมสั่นไหวมองตามร่างสูงที่เดินออกมาจากความสลัวช้า ๆ 

     แววตาเย็นเฉียบจ้องมองมายังที่รัก

     “ตั้งแต่ก่อนที่เราจะกลับมาเสียอีก...”

     น้ำเสียงนั้นราบเรียบ แต่กลับแฝงความรู้สึกที่ทำให้ที่รักยืนนิ่งงันไม่กล้าขยับไปไหน หัวใจเต้นระรัวในอก ภายในหัวของคนที่ยืนค้างอยู่ที่เชิงบันไดเผลอคิดไปว่า... 

     พี่ไป๋ได้เห็นอะไรเมื่อครู่หรือเปล่า?