อยู่ตัวใครตัวมันก็ดีอยู่แล้ว ไม่น่าก้าวก่ายเรื่องราวคนอื่น ส่งผลให้ชีวิตกลับตาลปัตรกลายเป็นผู้ที่อยู่ใกล้กับความตา
ระทึกขวัญ,ชาย-หญิง,เลือดสาด,ไทย,พล็อตสร้างกระแส,สืบสวนสอบสวน,ดราม่า,สยองขวัญ,ผี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Hide and Seek เสือก-ซ่อน-ตายอยู่ตัวใครตัวมันก็ดีอยู่แล้ว ไม่น่าก้าวก่ายเรื่องราวคนอื่น ส่งผลให้ชีวิตกลับตาลปัตรกลายเป็นผู้ที่อยู่ใกล้กับความตา
เลขาสาวดวงซวยลืมเอกสารสำคัญไว้ที่บริษัทจึงลากเพื่อนไปเอาในเวลาดึกดื่นโดยที่ไม่รู้ว่ามันจะเป็นคืนสุดท้ายของพวกหล่อน เมื่อพบกับความลับอันดำมืดบางอย่างของบริษัทนี้
ฉันเป็นอดีตนักเขียนที่เคยมีเงินเป็นกอบเป็นกำ แต่สุดท้าย อีผัวเฮงซวยหน้าไม่อายเอาไปผลาญเงินกับสุราและนารีจนหมดเกลี้ยง จากที่อยู่บ้านสองชั้นกลับกลายต้องย้ายมาอยู่บ้านชั้นเดี่ยวพร้อมกับใบหย่าที่มอบให้กับอดีตสามี
โชคดีที่ในบัญชีส่วนตัวของฉันยังพอมีเงินให้ประทั้งชีวิตได้
เมื่อก่อนนี้ฉันมีใบหน้าที่สวย หุ่นระดับนางแบบหน้าท้องที่แบนราบ เอวคอดเล็ก หน้าอกสะบืม สะโพกผาย แม้ว่าจะไม่ได้เป็นคนตัวสูงมาก แต่ก็มีหนุ่ม ๆ มาตามจีบฉันราวกับถูกแมลงวันตอม ปกติฉันมักจะใช้ยางมัดผมแบบสีดำเรียบ ๆรวบเส้นผมที่ยาวถึงสะโพกก่อนจะกระชากมันออกเบา ๆ จนมันสยายออกเพื่อเรียกความสนใจให้กับพวกตัวผู้ให้หันมามอง
เห็นอย่างนี้แต่ก็มีตบกับพวกตัวเมียไม่เว้นวัน มวยไทยของฉันที่ได้ร่ำเรียนมาเพราะผู้เป็นบิดาบังคับเพื่อที่จะได้เอามาปกป้องตัวเอง
ฉันได้เห็นประโยชน์ของมันก็ทุกครั้งที่ร่างกายได้ปะทะกับอีนางชะนีอ่อนหัดพวกนั้นที่ไม่รู้แม้แต่วิธีตบให้น็อกในยกแรก
เอาเถอะ...นั่นเป็นเพียงแค่เรื่องสมัยก่อน แต่ตอนนี้ฉันวางมือในทุก ๆ อย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานเขียนและอื่น ๆ เพื่อมานั่ง ๆ นอน ๆ เพียงอย่างเดียวจนน้ำหนักเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ นั่นแหละ...เลิกกับสามีที่อยู่กินกันมาตั้งหลายปีจะไม่ให้เศร้าใจได้ยังไง บ้านชั้นเดียวที่เคยเป็นบ้านที่ฉันอยู่สมัยเด็ก ๆ แต่พออายุย่างเข้าห้าสิบแล้วกลับมาอยู่ก็ชวนให้นึกถึงเรื่องราวเก่า ๆ
รอบ ๆ บ้านเปลี่ยนไปเยอะ จากที่รอบข้างเป็นทุ่งนาก็มีโครงการบ้านจัดสรรแบบหลังเดี่ยวหลายโครงการเข้ามาสร้างบ้านสองชั้นสามชั้นจนบ้านของฉันเป็นหลักกิโลท่ามกลางเสาไฟฟ้าเลยทีเดียว!!
แม้ว่าจะเปลี่ยนไปมากขนาดไหน จะมีนายหน้าเข้ามาแนะนำให้ฉันขายบ้านหลังนี้เพื่อจะได้ทำลายบ้านเก่า ๆ ของฉันทิ้งเพื่อจะได้สร้างใหม่เป็นบ้านจัดสรรของอีกโครงการซึ่งฉันรู้เล่ห์เหลี่ยมของคนเหล่านี้ดี ก็แค่ผู้ชายหรือผู้หญิง (ส่วนมากจะเป็นผู้ชาย) แค่แต่งตัวด้วยชุดสูทสีสว่างพร้อมกับรอยยิ้มสุดตอแหลประทับอยู่บนใบหน้าและแววตาอันเจ้าเล่ห์นั้นฉันเคยทำมาก่อน นิยายแต่ละเรื่องของฉันมักจะมีคาแล็คเตอร์แบบนี้นี่แหละ เพราะฉันเอามาจากชีวิตจริงยังไงล่ะ!!
แต่ก็ช่างเถอะ ต่อให้พวกนั้นมาเคาะประตูล้านหรือโทรเข้ามาหาฉันเพื่อเสนอเม็ดเงินก้อนมหึมาที่แสนยั่วกิเลสตันหาของฉันก็ฝันไปเถอะ ฉันไม่ยอมแลกกับเงินแค่ไม่กี่ล้านแล้วต้องไปหาห้องเช่าในตึกสูง ๆ แทนที่จะเป็นบ้านเก่า ๆ ที่แสนอบอุ่นหรอก! มันคุ้มกันที่ไหนกับหญิงสาวอายุขึ้นเลขห้าอย่างฉันที่เรี่ยวแรงไม่ค่อยจะมีเท่าเมื่อก่อน
แม้ว่ารอบ ๆ บ้านของฉันจะเป็นหลักกิโลที่อยู่ท่ามกลางเสาไฟฟ้า แต่ก็มีบ้านเก่า ๆ อีกหลังที่อยู่ข้าง ๆ เชื่อเถอะว่าฉันแอบหลงรักเจ้าของบ้านหลังนี้จนหัวปักหัวปำ เขาชื่อว่า 'ป้อม' เป็น รปภ. ของบริษัทแห่งหนึ่งที่นาน ๆ จะกลับบ้านที น่าจะเป็นยามกะดึกล่ะมั้ง บ้านของเขาล้อมรั้วอิฐฉาบด้วยซีเมนต์เหมือนกับฉัน ภายในรั้วเขาปลุกพืชผักสวนครัวไว้หลายชนิด แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ค่อยสุงสิงกับใครเท่าไหร่ ทุกครั้งที่เขาออกมาพรวนดิน ร่างกายที่เติมไปด้วยมัดกล้ามแน่นๆ ทั้ง ๆ ที่อายุเท่ากันนี่ทำให้หัวใจของฉันละลายเป็นของเหลวเลยทีเดียว
ขนาดประจำเดือนแห้งไปแล้วก็ยังรู้สึกเงี่ยนขึ้นมาทันที แทบอยากสืบพันธุ์กับเขาจังเลย!!
อ๊ะ!! เขากลับมาแล้ว!
รถซีวิคคันสีขาวแล่นมาจอดที่หน้าบ้านของเขา เท่าที่จำได้ก็คือ...เขาไม่มีรถนี่...หรือว่ารถใหม่!? โอ้โห! หรือว่าการงานของเขานั้นรุ่งโรจน์จนมีเงินเก็บพอที่จะดาวน์รถได้เลยเหรอเนี่ย!? หรือว่ารายได้เสริมของเขาก็คือการปลูกผักขาย!?
หูยย~~อนาคตสามีชัด ๆ ทั้งร่างกายที่แข็งแรง กล้ามเนื้อสวยดุจเทพเจ้า แถมยังมีรถเก๋งขับ บอกได้เลยว่าสมัยนั้นใครมีขับถือว่าโก้มาก ๆ อิฉันกรี๊ดคนขับรถเก๋งสุด ๆ จากที่เขาสามารถหารายได้หลายช่องทางคงจะมีเงินในบัญชีเหลืออยู่ไม่ต่ำกว่าเลขเจ็ดหลักอย่างแน่นอน
นี่แหละสามีในอุดมคติของสาววัยปลายรุ่นที่ฉันไฝ่ฝัน
แค่คิดก็แตดสั่น พั้บ พั้บ แล้ว!!
คุณป้อมขับเข้ามาในบ้านของตัวเองก่อนจะดับเครื่องยนต์แล้วเปิดประตูออกมาจากรถ เขาเดินไปยังท้ายรถก่อนจะเปิดประตูท้ายรถออกมา เห็นถุงกระสอบข้าวสารสีขาวนอนอยู่หนึ่งถุง ด้วยความที่สายตาเริ่มไม่ค่อยดี มองอะไรไกล ๆไม่ค่อยจะชัดสักเท่าไหร่จึงค่อย ๆ เดินเข้าไปไกล้ ๆ รั้วกำแพงปูน พยายามชะโงกหน้าออกไปเพื่อความต้องอยากรู้อยากเห็นของฉันนั่นเอง
เขากำลังทำอะไรอยู่นะ? นั่นถุงปุ๋ยที่เอาไว้ใส่ผักสวนครัวของเขาหรือเปล่านะ...? แต่ทำไมถึงมีรอยสีแดงเปื้อนบริเวณก้นกระสอบด้วย
"สวัสดีค่าพี่ป้อม!" จู่ ๆ ฉันก็ส่งเสียงทักทายออกไปโดยที่ไม่รู้เลยว่าตัวเองไม่สมควรที่จะทำแบบนี้อย่างแรง
พี่ป้อมหันขวับกลับมาด้วยสีหน้าที่ดูตื่นตระหนกเล็กน้อย เขามองหันซ้ายหันขวาเพื่อหาต้นตอ แต่ก็ไม่เจอ สุดท้ายก็ไม่เจอ
"อยู่ตรงนี้จ้าพี่!!" ฉันเสนอตัวออกไปพร้อมทั้งโบกไม้โบกมือตามไปด้วย เขาเห็นฉันดังนั้นจึงลากถุงปุ๋ยเข้าไปในสวนก่อนจะเดินเข้ามาหาฉัน
"สวัสดีครับน้องแอม" เขาทักทายฉันด้วยสีหน้าที่ดูเหนื่อย ๆ เหงื่อชุ่มเสื้อยืดสีาวของเขาจนเห็นกล้ามหน้าอกและซิกซ์แพ็คเป็นมัด ๆ อันแน่นกันอยู่ ซึ่งทำให้ฉันรู้สึกสยิวกิ้วแปลก ๆ บอกได้เลยว่าฉันไม่เคยมองใบหน้าของเขาเลยสักนิด
"สวัสดีค่ะพี่ป้อม เพิ่งกลับมาจากที่ทำงานเหรอคะ?" ฉันยิ้มพร้อมกับทำเสียงตอแหลไม่ต่างจากเด็กมหาวิทยาลัยที่ใช้อ่อยผู้ชายสมัยนี้
โถ ๆ สมัยก่อนที่ผู้หญิงเขาอ่อนผู้ชายกันฉันนี่ต้องโยนผ้าเช็ดหน้าเป็นสิบ ๆ ผืน ต้องส่งสายตาหลายตัวหลายครั้งกว่าจะได้เสียเป็นเมียผัว แค่สมัยนี้แค่มีหุ่นบาง ๆ หน้าสวย ๆ เสียงน่ารัก ๆ ก็อ่อยผู้ชายได้แล้ว ถ้าผู้หญิงระดับฉันมาใช้บ้างก็คงจะใช้ได้ผลไม่ใช่น้อย
"ใช่ครับ พอดีท่านประธานใช้ให้ผมทำงานหนักนิดหน่อยเลยได้เหงื่อมาเยอะเลยครับ" เขาตอบด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม
"เหนื่อยไหมคะ? พักผ่อนด้วยนะคะ"
"ได้เลยครับ" เขาหันหน้ามองไปยังรถของตัวเองก่อนจะดึงคิ้วลงเล็กน้อยและหันกลับมาหาฉัน "ผมกำลังจะหาอะไรทานอยู่พอดี น้องแอมทานอะไรหรือยังครับ? เข้ามาทานอาหารฝีมือของผมดูมั้ย?"
นี่มันความฝันหรือเปล่า!? พี่ป้อมชวนฉันไปกินข้าวในบ้านเขา!!
เอาแล้วอีแอม ได้กินกล้วยยาว ๆ ใหญ่ ๆ แล้ว!!
"แต่หนูกำลังจะสั่งอาหารเดลิเวอรี่อยู่นะคะ แบบนี้จะดีเหรอคะ?" ฉันพยายามเล่นตัว
"กว่าเดลิเวอรี่จะมาส่งก็นาน คุณรอแล้วจะร้อนนะครับเดี๋ยวผมทำอาหารง่าย ๆ อร่อย ๆ ให้ทานจะดีไหมครับ?"
"ไปค่ะ"
............................................
ช่างแม่งแล้วค่ะ ฉันหลงผู้ชายที่ทำอาหารเป็นมาก ๆ
ภายในบ้านของเขานั้นถูกแต่งเติมภายในอย่างสวยงาม มีเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ยังดูใหม่และสะอาดมาก ๆราวกับว่าเขาเป็นพ่อบ้านพ่อเรือน แถมยังดูรวยกว่าฉันเป็นไหน ๆ แบบนี้ฉันต้องไปดูฤกษ์แต่งงานแล้วว่าเป็นวันไหนดีแต่วันนี้ฉันต้องให้เขาจับฉันทำเมียให้ได้เลย!
ถึงเวลาอ่อย
"บ้านของพี่ป้อมนี่สวยจังเลยนะคะ ได้ข่าวว่าเป็นยามที่บริษัทในเมืองเหรอคะ"
"ใช่ครับ"
"เป็นบริษัทอะไรอ่ะคะ?"
"เป็นบริษัททั่วไปครับ ผมเป็นแค่ยามรักษาการณ์จึงไม่ค่อยรู้อะไรมาก" เขาหยิบกระทะกับตะหลิวขึ้นมาพร้อมกับวัตถุดิบอย่างเช่นไข่สองฟองในตู้เย็นหลังใหญ่สีดำที่มีโพสอิสแป๊ะอยู่เต็มไปหมด ฉันเดินไปเดินมาในบ้าน แม้เมื่อเห็นรอยบางอย่างอยู่บนพื้น เป็นรอยคราบหยดน้ำสีแดง...? ปกติเขากินน้ำแดงด้วยเหรอ?
"ไข่เจียวหมูสับสูตรของผมเสร็จแล้วนะครับ" เขาเรียกด้วยน้ำเสียงใส ๆ
"คะ...ค่า" ทำไมรู้สึกไม่ชอบมาพากลเลย
ไข่เจียวหมูสับที่เขาทำให้นั้นอร่อยกว่าไข่เจียวหมูสับทั่วไปอย่างยิ่ง แถมเนื้อหมูที่เอามาทำนั้นยังไม่เหนียวเหมือนกับหมูสับทั่วไปอีกด้วย
"ขอบคุณที่เลี้ยงนะคะ พี่ป้อมทำอาหารได้อร่อยมาก ๆ เลยค่ะ ไม่ทราบว่าใช้เนื้ออะไรในการทำเหรอคะ?"
"เนื้อหมูธรรมดานี่แหละครับ"
"ใช้สูตรอะไรบ้างเหรอคะ? ฉันจะได้เอาลองไปทำดูบ้าง แต่เท่าที่เห็นก็ไม่น่าจะมีอะไรมากนะคะ" ต่อมความอยากรู้อยากเห็นต้องฉันก็เริ่มอยากจะรู้อะไรบางอย่างได้ตื่นขึ้น ฉันจึงลุกเดินไปที่ตู้เย็นก่อนจะเปิดมันออกอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ส่งกลิ่นอบอวลออกมา สิ่งที่ดวงตาของฉันนั้นไม่อาจจะเชื่อในสิ่งที่เห็นได้ นั่นก็คือหัวมนุษย์กว่าสิบตู้อัดแน่นอยู่ด้านใน
จู่ ๆ บรรยากาศรอบตัวเริ่มไม่เป็นใจ เสียงแอร์ดังกว่าเสียงลมหายใจของฉันเสียอีก รู้สึกถึงอะไรบางอย่าง เมื่อหันหลังไป พี่ป้อมนั้นยืนจังก้าอยู่ด้านหลังของฉันนั่นเอง! เขาถือมีดทำครัวอยู่ในมือ ดวงตาของฉันเบิกกว้างและได้รู้ความจริงบางอย่าง ซึ่งมันทำให้ฉันแทบจะสำรอกออกมา
หมูสับในไข่เจียวนั้นไม่ใช่เนื้อหมู แต่เป็นเนื้อมนุษย์!!!
"พะ...พี่ป้อมคะ...?" น้ำตาของฉันค่อย ๆ ไหลอาบแก้มไปด้วยความกลัว ขาของฉันแข็งไม่ต่างอะไรกับหิน
ฉันตายแน่!
ฉันตายแน่!!
ฉันตายแน่!!!
"เสือกนักนะมึง อุตส่าห์ไว้ชีวิตจนมาถึงทุกวันนี้ก็บุญแค่ไหนแล้ว" ดวงตาของเขามองมาที่ฉันราวกับจะกินเลือดกินเนื้อนี่มันไม่ใช่พี่ป้อมที่ฉันรู้จักอีกต่อไปแล้ว นี่มันสัตว์ประหลาดที่หลุดมาจากขุมนรกชัด ๆ!!
เขาพุ่งเขามาหาฉันก่อนจะจ้วงมีดเข้ามาหมายจะควักเครื่องในของฉันออกมา แต่พระเดชพระคุณของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทำให้ฉันสามารถเคลื่อนตัวหลบการโจมตีของเขาได้ทัน
"แม่งเอ้ย!" เขาสบถออกมาหลังจากที่แทงพลาด "เสื้อยังแฉะเลยขยับไม่ลำบาก"
จากนั้นเขาก็ทำสิ่งที่ทำให้หัวใจของฉันตกไปอยู่ตาตุ่ม นั่นก็คือ เขาฉีกเสื้อของตัวเองออกเผยให้เห็นกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ ของเขา หัวใจของฉันเกิดเกเรขึ้นมาอย่างกระทันหัน!!
ทำไมต้องมาเป็นตอนนี้ด้วยวะ!!?
ฉันกัดฟันวิ่งขึ้นไปยังชั้นสองทันที ในบ้านนั้นมืดมากและส่งกลิ่นเหม็นเน่าซากอะไรสักอย่าง ในตอนแรกฉันเกิอบจะเปิดไฟฉาย แต่ถ้าเปิดแล้วจะเป็นการส่งสัญญาณให้อีกฝ่ายรู้มากกว่า ฉันจึงพยายามคลำทางเข้าไปในความมืด ทุกครั้งที่ก้าวเดิน กลิ่นเหม็นเน่าก็ค่อย ๆ ส่งกลิ่นแรงขึ้น โชคดีที่ตัวเองมารู้ตัวตนที่แท้จริงของพี่ป้อมเสียก่อน ไม่งั้นถ้าตกลงปลงใจแต่งงานกับเขาแล้วมารู้อีกทีฉันคงจะเสียใจมากกว่านี้
สักพักร่างของฉันก็ชนกับแพงและรู้ว่าตรงนี้คือทางตัน!!
ไม่นะ! รอบตัวฉันมืดไปหมด กลิ่นเหม็นเน่าที่คล้ายกับกลิ่นคาวเลือดยิ่งส่งกลิ่นแรงมากกว่าเก่า ให้ตายสิ! ฉันน่าจะหยิบมือถือที่วางอยู่บนโต๊ะมาด้วย!! ความมืดนั้นมันทำให้รู้สึกอึดอัด ร่างกายที่ปกคลุมไปด้วยไขมันแนบชิดกับมุมกำแพง ฉันจนมุมแล้ว! ฉันจนมุมแล้ว
เสียงฝีเท้ากำลังเดินขึ้นบันไดมาและกำลังจะเข้ามาเรื่อย ๆ หัวใจของฉันเต้นโครมครามอยู่ในอก น้ำตาไหลอาบแก้มหายใจแรงจนต้องยกมือขึ้นมาปิดและร่างกายสั่นเทิ้มไปด้วยความหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด ผู้ชายที่ฉันหลงรัก ผู้ชายที่เคยหวังว่าจะได้อยู่ร่วมชายคาเดียวกันกลายมาเป็นฆาตกรแบบนี้ได้ยังไง!
คนบนฟ้ามันกลั่นแกล้งชัด ๆ!!
เสียงฝีเท้าเงียบลง
"ผมรู้ว่าน้องแอมอยู่ด้านบนนี้" เขาพูดขึ้นอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยในความเงียบจนฉันแอบสะดุ้งเล็กน้อยและพยายามควบคุมลมหายใจให้เบาลงจากนั้นก็ค่อย ๆ ตั้งสติ เพราะอยู่ในมุมมืดนี้เขาไม่น่าจะสามารถเห็นฉันได้
"ผมเนี่ยเป็นคนที่ชอบเล่นซ่อนหามาก ๆ และผมเล่นเก่งมาก ๆ เลยด้วย โดยผมจะเป็นคนหาแล้วน้องแอมเป็นคนซ่อนผมจะนับสิบถึงศูนย์ผมจะปิดหูเพื่อไม่ให้ตัวเองได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวของน้องแอม เป็นโอกาสทองที่น้องแอมจะสามารถหลบอยู่ที่ไหนก็ได้ในบ้านของผม หากเจออะไรแปลก ๆ ก็อย่าตกใจจนร้องนะครับ เกมจะจบง่ายไปซึ่งผมไม่ชอบเอาเสียเลย" คำพูดของเขาช่างร้ายกาจและน่าสะพรึงกลัวเกินกว่าจิตใจของฉันจะรับไหว
แต่ในเมื่อเขาให้โอกาส ฉันจะต้องคว้ามันไว้!
สิบ!!
เข้าเริ่มแล้ว
ฉันพยายามชันตัวเองให้ลุกขึ้นยืน
เก้า!!
ฉันวิ่งด้วยการลงส้นเท้าไปยังบันได แต่ทางมันไกลถ้าเทียบกับน้ำหนักตัวของฉัน
แปด!!
ฉันสะดุ้ดขาตัวเองล้มเพราะมองไม่เห็นอะไรในความมืด
เจ็ด!! หึหึหึ...
ขาของฉันกระแทกกับพื้นกระเบื้องอย่างแรงจนแทบไม่สามารถไปต่อได้ เสียงหัวเราะอันสยดสยองของเขาทำเอาเกือบฉี่ราดเลยทีเดียว
หก!!
เขานับมาได้ครึ่งทางแล้ว!! ฉันต้องรับออกไปจากบ้านหลังนี้ ซึ่งมันควรที่ฉันจะต้องทำอยู่แล้ว!!
ห้า!!
ฉันพยายามกัดฟันและชันตัวให้ลุกขึ้นมา ด้วยน้ำหนักที่มากและสังขารของฉันทำให้ไปได้เร็วสุดแค่กระเผก
สี่!!
ฉันไปถึงบันไดแล้ว!! ก้าวแรกลงไปได้สำเร็จ ก้าวต่อ ๆ มาค่อย ๆ ตามลง
สาม!!
อีกนิดเดียว!! ใกล้จะถึงชั้นล่างแล้ว อีกขั้นเดียว!!
สอง!!
ถึงชั้นล่างแล้...จู่ ๆ ร่างกายของฉันก็เซ แต่ฉันมือไว สามารถคว้าราวลันไดได้ทัน
หนึ่ง!!
ขอเพียงแปปเดียวเท่านั้น!! ฉันก็จะถึงประตูแล้ว!! โดนที่ไม่ลืมหยิบโทรศัพท์....ไม่นะ...มันไม่ได้อยู่ตรงนี้!! มันหายไปแล้ว!! แต่ช่างมัน!! ชีวิตสำคัญกว่า!! ฉันจึงตัดสินใจวิ่งไปที่ประตูทั้ง ๆ ที่ขายังกระเผกอยู่
ศูนย์!!
มือของฉันคว้าที่ลูกบิด...อ้าว...ไม่มีลูกบิดประตู!!! แถมเขายังลงแม่กุญแจประตูไว้มากมายเพื่อขังฉันเอาไว้ในบ้านหลังนี้
"ดิ๊งด้อง!!!!" เขาตะโกนลั่นบ้านจนทำให้ฉันต้องปิดหูไว้ จากนั้นเสียงฝีเท้าดังขึ้นมาจากชั้นสองก็ค่อย ๆ ดังขึ้น
เขาเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว ฉันยกมือขึ้นปิดปากแล้วย่อตัวลงให้ต่ำที่สุด แล้วค่อย ๆ ก้าวอย่างเงียบที่สุด สักพักฉันก็ค้นพบว่าการเดินแบบย่องต้องใช้ปลายเท้าค่อย ๆ ลงน้ำหนักที่พื้น จากนั้นก็ค่อย ๆ ย่องไปทีละก้าว ทีละก้าว
ชั้นหนึ่งนั้นเป็นที่ที่เขาสามารถหาฉันได้ง่าย ๆ เพราะไฟที่เปิดสว่างแบบนั้น
ตุบ....ตุบ...ตุบ...
เสียงฝีเท้าของเขายังคงวนเวียนอยู่ที่บน แสดงว่ายังมีห้องอยู่ ฉันพยายามหาสวิตช์ไฟ...ไม่มี...รอบ ๆ ตัวฉันไม่มีเลยจนกระทั่งเหลือบไปเห็นมันอยู่ตรงบันไดที่ฉันอุตส่าห์หนีห่างออกมาจากตรงนั้น
เพียงเวลานั้น ฉันรู้สึกอยากจะเข้าไปตบหัวคนที่ออกแบบภายในของบ้านหลังนี้จริง ๆ ว่าใครสั่งใครสอนให้วางสวิตช์ไฟบ้านไว้ตรงนั้น!?
ตุบ...ตุบ....ตุบ...
เสียงฝีเท้าของเขายังคงดังอยู่ ฉันจึงค่อย ๆ ย่องให้เบาที่สุดเท่าที่ในชีวิตของฉันจะเบาได้ยกเว้นน้ำหนักตัวของฉันที่เพิ่มขึ้นทุกวัน ๆ
ใกล้ถึงแล้ว
ใกล้ถึงแล้ว
ฉันยื่นนิ้วออกไป
ตุบ...ตุบ...ตุบ...
เพียงเสี้ยววินาที นิ้วของฉันแตะสวิตช์ไฟเป็นที่เรียบร้อยก่อนจะออกแรงกดให้ไฟดับ สิ่งที่ฉันเห็นนั้นไม่รู้ว่ามันเป็นภาพที่ฉันหลอนและจินตนาการขึ้นมาเองหรือเปล่า เพราะว่าเท้าของเขาปรากฎออกมาจนฉันเห็นลอดผ่านช่องว่างราวบันได แต่ไม่ทันเสียแล้ว ไฟทุกดวงในชั้นหนึ่งได้ดับหมดทุกดวง หลังจากนั้นพี่ป้อมก็ตะโกนอีกรอบอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
"ดิ๊งด่อง!!!" เขาแหกปากตะโกนสุดเสียงแล้วค่อย ๆ เดินลงมาจากบันไดอย่างช้า ๆ "ไม่ยักจะรู้ว่าป้าแก่ ๆ แบบแกจะทำได้ขนาดนี้ ทำเอาฉันต้องเดินรอบชั้นสองเลยนะ...เอาเถอะจริง ๆ แล้วผมรู้มานานแล้วล่ะว่าน้องแอมอยู่ชั้นล่าง แต่จะให้เกมมันจนเร็วเกิน แต่ก็เอาเถอะ ตอนนี้ผมเริ่มเบื่อเต็มทนแล้ว มาปิดบัญชีกันเลยดีกว่าครับ"
พี่ป้อมง้างมีดก่อนจะแทงใส่ใบหน้าของฉันทั้ง ๆ ที่เขาเองก็มองไม่เห็นฉันเหมือนกัน แม้ว่าช่วงที่เขาจะพูด ใบหน้าของเราสองคนประจันกันพอดิบพอดี!! โชคดีฉันทิ้งตัวลงนั่งก่อนที่มีดจะถึงตัว ปลายแหลมของใบมีดแทงถูกความว่างเปล่า แต่สุดท้ายแล้ว...ชะตาของฉันได้ขาดและถูกทำลายจนแหลกเป็นเสี่ยง ๆ เพราะเสียงร่างกายของฉันทิ้งตัวลงบนพื้น
"อ่าห้า!! อยู่นี่เองเหรอ...ดิง~....ด่อง~....ผมเจอคุณแล้ว" พี่ป้อมพูดด้วยสำเนียงที่แปลกประหลาดก่อนที่เขาจะกระหน่ำมีดจ้วงแทงเข้ามาทางร่างกายของฉันอย่างบ้าคลั่ง ความเจ๋บปวดอันแสนสาหัสนี้ต่อให้เป็นชาติหน้าที่เกิดมาก็ไม่สามารถลืมความเจ็บปวดเหล้านี้ได้ เสียงเชือดเฉือนของใบมีดที่ผ่านเนื้อของฉันให้แยกออกพร้อมทั้งเลือดอุ่น ๆจำนวนมากไหลออกมาตามบาดแผลราวกับก๊อกแตก ฉันแหกปากร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด แต่พี่ป้อมก็ไม่ได้สนใจ เข้าชกฉัน ซ้อมฉันจนทุกอย่างมันดับวูบไปในรวามมืดที่มืดมิดกว่าเดิม
นั่นก็คือความตาย
"เป็นคุณป้าข้างบ้านก็จริง แต่การที่มาเสือกเรื่องของชาวบ้านกันแบบนี้ก็ต้องเจอเกมลงทัณฑ์แบบนี้แหละครับ หึ...หึ..."
.......................................
เสียงใบมีดกำลังหันเนื้อดังขึ้นพร้อมดังเสียงเลือดที่กระฉูดออกจากเส้นเสือดใหญ่กระเด็นลงไปบนพื้น ป้อมกระชากกระดูกแขนของนางแอมที่ถูกหั่นชิ้นส่วนออกมาจนหมดเพื่อที่ตัวเองจะสามารถเอามาทำอาหารประทั้งชีวิตตัวเองสาเหตุที่ภายในตัวบ้านที่มีเฟอร์นิเจอร์ที่สวยแพงแบบนี้เพราะการฆ่าคนที่เสือกเรื่องของเขานั้นแล้วแปรรูปเป็นอาหารชั้นเลิศหรูที่มีแต่ผู้นำระดับสูงเท่านั้นที่บริโภค
เพราะตัวเองก็มักใหญ่ไฝ่สูงพอ ๆ กับผู้นำประเทศนั่นแหละ แต่เขาเพียงเลิกที่จะไม่โกงกินชาวบ้าน แต่ถ้า 'เสือก' เรื่องของเขาเมื่อไหร่ สมุดบันทึกของยมฑูตจะมีชื่อของคุณปรากฎขึ้นในทันที
ป้อมสับนิ้วทั้งห้าขาดออกมาจากมือและสับคอให้หลุดจากบ่าแล้วเอาไปใส่ในตู้เย็น
"ศีรษะของน้องแอมและน้องบัวอยู่ไกล้กันแบบนี้ช่างเป็นกิ่งทองใบหยก ดูสมกันดีจริง ๆ....ให้ตายสิเดี๋ยวจะต้องนอนรีบกลับไปรายงานเรื่องน้องบัวให้ท่านประธานฟังอีกนะเนี่ย"
เขาจัดการสวมชุด รปภ. ตัวใหม่เอี่ยมก่อนจะหยิบกุญแจรถซีวิคของบัวแล้วเดินออกไปจากบ้านทันที
ดิ๊ง~! ด่อง~! I have found you now!!
_________________________________________________________________
To Be Continue CHAPTER 3